Share

7.ครั้งแรก NC

last update Last Updated: 2025-05-22 16:35:55

ท้องฟ้าปล่อยหยาดเม็ดฝนพร่างพราวลงมา เสียงฟ้าผ่าเปรี้ยง ไม่ใช่ในนภาลอยคลื่นเมฆ แต่เป็นฝนตกในใจเธอ

ก็อก ก็อก ก็อก

"ขออนุญาตเข้าไปค่ะ"

"เชิญครับ"

เขาผู้ที่นั่งทอดกายรอลูกน้องพาหญิงสาวมาส่ง แปลกใจอย่างมาก ที่ผู้มาเยือนขออนุญาตก่อนเข้าห้อง

ในเมื่อเธอพูดเพราะมา เขาจึงตอบกลับด้วยมารยาท

จันทร์เสี้ยวเดินไปยังห้องนั่งเล่นที่เสี่ยนั่งอยู่

แสงสลัวของดวงจันทร์ถูกเมฆดำบดบัง มองคนตรงหน้าสุดแสนเลือนลาง

เสี่ยอ๋าไม่เหมือนที่เธอจินตนาการเลย ไม่อ้วนพุงพลุ้ย ไม่เตี้ยด้วยกลับดูหนุ่มแน่น แม้มองไม่ถนัด แต่หล่อเหล่าเอาการเชียว

ไม่รู้ควรหรือไม่ แต่เธอต้องพูดให้ชัดเจน

"เสี่ยคะ หนูทราบดีว่าเสี่ยไม่ชอบให้คนที่มานอนด้วยหลงรัก"

"มันจะไม่เกิดขึ้นกับหนูแน่นอน" เสียงหวานพูดออกตัว กลัวว่าเสี่ยจะคิดว่าเธอเป็นเหมือนคนอื่น

"หนูมาเพื่อต้องการเงิน"

เสียงเรียบนุ่มระคนหนักแน่น เอ่ยตรง ๆ ให้คนตรงหน้ารู้ถึงจุดประสงค์ของการมาครั้งนี้อย่างชัดเจน

"นี่เป็นครั้งแรกของหนู"

"เสี่ยจะให้หนูเท่าไหร่คะ?"

"เธออยากได้เท่าไหร่?"

ตั้งแต่ซื้อกิน เขาไม่เคยต่อรองราคากับผู้หญิงคนไหนเลย

ทุกคนที่มาล้วนพุ่งเป้าที่ตัวเขา หวังครองใจเป็นคุณนาย ส่วนค่าตอบแทน...ไม่เคยเรียกถาม

"สี่แสนค่ะ"

"เธอตีค่าตัวเองสูงไปหน่อยไหม?"

แววตาคมเข้มนั่งมองแก้วเหล้าในมือ พลางถามหญิงสาวที่ตั้งราคาตนเองสูงลิ่ว

"เสี่ยจะให้หนูเท่าไหร่คะ?"

เสียงเรียบนุ่มยังคงหนักแน่น แม้ในใจหวั่นเกรงกลัวไม่ได้ในสิ่งที่หวัง

"หนูขอยืมก็ได้ค่ะ เขียนสัญญาก็ได้ จะให้ชดใช้ด้วยเงิน หรือตัวก็ยอม"

เธอโยนหินถามทางตามแผนสำรอง ใช้ความสาวเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน

"เท่าไหร่ก็ได้ที่เธอต้องการ...

หากฉันเป็นผู้ชายคนแรกของเธอจริง ๆ"

เสียงเข้มทุ่มต่ำพูดพลางหันมามองร่างบางตรงหน้า

เพราะความมืด เขาจึงยังไม่ทราบว่าเธอคือใคร

ที่ผ่านมา เขาเจอแต่ผู้หญิงที่บอกว่า 'ไม่เคย' แต่เจนสนามกันทุกคน

เขาก็อยากรู้ว่าเธอจะโกหกไหม ถึงกล้าเรียกร้องเงินเยอะขนาดนี้

"จริงเหรอคะเสี่ย... จันทร์เสี้ยวขอบคุณเสี่ยจากใจจริงเลยนะคะ"

จันทร์เสี้ยว — ชื่อนี้เขาเพิ่งเจอไปเมื่อไม่กี่วันก่อน

พรึ่บ~

เสียงกดรีโมต ไฟทั้งห้องสว่างวาบ มองเห็นทุกอย่างในห้องอย่างทะลุปรุโปร่ง

และยิ่งกว่านั้น เผยให้เห็นใบหน้าเขาอย่างเต็มตา

จันทร์เสี้ยวหรี่ตาเพราะยังปรับสายตาไม่ได้ ก่อนเบิกกว้าง

เขาคือ... หลานคุณยายดวงแก้ว

เขาไม่ใช่เสี่ยอ๋า!

