หน้าหลัก / โรแมนติก / หลงเสียงเรไร / อยู่คนเดียวก็ไม่ตาย

แชร์

อยู่คนเดียวก็ไม่ตาย

ผู้เขียน: ดาวหาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-06 08:17:16

แสงแดดจ้าในตอนกลางวันช่วงหน้าหนาวไม่ได้ให้ความรู้สึกร้อนอย่างที่ควรจะเป็นแต่ยังเพิ่มความอบอุ่นให้จากอุณหภูมิที่ต่ำแบบนี้ด้วย สองพี่น้องที่ช่วยกันถอนหญ้าจากแปลงกะหล่ำและต้นหอม พลางเปิดเพลงจากลำโพงบลูธูทขนาดเล็กที่ลำดวนนั้นพกมาด้วยจนเสียงดังไปทั่วบริเวณ เข้าหน้าหนาวแบบนี้พริกปลูกยากเป็นโรคแล้วก็ไม่โตจึงต้องหันมาปลูกพืชตามฤดูแทน แต่ตอนนี้มีเพียงต้นหอมที่พอจะเก็บขายได้ส่วนกะหล่ำพึ่งจะได้สามสิบวันต้องรอให้ได้อายุก่อน

"พี่เร...ลำดวนว่าพี่แคนก็ดีนะ เมื่อไหร่พี่จะเปิดใจให้แกสักที นี่เขาก็ตามจีบพี่มาเป็นเดือน ๆ แล้ว"

ได้ยินเพียงเสียงถอนหายใจจากพี่สาวกลับมา แต่ลำดวนนั้นเชียร์ว่าที่พี่เขยคนนี้สุดใจ

"ข่อยเห็นอิสร้อยลูกผู้ใหญ่วินัยเทียวไปเทียวมาบ้านเลาอยู่เด้อ ระวังเล่นตัวหลาย ๆ เขาสิหันไปหาคนอื่นก่อนยามนั้นอย่ามาคิดเสียดาย"(หนูเห็นสร้อยลูกผู้ใหญ่วินัยเทียวไปเทียวมาที่บ้านพี่แคนบ่อย ๆ ถ้าเขาหันกลับไปสนใจคนอื่นจะมาคิดเสียดายทีหลังไม่ได้นะ)

"อีลำดวน มึงสิเว้าฮอดอ้ายแคนสุมื้อเลยบ่ มักปานนั้นมึงคือบ่เอาเองโลด"(ลำดวน..นี่จะพูดถึงพี่แคนทุกวันเลยหรือไง ถ้าชอบขนาดนั้นทำไมไม่เอาเองไปเลย)

"เอ้ายายอันนี้ กะเลาบ่ได้มักข่อยแมะ"(ก็เขาไม่ได้ชอบฉันนี่!)

"สิไปไสกะให้เลาไปโลด กูอยู่ผู้เดียวกะบ่ตายดอก"(จะไปไหนก็ให้เขาไปเถอะ อยู่คนเดียวได้)

"ฮืม~~~~ กะสั้นกะให้อิสร้อยเอาไปกินโลด คาตะปากแข็งใจแข็งอยู่นี้ล่ะ"(อืม ถ้าอย่างนั้นก็ให้สร้อยมันเอาไปเถอะ มัวแต่ปากแข็งใจแข็งอยู่นี่แหละ)

"มึงกะเบิ่งสภาพกูแน มึงสิให้กูเอาชีวิตลำบาก ๆ ของกูไปเป็นภาระให้ไผ"(ก็ดูสภาพพี่แบบนี้จะให้เอาชีวิตลำบากแบบนี้ไปเป็นภาระให้ใครวะ)

ลำดวนเข้าใจพี่สาวดี แต่ก็อยากให้พี่สาวลองเปิดใจดูบ้าง เพราะที่บ้านแคนนั้นก็ไม่ได้กีดกันอะไรเธออยากให้พี่สาวมีความสุขบ้าง

"นั้น เว้าฮอดกะมาโลด จังแม่นตายยาก"(พูดถึงก็มาเลย ตายยากจริง)

