ท้องฟ้าปล่อยหยาดเม็ดฝนพร่างพราวลงมา เสียงฟ้าผ่าเปรี้ยง ไม่ใช่ในนภาลอยคลื่นเมฆ แต่เป็นฝนตกในใจเธอ
ก็อก ก็อก ก็อก
"ขออนุญาตเข้าไปค่ะ"
"เชิญครับ"
เขาผู้ที่นั่งทอดกายรอลูกน้องพาหญิงสาวมาส่ง แปลกใจอย่างมาก ที่ผู้มาเยือนขออนุญาตก่อนเข้าห้อง
ในเมื่อเธอพูดเพราะมา เขาจึงตอบกลับด้วยมารยาท
จันทร์เสี้ยวเดินไปยังห้องนั่งเล่นที่เสี่ยนั่งอยู่
แสงสลัวของดวงจันทร์ถูกเมฆดำบดบัง มองคนตรงหน้าสุดแสนเลือนลาง
เสี่ยอ๋าไม่เหมือนที่เธอจินตนาการเลย ไม่อ้วนพุงพลุ้ย ไม่เตี้ยด้วยกลับดูหนุ่มแน่น แม้มองไม่ถนัด แต่หล่อเหล่าเอาการเชียว
ไม่รู้ควรหรือไม่ แต่เธอต้องพูดให้ชัดเจน
"เสี่ยคะ หนูทราบดีว่าเสี่ยไม่ชอบให้คนที่มานอนด้วยหลงรัก"
"มันจะไม่เกิดขึ้นกับหนูแน่นอน" เสียงหวานพูดออกตัว กลัวว่าเสี่ยจะคิดว่าเธอเป็นเหมือนคนอื่น
"หนูมาเพื่อต้องการเงิน"
เสียงเรียบนุ่มระคนหนักแน่น เอ่ยตรง ๆ ให้คนตรงหน้ารู้ถึงจุดประสงค์ของการมาครั้งนี้อย่างชัดเจน
"นี่เป็นครั้งแรกของหนู"
"เสี่ยจะให้หนูเท่าไหร่คะ?"
"เธออยากได้เท่าไหร่?"
ตั้งแต่ซื้อกิน เขาไม่เคยต่อรองราคากับผู้หญิงคนไหนเลย
ทุกคนที่มาล้วนพุ่งเป้าที่ตัวเขา หวังครองใจเป็นคุณนาย ส่วนค่าตอบแทน...ไม่เคยเรียกถาม
"สี่แสนค่ะ"
"เธอตีค่าตัวเองสูงไปหน่อยไหม?"
แววตาคมเข้มนั่งมองแก้วเหล้าในมือ พลางถามหญิงสาวที่ตั้งราคาตนเองสูงลิ่ว
"เสี่ยจะให้หนูเท่าไหร่คะ?"
เสียงเรียบนุ่มยังคงหนักแน่น แม้ในใจหวั่นเกรงกลัวไม่ได้ในสิ่งที่หวัง
"หนูขอยืมก็ได้ค่ะ เขียนสัญญาก็ได้ จะให้ชดใช้ด้วยเงิน หรือตัวก็ยอม"
เธอโยนหินถามทางตามแผนสำรอง ใช้ความสาวเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
"เท่าไหร่ก็ได้ที่เธอต้องการ...
หากฉันเป็นผู้ชายคนแรกของเธอจริง ๆ"
เสียงเข้มทุ่มต่ำพูดพลางหันมามองร่างบางตรงหน้า
เพราะความมืด เขาจึงยังไม่ทราบว่าเธอคือใคร
ที่ผ่านมา เขาเจอแต่ผู้หญิงที่บอกว่า 'ไม่เคย' แต่เจนสนามกันทุกคน
เขาก็อยากรู้ว่าเธอจะโกหกไหม ถึงกล้าเรียกร้องเงินเยอะขนาดนี้
"จริงเหรอคะเสี่ย... จันทร์เสี้ยวขอบคุณเสี่ยจากใจจริงเลยนะคะ"
จันทร์เสี้ยว — ชื่อนี้เขาเพิ่งเจอไปเมื่อไม่กี่วันก่อน
พรึ่บ~
เสียงกดรีโมต ไฟทั้งห้องสว่างวาบ มองเห็นทุกอย่างในห้องอย่างทะลุปรุโปร่ง
และยิ่งกว่านั้น เผยให้เห็นใบหน้าเขาอย่างเต็มตา
จันทร์เสี้ยวหรี่ตาเพราะยังปรับสายตาไม่ได้ ก่อนเบิกกว้าง
เขาคือ... หลานคุณยายดวงแก้ว
เขาไม่ใช่เสี่ยอ๋า!
