แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: หนีเต๋อซู
เมื่อฉันฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตัวเองถูกใครบางคนโยนมาทิ้งไว้ในห้องใต้ดินที่คนรับใช้พักอยู่ พื้นเปียกชุ่มไปด้วยน้ำซึม และผนังห้องก็ลอกออกจนแทบหมดสิ้น

ในพื้นที่ที่เย็นชื้นและอับทึบนี้ ก้อนอิฐทุกก้อนและหยดน้ำทุกหยดราวกับกำลังเยาะเย้ยโชคชะตาของฉัน

ใช่แล้ว ตั้งแต่พี่สาวแท้ ๆ ของฉันจากไป ฉันก็กลายเป็นเหมือนวิญญาณไร้ตัวตนในบ้านหลังนี้

มองดูใบหน้าของหวังโอวที่เต็มไปด้วยความทะนงตน และอวดโฉมด้วยเครื่องประดับเงินทอง เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบายและหรูหราในห้องนอนอันหรูหราที่เคยเป็นของฉัน แล้วฉันล่ะ? ฉันป่วยหนักจนแม้แต่เงินค่ารักษาพื้นฐานหรือค่าผ่าตัดยังหาได้ไม่พอ

แต่เธอกลับสามารถรออย่างสงบเพื่อให้ฉันบริจาคไตให้เธอได้!

ฉันเดินโซเซไปหยิบเงินที่สะสมมาอย่างยากลำบากตลอดหลายปีจากการประหยัดอดออม และกำธนบัตรไว้ในมือแน่น ๆ ธนบัตรที่เปียกชุ่มด้วยเหงื่อและคราบน้ำตา แล้วนำไปจ่ายเป็นค่ารักษาในงวดแรก

หลังจากการรักษาเสร็จสิ้น ฉันก็พักอยู่ที่โรงพยาบาลสองวัน

แต่เมื่อกลับมาถึงบ้าน สิ่งที่รอฉันอยู่ไม่ใช่ความห่วงใยหรือคำถามว่าฉันไปไหนมา หรือปลอดภัยหรือไม่ แต่กลับเป็นคำด่าทอที่โหดร้ายและการผลักไสอย่างบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม

“แกไปตายที่ไหนมา ไอ้ตัวน่ารังเกียจ! หรือไปทำอะไรน่าขายหน้ามาอีก!”

แม่ตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด สายตาคมกริบราวกับใบมีดของเธอเหมือนจะเฉือนฉันเป็นชิ้น ๆ

“ถ้าแกกล้าเอาชื่อเสียงของตระกูลหวังไปทำเรื่องน่าอับอายล่ะก็...” แม่ยังพูดไม่ทันจบ

หวังโอวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็พูดเสริมขึ้นมาว่า “แม่คะ ดูสิ เธออ่อนแอเหมือนกระต่ายที่ใกล้จะสิ้นใจ บางทีเธออาจจะไปทำอะไรน่าอับอายมาจริง ๆ ก็ได้นะ...”

คำพูดยังไม่ทันขาดจากปาก ฉันก็เห็นสีหน้าของแม่เปลี่ยนไปทันที เธอหันหลังแล้ววิ่งเข้าไปในห้องฟิตเนส และหยิบไม้เบสบอลออกมา

จากนั้นก็ฟาดลงบนหลังของฉันทันที

“โอ๊ย! เจ็บ! แม่ ได้โปรด ฟังหนูอธิบายก่อน...”

แต่ความหวังกับความเป็นจริงมักแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเสมอ

แม่ไม่ให้ฉันได้มีโอกาสอธิบายหรือแก้ตัวใด ๆ เลย แม่ใช้ไม้เบสบอลเริ่มฟาดลงบนหลังและสะโพกของฉันอย่างไม่ยั้ง…

ทุกการฟาดลงมานั้นมาพร้อมกับเสียงแหลมคมที่เจ็บแสบเสียดทะลุแก้วหู

ทุกบาดแผลราวกับภูเขาไฟระเบิด แผดเผาด้วยความร้อนจนแทบจะทนไม่ไหว

เมื่อไม้เบสบอลฟาดลงที่ต้นคอของฉันอย่างแรงเป็นครั้งสุดท้าย ฉันก็หมดสติไป และรู้สึกว่าร่างกายลอยขึ้นราวกับได้หลุดพ้นจากพันธนาการและความทุกข์ทรมานทั้งหมด

แต่เสียงที่ยังคงดังก้องอยู่ในหูคือคำด่าทอของแม่ที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและเสียดแทงหัวใจว่า “แกมันไร้ค่า น่าขายหน้า!”

