Share

ภาพบาดตา

last update Last Updated: 2025-05-13 21:55:56

ไอ้สิงห์ที่ยังคงร่ำสุรา อยู่ที่ชานเรือนบนบ้าน มันเฝ้ามองระย้าแก้วมาเนิ่นนาน แม้มันจะลั่นวาจาเอาไว้ว่าจะไม่รับรักระย้าแก้ว เรื่องที่มันหวนคิดยังมิได้ครึ่งกับสิ่งที่มันทำ แต่บัดนี้หัวใจที่แข็งแกร่งของมัน ก็ว้าวุ่นมิน้อย มันดื่มหนักจนเมาหลับไปจนถึงเช้า

วันแล้ววันเล่า ที่ระย้าแก้วเฝ้ารัก ทะนุถนอมเทิดทูนบูชาในความรักที่มั่นคงของตนเอง ที่มีต่อไอ้สิงห์แม้จักรู้ว่า ไอ้สิงห์มิมีใจให้ตนเองเลย และยังมีนางในดวงใจอย่างแม่จันทร์แรม .

แต่ระย้าแก้วก็ยังคงตั้งใจตั้งมั่น สักครั้งในชีวิตนางคิดว่าหากมิทำกะไรสักอย่าง จะมาเสียใจภายหลัง

แต่หากทำเต็มที่แล้ว ยังมิสามารถเอาชนะใจไอ้สิงห์ได้ นางก็จะถอยออกมาเอง.

"คุณหนู..!! ทูลหัวของบ่าว จะไปที่ใดกันเล่าแต่งตัวเสียสวยเชียว"บ่าวคู่ใจอย่างนางแตงเอ่ยชมผู้เป็นนาย

"วันนี้เห็นว่า พี่สิงห์จะคุมชาวบ้านซ้อมฟันดาบ ข้าอยากจะเอาน้ำมะลิใบเตย เอาไปฝากพี่สิงห์เสียหน่อย ช่วงนี้อากาศร้อน ๆ" ทุกครั้งที่ระย้าแก้วพูดถึงไอ้สิงห์นางมักจะยิ้มแย้มแจ่มใส

"ไปทำไมเล่าทูนหัวของบ่าว คราวที่แล้วก็น้ำแกงราดตัวมาทีนึงแล้วหนา"นางแตงรู้สึกโกรธแทนระยาแก้วที่ไปทีไรก็มักจะมีเหตุมีน้ำตาหรือเจ็บตัวกลับมาโดยที่ไอ้สิงห์มิได้แยแส

"เอานา..!! ข้ามิได้ไปหาพี่สิงห์หลายเพลาแล้วหนา ข้าอยากจะไปเห็นหน้าเสียหน่อย"

"งั้นเดี๋ยวบ่าวไปเป็นเพื่อนนะเจ้าคะ"

พูดจบนางแตงก็ถือร่มเดินตามทูนหัวของมันไปที่ท่าเรือ ก่อนที่จะไประย้าแก้วก็ได้ขออนุญาตบิดาและมารดาเรียบร้อยแล้ว.

"แม่ศรีนวล คราวที่แล้วลูกก็ร้องไห้กลับมา เปียกปอนจนได้ไข้ ข้ามิอยากให้ลูกไปมาหาสู่ไอ้สิงห์เลย"

"ข้าเข้าใจพี่นะ แต่เหตุผลบุญคุณมันค้ำคอ แลบัดนี้ลูกสาวเรา ก็มีใจพักรักไอ้สิงห์สุดหัวใจ ยากที่จะหักห้าม"

"เราคงต้องปล่อยไปตามกรรมใช่หรือไม่..?" พ่อหมอไทยที่รู้เห็นทุกอย่างทุกครั้งที่ลูกสาวกลับมามักจะมีน้ำตาอาบสองแก้ม

นางจันทร์แรมที่วันนี้ก็ได้ข่าวว่าไอ้สิงห์จะพาเหล่าชาวบ้านซ้อมดาบซ้อมมวยนางจึงอยากจะมาให้กำลังใจไอ้สิงห์เช่นกัน

"พ่อวันนี้ข้าสวยหรือยัง..?"นางจันทร์แรมเอ่ยถามผู้เป็นพ่อที่กำลังนั่งคลอเคลียกับบ่าวสาว.

"เอ็งจะผัดผ้าแต่งตัวสวยไปที่ใดเล่า"ผู้เป็นพ่อถามด้วยความสงสัยทันที.

