แชร์

ตอนที่1 อีหล่างาม

ผู้เขียน: ดาวหาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-02 07:00:48

กว่าฝนจะซาก็เกือบชั่วโมงต้องนั่งหนาวอยู่แบบนั้น พี่แคนตามมาส่งถึงบ้านเลย มาถึงฉันก็รีบอาบน้ำเข้านอนเพราะต้องลุกไปส่งพริกที่ตลาดแต่เช้า ร้านป้าน้อยแม่ค้าผักเจ้าใหญ่สั่งไว้ห้าสิบกิโล 

ครืดครืด ครืดครืด

พึ่งจะทิ้งหัวลงหมอนได้ยังไม่รู้สึกว่าหลับเลยเสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือก็ดังขึ้น นอนไปแค่สามชั่วโมงเองแต่ก็เหมือนไม่ได้นอน จะนอนต่อก็ไม่ได้ เกิดเป็นอีเรไรนี่มันต้องอึดและบึกบึนเว้ย!

ฉันแบกร่างที่ล้าขับรถออกมาตามทางในยามเช้ามืดจุดหมายอยู่ที่แผงผักป้าน้อย มันคั่นเนื้อคั่นตัวเหมือนจะไม่สบายคงเพราะตากฝนเมื่อคืนแหละมั้งทั้งยังกินเหล้าอีก

คิดดูว่าพริกห้าสิบกิโลที่แพคใส่ถุงสิบกิโลกับรถมอเตอร์ไซด์คันเก่าๆ ฉันต้องทุักทุเลมากขนาดไหน ใช้เวลาขับรถอยู่ราวๆสามสิบนาทีก็ถึงจุดหมายในตอนฟ้าสางพอดี หน้าร้านแกก็ยังมีรถกระบะคอกสูงกำลังมาส่งผักเช่นกัน

"เพิ่มรับเรไรแนเร็ว"(เพิ่มมารับเรไรหน่อยเร็ว) ป้าน้อยทันทีที่เห็นฉันขับไปจอดแกก็รีบเรียกลูกน้องมารับเลย

โชคดีที่วันนี้เป็นออเดอร์ส่งเลยไม่ต้องนั่งขายให้หลังขดหลังแข็ง ภาวนาให้มีออเดอร์ทุกวัน แต่ก่อนกลับก็ไม่ลืมแวะซื้อยาที่ร้านขายยาในตัวอำเภอไปให้พ่อ พักนี้บ่นปวดกระดูกกระเดี้ยวปวดนี่เจ็บนั้นแต่ก็ตามประสาคแก่นั่นแหละ

กลับมาถึงบ้านก็เกือบแปดโมง เห็นลำดวนกำลังยกสำรับกับข้าวออกมาโดยมีกระติบข้าวเหนียวสะพายอยู่บนบ่า

"พี่เรมากลับมาพอดีเลย มากินข้าวจ้ะ"

"ได้อะไรกิน แล้วนี่พ่อกับแม่ไปไหน"

"อยู่หลังบ้าน เพาะกล้าต้นพริกอยู่" ฟังคำตอบลำดวนไปด้วยเดินไปล้างมือที่โอ่งมังกรข้างบ้านไปด้วย สายตาก็มองเข้าไปหลังบ้านที่สองตายายกำลังประคองกันลุกขึ้น(เมื่อไหร่จะถูกรางวัลที่หนึ่งสักทีวะ) ฉันบ่นในใจเพราะไม่อยากเห็นพ่อกับแม่ลำบาก ที่ทำงานหนักอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะนี่แหละ...แต่ก็ไม่พอจ่ายในแต่ละเดือน

ขณะที่ครอบครัวของเรากำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่เตียงไม้ประดู่ใต้ถุนบ้านก็มีรถกระบะสี่ประตูสีดำขับมาจอด ก่อนที่คนขับที่อยู่ในชุดเสื้อยืดสีกรมและกางเกงยีนส์สีเข้มจะลงมา

"ทิศแคนมาหยังละนั้น"(ทิศแคนมาทำไมนั่น) เขาเดินไปที่ท้ายกระบะก่อนจะเปิดฝาท้ายและยกจักรยานลงมา

"เอ้ารถจักรยานอีเรบ่แม่นตินั้น"(จักรยานเรใช่ไหมนั่น) พ่อเป็นคนพูดก่อนจะหันมามองหน้าฉัน

"พี่แคนยืมไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว" ฉันตอบไปก่อนจะวางช้อนลงและขยับลงจากเตียง

