หลังจากวันนั้นข่าวลือเรื่องผู้ชายสองคนต่อยตีกันแย่งหญิงสาวก็ลืมสะพัดทั่วทั้งหมู่บ้านทั่วคุ้งน้ำว่าลูกสาวแสนสวยของพ่อหมอไทยถูกผู้ชายรุมแย่งตัว
ส่วนไอ้สิงห์ก็เอาแต่ดื่มเมามายโวยวายซ้อมฟันดาบกับบ่าวในเรือนและเหล่าพลทหารที่ตรวจตารอบหมู่บ้านต่างมิมีใครกล้าเข้าหน้ามันสักคนเดียวจนผู้เป็นพ่อต้องเข้ามาคุยกับลูกชาย "ไอ้สิงห์เอ็งเป็นกระไรของเอ็งเหตุใดจึงเอาแต่เมามายเยี่ยงนี้" ผู้เป็นพ่อที่ไม่เคยเห็นลูกชายของตนผู้เงียบขรึมกินเหล้าหัวราน้ำเช่นนี้ แถมยังมีข่าวลือหนาหูเรื่องชกต่อยกลางตลาดเพราะผู้หญิง "ข้ามิเป็นอันใดดอกพ่อ ข้ารู้สึกมีเรื่องให้ข้าต้องตัดสินใจหลายอย่าง ขอเวลาถ้าสักพักนึงเถิด"เสียงครางยานของไอ้สิงห์เอยบอกผู้เป็นพ่อ คืนเดือนดับทำให้มองไม่เห็นสิ่งใด บนฟากฟ้า ไอ้สิงห์ที่นอนเมาอยู่ชานเรือน มันนอนน้ำตาไหลรินโดยที่มันก็ไม่รู้เหตุใดจึงรู้สึกเศร้าเช่นนี้ ไอ้สิงห์หวนนึกถึงเรื่องเมื่อสามปีก่อนที่มันได้ช่วยเหลือระย้าแก้วที่กำลังจมน้ำ จนทำให้ระย้าแก้วมอบหัวใจทั้งดวงให้กับมันแต่มันกลับไม่เห็นคุณค่าเอาแต่พูดจาทำร้ายจิตใจของหล่อน ย้อนไปเหตุการณ์วันที่ฟ้าฝนมืดครึ้มแต่ระย้าแก้วยังดื้อรั้นที่จะเอาบัวลอยไข่หวานมัสมั่นไก่และข้าวสวยกับยาสมุนไพรหายากเอามาให้ไอ้สิงห์ที่บาดเจ็บจากการสู้กับขโมยผู้ร้ายที่จะมาขโมยควาย ถึงแม้จะเป็นเพียงแผลถาดๆแต่ระย้าแก้วก็เป็นห่วงไอ้สิงห์สิ่งที่สุด "ทูนหัวของบ่าว นี่ฝนมันจะลงเม็ดแล้วหนาจักไปทำไมเอาไว้ไปพรุ่งนี้เถิด" "ไม่ได้..!! ข้าจักต้องไปดูพี่สิงห์ให้เห็นกับตาว่าปลอดภัยดี ข้าเป็นห่วงพี่สิงห์ที่สุด" น้ำเสียงห่วงหาอาทรของระย้าแก้วบ่งบอกถึงความห่วงใยต่อผู้มีพระคุณและรักมั่นของหล่อน "พี่เตรียมยาหรือยัง ขนมหวานกับข้าวสวยมัสมันที่ข้าทำพี่เตรียมด้วยใช่หรือไม่" ระย้าแก้วที่กำลังจัดยาเป็นชุดใส่ย่ามเตรียมจะเดินลงจากเรือน "คุณพ่อเจ้าค่ะ ลูกขออนุญาตไปดูพี่สิงห์ที่เรือนสักครู่หนา" ระย้าแก้วในวัย 17 ปี ถึงเธอจะเด็กแต่เธอก็ถูกถ่ายทอดวิชายาสมุนไพรจากต้นตระกูลผู้เป็นพ่อมาทุกกระเบียดนิ้ว "ไปเถอะลูกให้ พาอีแตงไปเป็นเพื่อน แลไปจะเอาบ่าวให้ผู้ชายติดตามไปด้วยหรือไม่" ผู้เป็นพ่อสอนให้ระย้าแก้วตอบแทนบุญคุณผู้มีพระคุณเยี่ยงไอ้สิงห์ "ให้พายเรือให้ลูกก็พอจ้ะพ่อ เดี๋ยวลูกจะรีบไปรีบกลับประเดี๋ยวฝนจะลงเม็ดเสียก่อน"พอเตรียมข้าวของทุกอย่างเสร็จระย้าแก้วรถไปที่ท่าน้ำทันที "พี่ช่วยเร่งฝีพายให้ข้าด้วยเถิด ระย้าแก้วที่เป็นห่วงไอ้สิงห์จนร้อนรนไปเสียหมด* "ทูนหัวของบ่าวใจร่ม ๆ เถิดหนาเจ้าคะ อีกไม่นานด้านหน้าผ่านไปโค้งน้ำเดียวก็ถึงแล้วเจ้าค่ะ" "ก็ข้าเป็นห่วงพี่สิงห์นี่นา" พอถึงเรือนของหัวหน้าหมู่บ้านระย้าแก้วยืนอยู่ตรงประตูชานเรือนเห็นหัวหน้าหมู่บ้านพอดี "ข้าไหว้จ้ะ ลุง" "เอ็งมาทำกับอะไรรึ" "ข้าจักมาขอดูแผล แลงเยี่ยมไข้พี่สิงห์นะจ๊ะ ข้าเข้าไปได้หรือไม่จ๊ะ พอดีข้าเอาข้าวขนมแล้วก็ยาใส่แผลพ่อข้าฝากมาให้เลยอยากจะขอเข้าไปดูอาการพี่สิงห์เสียหน่อย" "ตามสบายเลย ระย้าแก้วเดี๋ยวลุงขอตัวก่อน" ได้รับคำอนุญาตจากหัวหน้าหมู่บ้านผู้เป็นพ่อของ ไอ้สิงห์ระย้าแก้วก็ตรงไปกลางชานเรือนที่ไอ้สิงห์นอนพักผ่อนหย่อนใจอยู่ ไอ้สิงห์พอเห็นหน้าระย้าแก้ว ก็อารมณ์หงุดหงิดขึ้นทันตา ไม่รู้จะพูดกับระย้าแก้วว่าเยี่ยงไร ด่าก็แล้วว่าก็แล้ว นางก็ยังตีมึนมาหาเขาได้ทุกวี่ทุกวัน จนชาวบ้านพากันโจทย์กันว่าระย้าแก้วผู้มีใจรักมั่นต่อไอ้สิงห์ เมื่อใดที่ไอ้สิงห์ได้ยินจากปากชาวบ้านเช่นนั้นก็จะด่าทอทันทีเพราะทั้งหัวใจของไอ้สิงห์มีเพียงแม่จันทร์แรมผู้เดียวเท่านั้น "เอ็งมาทำอะไรที่นี่"ไอ้สิงห์เอ่ยถามเสียงเรียบพร้อมกับแสดงสีหน้าที่หยิกงอ ระย้าแก้วรีบวางสัมภาระลงทันทีพร้อมกับเริ่มบทยาที่เตรียมมา แลจัดแจงข้าวปลาอาหารใส่ถ้วยจานเพื่ออยากจะให้ไอ้สิงห์ได้กิน "ข้าจักมาดูแผลให้พี่ยังไงเล่า พี่เป็นเยี่ยงไรบ้างเจ็บหรือไม่ ขอข้าดูแผลหน่อยเถิด" ระย้าแก้วเริ่มตำยาเพื่อจะประคบให้กับไอ้สิงห์ "เอ็งไม่ต้องมายุ่งกับข้าได้หรือไม่..!! ข้ารำคาญเอ็งทุกเมื่อเชื่อวัน แต่เอ็งก็ยังจะมาบ้านข้าอยู่ล่ำไป" "พี่จะด่าว่าข้าเยี่ยงไรก็ได้ แต่ขอให้ข้าดูแผลให้พี่ก่อนเถิดว่ามันลึกมากหรือไม่" ระย้าแก้วเลือกที่จะไม่ฟังคำบ่นด่าของไอ้สิงห์หรือเก็บเอาไปใส่ใจ เพราะทุกครั้งที่เธอมาไอ้สิงห์ก็มักจะพูดจาเช่นนี้เป็นประจำ ระย้าแก้วใช้สองมือเล็กจับไปที่ต้นแขนซ้ายของ ไอ้สิงห์ที่ถูกพันผ้าเอาไว้ แต่พอเปิดผ้าก็เห็นว่ามียาที่ถูกใส่เอาไว้เสียดีแล้ว "เอ็งทำกระไรของเอ็งเนี่ย..!! วุ่นวายมิเข้าเรื่อง" ไอ้สิงห์ตะคอกระยะแก้วพร้อมกับผลักเธอหงายหลัง ตุบ..!! โอ๊ย...! ระย้าแก้วหงายหลังจนก้นจ้ำเบ้าลงที่พื้นเธอถึงกับร้องออกมาเสียงดัง "พ่อสิงห์..! เหตุใดจึงทำกับคุณหนูของข้า เยี่ยงนี้เล่านางเพียงแค่เป็นห่วงท่านก็เท่านั้น ถึงกับต้องผลักคุณหนูข้าเช่นนี้เลยหรือ"บ่าวคู่กายของระย้าแก้วถึงกับร้องโวยวายแทนผู้เป็นนายที่โดนผลัก "แล้วใครใช้ให้นายเอ็งมาสอดเรื่องของข้ากันเล่า ข้าก็พูดอยู่ปาว ๆ ว่าข้าไม่ต้องการเห็นหน้านายของเอ็งแต่นายเอ็งก็ยังมาให้ข้าเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน..!!" ไอ้สิงห์พ่นคำร้ายๆทำร้ายจิตใจระย้าแก้วที่มีจิตใจเป็นห่วงมันเหนือสิ่งอื่นใด "แต่ก็มิเห็นพ่อสิงห์ จะต้องทำรุนแรงถึงเพียงนี้ คุณหนูของข้าเพียงหวังดีต่อท่านก็เท่านั้น" "มิเป็นไรดอกพี่แตง..พี่สิงห์เขาคงหงุดหงิดที่เจ็บแผล แต่แผลดูท่าจะถูกทำความสะอาดแล้วมิเป็นอะไรมาก"ระย้าแก้วคลานเข่ายิ้มหวานส่งไปให้ไอ้สิงห์ "พี่กินข้าวหรือยังจ๊ะ ข้าเตรียมมัสมั่นไก่มาให้พี่ด้วยกับข้าวสวยร้อนๆ พี่กินสักนิดเถอะนะ" เพล้ง..!! ว๊ายตาเถน..ทูลหัวของบ่าว ..! แกงมัสมั่นไก่ที่ร้อนๆ ที่เพิ่งออกมาจากเตาถูกไอ้สิงห์ปัดตกจากมือของระย้าแก้ว แต่แกงไม่ได้ตกไปที่พื้นถ้วยพลิกกลับด้าน หกรดมาที่กระโจมอกสไบสีสวยขอระย้าแก้วจนเต็มเลอะเทอะไปหมด "เอาออกไป..!! ข้าไม่กินของของเอ็ง จำเอาไว้ด้วย มิต้องพยายามมาทำดีกับข้า ต่อให้เอ็งพยายามให้ตาย ข้าก็ไม่มีวันรักเอ็งดอก..!" ไอ้สิงห์ที่ใช้สายตาเย้ยหยันมองระย้าแก้วด้วยความสมเพชเวทนา "พี่สิงห์พี่เป็นกระไรหรือไม่ น้ำแกงหกรดพี่รึไม่ ขอข้าดูหน่อยเถิด" ระย้าแก้วกลับไม่เป็นห่วงตัวเองเลยสักนิดข้อแขนพี่แดงเถือกเพราะถูกน้ำแกงลวกแถมตรงสไบกระโจมอกก็มีรอยแดงเต็มไปหมดเพราะน้ำแกงที่ร้อนซึมเข้าไป "คุณหนูพอเถอะ..ไปล้างน้ำก่อนเถอะ หากเป็นเช่นนี้จะเกิดรอยแผลเป็นได้นะเจ้าคะ" อีแตงที่เป็นห่วงเจ้านายยิ่งชีพจึงรีบฉุดกระชากลากถูระย้าแก้วลงจากเรือน "เออ..!! เอ็งรีบพานายเองไปให้พ้นหูพ้นตาข้าเสียทีน่ารำคาญ ไป ๆ ให้พ้น" ไอ้ดำที่เดินสวนกับระย้าแก้วและนางแตงบ่าวคู่ใจที่เห็นสภาพแล้วก็สังเวชระย้าแก้วเป็นที่สุดมาทีไรก็มักจะโดนแบบนี้เป็นประจำ..