ทิวสนใช้สายตาคมมองหญิงสาวที่มายืนอยู่ตรงหน้า ในฐานะ...สาวขายบริการ

"เธอ..."

เสียงเรียบทุ้มต่ำ แม้ตกใจแต่ไม่เผยอาการสักเสี้ยว สีหน้าเรียบเฉย

"คุณไม่ใช่เสี่ยอ๋า"

ปากอิ่มพูดด้วยท่าทางอึ้งเล็กน้อย

"ก็ไม่ใช่"

ทิวสนมองเธอด้วยแววตานิ่งสนิท คล้ายจะไล่ไต่สำรวจท่าทีหญิงสาวอย่างไม่รีบร้อน

เสียงทุ้มต่ำจึงดังขึ้นช้า ๆ

“ฉันนึกว่าผู้หญิงที่ยายดวงแก้วชมไม่ขาดปาก จะมีวิธีขอความช่วยเหลือที่ต่างจาก...ราคาค่าตัว

วันนั้นเธอได้จากยายฉันไปเยอะแล้ว ยังต้องขายอีกเหรอ?”

ประโยคถูกเปล่งออกมาด้วยโทนนุ่มเย็น

ไม่ประชด ไม่เหน็บแนม แต่เฉือนลึกพอให้เลือดในอกคนฟังไหลย้อน

จันทร์เสี้ยวเม้มปากแน่น พยายามตั้งหลัก

แม้ในอกจะปั่นป่วนราวคลื่นฝนที่ถาโถม

เธอสูดหายใจลึก ก่อนเงยหน้าขึ้นอย่างไม่หลบสายตา

“บางทีชีวิตคนเราก็ไม่ได้ยาก...แต่ก็ไม่ได้ง่ายเลยค่ะ

ถ้าวันนั้นฉันเลือกรับเงินจากคุณยายดวงแก้ว

ผู้หญิงที่ยืนตรงนี้ในคืนนี้ จะไม่มีทางชื่อ จันทร์เสี้ยว”

น้ำเสียงอ่อนโยน แต่เน้นหนัก

“จันทร์ไม่เคยคิดว่าตัวเองมีค่าถึงขนาดเรียกราคา...

แต่วันนี้มันไม่มีทางเลือก”

เขานิ่ง ฟังอย่างไม่ขัดไม่แทรก

ดวงตาคมเฉียบยังจับจ้องราวกำลังวิเคราะห์หญิงสาวตรงหน้าอย่างละเมียดละไม

“ถ้าฉันไม่ใช่เสี่ยอ๋า เธอก็จะขายตัวให้ฉันอยู่ดีใช่ไหม?”

คำถามที่ทิ่มแทงยิ่งกว่ามีดเล่มไหน

เพราะมันคือความจริง

จันทร์เสี้ยวสะอึกไปชั่ววินาที

แต่เพียงครู่เดียว เธอก็คลี่ยิ้มบาง

ใบหน้างามไม่บิดเบือนด้วยความอับอายแม้แต่น้อย

“ถ้าการขายศักดิ์ศรีในคืนนี้ จะช่วยชีวิตคนที่ฉันรักได้...

หนูก็ยอมค่ะ

ต่อให้ต้องแลกด้วยวิญญาณ แร่เนื้อ เถือหนัง...ก็ยินดีค่ะ

คำตอบแลกเปลี่ยนกันตรงไปตรงมา

บรรยากาศในห้องอัดแน่นด้วยสิ่งที่มองไม่เห็น แต่รู้สึกได้

ทิวสนกระตุกยิ้มเพียงมุมปาก

“เข้าใจแล้ว...”

เขาลุกขึ้นจากโซฟา เดินวนรอบเธอช้า ๆ พลางเอ่ย

“แต่ราคาค่าความสาวของผู้ชายคนแรกของเธอ...

