Share

บทที่ 3

Penulis: หนีเต๋อซู
แต่แม่ไม่เคยรู้เลยว่า ครั้งนี้ เมื่อฉันถูกขังไว้ในห้องใต้ดินที่ชื้นแฉะนั้น ฉันได้ตายจากไปจริง ๆ

วิญญาณของฉันล่องลอยไปในโลกนี้อย่างแผ่วเบา ราวกับควันจาง ๆ ที่ไม่มีเสียงและไร้ร่องรอย

ฉันมองดูแม่และหวังโอวหัวเราะกันอย่างมีความสุขที่ริมทะเล แสงอาทิตย์สาดส่องลงบนตัวพวกเธอ ราวกับมอบพรอันอบอุ่นที่สุดให้กับพวกเธอ

ส่วนฉันกลับเป็นเพียงฝุ่นผงที่ถูกลืมอยู่ในมุมหนึ่งของโลกนี้ แม้แต่แสงอาทิตย์สักเสี้ยวก็ยังไม่อาจสัมผัสถึง

“ลูกรัก ชอบสร้อยเส้นนี้ไหม? ถ้าชอบก็ซื้อเลย”

แม่พูดกับหวังโอวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู

สร้อยคอที่ประดับด้วยประกายเพชรระยิบระยับดูโดดเด่นและเปล่งประกายเจิดจ้ายิ่งขึ้นเมื่ออยู่ภายใต้แสงอาทิตย์

“ขอบคุณค่ะ แม่!” หวังโอวรับสร้อยคออย่างมีความสุข แล้วจู่ ๆ ก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้

“แม่คะ ซือซือตอนนี้จะเป็นยังไงบ้างน้า? เราควรจะวิดีโอคอลให้เธอดูวิวทะเลสวย ๆ นี้ดีไหม?”

ข้อเสนอที่ดูไร้เดียงสาของเธอกลับแฝงไว้ด้วยความประชดประชันอยู่เล็กน้อย

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ฉันรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบรัดอย่างแรง

แต่สิ่งที่โหดร้ายยิ่งกว่านั้นยังรออยู่ข้างหน้า

“จะโทรหาเธอทำไม! อย่าเอ่ยถึงไอ้ตัวไร้ค่านั่นเลย! พอพูดถึงเธอทีไร แม่ก็อดนึกถึงหรงหรงที่น่าสงสารของแม่ไม่ได้ หรงหรงหนีเรียนไปกับยัยนั่นแล้วเสียชีวิตเพราะเธอ ที่แม่ยังให้เธออยู่ในบ้านก็เพราะเธอเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของแม่จริง ๆ ไม่อย่างนั้นแม่คงไม่...”

น้ำเสียงของแม่เต็มไปด้วยความรังเกียจและเย็นชาอย่างลึกซึ้ง

“เมื่อเทียบกับยัยเด็กนั่น ลูกคือผู้กอบกู้ของแม่อย่างแท้จริง แม่ดีใจเหลือเกินที่ตัดสินใจรับลูกมาเลี้ยงตั้งแต่ตอนนั้น”

ทุกถ้อยคำราวกับลูกศรคมกริบที่พุ่งทะลุผ่านวิญญาณของฉัน และดังก้องสะท้อนอยู่ในอากาศ

“ถ้ารู้แบบนี้ แม่ก็คงไม่ให้กำเนิดเธอตั้งแต่แรก ไอ้ตัวนำภัย...” แม่พูดเสริมขึ้นมาอีก

สายตาของฉันเริ่มพร่ามัว แม้ในฐานะวิญญาณฉันจะไม่สามารถร้องไห้ได้ แต่ในใจกลับเจ็บปวดราวกับถูกลูกศรนับพันพุ่งทะลุผ่าน

ความทรงจำทั้งหมดถาโถมเข้ามาเหมือนกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก

ตอนที่พี่สาวพาฉันหนีเรียน และแอบปีนกำแพงออกไปข้างนอก แล้วเกิดเหยียบพลาดจนเสียชีวิตโดยไม่คาดคิด

ตัวฉันในวัยเด็ก แววตาที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังและไร้หนทาง และต้องเผชิญกับเงาหลังอันเย็นชาของครอบครัวที่โยนความผิดทั้งหมดมาที่ฉัน และตั้งแต่นั้นมา ฉันก็ไม่เคยได้สัมผัสถึงอ้อมกอดอันอบอุ่นที่เป็นความรักจากแม่อีกเลยตลอดชีวิตนี้