คำพูดที่พล่อย ๆ พูดโดยมิไตร่ตรอง พูดโดยไมิคิด ไอ้สิงห์มิรู้เลยว่า คำพูดของมันนั้นมีความหมายกับหัวใจของระย้าแก้วมากเพียงใด ระย้าแก้วจึงตั้งใจแน่วแน่ว่าจักนั่งรอไอ้สิงห์จนถึงเช้าดังเช่นที่ไอ้สิงห์ได้ลั่นคำ"ได้หากพี่รับปากข้าเช่นนั้น ข้าจะทำให้พี่ได้เห็น ว่าข้าจักมิผิดคำพูดกับพี่ แม้สักนิดเดียว"ระย้าแก้วตะโกนไล่หลัง"หากเอ็งทำได้เยี่ยงปากพูด ข้าจักทำตามคำพูดเช่นกัน"ไอ้สิงห์คิดอยู่ภายในใจว่าแม่หญิงอย่างระย้าแก้วนั้นมิอาจทำได้ดั่งเช่นคำที่พูดดอกผ่านมาหลายชั่วยาม ระย้าแก้วยังคงนั่งอยู่ที่เถาวัลย์ชิงช้า โดยมิลุกไปที่ใด จนเป็นที่ผิดสังเกตของแม่ศรีนวลและพ่อหมอไทย"อีแตง..! คุณหนูของมึงอยู่ที่ใดกันเล่า เหตุใดจึงยังมิกับเรือน.?" แม่ศรีนวลหันไปถามบ่าวคู่ใจของระย้าแก้ว"คุณหนูขอนั่งเล่นกง น้ำตกหนาเจ้าคะแม่นาย หากแต่บอกว่าจะกลับไม่นานนักเจ้าค่ะ""แต่นี่มันก็หลายชั่วยามแล้วหนา พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าอยู่แล้ว เหตุใดนางจึงยังมิกลับ" มารดาอย่างแม่ศรีนวลเริ่มกับวันกระวายเป็นห่วงลูกสาว"กระนั้นบ่าวขออนุญาตแม่นาย ไปตามคุณหนูหนาเจ้าคะ."อีแตงรีบเสนอตัว"มึงชักช้าอยู่ใยเล่า รีบไปเถิด" พ่อหมอไทยเอ่ยปากแท
"ถึงพี่จะว่ากระนั้น ข้าก็ต้องขอบน้ำใจพี่ ที่พี่ได้ช่วยข้าหลายครั้งหลายครา" ระย้าแก้วเอ่ยคำขอบคุณ ไอ้สิงห์"ทูนหัวของบ่าว เรากับเรือนกันเถิดหนาอย่าอยู่ตรงนี้ให้เสียเวลาเลย นี่ก็ดูท่าอีกมินานฝนก็คงจะตก" อีแตงข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของระย้าแก้วรีบพูดแทนผู้เป็นนายสองเท้าก้าวเดินออกอย่างมั่นใจ ว่าจะไม่หันกลับไปมองไอ้สิงห์ เพราะหากระย้าแก้วหันกลับไป น้ำตาคงได้อาบสองแก้มเป็นแน่"คุณหนูอย่าร้องไห้เลยหนา อย่าให้ผู้ใดเห็นน้ำตาของคุณหนูอีกต่อไปคุณหนูของบ่าวเข้มแข็ง""ข้าขอบน้ำใจพี่แตง ยิ่งนักที่อยู่เป็นเพื่อนข้าเสมอ"อีแตงรีบประคองร่างอรชรของระย้าแก้ว นายทูนหัวที่มันรักหนักหนา มาให้พ้นจากตลาด ลัดเลาะมาจนถึงน้ำตกท้ายหมู่บ้าน ทางผ่านกลับบ้านของระย้าแก้วซึ่งน้ำตกกับบ้านของระย้าแก้วห่างกันไม่ถึงห้าสิบก้าว