สภาพเสื้อผ้าสไบที่เลอะเทอะ เปรอะเปื้อนสองแขนแดงเถือก น้ำตาไหลริน แต่นางกลับยังคงยิ้มส่งมาให้กับบ่าวคู่ใจเยี่ยงนางแตง
"ข้ามิเป็นอันใดดอกพี่ มันเป็นอุบัติเหตุหนา" ระย้าแก้วที่ปลอบใจนางแตงบ่าวคู่ใจ "อุบัติเหตุอันใดกันเล่า..! ข้าเห็นกับตาว่าพ่อสิงห์จงใจปัดกับข้าวจนหกรดคุณหนูเยี่ยงนี้" "มิเป็นไรดอกพี่ เหตุก็เป็นเพราะข้า ที่จะมาวุ่นวายกับพี่เขา ตอนที่พี่สิงห์ยังคงเจ็บแผลอยู่เลยหงุดหงิดก็เท่านั้น"คำพูดภายใต้รอยยิ้มที่เปื้อนน้ำตา ระย้าแก้วมักจะหาเหตุผลหักล้างการกระทำที่ไม่ดีของไอ้สิงห์เสมอ "เมื่อใดคุณหนูของข้า จักโตขึ้นแลคิดได้เสียทีหนาบุญคุณหากต้องทดแทน ไปตลอดชีวิตมันก็มิแปลกแต่หากทดแทน แล้วเขามิต้องการก็ควรหยุดเสียทีเถิด" อีแตงพยายามปลอบใจผู้เป็นนายของตนให้รู้จักความรักที่แท้จริงเสียที "เรากลับเรือนกันเถิดหนาคุณหนู ไปล้างเนื้อล้างตัว"อีแตงประคองผู้เป็นนายกลับไปที่ท่าน้ำเพื่อพายเรือกลับ สาวน้อยในวัย 17 ปีถึงแม้จะไม่รู้จักคำว่ารักที่แท้จริงเป็นเช่นไร แต่นางก็ตั้งมั่นที่จะมอบกายถวายหัวใจให้กับไอ้สิงห์ ระหว่างทางไปก็ราวกับฟ้าฝนเป็นใจตกห่าใหญ่ลงมา จนเรือแทบจะล่มกลางทาง กว่าจะถึงบ้านก็ทุลักทุเล สภาพของระย้าแก้วเปียกปอนจนได้ไข้ "นั่นกลับมาแล้วลูกสาวตัวดีของแม่ ดูสภาพสิหาดูได้ไม่ เหตุใดเจ้าจึงไปบ้านพ่อสิงห์" แม่ศรีนวลผู้เป็นมารดาเอ็ดลูกสาวคำโต "ลูกกราบขอขมาคุณแม่เจ้าค่ะ ที่ดื้อดึง"ระย้าแก้วก็รู้สึกผิดที่ดื้อดึงไม่เชื่อฟังมารดา "เจ้ารีบไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียเถิด อีแตงก็อีกคนนึง เห็นดีเห็นงามกับผู้เป็นเจ้านายของเจ้าตลอดเลยหนา"แม่ศรีนวลพลอยเอ็ดนางแตงอีกคน "คุณเจ้าขา บ่าวห้ามคุณหนูแล้วเจ้าค่ะ คุณก็รู้หาห้ามคุณหนูได้ไม่ หากคุณหนูตัดสินใจจะทำสิ่งใดแล้วเคยห้ามได้เสียที่ไหนเล่าเจ้าคะ"นางแตงรีบอธิบายแก้ตัว "ไม่ต้องมาต่อล้อต่อเถียงกับข้าดอก รีบพานายเอ็งไปผัดผ้าผัดผ่อน เสียให้เรียบร้อย ก่อนจะจับไข้กันทั้งคู่" ผ่านไปจนเวลาโพล้เพล้ คืนนั้นตลอดทั้งคืนระย้าแก้วจับไข้จนถึงเช้า ก็ยังไม่ดีขึ้นส่วนอีแตงก็เฝ้าดูผู้เป็นนายอยู่ไม่ห่างกาย กว่าจากลุกมากินข้าวกินยาก็ปาไป 2-3 วัน