ทิวสนใช้สายตาคมมองหญิงสาวที่มายืนอยู่ตรงหน้า ในฐานะ...สาวขายบริการ
"เธอ..."
เสียงเรียบทุ้มต่ำ แม้ตกใจแต่ไม่เผยอาการสักเสี้ยว สีหน้าเรียบเฉย
"คุณไม่ใช่เสี่ยอ๋า"
ปากอิ่มพูดด้วยท่าทางอึ้งเล็กน้อย
"ก็ไม่ใช่"
ทิวสนมองเธอด้วยแววตานิ่งสนิท คล้ายจะไล่ไต่สำรวจท่าทีหญิงสาวอย่างไม่รีบร้อน
เสียงทุ้มต่ำจึงดังขึ้นช้า ๆ
“ฉันนึกว่าผู้หญิงที่ยายดวงแก้วชมไม่ขาดปาก จะมีวิธีขอความช่วยเหลือที่ต่างจาก...ราคาค่าตัว
วันนั้นเธอได้จากยายฉันไปเยอะแล้ว ยังต้องขายอีกเหรอ?”
ประโยคถูกเปล่งออกมาด้วยโทนนุ่มเย็น
ไม่ประชด ไม่เหน็บแนม แต่เฉือนลึกพอให้เลือดในอกคนฟังไหลย้อน
จันทร์เสี้ยวเม้มปากแน่น พยายามตั้งหลัก
แม้ในอกจะปั่นป่วนราวคลื่นฝนที่ถาโถม
เธอสูดหายใจลึก ก่อนเงยหน้าขึ้นอย่างไม่หลบสายตา
“บางทีชีวิตคนเราก็ไม่ได้ยาก...แต่ก็ไม่ได้ง่ายเลยค่ะ
ถ้าวันนั้นฉันเลือกรับเงินจากคุณยายดวงแก้ว
ผู้หญิงที่ยืนตรงนี้ในคืนนี้ จะไม่มีทางชื่อ จันทร์เสี้ยว”
น้ำเสียงอ่อนโยน แต่เน้นหนัก
“จันทร์ไม่เคยคิดว่าตัวเองมีค่าถึงขนาดเรียกราคา...
แต่วันนี้มันไม่มีทางเลือก”
เขานิ่ง ฟังอย่างไม่ขัดไม่แทรก
ดวงตาคมเฉียบยังจับจ้องราวกำลังวิเคราะห์หญิงสาวตรงหน้าอย่างละเมียดละไม
“ถ้าฉันไม่ใช่เสี่ยอ๋า เธอก็จะขายตัวให้ฉันอยู่ดีใช่ไหม?”
คำถามที่ทิ่มแทงยิ่งกว่ามีดเล่มไหน
เพราะมันคือความจริง
จันทร์เสี้ยวสะอึกไปชั่ววินาที
แต่เพียงครู่เดียว เธอก็คลี่ยิ้มบาง
ใบหน้างามไม่บิดเบือนด้วยความอับอายแม้แต่น้อย
“ถ้าการขายศักดิ์ศรีในคืนนี้ จะช่วยชีวิตคนที่ฉันรักได้...
หนูก็ยอมค่ะ
ต่อให้ต้องแลกด้วยวิญญาณ แร่เนื้อ เถือหนัง...ก็ยินดีค่ะ
คำตอบแลกเปลี่ยนกันตรงไปตรงมา
บรรยากาศในห้องอัดแน่นด้วยสิ่งที่มองไม่เห็น แต่รู้สึกได้
ทิวสนกระตุกยิ้มเพียงมุมปาก
“เข้าใจแล้ว...”
