Share

บทที่ 8

Author: เสี่ยวหมิงผู้โดดเดี่ยว
“อะไรนะ?”

“สาวใช้ของหลินชิงเยว่ถูกควักลูกตาเพราะด่าประจานหยางฝาน ตอนนี้บุตรชายคนเล็กของสกุลหลิน หลินชาวฉุนกำลังจุดไฟเผาจวนเยียนอ๋องงั้นรึ?”

ณ พระราชวัง

ในห้องทรงพระอักษร

เซี่ยหลงยวนที่ได้รับรายงานจากสาบลับหน่วยคงคาทมิฬถึงกับตะลึงปากอ้าตาค้าง

จวนเยียนอ๋อง เป็นถึงจวนที่อดีตฮ่องเต้พระราชทานให้แก่สกุลหยาง

เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติศักดิ์ของยอดฟานอ๋องแห่งต้าเซี่ย

ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าของจวนเยียนอ๋องก็คือหยางฝาน ผู้ที่ยากจะหยั่งรู้อีกด้วย!

“หลินชาวฉุนแห่งสกุลหลิน เป็นผู้ใดกัน?”

เซี่ยหลงยวนหันไปถามหลิวเฟยหงที่อยู่ข้าง ๆ

“คนผู้นี้กำลังศึกษาอยู่ที่สำนักศึกษากั๋วจื่อเจี้ยน เป็นคนไร้ความรู้ความสามารถ เช้าชามเย็นชามพ่ะย่ะค่ะ”

หลิวเฟยหงกราบทูลตามความจริง

“โอ้? ในเมื่อประพฤติตัวเลวทราม เหตุใดสำนักศึกษากั๋วจื่อเจี้ยนถึงรับนักศึกษาแบบนี้เข้ามาได้?”

“เอ่อ... ทูลฝ่าบาท เป็นความผิดของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ!”

หลิวเฟยหงรีบคุกเข่าลงด้วยความหวาดกลัว อับอายจนหน้าแดงก่ำ “ความจริงแล้วกระหม่อมเป็นคนแนะนำคนผู้นี้ให้เข้าเรียนที่สำนักศึกษากั๋วจื่อเจี้ยนพ่ะย่ะค่ะ”

“หืม?”

เซี่ยหลงยวนเริ่มสนใจขึ้นมาทันที “หรือว่าอ้ายชิงมีอดีตกับหลินชาวฉุนผู้นี้?”

“ไม่ใช่ญาติไม่ใช่มิตรพ่ะย่ะค่ะ”

หลิวเฟยหงก้มหน้าลง “เป็นอาจารย์ของกระหม่อม หยางฝานที่ให้กระหม่อมทำเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ”

“พรูด!”

เซี่ยหลงยวนกระตุกมุมปาก รู้สึกสนุกขึ้นมา

“ถ้าไม่ติดว่าไม่สะดวกที่จะออกจากวัง ข้าอยากจะเห็นสีหน้าของหยางฝานในตอนนี้จริง ๆ...”

“หลิวอ้ายชิงมีความเห็นอย่างไรกับการกระทำของสกุลหลิน?”

“ฝ่าบาท”

หลิวเฟยหงประสานมือ “สกุลหลินกินบนเรือน ขี้บนหลังคา และบาดหมางกับหยางฝาน ถือเป็นหนทางสู่ความตายแล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่ก็ยังไม่ถึงกับต้องตายแน่นอน ยังมีความผันผวนอยู่บ้าง”

“อ้ายชิงหมายถึง... หลินชิงเยว่?”