"วันนี้ข้าจะไปที่หมู่บ้านของพี่สิงห์เสียหน่อยเพราะได้ข่าววันนี้จะมีการฝึกซ้อมดาบแลสอนมวยจากพี่สิงห์"

"แล้วเองจะเอาบ่าวไปเป็นเพื่อนหรือไม่"

"เอานางชด ไปเป็นเพื่อนข้าก็ได้ ให้มันไปถือร่มให้ข้าก็ยังดี" บ่าวในเรือนไม่มีใครอยากจะรับใช้จันทร์แรมด้วยความที่นางเป็นคนเจ้าอารมณ์และเรื่องมาก

สองสาวที่ต่างซึ่งอายุและความคิดต่างกัน ก็พากันเดินทางไปที่ลานซ้อมใหญ่เพื่อดูการซ้อมดาบและรำมวยแต่จุดมุ่งหมายของหญิงทั้งสองนั้นคือการได้พบ ไอ้สิงห์ผู้ชายที่สาวๆ ทั้งหมู่บ้านหมายปอง

นางจันทร์แรมที่เดินทางมาถึงลานซ้อมก่อน ระย้าแก้วไอ้สิงห์ที่เห็นนางในดวงใจมาก็รีบเชื้อเชิญให้นางมานั่งที่เพลินเพื่อพักผ่อนหย่อนใจดูการซ้อมอย่างสบายอารมณ์(แม้ในใจจักคิดและเฝ้ามองแต่ระย้าแก้วเป็นระยะ)

"แม่ไปมาอย่างไรเล่า ถึงได้มาที่ลานซ้อมเสียได้" ไอ้สิงห์เอ่ยถามนางจันทร์แรมที่วันนี้ผัดผ้าผ่อนสวยงาม

"พอดีข้าได้ยินจากชาวบ้าน ว่าพี่สิงห์จะจัดซ้อมใหญ่ข้าเลยอยากมาให้กำลังใจพี่นัก"นางจันทร์แรมไม่พูดเปล่าสองมือสองไม้ก็กรอบกุมมือหยาบกร้านของไอ้สิงห์

"ขอบน้ำใจแม่ยิ่งนัก ที่ยังมีใจคิดถึงพี่"

"หากข้ามิคิดถึงพี่สิงห์ ข้าจะคิดถึงผู้ใดกันเล่า หัวใจของข้าทุกห้อง ยกให้พี่หมดแล้วหนา" นางจันทร์แรมใช้มารยาหญิงพูดจาหวานหวานล้อมไอ้สิงห์ให้หลงเชื่อ

ส่วนไอ้ดำที่เห็นทุกการกระทำของนางจันทร์แรมก็ทำท่าสะอิดสะเอียน คลื่นไส้ราวกับจะอ้วก เจ้านายของเขานั้นมิรู้กินข้าวหรือกินหญ้า

ระย้าแก้วที่เดินมาพร้อมกับน้ำมะลิใบเตยแม้นางจะเห็นภาพบาดตาบาดใจก็ยังเลือกที่จะเดินเข้าไปหาไอ้สิงห์

"พี่จันทร์แรมข้าไหว้จ้ะ พี่สิงห์น้องไหว้จ้ะ"ระย้าแก้วยกมือไหว้คนทั้งสอง แม้หัวใจนางจะเจ็บเจียนตายก็ตาม.

"ใครใช้ให้เอ็งมา..!! เป็นเด็กเป็นเล็กมาที่นี่ทำกะไรเหตุใดจึงไม่อยู่ที่เรือน.."ไอ้สิงห์พูดเสียงดังราวกับใช้น้ำเสียงตะคอกด้วยความไม่พอใจ

"ข้าได้ยินว่าพี่จะซ้อมใหญ่ แล้วช่วงนี้อากาศร้อนอบอ้าว ข้าเลยเอาน้ำดอกมะลิไปเตย กับแตงโมหวานเอามาให้พี่นะจ๊ะ"ระย้าแก้วพูดพรางยิ้มหวานส่งไป

นางแตงที่เห็นดังนั้นก็เดินไปยื่นเอาสัมภาระที่เตรียมมาส่งให้กับไอ้สิงห์ แต่ไอ้สิงห์ก็ทำท่าทรนงไม่รับสิ่งใดจากระย้าแก้วทั้งสิ้น