ภาพของพวกเขาที่กำลังยืนอยู่ริมทะเล สนุกสนานกับชีวิตอันแสนสุขในวันหยุด ตัดกับฉันที่เคยเดินตามหลังพวกเขาอย่างเงียบ ๆ คอยแบกรับความเจ็บปวด และแสวงหาการยอมรับและความรัก แต่ไม่เคยได้รับความอบอุ่นหรือความห่วงใยแม้สักครั้งเดียว

ในความเป็นจริง ภาพเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันเหล่านี้ซึ่งเคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่ายังคงปรากฏขึ้นในความทรงจำ

ทุกครั้งที่แม่พาหวังโอวออกไปเที่ยวอย่างมีความสุข และทิ้งฉันไว้คนเดียวที่บ้านอย่างโดดเดี่ยว กระสับกระส่ายและไร้ที่พึ่ง

ทุกครั้งที่ฉันกลับมาจากโรงเรียนด้วยความหวังว่าจะได้แบ่งปันเรื่องราวในแต่ละวัน แต่กลับได้รับเพียงคำพูดเย็นชา หรือบางครั้งก็ถูกเมินเฉยอย่างสิ้นเชิง

ภาพเหล่านี้ทั้งหมดสลับกันวนเวียนเข้ามา จนกลายเป็นข้อพิสูจน์สุดท้ายว่า แม้กระทั่งหลังความตาย การมีอยู่ของฉันก็ยังคงถูกปฏิเสธและถูกลืม

เสียงคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งดังชัดเจนในอากาศ แต่ฉันกลับไม่ได้ยินเสียงอบอุ่นใด ๆ จากโลกใบนี้อีกแล้ว มีเพียงเสียงแห่งการดิ้นรนและเสียงร้องไห้สะท้อนอยู่ในส่วนลึกของหัวใจเท่านั้น...

แม่ยังดูเหมือนไม่รู้ว่าฉันตายไปแล้ว เธอยังคงคิดว่าฉันดื้อรั้นเหมือนเมื่อก่อน และมักจะขัดแย้งกับเธออยู่เสมอ

แต่แม่ลืมไปนานแล้วว่า ฉันไม่ได้เถียงกับเธอมาหลายปีแล้ว และไม่เคยทำให้หวังโอวโกรธเลย แถมยังทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานในบ้านหลังนี้ที่ควรจะเป็นของฉันเอง ราวกับเป็นคนรับใช้

ทุกสิ่งทุกอย่างนี้เกิดขึ้นเพราะฉันไม่ได้ห้ามพี่สาวไม่ให้ปีนกำแพงในวันนั้น ความรู้สึกผิดที่ฉันมีต่อครอบครัวทำให้ถึงแม้ว่าแม่จะปฏิบัติกับฉันไม่ดีเพียงใด ฉันก็ยังคงอดทนมาตลอด

ในใจฉันได้แต่บอกตัวเองเงียบ ๆ ว่า แม่เพียงแค่รักพี่สาวมากเกินไป ถึงแม้ว่าเธอจะเกลียดฉัน แต่ถ้าฉันเข้าใจเธอมากขึ้น ทุกอย่างก็คงจะดีขึ้น

แต่หลังจากการมาถึงของหวังโอว แม่ก็ยิ่งห่างเหินจากฉันมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้หญิงที่เคยอุ้มฉันไว้ในอุ้งมือเมื่อครั้งยังเด็ก บัดนี้กลับทำร้ายฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างโหดร้าย

แม้กระทั่งตอนที่ฉันตายไปแล้ว ฉันก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากพวกเธอได้ ได้แต่เฝ้ามองแม่แสดงความรักกับลูกบุญธรรมที่ไม่มีสายเลือดเกี่ยวพันกันอย่างสนิทสนม

“เสี่ยวโอว คราวนี้พอกลับไปแล้ว ผลการตรวจการเข้ากันของไตก็น่าจะออกแล้วนะ ถ้าผ่าตัดได้ล่ะก็ แม่จะให้ลูกได้เปลี่ยนไตที่แข็งแรงแน่นอน ลูกรักของแม่!”

