Share

บทที่ 4

Author: เสี่ยวหมิงผู้โดดเดี่ยว
อะไรนะ?

หลินอู่โหว... ถอนหมั้น?

ในท้องพระโรง ฮ่องเต้และขุนนางต่างมองหน้ากันอย่างงงงวย

เซี่ยหลงยวนกล่าวอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า “รั่วหลิน เจ้าบอกว่าหลินอู่โหว คือหลินอู่โหวคนไหน?”

“แน่นอนว่าเป็นหลินชิงเยว่ แม่ทัพเถาฮวา วีรสตรีอันดับหนึ่งแห่งต้าเซี่ยของเราน่ะสิเพคะ!”

เซี่ยรั่วหลินฉายแววตาชื่นชม

เพราะเรื่องที่เอาชนะโม่เป่ยได้ นางจึงชื่นชมวีรสตรีหญิงอย่างหลินชิงเยว่อย่างมาก

เมื่อรักใครก็ย่อมรักทั้งหมดของเขาไปด้วย ความรู้สึกรังเกียจที่มีต่อหยางฝานจึงมากขึ้นไปอีก

“เสด็จพี่ ท่านอาจจะยังไม่รู้ว่า แม้หลินอู่โหวจะเคยได้รับความช่วยเหลือจากสกุลหยาง แต่นางก็ไม่ลืมบุญคุณ เมื่อได้รับชัยชนะกลับมาเมืองหลวง แม้จะมีหนุ่มหล่อมากความสามารถอย่างเหลียงเส้าเหวยตามจีบ แต่ก็ยังเต็มใจรักษาคำมั่นสัญญาแต่งงานเมื่อครั้งอดีต และยังคงยอมแต่งงานกับคุณชายเสเพลอย่างหยางฝาน!”

“แต่ระหว่างเหลียงเส้าเหวยกับหลินอู่โหวนั้น กลับเป็นความรักลึกซึ้งแนบแน่น พวกเขาสร้างเรื่องราวดี ๆ ในกองทัพมากมาย เป็นคู่ที่สวรรค์ลิขิตมาให้ครองรักกัน”

“หลินอู่โหวก็แค่ขอร้องหยางฝานเพียงเล็กน้อย หวังว่าเขาจะยอมรับเหลียงเส้าเหวยได้เท่านั้น แต่หยางฝานคนนั้นกลับหยิ่งยโสโอหัง ไม่รู้จักดีชั่ว ฉีกสัญญาหมั้นต่อหน้าทุกคน!”

เซี่ยรั่วหลินแค้นเคือง “เขาเป็นแค่คุณชายเสเพล ทั้งเนื้อทั้งตัวมีตรงไหนที่คู่ควรกับหลินอู่โหว? คนโง่เขลาเบาปัญญาที่หวังสูงแต่ไร้ความสามารถเช่นนี้ เสด็จพี่กลับให้เขาเป็นผู้รับผิดชอบในการเจรจาสันติกับโม่เป่ย ไฉนจึงเห็นกิจการบ้านเมืองเป็นเรื่องเล่นไปได้!”

“หรือว่า ความจริงแล้วเสด็จพี่เพียงแค่ต้องการพลีชีพน้องสาวคนนี้เพื่อผลประโยชน์ จึงจงใจส่งคนเสเพลคนนั้นไปเจรจาสันติ?”

“นี่...”

บนบัลลังก์มังกร เซี่ยหลงยวนตกตะลึงกับคำพูดเหล่านั้นจนปากอ้าตาค้าง!

หลินชิงเยว่บังคับให้หยางฝานถอนหมั้นอย่างนั้นหรือ?

นางเอาความกล้ามาจากไหน!

นางไม่รู้หรือว่าการที่นางได้เป็นอู่โหวและมีเกียรติยศอย่างทุกวันนี้ล้วนเป็นเพราะหยางฝานขอมาให้ทั้งนั้น?

หลิวเฟยหงที่อยู่ข้าง ๆ ก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน

มิน่าล่ะ เมื่อครู่หยางฝานถึงได้ต้องการยกเลิกงานเลี้ยงฉลองชัยชนะ...

นี่เขาตัดใจจากหลินชิงเยว่อย่างเด็ดขาดแล้วสินะ!