เรไรพูดลอดไรฟันออกมาเบา ๆ เมื่อเห็นรถกระบะของแคนขับเข้ามาที่นาของเธอ ชายตัวสูงใบหน้าหล่อคมเจ้าของรอยยิ้มหวาน แรก ๆ ก็ปกติ แต่ตอนนี้เรไรนั้นแทบไม่กล้ามองเพราะมันส่งผลต่อหัวใจของเธอเอาเรื่องอยู่

"เมื่อยบ่"(เหนื่อยไหมจ๊ะ)

"มาทำไม"

"มาหา คิดฮอด"(มาหาไง คิดถึง)

หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักกับคำหวาน ไหนจะสายตาประกายที่ส่งมาและจุดยิ้มที่มุมปากนั้นอีก เรไรเอาแต่ก้มหน้างุดมือก็ถอนหญ้าไปเรื่อย ไม่แม้แต่จะเงยขึ้นมองคนที่อยู่ตรงข้าม

"เว้าอิหยังบ่อยากอายอิลำดวนเบาะ"(พูดอะไรของพี่ ไม่อายลำดวนมันหรือไง)

"เว้าความจริงเป็นหยังต้องอาย"(พูดความตีจริงทำไมต้องอาย)

"คือสิเว้ากับคนอื่นดุ จนชินเนาะ"(คงพูดกับคนอื่นบ่อนจนชินสินะ)

"เรไรคนแรก"

ลำดวนที่นั่งถัดไปไม่ไกลได้ยินทุกคำก็ถึงกับเขินตัวม้วนแทนพี่สาว ภายใต้ผ้าขาวม้าที่โพกหน้าไว้ก็มีรอยยิ้มไม่ต่างกัน

"ปะไปกินข้าว"(ไปกินข้าวกัน)

"หิวก็ไปกินเลย เรบ่หิว"(หิวก็ไปกิน เรไม่หิว)

จ๊อก~~

ปากออกมาไปแบบนั้นแต่ท้องดันส่งเสียงออกมาแบบนี้ ขายหน้าขายตาชะมัด เรไรหลับตาพร้อมกับกัดปากคาดโทษเจ้าท้องน้อย ๆ นี้เอาไว้

"แน่ใจว่าบ่หิว"(ไม่หิวจริงอะ)

"เออ...หิวกะได้ อีลำดวนขึ้น ไปกินข้าว"(เออ...หิวก็ได้ ลำดวนลุกไปกินข้าว)

คนตัวเล็กลุกขึ้นเดินจ้ำอ้าวกลับไปที่เถียงนา พร้อมแวะล้างมือที่โอ่งมังกรที่รองน้ำฝนไว้จนเต็ม กับข้าวที่ห่อมาก็มากมายแต่แคนก็ยังซื้อของกินมาให้สองพี่น้องจนเต็มไม้เต็มมือ

ตกเย็น...

สองพี่น้องซ้อนมเตอร์ไซด์คันเก่า ๆ กลับมาที่บ้านในช่วงสี่โมงเย็น หลังที่กินข้าวเที่ยงเสร็จแคนก็กลับออกมาเพราะต้องไปดูหน้างานต่อที่จริงเขาอยากอยู่ชาวยงานนั่นแหละแต่ต้องไปตกลงราคาเรื่องเหมาถมที่

พักหลังมานี้เรไรก็ไม่ได้ให้พ่อ แม่ ออกไปช่วยทำสวนผักเหมือนอย่างเคยตาสิทธิ์ก็ออกไปดูแค่นาข้าวของตัวเอง เงินที่ได้มาจากการขายพริกเก็บหอมรอมริบไว้ก็เอาออกมาซื้อปุ๋ยใส่ข้าวพร้อมกับจ้างคนมาช่วยตาสิทธิ์ทำนา เพราะที่บ้านไม่มีลูกชายที่พอจะช่วยแรงงานได้เหมือนบ้านอื่น

"คือได้ถอนต้นหอมมาหลายแท้ละนั้น"(ทำไมเก็บต้นหอมมาเยอะขนาดนั้น)

"สิเอาไปส่งร้านค้า"(จะเอาไปส่งร้านค้า)

