"วันนี้ผู้คนในตลาดมากมาย แม่ระย้าแก้วเดิน ระวัง ๆ หน่อยหนา" พระพายพูดด้วยความเป็นห่วง
"พี่พระพายมิต้องห่วงข้าดอก ข้าจะเดินเล่นไม่ไปไหนไกล ข้าอยากไปดูผ้าเสียหน่อย" "ถ้าเยี่ยงนั้น ก็ให้แม่แตงอยู่เป็นเพื่อนเจ้าหนา เดี๋ยวพี่จะเดินไปดูของใช้อื่นๆ ด้านหน้านี้เสียหน่อย" พูดจบทั้งสองก็เดินแยกทางกันไป ซึ่งก็ไม่ได้ไกลกันมากมายนัก ส่วนระย้าแก้วนั้นไม่รู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมาที่นาง ทุกย่างก้าวที่เดิน อยู่ภายใต้สายตาคู่นี้มิได้วาง "พี่แตง พี่จักไปเดินดูของกระไรก็ไปเถิด ข้าขอเดินเล่นคนเดียวตรงนี้นี่แหละ" "บ่าวไปหนาเจ้าคะ แต่คุณหนูระย้าแก้ว ทูนหัวของบ่าวจักต้องไม่ไปไหนไกลหนาเจ้าคะ"บ่าวคู่กายอย่างนางแตงก็กระวนกระวายสองจิตสองใจไม่อยากห่างผู้เป็นนาย "ข้าโตแล้วหนาพี่ มิต้องห่วงถ้าดอก"ระย้าแก้วสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะที่จะไม่ดื้อไม่ซน ทางด้านไอ้สิงห์ที่เห็นว่าระย้าแก้วออกไปกับ พระพายโดยการเดินเท้าออกจากวัดไป ปล่อยให้เรือพายนำหน้าไปก่อน มันก็ยิ่งสงสัยว่าพระพาย จักพาระย้าแก้วไปที่ใดมันจึงจะตามไปแต่ติดแม่จันทร์แรม "พี่สิงห์จักไปที่ใดกันเล่า รีบร้อนชอบกล"จันทร์แรมเอ่ยถามทันทีเห็นท่าทีรีบร้อนของไอ้สิงห์ "เอ่อ..พอดีพี่นึกขึ้นได้พี่มีธุระจะต้องจัดการให้กับพ่อก่อน"ไอ้สิงห์ปดคำโต "ไอ้ดำ..เดี๋ยวมึงให้ฝีพายไปส่งแม่จันทร์แรมให้ถึงหมู่บ้านหนา ส่วนมึงก็ไปคลุมเรืออีกลำตามประกบไปเดี๋ยวกูจะต้องไปทำธุระเสียหน่อย" ได้จ้ะพี่สิงห์ ข้าจะดูแลแม่จันทร์แรมอย่างดี มดไม่ให้ไต่ ไรไม่ตอมเลยจ้ะ"ไอ้ดำรู้ใจผู้เป็นนาย "ไม่ไปมิได้หรือ ข้าไม่อยากไปกับไอ้ดำ พี่จักไปที่ใดข้าขอไปด้วยได้หรือไม่"นางจันทร์แรมส่งเสียงออดอ้อน "ไปมิได้ดอก ทางที่พี่จะไปลำบากยิ่งนักจะทำให้ผิวพรรณของเจ้าเสียเปล่าๆ หนา" ไอ้สิงห์ที่พูดจบ ก็รุดหน้ารีบเดินตามหลังระย้าแก้วไปห่าง ๆ เพราะอยากจะรู้ว่าพระพายจะพาระย้าแก้วไปที่ใด ไอ้สิงห์ที่สะกดรอยตามระย้าแก้ว จนรอจังหวะที่จะแยกห่างจากพระพายและบ่าวคู่กายอย่างนางแตง แลรอสบโอกาสกระชากร่างบางเข้ามาในที่ลับตาตรงสระบัวข้างหลังตลาด "ว๊าย..!! อุ๊บ.."