"ในเมื่อเป็นแบบนี้..."ถังเจิ้งเฉินสูดหายใจลึก แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "วิธีของพี่ใหญ่ไม่ได้ผล งั้นผมคงต้องใช้กำลัง!""ถูกต้อง!"อู๋เยว่เซี๋ยดีใจแล้วพูดว่า "ถ้าไม่ได้ผลจริง ๆ ก็ลองสืบเรื่องราวเบื้องหลังของเด็กนี่แล้วจับตัวประกันมาสิ ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะไม่ยอมก้มหัวให้!""พวกเราตระกูลถังแห่งประเทศมังกร จะมาเสียเวลากับคนประเภทนี้ทำไม?"หลังจากพยักหน้า ถังเจิ้งเฉินก็นำคนบุกเข้าไปในบ้านของอาอวี๋"หลินเฟิง!"ยืนอยู่ในลานบ้าน ถังเจิ้งเฉินพูดด้วยสีหน้าเย็นชา"พี่ใหญ่ของผมเพิ่งพยายามพูดกับคุณดี ๆ แต่คุณกลับไม่ใส่ใจ คิดว่าตระกูลถังของเราเป็นลูกส้มง่าย ๆ ที่ใครก็มาเด็ดหรือยังไง?!""วันนี้คุณต้องรักษาพ่อของผม ไม่งั้นอย่าหาว่าผมจะส่งคนไปจับตัวประกันที่เจียงโจวนะ!"เมื่อได้ยินคำพูดของถังเจิ้งเฉิน หลินเฟิงภายในบ้านก็โกรธขึ้นมาทันทีจุดอ่อนที่สุดของเขาคือคนรอบข้างหากตระกูลถังกล้าแตะต้องหลี่ฮุ่ยหรานและคนอื่น ๆ หลินเฟิงก็ไม่ลังเลที่จะถอนรากถอนโคนตระกูลถังนี้แม้แต่ในเมื่อต้องไม่สนหน้าถังหว่านก็ตาม"ปัง!"พร้อมกับเสียงดังสนั่น ประตูห้องบนชั้นลอยก็แตกเป็นเสี่ยง ๆหลินเฟิงเดินออกมาจากข้
“เห็นแก่หน้าของถังหว่าน ฉันจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย”หลินเฟิงหรี่ตาและตะโกนออกไปว่า:“รีบหายไปจากสายตาของผมซะ! ไม่อย่างนั้น... พวกคุณทั้งหมดจะต้องตายที่นี่!”“หลินเฟิง คุณอวดดีเกินไปแล้ว!”ถังเจิ้งเฉินพูดด้วยสีหน้าโกรธว่า“คุณคิดว่า คุณจะสามารถเอาชนะตระกูลถังของพวกเราได้ด้วยตัวเองจริง ๆงั้นเหรอ?”“เฮ้อ”เมื่อได้ยินถังเจิ้งเฉินยังคงพูดข่มขู่อยู่ หลินเฟิงก็ถอนหายใจเบา ๆแล้วเงยหน้าขึ้นทันที“เป็นพวกคุณที่หาเรื่องตายเองนะ ผมให้โอกาสกับคุณแล้ว!”หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งตัวของหลินเฟิงก็กลายเป็นพายุโหมกระหน่ำในทันที“อะไรนะ?!”ถังเจิ้งเฉินยังไม่ทันที่จะตอบโต้กลับ หลินเฟิงก็ไปปรากฏที่ด้านหน้าของเขาและใช้นิ้วแตะที่หน้าผาก“นิ้วสวรรค์พังทลาย”หลินเฟิงขยับริมฝีปากเล็กน้อยและหรี่ตาลง“ท่านสาม ระวัง!”ทันใดนั้นยอดฝีมือแดนแปรภาพของตระกูลถังที่อยู่ด้านข้างก็ผลักถังเจิ้งเฉินออกไป จากนั้นพลังชี่ที่น่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดจากปลายนิ้วของหลินเฟิงในทันที“ตูม!”ด้วยพลังชี่แท้ที่ระเบิดออกมามีลักษณะคล้ายกับมังกรหรือเสืออย่างคลุมเครือยอดฝีมือแดนแปรภาพของตระกูลถังที่ผลักถังเจิ้งเฉินออกไป คาด