เรียกว่าใกล้มาก"พี่แตงไปที่เรือนก่อนเถิดหนา ข้าขอนั่งเล่นที่ชิงช้าเถาวัลย์สักครู่" หากข้าสบายใจขึ้นข้าจักได้กลับเข้าเรือน"คุณหนูจะเอาเยี่ยงนั้นก็ได้เจ้าค่ะ แต่อย่านานนักหนานะเจ้าคะ หากแม่นายศรีไพรตามหา บ่าวจักถูกเฆี่ยนหลังลายเป็นแน่""มินานดอกพี่แตง หากข้าสบายใจขึ้น ข้าจะรีบกลับเรือนทันที"อีแ
"พี่แตง ดูปิ่นปักผมอันนี้ซิ สวยเหลือเกิน ลายดอกไม้สวยตรงใจข้าเหลือเกิน" ระย้าแก้วยิ้มสดใส ในวัย 18 ปี งามใสพรั่งราวดอกไม้แรกแย้ม ความงามเลื่องลือไปทั่วคุ้งน้ำ แลหัวท้ายหมู่บ้านต่างพากันอยากเยินโฉมบุษบานางฟ้าเดินดิน"สวยมากเจ้าค่ะทูนหัวของบ่าวอยากได้กระนั้นหรือเปล่าจะได้ต่อราคาพ่อค้าให้"บ่าวคู่ใจอย่างนางแตงรีบจัดแจงให้กับเจ้านายผู้กายของมัน"ข้าอยากได้ปิ่นปักผมอันนี้พี่แตง"ระย้าแก้วที่ยิ้มสดใสอยู่หน้าร้านเครื่องประดับ"จีนซื่อ ข้าเอาปิ่นอันนี้ให้กับนายของขา""ได้ ได้"แต่ยังไม่ทันได้เอาปิ่นปักผมมาใส่ตะกร้าสานของนางแตง ก็มีเรียวกระชากปิ่นออกจากมือของจีนซื่อทันที พร้อมกับทำท่าทีโอหังหันมามองหน้าระย้าแก้วอย่างโกรธเคือง นั่นคือจันทร์แรมที่ตอนนี้อายุอานามก็ปาไป 27 ปี จนจะเป็นสาวแร้งทึ้งอยู่แล้วก็ยังไม่ได้ออกเรือน ข่าวคาว ๆ ก็เล็ดรอดให้ชาวบ้านได้พูดกันไม่เว็นแต่ละวัน จนไอ้สิงห์ระอา ถึงแม้ยังไม่เคยเห็นกับตาได้ยินกับหูแต่มันก็ไม่ได้โง่ดักดาน เพียงแต่ยังไม่ทันเห็นธาติแท้ของนางจันทร์แรมกับตาก็เท่านั้น"ข้าจะเอาปิ่นอันนี้จีนซื่อ ท่านต้องขายให้ข้า"จันทร์แรมที่สแยะยิ้มอย่างผู้มีชัย"ขอโทษอาคุงหนู
ไอ้สิงห์ที่ยังคงร่ำสุรา อยู่ที่ชานเรือนบนบ้าน มันเฝ้ามองระย้าแก้วมาเนิ่นนาน แม้มันจะลั่นวาจาเอาไว้ว่าจะไม่รับรักระย้าแก้ว เรื่องที่มันหวนคิดยังมิได้ครึ่งกับสิ่งที่มันทำ แต่บัดนี้หัวใจที่แข็งแกร่งของมัน ก็ว้าวุ่นมิน้อย มันดื่มหนักจนเมาหลับไปจนถึงเช้าวันแล้ววันเล่า ที่ระย้าแก้วเฝ้ารัก ทะนุถนอมเทิดทูนบูชาในความรักที่มั่นคงของตนเอง ที่มีต่อไอ้สิงห์แม้จักรู้ว่า ไอ้สิงห์มิมีใจให้ตนเองเลย และยังมีนางในดวงใจอย่างแม่จันทร์แรม .แต่ระย้าแก้วก็ยังคงตั้งใจตั้งมั่น สักครั้งในชีวิตนางคิดว่าหากมิทำกะไรสักอย่าง จะมาเสียใจภายหลังแต่หากทำเต็มที่แล้ว ยังมิสามารถเอาชนะใจไอ้สิงห์ได้ นางก็จะถอยออกมาเอง."