ระย้าแก้วถูกมือปริศนาปิดปากและฉุดกระชากนางมาตรงสระบัว พอมาถึงสระบัวบุรุษปริศนาก็เอาแต่โอบกอดระย้าแก้วจากทางด้านหลังปล่อยให้นางส่งเสียงเจื้อยแจ้วด่าทองอยู่เช่นนั้น "ปล่อยข้าหนา ปล่อย..! ไหนเอ็งเป็นผู้ใดกัน" ระย้าแก้วส่งเสียงข่มขู่บุรุษปริศนาที่ฉุดกระชากนางมาเยี่ยงกับโจร "ทำไมข้าจับต้องตัวเจ้ามิได้รึ..!! รึมีแต่ไอ้พระพายเท่านั้นหรือที่สามารถจับต้องตัวเจ้าได้"เสียงบุรุษปริศนาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง "เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาจับต้องตัวข้า..!! ข้าก็เป็นอิสตรีนางหนึ่ง หากแต่มิควรต้องมาใช้แย่งเจ้า"ระย้าแก้วเถียงคอเป็นเอ็น บุรุษร่างถึกสงบนิ่งแล้วจึงคลายอ้อมกอดที่รัดแน่นราวกับครีมเหล็กร้อน ค่อยๆปล่อยระย้าแก้วให้เป็นอิสระ ระย้าแก้วจึงหันกลับไปมองด้วยความกรุ่นโกรธ ที่อยู่ดี ๆ ก็โดนผู้ใดก็มิรู้ ลากไปลากมาราวกับสิ่งของ เมื่อนางหันกลับไปมองก็พบว่าบุรุษตรงหน้าที่ฉุดนางมานั้น คือคนที่เกลียดนางยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือ "พี่สิงห์..!!!" "เออ..ข้าเองเอ็งมีปัญหากะไรหรือ.!"ไอ้สิงห์เอาลิ้นโดนกระพุ้งแก้มแล้วก้มลงมองร่างเล็กที่ทำหน้าตกอกตกใจใส่เขา "พี่ฉุดข้ามาด้วยเหตุใดเล่า"ระย้าแก้วเองนั้นก็ไม่เข้าใจเพราะไอ้สิงห์เป็นคนไล่ระย้าแก้วก่อนหน้านี้ด้วยตนเอง "เอ็งเป็นกระไร..ฮะ! ปกติข้าไล่เองยิ่งกว่านี้ก็ไม่เห็นเอ็งจักทำตัวเยี่ยงนี้ใส่ข้า"ไอ้สิงห์ตะคอกใส่ระย้าแก้ว "ข้าก็แค่คิดได้ก็เท่านั้นเอง ว่าข้าควรทำตามที่พี่บอกเสียตั้งนานแล้ว ต่อให้ข้าพยายามให้ตาย พี่ก็มิได้มีใจให้กับข้า รังเกียจข้ายิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือนเสียอีก" ดวงตาคู่สวยแดงกล่ำ กล่ำกลืนก้อนคำพูดที่ดูถูกตนเอง พยายามฝืนน้ำตามิให้ไหลริน แต่มันเกินจะหักห้ามความเสียใจที่บอบช้ำเกินทน ไอ้สิงห์ที่ได้ยินความในใจของระย้าแก้ว มันกลับรู้สึกปวดหน่วงๆ ที่หัวใจด้านซ้ายของมันปกติต่อให้มันจะทำไม่ดีขนาดไหนกับระย้าแก้วนางก็ไม่เคยทำตัว เย็นชาใส่มันเยี่ยงนี้ "ข้า...!!" เมื่อก่อนเขาเห็นน้ำตาของระย้าแก้ว เป็นเพียงของขบขันไว้แก้เบื่อ ต่อให้นางนั่งร้องไห้อยู่ตรงหน้า เขาก็ไม่เคยจะสงสารนางเลยสักนิด แต่วันนี้กลับรู้สึกปวดใจอย่างบอกมิถูก "แล้วใครใช้ให้เอ็งมาชอบข้ากันเล่า ข้าหาได้บังคับจิตใจเอ็งไม่ แต่วันนี้เอ็งกลับมาต่อว่าข้า หาว่าข้าทำร้ายจิตใจเอ็งเยี่ยงนั้นหรือ..?" ไอ้สิงห์ทั้งที่ใจจริงอยากจะใช้มือปาดน้ำตาที่ใบหน้าสวย แต่หากศักดิ์ศรีลูกผู้ชายมันยังค้ำคอ เพราะมันได้ลั่นวาจาเอาไว้ ว่าต่อให้มันตายมันก็จะไม่รักระย้าแก้วเป็นอันขาด "หากข้ารู้เยี่ยงนี้..