"พี่สิงห์ก็รับน้ำใจระย้าแก้ว เสียหน่อยเถิด นางอุตส่าห์เดินมาตั้งไกลนะ แดดก็ร้อนออกป่านนี้อย่าให้เสียน้ำใจน้องมันเลย" จันทร์แรมแสร้งทำเป็นคนดีทั้งที่ในใจรังเกียจเกลียดคู่แข่งอย่างระย้าแก้วยิ่งนัก

"หากแม่เห็นเช่นนั้น พี่ก็จะรับไว้ แม่จักกินหรือไม่" ไอ้สิงห์เอ่ยถามความคิดเห็นของจันทร์แรม

"ข้ามิกินดอก ข้ามิชอบใบเตย กลิ่นมันแรงหากผู้อื่นชอบ ก็เอาให้เขากินเถอะ."นางจันทร์แรมแกล้งพูดกระทบ

"มิเป็นไร ข้าเอามาให้พี่สิงห์ พี่จะกินหรือไม่กินก็ไม่เป็นไร ขอแค่พี่รับไว้ก็พอแล้ว" ระย้าแก้วเอ่ยด้วยความน้อยใจ

ระย้าแก้วใช้สองมือเรียวเล็ก ประคองน้ำมะลิใบเตยส่งให้ถึงมือไอ้สิงห์ พร้อมกับแตงโมชิ้นสวยถูกแกะสลักด้วยความใส่ใจ

ตุบ..!!!

ไอ้สิงห์ปัดสิ่งของทั้งหมด จนหกเลอะเทอะอยู่ที่พื้นแล้วทำตาเขม็งดุไปที่ระย้าแก้ว

"เอ็งเลิกวุ่นวายเสียที อากาศยิ่งร้อนอบอ้าว ยิ่งเอ็งทำตัวเช่นนี้ ข้ายิ่งมิอยากเห็นหน้าเอ็ง.!!"ไอ้สิงห์ใช้คำพูดรุนแรงเอ็ดตะโรระย้าแก้วต่อนาคผู้คนมากมาย

"พ่อสิงห์เหตุใดจึงพูดรุนแรงเช่นนี้เล่า ระย้าแก้วเพียงแต่ เอาของมาให้เอ็งกินก็เท่านั้น"นางแตงที่มักเห็นการกระทำเช่นนี้เสมอ

"ใครใช้ให้มันเอามาให้ข้ากันเล่า ข้าก็พูดอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ว่าข้าไม่อยากเห็นหน้าระย้าแก้ว แล้วนางเคยฟังข้าหรือไม่..?"

ไอ้ดำที่เห็นสถานการณ์ไม่ดี จึงรีบเข้ามาเก็บข้าวของขึ้น แต่น้ำใบเตยมะลิก็หกเสียแล้ว ส่วนแตงโมที่เตรียมมาก็เลอะพื้นดินไปหมด

"ระย้าแก้วของคุณหนูหกเลอะเทอะหมดเสียแล้ว มิเป็นไรดอกหนาคุณหนู ไปนั่งดูซ้อมตรงนู้นกับข้าดีกว่า"ไอ้ดำรีบพาระย้าแก้วที่แววตาเศร้าสร้อยเหมือนจะร้องไห้ไปให้พ้นจากคนใจดำแย่งเจ้านายของมัน

"เออ..!! มึงรีบพาคุณหนูระย้าแก้วของมึงไปให้ห่างสายตากูเสียที"ไอ้สิ่งที่ตะโกนไล่หลัง

"คุณหนู เหตุใดคุณหนูถึงมาที่นี่เล่า หากคุณหนูมิ สบายใจ คุณหนูจะกลับเรือนข้าจะเดินไปส่งด้วยตัวเอง"ไอ้ดำเสนอความคิด

ข้าขอบน้ำใจพี่ดำหนักหนา ที่ช่วยข้าครั้งแล้วครั้งเล่าแต่มิเป็นไรดอก ข้าเพียงอยากมาเห็นหน้าพี่สิงห์ ตั้งแต่ข้าได้ไข้ ข้าก็มีได้เห็นหน้าพี่สิงห์หลายวันแล้ว"พรางยิ้มส่งตอบไอ้ดำ ทั้งที่น้ำตาไหลอาบสองแก้ม