เขาลุกขึ้นจากโซฟา เดินวนรอบเธอช้า ๆ พลางเอ่ย
“แต่ราคาค่าความสาวของผู้ชายคนแรกของเธอ...
มันอาจจะแพงกว่าสี่แสนก็ได้นะ จันทร์เสี้ยว”
เสียงทุ้มเย็นกระซิบชิดใบหู
ราวกับมีดปลายคมเย็นเฉียบ กรีดบางเบาแต่ลึกสุดใจ
"ฉันตกลงเงื่อนไขที่เธอว่า
ถ้าอย่างนั้น...เธอมาเริ่มขายวิญญาณของเธอซะ"
เสียงน้ำเย็นเฉียบไหลผ่านกาย
ราวกับร่างเปลือยเปล่าที่ไร้หัวใจ...
ต่อให้พร่ำบอกตัวเองเช้าค่ำว่าทำเพื่อคนที่รัก
แต่ลึกลงไป เธอก็อดถามตัวเองไม่ได้...
สิ่งที่กำลังทำอยู่...มันถูกต้องจริงหรือ?
มันจะผ่านไป จันทร์เสี้ยว...
ร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดคลุมอาบน้ำ
จันทร์เสี้ยวนั่งลงช้า ๆ ตรงพื้นกระเบื้องใกล้ขาของเขา ที่กำลังนั่งทอดกายบนโซฟา เยี่ยงนางทาสคอยรับใช้ผู้เป็นนาย
สายตาคมมองเธอที่เอียงอายไม่เป็นงาน
หรือที่บอกว่าครั้งแรกคือเรื่องจริง!!! ทิวสนเริ่มลังเลว่าเรด้าร์ในการพินิจผู้หญิงของตนเองพังพินาศเสียแล้ว ถึงขนาดแยกเด็กสาวผู้ใสซื่อกับนางยั่วสวาทไม่ออก
"ไม่เคย"เสียงทุ้มต่ำเอ่ย
"ก็จันทร์บอกเสี่ยแล้วว่าไม่เคยค่ะ"ปากอิ่มตอบ
"ฉันสอนเธอเอง"
สิ้นเสียงทุ้มนุ่ม นิ้วเย็นพลางเชยคางมนให้แหงนหน้าสบดวงตาคมเข้มแฝงด้วยอิทธิพล
ใบหน้าคมเข้ม คิ้วดกดำ ผมที่ไม่ถูกจัดให้เป็นทรงแต่กลับดูดีมาก จมูกคม และสายตาที่เขามองเธอในคืนนี้ มันช่าง...
'ถึงว่าผู้หญิงทุกคนล้วนต้องการเขามากกว่าเงิน'
เธอแทบจะหลอมละลายราวกับน้ำแข็งใต้แสงเทียน
'ไม่นะจันทร์เสี้ยว ห้ามเผลอใจกับเขา '
'อย่าลืมว่าห้ามหลงรักเขา'
เพียงสายตานี้ ใจของจันทร์เสี้ยวเต้นเสียจนจะออกมานอกกาย
ใบหน้าหล่อคมโน้มเข้าใกล้ เธอรู้ได้ทันทีต่อไปต้องเจอกับอะไร
“เขาจะจูบฉัน”
หัวใจเต้นกระหน่ำราวกับมันเองก็ตื่นเต้นยิ่งกว่าเจ้าของ
เขาโน้มตัวลงทาบริมฝีปากทว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่หลบเลี่ยงเธอยินยอม จันทร์เสี้ยวไม่ถอย ไม่เอ่ยคำใด ไม่แม้แต่จะกะพริบตา สายตาเธอมีเพียงเงาสะท้อนของเขา
แล้วสัมผัสแรกก็เกิดขึ้น
ไม่ใช่การทาบทับอย่างรุกราน แต่เป็นการขโมยลมหายใจด้วยริมฝีปากที่เฉียดผ่านอย่างจงใจ
วินาทีต่อมา ความอ่อนโยนนั้นก็กลับกลายเป็นแรงดึงดูดอันดิบเถื่อน เมื่อเขากดจูบลงมาเต็มแรง ปลายนิ้วที่เคยแตะคางอย่างสุภาพ เปลี่ยนมาโอบกระชับท้ายทอย บังคับให้เธอรับรู้ว่า