"จังแม่นงามเนาะ เทิงอวบ เทิงขาว เป็นตาหวานคัก"(ทั้งขาวทั้งอวบสวยมากคงจะหวานน่าดู)

ทันทีที่เห็นต้นหอมในถุงที่สองพี่น้องช่วยกันเก็บมาล้างทำความสะอาดจนพร้อมขายก็พูดชมขึ้นเลย

"คือคนปลูกนี่หล่ะ"(สวยเหมือนคนปลูกนี่แหละ)

เรไรดูจะอารมณ์ดีกว่าทุกวันพูดเชิงล้อเล่นกับแม่ ก่อนจะขึ้นไปเอาเสื้อผ้าบนบ้านเพื่อมาอาบน้ำแต่หัววัน ขี้เกียจต้มน้ำ ยายนีตาสิทธิ์ที่เห็นรอยยิ้มของลูกสาวก็พลอยเบาใจ เพราะเป็นเดือนที่เธอนั้นเอาแต่ซึมเงียบ

"อ้ายแคนไปหาอยู่นา ซื้อแนวกินไปให้บักหลาย"(พี่แคนไปหาอยู่ที่นา ซื้อของกินไปให้เยอะแยะเลย"

"มันคือสิมักลูกเฮาอิหลีละเฒ่า"(มันคงรักลูกสาวเราจริง ๆ)

"มันสิคือติเฒ่า เขาคนรวยเฮามันคนทุกไทบ้านสิบ่ส่าจ้น ๆ ติ"(มันจะดีเหรอ เขาคนรวยรามันคนจน)

"โอ้ย! อิพ่อ ไผส่ากะส่างมัน สิไปหัวซาหยัง เบิ่งแต่ช่วงยายวาดเปิดร้านขายยาดองใหม่ ๆ มันกะพากันส่ายายวาดว่าเป็นแบบนั้นแบบนี้ เมื่อยมันกะพากันเซาเองนั้นล่ะ"(โอ้ย! พ่อใครจะพูดก็ช่างเขาปะไร ดูแค่ช่วงแรกที่พี่วาดเปิดร้านขายยาดอกเขายังพูดเลยว่าพี่วาดเป็นแบบนั้นแบบนี้ เหนื่อยเดี๋ยวก็เลิกพูดเองนั่นแหละ)

"อีลำดวน มึงกะอย่าปากหลาย ปานนี้คนกะเว้าพี่สาวมึงคักอยู่ว่าหวังสูงอยากได้ผัวรวย"(ลำดวนเอ้ย...เอ็งก็อย่าปากมากไป แคนนี้คนเขาก็โจดพี่สาวเอ็งไปทั่วแล้วว่าหวังสูงอยากได้ผัวรวย)

"ไผมันสิบ่อยากได้ผัวรวยให้ข่อยถามแน ถ้าอ้ายแคนไปจีบลูกสาวมันสิบ่ให้ฟ้าวคุบเอาพุ้นติ ทั้งหล่อทั้งรวยปานนั้นไปบ่เอากะแปลกแล้ว"(ให้ฉันถามหน่อยใครไม่อยากได้ผัวรวย ถ้าสมมติพี่แคนไปจีบลูกสาวมันไม่ใช่จะรีบคว้าไว้เลยหรือไง ทั้งหล่อทั้งรวยขนาดนี้ไม่เอาสิแปลก)

"เว้ากับมึงสิบปีกะบ่แล้วลำดวนเอ้ย"(พูดกับเอ็งสิบปีก็ไม่จบ)

เรไรได้ยินบทสนทนาทุกคำและก็มักจะเก็บมาคิด ที่พ่อและลำดวนพูดต่างก็มีเหตุผลทั้งคู่แต่ก็ไม่ได้ต่อบทให้มันยาวมากไปกว่านี้และเดินตรงไปทางห้องน้ำหลังบ้านเพื่ออาบน้ำจะได้เอาต้นหอมไปส่งก่อนที่ฟ้าจะมืดเสียก่อน

"อิพ่อ อิพ่อ!"(พ่อ! พ่อ!)