ข่าวนี้ไปถึงหูไอ้สิงห์ที่หายดีจากการถูกฟัน มันที่ได้ยินว่าระย้าแก้วนั้นจับไข้เพราะมาหามันที่เรือนมันกลับไม่รู้สึกผิดอันใด "ใครใช้ให้นางมาสอดเรื่องของข้าเล่า หากนางจะเปียกฝนแลจับไข้ เหตุไม่ใช่เพราะข้าหนา นางมาที่เรือนของข้าเอง" ไอ้สิงห์พูดด้วยความคะนองปาก "พี่มิเห็นใจระย้าแก้วบ้างหรือ ..? ถึงแม้นางจะยังเด็กอายุเพียง 17 ปี แต่นางก็ตั้งมั่นในความรักต่อพี่หนา" ไอ้ดำพูดเตือนผู้เป็นนายกราย ๆ "หากมึงรัก มึงถูกใจคุณหนูระย้าแก้วของมึงหนักหนา มึงก็ไปชอบคอนางเสียสิ กูจะให้พ่อกูไปขอให้"ไอ้สิงห์ที่พูดทีเล่นทีจริง "หัวใจของข้า ทั้งดวงมีเพียงแม่จันทร์แรมผู้เดียวเท่านั้นแหละ หาได้มีคนอื่นสามารถมาแทนที่ได้" "ข้าอยากให้พี่ เปิดหูเปิดตา เกี่ยวกับเรื่องแม่จันทร์แรมเสียที แม่มีข่าวอื้อฉาว มิเว้นแต่ละวัน แต่พี่ก็ยังจะเชื่อว่านางนั้นยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง..?" "หากข้ามิเห็นกับตา มิได้ฟังกับหู ข้าก็ไม่อาจปรักปรำผู้บริสุทธิ์ เยี่ยงแม่จันทร์แรมได้ดอกหนาไอ้ดำ" "ตามใจพี่เถิด หากพี่สบายใจเช่นนั้น แต่หากวันใดแม่ระย้าแก้วคิดได้ขึ้นมา แล้วนางไม่มาให้พี่เห็นหน้าดั่งที่พี่ไล่นางในทุกวัน พี่จะเสียใจในภายหลังหนา" "คนอย่างข้า ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น มิมีทางรับรักเด็กอย่างระย้าแก้วได้ดอก" ไอ้สิงห์ลั่นคำ "ข้าจะคอยดู โบราณท่านว่าไว้เกลียดสิ่งใดได้สิ่งนั้นหากพี่ไปหลงรักระย้าแก้วสักวันหนึ่ง แล้วหากนางทำเฉกเช่นเดียว กับที่พี่ทำใส่นาง พี่จะทนได้เช่นนางหรือไม่" "ไอ้ดำ..!! สรุปผู้ใดเป็นบ่าวผู้ใดเป็นนายกัน..เนี่ยเอ็งมานั่งสอนข้า เอาเวลาไปฝึกปรือดาบดีหรือไม่" "พี่ก็เป็นนายข้าเสมอ เพียงแต่ข้าเป็นห่วงพี่ก็เท่านั้น" ไอ้สิงห์ที่มองคำเตือนของไอ้ดำเป็นเรื่องไร้สาระตอนนั้นย้อนกลับไปมันก็อายุอานาม 28-29 แล้วความคิดของมันก็โตตามวัยส่วนนางจันทร์แรมที่มันหมายปองนั้นมันยังไม่รู้เหตุที่มาที่ไป "เอ็งก็เชื่อแต่คำชาวบ้าน หากเอ็งยังมิเห็นกับตาที่ฟังกับหู เอ็งก็ให้โอกาสข้าได้ดูใจกับนางหน่อยเถอะไอ้ดำ" "ข้าไปซ้อมดาบดีกว่า ข้ามิอยากคุยกับคนใจดำ เยี่ยงพี่ ใจดำกับคนที่ดีกับพี่เช่นนี้" บ๊ะ..!! "ไอ้นี่สรุปมึงเป็นนายหรือกูเป็นนายกันแน่วะ" ส่วนพ่อของนางจันทร์แรม