"อ้ายเอารถจักรยานมาคืน" เสียงบอกกล่าวเมื่อจูงจักรยานเข้ามาจอดไว้ให้ที่ใต้ถุน

"แคนกินข้าวละยัง มาๆกินข้าวนำป้าก่อน"(แคนกินข้าวมาหรือยัง มากินด้วยกัน) แม่ฉันเป็นคนเอ่ยเรียกเขา ฉันนึกว่าพี่แคนจะปฏิเสธ เปล่า! เขาเดินเข้าไปนั่งลงที่เตียงข้างๆแม่เฉยเลย

"ไปจั่งได่มาจั่งได่ละนี่"(ไปไงมาไงละ)

"มื้อคืนติดฝนครับ เลยยืมรถเมือบ้าน"(เมื่อคืนติดฝนเลยยืมรถปั่นกลับบ้านครับ)

"สิไปไสละ"(แล้วจะไปไหนล่ะ)

"ว่าสิออกไปเบิ่งลูกน้องขุดสระอยู่นาพ่อใหญ่เสริฐ"(ว่าจะออกไปดูลูกน้องขุดสระอยู่นาตาเสริฐครับ) ฉันนั่งฟังบทสนทนาที่พ่อแม่ชวนพี่แคนคุยจนอิ่ม แล้ววันนี้ประจวบเหมาะกับลำดวนมันทำกับข้าวเยอะด้วยเลยพอเลี้ยงแขก

"มายืนจ้องหน้าทำไม ไหนว่าไปดูเขาขุดสระ"

"อิหล่างาม งามคัก"(หนูสวย สวยมาก) คำชมที่ออกมาซึ่งๆหน้าแบบนี้ก็ทำเอาฉันหวั่นไหวอยู่พอสมควร

"รู้ตัว ใครๆก็พูดแบบนี้แหละ" เขายิ้มกริ่มมาให้แต่ก็ไม่ยอมขึ้นรถไปสักที จนฉันต้องเปิดประตูดันหลังเขาเข้าไป

"เรไร" เขาลดกระจกลงและเอ่ยเรียกเสียงจริงจัง อีกทั้งสายตาที่มองมานั้นก็ยังเหมือนมีอะไรบางอย่าง

"มีอะไรก็รีบพูดมา เรจะไปสวน"

"อย่าคิดนำเขาหลายเด้อ อ้ายเป็นห่วง"(อย่าคิดมากนะ พี่เป็นห่วง)หมือนพี่แคนรับรู้สิ่งที่ฉันรู้สึกได้อย่างนั้นแหละ ทั้งที่ฉันก็ว่าพยายามเก็บไว้ให้ลึกแล้วนะ

"เรสิไปคิดนำเขาเฮ็ดหยัง"(เรจะไปคิดถึงเค้าทำไม) ตอบออกไปแบบนั้นแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันยังส่งผลต่อหัวใจ

"ดีแล้ว อ้ายบ่อยากเห็นเรมีน้ำตา"(ดีแล้วเพราะพี่ไม่อยากเห็นเธอมีน้ำตา)เหมือนคำปลอบของพี่แคนจะทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นนะ แต่บาดแผลที่ยังสดใหม่ย่อมมีความเจ็บเป็นธรรมดาได้แต่หวังให้เวลาช่วยเยียวยาให้แผลนั้นจงหายในเร็วพลัน

สายลมโบกสะบัดพลิ้วไหวยอดหญ้าในยามบ่าย สุริยันเลื่อนลับในหมู่เมฆ ที่เถียงนาน้อยมีหญิงสาวนั่งนิ่งสายตาทอดมองไปตรงหน้าภายในใจเต็มไปด้วยคำถาม 'ที่ผ่านมาเธอผิดพลาดตรงไหน หรือทำไม่ดีอะไร ถึงต้องเป็นที่เจ็บ'

ครืดครืด~~~~

แต่แล้วความคิดฟุ้งซ่านนั้นก็ถูกวางลงเพราะเสียงมือถือเรียกสติให้กลับมา เป็นเบอร์โทรที่ไม่ได้เมมชื่อไว้ หัวคิ้วเรียวขมวดเล็กน้อยก่อนจะกดรับสาย

"เร...ได้ยินอ้ายบ่"(เรได้ยินพี่ไหม)

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หลงเสียงเรไร   พี่เฝ้ารอมาตั้ง12ปี