แม่ลูบผมของหวังโอวอย่างอ่อนโยน ขณะที่หวังโอวเผยรอยยิ้มที่ปิดไม่มิดด้วยความดีใจ เธอกอดแม่แน่นพร้อมกล่าวขอบคุณ แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยความดูถูก

บางทีในใจเธออาจจะคิดว่า แม่ที่แม้กระทั่งกับฉันซึ่งเป็นลูกแท้ ๆ ที่เชื่อฟัง ยังปฏิบัติเหมือนเป็นคนผิด แล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไรที่แม่จะรักและปฏิบัติต่อลูกบุญธรรมที่ไม่มีสายเลือดอย่างเธอเหมือนลูกแท้ ๆ ได้?
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 11

    เมื่อแม่ของฉันหาหวังโอวจนพบ หวังโอวกำลังเพลิดเพลินกับชีวิตบนเรือยอชต์แต่สีหน้าของเธอกลับดูไม่ค่อยสู้ดีนัก เมื่อเห็นว่าแม่ของฉันพาคนมาด้วยเธอสั่งบอดี้การ์ดรอบตัวให้จัดการคนที่แม่ของฉันพามาจนหมดและจับตัวแม่ของฉันพากลับไปยังบ้านหลังเดิมที่เราเคยอยู่ในห้องใต้ดินที่มืดและชื้นซึ่งเคยขังฉันมาก่อน หวังโอวผลักแม่ของฉันเข้าไปอย่างไร้ความปรานีผนังทั้งสี่ด้านเต็มไปด้วยเชื้อราที่เกาะแน่น อากาศคลุ้งไปด้วยกลิ่นอับชื้นและคาวเลือดผสมกันนี่คือสถานที่ที่ทำให้คนสิ้นหวัง และเป็นกรงขังที่ฉันเคยต้องทนทุกข์ทรมานมาก่อนหวังโอวหัวเราะเยาะอย่างเย็นชาแล้วปิดประตูเหล็ก ในมือของเธอถือไม้เบสบอล ดวงตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและความวิปริต“คุณรู้ไหม? ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันคงได้เปลี่ยนไตใหม่ไปนานแล้ว! ฉันคงไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมานแบบนี้!”เสียงของเธอแหลมคมและบาดหูแม่ของฉันนั่งพิงผนัง แม้ร่างกายจะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่แววตาของเธอยังคงมั่นคง “หวังโอว...เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าการทำแบบนี้จะแก้ปัญหาได้?”“หุบปาก!” หวังโอวตะโกนพร้อมกับยกไม้เบสบอลขึ้น“เป็นเพราะคุณ! ถ้าไม่ใช่เพราะความเห็นแก่ตัวของคุณในตอนนั้น ชีวิตของ

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 10

    หวังโอวหนีไปพร้อมกับของมีค่าทั้งหมดในบ้านส่วนแม่ของฉันนั่งอยู่ในห้องใต้ดินมืด ๆ ที่ฉันเคยอาศัยอยู่ สายตาของเธอพร่ามัวไปด้วยน้ำตาที่ไหลรินไม่หยุดเธอร้องไห้พลางนึกถึงความเจ็บปวดที่เธอเคยทำกับฉันในอดีต คำว่าขอโทษหลุดออกจากปากของเธอซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุดฉันที่ลอยอยู่ในอากาศ มองเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้วยความรู้สึกชินชาจนกระทั่งแม่ได้รับโทรศัพท์ เธอกำมือถือไว้แน่น มือสั่นระริกขณะที่รอฟังเสียงตอบกลับจากปลายสายเป็นเสียงอันเย็นชาของพ่อแท้ ๆ ของหวังโอว ผู้ที่เต็มไปด้วยความละโมบ“สิบห้าล้าน ไม่มากไปไม่น้อยไป ถ้าคุณจ่ายมา ฉันก็จะบอกทุกอย่างที่คุณอยากรู้”เสียงของเขาดูเหมือนดังมาจากเหวลึก เต็มไปด้วยความเย็นชาและการคิดคำนวณมาอย่างเจ้าเล่ห์แม่ของฉันกำโทรศัพท์แน่น “ฉันจะเชื่อคุณได้ยังไง? ทำไมคุณถึงทำเรื่องแบบนี้? หรือคุณไม่มีความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่เลย?” เธอแทบจะตะโกนออกมา“ความเป็นมนุษย์อย่างนั้นเหรอ?” พ่อของหวังโอวพูดขึ้นราวกับได้ยินเรื่องที่น่าขันที่สุดในโลก “เมื่ออยู่ต่อหน้าเงินแล้ว คำว่าความเป็นมนุษย์มันก็ถูกโยนทิ้งไปนานแล้ว”แม่ของฉันพิงกำแพงด้วยความอ่อนล้า “ได้...ฉันตกลง แต่คุ