แม่สั่งให้คนโยนฉันกลับไปที่ห้องใต้ดินที่เป็นที่ของฉัน

ฉันยังคงจำได้อย่างเลือนลางว่าก่อนจะหลับตาลง เสียงของแม่ยังคงดังอยู่ข้างหู

“ขังเธอไว้จนกว่าจะถึงเวลาผ่าตัดบริจาคไตให้เสี่ยวโอวแล้วค่อยปล่อยออกมา!”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 11

    เมื่อแม่ของฉันหาหวังโอวจนพบ หวังโอวกำลังเพลิดเพลินกับชีวิตบนเรือยอชต์แต่สีหน้าของเธอกลับดูไม่ค่อยสู้ดีนัก เมื่อเห็นว่าแม่ของฉันพาคนมาด้วยเธอสั่งบอดี้การ์ดรอบตัวให้จัดการคนที่แม่ของฉันพามาจนหมดและจับตัวแม่ของฉันพากลับไปยังบ้านหลังเดิมที่เราเคยอยู่ในห้องใต้ดินที่มืดและชื้นซึ่งเคยขังฉันมาก่อน หวังโอวผลักแม่ของฉันเข้าไปอย่างไร้ความปรานีผนังทั้งสี่ด้านเต็มไปด้วยเชื้อราที่เกาะแน่น อากาศคลุ้งไปด้วยกลิ่นอับชื้นและคาวเลือดผสมกันนี่คือสถานที่ที่ทำให้คนสิ้นหวัง และเป็นกรงขังที่ฉันเคยต้องทนทุกข์ทรมานมาก่อนหวังโอวหัวเราะเยาะอย่างเย็นชาแล้วปิดประตูเหล็ก ในมือของเธอถือไม้เบสบอล ดวงตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและความวิปริต“คุณรู้ไหม? ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันคงได้เปลี่ยนไตใหม่ไปนานแล้ว! ฉันคงไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมานแบบนี้!”เสียงของเธอแหลมคมและบาดหูแม่ของฉันนั่งพิงผนัง แม้ร่างกายจะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่แววตาของเธอยังคงมั่นคง “หวังโอว...เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าการทำแบบนี้จะแก้ปัญหาได้?”“หุบปาก!” หวังโอวตะโกนพร้อมกับยกไม้เบสบอลขึ้น“เป็นเพราะคุณ! ถ้าไม่ใช่เพราะความเห็นแก่ตัวของคุณในตอนนั้น ชีวิตของ

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 10

    หวังโอวหนีไปพร้อมกับของมีค่าทั้งหมดในบ้านส่วนแม่ของฉันนั่งอยู่ในห้องใต้ดินมืด ๆ ที่ฉันเคยอาศัยอยู่ สายตาของเธอพร่ามัวไปด้วยน้ำตาที่ไหลรินไม่หยุดเธอร้องไห้พลางนึกถึงความเจ็บปวดที่เธอเคยทำกับฉันในอดีต คำว่าขอโทษหลุดออกจากปากของเธอซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุดฉันที่ลอยอยู่ในอากาศ มองเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้วยความรู้สึกชินชาจนกระทั่งแม่ได้รับโทรศัพท์ เธอกำมือถือไว้แน่น มือสั่นระริกขณะที่รอฟังเสียงตอบกลับจากปลายสายเป็นเสียงอันเย็นชาของพ่อแท้ ๆ ของหวังโอว ผู้ที่เต็มไปด้วยความละโมบ“สิบห้าล้าน ไม่มากไปไม่น้อยไป ถ้าคุณจ่ายมา ฉันก็จะบอกทุกอย่างที่คุณอยากรู้”เสียงของเขาดูเหมือนดังมาจากเหวลึก เต็มไปด้วยความเย็นชาและการคิดคำนวณมาอย่างเจ้าเล่ห์แม่ของฉันกำโทรศัพท์แน่น “ฉันจะเชื่อคุณได้ยังไง? ทำไมคุณถึงทำเรื่องแบบนี้? หรือคุณไม่มีความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่เลย?” เธอแทบจะตะโกนออกมา“ความเป็นมนุษย์อย่างนั้นเหรอ?” พ่อของหวังโอวพูดขึ้นราวกับได้ยินเรื่องที่น่าขันที่สุดในโลก “เมื่ออยู่ต่อหน้าเงินแล้ว คำว่าความเป็นมนุษย์มันก็ถูกโยนทิ้งไปนานแล้ว”แม่ของฉันพิงกำแพงด้วยความอ่อนล้า “ได้...ฉันตกลง แต่คุ