ไอ้ดำที่รู้สึกสงสารระย้าแก้วจับใจ มันมักจะตัดพ้อเจ้านายมันกับนางแตงเสมอ

"หากวันใดนายข้าคิดได้ขึ้นมาแล้ว มิมาหานายเอ็ง ข้าหวังว่าวันนั้น นายเอ็งจักไม่มาตาม แม่ระย้าแก้วของข้าหนา" นางแตงที่พูดใส่หน้าไอ้ดำด้วยความโกรธ

"ข้าก็มิอาจรู้ได้ดอกแม่แตง แต่ข้าต้องขอโทษแทนพี่สิงห์ด้วย"

ระย้าแก้วที่นั่งมองจันทร์แรม และไอ้สิงห์กระหนุง กระหนิง หัวเราะต่อกระซิกกัน อย่างมีความสุขราวกับตนเองนั้นเป็นส่วนเกิน จนการซ้อมจบสิ้นลงระย้าแก้วเดินคอตกกับบ้านเช่นทุกครั้งพร้อมกับน้ำตาที่คลอหน่วย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   คำพูดพล่อย ๆ

    คำพูดที่พล่อย ๆ พูดโดยมิไตร่ตรอง พูดโดยไมิคิด ไอ้สิงห์มิรู้เลยว่า คำพูดของมันนั้นมีความหมายกับหัวใจของระย้าแก้วมากเพียงใด ระย้าแก้วจึงตั้งใจแน่วแน่ว่าจักนั่งรอไอ้สิงห์จนถึงเช้าดังเช่นที่ไอ้สิงห์ได้ลั่นคำ"ได้หากพี่รับปากข้าเช่นนั้น ข้าจะทำให้พี่ได้เห็น ว่าข้าจักมิผิดคำพูดกับพี่ แม้สักนิดเดียว"ระย้าแก้วตะโกนไล่หลัง"หากเอ็งทำได้เยี่ยงปากพูด ข้าจักทำตามคำพูดเช่นกัน"ไอ้สิงห์คิดอยู่ภายในใจว่าแม่หญิงอย่างระย้าแก้วนั้นมิอาจทำได้ดั่งเช่นคำที่พูดดอกผ่านมาหลายชั่วยาม ระย้าแก้วยังคงนั่งอยู่ที่เถาวัลย์ชิงช้า โดยมิลุกไปที่ใด จนเป็นที่ผิดสังเกตของแม่ศรีนวลและพ่อหมอไทย"อีแตง..! คุณหนูของมึงอยู่ที่ใดกันเล่า เหตุใดจึงยังมิกับเรือน.?" แม่ศรีนวลหันไปถามบ่าวคู่ใจของระย้าแก้ว"คุณหนูขอนั่งเล่นกง น้ำตกหนาเจ้าคะแม่นาย หากแต่บอกว่าจะกลับไม่นานนักเจ้าค่ะ""แต่นี่มันก็หลายชั่วยามแล้วหนา พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าอยู่แล้ว เหตุใดนางจึงยังมิกลับ" มารดาอย่างแม่ศรีนวลเริ่มกับวันกระวายเป็นห่วงลูกสาว"กระนั้นบ่าวขออนุญาตแม่นาย ไปตามคุณหนูหนาเจ้าคะ."อีแตงรีบเสนอตัว"มึงชักช้าอยู่ใยเล่า รีบไปเถิด" พ่อหมอไทยเอ่ยปากแท

