“กั๋วตงจิตใจกว้างขวางจริง ๆ ค่ะ”“เห้อ เราไม่จำเป็นต้องโมโหสวะคนหนึ่ง” เลี่ยวกั๋วต้งโอบไหล่ของจางกุ้ยหลานแล้วพูดขึ้นในใจเขากลับรู้สึกหนาวสั่นโชคดีที่ไอ้หมอนี่มีธุระด่วนและจากไปกะทันหัน ไม่อย่างนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ ว่าควรจะจัดการอย่างไรจางกุ้ยหลานซบในอ้อมกอดของเลี่ยวกั๋วต้งอย่างมีความสุขหลินเฟิงเรียกรถแท็กซี่ ตรงไปยังเทียนเจียงคลับทันทีที่โถงพักผ่อนของชั้นบนสุดเขาได้เจอกับฉินอิ๋งฉินอิ๋งเห็นหลินเฟิงมาถึง ในที่สุดก็ถอนหายใจออกมายาว ๆ“คุณหลินคุณมาถึงได้สักที”“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?” หลินเฟิงถามอย่างรีบร้อนฉินอิ๋งเดินไปด้วยพูดไปด้วย: “วันนี้ตอนบ่ายฉันไปเจรจาธุรกิจกับพี่หว่านเอ๋อ ผลปรากฏว่าระหว่างทางกลับได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น”“บนรถของอีกฝ่ายมีมือสังหารลงมาสิบกว่าคน”“คนพวกนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันด้วยซ้ำ แต่ฉันคิดไม่ถึงว่าหนึ่งในนั้นจะขว้างปาผงกำหนึ่งใส่ตัวพี่หว่านเอ๋อ”“ตอนแรกพี่หว่านเอ๋อไม่เป็นอะไร แต่เมื่อครู่นี้พี่หว่านเอ๋อกลับป่วยล้มไป”หลินเฟิงสอบถาม “เรียกหมอคนอื่นมาแล้วยัง?”“หลานสาวของหมอเทวดาจางสำนักไป๋เกาตรวจสอบดูแล้ว คิดว่าเป็นพิษเย็นเข้าสู่ร่างกาย”ทั้
จางเจียหนิงหมดคำบรรยาย เธอดูเวลาแล้วพูดขึ้น: “ในเมื่อมีคุณหลินอยู่ที่นี่ งั้นฉันก็สามารถวางใจกลับไปได้แล้ว”“เดี๋ยวฉันยังมีธุระอีก ต้องกลับก่อนนะคะ”หลินเฟิงพยักหน้า จู่ ๆ ก็นึกอะไรขึ้นได้จึงรีบเรียกเธอเอาไว้“คุณจาง”“มีอะไรเหรอคะ?”หลินเฟิงล้วงยากล่องหนึ่งออกมาแล้วพูดขึ้น: “ถ้าหากคุณจางมีเวลา รบกวนคุณช่วยไปส่งของให้ผมหน่อยครับ”“ไปส่งที่ไหนคะ? คุณหลินพูดมาได้เลย พรุ่งนี้เช้าฉันมีเวลาจะช่วยคุณไปส่งให้”จางเจียหนิงรับกล่องยาไป“ส่งไปที่ตระกูลหลี่ นี่เป็นครีมยาที่ลดรอยแผลเป็นโดยเฉพาะ สามารถใช้รักษารอยมีดบนใบหน้าของหลี่ฮุ่ยหรานได้”จางเจียหนิงมองหลินเฟิงอย่างลังเลใจเล็กน้อยตามหลักแล้วหลี่ฮุ่ยหรานคืออดีตภรรยาของเขา เขาเอาไปส่งให้จะเหมาะสมกว่าไม่ใช่เหรอ?“ทำไมคุณหลินไม่ไปส่งด้วยตัวเองคะ?”หลินเฟิงเกาหัวแล้วพูดอธิบาย: “ก่อนหน้านี้ผมกับตระกูลหลี่มีความบาดหมางกันนิดหน่อย แม่ของฮุ่ยหรานก็ไม่เชื่อว่าผมมีความสามารถนี้”“ดังนั้นผมคิดว่า ถ้าคุณจางเอาไปส่งให้ พวกเขาจะต้องเชื่อแน่นอน”จางเจียหนิงเข้าใจในทันที: “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”“งั้น ฉันไม่ต้องพูดว่าคุณเป็นคนมอบให้ใช่ไหมคะ?”