ข้าเองก็จักไม่รักพี่เช่นกัน..ฮึก..ในเมื่อพี่ไล่ข้าแล้ว..ฮื่อ ข้าเองก็มิได้ไปเสนอหน้าให้พี่ได้เห็นอีกเหตุใดพี่ยังมิพอใจอีกเล่า..!" ระย้าแก้วตะคอกกลับเสียงดังพร้อมกับเสียงสะอื้นด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ระย้าแก้ววิ่งหนีไอ้สิงห์ทันที เพื่อกลับไปหา พระพายที่ตลาด เธอปาดน้ำตาให้เหือดแห้ง แม้ความเสียใจจักเท่าทวีคูณ เกินกว่าจะควบคุมหัวใจดวงเล็กๆดวงนี้ได้ ที่ตลอดเวลาลมหายใจเข้าออก ของระย้าแก้วก็มีเพียงไอ้สิงห์เท่านั้น พระพายที่เห็นดวงหน้าสวย เปรอะเปื้อนด้วยน้ำตาก็รีบวิ่งเข้ามาหาระย้าแก้วทันที พร้อมกับโอบกอดปลอบประโลมร่างเล็ก "เอ็งเป็นกระไร ระย้าแก้ว ใครทำอะไรเอ็งบอกพี่มา ซิ อย่าร้องไห้เยี่ยงนี้เลย" ไอ้สิงห์ที่วิ่งตามมาก็ถึงกับเลือดขึ้นหน้า โมโหโกรธเกรี้ยว กระชากร่างบางออกจากอ้อมอกของพระพายทันที "มึงปล่อยระย้าแก้วเดี๋ยวนี้"พร้อมกับโอบกอดร่างบางไว้ในอ้อมแขนของตน "พี่สิงห์..!!! พี่เป็นบ้ากระไรนี่ ถึงได้มายืดยุดๆฉุดกระชากข้า เยี่ยงสิ่งของเยี่ยงนี้ ปล่อยข้านะ" ระย้าแก้วเองก็มิยอม แม้น้ำตาจากนองหน้า วันนี้นางจะไม่ยอมให้ไอ้สิงห์อีกต่อไป แต่ยังไม่ทันที่จะได้ตอบโต้กะไร ไอ้สิงห์ก็โดนตีนใหญ่ของพระพายถีบเข้ายอดอก จนเซถลาไปกองอยู่ที่พื้น ส่วนระย้าแก้วผลจากพันธนาการจากไปสิงห์ก็วิ่งมาหาบ่าวคู่ใจอย่างแตง "ว๊าย...!! นี่ มันเรื่องกะไรกันเจ้าค่ะทูลหัวของบ่าว"แตงที่เพิ่งไปซื้อข้าวของเสร็จก็ตกใจไปตามๆกัน ส่วนสองหนุ่มก็เตะต่อยประเคนหมัดแม่ไม้มวยไทย ใส่กันไม่มีผู้ใดด้อยไปกว่ากันเลย ในเรื่องฝีไม้ลายมือ พระพายเองก็มิเป็นรองไอ้สิงห์ หากต่อยตีกันไปก็มีแต่จะทำให้ทั้งสองเจ็บตัว ดูทรงจะไม่มีทีท่าว่าจักมีผู้แพ้หรือชนะ ไอ้ดำที่ไปส่งนางจันทร์แรมเสร็จ จึงเดินมาตลาดแต่กลับได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมกลางตลาด จึงรีบวิ่งมาดูจึงเห็นว่าผู้เป็นนายกำลังมีเรื่องอยู่จึงรีบเข้าไปห้ามปรามทันที "พี่สิงห์หยุดเถิด..!!พี่ นี่มันกลางตลาดนะหากพ่อพี่รู้เข้าจากโดนลงโทษอย่างหนักเอาได้นะพี่" ไอ้ดำรีบกล่าวเตือนสติพร้อมกับพยุงผู้เป็นนายให้ลุกขึ้นยืนเพราะดูท่าทั้งสองจะสีไม้ลายมือไม่เป็นรองกันต่อยตีกันไปก็มีแต่จะเจ็บตัวทั้งคู่ "มึงรีบลากนายของมึงใส่หัวออกไปเถอะ หากมันยังเป็นหมาบ้าเยี่ยงนี้อยู่ก็จะโดนตีนผู้อื่นมิรู้ตัว"พระพายเองก็ไม่ยอมแพ้ "มึง...