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 9

    บรรยากาศภายในบ้านกลับเข้าสู่ความเงียบงันอันแปลกประหลาดอีกครั้ง ราวกับเป็นความสงบสุดท้ายก่อนพายุจะโหมกระหน่ำแม่ของฉันนั่งอยู่บนพื้น กุมหัวร้องไห้สะอึกสะอื้น ร่างกายที่สั่นเทาและเสียงสะอื้นที่ขาดช่วง ฟังดูแหลมแทงใจยิ่งนักในบ้านที่ควรจะเต็มไปด้วยความอบอุ่น“ซือซือ...ซือซือ...” แม่ของฉันพึมพำชื่อฉันซ้ำไปซ้ำมา ทุกคำที่เปล่งออกมาราวกับมีเบ็ดเกี่ยวลึกลงไปในใจของเธอ ดึงเอาความทรงจำที่เจ็บปวดที่สุดออกมา“ซือซือ...แม่ขอโทษ...”หวังโอวยืนอยู่ข้าง ๆ และมองภาพนี้โดยไร้ความรู้สึกเห็นใจใด ๆเธอหัวเราะเยาะและกล่าวว่า “หึ! ตอนนี้เพิ่งรู้ว่าผิดเหรอ? เพิ่งคิดได้ว่าจะยอมรับความผิดอย่างนั้นเหรอ? สายไปแล้ว!”แม่ของฉันเงยหน้าขึ้น ดวงตาเปื้อนน้ำตาจ้องมองหวังโอว “แต่แม่สำนึกผิดจริง ๆนะ แม่รู้ว่าตัวเองทำผิดมามาก...”“สำนึกผิดอย่างนั้นเหรอ?” หวังโอวขัดแม่ของฉันทันที “คิดว่าแค่คำว่า ‘ขอโทษ’ ไม่กี่คำจะลบล้างเรื่องราวที่ผ่านมาได้เหรอ? คิดว่ามันจะทำให้คนตายฟื้นคืนมาได้งั้นเหรอ?”“อย่างน้อยฉันก็ยอมรับว่าฉันผิด!” แม่ของฉันพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้น “อย่างน้อยฉันก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง! แทนที่จะมัวเย็นชาและก

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 8

    หากไม่ใช่เพราะวันนั้นที่แม่บังเอิญพบเข้า บางทีเธออาจจะไม่มีวันเชื่อเลยว่า ลูกสาวบุญธรรมที่เธอเลี้ยงดูมาอย่างทุ่มเทจะทำกับเธอเช่นนี้“ขอแค่เรื่องสำเร็จแล้วเธอให้ฉันตามจำนวนนี้! ฉันก็จะส่งมอบความลับสำคัญของบริษัทให้ทั้งหมดทันที!”หวังโอวโอ้อวดเสียงดังในร้านอาหาร ราวกับว่าเธอเห็นภาพตัวเองกำลังถือเงินก้อนโตอยู่ในมือเรียบร้อยแล้วคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามมองเธอด้วยความสงสัย “คุณหนูหวัง ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมคุณถึงอยากทำลายบริษัทที่แม่ของคุณสร้างขึ้นมาด้วยตัวเองล่ะ?”สายตาของหวังโอวฉายแววดูถูก “เธอไม่สมควรที่จะถูกเรียกว่าแม่ของฉันเสียด้วยซ้ำ!”คำพูดนี้เหมือนค้อนหนักที่กระแทกลงกลางใจของแม่ที่แอบฟังอยู่หลังประตูความโกรธและความผิดหวังปะทุขึ้นในใจของแม่ เธอไม่อาจกักเก็บความรู้สึกเหล่านั้นได้อีกต่อไปจึงผลักประตูเข้ามา“เสี่ยวโอว! นี่มันหมายความว่ายังไง? นี่ลูกต้องการผลักธุรกิจของครอบครัวเราลงเหวจริง ๆ เหรอ?”แม่ของฉันถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่เด็กสาวผู้เคยอ่อนโยนและน่ารักคนเดิม ตอนนี้กลับกลายเป็นหญิงสาวที่แสนเจ้าเล่ห์และเหี้ยมโหด เธอแค่หัวเราะเยาะอย่างเย็นชา“โอ้โห ‘แม่’ ที่รักของฉันนนน”