แทบจะจับลูกสาวตัวเองใส่ตะกร้าล้างน้ำ ถวายพานให้กับผู้ชายหลายคนแต่เหตุเพราะพอรู้ถึงความอื้อฉาว จึงมิมีผู้ชายในหมู่บ้านอยากจะตกลงปลงใจ แต่งงานด้วย แต่ไอ้สิงห์ก็ยังเชื่อมั่นในความผุดผ่องบริสุทธิ์เหตุเพราะมารยาหญิงของนางจันทร์แรม "จันทร์แรมเองก็อายุ 26 ปีแล้วนะเอ็งเลิกทำตัวเละเทะเยี่ยงนี้สักทีเถิด ต่อให้เอ็งมิมีแม่คอยสั่งสอน ข้าก็เลี้ยงดูเองมาอย่างดี แล้วเหตุใดเองจึงทำตัวเหลวไหลเยี่ยงนี้เล่า" "ข้าจะเรียกบ่าวรับใช้มาดูแลข้า มันเป็นเรื่องเลวร้ายเช่นนั้นรึ ข้าก็ทำเยี่ยงที่พ่อทำนั่นแหละ"นางจันทร์เถียงคำมิตกฟาก "นางจันทร์แรมเอ็งพูดให้มันดี ๆ นะ ข้าเป็นผู้ชายแต่เอ็งเป็นผู้หญิง เอ็งจะมาทำเหมือนข้าได้เยี่ยงไร..!!" "พ่อก็มีเมียบ่าวเป็นโขยง ๆ จนแม่ของข้าตรอมใจตายอย่างไรเล่า หากข้าจะทำบ้างข้าจะผิดอันใด" นางจันทร์แรมที่เรียกบ่าวผู้ชายในเรือนมาปนเปรอความสุขทางกายให้กับตน ตั้งแต่นางรู้จักความใคร่กามราคะ นางก็แทบจะไม่หยุดเรื่องอย่างว่าเลยจนทำให้เป็นเรื่องอื้อฉาวชาวบ้านระอากันไปหมด "ถ้าหากเอ็งยังมิเลิกเรื่องพวกนี้ ข้าจะยกเอ็งไปอยู่ที่ห่างไกลกับพ่อค้า ที่เดินผ่ายหมู่บ้านให้เอ็งไปอยู่ต่างเมืองมาซะ..!"พ่อของจันทร์แรมขู่ "พ่อทำเยี่ยงนั้นกับข้ามิได้ดอก หากพ่อไม่อยากเห็นข้าอยู่ในเรือน ข้าจะหาผู้ชายดี ๆ มาแต่งงานอย่างไอ้สิงห์ที่ มันเชื่อคำข้าทุกอย่าง พ่อจะได้เลิกด่าทอข้าเช่นนี้เสียที" "เอ็งอย่ามั่นใจนักเลย นางจันทร์แรม ไอ้สิงห์มันมีใจให้เอ็งมาเนิ่นนาน แต่ข้ามิเห็นมันจะมาคุยเรื่องสู่ขอเอ็งกับข้าเสีนที่ไหน" "พ่อก็ใจเย็น ๆ สิ ข้าเพิ่งจะคบหาดูใจกับพี่สิงห์เองหนาจักให้รีบไปใย" "ข้าจับเอ็งใส่ตะกร้าล้างน้ำมิไหวแล้วหนา นางจันทร์แรม ล้างไม่รู้กี่น้ำ กลิ่นคาวที่ตัวเองมันก็ไม่มีทางออกได้ดอก หากไอ้สิงห์มันรู้มันเห็นเรื่องนี้ มันคงมิเอาเอ็งทำเมียเป็นแน่" "ก่อนที่มันจะรู้จะเห็นอันใด ข้าคงจับมันทำผัวเสร็จไปเสียแล้วล่ะพ่อ" "ให้มันได้อย่างที่ปากเอ็งพูดเถอะ เพราะไอ้สิงห์มันก็ไม่เลว มันเป็นลูกคนเดียวของหัวหน้าหมู่บ้านฝั่งถนนอย่างไรเสียมันก็มีกินมีใช้มีขาดมือ" "จ๊ะงั้นพ่อคอยดูข้าแล้วกันนะ" สองพ่อลูกที่จ้องจะจับไอ้สิงห์เพื่อมาลบกินคาวลูกสาวของตน