“เขาไม่ขอ... เขาแค่เอาแต่ใจ”
แต่ประหลาดเหลือเกิน เธอกลับไม่รู้สึกต่อต้าน สิ่งที่ควรจะผลักไสกลับทำให้หัวใจเต้นระรัวจนเจ็บไปทั้งอก
ลมหายใจของจันทร์เสี้ยวขาดห้วง เธอไม่มีเวลาคิดว่าความถูกผิดคืออะไร รสสัมผัสอุ่นจัดที่บดเบียดนั้นกำลังเผาผลาญศักดิ์ศรีทุกหยดไปทีละน้อย... แต่หัวใจกลับเต้นแรงราวกับเพิ่งถูกปลุกให้ตื่นขึ้นเป็นครั้งแรก
แขนแกร่งยกร่างบางลอยหวือขึ้นมานั่งบนตัก
เสียงในหัวของเธอก็ร้องประท้วงปนสับสน
“ฉันควรหยุดเขาไหม?”แต่แขนขาของเธอกลับอ่อนแรงเกินกว่าจะขยับอุณหภูมิอุ่นจัดจากกายชายตรงหน้าไหลซึมเข้ามาในผิวหนัง
มือแกร่งกระตุกสายผูกชุดคลุมจนหลุดออกจากกายจันทร์เสี้ยวถึงกับหน้าแดงจัดราวลูกตำลึงสุกงอม
ไม่ขัดขืน แต่ไม่กล้าสบสายตาคมคู่นั้นที่จ้องเธออย่างเปิดเปลือย
อากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศแตะต้องผิวกายเปลือยเปล่า ความวาบหวิวแล่นพล่านไปทั้งร่าง เธอจึงโน้มตัวเข้าไปซุกซบ อิงแอบแนบชิดซ่อนเร้นตัวเองไว้กับไออุ่นของเสี่ยอย่างไม่รู้ตัว
ไออุ่นจากกายเขากลายเป็นที่พึ่งพิงเดียวในโลกความวาบหวิวทำให้เธอลืมหายใจ ลืมความเหมาะสม ลืมแม้แต่ศักดิ์ศรีที่เธอเคยยึดมั่น
“นี่ฉัน… เป็นแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่”
เมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาแตะลงบนผิวเนื้อเสียงในหัวเธอก็อื้ออึงจุดหมายของเขาชัดเจนเกินกว่าที่เธอจะปฏิเสธ
เขาเริ่มทาบจูบอีกครั้ง มือหนาวางโอบกลางแผ่นหลัง เลื่อนไต่มาโอบกระชับท้ายทอยให้คนบนตักเอนนอนราบบนโซฟา
แต่แล้ว...
“ทำไมถึงอ่อนโยนขนาดนี้…”ความขัดแย้งถาโถม เธอทั้งอยากหลีกหนีและอยากหลอมละลายไปในอ้อมแขนนั้นความรู้สึกที่ไม่เคยมีใครทำให้เธอรู้สึกมาก่อน
จันทร์เสี้ยวสัมผัสได้เมื่อคนข้างบนก้มลงไซร้คอเธอเบา ๆ ลมหายใจอุ่นร้อนจนผิวกายสะท้าน
เธอหลับตาพริ้ม จมูกคมเลื่อนต่ำลงลมหายใจที่ร้อนผ่าวสัมผัสเนินอวบละมุนตึงแน่นอย่างละเมียดละไม
ปลายนิ้วไล้ไปตามเนินอวบอิ่มที่ว่างเว้นจากรสสัมผัส
เขาก้มต่ำลงเรื่อย ๆ จุดหมายกลีบดอกกุหลาบงาม เขาใช้มือจับแยกขาเรียวออก เผยดอกกุหลาบสีชมพู มีหยาดน้ำค้างที่เป็นผลจากการปลุกเร้าทอดตัวเป็นหลักฐาน
“… ทำแบบนี้กับฉัน…”
จันทร์เสี้ยวเขินอายอยากเอามือปิด
ขณะที่เธอตะลึงกับการสัมผัสลึกที่พาดผ่านกลีบดอกกุหลาบอย่างอ่อนละมุน