คุณหนู..!! ทูลหัวของบ่าว จะไปที่ใดกันเล่าแต่งตัวเสียสวยเชียว"บ่าวคู่ใจอย่างนางแตงเอ่ยชมผู้เป็นนาย"วันนี้เห็นว่า พี่สิงห์จะคุมชาวบ้านซ้อมฟันดาบ ข้าอยากจะเอาน้ำมะลิใบเตย เอาไปฝากพี่สิงห์เสียหน่อย ช่วงนี้อากาศร้อน ๆ" ทุกครั้งที่ระย้าแก้วพูดถึงไอ้สิงห์นางมักจะยิ้มแย้มแจ่มใส"ไปทำไมเล่าทูนหัวของบ่าว คราวที่แล้วก็น้ำแกงราดตัวมาทีนึงแล้วหนา"นางแตงรู้สึกโกรธแทนระยาแก้วที่ไปทีไรก็มักจะมีเหตุมีน้ำตาหรือเจ
สภาพเสื้อผ้าสไบที่เลอะเทอะ เปรอะเปื้อนสองแขนแดงเถือก น้ำตาไหลริน แต่นางกลับยังคงยิ้มส่งมาให้กับบ่าวคู่ใจเยี่ยงนางแตง"ข้ามิเป็นอันใดดอกพี่ มันเป็นอุบัติเหตุหนา" ระย้าแก้วที่ปลอบใจนางแตงบ่าวคู่ใจ"อุบัติเหตุอันใดกันเล่า..! ข้าเห็นกับตาว่าพ่อสิงห์จงใจปัดกับข้าวจนหกรดคุณหนูเยี่ยงนี้""มิเป็นไรดอกพี่ เหตุก็เป็นเพราะข้า ที่จะมาวุ่นวายกับพี่เขา ตอนที่พี่สิงห์ยังคงเจ็บแผลอยู่เลยหงุดหงิดก็เท่านั้น"คำพูดภายใต้รอยยิ้มที่เปื้อนน้ำตาระย้าแก้วมักจะหาเหตุผลหักล้างการกระทำที่ไม่ดีของไอ้สิงห์เสมอ"เมื่อใดคุณหนูของข้า จักโตขึ้นแลคิดได้เสียทีหนาบุญคุณหากต้องทดแทน ไปตลอดชีวิตมันก็มิแปลกแต่หากทดแทน แล้วเขามิต้องการก็ควรหยุดเสียทีเถิด"อีแตงพยายามปลอบใจผู้เป็นนายของตนให้รู้จักความรักที่แท้จริงเสียที"เรากลับเรือนกันเถิดหนาคุณหนู ไปล้างเนื้อล้างตัว"อีแตงประคองผู้เป็นนายกลับไปที่ท่าน้ำเพื่อพายเรือกลับสาวน้อยในวัย 17 ปีถึงแม้จะไม่รู้จักคำว่ารักที่แท้จริงเป็นเช่นไร แต่นางก็ตั้งมั่นที่จะมอบกายถวายหัวใจให้กับไอ้สิงห์ระหว่างทางไปก็ราวกับฟ้าฝนเป็นใจตกห่าใหญ่ลงมา จนเรือแทบจะล่มกลางทาง กว่าจะถึงบ้านก็ทุลักทุ
หลังจากวันนั้นข่าวลือเรื่องผู้ชายสองคนต่อยตีกันแย่งหญิงสาวก็ลืมสะพัดทั่วทั้งหมู่บ้านทั่วคุ้งน้ำว่าลูกสาวแสนสวยของพ่อหมอไทยถูกผู้ชายรุมแย่งตัวส่วนไอ้สิงห์ก็เอาแต่ดื่มเมามายโวยวายซ้อมฟันดาบกับบ่าวในเรือนและเหล่าพลทหารที่ตรวจตารอบหมู่บ้านต่างมิมีใครกล้าเข้าหน้ามันสักคนเดียวจนผู้เป็นพ่อต้องเข้ามาคุยกับลูกชาย"ไอ้สิงห์เอ็งเป็นกระไรของเอ็งเหตุใดจึงเอาแต่เมามายเยี่ยงนี้"ผู้เป็นพ่อที่ไม่เคยเห็นลูกชายของตนผู้เงียบขรึมกินเหล้าหัวราน้ำเช่นนี้ แถมยังมีข่าวลือหนาหูเรื่องชกต่อยกลางตลาดเพราะผู้หญิง"ข้ามิเป็นอันใดดอกพ่อ ข้ารู้สึกมีเรื่องให้ข้าต้องตัดสินใจหลายอย่าง ขอเวลาถ้าสักพักนึงเถิด"เสียงครางยานของไอ้สิงห์เอยบอกผู้เป็นพ่อคืนเดือนดับทำให้มองไม่เห็นสิ่งใด บนฟากฟ้า ไอ้สิงห์ที่นอนเมาอยู่ชานเรือน มันนอนน้ำตาไหลรินโดยที่มันก็ไม่รู้เหตุใดจึงรู้สึกเศร้าเช่นนี้ ไอ้สิงห์หวนนึกถึงเรื่องเมื่อสามปีก่อนที่มันได้ช่วยเหลือระย้าแก้วที่กำลังจมน้ำ จนทำให้ระย้าแก้วมอบหัวใจทั้งดวงให้กับมันแต่มันกลับไม่เห็นคุณค่าเอาแต่พูดจาทำร้ายจิตใจของหล่อนย้อนไปเหตุการณ์วันที่ฟ้าฝนมืดครึ้มแต่ระย้าแก้วยังดื้อรั้นที่จะเอาบ
"วันนี้ผู้คนในตลาดมากมาย แม่ระย้าแก้วเดิน ระวัง ๆ หน่อยหนา" พระพายพูดด้วยความเป็นห่วง"พี่พระพายมิต้องห่วงข้าดอก ข้าจะเดินเล่นไม่ไปไหนไกล ข้าอยากไปดูผ้าเสียหน่อย""ถ้าเยี่ยงนั้น ก็ให้แม่แตงอยู่เป็นเพื่อนเจ้าหนา เดี๋ยวพี่จะเดินไปดูของใช้อื่นๆ ด้านหน้านี้เสียหน่อย"พูดจบทั้งสองก็เดินแยกทางกันไป ซึ่งก็ไม่ได้ไกลกันมากมายนัก ส่วนระย้าแก้วนั้นไม่รู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมาที่นาง ทุกย่างก้าวที่เดิน อยู่ภายใต้สายตาคู่นี้มิได้วาง"พี่แตง พี่จักไปเดินดูของกระไรก็ไปเถิด ข้าขอเดินเล่นคนเดียวตรงนี้นี่แหละ""บ่าวไปหนาเจ้าคะ แต่คุณหนูระย้าแก้ว ทูนหัวของบ่าวจักต้องไม่ไปไหนไกลหนาเจ้าคะ"บ่าวคู่กายอย่างนางแตงก็กระวนกระวายสองจิตสองใจไม่อยากห่างผู้เป็นนาย"ข้าโตแล้วหนาพี่ มิต้องห่วงถ้าดอก"ระย้าแก้วสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะที่จะไม่ดื้อไม่ซนทางด้านไอ้สิงห์ที่เห็นว่าระย้าแก้วออกไปกับ พระพายโดยการเดินเท้าออกจากวัดไป ปล่อยให้เรือพายนำหน้าไปก่อน มันก็ยิ่งสงสัยว่าพระพาย จักพาระย้าแก้วไปที่ใดมันจึงจะตามไปแต่ติดแม่จันทร์แรม"พี่สิงห์จักไปที่ใดกันเล่า รีบร้อนชอบกล"จันทร์แรมเอ่ยถามทันทีเห็นท่าทีรีบร้อนของ