มันอาจจะแพงกว่าสี่แสนก็ได้นะ จันทร์เสี้ยว”

เสียงทุ้มเย็นกระซิบชิดใบหู

ราวกับมีดปลายคมเย็นเฉียบ กรีดบางเบาแต่ลึกสุดใจ

"ฉันตกลงเงื่อนไขที่เธอว่า

ถ้าอย่างนั้น...เธอมาเริ่มขายวิญญาณของเธอซะ"

เสียงน้ำเย็นเฉียบไหลผ่านกาย

ราวกับร่างเปลือยเปล่าที่ไร้หัวใจ...

ต่อให้พร่ำบอกตัวเองเช้าค่ำว่าทำเพื่อคนที่รัก

แต่ลึกลงไป เธอก็อดถามตัวเองไม่ได้...

สิ่งที่กำลังทำอยู่...มันถูกต้องจริงหรือ?

มันจะผ่านไป จันทร์เสี้ยว...

ร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดคลุมอาบน้ำ

จันทร์เสี้ยวนั่งลงช้า ๆ ตรงพื้นกระเบื้องใกล้ขาของเขา ที่กำลังนั่งทอดกายบนโซฟา เยี่ยงนางทาสคอยรับใช้ผู้เป็นนาย

สายตาคมมองเธอที่เอียงอายไม่เป็นงาน

หรือที่บอกว่าครั้งแรกคือเรื่องจริง!!! ทิวสนเริ่มลังเลว่าเรด้าร์ในการพินิจผู้หญิงของตนเองพังพินาศเสียแล้ว ถึงขนาดแยกเด็กสาวผู้ใสซื่อกับนางยั่วสวาทไม่ออก

"ไม่เคย"เสียงทุ้มต่ำเอ่ย 

"ก็จันทร์บอกเสี่ยแล้วว่าไม่เคยค่ะ"ปากอิ่มตอบ

"ฉันสอนเธอเอง"

สิ้นเสียงทุ้มนุ่ม นิ้วเย็นพลางเชยคางมนให้แหงนหน้าสบดวงตาคมเข้มแฝงด้วยอิทธิพล 

ใบหน้าคมเข้ม คิ้วดกดำ ผมที่ไม่ถูกจัดให้เป็นทรงแต่กลับดูดีมาก จมูกคม และสายตาที่เขามองเธอในคืนนี้ มันช่าง...

'ถึงว่าผู้หญิงทุกคนล้วนต้องการเขามากกว่าเงิน'

เธอแทบจะหลอมละลายราวกับน้ำแข็งใต้แสงเทียน

'ไม่นะจันทร์เสี้ยว ห้ามเผลอใจกับเขา '

'อย่าลืมว่าห้ามหลงรักเขา'

เพียงสายตานี้ ใจของจันทร์เสี้ยวเต้นเสียจนจะออกมานอกกาย

ใบหน้าหล่อคมโน้มเข้าใกล้ เธอรู้ได้ทันทีต่อไปต้องเจอกับอะไร

“เขาจะจูบฉัน”

หัวใจเต้นกระหน่ำราวกับมันเองก็ตื่นเต้นยิ่งกว่าเจ้าของ

 เขาโน้มตัวลงทาบริมฝีปากทว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่หลบเลี่ยงเธอยินยอม จันทร์เสี้ยวไม่ถอย ไม่เอ่ยคำใด ไม่แม้แต่จะกะพริบตา สายตาเธอมีเพียงเงาสะท้อนของเขา

แล้วสัมผัสแรกก็เกิดขึ้น

ไม่ใช่การทาบทับอย่างรุกราน แต่เป็นการขโมยลมหายใจด้วยริมฝีปากที่เฉียดผ่านอย่างจงใจ 

วินาทีต่อมา ความอ่อนโยนนั้นก็กลับกลายเป็นแรงดึงดูดอันดิบเถื่อน เมื่อเขากดจูบลงมาเต็มแรง ปลายนิ้วที่เคยแตะคางอย่างสุภาพ เปลี่ยนมาโอบกระชับท้ายทอย บังคับให้เธอรับรู้ว่า 

“เขาไม่ขอ... เขาแค่เอาแต่ใจ”