“ให้ตายเถอะ อู๋เยว่เซี๋ย ไม่แปลกใจเลยที่พี่ใหญ่จะโกรธขนาดนี้....”ถังเจิ้งเฉินหลับตาลง ในใจเกิดความเสียใจอย่างไม่มีสื้นสุด“ปกป้องท่านสาม!”ผู้คุ้มกันตระกูลถังที่อยู่โดยรอบกลับมามีรู้สึกตัว ก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาอย่างไม่กลัวตาย สุดท้ายเพียงแค่หลินเฟิงก้าวออกไป พลังชี่แท้ที่น่าสะพรึงกลัวก็ทะลักออกมาตามพื้นดินและพุ่งออกไปทั่วทุกทิศทางผู้คุ้มกันพวกนี้ก็เดินเซไปเซมาพร้อมกับส่งเสียงร้องทันทีถังเจิ้งเฉินมองไปเขาพบว่าผู้คุ้มกันส่วนใหญ่ของตระกูลถังถูกหลินเฟิงหักขาทั้งสองข้างในครั้งเดียว ก่อนที่ทั้งหมดจะนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นลำส่งเสียงร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว “จบแล้ว....จบสิ้นทุกอย่างแล้ว....”ถังเจิ้งเฉินหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง“คุณหลินเฟิง! ได้โปรด.....ได้โปรดหยุดเถอะ!”ในเวลานี้ เสียงของหลานเฟยก็ดังขึ้นมาด้านข้างทันที“หืม? หลานเฟย?”ถังเจิ้งเฉินมองดูไปด้วยความประหลาดใจ หลานเฟยที่ถือโทรศัพท์อยู่ วิ่งตรงไปที่หลินเฟิง โดยไม่สนใจผู้คุ้มกันตระกูลถังที่พิการและส่งเสียงกรีดร้องอยู่โดยรอบ“หลานเฟน หนีเร็ว ไปบอกพี่ใหญ่...”“แก้แค้นให้ฉันด้วย” คำไม่กี่คำนี้ติดอยู่ในลำคอของถังเจิ้งเ
“ได้...ได้ยิน”ถังเจิ้งเฉินตอบกลับด้วยความอับอาย“ฮึ่ม คุณจำสิ่งที่ฉันพูดตอนแรกได้หรือเปล่า? ฉันบอกว่าอย่าข่มขู่เขาด้วยความปลอดภัยของครอบครัวเขา ดูเหมือนว่าพวกคุณจะหูหนวกตาบอดกับสิ่งที่ฉันพูดนะ!”“จริงสิ ถึงแม้ว่าฉันอยากจะเห็นท่าทางหดหู่ของหลี่ฮุ่ยหร่านตอนอยู่ข้าง ๆฉัน แต่....”“สามี คุณลงมือเลยเถอะ!”“ต่อให้ฆ่าอาสามแล้ว ฉันก็ไม่โทษคุณหรอก!”เมื่อได้ยินถังหว่านพูดแบบนี้ทางโทรศัพท์ ถังเจิ้งเฉินก็หน้าซีดทันทีเขาอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ก้มหัวลง ไม่ได้พูดต่ออะไรอีก“.....”หลินเฟิงก็เงียบไม่พูดอะไรถ้าถังหว่านร้องขอความเมตตา หลินเฟิงคงจะโกรธมาก และอาจจะไม่ฟังเธอด้วยแต่ถังหว่านเป็นคนฉลาดและรู้ว่าหลินเฟิงไม่สามารถย้อนแย้งแผนการได้เธอพูดอ้อมค้อมและเลือกยืนข้างหลินเฟิง สิ่งนี้กลับทำให้หลินเฟิงลังเลที่จะทำเล็กน้อยหากฆ่าถังเจิ้งเฉินไปแบบนี้ จะกลายเป็นหลินเฟิงที่ดูใจแคบเกินไป“เอาล่ะ เอาล่ะ”หลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง ถังหว่านในโทรศัพท์ก็ถอนหายใจ ก่อนจะใช้น้ำเสียงออดอ้อน “สามี”“ไม่อย่างนั้นก็ปล่อยเขาไป? แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว? ครั้งเล็กๆ? ในเมื่อเขาก็เป็นอาสามของฉัน จะฆ่