เซี่ยหลงยวนฉายแววตาลึกล้ำ “หลิวอ้ายชิง จงร่างราชโองการแทนข้า อนุญาตตามที่หยางฝานร้องขอ ให้เขาสืบทอดตำแหน่งเยียนอ๋องโดยมีผลทันที และแต่งตั้งให้เป็นรองเจ้ากรมพิธีการ เพื่อมีอำนาจรับผิดชอบในการเจรจาสันติกับโม่เป่ยอย่างเต็มที่”

“ส่วนหลินชาวฉุนแห่งสกุลหลิน ละเมิดกฎหมาย ก่อความวุ่นวายแก่เชื้อพระวงศ์ ให้ลงโทษตามกฎหมาย ถอดถอนสถานะนักศึกษาของสำนักศึกษากั๋วจื่อเจี้ยน และห้ามรับราชการตลอดชีวิต!”

“นอกจากนี้ งานเลี้ยงฉลองชัยชนะของสกุลหลินที่จะมีขึ้นในอีกสามวัน ก็ให้ยกเลิกทั้งหมด!”

...

“หยางฝาน! พี่ข้าเป็นถึงอู่โหวแห่งต้าเซี่ย เจ้ากล้าหยามเกียรติข้าถึงเพียงนี้ เจ้าตายแน่!”

นอกจวนอ๋อง หลินชาวฉุนที่ถูกเยียนเป่ยหยียบไว้ใต้เท้าตะโกนลั่นด้วยความโกรธเกรี้ยว

“ตบปาก!”

หยางฝานไม่อยากพูดพล่าม

เมื่อไม่มีพันธะหมั้นหมายกับหลินชิงเยว่แล้ว ในสายตาเขา หลินชาวฉุนก็ไม่ใช่อะไรเลย

เขาไม่มีทางตามใจแน่นอน

“เพี๊ยะเพี๊ยะเพี๊ยะ!”

เยียนเป่ยหัวเราะร่า ฟาดฝ่ามือไปหลายฉาดจนหลินชาวฉุนแทบสลบ

“หยุดเถอะ! หยางฝาน... พี่เขย! ได้โปรดหยุดตีข้าเถอะ!”

ไม่นานนัก หลินชาวฉุนก็เลือดกบปาก ร้องขอความเมตตาอย่างรวยริน

“ฉิงเอ๋อร์”

หยางฝานไม่แยแส สั่งกับฉิงเอ๋อร์ว่า “ไปตรวจสอบความเสียหายในจวน แล้วจัดทำบัญชีรายการส่งไปที่ศาลาว่าการเมืองหลวง”

“พี่เขย ท่านจะจับข้าแห่ประจานจริง ๆ หรือ?”

เมื่อเห็นหยางฝานเอาจริง หลินชาวฉุนก็ตกใจกลัวมาก แต่ยังแสร้งทำเป็นแข็งนอกอ่อนใน “พี่ข้าเป็นถึงอู่โหว เจ้าทำเช่นนี้กับข้า พี่ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”

“พูดจาให้มันสุภาพหน่อย ข้ากับหลินชิงเยว่ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กันอีกแล้ว”

“อีกอย่าง อย่าว่าแต่หลินชิงเยว่จะเป็นอู่โหวเลย ต่อให้เป็นนางองค์หญิงหรือฮองเฮา ถ้ากล้าเผาจวนเยียนอ๋องของข้า ข้าก็จะจับให้หมดโดยไม่ละเว้น!”

“เยียนเป่ย ใส่โซ่ตรวนให้เขา แล้วแห่ประจาน!”

หยางฝานหมดความอดทนกับหลินชาวฉุนมานานแล้ว

การไว้ชีวิตหลินชาวฉุนแล้วส่งให้ศาลาว่าการเมืองหลวงจัดการ ถือเป็นความเมตตาอันใหญ่หลวงแล้ว

“หยางฝาน เจ้าคอยดูเถอะ คนของข้ากลับไปเชิญพี่ข้าที่จวนแม่ทัพแล้ว พอพี่ข้ามาถึง ข้าจะให้เจ้าคุกเข่าขอโทษข้า!”

หลินชาวฉุนที่ถูกกดให้สวมโซ่ตรวนด่ากราดอย่างหยาบคายด้วยแววตาเคียดแค้น

ทว่าครั้งนี้ เยียนเป่ยได้ตบหน้าเขาไปหลายฉาด โดยไม่รอให้หยางฝานออกคำสั่ง...

