เธอยืนอยู่ตรงหน้ากระจก ดวงตาคู่สวยเคลื่อนไหวไปมา จากนั้นก็ชื่นชมเรือนร่างของตัวเองอย่างอดไม่ได้“อืม...รูปร่างของฉันก็ไม่เลวเลยนี่นา”หลินเสวี่ยฮุ่ยยิ้มมุมปากเล็กน้อย และพยักหน้าด้วยความพึงพอใจเธอตัดสินใจที่จะซื้อตัวนี้แหละในตอนที่อยากจะถอดออกเธอกลับพบว่า ชุดชั้นในตัวนี้ทำยังไงก็ปลดไม่ออกเธอพยายามจับตะขอที่อยู่ตรงแผ่นหลังของตัวเอง พึงได้พบว่าตัวเองเหมือนจะล็อกตะขอตายเอาไว้หลินเสวี่ยฮุ่ยตื่นตระหนก จากนั้นก็รู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมากยิ่งอยากจะปลดตะขอ แต่กลับล็อกมันแน่นขึ้นบนหน้าผากก็ยิ่งมีเหงื่อไหลออกมาเธอเคาะประตูเบา ๆหลินเฟิงที่ยืนอยู่ข้างนอกพูดขึ้นทันที: “มีอะไรเหรอ?”หลินเสวี่ยฮุ่ยที่อยู่ภายในห้องลองเสื้อผ้าถามขึ้นเสียงเบา: “คือว่า...พี่เฟิง พนักงานขายอยู่ไหมคะ?”หลินเฟิงชะงักเล็กน้อย และหันหน้ามองไปรอบ ๆ แต่กลับไม่พบพนักงานร้านเลยด้วยซ้ำไม่รู้ว่าเธอไปไหนแล้วหลินเฟิงพูด: “เธอไม่อยู่ เกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือเปล่า?”หลินเสวี่ยฮุ่ยได้ยินว่าพนักงานขายไม่อยู่ ก็รู้สึกเก้กังเป็นอย่างมากเธอจึงถามเสียงเบา: “งั้นหลี่ซืออวี่ล่ะคะ?”“เธอไปลองเสื้อผ้าน่ะ ยังไม่ออกมา”“ฮะ?
หลินเสวี่ยฮุ่ยกุมชุดชั้นในที่เล็กกะทัดรัดที่อยู่ตรงหน้าอกเอาไว้ด้วยสัญชาตญาณ ใบหน้าก็แดงก่ำตอนนี้เธอปล่อยมือก็ไม่ใช่ ไม่ปล่อยมือก็ไม่ใช่คนทั้งคนนิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม จากนั้นก็มองหลินเฟิงที่อยู่ในกระจกห้องลองเสื้อผ้า ดวงตาจับจ้องอยู่ที่เธอหลินเฟิงก็รับรู้ได้ว่าสถานการณ์ผิดปกติ จึงรีบหันหน้าไปทางอื่นพื้นที่ที่แคบและเล็กแบบนี้ ทั้งสองคนรู้สึกว่าอุณหภูมิเพิ่มขึ้นสูงโดยฉับพลันหลินเฟิงเกาหัวแล้วพูดขึ้น: “คือว่า ฉันออกไปก่อนนะ...”ตะขอปลดออกแล้ว ตัวเองยังจะยืนอยู่ตรงนี้ทำอะไรอีกหลินเสวี่ยฮุ่ยพยักหน้าขณะเดียวกันหลี่ซืออวี่ก็เปลี่ยนชุดชั้นในเสร็จเรียบร้อยแล้วและก็เดินออกมา แต่กลับไม่เห็นหลินเฟิงและหลินเสวี่ยฮุ่ย ในใจก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อย“เสวี่ยฮุ่ย เธออยู่ข้างในไหม?” หลี่ซืออวี่ถามขึ้นในตอนนี้ได้ยินเสียงของหลี่ซืออวี่ หลินเสวี่ยฮุ่ยกับดึงหลินเฟิงเอาไว้หลินเฟิงมองไปทางเธอด้วยสัญชาตญาณ เห็นเพียงแค่หลินเสวี่ยฮุ่ยส่ายหน้าติดต่อกันเธอไม่อยากให้หลี่ซืออวี่เห็นว่าเธอกับหลินเฟิงเบียดกันอยู่ในห้องลองเสื้อผ้าเดียวกัน ไม่อย่างนั้นจากความสามารถในการจินตนาการของหลี่ซืออวี่ ไม่แน่ว่าจะแต