"เอ้อ"

"ผู้ได๋มาเฮ็ดห้องน้ำอิหยังคือเป็นแบบนี้"(ใครมาทำอะไรกับห้องน้ำ ทำไมเป็นแบบนี้)

ลำดวนรีบเดินไปทันทีที่ได้ยินเสียงพี่สาวตามด้วยตาสิทธิ์และยายนี ลำดวนถึงกับตกใจร้องว้าวออกมาเมื่อสภาพห้องน้ำมันเปลี่ยนไปจากเดิมลิบลับ ทั้งที่เมื่อเช้ามันไม่ได้เป็นแบบนี้ ภายนอกยังเหมือนเดิมทว่าภายในนั้น ปูกระเบื้องพื้นและผนัง แถมช่องโหว่ก็ถูกปิดจนสนิทชนิดที่ไม่ต้องระแวงว่าใครจะมาแอบดูแล้ว ประตูก็เปลี่ยนใหม่ แถมยังเดินสายไฟให้พร้อมติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นอีกด้วย

"ยายวาดมาเฮ็ดให้บ่"(พี่วาดมาทำให้เหรอ)

ที่เรไรถามออกไปแบบนั้นเพราะวาสนาเคยพูดว่าจะเก็บเงินมาทำให้ใหม่

"อีวาดมันมาอยู่แต่มันบ่ได้เฮ็ดดอก ทิศแคนเป็นคนซื้อของพาซ่างมาเฮ็ดหลังสูออกไปคราวเดียว"(วาสนาก็มาแต่ไม่ได้เป็นคนทำหรอก แคนเป็นคนซื้อของและพาช่างเข้ามาทำหลังจากที่เอ็งสองคนออกไปได้แปบเดียว)

"อ้ายแคนติพ่อ...เห็นบ่ข่อยบอกแล้วว่าอ้ายแคนเลาคนดี"(พี่แคนเหรอพ่อ...เห็นไหมฉันบอกแล้วพี่แคนเป็นคนดี)

"จักสิมายากนำเฮ็ดหยังดอก วุ่นวายบ่เข้าเรื่อง"(ไม่รู้จะมาสนใจทำไม วุ่นวายไม่เข้าเรื่อง)

"เอ้าอีอันนี้แมะ เขามาเฮ็ดให้กะดีแล้ว กะซั่นถ้ามึงบ่อยากได้มึงกะแกะออก ถ้ากูฌป็นอ้ายแคนมาได้ยินคือสิเสียใจวะ"(อ้าว...แปลกคนจริง เขามาทำให้ก็ดีแล้ว หรือถ้าไม่อยากได้นะก็ถอดออกสิไป ถ้าพี่แคนมาได้ยินคงเสียใจ)

ลำดวนว่าพี่สาวอย่างไม่จริงจังนัก พลางหันหลังเดินกลับเข้าไปในครัวเพื่อทำกับข้าวมื้อค่ำ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หลงเสียงเรไร   พี่เฝ้ารอมาตั้ง12ปี

    "ไม่ได้ อุ้บ!!" เขาจัดการปิดปากเธอด้วยปากหยัก กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเรือนร่างอรชรทำให้กำหนัดในตัวของเขาเพิ่มพูนตั้งแต่เข้าใกล้ ขมเม้มปากกระจับด้วยความละมุน เมื่อเธอเผยอปากเขาก็จัดการสอดแทรกลิ้นร้อนเข้าไปกวาดชิมความหวานในโพรงนุ่ม ๆ นั้นทันที ร่างหนาขยับคร่อมพร้อมกับบดจูบอยู่นาน ความคิดถึงและความเสน่หาแสดงออกมาเป็นการกระทำที่เร่าร้อน เสียงหายใจติดขัดจากคนด้านล่างทำให้เขาถอนจูบนั้นออกมาซุกไซ้ใบหน้าเข้าที่ลำคอขาว"อื้อ อ้ายแคน" เธอประคองใบหน้าเขาขึ้นมาก่อนจะจ้องมองเข้าไปในม่านตาดำสนิทด้วยหัวใจที่เต้นแรงกว่าทุกครั้ง"เรว่ามันเร็วเกินไป""อ้ายเฝ้าเรมาตั้งสิบปี ตั้งแต่ที่เรดึงอ้ายออกมาจากป่ากล้วย""แต่ว่า...""อ้ายขอได้บ่ครับ..." ลมหายใจอุ่นร้อนขณะที่ปากพูดจรดลงตามข้างแก้มใบหน้าหล่อคลอเคลียร์ไม่ห่างชวนให้อารมณ์เคลิ้มไปได้อย่างง่าย ปากหยักได้รูปพรมจูบลงมาตามซอกคอ ใบหน้าหวานเอียงเอียงรับสัมผัสและไม่ปฏิเสธยิ่งทำให้คนตัวโตได้ใจ ทุกครั้งที่ปากหยักกดจูบขนบางก็ชูชันจนทั่วร่าง ความรู้สึกตื่นเต้นแปลกใหม่เกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมือใหญ่กอบกุมเต้าอวบทำเอา

