Home / โรแมนติก / หลงเสียงเรไร / เรไม่ต้องการให้ใครมาสงสาร

Share

เรไม่ต้องการให้ใครมาสงสาร

last update Huling Na-update: 2025-05-05 10:43:29

[แคน talk]

หลังจากที่ผมเห็นเหตุการณ์ที่ตลาดวันนั้นก็รู้ได้แล้วว่าโอกาสของตัวเองมาถึงแล้ว อันที่จริงผมเห็นไอ้ห้อยกับสีทำอะไรลับหลังเรไรแบบนี้หลายครั้งแล้วแหละ บอกผ่านวาสนาไปแต่เรไรนั้น ปักใจเชื่อมาตลอดว่าห้อยรักเธอ ผมเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากทำให้เธอได้เห็นด้วยตาเนื้อของตัวเอง

เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วที่ผมเฝ้าตาเรไร จนชาวบ้านเอาไปลือต่างๆ นานา ตอนนี้เรไรเองก็เหมือนจะทำใจได้บ้างแล้ว ผมคิดว่าเธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าผมกำลังจีบและเร่งทำคะแนน บางครั้งที่ถูกหยอดมุกไปก็มีเขินจนหน้าแดง...

เวลาย่ำค่ำพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้ารำไร สายลมเย็นๆในช่วงหน้าหนาวพัดผ่านกายจนเย็นสะท้านในบางครา บ้านไม้ยกสูงที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน มองจากไกล ๆ สองพี่น้องกำลังช่วยกันแต่งสำรับกับข้าว โดยที่พ่อแม่ที่แก่ชรากำลังนั่งรอ ไม่รอช้าผมขับรถเข้าไปจอดที่หน้าบ้านและเดินลงไปพร้อมกับของในมือที่ซื้อมาจากในเมือง

"ทิศแคน มาตะไสละค่ำมืด"(แคนไปไหนมาค่ำมืด)

พอเดินลงจากรถตาสิทธิ์ก็ทักทายทันที

"หัวแต่กลับมาแต่ในเมืองไปซื้ออะไหล่รถ กะเลยซื้อแนวกินมาฝาก"(พึ่งจะกลับมาจากในเมืองครับเข้าไปซื้ออะไหล่รถ เลยซื้อของกินมาฝาก)

ผมวางของกินที่ซื้อไว้บนเตียงไม้นั้น ก็มีทั้งผลไม้ ขนมหวาน กับพวกของสดที่ไว้ทำกับข้าวพวกนั่นแหละ

"ซื้อมาทำไมเยอะแยะ ที่นี่ของกินก็ใช่ว่าจะขาดแคลนสักหน่อย ไม่ต้องเอาของกินมาหลอกล่อฉันหรอกนะ ไม่ใช่เด็ก ๆ" คนตัวเล็กที่นั่งพับเพียบอยู่บนเตียงข้างยายนีแม่ของเธอว่าผมมาทันที

"แต่มื้อนี้มีเม็ดขนุนเดะ"(แต่วันนี้มีเม็ดขนุนด้วยนะ)

ผมรู้ว่าเธอนั้นชอบกินขนมไทยมากโดยเฉพาะเม็ดขนุน วาสนาบอกหน่ะ สายตาหวานนั้นเหลือบมองมายังถุงขนมแต่ก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจ จนผมอดยิ้มเอ็นดูท่าทางของเธอไม่ได้

"มา ๆ กินข้าวนำกันสะก่อน"(งั้นก็กินข้าวด้วยกันมา)

ยายนีขยับใกล้ตาสิทธิ์พร้อมกับสะกิดขาลูกสาวให้ขยับเพื่อให้มีพื้นที่ว่างพอให้ผมได้นั่ง ไม่รอช้าผมก็เดินไปฝั่งนั้นและนั่งข้างเธอจนหัวเข่าของเราชนกัน

"ขยับไปแนสิมานั่งหยังใกล้แท้"(ถอยออกไปหน่อยนั่งใกล้เกินไปแล้ว)

แต่ผมก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน รับจานข้าวจากลำดวนมาวางตรงหน้า

"มากินข้าวเฮือนข่อยดุปานนี้ เจ้าสิได้มาส่อยพ่อข่อยเฮ็ดนาเด้ออ้ายแคน"(มากินข้าวที่นี่บ่อยขนาดนี้ต้องมาช่วยพ่อหนูทำนาแล้วมั้งพี่แคน)

ลำดวนมันเอ่ยแซวผม แต่ก็จริงอย่างที่มันพูดเพราะผมมากินข้าวที่บ้านนี้แทบทุกอาทิตย์เลยก็ว่าได้ อยากจะสวนมันกลับไป

ให้มาทำแทนเลยก็ได้พ่อตาจะได้ไม่ต้องเหนื่อย...