...

“อะไรนะ?! หยางฝานกล้าจับตัวชาวฉุนไปงั้นรึ? แถมยังถูกคุมตัวแห่ประจานแล้วส่งไปที่ศาลาว่าการเมืองหลวงอีก?”

ที่จวนแม่ทัพ

หลินเจิ้งถังโกรธจัดเมื่อได้ฟังรายงานจากบ่าวรับใช้ที่หนีกลับมา

“หยางฝานคิดว่าเขาเป็นเยียนอ๋องรึไง? ถึงได้กล้าจับตัวบุตรชายของข้า ข้าจะทำให้เขาต้องชดใช้!”

“สั่งคนให้เตรียมม้า ไปที่ศาลาว่าการเมืองหลวง!”

“แล้วก็รีบส่งคนไปพบคุณหนู ให้นางรีบไปที่ศาลาว่าการเมืองหลวงทันที!”

ทั่วทั้งสกุลหลินวุ่นวายไปหมด

เนื่องจากเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ขึ้นในเมืองหลวง หยางฝานยังไม่ทันจะคุมตัวหลินชาวฉุนไปถึงศาลาว่าการเมืองหลวง เจ้าหน้าที่ที่ได้รับข่าวระหว่างทางก็ได้รีบกลับมารายงานก่อนแล้ว

ตู้หย่ง ผู้ว่าการศาลาว่าการเมืองหลวงตกใจอย่างมากเมื่อได้รับแจ้ง!

“หลินชาวฉุน เป็นแค่นักศึกษาคนหนึ่งของสำนักศึกษากั๋วจื่อเจี้ยน ถึงกับกล้าวางเพลิงเผาจวนเยียนอ๋องงั้นรึ? แม้ว่าหยางฝานจะไม่ได้เรื่องเพียงใด แต่เขาก็เป็นถึงซื่อจื่อเยียนอ๋อง ตราบใดที่ยังไม่ถูกปลดจากตำแหน่งซื่อจื่อ แม้จะเป็นเชื้อพระวงศ์สูงศักดิ์เพียงวันเดียว ก็มีความผิดถึงขั้นประหารชีวิตเลยนะ!”

“ท่านผู้ว่า จะกล่าวเช่นนี้ไม่ได้นะขอรับ”

เฉาห้วน รองผู้ว่าการศาลาว่าการเมืองหลวงที่อยู่ข้าง ๆ ประสานมือพร้อมกล่าวว่า “สกุลหลินกับหยางฝานมีพันธะสัญญาหมั้นหมายกัน เดิมทีก็เป็นเรื่องในครอบครัวอยู่แล้ว และหลินชาวฉุนก็เป็นแค่นักศึกษาคนหนึ่ง ก็แค่ล้อเล่นกันเท่านั้น ถึงกับจะตัดหัวเขาจริง ๆ หรือขอรับ?”

เฉาห้วนเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะชี้แนะว่า “หลินชิงเยว่ พี่สาวของหลินชาวฉุนคือวีรสตรีอันดับหนึ่งแห่งต้าเซี่ย ได้รับพระเมตตาจากฝ่าบาทอย่างหาที่สุดมิได้ และข้าก็ได้ยินมาว่านางได้ตกลงปลงใจกับเหลียงเส้าเหวย หลานชายของอัครมหาเสนาบดีเหลียงแล้ว... ใต้เท้า เรื่องนี้ต้องจัดการอย่างรอบคอบนะขอรับ!”

“ถูกต้อง...”

ตู้หย่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนสะบัดชุดคลุมขุนนาง “เรื่องในครอบครัวแค่นี้ กลับวุ่นวายมาถึงศาลาว่าการเมืองหลวง สมควรแลวรึ? ทหาร! สั่งหน่วยทหารอู่เฉิงตามข้าออกไปขวางซื่อจื่อเยียนอ๋อง!”