เนิบนาบ เปลี่ยนเป็น สั่นไหว
จันทร์เสี้ยวไม่อาจต้านทานความต้องการของร่างกาย ความสั่นไหวที่เขามอบให้ เธอถึงกับเคลื่อนเอวรับอย่างลืมตัวร่างบางเอนไหวสะท้านเพราะความรู้สึกแปลกใหม่
ทิวสนสังเกตว่าร่างเปลือยเปล่าตอบสนองความวาบหวิวที่ตนมอบให้จึงใหัเธอทำให้เขาพึงพอใจบ้าง
"เธอทำให้ฉันพึงใจ" เสียงทุ้มต่ำ
เขาเปลี่ยนขยับไปนั่งทิ้งกายบนโซฟา
ร่างเปลือยเปล่าลุกขึ้น แกะกระดุมทีละเม็ดถอดเสื้อเชิ้ตสีดำออก เผยผิวเนียนกล้ามร่องอกแข็งแกร่งมีเหงื่อซึมเล็กน้อย
ต่อมาเธอแกะเข็มขัดและปลดกระดุมตรงหน้าท้องน้อย ค่อย ๆ รูดซิปกางเกง เสี่ยยอมให้เธอถอดง่ายดาย เหลือกางเกงตัวน้อยเป็นรูปเด่นชัดเผยว่าสิ่งของภายในตื่นตัวเต็มกำลัง
สองมือบางถกถึ้งกางในออก
'ฉันจะทำอย่างไรให้เขาพอใจได้'เธอที่เบือนหน้าหนีเจ้ามังกรเพราะเหนี่ยมอาย
อยากได้เงิน เพื่อน้อง
"เอาวะ เสี้ยวจันทร์"
เธอหันมาสบสายตาคมคู่นั้นที่กำลังมองว่าเธอจะเอาใจเขาอย่างไร
นิ้วเย็นเยียบแตะสัมผัสแก่นกายลุกผงาดก่อนหน้าแล้ว
"อุ่น จัง"เธอคิดในใจพลางกอบกุมให้ถนัดมือ ใบหน้าร้อนผ่าว
มือหนาวางทาบทับมือของจันทร์เสี้ยว ขยับเป็นจังหวะ ขั้นลงก่อนปล่อยให้เธอทำเอง
"อา อา"เสียงทุ้มต่ำเบาจากใบหน้าคมเข้มเป็นสัญญาณว่าเธอมาถูกทาง
เธอดีใจที่ตนเริ่มสร้างความพอใจให้คนตรงหน้าส่งเสียงออกมา
มือยังจับขยับเป็นจังหวะไม่ขาดห้วง พลางพาดชิมรสสวาทสัมผัสลึก จากไล้ข้างล่างถึงยอดความเย็นแข็ง
"อืม อา อา"
"แปลกจังทั้งที่เธอไม่ประสาไม่เจนสนามเหมือนทุกคนที่นอนด้วย แต่เธอกลับปลุกไฟในกายฉันแทบจะทะลักตลอดเวลา"
"ไม่ไหวแล้ว ฉันอยาก"เสียงทุ้มนุ่ม
"ตรงลิ้นชักนั้นมีถุงยาง กับเจล"
ภายในห้องพักผู้ป่วยพิเศษ จันทร์เสี้ยวกำลังใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดใบหน้าให้พระจันทร์อย่างเบามือ สายตาของเธอจ้องมองร่างน้องสาวราวกับกลัวว่าน้องจะมลายหายไปได้ ส่วนทิวสนโทรสั่งให้กิตติเตรียมแฟ้มเอกสารที่ต้องเซ็นมาให้เขา และตั้งแต่ได้เอกสารกองโตมาเขาก็เปิดโน๊ตบุ๊ค ตั้งหน้าตั้งตาทำงานราวกับว่าตนเองเป็นธาตุอากาศ ไร้เสียงพูดคุยมีเพียงเสียงกระดาษเปิดไปปามาดังเบา ๆ หลังจากจัดการเช็ดตัวน้องเสร็จเธอจึงรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่ชุดที่เขาสั่งกิตติไปซื้อมาให้ เสื้อยืดตัวหลวมโคร่งกับกางเกงขายาวที่ความยาวของมันมากกว่าความสูงของเธอ จนชายผ้าไปกองอยู่ที่ข้อเท้าร่างบางในชุดยักษ์เดินออกมา จากห้องน้ำ ทำเอาสายตาคมของทิวสนที่ไม่ได้ตั้งใจมองในขณะดื่มน้ำแทบสำลักน้ำในปากใบหน้าหน้าหล่อเหล่าพร้อมสายตาคมจ้องเธออยู่ครู่ใหญ่ รอยยิ้มจึงค่อย ๆ ผุดออกมา เขารู้สึกภูมิใจในตัวกิตติมากที่ทำตามคำสั่งได้เป็นอย่างดี ชุดที่เขาสั่งมาให้เธอ คือมิดชิด "คุณยิ้มอะไรคะ หรือว่าจันทร์หยิบผิด แต่ไม่น่าจะผิดเสื้อผ้าคุณมีแต่สีทะมึน"มือบางเปิดดูถุงอีกสี่ห้าใบ ของเขามีแต่สีทึบ ส่วนของเธอก็สีหวานสดใส แต่ทุกตัวล้วนแต่เป็นชุดโอเวอร์ไซซ์ทั
ทิวสนเข้าไปนั่งในรถมองกระจกหลังที่สะท้อนภาพ จันทร์เสี้ยวถึงแม้เธอนั่งในร่มแต่ลมพัดเอาละอองฝนกระทบร่างบาง จันทร์เสี้ยวสั่นสะท้านไปทั้งตัวเพราะความหนาวเย็นของลมพายุ แล้วยังโดนฝนสาดอีก ดวงตาหวานมองผ่านม่านน้ำฝนออกไปยังคงเห็นรถของเขาจอดอยู่ คนใจร้าย...ทันใดนั้นรถหรูคันสีดำก็ขับเคลื่อนออกไปทันที น้ำที่ตาเอ่อล้นออกมา จันทร์เสี้ยวยิ้มให้กับตัวเองสมเพชที่คิดว่าเขามีใจให้เธอสักนิดทันใดนั้น...รถคันสีดำ มาจอดตรงป้ายรถประจำทาง ประตูฝั่งคนขับถูกเปิดออกพร้อมกับเขาชายถือร่มเดินลงมาท่ามกลางพายุ "หนาวแย่เลย ให้ผมไปส่งบ้านนะครับ" เสียงทุ้มเอ่ยอย่างสุภาพ"ขอบคุณคุณชีวินมากเลยค่ะ แต่จันทร์เสี้ยวเกรงใจค่ะ"เสียงหวานเอ่ยขอบคุณในน้ำใจที่เขามีต่อเธอ แต่คนที่กำลังจะแต่งงานไหนเลยจะกล้าขึ้นรถไปกับชายอื่นเพียงลำพัง"ไม่ต้องเกรงใจหรอกถือซะว่า เพื่อนไปส่ง อีกอย่างคุณตากฝนนานขนาดนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะครับ" "ถ้าอย่างนั้นจันทร์รบกวนด้วยนะคะ" ชีวินเป็นสุภาพบุรุษทั้งคำพูดและการวางตัว เขาเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับให้จันทร์เสี้ยวนั่งเรียบร้อยพร้อมปิดประตูรถให้อย่างเบามือ ก่อนตนเองเดินอ้อมไปนั่งฝั่งคนขับ ทุกการกระทำขอ
เสียงหวานดังกล้องสะท้อน เงาทั้งคู่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ลมหายใจเหนื่อยหอบราวกับวิ่งระยะไกล เหงื่อผุดบนเรือนร่างเปลือยเปล่าทั้งเธอและเขา บทเพลงท่วงทำนองเคล้าคลอจบลง "คุณไม่ได้ใส่....