หลินเฟิงพยักหน้าในเวลานี้เพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ถังหว่านบอกเมื่อสักครู่เป็นความจริง“เมื่อสักครู่นี้ตอนที่แม่ของคุณโทรมาหาผม ผมได้นำโสมมังกรหัวกลั่นเป็นยาเม็ดแล้ว”ถึงแม้ว่าหลี่ฮุ่ยหรานจะผิดหวังเล็กน้อยที่ได้ยิน แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร โสมมังกรหัวไม่มีแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอายาเม็ดเปลี่ยนเป็นโสมมังกรหัวบางทีนี่อาจจะเป็นโชคชะตาก็ได้ในเมื่อโสมมังกรหัวอันนี้ก็ไม่มีความหมายสำหรับเธอ และหลี่ฮุ่ยหรานก็ไม่ได้ผิดหวังมากนัก“งั้น...งั้นก็ช่างมันเถอะ”หลินเฟิงมองไปที่หลี่ฮุ่ยหราน และครุ่นคิดอยู่นานแล้วพูดขึ้น “ไม่รู้ว่าญาติของครอบครัวคุณป่วยเป็นโรคอะไร ผมสามารถช่วยไปดูให้ได้”“นี่....ช่างมันเถอะ หมอเทวดาพวกนั้นในเจียงเป่ยต่างก็รักษาไม่หาย...”เมื่อหลี่ฮุ่ยหรานพูดแบบนี้ถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองนั้นพูดผิดและรีบเปลี่ยนคำพูด “ ความหมายของฉันก็คือ อาการป่วยของเธอร้ายแรง และหมอเทวดามากมายต่างก็พูดว่าจำเป็นต้องใช้โสมมังกรหัว”หลินเฟิงยิ้ม “ในตอนนั้นที่คุณปู่ป่วยหนักแทบจะไม่รอดก็เป็นผมที่รักษาหาย ็็็็นนนอย่างน้อยก็ต้องลองกันสักหน่อยไหม”หลี่ฮุ่ยหรานรีบเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หลินเฟิงทันที ในใจรู
“จบแล้ว มันจบแล้ว หรือว่าตระกูลหลี่ของพวกเราจะไม่สามารถกลับไปต้นตระกูลได้แล้วเหรอ??”โจวอวี้เฟิ่งเห็นแม่ลูกสองคนพึมพำจึงเอ่ยถามอย่างรวดเร็ว “พวกเธอสองคนพูดอะไรกัน? โสมมังกรหัวอยู่ที่ไหน? รีบเอาออกมาเร็ว ๆสิ”หลี่ฮุ่ยหรานกล่าวอย่างฝืนใจ “คุณอาสะใภ้ โสมมังกรหัวถูกหลินเฟิงเอาไปใช้เรียบร้อยแล้ว”“อะไรนะ?” โจวอวี้เฟิ่งโมโหขึ้นมาด้วยความโกรธหลี่ฮุ่ยหรานรีบพูดว่า “แต่ว่าพวกคุณวางใจ ฉันได้เชิญหลินเฟิงมาด้วย”“หลินเฟิงมีความเชี่ยวญชาญในด้านการแพทย์ และสามารถรักษาอาการป่วยของหลานสาวได้แน่นอน””เธอล้อเล่นอะไร?”โจวอวี้เฟิ่งทำสีหน้ารังเกียจ แววตาก็เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม“หมอเทวดาที่เจียงหนานมีมากมายขนาดนั้นต่างก็ไม่สามารถรักษาอาการป่วยของลูกสาวฉันได้ ในเจียงเป่ยของพวกเธอมีใครที่จะสามารถรักษาลูกสาวได้อีก?”“ตอนนี้สิ่งที่ต้องการมากที่สุดก็คือโสมมังกรหัว”หลี่ฮุ่ยหรานพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ปัญหาก็คือ ตอนนี้โสมมังกรหัวไม่มีแล้ว และหลินเฟิงคนนี้ก็มีทักษะการแพทย์ที่ไม่ธรรมดาด้วย”“ไม่แน่เขาอาจจะรักษาเยว่หรูให้หายจริง ๆ ก็ได้ ลองดูดีกว่าปล่อยให้เยว่หรูรอโสมมังกรหัวในครั้งต่อไป”