ครู่ต่อมา เมื่อตู้หย่งเตรียมตัวพร้อมแล้วก็เห็นหลินเจิ้งถังควบม้ามาแต่ไกล ๆ

ในอดีตหลินเจิ้งถังเคยดำรงตำแหน่งรองเจ้ากรมคลัง นับว่ารู้จักมักคุ้นกับตู้หย่งกันมาก่อน

“ท่านผู้ว่าตู้!”

หลินเจิ้งถังกล่าวด้วยความเคารพ “ลูกชายของข้าถูกหยางฝาน ซื่อจื่อเยียนอ๋องจับไปโดยไม่มีเหตุผลอันควร แห่ประจานหยามเกียรติ ขอท่านผู้ว่าโปรดให้ความเป็นธรรมแก่สกุลหลินด้วยขอรับ!”

“ขอแค่ท่านผู้ว่าสามารถช่วยลูกชายของข้ากลับมาได้ สกุลหลินของข้าจะสำนึกในบุญคุณเป็นอย่างยิ่ง!”

“นี่... ฮ่าฮ่าฮ่า นายท่านหลิน ข้ากำลังจะไปช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับความเป็นธรรมพอดีเลย!”

ตู้หย่งลงจากม้าประคองหลินเจิ้งถังลุกขึ้น แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “นายท่านหลินวางใจได้ ผิดถูกย่อมตัดสินด้วยความยุติธรรม ข้าจะไม่ปล่อยให้บุตรชายของท่านถูกใส่ร้ายอย่างเด็ดขาด!”

ต๊อก ต๊อก ต๊อก!

ไม่นานนัก ตู้หย่งก็นำทหารจากหน่วยทหารอู่เฉิงไปสกัดขบวนแห่ประจานกลางทาง แล้วล้อมไว้จนแน่นหนา

ฉับ ฉับ ฉับ!

เยียนเป่ยและเหล่าอารักขาของจวนเยียนอ๋องล้วนเป็นทหารส่วนตัว ไม่ได้เห็นเจ้าหน้าที่รัฐแล้วจะขาอ่อน

พวกเขาชักดาบและหอกออกมาอย่างพร้อมเพรียง และตั้งท่าอย่างระมัดระวัง

ตู้หย่งที่อยู่บนหลังม้าสูงขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่คิดว่าอารักขาของจวนเยียนอ๋องจะกล้าหาญถึงเพียงนี้

แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะทำให้เรื่องใหญ่โตอยู่แล้ว จึงลงจากม้าถามว่า “ซื่อจื่อเยียนอ๋องอยู่ที่ไหน?”

“โอ้? ที่แท้ก็ท่านผู้ว่าตู้นี่เอง”

บนรถม้า หยางฝานเปิดม่านออก เมื่อมองเห็นหลินเจิ้งถังที่อยู่ข้างตู้หย่งแล้วก็แสยะยิ้มอย่างเย็นชา

“ท่านผู้ว่าตู้มาได้จังหวะพอดี วันนี้ในจวนจับตัวคนร้ายที่ลอบวางเพลิงได้ กำลังคุมตัวไปส่งที่ศาลาว่าการเมืองหลวงพอดี”

หยางฝานเดินลงจากรถม้าอย่างไม่รีบร้อน

“เหลวไหล!”

หลินเจิ้งถังที่อยู่ข้าง ๆ ตู้หย่งตะโกนด่าทอ “หยางฝาน! เจ้าต่างหากที่ให้บ่าวไพร่ทำร้ายลูกชายของข้าชัด ๆ! เจ้าเป็นถึงซื่อจื่อเยียนอ๋องผู้ทรงเกียรติ ใช้อำนาจบาตรใหญ่รังแกผู้อื่นยังไม่พอ ยังกล้าบิดเบือนความจริงต่อหน้าท่านผู้ว่าอีก ควรจะลงโทษท่านอย่างไรดี?”