ไอ้พระพาย.!!"ไอ้สิงห์เตรียมจักกระโจนใส่พระพายอีกรอบนึงแต่ก็ถูกไอ้ดำดึงรั้งเอาไว้ "พอเถอะพี่พระพาย วันนี้เรามีเรื่องราวกันมากพอแล้ว กลับบเรือนกันเถิดหนา ป่านนี้แม่ข้าคงเป็นห่วงข้าแล้ว"ระย้าแก้วที่น้ำตานองหน้าแต่ก็ยังพอมีสติห่วงแต่กลัวตัวนั้นจะตกเป็นขี้ปากชาวบ้านเช่นกัน "ไปจ๊ะระย้าแก้ว พี่ขอโทษเจ้านะ ที่ทิ้งเจ้าจนต้องมีเรื่องมีราวเยี่ยงนี้" ไอ้สิงห์ที่ได้ยินพระพายออดอ้อนระย้าแก้วเขายิ่งรู้สึกอยากจะเอาชนะ แต่แววตาที่เปลี่ยนไปของระย้าแก้วที่มองมาที่เขานั้นมันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดคำพูดที่พล่อย ๆ พูดโดยมิไตร่ตรอง พูดโดยไมิคิด ไอ้สิงห์มิรู้เลยว่า คำพูดของมันนั้นมีความหมายกับหัวใจของระย้าแก้วมากเพียงใด ระย้าแก้วจึงตั้งใจแน่วแน่ว่าจักนั่งรอไอ้สิงห์จนถึงเช้าดังเช่นที่ไอ้สิงห์ได้ลั่นคำ"ได้หากพี่รับปากข้าเช่นนั้น ข้าจะทำให้พี่ได้เห็น ว่าข้าจักมิผิดคำพูดกับพี่ แม้สักนิดเดียว"ระย้าแก้วตะโกนไล่หลัง"หากเอ็งทำได้เยี่ยงปากพูด ข้าจักทำตามคำพูดเช่นกัน"ไอ้สิงห์คิดอยู่ภายในใจว่าแม่หญิงอย่างระย้าแก้วนั้นมิอาจทำได้ดั่งเช่นคำที่พูดดอกผ่านมาหลายชั่วยาม ระย้าแก้วยังคงนั่งอยู่ที่เถาวัลย์ชิงช้า โดยมิลุกไปที่ใด จนเป็นที่ผิดสังเกตของแม่ศรีนวลและพ่อหมอไทย"อีแตง..! คุณหนูของมึงอยู่ที่ใดกันเล่า เหตุใดจึงยังมิกับเรือน.?" แม่ศรีนวลหันไปถามบ่าวคู่ใจของระย้าแก้ว"คุณหนูขอนั่งเล่นกง น้ำตกหนาเจ้าคะแม่นาย หากแต่บอกว่าจะกลับไม่นานนักเจ้าค่ะ""แต่นี่มันก็หลายชั่วยามแล้วหนา พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าอยู่แล้ว เหตุใดนางจึงยังมิกลับ" มารดาอย่างแม่ศรีนวลเริ่มกับวันกระวายเป็นห่วงลูกสาว"กระนั้นบ่าวขออนุญาตแม่นาย ไปตามคุณหนูหนาเจ้าคะ."อีแตงรีบเสนอตัว"มึงชักช้าอยู่ใยเล่า รีบไปเถิด" พ่อหมอไทยเอ่ยปากแท