หลังจากที่ทานข้าวเสร็จยายนีกับตาสิทธิ์ก็ขึ้นบ้านนอน เหลือเพียงผมที่นั่งเล่นอยู่ใต้ถุนบ้านกับเรไร

"อ้ายขอเข้าห้องน้ำแน"(พี่ขอเข้าห้องหน่อย)

"ทางนั้น...คงไม่ต้องให้พาเดินไปหรอกเนาะ"

"พาไปแน"(พาไปหน่อย)

"โตใหญ่ปานนี้ย่านอิหยัง"(ตัวใหญ่ขนาดนี้จะกลัวอะไร)

"ก็อยากให้ไปเป็นหมู่มันมืด เผื่องูเงี้ยวเกี้ยวขอกัดอ้ายขึ้นมาไผสิส่อย"(ก็อยากให้ไปเป็นเพื่อนมันมืด เผื่องูเงี้ยวเกี้ยวขอกัดขึ้นมาใครจะช่วยพี่ได้ทัน)

เธอค้อนสายใส่ผมแต่ก็ยอมลุกขึ้นมาพาเดินไปทางหลังบ้านที่เป็นสวนของห้องน้ำ ไฟโซล่าเซลที่ให้แสงสว่างเพียงริบหรี่ ทำให้มองเห็นรอบข้างได้เพียงสลัวเท่านั้น ห้องน้ำเล็ก ๆ เก่า ๆ เป็นเพียงอิฐก่อขึ้นมายังไม่ได้ฉาบและมุงด้วยสังกะสีเก่า ๆ แถมยังมีช่องโว๋หลายช่อง น้ำในถังก็เย็นเฉียบพากันอาบไปได้ยังไง แล้วที่บ้านก็มีแต่ผู้หญิงอีกถ้ามีคนมาแอบดู... แค่คิดผมก็เป็นห่วงและอยากจะทำห้องน้ำให้ใหม่เลย

"เร หน้าหนาวอาบน้ำแบบไหนบ่หนาวติ"(หน้าหนาวอาบน้ำแบบไหน ไม่หนาวเหรอ)

"หนาวก็ต้มน้ำ ค่อยเอามาผสมอาบไง ถามทำไมอย่าบอกนะว่าจะอาบน้ำอีก กลับบ้านไปเลยนะ ฉันไม่ต้มให้หรอก" ผมแค่ถามสั้น ๆ แต่เธอใส่มาเป็นชุด แต่ผมกลับดีใจที่เธอพูดยาว ๆ แบบนี้

[จบแคน talk]

ชายหนุ่มนั่งถามไถ่เธอคุยไปเรื่อยจนเวลาเกือบสองทุ่ม สองคนจึงออกมายืนที่หน้าบ้านเพราะเขานั้นตั้งใจจะกลับ ซึ่งมันก็มืดอยู่พอสมควร อยู่ ๆ เรไรก็เงียบไป พร้อมกับมองหน้าเขาด้วยแววตาบางอย่างมันดูจริงจังจนชายหนุ่มนึกแอบหวั่นใจแปลก ๆ

"อ้ายแคน"(พี่แคน)

"ครับ"

"เรบ่ต้องการให้ไผมาสงสาร"(เรไม่ต้องการให้ใครมาสงสาร)

"อ้ายเคยบอกเรไปแล้วว่ารู้สึกแบบไหน อ้ายกะยังยืนยันคำเดิม"(พี่เคยบอกเรไปแล้ว และพี่ก็ยังยืนยันคำเดิม)

"แต่ว่า..."

จุ๊บ!!!

ประโยคดังกล่าวเปล่งออกมาไม่สุดเสียงเพราะปากหยักได้รูปนั้นฉกจูบลงไปด้วยความเร็ว จนเธอยืนอึ้งมองหน้าเขาด้วยความตกใจ ก่อนที่จะยกมือขึ้นมาจับที่ริมฝีปากตัวเอง มันเกิดขึ้นเร็วมากจนเธอเองแทบตั้งตัวไม่ทันแต่ก็จำสัมผัสนั้นได้แม่น

"อ้ายแคน เฮ็ดอิหยังแบบนี้"(พี่แคน ทำอะไรแบบนี้)

"เห็นปากน้อย ๆ นี้จ่มดุถามดุอดบ่ได้ มันคือการลงโทษ ถ้าเรยังไล่อ้ายอีกอ้ายสิบ่เฮ็ดแค่จูบ"(ทนไม่ได้หรอกปากจิ้มลิ้มมันบ่นเก่งถามเก่งเหลือเกิน มันคือการลงโทษ แล้วถ้าเรยังไล่พี่อีกต่อไปพี่จะไม่ทำแค่จูบ)

"เรบ่เต็ม..."(แต่เรไม่...)