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 9

    บรรยากาศภายในบ้านกลับเข้าสู่ความเงียบงันอันแปลกประหลาดอีกครั้ง ราวกับเป็นความสงบสุดท้ายก่อนพายุจะโหมกระหน่ำแม่ของฉันนั่งอยู่บนพื้น กุมหัวร้องไห้สะอึกสะอื้น ร่างกายที่สั่นเทาและเสียงสะอื้นที่ขาดช่วง ฟังดูแหลมแทงใจยิ่งนักในบ้านที่ควรจะเต็มไปด้วยความอบอุ่น“ซือซือ...ซือซือ...” แม่ของฉันพึมพำชื่อฉันซ้ำไปซ้ำมา ทุกคำที่เปล่งออกมาราวกับมีเบ็ดเกี่ยวลึกลงไปในใจของเธอ ดึงเอาความทรงจำที่เจ็บปวดที่สุดออกมา“ซือซือ...แม่ขอโทษ...”หวังโอวยืนอยู่ข้าง ๆ และมองภาพนี้โดยไร้ความรู้สึกเห็นใจใด ๆเธอหัวเราะเยาะและกล่าวว่า “หึ! ตอนนี้เพิ่งรู้ว่าผิดเหรอ? เพิ่งคิดได้ว่าจะยอมรับความผิดอย่างนั้นเหรอ? สายไปแล้ว!”แม่ของฉันเงยหน้าขึ้น ดวงตาเปื้อนน้ำตาจ้องมองหวังโอว “แต่แม่สำนึกผิดจริง ๆนะ แม่รู้ว่าตัวเองทำผิดมามาก...”“สำนึกผิดอย่างนั้นเหรอ?” หวังโอวขัดแม่ของฉันทันที “คิดว่าแค่คำว่า ‘ขอโทษ’ ไม่กี่คำจะลบล้างเรื่องราวที่ผ่านมาได้เหรอ? คิดว่ามันจะทำให้คนตายฟื้นคืนมาได้งั้นเหรอ?”“อย่างน้อยฉันก็ยอมรับว่าฉันผิด!” แม่ของฉันพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้น “อย่างน้อยฉันก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง! แทนที่จะมัวเย็นชาและก

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 8

    หากไม่ใช่เพราะวันนั้นที่แม่บังเอิญพบเข้า บางทีเธออาจจะไม่มีวันเชื่อเลยว่า ลูกสาวบุญธรรมที่เธอเลี้ยงดูมาอย่างทุ่มเทจะทำกับเธอเช่นนี้“ขอแค่เรื่องสำเร็จแล้วเธอให้ฉันตามจำนวนนี้! ฉันก็จะส่งมอบความลับสำคัญของบริษัทให้ทั้งหมดทันที!”หวังโอวโอ้อวดเสียงดังในร้านอาหาร ราวกับว่าเธอเห็นภาพตัวเองกำลังถือเงินก้อนโตอยู่ในมือเรียบร้อยแล้วคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามมองเธอด้วยความสงสัย “คุณหนูหวัง ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมคุณถึงอยากทำลายบริษัทที่แม่ของคุณสร้างขึ้นมาด้วยตัวเองล่ะ?”สายตาของหวังโอวฉายแววดูถูก “เธอไม่สมควรที่จะถูกเรียกว่าแม่ของฉันเสียด้วยซ้ำ!”คำพูดนี้เหมือนค้อนหนักที่กระแทกลงกลางใจของแม่ที่แอบฟังอยู่หลังประตูความโกรธและความผิดหวังปะทุขึ้นในใจของแม่ เธอไม่อาจกักเก็บความรู้สึกเหล่านั้นได้อีกต่อไปจึงผลักประตูเข้ามา“เสี่ยวโอว! นี่มันหมายความว่ายังไง? นี่ลูกต้องการผลักธุรกิจของครอบครัวเราลงเหวจริง ๆ เหรอ?”แม่ของฉันถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่เด็กสาวผู้เคยอ่อนโยนและน่ารักคนเดิม ตอนนี้กลับกลายเป็นหญิงสาวที่แสนเจ้าเล่ห์และเหี้ยมโหด เธอแค่หัวเราะเยาะอย่างเย็นชา“โอ้โห ‘แม่’ ที่รักของฉันนนน”