"ถึงพี่จะว่ากระนั้น ข้าก็ต้องขอบน้ำใจพี่ ที่พี่ได้ช่วยข้าหลายครั้งหลายครา" ระย้าแก้วเอ่ยคำขอบคุณ ไอ้สิงห์"ทูนหัวของบ่าว เรากับเรือนกันเถิดหนาอย่าอยู่ตรงนี้ให้เสียเวลาเลย นี่ก็ดูท่าอีกมินานฝนก็คงจะตก" อีแตงข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของระย้าแก้วรีบพูดแทนผู้เป็นนายสองเท้าก้าวเดินออกอย่างมั่นใจ ว่าจะไม่หันกลับไปมองไอ้สิงห์ เพราะหากระย้าแก้วหันกลับไป น้ำตาคงได้อาบสองแก้มเป็นแน่"คุณหนูอย่าร้องไห้เลยหนา อย่าให้ผู้ใดเห็นน้ำตาของคุณหนูอีกต่อไปคุณหนูของบ่าวเข้มแข็ง""ข้าขอบน้ำใจพี่แตง ยิ่งนักที่อยู่เป็นเพื่อนข้าเสมอ"อีแตงรีบประคองร่างอรชรของระย้าแก้ว นายทูนหัวที่มันรักหนักหนา มาให้พ้นจากตลาด ลัดเลาะมาจนถึงน้ำตกท้ายหมู่บ้าน ทางผ่านกลับบ้านของระย้าแก้วซึ่งน้ำตกกับบ้านของระย้าแก้วห่างกันไม่ถึงห้าสิบก้าว เรียกว่าใกล้มาก"พี่แตงไปที่เรือนก่อนเถิดหนา ข้าขอนั่งเล่นที่ชิงช้าเถาวัลย์สักครู่" หากข้าสบายใจขึ้นข้าจักได้กลับเข้าเรือน"คุณหนูจะเอาเยี่ยงนั้นก็ได้เจ้าค่ะ แต่อย่านานนักหนานะเจ้าคะ หากแม่นายศรีไพรตามหา บ่าวจักถูกเฆี่ยนหลังลายเป็นแน่""มินานดอกพี่แตง หากข้าสบายใจขึ้น ข้าจะรีบกลับเรือนทันที"อีแ
"พี่แตง ดูปิ่นปักผมอันนี้ซิ สวยเหลือเกิน ลายดอกไม้สวยตรงใจข้าเหลือเกิน" ระย้าแก้วยิ้มสดใส ในวัย 18 ปี งามใสพรั่งราวดอกไม้แรกแย้ม ความงามเลื่องลือไปทั่วคุ้งน้ำ แลหัวท้ายหมู่บ้านต่างพากันอยากเยินโฉมบุษบานางฟ้าเดินดิน"สวยมากเจ้าค่ะทูนหัวของบ่าวอยากได้กระนั้นหรือเปล่าจะได้ต่อราคาพ่อค้าให้"บ่าวคู่ใจอย่างนางแตงรีบจัดแจงให้กับเจ้านายผู้กายของมัน"ข้าอยากได้ปิ่นปักผมอันนี้พี่แตง"ระย้าแก้วที่ยิ้มสดใสอยู่หน้าร้านเครื่องประดับ"จีนซื่อ ข้าเอาปิ่นอันนี้ให้กับนายของขา""ได้ ได้"แต่ยังไม่ทันได้เอาปิ่นปักผมมาใส่ตะกร้าสานของนางแตง ก็มีเรียวกระชากปิ่นออกจากมือของจีนซื่อทันที พร้อมกับทำท่าทีโอหังหันมามองหน้าระย้าแก้วอย่างโกรธเคือง นั่นคือจันทร์แรมที่ตอนนี้อายุอานามก็ปาไป 27 ปี จนจะเป็นสาวแร้งทึ้งอยู่แล้วก็ยังไม่ได้ออกเรือน ข่าวคาว ๆ ก็เล็ดรอดให้ชาวบ้านได้พูดกันไม่เว็นแต่ละวัน จนไอ้สิงห์ระอา ถึงแม้ยังไม่เคยเห็นกับตาได้ยินกับหูแต่มันก็ไม่ได้โง่ดักดาน เพียงแต่ยังไม่ทันเห็นธาติแท้ของนางจันทร์แรมกับตาก็เท่านั้น"ข้าจะเอาปิ่นอันนี้จีนซื่อ ท่านต้องขายให้ข้า"จันทร์แรมที่สแยะยิ้มอย่างผู้มีชัย"ขอโทษอาคุงหนู