จุ๊บ!!!

การขโมยจูบครั้งนี้เขาไม่ได้ถอดถอนปากออกเร็วเหมือนคราแรก ดวงตาหวานเบิกกว้างก่อนจะหลับตาและใช้มือดันที่หน้าอกหวังให้ออกห่างตัวเธอ ทว่ามือหนากลับวาดกอดมาที่แผ่นหลังพร้อมกับรั้งเข้าหาตัวจนอกเบียดชิด สัมผัสอุ่นร้อนและกลิ่นกายหอม ๆ ราวดอกมะลิของเธอทำให้ชายหนุ่มแทบจะไม่อยากผละออก แต่ถ้าเขาไม่หยุดตอนนี้คนตัวเล็กมีหวังขาดอากาศหายใจเป็นแน่...

เฮือก!!

ทันทีที่เป็นอิสระ หญิงสาวก็รีบสูดหายใจเอาอากาศเข้าปอดพร้อมยกมือทาบอก มองคนตัวสูงที่ยืนยิ้มกริ่มอย่างเอาเรื่อง

"นิสัยบ่ดี"(นิสัยไม่ดี)

"แผลในใจเจ้าให้อ้ายสิเป็นคนรักษามันเอง"(แผลในใจพี่จะเป็นคนรักษาให้เอง)

"เป็นหมอสั้นเบาะ"(เป็นหมอหรือไง)

"สิเป็นหมอใจของเรคนเดียว"(จะเป็นหมอรักษาใจของเรคนเดียว)

"ไผหาตั๋วเด็กน้อยพื้น"(ไปหลอกเด็กเถอะ)

แม้จะพูดเหมือนไม่รู้สึกทว่าใบหน้าสวยนั้นเปล่งสีแดงจนเต็มสองแก้ม อีกทั้งมุมปากของเธอเองก็กำลังกลั้นยิ้มเอาไว้แต่รู้ไหมว่ามันไม่รอดสายตาเหยี่ยวของเขาไปได้

"อ้ายกลับก่อนเด้อ ฝันดีครับ คนงามของอ้าย"(พี่กลับแล้วนะ ฝันดีครับคนสวยของพี่)

ฟอด~~

"อ้ายแคน!"(พี่แคน!)

"ชื่นใจ" เขาล้อหลอกเธอ มือเล็กยกขึ้นหมายจะตีแต่ก็ไม่ได้จริงจังนักแต่เขากลับเปิดประตูขึ้นรถไปเสียก่อน

"แก้มห๊อมหอม ปากกะนุ่มคักเป็นตาจูบ"(แก้มห๊อมหอมปากก็นุ่มน่าจูบมาก) ก่อนออกไปไม่วายที่จะลดกระจกลงมาพูดคำพูดที่ชวนให้ใจสั่น ลับหลังเรไรก็เอาแต่ยิ้มพร้อมกับเดินหันหลังกลับเข้าบ้านไป พร้อมหัวใจที่เต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

อ้ายแคนได้จูบแรกไปแล้ว...

ขึ้นห้องมาก็เอาแต่คิดถึงสัมผัสนั้นจนหลับไป ใบหน้าสวยนั้นมีรอยยิ้มเปื้อนในรอบเดือนเลยก็ว่าได้

#เขินอ้ายแคน

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • หลงเสียงเรไร   อยู่คนเดียวก็ไม่ตาย

    แสงแดดจ้าในตอนกลางวันช่วงหน้าหนาวไม่ได้ให้ความรู้สึกร้อนอย่างที่ควรจะเป็นแต่ยังเพิ่มความอบอุ่นให้จากอุณหภูมิที่ต่ำแบบนี้ด้วย สองพี่น้องที่ช่วยกันถอนหญ้าจากแปลงกะหล่ำและต้นหอม พลางเปิดเพลงจากลำโพงบลูธูทขนาดเล็กที่ลำดวนนั้นพกมาด้วยจนเสียงดังไปทั่วบริเวณ เข้าหน้าหนาวแบบนี้พริกปลูกยากเป็นโรคแล้วก็ไม่โตจึงต้องหันมาปลูกพืชตามฤดูแทน แต่ตอนนี้มีเพียงต้นหอมที่พอจะเก็บขายได้ส่วนกะหล่ำพึ่งจะได้สามสิบวันต้องรอให้ได้อายุก่อน"พี่เร...ลำดวนว่าพี่แคนก็ดีนะ เมื่อไหร่พี่จะเปิดใจให้แกสักที นี่เขาก็ตามจีบพี่มาเป็นเดือน ๆ แล้ว"ได้ยินเพียงเสียงถอนหายใจจากพี่สาวกลับมา แต่ลำดวนนั้นเชียร์ว่าที่พี่เขยคนนี้สุดใจ"ข่อยเห็นอิสร้อยลูกผู้ใหญ่วินัยเทียวไปเทียวมาบ้านเลาอยู่เด้อ ระวังเล่นตัวหลาย ๆ เขาสิหันไปหาคนอื่นก่อนยามนั้นอย่ามาคิดเสียดาย"(หนูเห็นสร้อยลูกผู้ใหญ่วินัยเทียวไปเทียวมาที่บ้านพี่แคนบ่อย ๆ ถ้าเขาหันกลับไปสนใจคนอื่นจะมาคิดเสียดายทีหลังไม่ได้นะ)"อีลำดวน มึงสิเว้าฮอดอ้ายแคนสุมื้อเลยบ่ มักปานนั้นมึงคือบ่เอาเองโลด"(ลำดวน..นี่จะพูดถึงพี่แคนทุกวันเลยหรือไง ถ้าชอบขนาดนั้นทำไมไม่เ