หลิวเฟยหงด่าสกุลหลินในใจว่าเลอะเลือน

ในใจยิ่งรู้สึกโกรธแทนหยางฝาน!

ปีนั้นเขาสอบตก ท้อแท้และสิ้นหวัง ต้องเร่ร่อนไปตามท้องถนน หากไม่มีหยางฝานคอยชี้แนะก็คงไม่มีทางประสบสำเร็จอย่างทุกวันนี้

ในใจของหลิวเฟยหง เขาถือหยางฝานเป็นอาจารย์ผู้มีพระคุณมาโดยตลอด

ในเวลานี้หลิวเฟยหงอยากจะแก้ต่างให้หยางฝานสักสองสามประโยค...

แต่เมื่อคำพูดมาถึงปาก เขากลับไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดอย่างไร!

หรือจะต้องบอกว่า เพื่อช่วยสกุลหลิน หยางฝานถึงกับนำป้ายเหล็กอักษรชาดและป้ายทองคำเว้นโทษประหารที่ได้รับพระราชทานจากอดีตฮ่องเต้มาบีบบังคับให้ฝ่าบาททรงผ่อนปรน?

หรือจะต้องบอกว่า เพื่อให้หลินชิงเยว่ออกรบ นอกจากหยางฝานจะอ้อนวอนไทเฮาแล้ว เขายังได้ถวายกำไรหนึ่งในสามส่วนจากการค้าขายเครื่องประทินโฉมให้ไทเฮาเพื่อใช้จุนเจือวังหลัง?

หรือจะต้องบอกว่า ความดีความชอบของหลินชิงเยว่ในการขับไล่โม่เป่ย เป็นเพราะหยางฝานแอบคอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง และแม้กระทั่งตำแหน่งอู่โหวหญิงของหลินชิงเยว่ก็แลกมาด้วยเงินยี่สิบล้านตำลึงของหยางฝาน?

ทันทีที่ข่าวเหล่านี้แพร่งพรายออกไป เกียรติยศของราชวงศ์จะเอาไปไว้ที่ใด? พระพักตร์ของฝ่าบาทจะเอาไปไว้ที่ใด? หน้าตาของราชสำนักจะเอาไปไว้ที่ใด?!

ในฐานะข้าราชบริพาร หลิวเฟยหงรู้ดีว่าบางคำเขาพูดไม่ได้ แต่บางคำเขากลับต้องเป็นคนพูด

เรื่องการเจรจาสันติ มีเพียงหยางฝานเท่านั้นที่ทำได้

ดังนั้นจะปล่อยให้องค์หญิงใหญ่ถามซักไซ้ตามอำเภอใจไม่ได้เด็ดขาด ซึ่งจะทำให้ฝ่าบาทลำบากพระทัยได้

“เรียนองค์หญิง”

หลิวเฟยหงเปลี่ยนความคิดและกล่าวว่า “การที่ฝ่าบาททรงให้ซื่อจื่อเยียนอ๋องเป็นผู้รับผิดชอบการเจรจาสันติ ก็เพราะครานั้นอดีตเยียนอ๋องสามารถป้องปรามโม่เป่ยได้ หากเยียนอ๋องยังอยู่ โม่เป่ยไหนเลยจะกล้ารุกรานชายแดน?”

“ใช่ ใช่ ใช่!”

เซี่ยหลงยวนปาดเหงื่อ มองหลิวเฟยหงอย่างชมเชย และผงกศีรษะรัว ๆ “ข้าเลือกหยางฝานก็เพราะเหตุนี้ ข้ารักและทะนุถนอมเจ้าแทบไม่ทัน จะคิดให้เจ้าไปแต่งงานต่างแดนได้อย่างไร?”

“ถ้าอย่างนั้น ให้หลินอู่โหวเป็นผู้รับผิดชอบการเจรจาสันติเองเลยจะไม่ดีกว่าหรือเพคะ?”

เซี่ยรั่วหลินไม่ยอมลดราวาศอกแม้แต่น้อย

แน่นอนว่านางรู้ถึงชื่อเสียงอันเกรียงไกรของอดีตเยียนอ๋อง

แต่เยียนอ๋องก็คือเยียนอ๋อง หยางฝานก็คือหยางฝาน

“นี่...”