  • หลงเสียงเรไร   ความคิดถึง

    พระอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า ฝูงวัวควายถูกต้อนกลับจากนาเดินเต็มถนนบรรยากาศที่คุ้นเคยในหมู่บ้านเหมือนทุก ๆ วันเป็นสิ่งที่คนเมืองกรุงไม่มีโอกาสได้สัมผัส สองสาวขับรถมอเตอร์ไซด์ลากพ่วงรถเข็นด้านหลังบรรทุกผักกลับเข้ามาเฉกเช่นทุกวัน มีทั้งออเดอร์จากตลาดและที่วัด สองคนต้องเก็บมากกว่าปกติ"ลำดวนไปอาบน้ำก่อนจะได้ออกไปวัด""แล้วพี่เรไม่ไปเหรอ""ไปแต่เอ็งอาบก่อนพี่จะแบ่งผักรอ อาบเสร็จพี่จะได้ไปอาบต่อ" คนพี่ว่าพร้อมกับยกตะกร้าผักลงจากรถเข็นและแบ่งแยกออกว่าตัวไหนเอาไปส่งตลาดตัวไหนเอาไปส่งวัด ไม่นานคนเป็นน้องก็อาบเสร็จพอดี เธอจึงเดินไปหยิบผ้าถุงที่ตากอยู่ข้างบ้านเข้าห้องน้ำไปไฟที่เปิดให้แสงสว่างจนทั่วบริเวณวัดมันเลยไม่ค่อยน่ากลัวเหมือนกับทุกวัน แถมผู้คนก็ยังเดินพลุกพล่านทั้งคนที่คุ้นหน้าและคนที่ไม่คุ้นหน้า คณะของนักเรียนและครูที่มาถึงเมื่อตอนบ่ายก็เปลี่ยนชุดนุ่งขาวห่มขาวกันจนละลานตาไปหมดและกำลังทยอยเข้าไปทำวัดเย็นในศาลา"เอาผักมาส่งจ้า""เออ ๆ วางไว้นั่นแหละจักบาทล่ะ"(เอาวางไว้ตรงนั้นแหละ ทั้งหมดเท่าไหร่)"สองร้อยจ้ะ" ผักสามตะกร้าราคาแค่นี้ถือว่าถูกมาก