โจวอวี้เฟิ่งได้ยินก็เอ่ยอย่างไม่พอใจ “ใช่แล้ว พวกเราตระกูลหลี่เจียงหนานอยู่เหนือกว่าคนอื่น ๆ”เธอชี้ไปหน้าของหลินเฟิงก่อนจะตะโกน “ตอนนี้ฉันให้โอกาสนายไถ่โทษ ขอโทษฉันกับลูกสาวของฉันซะ”โจวอวี้เฟิ่งมั่นใจในอำนาจของตระกูลตัวเองเป็นอย่างมาก ไอ้หมอนี่รู้แล้วว่าตัวเองคือคนของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานแล้วยังไม่มาขอโทษเธออย่างว่าง่ายอีกแต่เธอก็ประเมินหลินเฟิงต่ำไปจริง ๆหลินเฟิงหัวเราะเยาะก่อนจะพูดว่า “ขอโทษพวกคุณฝันกลางวันหรือเปล่า? วันนี้อย่าพูดว่าให้ผมขอโทษคุณเลย แม้แต่การรักษาโรคของลูกสาวคุณก็อย่าได้คิดเลย”“ดีจริงไอ้หลินเฟิง คิดไม่ถึงว่าแกจะกล้าไม่เห็นตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานของฉันอยู่ในสายตา”โจวอวี้เฟิ่งโกรธอย่างมากหลี่เยว่หรูที่อยู่บนเตียงผู้ป่วยก็พูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง “ แม่ พวกเราไม่ต้องให้เขารักษา หนูไม่เชื่อหรอกว่าบนโลกนี้จะไม่มีหมอเทวดาที่รักษาหนูจนหายได้”“นี่....”หวังไห่รีบห้ามปราม “คุณนายโจว โปรดสงบสติอารมณ์หน่อย ในตอนนี้มีหมอเทวดามาอยู่ตรงหน้าแล้ว อาการป่วยของคุณหลี่ก็จะหายดีเป็นปกติในทันที”“อีกทั้งพวกคุณยังเป็นครอบครัวเดียวกัน ทำไมต้องมาก่อเรื่องราวใหญ่โตกับเรื
ตอนนี้เธอไม่อยากข้องเกี่ยวอะไรกับหลินเฟิงแล้วเวลานี้โจวอวี้เฟิ่งกอดอกแล้วพูดด้วยใบหน้าเยาะเย้ย: “ไอ้สกุลหลิน ตอนนี้ฉันให้โอกาสนาย คุกเข่าแล้วมาขอร้องฉันดี ๆ บางทีฉันอาจจะพิจารณาให้ใช้เส้นสายของตระกูลหลี่เพื่อช่วยนายก็ได้นะ”“ถ้าไม่อย่างนั้น นายก็อาจจะตายอย่างน่าเวทนาก็ได้นะ”หลินเฟิงมีสีหน้าดูถูดเหยียดหยาม “ผมจำเป็นต้องให้คุณช่วยด้วยเหรอ? ไม่ดูสารรูปตัวเองซะบ้าง”“แก...”โจวอวี้เฟิ่งโกรธมาก เดิมก็คิดว่าตอนนี้หลินเฟิงจะต้องคุกเข่าร้องห่มร้องไห้อ้อนวอนตัวเองให้ช่วยเขาแน่ ๆคิดไม่ถึงเลยว่า ผู้ชายคนนี้จะยังกล้าเยาะเย้ยตัวเองอีก“พูดมากขนาดนั้นทำไม? มากับพวกเราเร็ว ๆ” คนที่เป็นผู้นำพูดจบก็ควบคุมหลินเฟิงออกจากห้องผู้ป่วยหลินเฟิงก็ไม่ได้ต่อต้าน สถานที่นี้คือโรงพยาบาลและเขาก็ไม่ได้อยากต่อสู้ในสถานที่แบบนี้เช่นกันอีกทั้งเขาก็ต้องการที่จะดูว่าใครที่พุ่งเป้ามายังตัวเองมองดูหลินเฟิงถูกพาตัวไป หลี่ฮุ่ยหรานกระวนกระวายอย่างมากจากนั้นก็หันไปมองโจวอวี้เฟิ่งก่อนจะพูดว่า “อาสะใภ้ ขอร้องนะคะช่วยหลินเฟิงด้วยเถอะ ถึงแม้ว่าหลินเฟิงจะมีนิสัยดื้อรั้นนิดหน่อย แต่ก็ยังเป็นคนดีมาก เขาต้องถูกใส่ความแ