เซี่ยหลงยวนมองเซี่ยรั่วหลิน น้องสาวคนเดียวอย่างรู้สึกปวดกบาล

เซี่ยหลงยวนย่อมรู้แก่ใจดีว่าหลินชิงเยว่มีฝีมือแค่ไหน

กองทัพยังไม่เคลื่อน เสบียงต้องมาก่อน

หลินชิงเยว่พอมีฝีมือด้านวรยุทธ์ สามารถนำทัพออกรบได้

แต่หากไม่มีเงินทุนที่หยางฝานถวายให้เพื่อบำรุงเสบียง หรือแม้แต่อาวุธวิเศษอย่างเกือกม้าจากหยางฝาน ต้าเซี่ยก็ไม่มีทางที่จะสร้างความเสียหายอย่างหนักแก่โม่เป่ยได้เลย!

แต่รายละเอียดภายในเหล่านี้เป็นความลับ เซี่ยหลงยวนจึงไม่สามารถอธิบายให้เซี่ยรั่วหลินฟังได้

ขณะนั้นเอง หลิวเฟยหงที่อยู่ข้าง ๆ ก็กล่าวขึ้นอย่างทันท่วงทีว่า “เรียนองค์หญิง การที่ฝ่าบาทไม่ใช้หลินอู่โหว อันที่จริงแล้วเป็นการขู่ขวัญ หากหยางฝานเจรจาไม่สำเร็จ ฝ่าบาทก็จะทรงแต่งตั้งหลินอู่โหวให้เป็นผู้รับผิดชอบการเจรจาสันติอีกครั้งอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”

“ท่านหลิวจงซูหมายความว่า เป็นการใช้กลยุทธ์ความจริงลวง โดยให้หยางฝานเป็นผู้รับผิดชอบการเจรจาสันติก่อน เพื่อให้คณะทูตโม่เป่ยลดความระมัดระวังลงอย่างนั้นหรือ?”

ในฐานะที่เซี่ยรั่วหลินเป็นองค์หญิงใหญ่ก็ได้ร่ำเรียนเขียนอ่านตำรามามากมายตั้งแต่เด็ก

เมื่อได้ยินดังนั้นก็กล่าวทันที

“ใช่ ใช่ ใช่ ข้าหมายความอย่างนั้นแหละ!”

เซี่ยหลงยวนลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก

ในที่สุดก็ตบตาเด็กหญิงรั่วหลินคนนี้ได้สำเร็จ

ทว่า เมื่อคิดถึงหยางฝาน ในใจของเซี่ยหลงยวนก็อดไม่ได้ที่จะกัดฟันกรอด

หากหยางฝานสามารถก้าวออกมาตั้งแต่แรก แทนที่จะจมปลักอยู่กับเรื่องความรักใคร่และเชิดชูหลินชิงเยว่ เขาก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้กระมัง?

เมื่อคิดได้ดังนั้น เซี่ยหลงยวนก็พลันกล่าวว่า “รั่วหลิน แม้แผนการของหลิวจงซูจะดีก็จริง แต่อย่างไรเสียหยางฝานก็เป็นเพียง... คนเสเพล! กระนั้น ข้าจึงอยากจะแต่งตั้งเจ้าเป็นรองจางวางกรมพิธีการ เพื่อเป็นรองทูตในการต้อนรับคณะทูตโม่เป่ย และช่วยสอดส่องดูแลหยางฝานแทนข้า เจ้ายินดีหรือไม่?”

“เสด็จพี่วางพระทัยได้ ข้าจะจับตาดูหยางฝานคนนั้นให้ดีแน่นอนเพคะ!”

เซี่ยรั่วหลินได้ยินดังนั้นก็เบิกบานใจ

เสด็จพี่แต่งตั้งนางเป็นรองทูต การเจรจาสันติจะดำเนินการภายใต้การดูแลของนาง แล้วจะยังมีความคิดที่จะให้นางไปแต่งงานต่างแดนได้อย่างไร?