    Huling Na-update : 2025-05-06
  • หลงเสียงเรไร   เมื่อไหร่จะยอมเป็นแฟนพี่สักที

    ร่างอรชรในชุดเสื้อกล้ามสีชมพูสวมทับด้วยเสื้อแขนยาวไหมพรมกางเกงวอมสีเทาเดินลงมาจากบนบ้านก็เห็นว่าพ่อแม่และน้องสาวกำลังจัดแต่งสำรับเย็น แต่ไร้ความหิวสำหรับเธอ"กินข้าวก่อนเลยเด้อ สิออกไปนั่งเล่นอยู่ร้านยายวาด"(กินกันได้เลยนะ จะออกไปนั่งเล่นที่ร้านองพี่วาด""ข่อยไปนำ"(หนูไปด้วย)ว่าแล้วลำดวนที่พึ่งจะอาบน้ำเสร็จและแต่งพาข้าวให้พ่อแม่เรียบร้อยก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหยิบเอาเสื้อแขนยาวมาสวมทับและขึ้นซ้อนท้ายจักรยานของพี่สาวทันที แต่ก็ไม่ลืมที่จะอุ้มเอาถุงต้นหอมติดไปส่งร้านค้าในหมู่บ้านด้วยเนื่องจากเป็นทางผ่านถนนคอนกรีตในหมู่บ้านทอดยาวไป บ้านเรือนแถบชนบทส่วนมากก็จะเป็นบ้านไม้ยกสูงใต้ถุนโล่งหลังไหนที่มีอันจะกินหน่อยก็จะเป็นครึ่งปูครึ่งไม้ วัวควายที่ไล่ต้อนเข้ามาในยามพลบค่ำก็เดินเต็มถนนร้านยาดองวาสนา แม่ค้าสาวคนสวยในชุดเสื้อยืดรัดรูปสีขาวกับผ้าถุงลายหงส์ที่เธอชอบใส่กำลังยืนตักเหล้าดองยาจากไหใส่กระบอกไม้ไผ่ก่อนจะเดินไปเสิร์ฟให้ลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาดื่ม โดยมี อบต. หนุ่มนั่งอยู่ไม่ห่าง ทันทีที่เห็นน้องสาวสองคนเธอก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับส่งยิ้

    Huling Na-update : 2025-05-07
  • หลงเสียงเรไร   อารัมภบท

    แนะนำตัวละคร1.เรไร นางเอก2.แคน พระเอกตลาดสดในตัวอำเภอในยามสายหลังจากที่ขายพริกหมดกำลังจะเก็บของกลับบ้านฉันก็บังเอิญเจอเข้ากับสองคนที่ฉันรู้จักดี ใจดวงน้อยสั่นระรัวขึ้นทันที พร้อมกับความจุกแน่นที่ดันขึ้นมากองอยู่ลิ้นปี่“อ้ายเห็นโตเป็นแค่น้องสาวคนหนึ่ง” (พี่เห็นเธอเป็นเพียงน้องสาว) “น้องสาวบ่ เห็นเป็นแค่น้องสาวบ่!!” (น้องเหรอ เห็นเป็นแค่น้องสาวเหรอ) ฉันย้ำคำถามเสียงดังอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง“เรไรคนมองเยอะแล้ว"“มึงก็อีกคน รู้ทั้งรู้ว่ากูกับอ้ายห้อยมักกันมึงก็ยังเฮ็ดกับกูได้ลง อีหมู่ซั่ว” ดูเหมือนคำด่าของฉันไม่ได้เข้าสมองคนฟังเลยสักนิด กลับกันเธอยังยืนกอดแขนชายคนรัก ไม่สิ! เขาไม่เคยรักฉันด้วยซ้ำด้วยความสนิทชิดเชื้อ (เชื้อติดปิ๊)"พี่ห้อยเขาบอกว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับมึง"“แล้วมึงเชื่อเขาทุกอย่างเลย"“เร อ้ายว่าเรเมือบ้านสา จังได๋เรกะเป็นน้องสาวอ้ายคือเก่าล่ะ” (พี่ว่าเรกลับบ้านไปเถอะ ยังไงเรก็คือน้องสาวของพี่)ฉันไม่เคยรู้สึกเสียใจอะไรเท่านี้มาก่อน เดินมาบอกกันตรงๆยังจะรู้สึกดีกว่าที่ให้ฉันมาเจอเขาสองคนลอบรักกันลับหลังแบบนี้ อีกคนก็เพื่อนสนิทอีกคนก็คนที่...รัก “อีสีมันดีกว่าเรตร