ในตอนที่เขาเตรียมจะหลับตางีบ จู่ ๆ ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างตกลงที่บนตัวของเขาเมื่อก้มหน้ามองดู หลี่ซืออวี่วางมือลงบนขาของเขาค้ำศอกค้ำตัวเอาไว้ คนทั้งคนเอนตัวมาทางเขาหลินเฟิงเหลือบมองเธอด้วยความนิ่งเฉยหลี่ซืออวี่ยิ้มบาง และตั้งใจดึงคอเสื้อที่หน้าอกของตัวเอง ไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิดว่าจะโป๊เธอนั่งไขว่ห้าง ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอถอดรองเท้าส้นสูงที่อยู่บนเท้าออกตั้งแต่เมื่อไหร่ เท้าสวยที่สวมถุงน่องถูน่องของหลินเฟิงเหมือนกับว่าไม่ได้ตั้งใจ หลี่ซืออวี่เห็นเขาไม่ได้ตอบสนอง การเคลื่อนไหวของมือก็ใจกล้ามากขึ้นเรื่อย ๆเธอลูบขาของหลินเฟิงขึ้นไปเรื่อย ๆเมื่อเห็นว่าจะลูบโดนเข็มขัดของหลินเฟิงแล้วแต่กลับถูกเขาจับเอาไว้หลินเฟิงขมวดคิ้วและพูดเสียงเบา: “เธอทำตัวดี ๆ หน่อย”หลี่ซืออวี่เผยรอยยิ้มสวยหยาดเยิ้มที่มุมปากออกมาถูกหลินเฟิงเตือนครั้งหนึ่ง ครั้งนี้หลี่ซืออวี่ก็ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวอะไรอีกหลินเฟิงลุกขึ้นเดินไปทางห้องน้ำจะไปฉี่หลี่ซืออวี่เห็นว่ามีโอกาส จึงลุกขึ้นเดินตามไปทันทีหลินเฟิงเดินเข้าห้องน้ำ ยังไม่ทันจะถอดกางเกง หลี่ซืออวี่ก็เบียดเข้ามาในห้องน้ำที่มีห้องกัน“เธอบ้าไปแล้วเหร
เมื่อบรรลุถึงเป้าหมายกับหลินเฟิง หลี่ซืออวี่ออกจากห้องน้ำไปด้วยความพึงพอใจอย่างมากเมื่อเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่มาส่งถึงที่แบบนี้ หลินเฟิงไม่ได้มีความสนใจเลยแม้แต่น้อย ไม่ได้รังเกียจว่าหลี่ซืออวี่หน้าตาไม่สวยที่มากกว่านั้นก็เป็นเพราะผู้หญิงที่ไม่รักตัวเองแบบนี้ ทำเพื่อเงินแล้วสามารถขายได้ทุกอย่างหลินเฟิงยิ่งไม่มีทางใส่ใจกับเธอจนมากเกินไปนัก ถ้าหากวันไหนตัวเองถูกสวมเขาก็ยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำเมื่อฉี่เสร็จ หลินเฟิงก็เดินออกมาจากห้องน้ำ พบว่าหลี่ซืออวี่ก็ยังรอเขาอยู่ที่หน้าห้องน้ำทั้งสองคนกลับไปยังโรงหนังแต่กลับพบว่าที่นั่งของตัวเองถูกคนยึดครองไปแล้ววัยรุ่นคนหนึ่งที่แต่งตัวโดดเด่นนั่งอยู่บนที่นั่งของหลินเฟิง และพยายามตีสนิทกับหลินเสวี่ยฮุ่ย: “คนสวย คุณก็มาดูหนังคนเดียวเหรอครับ? ไม่สู้พวกเราแอดเฟสบุ๊คกันดีกว่า”หลินเสวี่ยฮุ่ยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้างกายตัวเองมีคนแปลกหน้าเพิ่มมาตั้งแต่เมื่อไหร่เธอรีบโบกมือปฏิเสธแล้วพูดขึ้นว่า: “ไม่ต้องค่ะ ฉันมาด้วยกันกับพี่ชายของฉัน”“อ๋อ...งั้นก็ไม่เป็นไร คุณออกมาเที่ยวเหรอครับ?” วัยรุ่นจี้ถามอีกครั้งหลินเสวี่ยฮุ่ยก็พยักหน้าอย่างว่าง่ายวัยรุ่นห