เซี่ยรั่วหลินให้คำมั่นสัญญาอย่างหนักแน่น และเน้นย้ำหลายครั้งว่าจะคอยจับตาดูหยางฝานให้ดีก่อนจากไป

หลังจากเซี่ยรั่วหลินจากไป หลิวเฟยหงก็ยิ้มอย่างขมขื่น “ฝ่าบาท กระหม่อมสังเกตว่าสามเรื่องที่ซื่อจื่อทูลขอไปก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าเขาจะตระหนักได้แล้ว และมีความคิดที่จะสร้างผลงาน หากวันหนึ่งองค์หญิงใหญ่ทรงทราบความจริง กระหม่อมเกรงว่าจะทนรับโทสะขององค์หญิงไม่ไหวพ่ะย่ะค่ะ!”

เซี่ยหลงยวนยิ้มจาง ๆ แต่ไม่ได้ใส่ใจ “ไม่เป็นไร อ้ายชิงอย่าได้ตื่นตระหนกไป สกุลหลินโง่เขลาไม่รู้จักเพชรเม็ดงาม แล้วยังจะไม่ให้ข้าได้ไปบ้างหรือ? หากวันหน้าหยางฝานได้เกี่ยวดองกับราชวงศ์ อ้ายชิงย่อมได้ความดีความชอบเป็นอันดับแรก!”

“เพียงแต่ หยางฝานจะตัดความสัมพันธ์กับหลินชิงเยว่ได้จริงหรือไม่นั้น ก็ไม่อาจเชื่อคำพูดของรั่วหลินแต่เพียงฝ่ายเดียวได้... เรื่องนี้ ข้าจะต้องส่งคนไปสืบสวนด้วยตัวเอง!”

เป็นอย่างที่คิด!

หลิวเฟยหงเข้าใจในใจว่า จู่ ๆ ฝ่าบาทก็ให้องค์หญิงใหญ่ไปคอยจับตาดูหยางฝานนั้น ก็เพราะทรงมีแผนซ่อนอยู่ในใจจริง ๆ...

...

ที่จวนเยียนอ๋อง

เมื่อเห็นหยางฝานกลับมาจากพระราชวัง ฉิงเอ๋อร์รีบออกมาต้อนรับทันที “ซื่อจื่อ สิ่งของทั้งหมดที่สั่งไว้สำหรับงานเลี้ยงฉลองชัยชนะได้ถูกส่งคืนไปหมดแล้วตามคำสั่งของท่าน แต่ผลไม้บางส่วนในสวนหลังจวน อย่างเช่น ‘แก้วมังกร’ ที่ท่านเพาะปลูกไว้ได้ถูกเก็บเกี่ยวแล้ว เกรงว่าจะเก็บไว้ได้ไม่นานเจ้าค่ะ”

“เอาบางส่วนให้บ่าวรับใช้ในจวนไปแบ่งกันกิน ที่เหลือก็ทำเป็นน้ำผลไม้”

หยางฝานกล่าวสั่งอย่างขอไปที

“เจ้าค่ะ”

ฉิงเอ๋อร์รับคำสั่ง ขณะที่นางกำลังจะไปบอกคนอื่น ๆ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากนอกจวน

“ซื่อจื่อ!”

ยังไม่ทันที่ฉิงเอ๋อร์จะกล่าวถาม เยียนเป่ย หัวหน้าอารักขาประจำจวนก็รีบวิ่งมารายงานว่า “ด้านนอกมีสาวใช้นางหนึ่งอ้างว่าเป็นสาวใช้ของแม่ทัพเถาฮวา นางไม่เพียงแต่บุกรุกเข้ามาในจวนอย่างอุกอาจ แถมยังกล่าววาจาดูหมิ่นอารักขา จะจัดการอย่างไร ซื่อจื่อโปรดตัดสินด้วยขอรับ!”

“สาวใช้ของหลินชิงเยว่?”

หยางฝานขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไป ออกไปดู!”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 32

    “ชิงเยว่ แม้ว่าหยางฝานผู้นี้จะไม่สามารถทำการใหญ่สำเร็จได้ แต่อย่างไรเรื่องนี้ก็เกี่ยวพันกับชาวฉุน เรายังควรต้องใส่ใจให้มากขึ้น ข้าได้ยินมาว่าองค์หญิงใหญ่ ซึ่งเป็นรองทูตเจรจาสันติ ตอนนี้ประทับอยู่ที่จวนเยียนอ๋อง เพื่อหารือเรื่องการเจรจาสันติกับหยางฝาน ชิงเยว่ เจ้าลองใช้โอกาสนี้ไปสืบดูว่าเขาเตรียมจะจัดการเรื่องการเจรจาสันติอย่างไรบ้าง”เหลียงเส้าเหวยกล่าวด้วยสีหน้าจริงใจเขาไม่ต้องการเห็นหยางฝานประสบความสำเร็จในการเจรจาสันติจริง ๆในเมื่อเป็นเช่นนั้น การรู้แผนการของหยางฝานล่วงหน้าจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งทว่าเมื่อหลินชิงเยว่ได้ยินว่าต้องการให้นางไปหาหยางฝาน ในใจก็เกิดรู้สึกต่อต้านขึ้นมาทันที“คุณชายเหลียงคิดมากไปแล้ว ข้ารู้จักหยางฝานผู้นี้ดีที่สุด เขาไม่มีความรู้ความสามารถอะไรเลย เรื่องการเจรจาสันตินี้ เขาจะมีวิธีรับมือได้อย่างไรกัน!”หลินชิงเยว่กล่าวเสียงเย็นชาทว่าเหลียงเส้าเหวยกลับส่ายหน้า“ชิงเยว่ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชาวฉุน เจ้าอย่าได้ต่อต้านเลย มีเพียงหาวิธีทำให้หยางฝานเจรจาสันติล้มเหลวเท่านั้น เราจึงจะสามารถช่วยชาวฉุนออกมาได้อย่างปลอดภัย มิเช่นนั้น แม้จะจ่ายเงินไปแล้ว

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 31

    เมื่อได้ยินการวิเคราะห์ที่ชัดเจนและมีเหตุผลของเซี่ยรั่วหลิน หยางฝานก็ปรบมือรัว ๆเด็กคนนี้ฉลาดไม่เบาเลยนะ!และในขณะนั้นเอง ฉิงเอ๋อร์ที่อยู่ข้าง ๆ ก็กล่าวขึ้นอย่างเหมาะเจาะว่า “องค์หญิงเพคะ หม่อมฉันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าท่านอ๋องจะตั้งราคานมนี้เท่าใด แต่วิธีการถนอมนม ท่านอ๋องได้คิดไว้เรียบร้อยนานแล้วเพคะ!”เมื่อได้ยินดังนั้น เซี่ยรั่วหลินก็มองไปยังหยางฝานด้วยความประหลาดใจทันที“ท่านมีวิธีเก็บรักษานมไม่ให้เสียหรือ?”หยางฝานผงกศีรษะทว่าเซี่ยรั่วหลินกลับแสดงสีหน้าสงสัย“ข้าไม่เชื่อว่าจะมีวิธีใดใต้หล้านี้ที่สามารถเก็บรักษานมสดไม่ให้เสียได้ ต่อให้เจ้าจะใช้ก้อนน้ำแข็งตลอดเวลาก็เก็บได้ไม่กี่วันแน่นอน”เซี่ยรั่วหลินจ้องหยางฝานอย่างสงสัยหยางฝานผงกศีรษะ“เป็นจริงอย่างที่องค์หญิงตรัส แม้นมนี้จะเก็บรักษาด้วยก้อนน้ำแข็งก็เก็บได้ไม่นาน!”เมื่อเห็นว่าแม้แต่เขาเองก็ยังพูดเช่นนี้ เซี่ยรั่วหลินก็หัวเราะออกมา“แล้วเจ้ายังกล้าพูดจาโอ้อวดว่ามีวิธีเก็บรักษาแล้วงั้นรึ?”หยางฝานหัวเราะเบา ๆ “ข้าก็ไม่ได้บอกว่าข้าจะใช้น้ำแข็งในการเก็บรักษานมนี่พ่ะย่ะค่ะ”เมื่อเห็นเขามีท่าทางมั่นใจเต็มร้อยขนาดนั้น เซี