ไอ้สิงห์ที่ยังคงร่ำสุรา อยู่ที่ชานเรือนบนบ้าน มันเฝ้ามองระย้าแก้วมาเนิ่นนาน แม้มันจะลั่นวาจาเอาไว้ว่าจะไม่รับรักระย้าแก้ว เรื่องที่มันหวนคิดยังมิได้ครึ่งกับสิ่งที่มันทำ แต่บัดนี้หัวใจที่แข็งแกร่งของมัน ก็ว้าวุ่นมิน้อย มันดื่มหนักจนเมาหลับไปจนถึงเช้าวันแล้ววันเล่า ที่ระย้าแก้วเฝ้ารัก ทะนุถนอมเทิดทูนบูชาในความรักที่มั่นคงของตนเอง ที่มีต่อไอ้สิงห์แม้จักรู้ว่า ไอ้สิงห์มิมีใจให้ตนเองเลย และยังมีนางในดวงใจอย่างแม่จันทร์แรม .แต่ระย้าแก้วก็ยังคงตั้งใจตั้งมั่น สักครั้งในชีวิตนางคิดว่าหากมิทำกะไรสักอย่าง จะมาเสียใจภายหลังแต่หากทำเต็มที่แล้ว ยังมิสามารถเอาชนะใจไอ้สิงห์ได้ นางก็จะถอยออกมาเอง."คุณหนู..!! ทูลหัวของบ่าว จะไปที่ใดกันเล่าแต่งตัวเสียสวยเชียว"บ่าวคู่ใจอย่างนางแตงเอ่ยชมผู้เป็นนาย"วันนี้เห็นว่า พี่สิงห์จะคุมชาวบ้านซ้อมฟันดาบ ข้าอยากจะเอาน้ำมะลิใบเตย เอาไปฝากพี่สิงห์เสียหน่อย ช่วงนี้อากาศร้อน ๆ" ทุกครั้งที่ระย้าแก้วพูดถึงไอ้สิงห์นางมักจะยิ้มแย้มแจ่มใส"ไปทำไมเล่าทูนหัวของบ่าว คราวที่แล้วก็น้ำแกงราดตัวมาทีนึงแล้วหนา"นางแตงรู้สึกโกรธแทนระยาแก้วที่ไปทีไรก็มักจะมีเหตุมีน้ำตาหรือเจ
สภาพเสื้อผ้าสไบที่เลอะเทอะ เปรอะเปื้อนสองแขนแดงเถือก น้ำตาไหลริน แต่นางกลับยังคงยิ้มส่งมาให้กับบ่าวคู่ใจเยี่ยงนางแตง"ข้ามิเป็นอันใดดอกพี่ มันเป็นอุบัติเหตุหนา" ระย้าแก้วที่ปลอบใจนางแตงบ่าวคู่ใจ"อุบัติเหตุอันใดกันเล่า..! ข้าเห็นกับตาว่าพ่อสิงห์จงใจปัดกับข้าวจนหกรดคุณหนูเยี่ยงนี้""มิเป็นไรดอกพี่ เหตุก็เป็นเพราะข้า ที่จะมาวุ่นวายกับพี่เขา ตอนที่พี่สิงห์ยังคงเจ็บแผลอยู่เลยหงุดหงิดก็เท่านั้น"คำพูดภายใต้รอยยิ้มที่เปื้อนน้ำตาระย้าแก้วมักจะหาเหตุผลหักล้างการกระทำที่ไม่ดีของไอ้สิงห์เสมอ"เมื่อใดคุณหนูของข้า จักโตขึ้นแลคิดได้เสียทีหนาบุญคุณหากต้องทดแทน ไปตลอดชีวิตมันก็มิแปลกแต่หากทดแทน แล้วเขามิต้องการก็ควรหยุดเสียทีเถิด"อีแตงพยายามปลอบใจผู้เป็นนายของตนให้รู้จักความรักที่แท้จริงเสียที"เรากลับเรือนกันเถิดหนาคุณหนู ไปล้างเนื้อล้างตัว"อีแตงประคองผู้เป็นนายกลับไปที่ท่าน้ำเพื่อพายเรือกลับสาวน้อยในวัย 17 ปีถึงแม้จะไม่รู้จักคำว่ารักที่แท้จริงเป็นเช่นไร แต่นางก็ตั้งมั่นที่จะมอบกายถวายหัวใจให้กับไอ้สิงห์ระหว่างทางไปก็ราวกับฟ้าฝนเป็นใจตกห่าใหญ่ลงมา จนเรือแทบจะล่มกลางทาง กว่าจะถึงบ้านก็ทุลักทุ