    Huling Na-update : 2025-05-01
  • หลงเสียงเรไร   ตอนที่1 อีหล่างาม

    กว่าฝนจะซาก็เกือบชั่วโมงต้องนั่งหนาวอยู่แบบนั้น พี่แคนตามมาส่งถึงบ้านเลย มาถึงฉันก็รีบอาบน้ำเข้านอนเพราะต้องลุกไปส่งพริกที่ตลาดแต่เช้า ร้านป้าน้อยแม่ค้าผักเจ้าใหญ่สั่งไว้ห้าสิบกิโลครืดครืด ครืดครืดพึ่งจะทิ้งหัวลงหมอนได้ยังไม่รู้สึกว่าหลับเลยเสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือก็ดังขึ้น นอนไปแค่สามชั่วโมงเองแต่ก็เหมือนไม่ได้นอน จะนอนต่อก็ไม่ได้ เกิดเป็นอีเรไรนี่มันต้องอึดและบึกบึนเว้ย!ฉันแบกร่างที่ล้าขับรถออกมาตามทางในยามเช้ามืดจุดหมายอยู่ที่แผงผักป้าน้อย มันคั่นเนื้อคั่นตัวเหมือนจะไม่สบายคงเพราะตากฝนเมื่อคืนแหละมั้งทั้งยังกินเหล้าอีกคิดดูว่าพริกห้าสิบกิโลที่แพคใส่ถุงสิบกิโลกับรถมอเตอร์ไซด์คันเก่าๆ ฉันต้องทุักทุเลมากขนาดไหน ใช้เวลาขับรถอยู่ราวๆสามสิบนาทีก็ถึงจุดหมายในตอนฟ้าสางพอดี หน้าร้านแกก็ยังมีรถกระบะคอกสูงกำลังมาส่งผักเช่นกัน"เพิ่มรับเรไรแนเร็ว"(เพิ่มมารับเรไรหน่อยเร็ว) ป้าน้อยทันทีที่เห็นฉันขับไปจอดแกก็รีบเรียกลูกน้องมารับเลยโชคดีที่วันนี้เป็นออเดอร์ส่งเลยไม่ต้องนั่งขายให้หลังขดหลังแข็ง ภาวนาให้มีออเดอร์ทุกวัน แต่ก่อนกลับก็ไม่ลืมแวะซื้อ

    Huling Na-update : 2025-05-02
  • หลงเสียงเรไร   ตอนที่ 2 ยังฮักไปอีกได้บ่

    แคนตั้งใจจะโทรไปชวนเรไรมาเที่ยวงานเพราะไม่อยากให้เธออยู่คนเดียวและคิดถึงเรื่องที่ทำให้บั่นทอนจิตใจ คราแรกเธอก็มีท่าทีปฏิเสธทว่าเขาก็หาทางตะล่อมจนหญิงสาวนั้นตกลงชายหนุ่มลูกชายคนโตของบ้าน พ่อแม่ต่างเป็นข้าราชการครูเกษียณ น้องชาย 'คราม' ก็เป็นถึง ส.อบต. เรียกได้ว่าบ้านก็ค่อนข้างที่จะมีฐานะในหมู่บ้าน แต่เขาที่ไม่ชอบอยู่ใต้บังคับบัญชาใครเลยไม่เดินสายนี้เดิมทีเขาควรจะแต่งงานออกเรือนไปตั้งนานแล้วด้วยอายุที่ย่างเข้ามาถึงเลขสาม พ่อแม่เทียวติดต่อหาสาวๆที่เป็นลูกข้าราชการเหมือนกันมาให้แต่แคนเองก็ไม่เคยที่จะแลตามองผมจะรอเรไรคนเดียวเท่านั้นกี่ปีก็จะรอ...งานของดีอำเภอณ ที่ว่าการ ถนนทางเข้าสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าร้านขายของกินของที่ระลึก มีโซนเสื้อผ้าร้านขายผ้าไหมพื้นเมืองที่ทอโดยฝีมือของผู้เฒ่าผู้แก่ และโซนของเล่นมากมาย แต่สิ่งที่ดึงดูดผู้คนให้หลั่งไหลเข้ามาในงานได้มากมายขนาดนี้เห็นคงจะเป็นหมอลำคณะใหญ่ที่ตั้งเวทีเด่นตระหง่านเต็มไปด้วยแสงไฟละลานตา ไฟส่องฟ้าวิบวับและเสียงบรรเลงเพลงจากเครื่องเสียงจนดังอึกกระทึกไปทั่วบริเวณ"