ถังเจิ้งเฉินมองไปที่คราบเลือดและเศษซากที่แตกออกมา ก่อนจะถอนหายใจและพูดว่า“มาสร้างสุสานให้คุณเจิ้นเถอะ เรื่องในวันนี้ ฉันก็โชคดีแล้วที่เขาช่วยชีวิตได้ทันพอดี”“ท่านสาม หรือว่า....”ผู้คุ้มกันตระกูลถังเหลือบมองไปที่แผ่นหลังของหลินเฟิง ก่อนจะกระซิบเสียงเบาข้าง ๆหูของถังเจิ้งเฉิน“แล้วพวกเราต้องเข้าไปดูเขาที่ตระกูลถังหรือเปล่าครับ?”“ฉันจำได้ว่าผู้นำตระกูลออกคำสั่ง ไม่อนุญาตให้หลินเฟิงติดต่อกับคุณหนูถังหว่านใช่ไหม? แม้แต่คุยโทรศัพท์ก็ไม่ได้” “ คุณหลานเฟยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้นำตระกูลอย่างโจ่งแจ้ง ต้องบังคับใช้กฎในตระกูลกับเธอไหมครับ?”“กฎในตระกูล?”ถังเจิ้งเฉินส่ายหน้าไปมา และหัวเราะเยาะหยัน“หากไม่ใช่เพราะหลายเฟย เกรงว่าวันนี้พวกเราทั้งหมดต้องตายอยู่ที่นี่ แล้วยังจะบังคับใช้กฎในตระกูล....”“ ฉันรู้สึกว่ามีอีกคนหนึ่งที่ควรบังคับใช้กฎในตระกูลมากที่สุด”ใบหน้าของคนหนึ่งค่อย ๆปรากฏขึ้นมาในใจของถังเจิ้งเฉินนั้นก็คือ อู๋เยว่เซี๋ย ผู้เย่อหยิ่ง......ไม่นานหลังจากนั้น หลินเฟิงที่นั่งอยู่บนรถของหลานเฟย เข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลถังที่อยู่ในเมืองเป็นอย่างที่คิดไว้สไตล์ของสี่ตระกูลใหญ่ที
“ใช่ก็บ้าแล้ว!”หลินเฟิงตำหนิเสียงดังถังเจี้ยนหยวนด้วยน้ำเสียงเย็นชาต่อหน้าผู้คุ้มกันตระกูลถังที่อยู่โดยรอบ “ฉันกับถังหว่านไปทำข้อตกลงกันตอนไหน?”“เธอโทรศัพท์ให้ฉันมาเจอเธอ”“การช่วยพ่อของคุณเป็นเพียงเรื่องง่าย ไม่ว่าจะช่วยหรือไม่ช่วยก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของฉัน ตระกูลถังของพวกคุณอย่าได้คือจะเอาศอก!”ต่อให้ใครก็ตามที่โดนตำหนิเสียงดังแบบนี้ ก็ล้วนไม่มีสีหน้าที่ดีได้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถังเจี้ยนหยวน ผู้นำตระกูล หนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยของเมืองจิงครั้งที่แล้วคนที่เขาตำหนิเสียงดังแบบนี้ ก็คือพ่อของเขานอกจากพ่อของเขา ใครก็ตามที่อยู่ข้างนอกเมื่อเห็นเขาแล้วไม่เคารพบ้าง? หรือถึงกับคุกเข่าและหมอบลงก็มีแม้แต่ผู้นำตระกูลหลงและตระกูลสือหม่า ก็ต้องแสดงความเคารพเมื่อเห็นเขาแต่ตัวเองโดนหลินเฟิงตำหนิเสียงดังจริง ๆงั้นเหรอ?หลินเฟิงเป็นใคร?“คุณหลิน คุณระวังหน่อย! ถ้าคุณยังกล้าพูดแบบนี้กับผู้นำตระกูลถังอีก ก็ลองดู!”บริวารของตระกูลถังหลาย ๆคนที่อยู่ข้าง ๆ ก้าวออกมาพวกเขาล้วนเป็นบริวารยอดฝีมือแดนแปรภาพที่ได้รับการว่าจ้างจากตระกูลถังเป็นเงินจำนวนมาก และหนึ่งในนั้นก็ยังเป็นผู้อาวุโสของกลุ่ม