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   ความปั่นป่วน

    "ถึงพี่จะว่ากระนั้น ข้าก็ต้องขอบน้ำใจพี่ ที่พี่ได้ช่วยข้าหลายครั้งหลายครา" ระย้าแก้วเอ่ยคำขอบคุณ ไอ้สิงห์"ทูนหัวของบ่าว เรากับเรือนกันเถิดหนาอย่าอยู่ตรงนี้ให้เสียเวลาเลย นี่ก็ดูท่าอีกมินานฝนก็คงจะตก" อีแตงข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของระย้าแก้วรีบพูดแทนผู้เป็นนายสองเท้าก้าวเดินออกอย่างมั่นใจ ว่าจะไม่หันกลับไปมองไอ้สิงห์ เพราะหากระย้าแก้วหันกลับไป น้ำตาคงได้อาบสองแก้มเป็นแน่"คุณหนูอย่าร้องไห้เลยหนา อย่าให้ผู้ใดเห็นน้ำตาของคุณหนูอีกต่อไปคุณหนูของบ่าวเข้มแข็ง""ข้าขอบน้ำใจพี่แตง ยิ่งนักที่อยู่เป็นเพื่อนข้าเสมอ"อีแตงรีบประคองร่างอรชรของระย้าแก้ว นายทูนหัวที่มันรักหนักหนา มาให้พ้นจากตลาด ลัดเลาะมาจนถึงน้ำตกท้ายหมู่บ้าน ทางผ่านกลับบ้านของระย้าแก้วซึ่งน้ำตกกับบ้านของระย้าแก้วห่างกันไม่ถึงห้าสิบก้าว เรียกว่าใกล้มาก"พี่แตงไปที่เรือนก่อนเถิดหนา ข้าขอนั่งเล่นที่ชิงช้าเถาวัลย์สักครู่" หากข้าสบายใจขึ้นข้าจักได้กลับเข้าเรือน"คุณหนูจะเอาเยี่ยงนั้นก็ได้เจ้าค่ะ แต่อย่านานนักหนานะเจ้าคะ หากแม่นายศรีไพรตามหา บ่าวจักถูกเฆี่ยนหลังลายเป็นแน่""มินานดอกพี่แตง หากข้าสบายใจขึ้น ข้าจะรีบกลับเรือนทันที"อีแ

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   ตลาดอลเวง

    "พี่แตง ดูปิ่นปักผมอันนี้ซิ สวยเหลือเกิน ลายดอกไม้สวยตรงใจข้าเหลือเกิน" ระย้าแก้วยิ้มสดใส ในวัย 18 ปี งามใสพรั่งราวดอกไม้แรกแย้ม ความงามเลื่องลือไปทั่วคุ้งน้ำ แลหัวท้ายหมู่บ้านต่างพากันอยากเยินโฉมบุษบานางฟ้าเดินดิน"สวยมากเจ้าค่ะทูนหัวของบ่าวอยากได้กระนั้นหรือเปล่าจะได้ต่อราคาพ่อค้าให้"บ่าวคู่ใจอย่างนางแตงรีบจัดแจงให้กับเจ้านายผู้กายของมัน"ข้าอยากได้ปิ่นปักผมอันนี้พี่แตง"ระย้าแก้วที่ยิ้มสดใสอยู่หน้าร้านเครื่องประดับ"จีนซื่อ ข้าเอาปิ่นอันนี้ให้กับนายของขา""ได้ ได้"แต่ยังไม่ทันได้เอาปิ่นปักผมมาใส่ตะกร้าสานของนางแตง ก็มีเรียวกระชากปิ่นออกจากมือของจีนซื่อทันที พร้อมกับทำท่าทีโอหังหันมามองหน้าระย้าแก้วอย่างโกรธเคือง นั่นคือจันทร์แรมที่ตอนนี้อายุอานามก็ปาไป 27 ปี จนจะเป็นสาวแร้งทึ้งอยู่แล้วก็ยังไม่ได้ออกเรือน ข่าวคาว ๆ ก็เล็ดรอดให้ชาวบ้านได้พูดกันไม่เว็นแต่ละวัน จนไอ้สิงห์ระอา ถึงแม้ยังไม่เคยเห็นกับตาได้ยินกับหูแต่มันก็ไม่ได้โง่ดักดาน เพียงแต่ยังไม่ทันเห็นธาติแท้ของนางจันทร์แรมกับตาก็เท่านั้น"ข้าจะเอาปิ่นอันนี้จีนซื่อ ท่านต้องขายให้ข้า"จันทร์แรมที่สแยะยิ้มอย่างผู้มีชัย"ขอโทษอาคุงหนู