และกลายเป็นที่ชุดหน้าชูตาให้กับตระกูลบ้านตนเสียทีคำพูดที่พล่อย ๆ พูดโดยมิไตร่ตรอง พูดโดยไมิคิด ไอ้สิงห์มิรู้เลยว่า คำพูดของมันนั้นมีความหมายกับหัวใจของระย้าแก้วมากเพียงใด ระย้าแก้วจึงตั้งใจแน่วแน่ว่าจักนั่งรอไอ้สิงห์จนถึงเช้าดังเช่นที่ไอ้สิงห์ได้ลั่นคำ"ได้หากพี่รับปากข้าเช่นนั้น ข้าจะทำให้พี่ได้เห็น ว่าข้าจักมิผิดคำพูดกับพี่ แม้สักนิดเดียว"ระย้าแก้วตะโกนไล่หลัง"หากเอ็งทำได้เยี่ยงปากพูด ข้าจักทำตามคำพูดเช่นกัน"ไอ้สิงห์คิดอยู่ภายในใจว่าแม่หญิงอย่างระย้าแก้วนั้นมิอาจทำได้ดั่งเช่นคำที่พูดดอกผ่านมาหลายชั่วยาม ระย้าแก้วยังคงนั่งอยู่ที่เถาวัลย์ชิงช้า โดยมิลุกไปที่ใด จนเป็นที่ผิดสังเกตของแม่ศรีนวลและพ่อหมอไทย"อีแตง..! คุณหนูของมึงอยู่ที่ใดกันเล่า เหตุใดจึงยังมิกับเรือน.?" แม่ศรีนวลหันไปถามบ่าวคู่ใจของระย้าแก้ว"คุณหนูขอนั่งเล่นกง น้ำตกหนาเจ้าคะแม่นาย หากแต่บอกว่าจะกลับไม่นานนักเจ้าค่ะ""แต่นี่มันก็หลายชั่วยามแล้วหนา พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าอยู่แล้ว เหตุใดนางจึงยังมิกลับ" มารดาอย่างแม่ศรีนวลเริ่มกับวันกระวายเป็นห่วงลูกสาว"กระนั้นบ่าวขออนุญาตแม่นาย ไปตามคุณหนูหนาเจ้าคะ."อีแตงรีบเสนอตัว"มึงชักช้าอยู่ใยเล่า รีบไปเถิด" พ่อหมอไทยเอ่ยปากแท
"ถึงพี่จะว่ากระนั้น ข้าก็ต้องขอบน้ำใจพี่ ที่พี่ได้ช่วยข้าหลายครั้งหลายครา" ระย้าแก้วเอ่ยคำขอบคุณ ไอ้สิงห์"ทูนหัวของบ่าว เรากับเรือนกันเถิดหนาอย่าอยู่ตรงนี้ให้เสียเวลาเลย นี่ก็ดูท่าอีกมินานฝนก็คงจะตก" อีแตงข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของระย้าแก้วรีบพูดแทนผู้เป็นนายสองเท้าก้าวเดินออกอย่างมั่นใจ ว่าจะไม่หันกลับไปมองไอ้สิงห์ เพราะหากระย้าแก้วหันกลับไป น้ำตาคงได้อาบสองแก้มเป็นแน่"คุณหนูอย่าร้องไห้เลยหนา อย่าให้ผู้ใดเห็นน้ำตาของคุณหนูอีกต่อไปคุณหนูของบ่าวเข้มแข็ง""ข้าขอบน้ำใจพี่แตง ยิ่งนักที่อยู่เป็นเพื่อนข้าเสมอ"อีแตงรีบประคองร่างอรชรของระย้าแก้ว นายทูนหัวที่มันรักหนักหนา มาให้พ้นจากตลาด ลัดเลาะมาจนถึงน้ำตกท้ายหมู่บ้าน ทางผ่านกลับบ้านของระย้าแก้วซึ่งน้ำตกกับบ้านของระย้าแก้วห่างกันไม่ถึงห้าสิบก้าว