“ท่านพ่อ!”

เมื่อหลินชาวฉุนที่ถูกเยียนเป่ยคุมตัวอยู่เห็นบิดามาช่วยก็ตะโกนลั่น “ท่านพ่อ! ข้าถูกใส่ร้าย! ข้าเดินอยู่ดี ๆ ก็ถูกหยางฝานส่งคนมาจับ! เขาตามจีบพี่สาวข้าไม่สำเร็จก็เลยแค้นฝังใจ และอยากจะแก้แค้นชัด ๆ!”

“ท่านผู้ว่าตู้”

เมื่อหลินเจิ้งถังได้ยินดังนั้นก็รีบหันไปมองตู้หย่ง “ขอท่านผู้ว่าโปรดให้ความเป็นธรรมแก่สกุลหลินด้วยขอรับ!”

“หยางฝาน!”

ตู้หย่งกระแอมไอเบา ๆ แล้วกล่าวอย่างเฉยเมย “ทั้งสองฝ่ายต่างคนต่างพูด ข้าเองก็ลำบากใจไม่น้อย ได้ยินมาว่าท่านเคยกับหลินอู่โหวเคยมีสัญญาหมั้นหมายกันใช่หรือไม่? ถ้าเช่นนั้น เรื่องนี้ก็นับเป็นเรื่องในครอบครัว ดังคำกล่าวที่ว่า เรื่องในครอบครัว ขุนนางดีก็ยากจะตัดสิน จากที่ข้าเห็น ท่านปล่อยคุณชายหลินไปเถอะ ให้เรื่องนี้ได้ยุติลงเพียงเท่านี้เถิด!”

“ช้าก่อน!”

ทันใดนั้น ทันทีที่ตู้หย่งกล่าวจบ ก็มีเสียงตะโกนที่ใสชัดดังมาจากที่ไกลออกไป

บนหลังม้าเถาฮวา หลินชิงเยว่มีสีหน้าเย็นชา “ข้ากับหยางฝานไม่มีความสัมพันธ์อันใดกันอีกแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องในครอบครัว!”

“หยางฝานรังแกสกุลหลินของข้า มิหนำซ้ำยังแห่ประจานหยามเกียรติน้องชายข้า เรื่องนี้จะปล่อยไปง่ายๆ ไม่ได้เด็ดขาด!”

“ขอท่านผู้ว่าตู้โปรดเปิดศาลสอบสวนอย่างยุติธรรม และลงโทษตามกฎหมาย!”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 32

    “ชิงเยว่ แม้ว่าหยางฝานผู้นี้จะไม่สามารถทำการใหญ่สำเร็จได้ แต่อย่างไรเรื่องนี้ก็เกี่ยวพันกับชาวฉุน เรายังควรต้องใส่ใจให้มากขึ้น ข้าได้ยินมาว่าองค์หญิงใหญ่ ซึ่งเป็นรองทูตเจรจาสันติ ตอนนี้ประทับอยู่ที่จวนเยียนอ๋อง เพื่อหารือเรื่องการเจรจาสันติกับหยางฝาน ชิงเยว่ เจ้าลองใช้โอกาสนี้ไปสืบดูว่าเขาเตรียมจะจัดการเรื่องการเจรจาสันติอย่างไรบ้าง”เหลียงเส้าเหวยกล่าวด้วยสีหน้าจริงใจเขาไม่ต้องการเห็นหยางฝานประสบความสำเร็จในการเจรจาสันติจริง ๆในเมื่อเป็นเช่นนั้น การรู้แผนการของหยางฝานล่วงหน้าจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งทว่าเมื่อหลินชิงเยว่ได้ยินว่าต้องการให้นางไปหาหยางฝาน ในใจก็เกิดรู้สึกต่อต้านขึ้นมาทันที“คุณชายเหลียงคิดมากไปแล้ว ข้ารู้จักหยางฝานผู้นี้ดีที่สุด เขาไม่มีความรู้ความสามารถอะไรเลย เรื่องการเจรจาสันตินี้ เขาจะมีวิธีรับมือได้อย่างไรกัน!”หลินชิงเยว่กล่าวเสียงเย็นชาทว่าเหลียงเส้าเหวยกลับส่ายหน้า“ชิงเยว่ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชาวฉุน เจ้าอย่าได้ต่อต้านเลย มีเพียงหาวิธีทำให้หยางฝานเจรจาสันติล้มเหลวเท่านั้น เราจึงจะสามารถช่วยชาวฉุนออกมาได้อย่างปลอดภัย มิเช่นนั้น แม้จะจ่ายเงินไปแล้ว