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 30

    “เจ้าค่ะ!”ฉิงเอ๋อร์มองเซี่ยรั่วหลินด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปไม่นานนัก ฉิงเอ๋อร์ก็กลับมาพร้อมแก้วที่บรรจุของเหลวสีขาวขุ่นอึก!เซี่ยรั่วหลินมองของเหลวสีขาวขุ่นที่บรรจุในแก้ว แล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากตอนนั้นนางเห็นหยางฝานรีดนมด้วยตาตัวเองพอนึกถึงภาพนั้น เซี่ยรั่วหลินก็เริ่มอยากจะถอนตัวกลางคัน“เชิญองค์หญิงชิมพ่ะย่ะค่ะ!”หยางฝานกล่าวพร้อมรอยยิ้มเมื่อได้ยินดังนั้น เซี่ยรั่วหลินก็ฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง“ไม่ได้ เสด็จย่าบอกว่าข้าต้องใช้ข้อเท็จจริงมาโต้แย้งไอ้หมอนี่ ถอยกลับตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”เมื่อคิดได้ดังนั้น เซี่ยรั่วหลินก็เผยสีหน้าเหมือนตายเป็นตายพร้อมยกแก้วนมขึ้นมาดื่มแต่พอนมโคมาจ่อที่ปาก เซี่ยรั่วหลินกลับไม่ยอมนำเข้าปากสักทีพอคิดว่านมนี้ถูกรีดมาจากโค ในใจของนางก็รู้สึกต่อต้านอย่างประหลาดใจ“องค์หญิงไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเอง”หยางฝานเห็นสีหน้าตายเป็นตายของเซี่ยรั่วหลินแล้วก็อดไม่ได้ที่จะแอบหัวเราะในใจทว่า ราวกับถูกคำกล่าวของเขายั่วโมโห เซี่ยรั่วหลินจึงส่งเสียงเย็นชาออกมาทันที“ก็แค่นมโคมิใช่รึ วันนี้ข้าจะพิสูจน์ให้เจ้าเห็นว่าของสิ่งนี้ไร้ค่าสิ้นดี เจ้า

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 29

    เมื่อเห็นตั่วเหยียนเอ่ยพลางกำลังจะเผาจดหมาย กุนซือก็รีบกล่าวขึ้นว่า“องค์หญิงจะคิดอย่างนั้นไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ แม้ว่าจุดประสงค์ของการเดินทางของเราในครั้งนี้จะเพื่อขอเสบียงและเงินบรรณาการ แต่หากมีคนในราชสำนักต้าเซี่ยคอยช่วยเหลือ การบรรลุเป้าหมายนี้ก็จะง่ายขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”พอเขากล่าวเช่นนี้ ตั่วเหยียนก็รู้สึกว่ามีเหตุผล จากนั้นจึงผงกศีรษะ“ท่านกุนซือกล่าวมีเหตุผล เช่นนั้นเราก็ร่วมมือกับเขาดูสักครั้งเถิด แต่ว่าตามที่ระบุไว้ในจดหมายนี้ ผู้ที่จะมาเจรจากับเรา เป็นถึงท่านอ๋องของต้าเซี่ยเลยหรือ?”ตั่วเหยียนมองดูชื่อหยางฝานที่เขียนอยู่ในจดหมาย แล้วถามด้วยความแคลงใจกุนซือได้ยินดังนั้นแล้วก็หัวเราะเยาะอย่างดูแคลน“หยางฝาน เยียนอ๋องผู้นี้ ข้าก็เคยสืบมาแล้ว คนผู้นี้มีสัญญาหมั้นกับหลินชิงเยว่ แม่ทัพเถาฮวา แต่คนผู้นี้กลับเป็นคนเหลวไหลที่ไม่มีทั้งเกียรติยศและพรสวรรค์ในการบัญชาการรบ ได้ยินมาว่าวัน ๆ เอาแต่คลุกคลีอยู่กับพวกพ่อค้า เป็นแค่ท่านอ๋องรุ่นที่สองที่ไม่ได้เรื่องเท่านั้น ฮ่องเต้ต้าเซี่ยก็คงจะเสียสติไปแล้วจริง ๆ คิดว่าแค่ดันคนไม่เอาถ่านอย่างเยียนอ๋องขึ้นมา จะสามารถทำให้เราหวาดกลัวจนต้องถอยรนไปไ