แต่ประหลาดเหลือเกิน เธอกลับไม่รู้สึกต่อต้าน สิ่งที่ควรจะผลักไสกลับทำให้หัวใจเต้นระรัวจนเจ็บไปทั้งอก

ลมหายใจของจันทร์เสี้ยวขาดห้วง เธอไม่มีเวลาคิดว่าความถูกผิดคืออะไร รสสัมผัสอุ่นจัดที่บดเบียดนั้นกำลังเผาผลาญศักดิ์ศรีทุกหยดไปทีละน้อย... แต่หัวใจกลับเต้นแรงราวกับเพิ่งถูกปลุกให้ตื่นขึ้นเป็นครั้งแรก

แขนแกร่งยกร่างบางลอยหวือขึ้นมานั่งบนตัก 

เสียงในหัวของเธอก็ร้องประท้วงปนสับสน

“ฉันควรหยุดเขาไหม?”แต่แขนขาของเธอกลับอ่อนแรงเกินกว่าจะขยับอุณหภูมิอุ่นจัดจากกายชายตรงหน้าไหลซึมเข้ามาในผิวหนัง

มือแกร่งกระตุกสายผูกชุดคลุมจนหลุดออกจากกายจันทร์เสี้ยวถึงกับหน้าแดงจัดราวลูกตำลึงสุกงอม

ไม่ขัดขืน แต่ไม่กล้าสบสายตาคมคู่นั้นที่จ้องเธออย่างเปิดเปลือย

อากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศแตะต้องผิวกายเปลือยเปล่า ความวาบหวิวแล่นพล่านไปทั้งร่าง เธอจึงโน้มตัวเข้าไปซุกซบ อิงแอบแนบชิดซ่อนเร้นตัวเองไว้กับไออุ่นของเสี่ยอย่างไม่รู้ตัว

ไออุ่นจากกายเขากลายเป็นที่พึ่งพิงเดียวในโลกความวาบหวิวทำให้เธอลืมหายใจ ลืมความเหมาะสม ลืมแม้แต่ศักดิ์ศรีที่เธอเคยยึดมั่น

“นี่ฉัน… เป็นแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่”

เมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาแตะลงบนผิวเนื้อเสียงในหัวเธอก็อื้ออึงจุดหมายของเขาชัดเจนเกินกว่าที่เธอจะปฏิเสธ

เขาเริ่มทาบจูบอีกครั้ง มือหนาวางโอบกลางแผ่นหลัง เลื่อนไต่มาโอบกระชับท้ายทอยให้คนบนตักเอนนอนราบบนโซฟา

แต่แล้ว...

“ทำไมถึงอ่อนโยนขนาดนี้…”ความขัดแย้งถาโถม เธอทั้งอยากหลีกหนีและอยากหลอมละลายไปในอ้อมแขนนั้นความรู้สึกที่ไม่เคยมีใครทำให้เธอรู้สึกมาก่อน

จันทร์เสี้ยวสัมผัสได้เมื่อคนข้างบนก้มลงไซร้คอเธอเบา ๆ ลมหายใจอุ่นร้อนจนผิวกายสะท้าน

เธอหลับตาพริ้ม จมูกคมเลื่อนต่ำลงลมหายใจที่ร้อนผ่าวสัมผัสเนินอวบละมุนตึงแน่นอย่างละเมียดละไม

ปลายนิ้วไล้ไปตามเนินอวบอิ่มที่ว่างเว้นจากรสสัมผัส

เขาก้มต่ำลงเรื่อย ๆ จุดหมายกลีบดอกกุหลาบงาม เขาใช้มือจับแยกขาเรียวออก เผยดอกกุหลาบสีชมพู มีหยาดน้ำค้างที่เป็นผลจากการปลุกเร้าทอดตัวเป็นหลักฐาน

“… ทำแบบนี้กับฉัน…”

จันทร์เสี้ยวเขินอายอยากเอามือปิด

 ขณะที่เธอตะลึงกับการสัมผัสลึกที่พาดผ่านกลีบดอกกุหลาบอย่างอ่อนละมุน

เนิบนาบ เปลี่ยนเป็น สั่นไหว 

จันทร์เสี้ยวไม่อาจต้านทานความต้องการของร่างกาย ความสั่นไหวที่เขามอบให้ เธอถึงกับเคลื่อนเอวรับอย่างลืมตัวร่างบางเอนไหวสะท้านเพราะความรู้สึกแปลกใหม่