  • หลงเสียงเรไร   รู้ชัดถึงความรู้สึกที่มี

    เสียงไก่โห่ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างปลุกฉันให้รีบตื่นมาทำกับข้าวเพื่อเตรียมไปวัดในวันพระใหญ่ ในฤดูหนาวแบบนี้ทำเอาไม่อยากจะออกจากผ้าห่มเลย"พี่เร ตื่นหรือยัง""อือ" ฉันตอบน้องสาวพลางหยิบเสื้อแขนยาวไหมพรมออกมาสวมใส่ เราสองคนเดินลงมาจากบนบ้านและช่วยกันทำกับข้าวมือเป็นระวิง กว่าจะเสร็จฟ้าก็ทอแสงรำไรแล้ว ม่านหมอกหนาบดบังทิวทัศน์ของทุ่งนาที่เหลืองอร่ามให้เห็นเป็นเลือนราง"เสร็จแล้วฉันไปอาบน้ำก่อนนะจ๊ะ" ฉันพยักหน้าตอบก่อนจะขึ้นไปเอาเสื้อผ้าเพื่อรอคิวอาบต่อ ดีที่พี่แคนมาทำห้องน้ำและติดเครื่องทำน้ำอุ่นให้ใหม่เลยทำให้การอาบน้ำสะดวกขึ้นฉันยังไม่ได้ขอบคุณเขาเลย พอคิดถึงชายคนที่ครอบครองดวงใจรอยยิ้มหวานก็ปรากฏบนใบหน้าทันที ฉันหยิบเสื้อพื้นเมืองสีชมพูกับผ้าถุงลายหยาดฝนที่แม่ทอให้ออกมาสวมและสวมทับด้วยเสื้อกันหนาวไหมพรมอีกที ก่อนจะรีบออกมารอลำดวนที่ด้านล่าง ไม่นานนางก็เดินลงมาด้วยชุดที่คล้ายกันกับของฉันเราสองคนพี่น้องขับรถออกมาตามทางตรงไปที่วัดโดยใช้ทางลัดตามคันนา แสงรุ่งอรุณตกกระทบน้ำค้างบนยอดหญ้าจนเป็นแสงระยิบระยับชวนมองกลิ่นอายของต้นข้าวยามถูกหมอกโชยเข้าจมูกช่างเป็น

  • หลงเสียงเรไร   พ่อกลัวเขาจะมาหลอกเอง

    แสงแดดยามเช้าทำให้รู้สึกรื่นรมณ์ใจสงบผ่อนคลายไม่น้อย สองขาที่ผอมแห้งของตาสิทธิ์ก้าวเดินฉับ ๆ มาที่ร้านค้าเพื่อซื้อเครื่องปรุงตามที่คนเป็นเมียบอก แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าหากว่าไม่ได้ยินบทสนทนาจากคนที่อยู่ร้านค้า..."อิหลีตั้วะ มื้อวานนี้ยืนกอดกันอยู่ตลาด ทิศแคนหอมแก้มมันกะบ่ขัดบ่ขืนเลยเด้ จังแม่นบ่อยากอายคน คือสิอยากได้เขาคัก"(จริง ๆ นะเมื่อวานนี้เห็นยืนกอดกันอยู่ที่ตลาด ถูกทิศแคนหอมแก้มมันยังไม่ขัดขืนเลย ช่างไม่อายคนคงจะอยากได้เขาจนตัวสั่น)"เจ้าจำคนผิดบ่"(แกจำผิดคนหรือเปล่า)"บ่ ๆ อีเรไรนี่แหละ ข่อยเห็นมากับสองตา"(ไม่ ๆ ฉันมั่นใจเห็นมากับสองตา)"แต่พักหลัง ๆ มานี้กะเห็นทิศแคนเข้าออกบ้านพ่อใหญ่สิทธิ์ดุอยู่ สิมาวนอีเรอิหลีล่ะ"(แต่พักหลังมานี้ก็เห็นทิศแคนเข้าออกที่บ้านตาสิทธิ์บ่อยอยู่นะ คงจะมาติดพันเรไรจริง ๆ นั่นแหละ)แม่ค้าตอบกลับมาเป็นความคิดเห็นเท่านั้น เพราะเธอเองก็เห็นแต่ก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจมากนักเพราะต่างคนต่างใช้ชีวิต"ไสว่ามันสิเอากับบักห้อย"(แต่ไหนว่ามันกับไอ้ห้อยจะเอากันเป็นมั่นเหมาะ)"โอ๊ย! ทุกปานนี้บักห้อยมันบ่เอาดอก คนขี้ค้านจั