    "ไม่ได้ อุ้บ!!" เขาจัดการปิดปากเธอด้วยปากหยัก กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเรือนร่างอรชรทำให้กำหนัดในตัวของเขาเพิ่มพูนตั้งแต่เข้าใกล้ ขมเม้มปากกระจับด้วยความละมุน เมื่อเธอเผยอปากเขาก็จัดการสอดแทรกลิ้นร้อนเข้าไปกวาดชิมความหวานในโพรงนุ่ม ๆ นั้นทันที ร่างหนาขยับคร่อมพร้อมกับบดจูบอยู่นาน ความคิดถึงและความเสน่หาแสดงออกมาเป็นการกระทำที่เร่าร้อน เสียงหายใจติดขัดจากคนด้านล่างทำให้เขาถอนจูบนั้นออกมาซุกไซ้ใบหน้าเข้าที่ลำคอขาว"อื้อ อ้ายแคน" เธอประคองใบหน้าเขาขึ้นมาก่อนจะจ้องมองเข้าไปในม่านตาดำสนิทด้วยหัวใจที่เต้นแรงกว่าทุกครั้ง"เรว่ามันเร็วเกินไป""อ้ายเฝ้าเรมาตั้งสิบปี ตั้งแต่ที่เรดึงอ้ายออกมาจากป่ากล้วย""แต่ว่า...""อ้ายขอได้บ่ครับ..." ลมหายใจอุ่นร้อนขณะที่ปากพูดจรดลงตามข้างแก้มใบหน้าหล่อคลอเคลียร์ไม่ห่างชวนให้อารมณ์เคลิ้มไปได้อย่างง่าย ปากหยักได้รูปพรมจูบลงมาตามซอกคอ ใบหน้าหวานเอียงเอียงรับสัมผัสและไม่ปฏิเสธยิ่งทำให้คนตัวโตได้ใจ ทุกครั้งที่ปากหยักกดจูบขนบางก็ชูชันจนทั่วร่าง ความรู้สึกตื่นเต้นแปลกใหม่เกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมือใหญ่กอบกุมเต้าอวบทำเอา

  • หลงเสียงเรไร   ความคิดถึง

    พระอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า ฝูงวัวควายถูกต้อนกลับจากนาเดินเต็มถนนบรรยากาศที่คุ้นเคยในหมู่บ้านเหมือนทุก ๆ วันเป็นสิ่งที่คนเมืองกรุงไม่มีโอกาสได้สัมผัส สองสาวขับรถมอเตอร์ไซด์ลากพ่วงรถเข็นด้านหลังบรรทุกผักกลับเข้ามาเฉกเช่นทุกวัน มีทั้งออเดอร์จากตลาดและที่วัด สองคนต้องเก็บมากกว่าปกติ"ลำดวนไปอาบน้ำก่อนจะได้ออกไปวัด""แล้วพี่เรไม่ไปเหรอ""ไปแต่เอ็งอาบก่อนพี่จะแบ่งผักรอ อาบเสร็จพี่จะได้ไปอาบต่อ" คนพี่ว่าพร้อมกับยกตะกร้าผักลงจากรถเข็นและแบ่งแยกออกว่าตัวไหนเอาไปส่งตลาดตัวไหนเอาไปส่งวัด ไม่นานคนเป็นน้องก็อาบเสร็จพอดี เธอจึงเดินไปหยิบผ้าถุงที่ตากอยู่ข้างบ้านเข้าห้องน้ำไปไฟที่เปิดให้แสงสว่างจนทั่วบริเวณวัดมันเลยไม่ค่อยน่ากลัวเหมือนกับทุกวัน แถมผู้คนก็ยังเดินพลุกพล่านทั้งคนที่คุ้นหน้าและคนที่ไม่คุ้นหน้า คณะของนักเรียนและครูที่มาถึงเมื่อตอนบ่ายก็เปลี่ยนชุดนุ่งขาวห่มขาวกันจนละลานตาไปหมดและกำลังทยอยเข้าไปทำวัดเย็นในศาลา"เอาผักมาส่งจ้า""เออ ๆ วางไว้นั่นแหละจักบาทล่ะ"(เอาวางไว้ตรงนั้นแหละ ทั้งหมดเท่าไหร่)"สองร้อยจ้ะ" ผักสามตะกร้าราคาแค่นี้ถือว่าถูกมาก