“ก่อนหน้านี้คุณโดนพิษ ฉินอิ๋งเรียกผมมาช่วยแก้พิษให้คุณ” หลินเฟิงพูดอย่างเรียบเฉยถังหว่านจึงได้นึกย้อนกลับไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เธอรู้สึกอกสั่นขวัญหายจริง ๆจากนั้นถามขึ้น: “ฉินอิ๋งล่ะ?”“เธอบอกว่าที่บ้านเธอมีธุระ จึงกลับไปก่อน ให้ผมอยู่ดูแลคุณที่นี่”ถังหว่านกัดฟัน: “ยัยเด็กคนนี้”โชคดีที่คนที่อยู่ดูแลคือหลินเฟิง ถ้าฝากตัวเองที่ไม่มีสติไว้กับคนจะได้อย่างไร?เธอหันหน้าไปมองหลินเฟิง และยิ้มสวยหยาดเยิ้ม: “คุณไม่ได้ทำอะไรฉันใช่ไหม?”หลินเฟิงส่ายหน้า: “คุณคิดมากไปแล้ว ผมไม่ได้ทำอะไร”“เห้อ คุณสามารถอยู่ดูแลฉันได้ ฉันรู้สึกดีใจมาก ๆ”ถังหว่านยิ้มและพูด: “อันที่จริงถ้าคุณต้องการ ฉันก็ไม่ถือสา”ขณะพูดเธอก็ตั้งใจดึงชุดนอนลงหลินเฟิงสูดจมูกแล้วพูดขึ้น: “ตอนนี้คุณเป็นแบบนี้ ผมไม่มีอารมณ์จริง ๆ”ถังหว่านมุมปากกระตุก“นายเนี่ยนะ......ไสหัวออกไปซะ”กว่าตัวเองจะสร้างบรรยากาศโรแมนติกออกมาได้ ไอ้หมอนี่กลับทำลายด้วยประโยคเดียวไม่รู้จักความโรแมนติกสักนิดเลยหลินเฟิงยักไหล่ และช่วยปิดประตูห้องน้ำให้เธอผ่านไปครู่หนึ่งถังหว่านเปิดประตูออกอีกครั้งเธอห่อตัวด้วยผ้าเช็ดตัวแล้วเดิน
ในตอนที่ถังหว่านเตรียมจะดึงเสื้อผ้าของหลินเฟิงออกหลินเฟิงก็จับเธอเอาไว้ถังหว่านถลึงตาโต มองเขาด้วยความงุนงง“เล่นพอแล้วยัง?” หลินเฟิงขมวดคิ้วพูดถังหว่านลุกขึ้นด้วยความโมโห: “คุณเนี่ยนะจริง ๆ เลย จะเอาเปรียบจากตัวคุณไม่ได้สักนิดเลย”หลินเฟิงหมดคำพูด: “คุณจะเอาเปรียบบนตัวผมให้ได้เลยเหรอ?”“ใครใช้ให้คุณหลินดีเลิศขนาดนี้กันล่ะ?” ถังหว่านยิ้มแย้มพูดขึ้นหลินเฟิงมองดูเธอแล้วพูดขึ้น: “คู่หมั้นของคุณดีเลิศกว่าผมเยอะ”ถังหว่านได้ยินแบบนี้ สีหน้าเคร่งขรึมลงทันที: “อย่าพูดถึงเขาให้ฉันได้ยิน”“ต่อให้ฉันตายไปก็ไม่มีทางแต่งงานเข้าตระกูลหรง”หลินเฟิงถามอย่างไม่เข้าใจเล็กน้อย: “เพราะอะไร?”“ตามหลักแล้ว ผู้หญิงอย่างพวกคุณชอบคุณชายตระกูลร่ำรวยแบบนี้กันทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ?”หลี่ฮุ่ยหรานทำไมถึงได้หย่าร้างกับตัวเอง? ไม่ใช่เพราะภูมิหลังของเขาสู้หวางเส้าหลงไม่ได้หรอกเหรอ?ถังหว่านหันหน้ามองไปทางหลินเฟิงทันที: “หรือว่าคุณก็คิดว่าฉันเป็นผู้หญิงแบบนั้น?”“บอกคุณตามตรงนะ ฉันไม่เคยคิดอยากจะเป็นนกคีรีบูนของตระกูลหรงเลย”“เรื่องที่ผู้ชายอย่างพวกคุณทำได้ ฉันถังหว่านก็ทำได้เช่นกัน”ถังหว่านสายตาแน่ว
