แม้ว่าร่างสูงใหญ่จะเดินขึ้นคอนโดไปแล้ว แต่ว่าเธอยังคงจอดรถอยู่ที่เดิมมาได้เกือบยี่สิบนาทีแล้ว เขาเคยจูบเธอ แล้วยังไงต่อเขาไม่พูดว่าขอโทษ หรือเอ่ยถามความรู้สึกของเธอเลยด้วยซ้ำ
ว่าเธอจะยังชอบเขาอยู่ไหมที่ไม่ให้เกียรติเธอแบบนี้ หญิงสาวนึกถึงรสชาติจูบของเขาที่เหมือนคนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น แต่เธอก็จำได้ว่าเธอจูบโต้ตอบเขาไปเช่นเดียวกัน แล้วยังไงต่อนั่นมันจูบแรกของเธอนะ จูบแรกของเธอเป็นของพี่ต้าเหรอ เธอนึกหลายสิ่งหลายอย่างจนฟุ้งซ่าน แต่ก็ไม่กล้าแม้แต่จะคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเขาก็พอจะชอบเธออยู่บ้างเหมือนกัน พี่ต้ารู้ว่าแอคเคาท์นั่นเป็นของเธอ ทำไมถึงยังส่งอิโมจิรูปหัวใจมาให้เธอล่ะ เพราะเธอส่งข้อความไปบอกรักเขาเหรอ แต่เขาก็น่าจะส่งอิโมจิรูปยิ้มมาก็ได้นี่ ครั้งนี้ภาพมันชัดมาก นั่นเพราะเขาจูบเธอ เธอเริ่มคิดเข้าข้างตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อกี้ที่เขาชวนเธอขึ้นไปข้างบนห้องของเขา เขาพูดจริงหรือพูดลองใจเธอกันแน่ วาโยเอาหัวโขกกับพวงมาลัยเบาๆ เพื่อดึงสติ นี่เธอชอบเขามากจนเป็นขนาดเลยเหรอ ‘ทำไมพี่ถึงจูบหนูคะ’ เธอพิมพ์ข้อความแชตถามเขาในรถยนต์ที่ยังไม่ได้ขยับไปไหนตั้งแต่ที่ต้าลงไป ‘อยู่ไหน’ เขาพิมพ์ถามมาสั้นๆ ‘พี่ตอบหนูก่อนสิคะ’ เธอพิมพ์กลับไป ‘ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน’ เขายังคงใช้คำถามเดิม ‘ยังไม่กลับค่ะ ยังอยู่ลานจอดรถที่เดิม พี่ตอบหนูได้หรือยังคะ’ ‘ตอบอะไร ' โอ๊ย นี่เขากวนเธอหรอกเหรอ ‘ก็ตอบว่าทำไมถึงต้องมาจูบหนู ทั้งที่หนูเป็นแฟนคลับของพี่ หรือพี่จูบแฟนคลับของพี่ทุกคนคะ’ เขาอ่านแล้วเงียบไปประมาณสองนาที ‘พี่ต้า ตอบหน่อยสิคะ’ เธอพิมพ์กลับไปอีกครั้ง ไม่รู้จะโยกโย้ไปถึงไหนก็แค่ตอบมาไม่เห็นจะยากอะไร ‘ขึ้นมาคุยบนห้องสิ ไม่สะดวกตอบแชต กลัวแชตหลุด’ แต่มันก็จริงของเขานะ ช่วงนี้ข้อความแชตของดารานักร้องหลุดกันบ่อยมากมีให้เห็นในข่าว พี่ต้าเลยระวังตัว เพราะไม่อยากต้องมาแก้ข่าวทีหลังถ้ามีข่าวเสียหาย เรตติ้งและภาพลักษณ์ของเขาอาจไม่ดีตามไปด้วย พอคนเริ่มไม่ค่อยพลุกพล่านเธอก็ค่อยๆ เดินเข้าไปในคอนโดแล้วกดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นที่พี่ต้าอยู่ เธอเพิ่งสังเกตเห็นว่ามันมีกริ่งอยู่ จึงกดกริ่งเรียกเขาให้ออกมาเปิดประตูให้ “คิดว่าจะไม่มา” เขาเดินนำเธอไปนั่งโซฟา หญิงสาวจึงรีบปิดประตูห้องให้เขา