  • หลงเสียงเรไร   รู้ชัดถึงความรู้สึกที่มี

    เสียงไก่โห่ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างปลุกฉันให้รีบตื่นมาทำกับข้าวเพื่อเตรียมไปวัดในวันพระใหญ่ ในฤดูหนาวแบบนี้ทำเอาไม่อยากจะออกจากผ้าห่มเลย"พี่เร ตื่นหรือยัง""อือ" ฉันตอบน้องสาวพลางหยิบเสื้อแขนยาวไหมพรมออกมาสวมใส่ เราสองคนเดินลงมาจากบนบ้านและช่วยกันทำกับข้าวมือเป็นระวิง กว่าจะเสร็จฟ้าก็ทอแสงรำไรแล้ว ม่านหมอกหนาบดบังทิวทัศน์ของทุ่งนาที่เหลืองอร่ามให้เห็นเป็นเลือนราง"เสร็จแล้วฉันไปอาบน้ำก่อนนะจ๊ะ" ฉันพยักหน้าตอบก่อนจะขึ้นไปเอาเสื้อผ้าเพื่อรอคิวอาบต่อ ดีที่พี่แคนมาทำห้องน้ำและติดเครื่องทำน้ำอุ่นให้ใหม่เลยทำให้การอาบน้ำสะดวกขึ้นฉันยังไม่ได้ขอบคุณเขาเลย พอคิดถึงชายคนที่ครอบครองดวงใจรอยยิ้มหวานก็ปรากฏบนใบหน้าทันที ฉันหยิบเสื้อพื้นเมืองสีชมพูกับผ้าถุงลายหยาดฝนที่แม่ทอให้ออกมาสวมและสวมทับด้วยเสื้อกันหนาวไหมพรมอีกที ก่อนจะรีบออกมารอลำดวนที่ด้านล่าง ไม่นานนางก็เดินลงมาด้วยชุดที่คล้ายกันกับของฉันเราสองคนพี่น้องขับรถออกมาตามทางตรงไปที่วัดโดยใช้ทางลัดตามคันนา แสงรุ่งอรุณตกกระทบน้ำค้างบนยอดหญ้าจนเป็นแสงระยิบระยับชวนมองกลิ่นอายของต้นข้าวยามถูกหมอกโชยเข้าจมูกช่างเป็น

  • หลงเสียงเรไร   พ่อกลัวเขาจะมาหลอกเอง

    แสงแดดยามเช้าทำให้รู้สึกรื่นรมณ์ใจสงบผ่อนคลายไม่น้อย สองขาที่ผอมแห้งของตาสิทธิ์ก้าวเดินฉับ ๆ มาที่ร้านค้าเพื่อซื้อเครื่องปรุงตามที่คนเป็นเมียบอก แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าหากว่าไม่ได้ยินบทสนทนาจากคนที่อยู่ร้านค้า..."อิหลีตั้วะ มื้อวานนี้ยืนกอดกันอยู่ตลาด ทิศแคนหอมแก้มมันกะบ่ขัดบ่ขืนเลยเด้ จังแม่นบ่อยากอายคน คือสิอยากได้เขาคัก"(จริง ๆ นะเมื่อวานนี้เห็นยืนกอดกันอยู่ที่ตลาด ถูกทิศแคนหอมแก้มมันยังไม่ขัดขืนเลย ช่างไม่อายคนคงจะอยากได้เขาจนตัวสั่น)"เจ้าจำคนผิดบ่"(แกจำผิดคนหรือเปล่า)"บ่ ๆ อีเรไรนี่แหละ ข่อยเห็นมากับสองตา"(ไม่ ๆ ฉันมั่นใจเห็นมากับสองตา)"แต่พักหลัง ๆ มานี้กะเห็นทิศแคนเข้าออกบ้านพ่อใหญ่สิทธิ์ดุอยู่ สิมาวนอีเรอิหลีล่ะ"(แต่พักหลังมานี้ก็เห็นทิศแคนเข้าออกที่บ้านตาสิทธิ์บ่อยอยู่นะ คงจะมาติดพันเรไรจริง ๆ นั่นแหละ)แม่ค้าตอบกลับมาเป็นความคิดเห็นเท่านั้น เพราะเธอเองก็เห็นแต่ก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจมากนักเพราะต่างคนต่างใช้ชีวิต"ไสว่ามันสิเอากับบักห้อย"(แต่ไหนว่ามันกับไอ้ห้อยจะเอากันเป็นมั่นเหมาะ)"โอ๊ย! ทุกปานนี้บักห้อยมันบ่เอาดอก คนขี้ค้านจั