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 28

    “จดหมายธนู?!”ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นรีบลุกขึ้นยืนทันที“จับคนยิงได้หรือไม่!”กุนซือรีบถามกองกำลังคุ้มกันคณะเจรจาสันติภาพในครั้งนี้เป็นถึงกองทัพรักษาพระองค์ของท่านข่าน ปล่อยให้มีคนลอบเข้ามาถึงข้างค่ายโดยไม่รู้ตัวเลยหรือ?“ขอองค์หญิงและท่านกุนซือโปรดอภัยด้วย พวกข้าจับคนผู้นั้นไม่ได้!”ทหารผู้กล้าส่ายหน้าขณะคุกเข่า“ฮึ! พวกไร้ประโยชน์!”องค์หญิงตั่วเหยียนกล่าวอย่างเย็นชาทหารผู้กล้าที่คุกเข่าอยู่รีบก้มหน้าลงทันทีส่วนกุนซือครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกวักมือเรียกทหารผู้กล้าผู้นั้น“นำจดหมายธนูนั้นมา!”“ขอรับ!”กุนซือรับจดหมายธนูมา แต่ไม่ได้เปิดจดหมายออกในทันที กลับมองไปที่ลูกศรขนนกในมือแทน“ของสิ่งนี้มีอะไรน่าดูนักหนา ก็แค่คำยั่วยุจากพวกไร้ประโยชน์ของต้าเซี่ยเท่านั้นเอง มีคนแบบนี้ตลอดทาง ไม่น้อยไม่ใช่หรือ”องค์หญิงตั่วเหยียนกล่าวด้วยสีหน้าดูแคลนต้าเซี่ยกับโม่เป่ยทำสงครามกันทุกปี คณะทูตอย่างพวกเขาเจอคนต้าเซี่ยที่โกรธแค้นไม่น้อยเลยระหว่างทางที่ผ่านมาทว่ากุนซือได้ยินดังนั้นแล้วกลับยิ้มพลางส่ายหน้า“องค์หญิง ข้าคิดว่าครั้งนี้อาจจะต่างออกไป”กล่าวจบ กุนซือก็แกะจดหมายออกเ

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 27

    ทันทีที่ก้าวเข้าประตูมา เซี่ยรั่วหลินก็เห็นไทเฮากำลังสวดมนต์อยู่ทันทีที่เห็นไทเฮา น้ำตาแห่งความน้อยใจก็เอ่อล้นในดวงตาของเซี่ยรั่วหลิน“เสด็จย่า!”เซี่ยรั่วหลินร้องเสียงดังพร้อมกับโผเข้ากอดไทเฮา แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความน้อยใจ“โธ่เอ้ย! ผู้ใดทำให้เด็กดื้อของเราไม่พอใจละเนี้ย ย่าจะไปสั่งสอนเขาเดี๋ยวนี้!”ไทเฮาลูบหลังเซี่ยรั่วหลินเบา ๆ พลางกล่าวด้วยความรู้สึกสงสารยิ่งเซี่ยรั่วหลินเปล่งเสียงฮึดฮัดเบา ๆ แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้ฟังทันที“เสด็จย่า ท่านโปรดตัดสินว่านี่ใช่ความผิดของหยางฝานคนอวดดีคนนั้นหรือไม่ ข้าอุตส่าห์เป็นห่วงเขาแท้ ๆ เขาก็ยังไม่ฟังคำของข้าอีก ฮึ! โมโหจนจะตายอยู่แล้ว!”ไทเฮามองดูท่าทางโกรธขึ้งของเซี่ยรั่วหลินแล้วก็ไม่รู้จะตอบนางอย่างไรในทันทีเมื่อเทียบกับเซี่ยรั่วหลินที่ไม่รู้อะไรเลย ไทเฮากลับเข้าใจหยางฝานค่อนข้างมากหากหยางฝานไม่ได้แบ่งกำไรจากเครื่องประทินโฉมให้นางครึ่งหนึ่ง แม้นางจะเป็นไทเฮา ก็ไม่สามารถสร้างโบสถ์อันงดงามวิจิตรเช่นนี้ได้กระนั้น ในความคิดของไทเฮา หยางฝานเป็นคนที่มีความสามารถอย่างแน่นอนและนางยังรู้ด้วยว่าเหตุใดฮ่องเต้ถึงต้องใ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status