ในเมื่อเมื่อวานหลินเฟิงฝากฝังเรื่องไว้กับเธอเธอไม่กล้าลืมหรอกเมื่อมาถึงหน้าคฤหาสน์ จางเจียหนิงรายงานชื่อของสำนักไป๋เกาในทันทีคนรับใช้ไม่กล้าเฉยเมย รีบเชิญจางเจียหนิงเข้าไปในคฤหาสน์เมื่อมาถึงห้องรับแขก คนรับใช้พูดอย่างสุภาพ: “คุณหนูจาง คุณรออยู่ตรงนี้สักครู่นะคะ ฉันไปรายงานนายท่านเดี๋ยวนี้ค่ะ”จางเจียหนิงพยักหน้าติดต่อกัน: “ค่ะ รบกวนคุณด้วยค่ะ”ผ่านไปครู่หนึ่ง หลี่ไห่ซานเดินค้ำไม้เท้าลงมาจากชั้นสองด้านหลังมีจางกุ้ยหลานกับหลี่เหวินเชาตามมาด้วย“คุณปู่ช้า ๆ หน่อยค่ะ”เมื่อคืนหลังจากที่จางกุ้ยหลานนัดเดทกับเพื่อนเก่าสมัยเรียน คนทั้งคนดูกะปรี้กะเปร่าอย่างมาก และอารมณ์ดีเป็นพิเศษมีความใจกว้างต่อคุณปู่เพิ่มขึ้นเยอะมากเดิมทีเธอยังอยากนอนต่ออีก แต่เมื่อได้ยินว่าคนที่มาคือหลานสาวของจางเต๋อหลิน เธอก็ไม่กล้าเฉยเมย จึงตามคุณปู่ลงมาชั้นล่างด้วยกันถึงขั้นที่เรียกลูกชายของตัวเองให้ตื่นขึ้นมาจางเจียหนิงเห็นคนตระกูลหลี่ลงมาก็รีบลุกขึ้นยืน“คุณปู่ตระกูลหลี่ สวัสดีค่ะ ฉันคือจางเจียหนิงของสำนักไป๋เกา”“ไอหยา เจียหนิง รีบนั่ง รีบนั่ง มาที่นี่ก็เหมือนกับบ้านของตัวเอง อย่าเกรงใจเด็ดขาด”
จางเจียหนิงตกใจอย่างมากคิดไม่ถึงว่าจางกุ้ยหลานจะอารมณ์ขึ้นถึงขนาดนี้ในใจแอบคิดเอาเอง หลินเฟิงมีความแค้นอะไรกับเธอกันแน่นะ?จางกุ้ยหลานใบหน้าดุดัน ด่าเสร็จจึงนึกขึ้นได้ว่าจางเจียหนิงยังอยู่ สีหน้าเปลี่ยนไปทันทีเธอหัวเราะแห้ง ๆ: “คุณหนูจาง ฉันไม่ได้ตะคอกใส่คุณนะคะ”“คุณไม่รู้หรอกค่ะ หลินเฟิงคนนั้นคืออดีตสามีของฮุ่ยหราน อยู่ฟรีกินฟรีที่ตระกูลหลี่ของเราสามปี”“ไม่หาเงินแม้แต่สตางค์เดียว มีแต่ฮุ่ยหรานของพวกเราเลี้ยงดูเขา เป็นคนไร้ค่าจริง ๆ เลย”จางเจียหนิงมุมปากกระตุกเล็กน้อย: “คุณน้าวางใจได้ค่ะ ฉันไม่บอกเขาแน่นอน”ดูท่าหลินเฟิงคิดได้รอบคอบมาก โชคดีที่ตัวเองไม่ได้พูดว่ายานี้หลินเฟิงเป็นคนทำขึ้นมาไม่อย่างนั้นจางกุ้ยหลานคนนี้คงจะนำยาไปโยนทิ้งจริง ๆ ก็ได้ในตอนนี้คุณปู่ตระกูลหลี่กระแอมขึ้นมา และถลึงตาใส่จางกุ้ยหลาน: “หลินเฟิงก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นเหมือนกับที่เธอพูด”“เอาเถอะ คุณปู่ คุณอย่าช่วยพูดจาแทนหลินเฟิงเลย หรือที่ฉันพูดไม่ใช่เรื่องจริงเหรอคะ?” จางกุ้ยหลานกลอกตามองบนในตอนนี้หลี่เหวินเชาขยับเข้ามาใกล้ และมองจางเจียหนิงอย่างละลาบละล้วง: “คุณหนูจาง ไม่ทราบว่าคุณมีแฟนแล้วยังครับ