หลังจากวันนั้นข่าวลือเรื่องผู้ชายสองคนต่อยตีกันแย่งหญิงสาวก็ลืมสะพัดทั่วทั้งหมู่บ้านทั่วคุ้งน้ำว่าลูกสาวแสนสวยของพ่อหมอไทยถูกผู้ชายรุมแย่งตัวส่วนไอ้สิงห์ก็เอาแต่ดื่มเมามายโวยวายซ้อมฟันดาบกับบ่าวในเรือนและเหล่าพลทหารที่ตรวจตารอบหมู่บ้านต่างมิมีใครกล้าเข้าหน้ามันสักคนเดียวจนผู้เป็นพ่อต้องเข้ามาคุยกับลูกชาย"ไอ้สิงห์เอ็งเป็นกระไรของเอ็งเหตุใดจึงเอาแต่เมามายเยี่ยงนี้"ผู้เป็นพ่อที่ไม่เคยเห็นลูกชายของตนผู้เงียบขรึมกินเหล้าหัวราน้ำเช่นนี้ แถมยังมีข่าวลือหนาหูเรื่องชกต่อยกลางตลาดเพราะผู้หญิง"ข้ามิเป็นอันใดดอกพ่อ ข้ารู้สึกมีเรื่องให้ข้าต้องตัดสินใจหลายอย่าง ขอเวลาถ้าสักพักนึงเถิด"เสียงครางยานของไอ้สิงห์เอยบอกผู้เป็นพ่อคืนเดือนดับทำให้มองไม่เห็นสิ่งใด บนฟากฟ้า ไอ้สิงห์ที่นอนเมาอยู่ชานเรือน มันนอนน้ำตาไหลรินโดยที่มันก็ไม่รู้เหตุใดจึงรู้สึกเศร้าเช่นนี้ ไอ้สิงห์หวนนึกถึงเรื่องเมื่อสามปีก่อนที่มันได้ช่วยเหลือระย้าแก้วที่กำลังจมน้ำ จนทำให้ระย้าแก้วมอบหัวใจทั้งดวงให้กับมันแต่มันกลับไม่เห็นคุณค่าเอาแต่พูดจาทำร้ายจิตใจของหล่อนย้อนไปเหตุการณ์วันที่ฟ้าฝนมืดครึ้มแต่ระย้าแก้วยังดื้อรั้นที่จะเอาบ
"วันนี้ผู้คนในตลาดมากมาย แม่ระย้าแก้วเดิน ระวัง ๆ หน่อยหนา" พระพายพูดด้วยความเป็นห่วง"พี่พระพายมิต้องห่วงข้าดอก ข้าจะเดินเล่นไม่ไปไหนไกล ข้าอยากไปดูผ้าเสียหน่อย""ถ้าเยี่ยงนั้น ก็ให้แม่แตงอยู่เป็นเพื่อนเจ้าหนา เดี๋ยวพี่จะเดินไปดูของใช้อื่นๆ ด้านหน้านี้เสียหน่อย"พูดจบทั้งสองก็เดินแยกทางกันไป ซึ่งก็ไม่ได้ไกลกันมากมายนัก ส่วนระย้าแก้วนั้นไม่รู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมาที่นาง ทุกย่างก้าวที่เดิน อยู่ภายใต้สายตาคู่นี้มิได้วาง"พี่แตง พี่จักไปเดินดูของกระไรก็ไปเถิด ข้าขอเดินเล่นคนเดียวตรงนี้นี่แหละ""บ่าวไปหนาเจ้าคะ แต่คุณหนูระย้าแก้ว ทูนหัวของบ่าวจักต้องไม่ไปไหนไกลหนาเจ้าคะ"บ่าวคู่กายอย่างนางแตงก็กระวนกระวายสองจิตสองใจไม่อยากห่างผู้เป็นนาย"ข้าโตแล้วหนาพี่ มิต้องห่วงถ้าดอก"ระย้าแก้วสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะที่จะไม่ดื้อไม่ซนทางด้านไอ้สิงห์ที่เห็นว่าระย้าแก้วออกไปกับ พระพายโดยการเดินเท้าออกจากวัดไป ปล่อยให้เรือพายนำหน้าไปก่อน มันก็ยิ่งสงสัยว่าพระพาย จักพาระย้าแก้วไปที่ใดมันจึงจะตามไปแต่ติดแม่จันทร์แรม"พี่สิงห์จักไปที่ใดกันเล่า รีบร้อนชอบกล"จันทร์แรมเอ่ยถามทันทีเห็นท่าทีรีบร้อนของ