ทิวสนสังเกตว่าร่างเปลือยเปล่าตอบสนองความวาบหวิวที่ตนมอบให้จึงใหัเธอทำให้เขาพึงพอใจบ้าง

"เธอทำให้ฉันพึงใจ" เสียงทุ้มต่ำ

เขาเปลี่ยนขยับไปนั่งทิ้งกายบนโซฟา

ร่างเปลือยเปล่าลุกขึ้น แกะกระดุมทีละเม็ดถอดเสื้อเชิ้ตสีดำออก เผยผิวเนียนกล้ามร่องอกแข็งแกร่งมีเหงื่อซึมเล็กน้อย

ต่อมาเธอแกะเข็มขัดและปลดกระดุมตรงหน้าท้องน้อย ค่อย ๆ รูดซิปกางเกง เสี่ยยอมให้เธอถอดง่ายดาย เหลือกางเกงตัวน้อยเป็นรูปเด่นชัดเผยว่าสิ่งของภายในตื่นตัวเต็มกำลัง

สองมือบางถกถึ้งกางในออก 

'ฉันจะทำอย่างไรให้เขาพอใจได้'เธอที่เบือนหน้าหนีเจ้ามังกรเพราะเหนี่ยมอาย

อยากได้เงิน เพื่อน้อง 

"เอาวะ เสี้ยวจันทร์"

เธอหันมาสบสายตาคมคู่นั้นที่กำลังมองว่าเธอจะเอาใจเขาอย่างไร

นิ้วเย็นเยียบแตะสัมผัสแก่นกายลุกผงาดก่อนหน้าแล้ว

"อุ่น จัง"เธอคิดในใจพลางกอบกุมให้ถนัดมือ ใบหน้าร้อนผ่าว 

มือหนาวางทาบทับมือของจันทร์เสี้ยว ขยับเป็นจังหวะ ขั้นลงก่อนปล่อยให้เธอทำเอง

"อา  อา"เสียงทุ้มต่ำเบาจากใบหน้าคมเข้มเป็นสัญญาณว่าเธอมาถูกทาง

เธอดีใจที่ตนเริ่มสร้างความพอใจให้คนตรงหน้าส่งเสียงออกมา

มือยังจับขยับเป็นจังหวะไม่ขาดห้วง พลางพาดชิมรสสวาทสัมผัสลึก จากไล้ข้างล่างถึงยอดความเย็นแข็ง

"อืม  อา อา"

"แปลกจังทั้งที่เธอไม่ประสาไม่เจนสนามเหมือนทุกคนที่นอนด้วย แต่เธอกลับปลุกไฟในกายฉันแทบจะทะลักตลอดเวลา"

"ไม่ไหวแล้ว ฉันอยาก"เสียงทุ้มนุ่ม

"ตรงลิ้นชักนั้นมีถุงยาง กับเจล"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลงเด็กบำเรอใจ   30 มากกว่าสิ่งใด

    เช้าวันนี้ทิวสนเดินทางไปทำงานทั้งที่เมื่อคืนป่วยหนัก ใจเขาไม่อยากทิ้งภรรยาคนงามไว้ที่บ้านเพียงลำพัง แต่ด้วย โครงการเร่งด่วน บีบบังคับให้เขาพากายที่ไร้หัวใจเข้าประชุมพนักงานทุกฝ่ายเข้าประชุมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อได้เผลอทำในสิ่งที่เจ้านายไม่ได้สั่งและปิดบังจนเรื่องบานปลาย หัวหน้าโครงการนั่งตัวเกร็งเหงื่อตกเปิดหาเอกสารด้วยอาการร้อนรน"นี่ครับ คุณทิวสนเอกสารที่คุณต้องการ"มือที่ยื่นแฟ้มเอกสารให้ผู้เป็นนายด้วยอาการสั่นเทาเล็กน้อย ก่อนจะปาดเหงื่อบนใบหน้า สายตาคมเข้มรอบมองลูกน้องอย่างเงียบ ๆ ก่อนเอ่ยประโยคที่ทำให้พนักงานในห้องประชุมถึงกับงงกันเป็นแถว "ในเมื่อผิดพลาดไปแล้ว ก็ต้องรีบแก้ไข วันนี้ทุกคนคงต้องอยู่ทำงานจนดึก เดี๋ยวให้ฝ่ายบุคคลสั่งอาหารเย็นให้ วันนี้พอแค่นี้ไปทำงานเถอะ"ทิวสนในสายตาลูกน้องคือคนเคร่งคัดเป็นระเบียบ ดุ จริงจังกับการทำงานห้ามผิดพลาดและบทลงโทษสำหรับคนผิดพลาดนั้น ทุกคนต่างพากันหวาดกลัวเป็นที่สุด กร ถอนหายใจทันทีที่หลังพ้นประตูห้องประชุม สำหรับเขาแล้วมันคือขุมนรกที่มัจจุราชกำลังพิพากษาตัดสินโทษแก่ดวงวิญญาณผู้ได้พลั้งมือฆ่าคน "นึกว่าจะโดนไล่ออกซะแล้ว""นั่นสิ สาธุ ศั