จากนั้นก็ชี้หน้าเขาและพูดด่าทอ: “ถ้านายไม่ดูหนังก็ไสหัวออกไปซะ”พูดจบ ก็โยนโทรศัพท์มือถือของเขาออกไปทันทีโทรศัพท์เครื่องนั้นถูกเขวี้ยงจนแตกกระจายเสียงดัง “เพล้ง”เจี่ยงชุนหยางโมโหเป็นอย่างมาก: “แม่งเอ๊ย นั่นเป็นโทรศัพท์ผลไม้ 14 ที่ฉันเพิ่งซื้อมาใหม่นะ”“แกแม่งกล้าโยนของฉัน”หลี่ซืออวี่ก็ด่าทอขึ้นอย่างอดไม่ได้: “ไอ้เวรที่ไหนกัน ถือโทรศัพท์ผลไม้แล้วคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่หรือไง? ของแค่ห้าหมื่นบาทยังกล้าเอาออกมาโอ้อวด รีบไสหัวไปเลย”“อย่ามารบกวนเจ๊ดูหนัง”ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ลูกคนรวยอย่างเจี่ยงชุนหยางแบบนี้เธออาจจะมองอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ตอนนี้หลี่ซืออวี่ไม่แยแสเลยแม้แต่น้อยตัวเองเกาะหลินเฟิงได้แล้ว แต่ละเดือนได้เงินเดือนละห้าหมื่นบาทเป็นเรื่องง่ายดายมากเธอยังอยากจะยืมโอกาสในการดูหนังทำความใกล้ชิดกับหลินเฟิงให้มากขึ้นด้วย ไอ้ปัญญาอ่อนนี่พูดพึมพำอยู่นั่นแหละ ทำให้แผนการของเธอถูกขัดขวางจนหมดในตอนนี้คนที่อยู่รอบ ๆ ก็ไม่มีอารมณ์จะดูหนังแล้วอารมณ์ของทุกคนถูกเจี่ยงชุนหยางทำให้หงุดหงิด เมื่อเห็นหลินเฟิงตบหน้าเจี่ยงชุนหยาง ไม่ต้องพูดเลยว่าพวกเขาสะใจมากแค่ไหน และแทบอยากจะเข้าไปตบหน
“อย่าพูดจนมั่นใจเกินไป นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?” หลินเฟิงพูดอย่างไม่รีบร้อน“แกเป็นใครแล้วจะทำไมวะ? นี่คือถิ่นของฉัน”เจี่ยงชุนกวงพูดด้วยความจองหอง: “ลุยเลย อย่าทำร้ายโดนคนสวยสองคนนั้นล่ะ”เขาออกคำสั่ง พวกรปภ. ที่อยู่ด้านหลังก็พุ่งไปทางหลินเฟิงทันทีหลินเฟิงเพียงแค่เหลือบมองหลินเสวี่ยฮุ่ยกับหลี่ซืออวี่อย่างเรียบเฉย และพูดเสียงแข็ง: “ถอยไป”หลี่ซืออวี่ดึงหลินเสวี่ยอวี่ถอยไปอยู่ตรงมุมด้วยความรู้งานเป็นอย่างมาก“ไอ้หนุ่ม ดูแลตัวเองให้ดีก่อนเถอะ” หัวหน้ารปภ. ตวาดด้วยความโมโหแล้วพุ่งเข้ามาหลินเฟิงเห็นแบบนี้ก็ยกมือขึ้นต่อยไปทางหัวหน้ารปภ. คนนั้นจนล้มคว่ำกับพื้นคนทั้งคนเหมือนกับลมที่พัดแรง เคลื่อนไหวอยู่ท่ามกลางกลุ่มรปภ. แต่ละหมัดที่เหวี่ยงออกไปเบามาก แต่ต้องมีคนหนึ่งที่ล้มลงชั่วลมหายใจเดียว หลินเฟิงก็ต่อยจนรปภ. หลายคนล้มคว่ำอยู่บนพื้นแต่ละคนโอดครวญด้วยความเจ็บปวดไม่หยุด“พี่เฟิงเจ๋งไปเลย” หลี่ซืออวี่ที่อยู่ด้านข้างเหมือนจะคาดการณ์ไว้ได้ตั้งนานแล้วว่าจะมีตอนจบแบบนี้เธออดไม่ได้ที่จะให้กำลังใจหลินเฟิง“แม่งเอ๊ย...” เจี่ยงชุนกวงสองพี่น้องเห็นสถานการณ์แบบนี้ก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก
ถึงเวลาเขาจ่ายเงินนิดหน่อยใช้เส้นสายจัดการก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้วเขาแสร้งทำเป็นตกตะลึงแล้วพูดขึ้น: “อย่าสิสหาย เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง ทำไมคุณต้องเดือดร้อนไปจนถึงเชิงถังด้วยล่ะ”“หุบปาก” หลินเฟิงตบไปที่ใบหน้าของเขาเจี่ยงชุนกวงเลือดไหลออกจากมุมปาก ในใจก็แอบด่าทอ: แม่งเอ๊ย ให้เกียรติแล้วยังจะไม่สนใจอีกนะหลินเฟิงโทรศัพท์ไปยังห้องทำงานประธานเชิงถังทันที แต่ว่าในตอนนี้ถังหว่านไม่อยู่ คนที่รับสายก็คือเลขาน้อยของถังหว่านเธอรู้ถึงความสัมพันธ์ของถังหว่านกับหลินเฟิงเป็นอย่างดี เมื่อได้ยินเสียงของหลินเฟิงก็พูดด้วยความเคารพทันที: “คุณหลินมีธุระอะไรไหม?”“ผู้จัดการของเชิงถังพลาซ่าชื่อว่าอะไร”เลขาน้อยรีบตรวจสอบดุ: “เจี่ยงชุนกวง”“ไอ้หมอนี่กำเริบเสิบสานอย่างมาก สามารถเรียกรปภ. ยี่สิบกว่าคนมาลงมือกับผมได้ โชคดีที่ผมเคยฝึกฝนมาก่อน นี่ถ้าเป็นลูกค้าคนอื่น ๆ พบเจอกับคนแบบนี้จะไม่ถูกตีตายพอดีเหรอ”หลินเฟิงน้ำเสียงแฝงไปด้วยความโมโหเลขาน้อยตกตะลึงอย่างมาก: “มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?”“ขอโทษ คุณหลิน นี่เป็นความสะเพร่าของพวกเรา ฉันจะส่งคนไปเดี๋ยวนี้ จะต้องจัดการเรื่องนี้อย่างเข้มงวดแน่นอน” เลขาน้อ
“นั่นเป็นเมื่อก่อน ตอนนี้นายไม่ได้เป็นแล้ว” หูเหล่ยน้ำเสียงเย็นชา ไม่มีการปล่อยให้ลังเล“หูเหล่ย คุณทำแบบนี้ได้ยังไง?” เจี่ยงชุนกวงโมโหในทันทีไอ้หมอนี่ชาติชั่วจริง ๆ เมื่อก่อนตัวเองดูแลเขาขนาดนั้น ตอนนี้กลับจะขายเขาซะแล้ว“เพียะ”หูเหล่ยก็เด็ดขาดและชัดเจน ยกมือขึ้นตบหน้าทันที จากนั้นก็ถีบไปที่หน้าอกของเขา“อ้าก...” เจี่ยงชุนกวงกลิ้งไปรอบหนึ่งถึงจะหยุดร่างกายเอาไว้ได้หูเหล่ยพูดเสียงเย็นชา: “สัญญานี้นายเซ็นหรือไม่เซ็นก็ไม่เป็นไร เชิงถังจะฟ้องร้องนาย นายรอติดคุกได้เลย”“หูเหล่ย นี่มันสัญญาบ้าบออะไร ฉันไปขัดแย้งกับหุ้นส่วนตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำให้เกิดผลเสียต่อบริษัท นายมีสิทธิ์อะไรไล่ฉันออก?”เจี่ยงชุนกวงยืนขึ้นมาอย่างโซซัดโซเซ และต่อว่าอย่างไม่ยุติธรรมหูเหล่ยชี้หน้าเขาแล้วพูดด่าทอ: “แกแม่งฟังฉันให้ดีนะ ท่านนี้หลินเฟิง คุณหลินคือหุ้นส่วนของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถัง เป็นพันธมิตรของคุณหนูถัง พูดอีกอย่างเขาก็คือหัวหน้าของนาย”“อะไรนะ?” เจี่ยงชุนกวงได้ยินคำพูดนี้ก็งุนงงในทันที จากนั้นก็มองไปทางหลินเฟิงด้วยความเหลือเชื่อ“นี่...นี่จะเป็นไปได้ยังไง?”เจี่ยงชุนกวงรีบมองไปทางหูเหลย: “คุณไ
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