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   ภาพบาดตา

    ไอ้สิงห์ที่ยังคงร่ำสุรา อยู่ที่ชานเรือนบนบ้าน มันเฝ้ามองระย้าแก้วมาเนิ่นนาน แม้มันจะลั่นวาจาเอาไว้ว่าจะไม่รับรักระย้าแก้ว เรื่องที่มันหวนคิดยังมิได้ครึ่งกับสิ่งที่มันทำ แต่บัดนี้หัวใจที่แข็งแกร่งของมัน ก็ว้าวุ่นมิน้อย มันดื่มหนักจนเมาหลับไปจนถึงเช้าวันแล้ววันเล่า ที่ระย้าแก้วเฝ้ารัก ทะนุถนอมเทิดทูนบูชาในความรักที่มั่นคงของตนเอง ที่มีต่อไอ้สิงห์แม้จักรู้ว่า ไอ้สิงห์มิมีใจให้ตนเองเลย และยังมีนางในดวงใจอย่างแม่จันทร์แรม .แต่ระย้าแก้วก็ยังคงตั้งใจตั้งมั่น สักครั้งในชีวิตนางคิดว่าหากมิทำกะไรสักอย่าง จะมาเสียใจภายหลังแต่หากทำเต็มที่แล้ว ยังมิสามารถเอาชนะใจไอ้สิงห์ได้ นางก็จะถอยออกมาเอง."คุณหนู..!! ทูลหัวของบ่าว จะไปที่ใดกันเล่าแต่งตัวเสียสวยเชียว"บ่าวคู่ใจอย่างนางแตงเอ่ยชมผู้เป็นนาย"วันนี้เห็นว่า พี่สิงห์จะคุมชาวบ้านซ้อมฟันดาบ ข้าอยากจะเอาน้ำมะลิใบเตย เอาไปฝากพี่สิงห์เสียหน่อย ช่วงนี้อากาศร้อน ๆ" ทุกครั้งที่ระย้าแก้วพูดถึงไอ้สิงห์นางมักจะยิ้มแย้มแจ่มใส"ไปทำไมเล่าทูนหัวของบ่าว คราวที่แล้วก็น้ำแกงราดตัวมาทีนึงแล้วหนา"นางแตงรู้สึกโกรธแทนระยาแก้วที่ไปทีไรก็มักจะมีเหตุมีน้ำตาหรือเจ

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   หัวใจดวงน้อยที่รักมั่น

    สภาพเสื้อผ้าสไบที่เลอะเทอะ เปรอะเปื้อนสองแขนแดงเถือก น้ำตาไหลริน แต่นางกลับยังคงยิ้มส่งมาให้กับบ่าวคู่ใจเยี่ยงนางแตง"ข้ามิเป็นอันใดดอกพี่ มันเป็นอุบัติเหตุหนา" ระย้าแก้วที่ปลอบใจนางแตงบ่าวคู่ใจ"อุบัติเหตุอันใดกันเล่า..! ข้าเห็นกับตาว่าพ่อสิงห์จงใจปัดกับข้าวจนหกรดคุณหนูเยี่ยงนี้""มิเป็นไรดอกพี่ เหตุก็เป็นเพราะข้า ที่จะมาวุ่นวายกับพี่เขา ตอนที่พี่สิงห์ยังคงเจ็บแผลอยู่เลยหงุดหงิดก็เท่านั้น"คำพูดภายใต้รอยยิ้มที่เปื้อนน้ำตาระย้าแก้วมักจะหาเหตุผลหักล้างการกระทำที่ไม่ดีของไอ้สิงห์เสมอ"เมื่อใดคุณหนูของข้า จักโตขึ้นแลคิดได้เสียทีหนาบุญคุณหากต้องทดแทน ไปตลอดชีวิตมันก็มิแปลกแต่หากทดแทน แล้วเขามิต้องการก็ควรหยุดเสียทีเถิด"อีแตงพยายามปลอบใจผู้เป็นนายของตนให้รู้จักความรักที่แท้จริงเสียที"เรากลับเรือนกันเถิดหนาคุณหนู ไปล้างเนื้อล้างตัว"อีแตงประคองผู้เป็นนายกลับไปที่ท่าน้ำเพื่อพายเรือกลับสาวน้อยในวัย 17 ปีถึงแม้จะไม่รู้จักคำว่ารักที่แท้จริงเป็นเช่นไร แต่นางก็ตั้งมั่นที่จะมอบกายถวายหัวใจให้กับไอ้สิงห์ระหว่างทางไปก็ราวกับฟ้าฝนเป็นใจตกห่าใหญ่ลงมา จนเรือแทบจะล่มกลางทาง กว่าจะถึงบ้านก็ทุลักทุ