    Huling Na-update : 2025-05-03

Pinakabagong kabanata

  • หลงเสียงเรไร   เมื่อไหร่จะยอมเป็นแฟนพี่สักที

    ร่างอรชรในชุดเสื้อกล้ามสีชมพูสวมทับด้วยเสื้อแขนยาวไหมพรมกางเกงวอมสีเทาเดินลงมาจากบนบ้านก็เห็นว่าพ่อแม่และน้องสาวกำลังจัดแต่งสำรับเย็น แต่ไร้ความหิวสำหรับเธอ"กินข้าวก่อนเลยเด้อ สิออกไปนั่งเล่นอยู่ร้านยายวาด"(กินกันได้เลยนะ จะออกไปนั่งเล่นที่ร้านองพี่วาด""ข่อยไปนำ"(หนูไปด้วย)ว่าแล้วลำดวนที่พึ่งจะอาบน้ำเสร็จและแต่งพาข้าวให้พ่อแม่เรียบร้อยก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหยิบเอาเสื้อแขนยาวมาสวมทับและขึ้นซ้อนท้ายจักรยานของพี่สาวทันที แต่ก็ไม่ลืมที่จะอุ้มเอาถุงต้นหอมติดไปส่งร้านค้าในหมู่บ้านด้วยเนื่องจากเป็นทางผ่านถนนคอนกรีตในหมู่บ้านทอดยาวไป บ้านเรือนแถบชนบทส่วนมากก็จะเป็นบ้านไม้ยกสูงใต้ถุนโล่งหลังไหนที่มีอันจะกินหน่อยก็จะเป็นครึ่งปูครึ่งไม้ วัวควายที่ไล่ต้อนเข้ามาในยามพลบค่ำก็เดินเต็มถนนร้านยาดองวาสนา แม่ค้าสาวคนสวยในชุดเสื้อยืดรัดรูปสีขาวกับผ้าถุงลายหงส์ที่เธอชอบใส่กำลังยืนตักเหล้าดองยาจากไหใส่กระบอกไม้ไผ่ก่อนจะเดินไปเสิร์ฟให้ลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาดื่ม โดยมี อบต. หนุ่มนั่งอยู่ไม่ห่าง ทันทีที่เห็นน้องสาวสองคนเธอก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับส่งยิ้

  • หลงเสียงเรไร   อยู่คนเดียวก็ไม่ตาย

    แสงแดดจ้าในตอนกลางวันช่วงหน้าหนาวไม่ได้ให้ความรู้สึกร้อนอย่างที่ควรจะเป็นแต่ยังเพิ่มความอบอุ่นให้จากอุณหภูมิที่ต่ำแบบนี้ด้วย สองพี่น้องที่ช่วยกันถอนหญ้าจากแปลงกะหล่ำและต้นหอม พลางเปิดเพลงจากลำโพงบลูธูทขนาดเล็กที่ลำดวนนั้นพกมาด้วยจนเสียงดังไปทั่วบริเวณ เข้าหน้าหนาวแบบนี้พริกปลูกยากเป็นโรคแล้วก็ไม่โตจึงต้องหันมาปลูกพืชตามฤดูแทน แต่ตอนนี้มีเพียงต้นหอมที่พอจะเก็บขายได้ส่วนกะหล่ำพึ่งจะได้สามสิบวันต้องรอให้ได้อายุก่อน"พี่เร...ลำดวนว่าพี่แคนก็ดีนะ เมื่อไหร่พี่จะเปิดใจให้แกสักที นี่เขาก็ตามจีบพี่มาเป็นเดือน ๆ แล้ว"ได้ยินเพียงเสียงถอนหายใจจากพี่สาวกลับมา แต่ลำดวนนั้นเชียร์ว่าที่พี่เขยคนนี้สุดใจ"ข่อยเห็นอิสร้อยลูกผู้ใหญ่วินัยเทียวไปเทียวมาบ้านเลาอยู่เด้อ ระวังเล่นตัวหลาย ๆ เขาสิหันไปหาคนอื่นก่อนยามนั้นอย่ามาคิดเสียดาย"(หนูเห็นสร้อยลูกผู้ใหญ่วินัยเทียวไปเทียวมาที่บ้านพี่แคนบ่อย ๆ ถ้าเขาหันกลับไปสนใจคนอื่นจะมาคิดเสียดายทีหลังไม่ได้นะ)"อีลำดวน มึงสิเว้าฮอดอ้ายแคนสุมื้อเลยบ่ มักปานนั้นมึงคือบ่เอาเองโลด"(ลำดวน..นี่จะพูดถึงพี่แคนทุกวันเลยหรือไง ถ้าชอบขนาดนั้นทำไมไม่เ