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 31

    เมื่อได้ยินการวิเคราะห์ที่ชัดเจนและมีเหตุผลของเซี่ยรั่วหลิน หยางฝานก็ปรบมือรัว ๆเด็กคนนี้ฉลาดไม่เบาเลยนะ!และในขณะนั้นเอง ฉิงเอ๋อร์ที่อยู่ข้าง ๆ ก็กล่าวขึ้นอย่างเหมาะเจาะว่า “องค์หญิงเพคะ หม่อมฉันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าท่านอ๋องจะตั้งราคานมนี้เท่าใด แต่วิธีการถนอมนม ท่านอ๋องได้คิดไว้เรียบร้อยนานแล้วเพคะ!”เมื่อได้ยินดังนั้น เซี่ยรั่วหลินก็มองไปยังหยางฝานด้วยความประหลาดใจทันที“ท่านมีวิธีเก็บรักษานมไม่ให้เสียหรือ?”หยางฝานผงกศีรษะทว่าเซี่ยรั่วหลินกลับแสดงสีหน้าสงสัย“ข้าไม่เชื่อว่าจะมีวิธีใดใต้หล้านี้ที่สามารถเก็บรักษานมสดไม่ให้เสียได้ ต่อให้เจ้าจะใช้ก้อนน้ำแข็งตลอดเวลาก็เก็บได้ไม่กี่วันแน่นอน”เซี่ยรั่วหลินจ้องหยางฝานอย่างสงสัยหยางฝานผงกศีรษะ“เป็นจริงอย่างที่องค์หญิงตรัส แม้นมนี้จะเก็บรักษาด้วยก้อนน้ำแข็งก็เก็บได้ไม่นาน!”เมื่อเห็นว่าแม้แต่เขาเองก็ยังพูดเช่นนี้ เซี่ยรั่วหลินก็หัวเราะออกมา“แล้วเจ้ายังกล้าพูดจาโอ้อวดว่ามีวิธีเก็บรักษาแล้วงั้นรึ?”หยางฝานหัวเราะเบา ๆ “ข้าก็ไม่ได้บอกว่าข้าจะใช้น้ำแข็งในการเก็บรักษานมนี่พ่ะย่ะค่ะ”เมื่อเห็นเขามีท่าทางมั่นใจเต็มร้อยขนาดนั้น เซี