หลินเฟิงสายตามองไปที่เหยาปินที่สีหน้าเย็นชา เขาเคยได้ยินถึงชายคนนี้มาบ้าง เป็นตำรวจที่เก่งกาจอันดับหนึ่งของเมืองเจียงโจวเป็นคนที่มีความสามารถแข็งแรง และฝีมือโหดเหี้ยมใครก็ตามที่ถูกเขาเพ่งเล็งจะไม่สามารถหนีไปได้ แต่ไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นคนจากสำนักเสินฉือหลินเฟิงเอ่ยปากเตือนว่า: “คุณอยู่ที่เจียงโจวก็ถือได้ว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ ทําไมต้องเป็นสุนัขของสำนักเสินฉือต่อไปล่ะ?”เหยาปินพอได้ยินเข้าก็หัวเราะ นึกว่าหลินเฟิงนั้นกลัวซะแล้ว ถึงได้พูดเสียดสีเขาจากนั้นเขาก็พูดอย่างเหยียดหยามว่า: “ไอ้หนุ่ม นายไม่ต้องมาเกลี้ยกล่อมฉัน ทำให้สำนักเสินฉือไม่พอใจ พูดได้เพียงว่าเป็นความโชคร้ายของนาย”“คนธรรมดาอย่างพวกนาย ไม่มีวันเข้าใจความน่ากลัวที่ซ่อนเร้นของโลกสำนักหรอก”“แต่นายวางใจได้ ผมจะพยายามทำไม่ให้คุณนั้นไม่รู้สึกเจ็บปวด และจะทำให้คุณโอวหยางนั้นพอใจ”หลินเฟิงหัวเราะออกมาว่า: “งั้นดูเหมือนว่า ผมจะต้องขอบคุณสิน่ะ?”“ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ”ในตอนนี้หลินเฟิงก็ได้พูดอีกว่า: “เรื่องความน่ากลัวที่ซ่อนเร้นของโลกสำนักนั้นผมเข้าใจอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าคุณเคยได้ยินสำนักเสวียนเทียนมาบ้างไหม? ”เห
ต่อมาแม้แต่หลิวกั๋วฮุยผู้ว่าการเจียงโจวก็โทรมาสอบถามเรื่องนี้ด้วยตนเองเหยาปินก็ประหลาดใจมาก ไม่คิดว่าเส้นสายของหลินเฟิงจะกว้างขวางขนาดนี้คนใหญ่คนโตมากมายในเจียงโจวขอความเมตตาให้เขาหากเป็นกรณีปกติ เหยาปินอาจจะปล่อยหลินเฟิงไปแล้ว แต่ตอนนี้ไม่มีทางตัวเองเป็นคนของสำนักสำนักเสินฉือ สำนักเสินฉือมีความลำบาก เขาก็จำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือไม่งั้นตัวเองอาจจะผิดใจกับสำนัก และตายอย่างน่าสังเวชยิ่งกว่าหลินเฟิงยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า: “ถ้าคุณปล่อยผมตอนนี้ เรื่องวันนี้ ผมก็จะทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”“รอให้สำนักเสวียนเทียนรุ่งโรจน์ ผมจะเหลือตำแหน่งให้คุณ”“ล้อเล่นอะไรกัน ฉันไม่ใช่คนเนรคุณคน วันนี้ต่อให้พญายมมาขอความเมตตาจากฉันมันก็ไม่ช่วยอะไร”พูดจบ เหยาปินก็เริ่มที่จะลงมือ“ปัง” จู่ ๆ ก็มีเสียงดังมาจากนอกประตูต่อให้เป็นภายในห้องลับพที่ปิดสนิท ทั้งคู่ก็ได้ยินอย่างชัดเจนเหยาปินขมวดคิ้ว อยากจะไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นเพิ่งจะออกประตูไป ก็ได้เห็นลูกน้องวิ่งพรวดเข้ามา“พี่ใหญ่ ท่าไม่ดีแล้ว ข้างนอกมีคนกลุ่มใหญ่มา”เหยาปินไม่ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย: “ใครกันที่มีความกล้าขนาดนี้ กล้าบุกเข้ามาเข