เธอจึงไปยืนอยู่ตรงหน้าของเขา “ทีนี้พี่ก็ตอบหนูได้แล้วนะคะ” เธอยืนรอคำตอบจากเขา “พี่อาบน้ำก่อน เพิ่งกลับมา มันเหนียวตัว” แล้วชายหนุ่มร่างใหญ่ก็เดินถอดเสื้อเข้าไปในห้องน้ำโดยที่ไม่รอให้เธอตอบตกลงเขาเลย คนอะไรเอาแต่ใจจัง เธอกลัวว่าเขาจะไม่ตอบคำถามเธอเลยทำได้เพียงนั่งเงียบๆ อยู่ในห้องเท่านั้น “เขาออกมาพร้อมกับกางเกงลำลองขายาวสีครีมตัวหลวมๆ แต่ไม่ได้ใส่เสื้อ เธอแอบชำเลืองมองเขา จริงๆ เธอเคยเห็นซิกแพคของเขาผ่านโซเชียลเวลาเดินแบบหรือถ่ายแบบมาแล้ว แต่ไม่เคยเห็นของจริงแบบนี้ จนเขาเดินเข้ามาใกล้ เธอจึงเบี่ยงหน้าหนีไปทางอื่นทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เขาจึงหัวเราะในลำคอเพราะรู้ว่าเธอมองเขาอยู่ พร้อมกับหยิบเสื้อยืดที่พาดอยู่บนโซฟาขึ้นมาสวมใส่ “หนูรอคำตอบพี่ต้าอยู่นะคะ” แม้เธอจะพูดไปแบบนั้นแต่ก็ยังคงสูดกลิ่นหอมที่ออกมาจากตัวของเขาหลังจากอาบน้ำที่มันหอมสดชื่นจัง “เธอถามพี่ว่าอะไรนะ ลืมแล้ว” เขายิ้มยียวน “หนูถามว่า ทำไมพี่ต้องจูบหนูวันนั้นคะ ทั้งที่หนูเป็นแฟนคลับของพี่” “ก็ อยากจูบตามสัญชาตญาณของผู้ชายแค่นั้น” เขาพูดออกมาตรงๆ “แต่นั่น มันคือจูบแรกของหนูนะคะ” เธอพูดเข้าเรื่องทันที “จะให้พี่ขอโทษเหรอ ทั้งที่เธอเป็นคนเชื้อเชิญพี่เองไม่ใช่เหรอ” “ก็หนู…เมานี่คะ พี่ก็ไม่ควรจะฉวยโอกาสแบบนั้น” “พี่ไม่เห็นว่าพี่จะรู้สึกผิดที่จูบเธอเลย หรือเธอรู้สึกไม่ดี ที่จูบแรกเป็นพี่” เมื่อได้ฟังเช่นนั้นก็ทำให้หญิงสาวนิ่งเงียบไป “เห็นไหม เธอเองก็คิดว่าจูบพี่มันไม่ได้แย่ แล้วอยากลองจูบอีกไหม” เขาไม่พูดเปล่ากลับยืนเต็มความสูงแล้วจ้องมองเธอด้วยสีหน้านิ่งเรียบ เหมือนอยากได้คำตอบจากเธอจริงๆ วาโยกลืนน้ำลายลงคืออึกใหญ่ ด้วยอาการตกตะลึงไม่คิดว่าเขาจะถามเธอแบบนี้ “ที่พี่พูดตอนอยู่ข้างล่างคงพูดทีเล่นทีจริงกับหนูสินะ ถ้าหนูขึ้นมาหาพี่แบบนี้พี่จะทำอะไรหนูคะ เพราะพี่บอกเองว่าถ้าหนูไม่ยอมก็จะไม่ทำอะไร” หญิงสาวพูดยอกย้อนกับเขาบ้าง คงคิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าสินะ “งั้นเหรอ” เขาเดินเข้าไปหาร่างบางที่กำลังลอยหน้าลอยตาท้าทายเขาอยู่ “ลองดูก็ได้ ว่าจะยอมหรือไม่ยอม” เขาเอามือข้างหนึ่งประคองท้ายทอยของเธอเอาไว้ และใช้มืออีกข้างหนึ่งจับคางของเธอเชยขึ้น และประกบริมฝีปากร้อนผ่าวของตัวเองไปที่ริมฝีปากของร่างบางทันที วินาทีนี้หัวใจของหญิงสาวสั่นไปหมด บวกกับภายในร่างกายของเธอที่มันปั่นป่วนมันหวิวๆ จนเธออยากจะวูบอีกครั้ง แล้วเธอก็วูบเป็นลมพับไปกับแรงจูบของเขาที่จู่โจมจนหัวใจของเธอสั่นไหวไปหมด “วาโย” ชายหนุ่มจับใบหน้าของเธอที่นั่งพิงกับไหล่กว้างของเขาอยู่บนโซฟา เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาด้วยความอาย ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงจนขาอ่อนยืนไม่ไหวขนาดนี้ อาการใบหน้าร้อนผ่าวของเธอก็ยังคงอยู่ “เธอ ชอบพี่ขนาดนี้เลยเหรอ ตอบพี่หน่อยสิ” เขาใช้นิ้วมือเรียวยาวเกลี่ยแก้มของเธอขึ้นลงไปมา เพราะเขาเห็นว่าใบหน้าของเธอแดงมากและตัวสั่นอยู่นิดๆ หญิงสาวพยักหน้ายอมรับอย่างลืมตัวเมื่อมองดวงตาคู่สวยของเขาที่กำลังเป็นประกายมีเสน่ห์ชวนหลงใหล “งั้นเธอ จูบพี่เองสิ จูบตรงไหนก็ได้ตามที่เธอต้องการ” จะให้จูบอะไรแค่ได้ยินเสียงก็ทำให้ใจสั่นแล้ว นี่มาอยู่ใกล้ๆ แถมยังโดนเขาจูบอีกเธอจะไม่ตายก่อนหรือไง “หะๆ ให้น่ะๆ หนูจูบพี่เหรอ” เธอถามซ้ำติดอ่าง “อืม จูบพี่สิตรงไหนก็ได้” เขานั่งหลับตาแต่ยังคงจับข้อมือของเธอสองข้างเอาไว้เหมือนกลัวหญิงสาวจะหนีไปซะก่อน เธอจ้องมองเขาอย่างพินิจกับใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเวลานั่งหลับตาแบบนี้ “โอกาสมาถึงแล้วนะ ไม่อยากจูบพี่เหรอ ใช่ว่าพี่จะยื่นหน้าให้ใครจูบง่ายๆ นะ” เขาพูดทั้งที่ยังหลับตาอยู่ และเหมือนว่าเขาจะเดาใจเธอออกด้วย หญิงสาวค่อยๆ ยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของพี่ต้า จนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากแก้มของเขา เธอค่อยๆ จูบไปที่คางที่มีหนวดเขียวครึ้มที่มีขนขึ้นมาเป็นตอหน่อยๆ แล้วค่อยๆ ลากริมฝีปากไปตามแก้มและสันกรามด้านข้างของเขาพร้อมกับสูดดมกลิ่นหอมเบาๆ ที่แก้มของเขาอีกครั้ง แล้วเธอก็เริ่มกลับไปจูบที่คางของเขา แล้วเปลี่ยนไปที่แก้มและสันกรามอีกข้างหนึ่งอย่างช้าๆ เธอได้ยินเสียงกลืนน้ำลายพร้อมกับเห็นลูกกระเดือกที่ขึ้นลงของเขาตามกลไกของร่างกาย จนเธอค่อยๆ ยื่นใบหน้าไปจูบลูกกระเดือกที่สั่นเพราะเขาคำรามเสียงอยู่ในลำคอโทนต่ำ ต้าค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยแววตาหยาดเยิ้ม แบบนี้เขาไม่ได้เรียกว่าจูบอย่างเดียวแล้ว มันเรียกว่าจูบเล้าโลมเขาด้วยต่างหากล่ะ เขาบอกให้เธอจูบตรงไหนก็ได้ เธอก็จูบไปสิ แต่ไม่ใช่จูบสะเปะสะปะไปทั่วจนตัวเขาเผลอครางออกมาอย่างพึงพอใจตอนพิเศษที่1ที่โรงเรียนมัธยม“เฮ้ยต้า