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 7

    หวังโอวกลับเข้าห้องนอน ทันทีที่ปิดประตู เธอเผยอีกด้านหนึ่งของตัวเองออกมาในพริบตาเธอหยิบโทรศัพท์จากลิ้นชักข้างเตียงออกมา แล้วรีบกดหมายเลขโทรออกอย่างรวดเร็ว“พ่อคะ หนูโอนเงินให้พวกพ่อแล้ว”น้ำเสียงของเธอดูเย็นชาและเร่งรีบปลายสายมีเสียงแหบแห้งของชายคนหนึ่งดังขึ้น “เสี่ยวโอว ขอบใจมากนะ แต่เธอก็รู้นี่ พวกเจ้าหนี้ของพ่อ…”“พอเถอะ!” หวังโอวพูดตัดบททันที “นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว! อย่ามาขอเงินจากหนูอีก หนูเองก็ป่วยอยู่! ทำไมไม่รู้จักเป็นห่วงหนูบ้างเลย?”น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความประชดประชันและความโกรธชายที่อยู่ปลายสายเงียบไปชั่วครู่ก่อนพูดขึ้นว่า "เสี่ยวโอว อย่าทำแบบนี้เลย พวกเราก็ไม่มีทางเลือก เธอจะไม่ให้เงินพ่อไม่ได้นะ ถ้าเธอไม่ให้เงินพ่อล่ะก็ เชื่อไหมว่าพ่อจะบอกความจริงว่าเธอเป็นคนทำให้หวังหรงตาย..."“หุบปาก!!” หวังโอวกัดฟันพูด “ถ้าไม่ใช่เพราะความโลภไม่รู้จักพอของพวกพ่อ หนูคงไม่ต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้!”เธอหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วลดเสียงลงแต่แฝงไปด้วยความข่มขู่ “ถ้าพ่อกล้าพูดเรื่องนี้ออกไป หนูจะให้เจ้าหนี้ของพ่อโยนพ่อไปให้หมากิน…”ปลายสายเงียบสนิทไปทันทีผ่านไปเนิ่นนานก็ได้ยินเสียง

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 6

    หากไม่ใช่เพราะฉันตายไป หวังโอวก็คงไม่มีวันเผยธาตุแท้ของเธอออกมาหลังจากกลับถึงบ้าน แม่ของฉันทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอเริ่มทำโน่นทำนี่อย่างไม่ใส่ใจ “ลูกรัก คืนนี้อยากกินอะไร? แม่จะทำให้”น้ำเสียงของเธอกลับแฝงไปด้วยความอ่อนโยนหากเป็นฉันในวัยเด็ก ฉันคงจะรู้สึกมีความสุขกับภาพเช่นนี้แต่ในตอนนี้กลับรู้สึกว่ามันช่างน่าขันเหลือเกินหวังโอวยืนอึ้งไปอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบสนองและพูดขึ้นว่า “แม่...หนู...ไม่หิวค่ะ”พูดจบเธอก็รีบเร่งเดินขึ้นไปชั้นบนภายใต้แสงไฟแผ่นหลังของเธอดูเหงาหงอยอย่างบอกไม่ถูกส่วนวิญญาณของฉันก็ติดตามเธอเข้าไปในห้องทันทีที่หวังโอวปิดประตูหน้าต่าง เธอก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคน “ใช่แล้ว! ซือซือตายแล้ว! ตอนนี้ไม่มีไตที่เหมาะสมอีกแล้ว!”เสียงถามอย่างเร่งรีบดังมาจากปลายสาย แต่หวังโอวกลับตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธและความสิ้นหวัง“คุณรู้ไหมว่ามันหมายถึงอะไร? มันหมายความว่าฉันต้องทำการฟอกไตต่อไป! สัปดาห์ละสามครั้ง! คุณรู้ไหมว่ามันรู้สึกอย่างไร?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวใจของฉันก็รู้สึกเหมือนถูกเข็มแหลมทิ่มแทงที่แท้ ในสายตาของพวกเขา ฉันก็เป็นเพีย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status