เรียกว่าใกล้มาก"พี่แตงไปที่เรือนก่อนเถิดหนา ข้าขอนั่งเล่นที่ชิงช้าเถาวัลย์สักครู่" หากข้าสบายใจขึ้นข้าจักได้กลับเข้าเรือน"คุณหนูจะเอาเยี่ยงนั้นก็ได้เจ้าค่ะ แต่อย่านานนักหนานะเจ้าคะ หากแม่นายศรีไพรตามหา บ่าวจักถูกเฆี่ยนหลังลายเป็นแน่""มินานดอกพี่แตง หากข้าสบายใจขึ้น ข้าจะรีบกลับเรือนทันที"อีแ
"พี่แตง ดูปิ่นปักผมอันนี้ซิ สวยเหลือเกิน ลายดอกไม้สวยตรงใจข้าเหลือเกิน" ระย้าแก้วยิ้มสดใส ในวัย 18 ปี งามใสพรั่งราวดอกไม้แรกแย้ม ความงามเลื่องลือไปทั่วคุ้งน้ำ แลหัวท้ายหมู่บ้านต่างพากันอยากเยินโฉมบุษบานางฟ้าเดินดิน"สวยมากเจ้าค่ะทูนหัวของบ่าวอยากได้กระนั้นหรือเปล่าจะได้ต่อราคาพ่อค้าให้"บ่าวคู่ใจอย่างนางแตงรีบจัดแจงให้กับเจ้านายผู้กายของมัน"ข้าอยากได้ปิ่นปักผมอันนี้พี่แตง"ระย้าแก้วที่ยิ้มสดใสอยู่หน้าร้านเครื่องประดับ"จีนซื่อ ข้าเอาปิ่นอันนี้ให้กับนายของขา""ได้ ได้"แต่ยังไม่ทันได้เอาปิ่นปักผมมาใส่ตะกร้าสานของนางแตง ก็มีเรียวกระชากปิ่นออกจากมือของจีนซื่อทันที พร้อมกับทำท่าทีโอหังหันมามองหน้าระย้าแก้วอย่างโกรธเคือง นั่นคือจันทร์แรมที่ตอนนี้อายุอานามก็ปาไป 27 ปี จนจะเป็นสาวแร้งทึ้งอยู่แล้วก็ยังไม่ได้ออกเรือน ข่าวคาว ๆ ก็เล็ดรอดให้ชาวบ้านได้พูดกันไม่เว็นแต่ละวัน จนไอ้สิงห์ระอา ถึงแม้ยังไม่เคยเห็นกับตาได้ยินกับหูแต่มันก็ไม่ได้โง่ดักดาน เพียงแต่ยังไม่ทันเห็นธาติแท้ของนางจันทร์แรมกับตาก็เท่านั้น"ข้าจะเอาปิ่นอันนี้จีนซื่อ ท่านต้องขายให้ข้า"จันทร์แรมที่สแยะยิ้มอย่างผู้มีชัย"ขอโทษอาคุงหนู
ไอ้สิงห์ที่ยังคงร่ำสุรา อยู่ที่ชานเรือนบนบ้าน มันเฝ้ามองระย้าแก้วมาเนิ่นนาน แม้มันจะลั่นวาจาเอาไว้ว่าจะไม่รับรักระย้าแก้ว เรื่องที่มันหวนคิดยังมิได้ครึ่งกับสิ่งที่มันทำ แต่บัดนี้หัวใจที่แข็งแกร่งของมัน ก็ว้าวุ่นมิน้อย มันดื่มหนักจนเมาหลับไปจนถึงเช้าวันแล้ววันเล่า ที่ระย้าแก้วเฝ้ารัก ทะนุถนอมเทิดทูนบูชาในความรักที่มั่นคงของตนเอง ที่มีต่อไอ้สิงห์แม้จักรู้ว่า ไอ้สิงห์มิมีใจให้ตนเองเลย และยังมีนางในดวงใจอย่างแม่จันทร์แรม .แต่ระย้าแก้วก็ยังคงตั้งใจตั้งมั่น สักครั้งในชีวิตนางคิดว่าหากมิทำกะไรสักอย่าง จะมาเสียใจภายหลังแต่หากทำเต็มที่แล้ว ยังมิสามารถเอาชนะใจไอ้สิงห์ได้ นางก็จะถอยออกมาเอง."