  • หลงเด็กบำเรอใจ   ตอนที่29ฝันร้ายกลายเป็นดี

    ใบหน้าหล่อคมเต็มด้วยรอยช้ำ เสี่ยงเพ้อหลุดจากปากปลุกให้ร่างอวบอิ่มตกใจตื่นขึ้นมา"คุณทิวสน คุณทิวสนคะ"เธอเอ่ยเรียกด้วยอาการกึ่งหลับกึ่งตื่น ทว่าคนที่เธอเอ่ยปากเรียกกลับไร้เสียงตอบรับ แถมยังเพ้อไม่หยุด จันทร์เสี้ยวสลัดความง่วงที่เกาะกุมให้หลุดก่อนใช้มือไปสัมผัสตัวเขาพลางเขย่าเบา ๆ นอนอะไรขนาดนั้น เรียกก็แล้ว เขย่าก็แล้ว เธอนึกโมโหในใจ มือเรียวจึงคว้าเปิดๆหัวเตียงก่อนขยับลุกขึ้นนั่ง ตั้งท่าจะไปบ่นให้เขาเสียเต็มที่ ทว่าใบหน้าหล่อเหลาบัดนี้ซีดเซียวราวกับไก่ต้ม เธอใช้มืออังวัดไข้ เพียงสัมผัสบางเบาก็รับรู้ได้ถึงความร้อนระอุเธอจึงรีบลุกจากเตียงเดินตรงไปยังห้องแต่งตัว เปิดหาผ้าขนหนูผืนเล็กสำหรับเช็ดตัว ไม่นานเธอกลับออกมาในมือถือถังใส่น้ำอุ่นและกระเป๋ายาเดินตรงมายังเตียง เปิดกล่องยาใช้เครื่องวัดไข้ วัดที่หน้าผากเขาหน้าจอแสดงผลอุณหภูมิสูงถึงสามสิบเก้าองศา ไข้สูงเชียว ทำไมฉันต้องมาดูแลคนที่ทิ้งฉันไปด้วย แต่ช่างเถอะพรุ่งนี้ยังไงฉันก็จะไปจากที่นี่แล้ว แค่ตอนนี้ช่วยเหลือถือซะว่าเอาบุญ ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งนั้น ท่องไว้ จันทร์เสี้ยวเมื่อนึกได้ดังนั้นเธอจึงเริ่มลงมือเช็ดตัวให้เขาจนไข้ลดลง ความเ