  • หลงเสียงเรไร   คนที่ไม่อยากเจอ

    เสียงไก่โห่ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ชาวบ้านก็เริ่มไล่วัวควายออกไปเลี้ยงตามวิถีชีวิตชนบท บางคนก็ออกไปไร่ไปนาเพราะใกล้ฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว"พี่เร...รอด้วยฉันเสร็จแล้ว" ลำดวนรีบแต่งตัวตามพี่สาวออกมาหมายจะออกไปช่วยขายผักที่ตลาด"อยู่นี่แหละรอทำกับข้าวให้พ่อกับแม่""บ่ ๆพ่อกับแม่บ่อยากดอก พากันออกไปส่อยกันโลด"(ไม่ต้อง ๆ พ่อกับแม่อยู่กันได้ เอ็งสองคนพสกันออกไปช่วยกันเถอะ)คนเป็นแม่ว่าขึ้นเพราะลำพังอยู่สองตายายกินอะไรก็ได้อยากให้ลูกออกไปช่วยกันมากกว่า"งั้นเดี๋ยวฉันรีบกลับมานะ"สองสาวพี่น้องซ้อนท้ายกับออกมาตั้งแต่เช้ามืดเพื่อไปให้ทันตลาดเช้า ผักช่วงนี้ออกเยอะจนล้นตลาดทำให้ต้องไปนั่งขายเอง หมดล็อตนี้ก็ว่าจะกลับไปปลูกพริกกับมะเขือเหมือนเดิมดีกว่า"ลำดวน ไม่ต้องช่วยพี่หรอก เอาผักกาดกับกะหล่ำอย่างละร้อยไปส่งร้านขนมจีนเจ้น้อยให้พี่ไป""จ้ะ" ว่าแล้วลำดวนก็หยิบผักกาดขาวและกะหล่ำใส่ตะกร้าเท่าจำนวนที่สาวบอกและขับมอไซด์ออกไปที่ร้านขนมจีนหน้าโรงพยาบาลเหลือเพียงเรไรที่กำลังตั้งแผงขายผักที่เหลืออยู่"ผักจ้าผัก สด ๆ จากสวน ปลอดสารพิษนะจ๊ะ" เสี

  • หลงเสียงเรไร   แรกตั้งใจรัก

    "เอ้าสูสองคนคือมานำกัน"(อ้าว ทำไมสองคนนี้มาด้วยกัน)"กูย่างเลาะมาพ้อผู้สาวกำลังยืนงง ๆ อยู่ข้างห้องน้ำกำลังว่าสิลักพาตัว"(กูเดินมาเจอสาวสวยคนนี้กำลังยืนงง ๆ อยู่ข้าง ๆ ห้องน้ำเลยว่าจะลักพาตัวสักหน่อย)"หือ!!!"ฉันเงยหน้ามองคนด้านข้างและพยายามจะดึงมือออกจากเนื้อมือของเขาที่จับรั้งฉันเอาไว้"อีลำดวนกลับบ้าน"(ลำดวนไป...กลับบ้าน)"ฮะ อือ ๆ" ลำดวนก็เมาไม่ต่างจากฉันสักเท่าไหร่ แต่ฉันตกใจสิ่งที่พี่แคนทำจนหายเมาแล้วล่ะ เหลือแค่มึนนิดหน่อย ทีแรกกะจะกลับมากินต่อแหละ แต่ไม่ดีกว่าเดี๋ยวเตลิดเปิดเปิงไปกันใหญ่"ยกรถจักรยานขึ้นรถให้ด้วย" ฉันบอก...ไม่สิฉันสั่งเขา! และเดินมาขึ้นรถกระบะที่จอดอยู่ข้าง ๆ ร้านพี่วาสนาราวกับเป็นรถของตัวเอง ส่วนลำดวนขึ้นรถมาได้ก็นอนราบไปที่เบาะหลังและเหมือนจะหลับจนได้ยินเสียงกรนออกมาเบา ๆ"อีลำดวน ลุกฮอดบ้านแล้ว"(ลำดวนลุกถึงบ้านแล้ว)"อือ ฮะ อือ" น้องสาวคนเล็กลุกขึ้นงัวเงียก่อนจะเปิดประตูรถลงไปก่อน"ขอบคุณเด้อที่มาส่ง"(ขอบคุณนะที่มาส่ง)"เร...เป็นแฟนกับอ้ายเนาะ"(เร...เป็นแฟนกับพี่เถอะนะ)ตั้งแต่ฉันผิดหวังจากไอ้ห้อยนี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่พี่แคนของฉันเป็นแฟน ในคราแรก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status