มานี่เร็วมัวมองอะไรอยู่” เพื่อนชายถามเด็กหนุ่มวัยสิบแปดที่กำลังนั่งกินข้าวในโรงอาหารพร้อมกับกลุ่มเพื่อนของเขาอยู่หลายคน“เปล่า กูไม่ได้มองนี่” ต้าปฏิเสธ“มึงมองน้องวาโยเหรอ”“เออๆ กูมองน้องเขา กูสงสัยว่าทำไม น้องเขามองกูจังวะหรือกูหน้าแปลกวะ”“แปลกอะไร มึงน่ะหล่อ สาวๆก็อยากมองเป็นธรรมดา ไปเร็วไปนั่งใต้ร่มไม้นั่นกัน” เพื่อนของต้าดึงให้เขาลุกขึ้นหลังจากทานข้าวเสร็จ ในขณะที่ต้าเองก็แอบมองวาโยที่นั่งคุยกับเพื่อนอยู่เรื่อยๆที่หน้าโรงเรียนหลังเลิกเรียนต้าเห็นว่าวาโยยืนคุยอยู่กับสินท่าทางสนิทสนมคงจะเป็นแฟนกันสินะเขาคิดในใจ“มีแฟนอยู่แล้วยังมามองผู้ชายคนอื่นอีก” ต้าบ่นลอยๆแล้วเดินเข้าไปยังร้านสะดวกซื้อ ก็เห็นว่าสินเดินเข้ามาในร้านแล้วหยิบถุงยางอนามัยหนึ่งกล่องแล้วไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์และวิ่งออกไปส่งให้กับวาโยเด็กผู้หญิงคนนั้นที่เอาแต่จ้องมองเขานั่นเองเช้าวันต่อมา เขาเห็นวาโยนั่งมอไซค์มากับสินก็เลยยิ่งเข้าใจว่าเป็นแฟนกัน เขาเลยไม่อยากสุงสิงกับแฟนใครและเลือกที่จะทำตัวนิ่งๆ หยิ่งๆ ดีกว่าเพราะหลังจากเรียนจบม.6 ต้าก็จะไปเรียนต่อที่อังกฤษแล้ว เลยไม่ได้ใส่ใ
“เห็นรอยสักพี่แล้วดิ เขินจัง” ต้าเกาหัวแก้เขิน“เห็นแล้วค่ะ หนูชอบมากนะคะ” ต้าถึงกับเอามือของเธอไปหอมอย่างรักจนสุดใจ“แล้วเรื่องลูกเขยแบบพี่ล่ะครับจะทำไง” ต้าถามอีกครั้ง“หนูยังไม่พร้อมค่ะ หนูต้องไปเรียนต่อป.โทที่อังกฤษอีก” “ไปเรียนที่อังกฤษเหรอ ไปกับใครล่ะ”“หนูสอบได้ทุนค่ะ ไปเรียนคนเดียวยื่นเรื่องตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ”“ดีเลย บ้านพี่ก็อยู่ที่อังกฤษไว้รอโยเรียนจบแล้วเราแต่งงานกันนะ ก็ประมาณสองปีสินะ”“แต่งงานเหรอคะ พี่ยังไม่เคยบอกรักหนูเลยจะแต่งได้ไงคะ”“ใครบอก พี่บอกรักเธอตั้งนานแล้วนะ เธอไม่สังเกตเอง”“ตอนไหนคะ” “ก็อิโมจิรูปหัวใจไง ที่พี่บอกรักเธอ ขนาดพี่ยังไม่เคยส่งให้แม่พี่เลยนะ เธอเป็นคนเดียวที่พี่ส่งให้”“อิโมจิรูปหัวใจใครก็ส่งได้ค่ะ”“พี่รักโยนะ พี่อยากอยู่กับเธอคนเดียว” เมื่อได้ยินอย่างนั้นหญิงสาวก็ยิ้มหน้าบาน“หนูก็รักพี่ต้าค่ะ รักมาตั้งนานแล้วด้วย”“อันนี้พี่รู้แล้ว อยากให้พี่บอกรักโยเยอะๆไหม ชอบฟังไหม”“ชอบค่ะ ชอบฟัง” หญิงสาวพยักหน้าใสซื่