“จะพูดมากไร้สาระกับเขาไปทำไม? จัดการฆ่าเขาซะ”บริวารแก่พูดอย่างเย็นชาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก“ฉันก็คิดอย่างนั้น”ชายชราหลังค่อมวัยห้าสิบกว่าออกก็พูดเสริม“เหอะ ไอ้หนู อย่าโทษพวกเรา ล่ะ ถ้าจะโทษก็โทษที่ตัวคุณเองที่ไม่รู้สถานการณ์ ผู้นำตระกูลถังอ่อนข้อให้คุณแล้ว แต่คุณยอม!”สถานการณ์อยู่ในช่วงเวลาที่วิกฤติ ตอนที่ยอดฝีมือทุกคนเตรียมพร้อมที่รวมพลังเพื่อจัดการกับหลินเฟิง จู่ ๆประตูใหญ่ห้องรับแขกก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง“หืม?”ไม่เพียงแค่หลินเฟิง ถังเจี้ยนหยวนกับัเหล่ายอดฝีมือตระกูลถังต่างก็หันกลับไปมอง“หลินเฟิง พวกเราเจอกันอีกแล้ว”คนที่เข้าประตูมาในเวลานี้ก็คือ คุณชายใหญ่ของตระกูลหลง หลงยวน ที่มีผมสั้นและแววตาดุร้าย “ฉันจำได้ว่าฉันเคยบอกคุณไปแล้วว่าไม่อนุญาตให้คุณมาที่เมืองจิงใช่ไหม? ในเมื่อคุณกล้ามา ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าคุณพร้อมที่จะตายแล้ว”หลงยวนยืนในจุดเดียวกัน และตามด้วยยอดฝีมือแดนแปรภาพหลายคน ซึ่งจริง ๆแล้วหนึ่งในนั้นยังเป็นแดนแปรภาพขั้นสูงสุดขณะที่หายใจเข้าออก หลินเฟิงก็เพิ่มความกดดันเป็นสองเท่ากลายเป็นหลินเฟิงที่ควมคุมสถานการณ์เอาไว้ทันที“ผู้...ผู้ป่วยอยู่ที่ไหน? ผม
“ถ้าหากคุณแค่เหยียดหยามผมหลินเฟิงเพียงคนเดียว งั้นผมอาจจะไม่ใส่ใจอะไร แต่คุณกลับกล้าดูถูกวิชาแพทย์ดั้งเดิมของประเทศมังกร งั้นผมจำเป็นต้องคิดเล็กคิดน้อยกับคุณแล้ว”หลินเฟิงตวาดเสียงทุ้มต่ำด้วยใบหน้าเย็นชาวิชาแพทย์ทั้งตัวของเขาได้เรียนรู้มาจากสำนักเสวียนเทียน เป็นแบบดั้งเดิมมากที่สุด สืบทอดวิชาแพทย์ดั้งเดิมประเทศมังกรที่เก่าแก่มากที่สุดในตอนที่วิชาแพทย์ดั้งเดิมของประเทศมังกรช่วยชีวิตคนใกล้ตายและรักษาผู้บาดเจ็บ วิชาแพทย์ต่างประเทศกำลังทำอะไรอยู่?แค่เป็นโรคกลากเกลื้อนที่เท้าก็จะตัดเท้าทิ้ง!อีกทั้งยังเป็นชนิดที่ไม่ฉีดยาชา จะเป็นจะตายแล้วแต่ชะตากรรมและคนจนถึงตอนนี้ กลับกลายเป็นคนเหล่านี้มาดูถูกวิชาแพทย์ดั้งเดิมของประเทศมังกร? เขานับประสาอะไรงั้นเหรอ?ท่าทางของหลินเฟิงตรงกับความต้องการของหลงยวนครั้งที่แล้วอยู่ที่เมืองเจียงโจว หลงยวนสามารถพูดได้ว่าศักดิ์ศรีของเขาที่มีมาหลายปีหายไปจนหมดสิ้นเขากลับถึงที่ตระกูล ก็ไม่กล้าพูดตอนนี้ได้เจอกับหลินเฟิงที่เมืองจิงอีกครั้งงั้นก็ต้อง “ต้อนรับ” เขาเป็นอย่างดี นำความอับอายที่หลินเฟิงเคยมอบให้เขา เอาคืนกลับให้หลินเฟิงเป็นร้อยเท่าและโจมต
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