  • หลงเด็กบำเรอใจ   ตอนที่28.ไม่ปล่อยเธอ 2

    "คุณเห็นจันทร์เป็นอะไร" มือบางที่กำแน่น...มันแน่นจนตัวเธอเองก็รับรู้ได้ถึงรอยเล็บที่ฝังลงบนเนื้อตัวเอง ทุบไปยังไหล่เขา ที่บัดนี้ไม่ยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระความเจ็บคอยย้ำเตือนตนเองภายในใจ...เจ็บตอนนี้ดีกว่ากลับมาอยู่ในสถานะเขารักก็ดีด้วย พอไม่รักเขาก็ไม่เห็นค่า..."โอ๊ย"ใบหน้าคมถึงกับนิวหน้า ราวกับว่าโดนของมีคมแทงทะลุเนื้อไหล่เขา เลือดค่อย ๆ ซึมทะลุชุดนอน"คุณเป็นอะไรคะ ทำไมถึงมีเลือด" เธอรีบปลดกระดุมเสื้อเพื่อดูที่มาของเลือดเขาไม่ตอบกับเพียงยิ้มที่เห็นคนบางคนเมื่อกี้ยังต่อว่าเขาอยู่ พอเห็นว่าเขาไม่สบายกลับแสดงอาการเป็นห่วงทันทีที่ปลดเปลื้องเสื้อออกเผยให้เห็นท่อนบนที่เปลือยเปล่ากล้ามเนื้อเป็นลอนที่เธอคุ้นเคย เลือดแดงฉานซึมทะลุผ้าปิดแผลเพราะเธอเป็นคนทำ"แผลน่าจะปริ ไปหาหมอเถอะค่ะ"เธอที่ทำเตรียมจะลุกพาเขาไปหาแต่มือหนายังคงรั้งเอวบางไว้ในอ้อมแขน"ไม่ต้องไปหรอก...แค่หนูห่วงใยพี่แผลนี้ก็หายแล้ว"คำที่เขาเอ่ยออกมามันทำให้ใจของเธอราวกับดอกไม้แห้งเฉาได้รับน้ำจากคนสวน สดชื่นแต่ต้องรอคอย ซึ่งเธอไม่อยากเฝ้ารอการดูแลจากใครอีก เธออยากเป็นดอกไม้ที่เติบโตข้างริมน้ำ"แค่วันนี้เท่านั้นค่ะ พรุ่งนี้จั

  • หลงเด็กบำเรอใจ   ตอนที่27.ไม่ปล่อยเธอ

    บรรยากาศภายในรถปกคลุมไปด้วยความเงียบ มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ดัง สายตาคู่งามมองทอดออกไปนอกบานกระจกรถ ใจอยากให้ถึงบ้านเสียเร็ว ๆ ไม่ต้องทนอยู่กับซาตานน้ำแข็งเช่นเขา ถึงแม้ว่าช่วงนี้ท่าทีของเขาแปลกไป อ่อนโยนขึ้น เธอก็ไม่อาจคาดเดาความคิดเขาได้ว่าจะระเบิดความเคียดแค้นใส่เธออีกตอนไหน ทว่าวันนี้เขาขับช้ากว่าปกติ ยิ่งกินอิ่มท้องผนวกกับความเย็นของเครื่องปรับอากาศเธอรู้สึกสบายตัวจนไม่อาจต้านทานความง่วง ผล็อยหลับไปในที่สุด สายตาคมลอบมองเธอลมหายใจที่ดังสม่ำเสมอจากร่างบางที่บัดนี้อวบขึ้นเล็กน้อยกำลังนอนหลับตาพริ้มแก้มเนียนอมชมพู ในขณะเดียวกัน มือหนารีบประคองใบหน้างามที่กำลังเอนตกจากการหลับลึกให้อยู่ในท่าที่นอนสบาย อย่างเบามือ อย่างเกรงกลัวว่าเจ้าของความงามนี่จะตื่น เปรียบดั่งรักษาน้ำหยุดสุดท้ายที่มีในมือไม่ให้ร่วงหายไป ทว่ามือบางกลับไม่ยอมปล่อยแขนของเขาให้เป็นอิสระเธอดึงรั้งเอาไว้ก่อนขยับตัวเข้าหากอดแขนของเขาแน่นยิ่งกว่าเชือกที่ผูกตาย...ไม่สามารถหาทางแก้ได้ "คนใจร้าย..."เสียงหวานพร่ำเพ้อพูดในขณะที่ยังหลับ แม้ยามหลับฝันเธอยังต่อว่าเขาขนาดนี้ นับประสาอะไรกับตอนตื่นเธอต้องไม่ให้อภ