“ฉันรีบร้อนอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่ใช่คนประเภทนั้นน่ะสิ ถ้าเขามีความสามารถได้ครึ่งหนึ่งของหลินเฟิง ฉันก็มีหน้าไปสู่ขอให้”หลี่เหวินเชาพูดอย่างไม่พอใจ: “คุณปู่ ในสายตาของคุณ ผมเทียบหลินเฟิงไม่ได้ขนาดนั้นเชียวเหรอ?”“ฉันดูแล้วคุณปู่สมองเลอะเลือนแล้ว หน้าของหลานสาวคุณถูกคนเอามีดกรีดจนเป็นแบบนั้นแล้ว ไม่ใช่เพราะหลินเฟิงเหรอ” จางกุ้ยหลานก็ไม่พอใจคุณปู่ขมวดคิ้วพูด: “เรื่องนี้ทำไมถึงโทษหลินเฟิงได้ล่ะ? อีกอย่างหลินเฟิงไหว้หวานสำนักไป๋เกาให้ทำยารักษาฮุ่ยหรานแล้วไม่ใช่เหรอ”“ฮ่าฮ่าฮ่า......”จางกุ้ยหลานหัวเราะเสียงดัง: “คุณคิดอะไรอยู่น่ะ? หลินเฟิงมีคุณสมบัติอะไรให้จางเต๋อหลินทำยาให้?”“งั้นจางเต๋อหลินรู้ได้อย่างไรว่าฮุ่ยหรานได้รับบาดเจ็บ? หรือเป็นเพราะพวกเธอไปบอกจางเต๋อหลินเหรอ?”คุณปู่เชื่อมั่นว่าเบื้อหลังเรื่องนี้ ต้องเป็นเพราะหลินเฟิงได้ออกแรงแล้วจางกุ้ยหลานสองมือกอดอกพูดเย้ยหยัน: “นั่นเป็นเพราะเลี่ยวกั๋วต้งเพื่อนเก่าสมัยเรียนของฉันโทรศัพท์ไปหาจางเต๋อหลิน เขาถึงได้รับปากรักษาให้ฮุ่ยหราน”“เลี่ยวกั๋วต้ง ใครกัน?” คุณปู่ขมวดคิ้วถามจางกุ้ยหลานพูดอย่างภาคภูมิใจ: “เพื่อนเก่าของฉันคนหนึ่ง ต
หลี่ฮุ่ยหรานมีความมั่นใจกลับมาเหมือนกับในอดีตทันที รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าอีกครั้ง“พี่......ตอนนี้พี่เปลี่ยนไปสวยกว่าเมื่อก่อนอีก” หลี่เหวินเชาอดชื่นชมไม่ได้“จิ๊จิ๊ ไม่เสียแรงที่เป็นลูกสาวของจางกุ้ยหลาน สวยหยาดเยิ้มโดยธรรมชาติ นี่ไม่สวยกว่านังจิ้งจอกถังหว่านคนนั้นเยอะเลยเหรอ” จางกุ้ยหลานพูดอย่างถือดีเลี่ยวกั๋วต้งที่อยู่ด้านข้างก็พยักหน้าติดต่อกัน: “นั่นแน่นอนอยู่แล้ว ตอนที่คุณเป็นสาวเป็นถึงดาวโรงเรียนเชียวนะ ฮุ่ยหรานไม่มีทางแย่อยู่แล้ว”ในใจของเขาอดตกตะลึงกับความมหัศจรรย์ในวิชาการแพทย์ของจางเต๋อหลินไม่ได้ และก็ยิ่งตกตะลึงกับความสวยของหลี่ฮุ่ยหรานน่าเสียดายที่ตัวเองไม่ได้เป็นวัยรุ่นอีกต่อไปแต่ว่า......ก็ไม่บอกสักหน่อยว่าโคแก่กินหญ้าอ่อนไม่ได้นี่นา!จางกุ้ยหลานสะกิดลูกสาวที่ดื่มด่ำอยู่กับความสวยงาม: “ฮุ่ยหราน ลูกยังไม่รีบขอบคุณคุณลุงเลี่ยวอีก”“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณลุงเลี่ยวไหว้วานเส้นสายไปหาจางเต๋อหลิน หน้าของลูกไม่รู้ว่าจะหายดีตอนไหนด้วยซ้ำ”หลี่ฮุ่ยหรานโค้งคำนับและพูดขอบคุณ: “ขอบคุณค่ะลุงเลี่ยว”“จ้า ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องเกรงใจ......เรื่องเล็กแค่นี้ไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึง”เลี