ความหงุดหงิดหัวใจที่มิอาจดับได้ จวบจนเวลาพลบค่ำทำให้ไอ้สิงห์รู้สึกนอนไม่หลับ จนมันต้องปลุกไอ้ดำให้ไปที่เรือนของระย้าแก้วเป็นเพื่อน แม้จะไม่มีเหตุผลในการไปแต่มันก็ต้องไปเพราะความว้าวุ่นที่รบกวนจิตใจของมัน"ไอ้ดำเดี๋ยวมึงพากูไปบ้านพ่อหมอไทยที""ไปทำไมล่ะพี่สิงห์นี่ก็ค่ำแล้วหนา"ไอ้ดำที่ทำท่าทีสงสัยจึงเอ่ยถามออกไปทันที"เออน่ะ..!!เรื่องของกู กูมีเรื่องต้องไปจัดการเดี๋ยวมึงไปดูต้นทางให้กูที""ได้จ้ะพี่สิงห์"ระย้าแก้วที่อยู่ในห้องนอน ยืนชมพระจันทร์ที่ส่องแสงสวยงาม แม้เธอในวัย 18 ปีจะงามสะพรั่งแต่ก็มิอาจเอาชนะใจ ไอ้สิงห์คนที่ช่วยชีวิตเธอ เธอมิอาจเอาชนะใจผู้ที่อยู่ในหัวใจของไอ้สิงห์ได้ นั่นคือจันทร์แรม"ข้าจักสู้ดวงจันทร์ที่สวยงามได้เยี่ยงไรเล่า ข้าเป็นเพียงดอกไม้ดอกหนึ่ง ที่มิคู่ควรที่จะอยู่ข้างกายของพี่สิงห์ หากเป็นเช่นนั้นข้าควรตัดใจใช่หรือไม่"ระย้าแก้วที่ยืนมองพระจันทร์ แล้วยืนตัดพ้ออยู่กับตนเองในความรักข้างเดียวของนางระย้าแก้วเปิดหน้าต่างทิ้งเอาไว้เพื่อรับสายลมเย็นพร้อมกับเตรียมตัวเข้านอนหลับไหล เปลือกตาสวยคู่นั้นเริ่มหนักอึ้งและกลับลงสู่ห้วงนิทราไอ้สิงห์ที่มาถึงเรือนของพ่อหมอไทยมั
หลังจากวันนั้นที่พระพายได้กลับมา ระย้าแก้วเริ่มไปหาไอ้สิงห์น้อยลง เพราะพระพายที่มักจะพาระย้าแก้วไปเที่ยวเตร่ตามประสา เขาเองตั้งใจจะอยู่ที่นี่แรมเดือนเพื่อดูแลบ้านที่พ่อแม่มอบหมายให้กลับมาดูแล"ข้าไหว้ขอรับพ่อหมอไทย"พระพายที่หอบหิ้วเอามะพร้าวกับกล้วยที่สวนตนมาฝากบ้านระย้าแก้ว"เป็นไงมาไงละพ่อพาย""พอดีวันนี้บ่าวไพร่ ที่บ้านของหลาน มันตัดกล้วยกับมะพร้าวเยอะ เลยหิ้วมาฝากพ่อหมอไทยกับแม่ศรีนวลนะขอรับ""ขอบน้ำใจพ่อพระพาย เดี๋ยวให้บ่าวยกเข้าครัว พ่อมาเหนื่อย ๆ ขึ้นเรือนมากินน้ำกินท่าก่อนพ่อ"พระพายที่ขึ้นเรือนมา นั่งดื่มน้ำโรยดอกมะลิเย็น ๆ จนชื่นใจ ส่วนสายตาสอดส่องมองหาร่างบางของหญิงสาวสวยที่เขาหมายปอง"มองหาผู้ใดเล่าพ่อพาย"เสียงแม่ศรีนวล แม่ของระย้าแก้วที่เดินออกมาจากเรือนนอน"ข้าไหว้จ้ะ ป้าศรีนวล"พระพายยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มรับ"สบายหรือไม่ขอรับ ป้าแม่ศรีนวล""ป้าสบายดี แล้วพ่อพายเล่าเป็นเยี่ยงไรบ้าง""หลานสบายดีขอรับป้าศรีนวล"ขณะที่พระพายนั่งสนทนาอยู่กับแม่ของระย้าแก้วสายตาก็สอดส่องมองหาร่างบาง จนแม่ศรีนวลแม่ของระย้าแก้วอดขำไม่ได้"ถ้ามองหาระย้าแก้ว น้องอยู่ในสวนดอกลั่นทมโน่น""เอ่อคือ..ถ