ทำไมถึงปล่อย...." "อีก 5 วันเธอต้องเป็นเมียฉัน" "ของพันธุ์นั้นยังต้องใช้อีกเหรอ" "ฉันไม่ได้พกยามาด้วย" "ห้ามกินนะ มันอันตราย" เขาห่วงฉันเหรอเนี่ย "ขอบคุณที่ห่วงจันทร์นะคะ" ไร้เสียงตอบกลับจากเขา จันทร์เสี้ยวจึงเลิกสนใจเพราะพูดไปเสียอย่างไรก็ไร้ความหมายกับคนที่พูดน้อยแต่ดื้อเช่นเขา จากเหตุการณ์เมื่อครู่เธอรู้สึกเหนี่ยวเหนอะหนะจึงผละตัวไปอาบน้ำ เสียงเปิดฝักบัวน้ำปล่อยน้ำเย็นไหลผ่านร่างเปลือยเปล่า ดึงดูดให้สายตาคมของเขาเจ้าแห่งป่า มองร่างหญิงตรงหน้าแทบอยากจะกลืนเธอลงท้องไป และยิ่งเธอขยับตัวถูไถตามร่างกายสร้างความเย้ายวนในใจไม่น้อย และมันได้ปลุกสัญชาตญาณดิบเถื่อนที่พึ่งมอดไหม้ไปเพียงไม่กีนาทีให้ลุกโชนอีกครั้ง เขาเดินตรงเข้าหาร่างอรชรทางด้านหลังใช้สายตามองราวกับไม่เคยเห็นใช้นิ้วไล้แตะเคล้าคลึงเนินมนพร้อมกับกดจมูกไซ้คอเรียว จันทร์เสี้ยวสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ารดต้นคอเธอ ทำได้เพียงหลับตาพริ้มเผย
“แต่งสายฟ้าแลบเหรอ? ผู้หญิงอย่างจันทร์เสี้ยวเนี่ยนะ?” เสียงนินทาแว่วมาตามลมปนกลิ่นเหงื่อแดดบ่ายของตลาดบ้านนา เธอไม่ได้ใส่ใจมานานแล้ว แต่คราวนี้มันเกินทน “ยายมันขายหลานให้เศรษฐีไง ถึงได้อยู่รอดมาถึงทุกวันนี้” “นั่นสิ เศรษฐีที่ไหนจะเอาเด็กกระโปโลไปทำเมีย ถ้าไม่ใช่เมียน้อย” “ฉันว่ายายคงปล่อยให้ท้องก่อนนั่นแหละ ถึงได้กล้าประกาศแต่งงาน! “แหม...เชื้อมันแรงนะ ยายดวงแขนั่นก็แย่งผัวเขามาเหมือนกัน” “ใช่ ได้ข่าวว่าเมียเก่าได้ก่อน ยายดวงแขแต่งทีหลังอีก!” เสียงหัวเราะแหลมคมประสานกันราวมีดข่วนกระจก จันทร์เสี้ยวเดินผ่านเงียบ ๆ ไม่เคยโต้ตอบ จนกระทั่ง... ผัวะ! เสียงฝ่ามือปะทะแก้มดังลั่น หัวผู้หญิงคนนั้นหันตามแรงตบก่อนชะงักด้วยความตกใจ “อีจันทร์ มึงกล้าตบกูเหรอ!” “ใช่ ถ้ายังไม่หุบปากเน่า ๆ พวกพี่นั่นแหละ” “อีจันทร! มึง...” เสียงกร้าวหักหาญ กลายเป็นตะปบรวมจากฝูงหญิงที่เคยนินทา จับแขนจันทร์เสี้ยวไว้แน่น ราวฝูงหมาเห็นเหยื่ออ่อนแรง ผัวะ! ตบสวนกลับมา หน้าของเธอสะบัดตามแรง แต่ก่อนอีกฝ่ายจะได้สะใจ ปึก! เธอถีบสวนกลางท้อง ทำให้ร่างนั้นเซล้มไป “ได้ผัวรวยหน่อย กล้าหือเห