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   หวนระลึก

    หลังจากวันนั้นข่าวลือเรื่องผู้ชายสองคนต่อยตีกันแย่งหญิงสาวก็ลืมสะพัดทั่วทั้งหมู่บ้านทั่วคุ้งน้ำว่าลูกสาวแสนสวยของพ่อหมอไทยถูกผู้ชายรุมแย่งตัวส่วนไอ้สิงห์ก็เอาแต่ดื่มเมามายโวยวายซ้อมฟันดาบกับบ่าวในเรือนและเหล่าพลทหารที่ตรวจตารอบหมู่บ้านต่างมิมีใครกล้าเข้าหน้ามันสักคนเดียวจนผู้เป็นพ่อต้องเข้ามาคุยกับลูกชาย"ไอ้สิงห์เอ็งเป็นกระไรของเอ็งเหตุใดจึงเอาแต่เมามายเยี่ยงนี้"ผู้เป็นพ่อที่ไม่เคยเห็นลูกชายของตนผู้เงียบขรึมกินเหล้าหัวราน้ำเช่นนี้ แถมยังมีข่าวลือหนาหูเรื่องชกต่อยกลางตลาดเพราะผู้หญิง"ข้ามิเป็นอันใดดอกพ่อ ข้ารู้สึกมีเรื่องให้ข้าต้องตัดสินใจหลายอย่าง ขอเวลาถ้าสักพักนึงเถิด"เสียงครางยานของไอ้สิงห์เอยบอกผู้เป็นพ่อคืนเดือนดับทำให้มองไม่เห็นสิ่งใด บนฟากฟ้า ไอ้สิงห์ที่นอนเมาอยู่ชานเรือน มันนอนน้ำตาไหลรินโดยที่มันก็ไม่รู้เหตุใดจึงรู้สึกเศร้าเช่นนี้ ไอ้สิงห์หวนนึกถึงเรื่องเมื่อสามปีก่อนที่มันได้ช่วยเหลือระย้าแก้วที่กำลังจมน้ำ จนทำให้ระย้าแก้วมอบหัวใจทั้งดวงให้กับมันแต่มันกลับไม่เห็นคุณค่าเอาแต่พูดจาทำร้ายจิตใจของหล่อนย้อนไปเหตุการณ์วันที่ฟ้าฝนมืดครึ้มแต่ระย้าแก้วยังดื้อรั้นที่จะเอาบ

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   ฉุดกระชาก

    "วันนี้ผู้คนในตลาดมากมาย แม่ระย้าแก้วเดิน ระวัง ๆ หน่อยหนา" พระพายพูดด้วยความเป็นห่วง"พี่พระพายมิต้องห่วงข้าดอก ข้าจะเดินเล่นไม่ไปไหนไกล ข้าอยากไปดูผ้าเสียหน่อย""ถ้าเยี่ยงนั้น ก็ให้แม่แตงอยู่เป็นเพื่อนเจ้าหนา เดี๋ยวพี่จะเดินไปดูของใช้อื่นๆ ด้านหน้านี้เสียหน่อย"พูดจบทั้งสองก็เดินแยกทางกันไป ซึ่งก็ไม่ได้ไกลกันมากมายนัก ส่วนระย้าแก้วนั้นไม่รู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมาที่นาง ทุกย่างก้าวที่เดิน อยู่ภายใต้สายตาคู่นี้มิได้วาง"พี่แตง พี่จักไปเดินดูของกระไรก็ไปเถิด ข้าขอเดินเล่นคนเดียวตรงนี้นี่แหละ""บ่าวไปหนาเจ้าคะ แต่คุณหนูระย้าแก้ว ทูนหัวของบ่าวจักต้องไม่ไปไหนไกลหนาเจ้าคะ"บ่าวคู่กายอย่างนางแตงก็กระวนกระวายสองจิตสองใจไม่อยากห่างผู้เป็นนาย"ข้าโตแล้วหนาพี่ มิต้องห่วงถ้าดอก"ระย้าแก้วสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะที่จะไม่ดื้อไม่ซนทางด้านไอ้สิงห์ที่เห็นว่าระย้าแก้วออกไปกับ พระพายโดยการเดินเท้าออกจากวัดไป ปล่อยให้เรือพายนำหน้าไปก่อน มันก็ยิ่งสงสัยว่าพระพาย จักพาระย้าแก้วไปที่ใดมันจึงจะตามไปแต่ติดแม่จันทร์แรม"พี่สิงห์จักไปที่ใดกันเล่า รีบร้อนชอบกล"จันทร์แรมเอ่ยถามทันทีเห็นท่าทีรีบร้อนของ

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   ว้าวุ่นใจจนต้องมาถึงเรือน