  • หลงเสียงเรไร   เรไม่ต้องการให้ใครมาสงสาร

    [แคน talk]หลังจากที่ผมเห็นเหตุการณ์ที่ตลาดวันนั้นก็รู้ได้แล้วว่าโอกาสของตัวเองมาถึงแล้ว อันที่จริงผมเห็นไอ้ห้อยกับสีทำอะไรลับหลังเรไรแบบนี้หลายครั้งแล้วแหละ บอกผ่านวาสนาไปแต่เรไรนั้น ปักใจเชื่อมาตลอดว่าห้อยรักเธอ ผมเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากทำให้เธอได้เห็นด้วยตาเนื้อของตัวเองเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วที่ผมเฝ้าตาเรไร จนชาวบ้านเอาไปลือต่างๆ นานา ตอนนี้เรไรเองก็เหมือนจะทำใจได้บ้างแล้ว ผมคิดว่าเธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าผมกำลังจีบและเร่งทำคะแนน บางครั้งที่ถูกหยอดมุกไปก็มีเขินจนหน้าแดง...เวลาย่ำค่ำพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้ารำไร สายลมเย็นๆในช่วงหน้าหนาวพัดผ่านกายจนเย็นสะท้านในบางครา บ้านไม้ยกสูงที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน มองจากไกล ๆ สองพี่น้องกำลังช่วยกันแต่งสำรับกับข้าว โดยที่พ่อแม่ที่แก่ชรากำลังนั่งรอ ไม่รอช้าผมขับรถเข้าไปจอดที่หน้าบ้านและเดินลงไปพร้อมกับของในมือที่ซื้อมาจากในเมือง"ทิศแคน มาตะไสละค่ำมืด"(แคนไปไหนมาค่ำมืด)พอเดินลงจากรถตาสิทธิ์ก็ทักทายทันที"หัวแต่กลับมาแต่ในเมืองไปซื้ออะไหล่รถ กะเลยซื้อแนวกินมาฝาก"(พึ่งจะกลับมาจากในเมืองครับเข้าไปซื้ออะไหล่รถ เลยซื้อของกินมาฝาก)ผมวางของกินที่ซื้อไว้บน

  • หลงเสียงเรไร   ตอนที่ 2 ยังฮักไปอีกได้บ่

    แคนตั้งใจจะโทรไปชวนเรไรมาเที่ยวงานเพราะไม่อยากให้เธออยู่คนเดียวและคิดถึงเรื่องที่ทำให้บั่นทอนจิตใจ คราแรกเธอก็มีท่าทีปฏิเสธทว่าเขาก็หาทางตะล่อมจนหญิงสาวนั้นตกลงชายหนุ่มลูกชายคนโตของบ้าน พ่อแม่ต่างเป็นข้าราชการครูเกษียณ น้องชาย 'คราม' ก็เป็นถึง ส.อบต. เรียกได้ว่าบ้านก็ค่อนข้างที่จะมีฐานะในหมู่บ้าน แต่เขาที่ไม่ชอบอยู่ใต้บังคับบัญชาใครเลยไม่เดินสายนี้เดิมทีเขาควรจะแต่งงานออกเรือนไปตั้งนานแล้วด้วยอายุที่ย่างเข้ามาถึงเลขสาม พ่อแม่เทียวติดต่อหาสาวๆที่เป็นลูกข้าราชการเหมือนกันมาให้แต่แคนเองก็ไม่เคยที่จะแลตามองผมจะรอเรไรคนเดียวเท่านั้นกี่ปีก็จะรอ...งานของดีอำเภอณ ที่ว่าการ ถนนทางเข้าสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าร้านขายของกินของที่ระลึก มีโซนเสื้อผ้าร้านขายผ้าไหมพื้นเมืองที่ทอโดยฝีมือของผู้เฒ่าผู้แก่ และโซนของเล่นมากมาย แต่สิ่งที่ดึงดูดผู้คนให้หลั่งไหลเข้ามาในงานได้มากมายขนาดนี้เห็นคงจะเป็นหมอลำคณะใหญ่ที่ตั้งเวทีเด่นตระหง่านเต็มไปด้วยแสงไฟละลานตา ไฟส่องฟ้าวิบวับและเสียงบรรเลงเพลงจากเครื่องเสียงจนดังอึกกระทึกไปทั่วบริเวณ"