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 30

    “เจ้าค่ะ!”ฉิงเอ๋อร์มองเซี่ยรั่วหลินด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปไม่นานนัก ฉิงเอ๋อร์ก็กลับมาพร้อมแก้วที่บรรจุของเหลวสีขาวขุ่นอึก!เซี่ยรั่วหลินมองของเหลวสีขาวขุ่นที่บรรจุในแก้ว แล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากตอนนั้นนางเห็นหยางฝานรีดนมด้วยตาตัวเองพอนึกถึงภาพนั้น เซี่ยรั่วหลินก็เริ่มอยากจะถอนตัวกลางคัน“เชิญองค์หญิงชิมพ่ะย่ะค่ะ!”หยางฝานกล่าวพร้อมรอยยิ้มเมื่อได้ยินดังนั้น เซี่ยรั่วหลินก็ฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง“ไม่ได้ เสด็จย่าบอกว่าข้าต้องใช้ข้อเท็จจริงมาโต้แย้งไอ้หมอนี่ ถอยกลับตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”เมื่อคิดได้ดังนั้น เซี่ยรั่วหลินก็เผยสีหน้าเหมือนตายเป็นตายพร้อมยกแก้วนมขึ้นมาดื่มแต่พอนมโคมาจ่อที่ปาก เซี่ยรั่วหลินกลับไม่ยอมนำเข้าปากสักทีพอคิดว่านมนี้ถูกรีดมาจากโค ในใจของนางก็รู้สึกต่อต้านอย่างประหลาดใจ“องค์หญิงไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเอง”หยางฝานเห็นสีหน้าตายเป็นตายของเซี่ยรั่วหลินแล้วก็อดไม่ได้ที่จะแอบหัวเราะในใจทว่า ราวกับถูกคำกล่าวของเขายั่วโมโห เซี่ยรั่วหลินจึงส่งเสียงเย็นชาออกมาทันที“ก็แค่นมโคมิใช่รึ วันนี้ข้าจะพิสูจน์ให้เจ้าเห็นว่าของสิ่งนี้ไร้ค่าสิ้นดี เจ้า

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 29

    เมื่อเห็นตั่วเหยียนเอ่ยพลางกำลังจะเผาจดหมาย กุนซือก็รีบกล่าวขึ้นว่า“องค์หญิงจะคิดอย่างนั้นไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ แม้ว่าจุดประสงค์ของการเดินทางของเราในครั้งนี้จะเพื่อขอเสบียงและเงินบรรณาการ แต่หากมีคนในราชสำนักต้าเซี่ยคอยช่วยเหลือ การบรรลุเป้าหมายนี้ก็จะง่ายขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”พอเขากล่าวเช่นนี้ ตั่วเหยียนก็รู้สึกว่ามีเหตุผล จากนั้นจึงผงกศีรษะ“ท่านกุนซือกล่าวมีเหตุผล เช่นนั้นเราก็ร่วมมือกับเขาดูสักครั้งเถิด แต่ว่าตามที่ระบุไว้ในจดหมายนี้ ผู้ที่จะมาเจรจากับเรา เป็นถึงท่านอ๋องของต้าเซี่ยเลยหรือ?”ตั่วเหยียนมองดูชื่อหยางฝานที่เขียนอยู่ในจดหมาย แล้วถามด้วยความแคลงใจกุนซือได้ยินดังนั้นแล้วก็หัวเราะเยาะอย่างดูแคลน“หยางฝาน เยียนอ๋องผู้นี้ ข้าก็เคยสืบมาแล้ว คนผู้นี้มีสัญญาหมั้นกับหลินชิงเยว่ แม่ทัพเถาฮวา แต่คนผู้นี้กลับเป็นคนเหลวไหลที่ไม่มีทั้งเกียรติยศและพรสวรรค์ในการบัญชาการรบ ได้ยินมาว่าวัน ๆ เอาแต่คลุกคลีอยู่กับพวกพ่อค้า เป็นแค่ท่านอ๋องรุ่นที่สองที่ไม่ได้เรื่องเท่านั้น ฮ่องเต้ต้าเซี่ยก็คงจะเสียสติไปแล้วจริง ๆ คิดว่าแค่ดันคนไม่เอาถ่านอย่างเยียนอ๋องขึ้นมา จะสามารถทำให้เราหวาดกลัวจนต้องถอยรนไปไ