“แฟนพี่ต้าไงคะ”“แฟนพี่เหรอ ไม่จริงมั้ง พี่ไม่มีแฟน พี่ยังบอกเธออยู่เลย” เขาหมุนเก้าอี้กลับมามองเธอที่ยืนถือไดร์เป่าผมอยู่“เค้าบอกว่าเป็นแฟนพี่ต้านี่คะ เป็นตัวจริงของพี่ต้า หนูก็เลยต้องออกมาโดยไม่ได้บอกพี่” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่มองหน้าของหญิงสาวแล้วสบตาที่สั่นไหวของเธอเหมือนคนจะร้องไห้“ใช่วันที่พี่บอกว่า...จะลงไปเอาชุดกับผู้จัดการที่รออยู่ข้างล่างใช่ป่ะ ใช่วันนั้นไหมเพราะวันนั้นแหละที่พี่เจอโน้ตที่เธอเขียนด่าพี่แล้วแปะไปที่กล่องถุงยาง วันนั้นพี่โมโหจนเลือดขึ้นหน้าเลยรู้ไหม”“ใช่ค่ะ วันที่พี่ลงไปเอาชุด แต่หนูไม่ได้เขียนนะคะหนูจะเขียนด่าพี่ทำไม ก็พี่บอกหนูแล้วว่าไม่อยากวาดฝันให้หนู” หญิงสาวพูดเหมือนน้อยใจ ต้าจึงลุกขึ้นสวมกอดเธอ แล้วเดินไปหยิบโน้ตที่อยู่ในลิ้นชักเครื่องประดับมาคลี่ออกแล้วส่งให้เธอดู“หนูไม่ได้เขียนซะหน่อยไม่ใช่ลายมือหนูเลย แต่ด่าแรงมากนะคะ ใครบังอาจมาด่าพี่ต้าของหนู อุ้ย” เธอรีบเอามือปิดปากเมื่อหลุดพูดว่าพี่ต้าของเธอต้าอดใจไม่ไหวจึงจุ๊บเบาๆไปที่ริมฝีปากของเธอเพราะถูกใจที่เธอแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขาแบบนี้
“สกปรก” เธอเอ่ยมาสั้นๆ“ใช่สกปรก เธอพูดถูกแล้ว” เขาพยักหน้าเห็นด้วย“อย่ามาดูถูกหนูนะพี่ต้า หนูไม่ชอบ ถ้าไม่อยากถ่ายแบบก็ไม่ต้องถ่ายไม่เห็นต้องพูดจาดูถูกกันเลย”“พี่ดูถูกอะไร พี่แค่จะให้เธอทำความสะอาดห้องที่มันสกปรกอยู่นี่ไง ไม่ได้อยู่มาหลายเดือน ฝุ่นมันก็เกาะหนาไปหมด เธอเข้าใจว่าอะไร” เขาพูดพร้อมกับเอามือลูบโต๊ะแล้วหงายมือมาดูฝุ่น ทำอย่างกับว่าฝุ่นหนาเตอะทั้งที่เมื่อวันก่อนแม่ของเขาเพิ่งให้แม่บ้านมาทำความสะอาดเองชายหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วเดินเบียดดันเธอเข้าไปจนชนมุม“หนูก็คิดว่า… ช่างมันเถอะค่ะ” หญิงสาวพูดทิ้งท้ายไว้พร้อมกับดันอกกว้างของเขาออก“คิดเรื่องอย่างว่าเหรอ เธอนั่นแหละคิดทะลึ่ง ทำความสะอาดมันก็ต้องใช้ร่างกายใช้แรงทั้งนั้น ฟุ้งซ่านนะเราน่ะ” ชายหนุ่มดีดหน้าผากของเธอเบาๆ อย่างเอ็นดู วินาทีนี้เองที่เขาเห็นวาโยมองเขาด้วยสายตาเป็นประกายมีความสุขซ่อนอยู่ในนั้นและเขาไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองแน่ๆ เพราะเธอหน้าแดง แถมยังหลบตาก้มหน้าอมยิ้มอยู่ แต่ชายหนุ่มก็แกล้งทำเป็นไม่เห็นเพราะไม่อยากให้เธอเขินอายจนหนีเขาไปนั่นเอง“งั้นตกลงค่ะ แต่ช่วยลดราคาให้ถูกลงเยอะๆหน่อยนะคะ เพราะหนูจะทำความสะอาดให้สุด