  • หลงเสียงเรไร   ตอนที่1 อีหล่างาม

    กว่าฝนจะซาก็เกือบชั่วโมงต้องนั่งหนาวอยู่แบบนั้น พี่แคนตามมาส่งถึงบ้านเลย มาถึงฉันก็รีบอาบน้ำเข้านอนเพราะต้องลุกไปส่งพริกที่ตลาดแต่เช้า ร้านป้าน้อยแม่ค้าผักเจ้าใหญ่สั่งไว้ห้าสิบกิโลครืดครืด ครืดครืดพึ่งจะทิ้งหัวลงหมอนได้ยังไม่รู้สึกว่าหลับเลยเสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือก็ดังขึ้น นอนไปแค่สามชั่วโมงเองแต่ก็เหมือนไม่ได้นอน จะนอนต่อก็ไม่ได้ เกิดเป็นอีเรไรนี่มันต้องอึดและบึกบึนเว้ย!ฉันแบกร่างที่ล้าขับรถออกมาตามทางในยามเช้ามืดจุดหมายอยู่ที่แผงผักป้าน้อย มันคั่นเนื้อคั่นตัวเหมือนจะไม่สบายคงเพราะตากฝนเมื่อคืนแหละมั้งทั้งยังกินเหล้าอีกคิดดูว่าพริกห้าสิบกิโลที่แพคใส่ถุงสิบกิโลกับรถมอเตอร์ไซด์คันเก่าๆ ฉันต้องทุักทุเลมากขนาดไหน ใช้เวลาขับรถอยู่ราวๆสามสิบนาทีก็ถึงจุดหมายในตอนฟ้าสางพอดี หน้าร้านแกก็ยังมีรถกระบะคอกสูงกำลังมาส่งผักเช่นกัน"เพิ่มรับเรไรแนเร็ว"(เพิ่มมารับเรไรหน่อยเร็ว) ป้าน้อยทันทีที่เห็นฉันขับไปจอดแกก็รีบเรียกลูกน้องมารับเลยโชคดีที่วันนี้เป็นออเดอร์ส่งเลยไม่ต้องนั่งขายให้หลังขดหลังแข็ง ภาวนาให้มีออเดอร์ทุกวัน แต่ก่อนกลับก็ไม่ลืมแวะซื้อ

  • หลงเสียงเรไร   อารัมภบท

    แนะนำตัวละคร1.เรไร นางเอก2.แคน พระเอกตลาดสดในตัวอำเภอในยามสายหลังจากที่ขายพริกหมดกำลังจะเก็บของกลับบ้านฉันก็บังเอิญเจอเข้ากับสองคนที่ฉันรู้จักดี ใจดวงน้อยสั่นระรัวขึ้นทันที พร้อมกับความจุกแน่นที่ดันขึ้นมากองอยู่ลิ้นปี่“อ้ายเห็นโตเป็นแค่น้องสาวคนหนึ่ง” (พี่เห็นเธอเป็นเพียงน้องสาว) “น้องสาวบ่ เห็นเป็นแค่น้องสาวบ่!!” (น้องเหรอ เห็นเป็นแค่น้องสาวเหรอ) ฉันย้ำคำถามเสียงดังอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง“เรไรคนมองเยอะแล้ว"“มึงก็อีกคน รู้ทั้งรู้ว่ากูกับอ้ายห้อยมักกันมึงก็ยังเฮ็ดกับกูได้ลง อีหมู่ซั่ว” ดูเหมือนคำด่าของฉันไม่ได้เข้าสมองคนฟังเลยสักนิด กลับกันเธอยังยืนกอดแขนชายคนรัก ไม่สิ! เขาไม่เคยรักฉันด้วยซ้ำด้วยความสนิทชิดเชื้อ (เชื้อติดปิ๊)"พี่ห้อยเขาบอกว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับมึง"“แล้วมึงเชื่อเขาทุกอย่างเลย"“เร อ้ายว่าเรเมือบ้านสา จังได๋เรกะเป็นน้องสาวอ้ายคือเก่าล่ะ” (พี่ว่าเรกลับบ้านไปเถอะ ยังไงเรก็คือน้องสาวของพี่)ฉันไม่เคยรู้สึกเสียใจอะไรเท่านี้มาก่อน เดินมาบอกกันตรงๆยังจะรู้สึกดีกว่าที่ให้ฉันมาเจอเขาสองคนลอบรักกันลับหลังแบบนี้ อีกคนก็เพื่อนสนิทอีกคนก็คนที่...รัก “อีสีมันดีกว่าเรตร

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status