รุ่งอรุณแสงแดดลอดผ้าม่าน ทิวสนยงคงหลับสนิทที่ห้องนอนของตนเอง เขาออกจากห้องจันทร์เสี้ยวเกือบเช้าก่อนที่คุณยายจะตื่นมาเตรียมของใส่บาตรเมื่อคืนเด็กของเขาทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี จนเขาไม่อยากจากเธอ"ได้ค่ะ งั้นจันทร์จะทำหน้าที่นี้"จันทร์เสี้ยวขึ้นคร่อมตักเขาอย่างแนบแน่นโดยไม่รีรอเธอก็โน้มตัวลง...ริมฝีปากประกบกับเขาแนบแน่นไม่ทันได้หายใจ จูบนั้นก็ลุกลามราวกับไฟที่ไม่มีใครหยุดได้เขาตอบรับทันที มือทั้งสองเลื่อนขึ้นโอบแผ่นหลังเธอแน่นเสียงลมหายใจกลายเป็นเพียงจังหวะของอารมณ์ที่ระอุอยู่กลางอก"ต่อสิ"เสียงทุ้มเริ่มสั่นไหวจันทร์เสี้ยวใช้ปลายลิ้นไซ้คอ ลมหายใจร้อนผ่าวไล้ตามแนวเส้นเลือดสัมผัสนั้นแผ่ซ่านจนทำให้ทิวสนต้องขบกรามแน่นมือเรียวแตะไหล่เขาแนบ ก่อนจะเลื่อนลงประคองต้นแขนอย่างมั่นคงทุกความเคลื่อนไหวเธอทำด้วยความตั้งใจและแรงปรารถนาแบบไม่ลดละเพื่อให้เขาพึงพอใจมือเรียวไม่รอช้าเลื่อนขึ้นไปจับชายเสื้อเขานิ้วแตะไปที่กระดุมตัวแรกอย่างมั่นใจปลดกระดุมทีละเม็ดอย่างช้าๆ ชวนให้ใจสั่นไหวริมฝีปากยังคงลากไล้ไปตามซอกคออย่างไม่ลดละทิวสนเผลอหลับตาพริ้ม ปล่อยให้ความรู้สึกร้อนผ่าวโอบกอดจนหมดใจทิวสนส่ง
สัมผัสจากปลายนิ้วเย็นเฉียบลูบไล้เบา ๆ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเคล้าคลึงหนักหน่วงเธอเผลอแอ่นกายตอบรับ ไม่ใช่เพราะปรารถนา แต่เพราะลมหายใจของเขาฝังลึกอยู่ในหัวใจ ราวกับมันไม่เคยจากไปเลยสักวินาทีเดียว“เดี๋ยวก่อนค่ะ...ไม่มีถุงยาง”เสียงเธอดังขึ้น...เบาแต่ชัดเจนพอจะหยุดทุกการเคลื่อนไหว เสียงทุ้มต่ำของเขาตอบกลับในทันที ราบเรียบแต่แฝงความขัดใจ“คืนนี้มันไม่จำเป็น...“จำเป็นสิคะ”เธอปรายตามองเขานิ่ง ๆ “คุณไม่กลัวเหรอ? จันทร์เป็นเด็กขายตัวนะคะ ต้องรับแขกมากมาย...”เธอหยุดหายใจนิดหนึ่งก่อนเอ่ยต่อ ทั้งประชด ทั้งเจ็บ“อีกอย่าง...คุณก็นอนกับใครไม่ซ้ำหน้าอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ?”กับคนอื่น เขาไม่เคยต้องอธิบายพวกเธอพร้อมถวายกายถวายใจใต้เนื้อเขาราวกับนางบำเรอศิโรราบผู้จงรักแต่กับเด็กสาวบ้านนอกหน้าตาเรียบง่ายคนนี้...เขากลับต้องตั้งรับ ต้องหาคำพูด ต้องกลัวว่าเธอจะเข้าใจผิดทำไม ทิวสน... แค่เด็กขายตัวคนหนึ่ง ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะเจ็บสมองสั่งให้เย็นชา แต่หัวใจกลับเต้นโครมครามจนไม่ฟังเขาเอ่ยออกไปทันที ปากนำหน้าสมองเสียด้วยซ้ำ“ฉันนอนกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าจริง แต่ฉันมั่นใจในตัวเอง...”เขาโน้มตัวลง กระซิบช้า ๆ“ต