  • หลงเสียงเรไร   คนที่ไม่อยากเจอ

    เสียงไก่โห่ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ชาวบ้านก็เริ่มไล่วัวควายออกไปเลี้ยงตามวิถีชีวิตชนบท บางคนก็ออกไปไร่ไปนาเพราะใกล้ฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว"พี่เร...รอด้วยฉันเสร็จแล้ว" ลำดวนรีบแต่งตัวตามพี่สาวออกมาหมายจะออกไปช่วยขายผักที่ตลาด"อยู่นี่แหละรอทำกับข้าวให้พ่อกับแม่""บ่ ๆพ่อกับแม่บ่อยากดอก พากันออกไปส่อยกันโลด"(ไม่ต้อง ๆ พ่อกับแม่อยู่กันได้ เอ็งสองคนพสกันออกไปช่วยกันเถอะ)คนเป็นแม่ว่าขึ้นเพราะลำพังอยู่สองตายายกินอะไรก็ได้อยากให้ลูกออกไปช่วยกันมากกว่า"งั้นเดี๋ยวฉันรีบกลับมานะ"สองสาวพี่น้องซ้อนท้ายกับออกมาตั้งแต่เช้ามืดเพื่อไปให้ทันตลาดเช้า ผักช่วงนี้ออกเยอะจนล้นตลาดทำให้ต้องไปนั่งขายเอง หมดล็อตนี้ก็ว่าจะกลับไปปลูกพริกกับมะเขือเหมือนเดิมดีกว่า"ลำดวน ไม่ต้องช่วยพี่หรอก เอาผักกาดกับกะหล่ำอย่างละร้อยไปส่งร้านขนมจีนเจ้น้อยให้พี่ไป""จ้ะ" ว่าแล้วลำดวนก็หยิบผักกาดขาวและกะหล่ำใส่ตะกร้าเท่าจำนวนที่สาวบอกและขับมอไซด์ออกไปที่ร้านขนมจีนหน้าโรงพยาบาลเหลือเพียงเรไรที่กำลังตั้งแผงขายผักที่เหลืออยู่"ผักจ้าผัก สด ๆ จากสวน ปลอดสารพิษนะจ๊ะ" เสี

  • หลงเสียงเรไร   แรกตั้งใจรัก

    "เอ้าสูสองคนคือมานำกัน"(อ้าว ทำไมสองคนนี้มาด้วยกัน)"กูย่างเลาะมาพ้อผู้สาวกำลังยืนงง ๆ อยู่ข้างห้องน้ำกำลังว่าสิลักพาตัว"(กูเดินมาเจอสาวสวยคนนี้กำลังยืนงง ๆ อยู่ข้าง ๆ ห้องน้ำเลยว่าจะลักพาตัวสักหน่อย)"หือ!!!"ฉันเงยหน้ามองคนด้านข้างและพยายามจะดึงมือออกจากเนื้อมือของเขาที่จับรั้งฉันเอาไว้"อีลำดวนกลับบ้าน"(ลำดวนไป...กลับบ้าน)"ฮะ อือ ๆ" ลำดวนก็เมาไม่ต่างจากฉันสักเท่าไหร่ แต่ฉันตกใจสิ่งที่พี่แคนทำจนหายเมาแล้วล่ะ เหลือแค่มึนนิดหน่อย ทีแรกกะจะกลับมากินต่อแหละ แต่ไม่ดีกว่าเดี๋ยวเตลิดเปิดเปิงไปกันใหญ่"ยกรถจักรยานขึ้นรถให้ด้วย" ฉันบอก...ไม่สิฉันสั่งเขา! และเดินมาขึ้นรถกระบะที่จอดอยู่ข้าง ๆ ร้านพี่วาสนาราวกับเป็นรถของตัวเอง ส่วนลำดวนขึ้นรถมาได้ก็นอนราบไปที่เบาะหลังและเหมือนจะหลับจนได้ยินเสียงกรนออกมาเบา ๆ"อีลำดวน ลุกฮอดบ้านแล้ว"(ลำดวนลุกถึงบ้านแล้ว)"อือ ฮะ อือ" น้องสาวคนเล็กลุกขึ้นงัวเงียก่อนจะเปิดประตูรถลงไปก่อน"ขอบคุณเด้อที่มาส่ง"(ขอบคุณนะที่มาส่ง)"เร...เป็นแฟนกับอ้ายเนาะ"(เร...เป็นแฟนกับพี่เถอะนะ)ตั้งแต่ฉันผิดหวังจากไอ้ห้อยนี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่พี่แคนของฉันเป็นแฟน ในคราแรก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status