ความหงุดหงิดหัวใจที่มิอาจดับได้ จวบจนเวลาพลบค่ำทำให้ไอ้สิงห์รู้สึกนอนไม่หลับ จนมันต้องปลุกไอ้ดำให้ไปที่เรือนของระย้าแก้วเป็นเพื่อน แม้จะไม่มีเหตุผลในการไปแต่มันก็ต้องไปเพราะความว้าวุ่นที่รบกวนจิตใจของมัน"ไอ้ดำเดี๋ยวมึงพากูไปบ้านพ่อหมอไทยที""ไปทำไมล่ะพี่สิงห์นี่ก็ค่ำแล้วหนา"ไอ้ดำที่ทำท่าทีสงสัยจึงเอ่ยถามออกไปทันที"เออน่ะ..!!เรื่องของกู กูมีเรื่องต้องไปจัดการเดี๋ยวมึงไปดูต้นทางให้กูที""ได้จ้ะพี่สิงห์"ระย้าแก้วที่อยู่ในห้องนอน ยืนชมพระจันทร์ที่ส่องแสงสวยงาม แม้เธอในวัย 18 ปีจะงามสะพรั่งแต่ก็มิอาจเอาชนะใจ ไอ้สิงห์คนที่ช่วยชีวิตเธอ เธอมิอาจเอาชนะใจผู้ที่อยู่ในหัวใจของไอ้สิงห์ได้ นั่นคือจันทร์แรม"ข้าจักสู้ดวงจันทร์ที่สวยงามได้เยี่ยงไรเล่า ข้าเป็นเพียงดอกไม้ดอกหนึ่ง ที่มิคู่ควรที่จะอยู่ข้างกายของพี่สิงห์ หากเป็นเช่นนั้นข้าควรตัดใจใช่หรือไม่"ระย้าแก้วที่ยืนมองพระจันทร์ แล้วยืนตัดพ้ออยู่กับตนเองในความรักข้างเดียวของนางระย้าแก้วเปิดหน้าต่างทิ้งเอาไว้เพื่อรับสายลมเย็นพร้อมกับเตรียมตัวเข้านอนหลับไหล เปลือกตาสวยคู่นั้นเริ่มหนักอึ้งและกลับลงสู่ห้วงนิทราไอ้สิงห์ที่มาถึงเรือนของพ่อหมอไทยมั
หลังจากวันนั้นที่พระพายได้กลับมา ระย้าแก้วเริ่มไปหาไอ้สิงห์น้อยลง เพราะพระพายที่มักจะพาระย้าแก้วไปเที่ยวเตร่ตามประสา เขาเองตั้งใจจะอยู่ที่นี่แรมเดือนเพื่อดูแลบ้านที่พ่อแม่มอบหมายให้กลับมาดูแล"ข้าไหว้ขอรับพ่อหมอไทย"พระพายที่หอบหิ้วเอามะพร้าวกับกล้วยที่สวนตนมาฝากบ้านระย้าแก้ว"เป็นไงมาไงละพ่อพาย""พอดีวันนี้บ่าวไพร่ ที่บ้านของหลาน มันตัดกล้วยกับมะพร้าวเยอะ เลยหิ้วมาฝากพ่อหมอไทยกับแม่ศรีนวลนะขอรับ""ขอบน้ำใจพ่อพระพาย เดี๋ยวให้บ่าวยกเข้าครัว พ่อมาเหนื่อย ๆ ขึ้นเรือนมากินน้ำกินท่าก่อนพ่อ"พระพายที่ขึ้นเรือนมา นั่งดื่มน้ำโรยดอกมะลิเย็น ๆ จนชื่นใจ ส่วนสายตาสอดส่องมองหาร่างบางของหญิงสาวสวยที่เขาหมายปอง"มองหาผู้ใดเล่าพ่อพาย"เสียงแม่ศรีนวล แม่ของระย้าแก้วที่เดินออกมาจากเรือนนอน"ข้าไหว้จ้ะ ป้าศรีนวล"พระพายยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มรับ"สบายหรือไม่ขอรับ ป้าแม่ศรีนวล""ป้าสบายดี แล้วพ่อพายเล่าเป็นเยี่ยงไรบ้าง""หลานสบายดีขอรับป้าศรีนวล"ขณะที่พระพายนั่งสนทนาอยู่กับแม่ของระย้าแก้วสายตาก็สอดส่องมองหาร่างบาง จนแม่ศรีนวลแม่ของระย้าแก้วอดขำไม่ได้"ถ้ามองหาระย้าแก้ว น้องอยู่ในสวนดอกลั่นทมโน่น""เอ่อคือ..ถ