คุณหนู..!! ทูลหัวของบ่าว จะไปที่ใดกันเล่าแต่งตัวเสียสวยเชียว"บ่าวคู่ใจอย่างนางแตงเอ่ยชมผู้เป็นนาย"วันนี้เห็นว่า พี่สิงห์จะคุมชาวบ้านซ้อมฟันดาบ ข้าอยากจะเอาน้ำมะลิใบเตย เอาไปฝากพี่สิงห์เสียหน่อย ช่วงนี้อากาศร้อน ๆ" ทุกครั้งที่ระย้าแก้วพูดถึงไอ้สิงห์นางมักจะยิ้มแย้มแจ่มใส"ไปทำไมเล่าทูนหัวของบ่าว คราวที่แล้วก็น้ำแกงราดตัวมาทีนึงแล้วหนา"นางแตงรู้สึกโกรธแทนระยาแก้วที่ไปทีไรก็มักจะมีเหตุมีน้ำตาหรือเจ
สภาพเสื้อผ้าสไบที่เลอะเทอะ เปรอะเปื้อนสองแขนแดงเถือก น้ำตาไหลริน แต่นางกลับยังคงยิ้มส่งมาให้กับบ่าวคู่ใจเยี่ยงนางแตง"ข้ามิเป็นอันใดดอกพี่ มันเป็นอุบัติเหตุหนา" ระย้าแก้วที่ปลอบใจนางแตงบ่าวคู่ใจ"อุบัติเหตุอันใดกันเล่า..! ข้าเห็นกับตาว่าพ่อสิงห์จงใจปัดกับข้าวจนหกรดคุณหนูเยี่ยงนี้""มิเป็นไรดอกพี่ เหตุก็เป็นเพราะข้า ที่จะมาวุ่นวายกับพี่เขา ตอนที่พี่สิงห์ยังคงเจ็บแผลอยู่เลยหงุดหงิดก็เท่านั้น"คำพูดภายใต้รอยยิ้มที่เปื้อนน้ำตาระย้าแก้วมักจะหาเหตุผลหักล้างการกระทำที่ไม่ดีของไอ้สิงห์เสมอ"เมื่อใดคุณหนูของข้า จักโตขึ้นแลคิดได้เสียทีหนาบุญคุณหากต้องทดแทน ไปตลอดชีวิตมันก็มิแปลกแต่หากทดแทน แล้วเขามิต้องการก็ควรหยุดเสียทีเถิด"อีแตงพยายามปลอบใจผู้เป็นนายของตนให้รู้จักความรักที่แท้จริงเสียที"เรากลับเรือนกันเถิดหนาคุณหนู ไปล้างเนื้อล้างตัว"อีแตงประคองผู้เป็นนายกลับไปที่ท่าน้ำเพื่อพายเรือกลับสาวน้อยในวัย 17 ปีถึงแม้จะไม่รู้จักคำว่ารักที่แท้จริงเป็นเช่นไร แต่นางก็ตั้งมั่นที่จะมอบกายถวายหัวใจให้กับไอ้สิงห์ระหว่างทางไปก็ราวกับฟ้าฝนเป็นใจตกห่าใหญ่ลงมา จนเรือแทบจะล่มกลางทาง กว่าจะถึงบ้านก็ทุลักทุ
หลังจากวันนั้นข่าวลือเรื่องผู้ชายสองคนต่อยตีกันแย่งหญิงสาวก็ลืมสะพัดทั่วทั้งหมู่บ้านทั่วคุ้งน้ำว่าลูกสาวแสนสวยของพ่อหมอไทยถูกผู้ชายรุมแย่งตัวส่วนไอ้สิงห์ก็เอาแต่ดื่มเมามายโวยวายซ้อมฟันดาบกับบ่าวในเรือนและเหล่าพลทหารที่ตรวจตารอบหมู่บ้านต่างมิมีใครกล้าเข้าหน้ามันสักคนเดียวจนผู้เป็นพ่อต้องเข้ามาคุยกับลูกชาย"ไอ้สิงห์เอ็งเป็นกระไรของเอ็งเหตุใดจึงเอาแต่เมามายเยี่ยงนี้"ผู้เป็นพ่อที่ไม่เคยเห็นลูกชายของตนผู้เงียบขรึมกินเหล้าหัวราน้ำเช่นนี้ แถมยังมีข่าวลือหนาหูเรื่องชกต่อยกลางตลาดเพราะผู้หญิง"ข้ามิเป็นอันใดดอกพ่อ ข้ารู้สึกมีเรื่องให้ข้าต้องตัดสินใจหลายอย่าง ขอเวลาถ้าสักพักนึงเถิด"เสียงครางยานของไอ้สิงห์เอยบอกผู้เป็นพ่อคืนเดือนดับทำให้มองไม่เห็นสิ่งใด บนฟากฟ้า ไอ้สิงห์ที่นอนเมาอยู่ชานเรือน มันนอนน้ำตาไหลรินโดยที่มันก็ไม่รู้เหตุใดจึงรู้สึกเศร้าเช่นนี้ ไอ้สิงห์หวนนึกถึงเรื่องเมื่อสามปีก่อนที่มันได้ช่วยเหลือระย้าแก้วที่กำลังจมน้ำ จนทำให้ระย้าแก้วมอบหัวใจทั้งดวงให้กับมันแต่มันกลับไม่เห็นคุณค่าเอาแต่พูดจาทำร้ายจิตใจของหล่อนย้อนไปเหตุการณ์วันที่ฟ้าฝนมืดครึ้มแต่ระย้าแก้วยังดื้อรั้นที่จะเอาบ
"วันนี้ผู้คนในตลาดมากมาย แม่ระย้าแก้วเดิน ระวัง ๆ หน่อยหนา" พระพายพูดด้วยความเป็นห่วง"พี่พระพายมิต้องห่วงข้าดอก ข้าจะเดินเล่นไม่ไปไหนไกล ข้าอยากไปดูผ้าเสียหน่อย""ถ้าเยี่ยงนั้น ก็ให้แม่แตงอยู่เป็นเพื่อนเจ้าหนา เดี๋ยวพี่จะเดินไปดูของใช้อื่นๆ ด้านหน้านี้เสียหน่อย"พูดจบทั้งสองก็เดินแยกทางกันไป ซึ่งก็ไม่ได้ไกลกันมากมายนัก ส่วนระย้าแก้วนั้นไม่รู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมาที่นาง ทุกย่างก้าวที่เดิน อยู่ภายใต้สายตาคู่นี้มิได้วาง"พี่แตง พี่จักไปเดินดูของกระไรก็ไปเถิด ข้าขอเดินเล่นคนเดียวตรงนี้นี่แหละ""บ่าวไปหนาเจ้าคะ แต่คุณหนูระย้าแก้ว ทูนหัวของบ่าวจักต้องไม่ไปไหนไกลหนาเจ้าคะ"บ่าวคู่กายอย่างนางแตงก็กระวนกระวายสองจิตสองใจไม่อยากห่างผู้เป็นนาย"ข้าโตแล้วหนาพี่ มิต้องห่วงถ้าดอก"ระย้าแก้วสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะที่จะไม่ดื้อไม่ซนทางด้านไอ้สิงห์ที่เห็นว่าระย้าแก้วออกไปกับ พระพายโดยการเดินเท้าออกจากวัดไป ปล่อยให้เรือพายนำหน้าไปก่อน มันก็ยิ่งสงสัยว่าพระพาย จักพาระย้าแก้วไปที่ใดมันจึงจะตามไปแต่ติดแม่จันทร์แรม"พี่สิงห์จักไปที่ใดกันเล่า รีบร้อนชอบกล"จันทร์แรมเอ่ยถามทันทีเห็นท่าทีรีบร้อนของ