    ความหงุดหงิดหัวใจที่มิอาจดับได้ จวบจนเวลาพลบค่ำทำให้ไอ้สิงห์รู้สึกนอนไม่หลับ จนมันต้องปลุกไอ้ดำให้ไปที่เรือนของระย้าแก้วเป็นเพื่อน แม้จะไม่มีเหตุผลในการไปแต่มันก็ต้องไปเพราะความว้าวุ่นที่รบกวนจิตใจของมัน"ไอ้ดำเดี๋ยวมึงพากูไปบ้านพ่อหมอไทยที""ไปทำไมล่ะพี่สิงห์นี่ก็ค่ำแล้วหนา"ไอ้ดำที่ทำท่าทีสงสัยจึงเอ่ยถามออกไปทันที"เออน่ะ..!!เรื่องของกู กูมีเรื่องต้องไปจัดการเดี๋ยวมึงไปดูต้นทางให้กูที""ได้จ้ะพี่สิงห์"ระย้าแก้วที่อยู่ในห้องนอน ยืนชมพระจันทร์ที่ส่องแสงสวยงาม แม้เธอในวัย 18 ปีจะงามสะพรั่งแต่ก็มิอาจเอาชนะใจ ไอ้สิงห์คนที่ช่วยชีวิตเธอ เธอมิอาจเอาชนะใจผู้ที่อยู่ในหัวใจของไอ้สิงห์ได้ นั่นคือจันทร์แรม"ข้าจักสู้ดวงจันทร์ที่สวยงามได้เยี่ยงไรเล่า ข้าเป็นเพียงดอกไม้ดอกหนึ่ง ที่มิคู่ควรที่จะอยู่ข้างกายของพี่สิงห์ หากเป็นเช่นนั้นข้าควรตัดใจใช่หรือไม่"ระย้าแก้วที่ยืนมองพระจันทร์ แล้วยืนตัดพ้ออยู่กับตนเองในความรักข้างเดียวของนางระย้าแก้วเปิดหน้าต่างทิ้งเอาไว้เพื่อรับสายลมเย็นพร้อมกับเตรียมตัวเข้านอนหลับไหล เปลือกตาสวยคู่นั้นเริ่มหนักอึ้งและกลับลงสู่ห้วงนิทราไอ้สิงห์ที่มาถึงเรือนของพ่อหมอไทยมั

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   หูเบา

    หลังจากวันนั้นที่พระพายได้กลับมา ระย้าแก้วเริ่มไปหาไอ้สิงห์น้อยลง เพราะพระพายที่มักจะพาระย้าแก้วไปเที่ยวเตร่ตามประสา เขาเองตั้งใจจะอยู่ที่นี่แรมเดือนเพื่อดูแลบ้านที่พ่อแม่มอบหมายให้กลับมาดูแล"ข้าไหว้ขอรับพ่อหมอไทย"พระพายที่หอบหิ้วเอามะพร้าวกับกล้วยที่สวนตนมาฝากบ้านระย้าแก้ว"เป็นไงมาไงละพ่อพาย""พอดีวันนี้บ่าวไพร่ ที่บ้านของหลาน มันตัดกล้วยกับมะพร้าวเยอะ เลยหิ้วมาฝากพ่อหมอไทยกับแม่ศรีนวลนะขอรับ""ขอบน้ำใจพ่อพระพาย เดี๋ยวให้บ่าวยกเข้าครัว พ่อมาเหนื่อย ๆ ขึ้นเรือนมากินน้ำกินท่าก่อนพ่อ"พระพายที่ขึ้นเรือนมา นั่งดื่มน้ำโรยดอกมะลิเย็น ๆ จนชื่นใจ ส่วนสายตาสอดส่องมองหาร่างบางของหญิงสาวสวยที่เขาหมายปอง"มองหาผู้ใดเล่าพ่อพาย"เสียงแม่ศรีนวล แม่ของระย้าแก้วที่เดินออกมาจากเรือนนอน"ข้าไหว้จ้ะ ป้าศรีนวล"พระพายยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มรับ"สบายหรือไม่ขอรับ ป้าแม่ศรีนวล""ป้าสบายดี แล้วพ่อพายเล่าเป็นเยี่ยงไรบ้าง""หลานสบายดีขอรับป้าศรีนวล"ขณะที่พระพายนั่งสนทนาอยู่กับแม่ของระย้าแก้วสายตาก็สอดส่องมองหาร่างบาง จนแม่ศรีนวลแม่ของระย้าแก้วอดขำไม่ได้"ถ้ามองหาระย้าแก้ว น้องอยู่ในสวนดอกลั่นทมโน่น""เอ่อคือ..ถ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status