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 7

    หวังโอวกลับเข้าห้องนอน ทันทีที่ปิดประตู เธอเผยอีกด้านหนึ่งของตัวเองออกมาในพริบตาเธอหยิบโทรศัพท์จากลิ้นชักข้างเตียงออกมา แล้วรีบกดหมายเลขโทรออกอย่างรวดเร็ว“พ่อคะ หนูโอนเงินให้พวกพ่อแล้ว”น้ำเสียงของเธอดูเย็นชาและเร่งรีบปลายสายมีเสียงแหบแห้งของชายคนหนึ่งดังขึ้น “เสี่ยวโอว ขอบใจมากนะ แต่เธอก็รู้นี่ พวกเจ้าหนี้ของพ่อ…”“พอเถอะ!” หวังโอวพูดตัดบททันที “นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว! อย่ามาขอเงินจากหนูอีก หนูเองก็ป่วยอยู่! ทำไมไม่รู้จักเป็นห่วงหนูบ้างเลย?”น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความประชดประชันและความโกรธชายที่อยู่ปลายสายเงียบไปชั่วครู่ก่อนพูดขึ้นว่า "เสี่ยวโอว อย่าทำแบบนี้เลย พวกเราก็ไม่มีทางเลือก เธอจะไม่ให้เงินพ่อไม่ได้นะ ถ้าเธอไม่ให้เงินพ่อล่ะก็ เชื่อไหมว่าพ่อจะบอกความจริงว่าเธอเป็นคนทำให้หวังหรงตาย..."“หุบปาก!!” หวังโอวกัดฟันพูด “ถ้าไม่ใช่เพราะความโลภไม่รู้จักพอของพวกพ่อ หนูคงไม่ต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้!”เธอหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วลดเสียงลงแต่แฝงไปด้วยความข่มขู่ “ถ้าพ่อกล้าพูดเรื่องนี้ออกไป หนูจะให้เจ้าหนี้ของพ่อโยนพ่อไปให้หมากิน…”ปลายสายเงียบสนิทไปทันทีผ่านไปเนิ่นนานก็ได้ยินเสียง

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 6

    หากไม่ใช่เพราะฉันตายไป หวังโอวก็คงไม่มีวันเผยธาตุแท้ของเธอออกมาหลังจากกลับถึงบ้าน แม่ของฉันทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอเริ่มทำโน่นทำนี่อย่างไม่ใส่ใจ “ลูกรัก คืนนี้อยากกินอะไร? แม่จะทำให้”น้ำเสียงของเธอกลับแฝงไปด้วยความอ่อนโยนหากเป็นฉันในวัยเด็ก ฉันคงจะรู้สึกมีความสุขกับภาพเช่นนี้แต่ในตอนนี้กลับรู้สึกว่ามันช่างน่าขันเหลือเกินหวังโอวยืนอึ้งไปอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบสนองและพูดขึ้นว่า “แม่...หนู...ไม่หิวค่ะ”พูดจบเธอก็รีบเร่งเดินขึ้นไปชั้นบนภายใต้แสงไฟแผ่นหลังของเธอดูเหงาหงอยอย่างบอกไม่ถูกส่วนวิญญาณของฉันก็ติดตามเธอเข้าไปในห้องทันทีที่หวังโอวปิดประตูหน้าต่าง เธอก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคน “ใช่แล้ว! ซือซือตายแล้ว! ตอนนี้ไม่มีไตที่เหมาะสมอีกแล้ว!”เสียงถามอย่างเร่งรีบดังมาจากปลายสาย แต่หวังโอวกลับตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธและความสิ้นหวัง“คุณรู้ไหมว่ามันหมายถึงอะไร? มันหมายความว่าฉันต้องทำการฟอกไตต่อไป! สัปดาห์ละสามครั้ง! คุณรู้ไหมว่ามันรู้สึกอย่างไร?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวใจของฉันก็รู้สึกเหมือนถูกเข็มแหลมทิ่มแทงที่แท้ ในสายตาของพวกเขา ฉันก็เป็นเพีย

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status