“คุณชายหลิน จะจัดการอย่างไรกับผู้ชายคนนี้ครับ?” เสิ่นหานหันกลับไปมองที่เหยาปินพอได้ยินเช่นนี้ เหยาปินก็กลืนน้ำลาย เมื่อกี้ผู้ชายคนนี้แค่ต่อยเขาก็กองลงกับพื้นแล้วถ้าหากว่าได้ลงมือทำจริง ๆ เขารู้สึกว่าตัวเองอาจจะไปไม่ถึงหนึ่งยกด้วยซ้ำภายในใจมีความกลัวเล็กน้อย แต่ก็ได้แต่รอคําสั่งจากหลินเฟิงอย่างเงียบ ๆหลินเฟิงเหลือบมองไปที่เหยาปิน กล่าวด้วยความเย็นชาว่า: “ช่างเถอะ ไม่ต้องไปหาเรื่องลำบากเขาแล้ว”“อืม หือ?” เสิ่นหานตกตะลึงทันทีเมื่อได้ยินคําพูดนี้นี่มันไม่ตรงกับนิสัยของหลินเฟิงเลยคนที่มีหัวใจนักฆ่าอย่างหลินเฟิง โดยพื้นฐานแล้วหลินเฟิงจะไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไปด้วยซ้ำเหยาปินคนนี้กําลังจะฆ่าเขา เขากล้าไม่ติดใจเอาความ?“คุณชายหลิน จะปล่อยเขาไปจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?” เสิ่นหานถามด้วยสีหน้างงงวยหลินเฟิงหันหน้ากลับไปทางเขา: “ทำไม? คุณไม่พอใจกับวิธีการของผมเหรอ?”“ไม่ ไม่ ไม่……คุณชายหลินใจกว้างเหมือนมหาสมุทร แน่นอนว่าไม่มีความคิดเห็นอะไร” เสิ่นหานโบกมือก้มหน้าลงและพูดเหยาปินที่อยู่ข้าง ๆ มองอย่างตกตะลึง ทำไมหมอนี่ถึงเคารพหลินเฟิงขนาดนี้?หลินเฟิงไม่สนใจเสิ่นหาน และเดินตรงออกจากห้
“อุ๊ย คุณท่าน คุณพูดเรื่องอะไรอยู่ พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน มีที่ไหนกันที่จะไม่สามารถช่วยได้ มีเรื่องอะไรก็สามารถบอกมาได้เลย”“โจวอวี้เฟิ่งคนนี้ถ้าเรื่องไหนช่วยได้ ต้องช่วยแน่นอนอยู่แล้ว”หลี่ไห่ซานพอได้ยินแบบนี้ก็ยิ้มอย่างพอใจ พยักหน้าแล้วพูดว่า: “อดีตสามีของฮุ่ยหรานกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย เขาถูกคนจับตัวไป ผมหวังว่าคุณจะสามารถใช้กองกำลังของเจียงหนาน ช่วยเหลือคนคนนี้ให้ผม” โจวอวี้เฟิ่งขมวดคิ้วเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ จากนั้นก็มองดูหลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่ข้าง ๆไม่ต้องคิดก็รู้ว่า มันต้องเป็นยัยเด็กคนนี้แน่ ๆ ที่ขอให้คุณท่านคนนี้ออกมาวิ่งเต้นเองหลังจากครุ่นคิดอยู่นานก็พูดว่า: “คุณท่าน ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ แต่หลินเฟิงนี้กระทำผิดต่อกฎหมาย คุณจะให้ฉันทำอย่างไรคะ”คุณท่านรีบขัดจังหวะอย่างรวดเร็ว: “หลินเฟิงเป็นคนที่ฉันรู้จักเป็นอย่างดี เขาต้องถูกยัดเยียดข้อหาแน่ ๆ คุณช่วยเขาออกมาก่อน หลังจากนั้นพวกเราก็ค่อยตรวจสอบเรื่องนี้ให้ดี ๆ”หลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่ข้าง ๆ ก็คุกเข่าลงดังโครมต่อหน้าโจวอวี้เฟิ่ง และอ้อนวอนขอร้องอย่างทุกข์ใจ: “คุณอาสะใภ้ ขอร้องนพคพ ได้โปรดช่วยหลินเฟิงด้ว
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