  • หลงเด็กบำเรอใจ   ตอนที่26.ความจริงปรากฏ

    บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความเงียบชั่วขณะ ทุกคนทานข้าวอย่างเงียบ ๆ อย่างรอคอยคำตอบ ของจันทร์เสี้ยว "แต่ยายว่ามันคือข่าวดีสำหรับบ้านของเรานะลูก ไม่ผิดแน่นอน อาการของทิวสนเหมือนคุณตาตอนที่ยายตั้งครรภ์แม่เข็ม และเหมือนพ่อไผ่ตอนที่แม่มะลิตั้งครรภ์ทิวสน บ้านเรามันเป็นกรรมพันธุ์สามีแพ้ท้องแทนภรรยา" "ตอนนี้ทิวสนเหมือนตาสมัยหนุ่ม ๆ ง่วงนอนท้้งวัน แถมทานต้มกล้วยอีกอาการชัดขนาดนี่" "วันนี้ข่าวดีจริง ๆ อยู่ที่นี่กับตาและยายนะจันทร์เสี้ยว ไม่ต้องไปไหน ส่วนใครมันไม่ยอมรับอะไร ก็ปล่อยมันไป ตาเลี้ยงเองเหลนคนนี้" "ค่ะ ขอบคุณสำหรับความรักที่คุณตาและคุณยายมอบให้จันทร์นะคะ แต่จนไม่อาจทนอยู่ในที่มองว่าจันทร์ทำผิดได้ ให้ฉันไปเริ่มต้นชีวิตใหม่เถอะนะคะ หนูขอร้อง" "เด็กต้องเกิดท่ามกลางสายตาคนเป็นพ่อที่ไม่ยอมรับแม่ของเขามันโหดร้ายเหลือเกิน....สำหรับผ้าขาวหนึ่งผืน" ไม่เป็นไรเลยนะลูกแม่สามารถเลี้ยงลูกได้ เธอสื่อสารกับลูกในท้อง การแต่งงานครั้งนี้ค่าสินสอดแต่งงาน ยายของเธอไม่เรียกร้องสักบาท ขอเพียงเขาดูแลเธอเท่านั้นเอง ทว่าในเมื่อมันไปต่อไม่ได้ ถอยออกมาย่อมดีกว่า เงินค่าสินสอดที่เธอได้พอทำให้เธอยกฐานะจากหาเช้

  • หลงเด็กบำเรอใจ   ตอนที่25. เธอท้องใช่ไหมจันทร์เสี้ยว

    หลังจากหย่าทิวสนคิดว่าตนเก่ง เพราะเขาเคยได้รับวัคซีนทางใจมาแล้วจากภรรยาคนเดิม พอแต่งอีกครั้ง มันยังผิดหวังอีก เขาจึงมองว่ามันเป็นแค่จุดเปลี่ยนของชีวิตเวลาผ่านไปสองเดือน เขากลับหวนคิดถึงแววตานั้นอีกครั้ง นี่นายเป็นอะไร แค่เด็กขายตัวคนเดียว ที่เปลี่ยนมาเป็นเมียแต่งแค่ไม่กี่คืน จะคิดถึงทำไม นายนอนกับผู้หญิงมาตั้งเท่าไหร่ แต่ทว่าตั้งแต่เลิกกับเธอไป...เขาไม่เคย ซื้อใครอีกเลย เขาเลือกที่จะทำงานหนักในทุกวันเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นกลบความคิดถึงที่กำลังก่อตัวอย่างเงียบ ๆ ให้ดับวูบในทันที กิตตินำกาแฟมาเสริฟเขาตามเช่นเคยในทุกวัน"อเมริกาโน่ครับ"เอาออกไปเลย เหม็นจนเวียนหัวจะอ้วกเขาเอามืออุดจมูก พร้อมเดินเข้าไปยังห้องส่วนตัวที่คล้ายกลับยกบ้านมาไว้ที่ทำงาน "นายเลื่อนประชุมหน่อยนะ ฉันไม่สบาย"เขาพูดพลางล้มตัวลงนอนที่โซฟาหลับยาวตั้งแต่สิบเอ็ดโมงถึงสี่โมงเย็นเขาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเวียนหัวอยู่ดี ง่วงนอน อยากทานของดอง...เขานึกพลางคิดว่าจะไปทานที่ไหนได้"กลับโรงแรม หรือคอนโดครับ"กิตติเตรียมตัวเก็บของและขับรถไปส่งผู้เป็นนาย"กลับบ้านสวน"เขาเอ่ยพร้อมเดินผ่านห้องพักพนักงาน ได้กลิ่นบางอย่าง เขา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status