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 28

    “จดหมายธนู?!”ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นรีบลุกขึ้นยืนทันที“จับคนยิงได้หรือไม่!”กุนซือรีบถามกองกำลังคุ้มกันคณะเจรจาสันติภาพในครั้งนี้เป็นถึงกองทัพรักษาพระองค์ของท่านข่าน ปล่อยให้มีคนลอบเข้ามาถึงข้างค่ายโดยไม่รู้ตัวเลยหรือ?“ขอองค์หญิงและท่านกุนซือโปรดอภัยด้วย พวกข้าจับคนผู้นั้นไม่ได้!”ทหารผู้กล้าส่ายหน้าขณะคุกเข่า“ฮึ! พวกไร้ประโยชน์!”องค์หญิงตั่วเหยียนกล่าวอย่างเย็นชาทหารผู้กล้าที่คุกเข่าอยู่รีบก้มหน้าลงทันทีส่วนกุนซือครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกวักมือเรียกทหารผู้กล้าผู้นั้น“นำจดหมายธนูนั้นมา!”“ขอรับ!”กุนซือรับจดหมายธนูมา แต่ไม่ได้เปิดจดหมายออกในทันที กลับมองไปที่ลูกศรขนนกในมือแทน“ของสิ่งนี้มีอะไรน่าดูนักหนา ก็แค่คำยั่วยุจากพวกไร้ประโยชน์ของต้าเซี่ยเท่านั้นเอง มีคนแบบนี้ตลอดทาง ไม่น้อยไม่ใช่หรือ”องค์หญิงตั่วเหยียนกล่าวด้วยสีหน้าดูแคลนต้าเซี่ยกับโม่เป่ยทำสงครามกันทุกปี คณะทูตอย่างพวกเขาเจอคนต้าเซี่ยที่โกรธแค้นไม่น้อยเลยระหว่างทางที่ผ่านมาทว่ากุนซือได้ยินดังนั้นแล้วกลับยิ้มพลางส่ายหน้า“องค์หญิง ข้าคิดว่าครั้งนี้อาจจะต่างออกไป”กล่าวจบ กุนซือก็แกะจดหมายออกเ

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 27

    ทันทีที่ก้าวเข้าประตูมา เซี่ยรั่วหลินก็เห็นไทเฮากำลังสวดมนต์อยู่ทันทีที่เห็นไทเฮา น้ำตาแห่งความน้อยใจก็เอ่อล้นในดวงตาของเซี่ยรั่วหลิน“เสด็จย่า!”เซี่ยรั่วหลินร้องเสียงดังพร้อมกับโผเข้ากอดไทเฮา แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความน้อยใจ“โธ่เอ้ย! ผู้ใดทำให้เด็กดื้อของเราไม่พอใจละเนี้ย ย่าจะไปสั่งสอนเขาเดี๋ยวนี้!”ไทเฮาลูบหลังเซี่ยรั่วหลินเบา ๆ พลางกล่าวด้วยความรู้สึกสงสารยิ่งเซี่ยรั่วหลินเปล่งเสียงฮึดฮัดเบา ๆ แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้ฟังทันที“เสด็จย่า ท่านโปรดตัดสินว่านี่ใช่ความผิดของหยางฝานคนอวดดีคนนั้นหรือไม่ ข้าอุตส่าห์เป็นห่วงเขาแท้ ๆ เขาก็ยังไม่ฟังคำของข้าอีก ฮึ! โมโหจนจะตายอยู่แล้ว!”ไทเฮามองดูท่าทางโกรธขึ้งของเซี่ยรั่วหลินแล้วก็ไม่รู้จะตอบนางอย่างไรในทันทีเมื่อเทียบกับเซี่ยรั่วหลินที่ไม่รู้อะไรเลย ไทเฮากลับเข้าใจหยางฝานค่อนข้างมากหากหยางฝานไม่ได้แบ่งกำไรจากเครื่องประทินโฉมให้นางครึ่งหนึ่ง แม้นางจะเป็นไทเฮา ก็ไม่สามารถสร้างโบสถ์อันงดงามวิจิตรเช่นนี้ได้กระนั้น ในความคิดของไทเฮา หยางฝานเป็นคนที่มีความสามารถอย่างแน่นอนและนางยังรู้ด้วยว่าเหตุใดฮ่องเต้ถึงต้องใ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status