ความหงุดหงิดหัวใจที่มิอาจดับได้ จวบจนเวลาพลบค่ำทำให้ไอ้สิงห์รู้สึกนอนไม่หลับ จนมันต้องปลุกไอ้ดำให้ไปที่เรือนของระย้าแก้วเป็นเพื่อน แม้จะไม่มีเหตุผลในการไปแต่มันก็ต้องไปเพราะความว้าวุ่นที่รบกวนจิตใจของมัน"ไอ้ดำเดี๋ยวมึงพากูไปบ้านพ่อหมอไทยที""ไปทำไมล่ะพี่สิงห์นี่ก็ค่ำแล้วหนา"ไอ้ดำที่ทำท่าทีสงสัยจึงเอ่ยถามออกไปทันที"เออน่ะ..!!เรื่องของกู กูมีเรื่องต้องไปจัดการเดี๋ยวมึงไปดูต้นทางให้กูที""ได้จ้ะพี่สิงห์"ระย้าแก้วที่อยู่ในห้องนอน ยืนชมพระจันทร์ที่ส่องแสงสวยงาม แม้เธอในวัย 18 ปีจะงามสะพรั่งแต่ก็มิอาจเอาชนะใจ ไอ้สิงห์คนที่ช่วยชีวิตเธอ เธอมิอาจเอาชนะใจผู้ที่อยู่ในหัวใจของไอ้สิงห์ได้ นั่นคือจันทร์แรม"ข้าจักสู้ดวงจันทร์ที่สวยงามได้เยี่ยงไรเล่า ข้าเป็นเพียงดอกไม้ดอกหนึ่ง ที่มิคู่ควรที่จะอยู่ข้างกายของพี่สิงห์ หากเป็นเช่นนั้นข้าควรตัดใจใช่หรือไม่"ระย้าแก้วที่ยืนมองพระจันทร์ แล้วยืนตัดพ้ออยู่กับตนเองในความรักข้างเดียวของนางระย้าแก้วเปิดหน้าต่างทิ้งเอาไว้เพื่อรับสายลมเย็นพร้อมกับเตรียมตัวเข้านอนหลับไหล เปลือกตาสวยคู่นั้นเริ่มหนักอึ้งและกลับลงสู่ห้วงนิทราไอ้สิงห์ที่มาถึงเรือนของพ่อหมอไทยมั
หลังจากวันนั้นที่พระพายได้กลับมา ระย้าแก้วเริ่มไปหาไอ้สิงห์น้อยลง เพราะพระพายที่มักจะพาระย้าแก้วไปเที่ยวเตร่ตามประสา เขาเองตั้งใจจะอยู่ที่นี่แรมเดือนเพื่อดูแลบ้านที่พ่อแม่มอบหมายให้กลับมาดูแล"ข้าไหว้ขอรับพ่อหมอไทย"พระพายที่หอบหิ้วเอามะพร้าวกับกล้วยที่สวนตนมาฝากบ้านระย้าแก้ว"เป็นไงมาไงละพ่อพาย""พอดีวันนี้บ่าวไพร่ ที่บ้านของหลาน มันตัดกล้วยกับมะพร้าวเยอะ เลยหิ้วมาฝากพ่อหมอไทยกับแม่ศรีนวลนะขอรับ""ขอบน้ำใจพ่อพระพาย เดี๋ยวให้บ่าวยกเข้าครัว พ่อมาเหนื่อย ๆ ขึ้นเรือนมากินน้ำกินท่าก่อนพ่อ"พระพายที่ขึ้นเรือนมา นั่งดื่มน้ำโรยดอกมะลิเย็น ๆ จนชื่นใจ ส่วนสายตาสอดส่องมองหาร่างบางของหญิงสาวสวยที่เขาหมายปอง"มองหาผู้ใดเล่าพ่อพาย"เสียงแม่ศรีนวล แม่ของระย้าแก้วที่เดินออกมาจากเรือนนอน"ข้าไหว้จ้ะ ป้าศรีนวล"พระพายยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มรับ"สบายหรือไม่ขอรับ ป้าแม่ศรีนวล""ป้าสบายดี แล้วพ่อพายเล่าเป็นเยี่ยงไรบ้าง""หลานสบายดีขอรับป้าศรีนวล"ขณะที่พระพายนั่งสนทนาอยู่กับแม่ของระย้าแก้วสายตาก็สอดส่องมองหาร่างบาง จนแม่ศรีนวลแม่ของระย้าแก้วอดขำไม่ได้"ถ้ามองหาระย้าแก้ว น้องอยู่ในสวนดอกลั่นทมโน่น""เอ่อคือ..ถ