วันนี้แม่มาหาวาโยที่คอนโดเพราะมีเรื่องให้ช่วย เนื่องจากแม่ของวาโยนั้นทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองและยังขาดนายแบบมาช่วยโฆษณาให้ ซึ่งแม่ของเธออยากให้ต้าที่เป็นนายแบบเป็นพรีเซนเตอร์ถ่ายรูปกับเสื้อผ้าของเธอนั่นเอง จึงมาหาวาโยก่อนที่เขาจะกลับไปเมืองนอก เพราะสินบอกให้เธอมาหาลูกสาวให้ช่วยพูดกับเขาให้น่าจะได้เรื่องกว่าที่ตัวสินพูดเอง“นะโยช่วยพูดกับพี่เขาหน่อย เคยเรียนโรงเรียนเดียวกันไม่ใช่เหรอ”“แม่คะ หนูไม่ได้สนิทกับพี่ต้าแล้วนะคะ”“งั้นแสดงว่าเคยสนิทสิ ถ้าแบรนด์เสื้อเราดังขึ้นมาเรารวยเลยนะโย ลองคิดดูสินายแบบดังมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้เสื้อเราจะดังขนาดไหน คนก็ต้องให้ความสนใจแล้วมาซื้อกันเยอะๆ แน่เลยแล้วอีกอย่างผ้าที่แม่นำมาตัดเย็บก็อย่างดีเลยนะรับรองนายแบบคนนั้น ไม่อายแน่ๆ แม่เอาแบบเสื้อมาให้ดูแล้ว เขาชอบไม่ชอบยังไงค่อยว่ากันทีหลัง ดีไหมลูก” แม่พูดเกลี้ยกล่อมเธอ“งั้นก็ได้ค่ะ หนูจะถามพี่เขาให้” เธอตอบอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักแต่จะทำยังไงได้ล่ะ นี่มันธุรกิจครอบครัวของเธอ อีกหน่อยเธอก็ต้องมาดูแลต่ออยู่ดี ศึกษาไว้หน่อยก็แล้วกัน“ดีแล้วลูก ยังไงซะมันก็ต้องตกเป็นของหนู ค่อยๆ เรียนรู้กันไปนะ แม่จะรอฟังข่าวด
เมื่อต้าทานข้าวเย็นกับแม่ของเขาเสร็จ ก็ขับรถสปอร์ตหรูที่เขาเอามาจอดไว้ที่บ้านแม่ขับตรงไปยังคอนโดของเขาทันที แม้ว่าเขาจะไม่ได้กลับมานอนที่นี่นานแล้ว แต่ภาพหลายๆ อย่างยังชัดเจนเมื่อนึกถึงโซฟาตัวนี้ที่เขาร่วมรักกับวาโยครั้งสุดท้าย หรือแม้แต่กล่องถุงยางอนามัยจำนวนมากที่เขาเปิดใช้ไปเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นก็ยังอยู่ที่ชั้นวางเดิม“ฮึ หมดอายุแล้วเหรอ” เขาหัวเราะในลำคอเมื่อพลิกดูฉลากข้างกล่องก็อดขำไม่ได้“แกนี่น่าสงสารกว่าฉันอีกนะ อยู่อย่างโดดเดี่ยวแล้วก็หมดอายุไป” เขาหยิบมันทิ้งลงไปในถังขยะทันที แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มที่เคยมีหญิงสาวมานอนข้างๆ“ป่านนี้ ไปเป็นแฟนคลับของใครอยู่นะ” เขาพูดบ่นลอยๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาดู กดไปยังแอปอินสตาแกรม แล้วเปลี่ยนแอคเคาท์หลุมเพื่อไปส่องโปรไฟล์ของวาโย“ก็ดูมีความสุขดีนี่” เขาเลื่อนจนไปเจอรูปหนึ่งที่ถ่ายกับเพื่อนๆ ของเธอมีทั้งหญิงและชายหลายคน แต่เขาสังเกตได้ว่าในภาพมีผู้ชายโอบเอวของวาโยอยู่“มันเป็นใครวะ ยิ้มหน้าระรื่นเชียว” เขาเลื่อนๆ ดูไปหลายภาพ บางภาพเขาก็เคยดูแล้ว แต่มือดันลั่นไปกดถูกใจในรูปภาพของเธอเข้าให้ งานเข้าแล้วแต่นี่มันเป็นแอคหลุมของเขา