Share

นังบ้า ฆ่าคนแล้ว

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-09-23 22:04:02

ทั้งสองยังเดินมาไม่ถึงเรือนตระกูลหลี่ดี ก็ได้ยินเสียงโวยวาย ด่าทอของคนจำนวนมากที่อยู่ภายในเรือนกันแล้ว

“อากวน เจ้าเป็นบิดาของนางจริงหรือไม่ เหตุใดถึงได้เอ่ยออกมาเช่นนี้” จูซื่อตำหนิเขาออกมาอย่างไม่พอใจ

หลิงเฟิ่งและชุยหยุนยืนรอฟังเรื่องราวอยู่ด้านนอกมิได้เดินเข้าไปด้านใน

“ข้าเคยพูดเสียที่ไหนว่านางมิใช่บุตรสาว ในเมื่อขายให้เจ้าไปแล้ว เจ้าจะฆ่าแกงนางเช่นใดก็เชิญ นางเสียสติเช่นนั้นยังจะเอาใบรับรองตัวตนไปทำอันใด” หลี่กวนเอ่ยออกมาอย่างไม่สนใจ

เขานำเงินสองตำลึงที่ได้มาจากการขายหลิงเฟิ่งไปเป็นเจ้าสาวตระกูลซ่ง นำไปซื้อเนื้อ สุรา มากินกับบุตรชายทั้งสอง ทั้งสามกำลังสนุกกันเต็มที่ จูซื่อที่พาหัวหน้าหมู่บ้านมาทำเรื่องตัดขาดหลิงเฟิ่งกับตระกูลหลี่ ทั้งยังขอใบรับรองตัวตน เขาขี้เกียจเกินกว่าจะลุกขึ้นไปหามาให้เท่านั้น

“อากวน เจ้าควรจะมอบให้ตระกูลซ่งตั้งแต่วันที่ส่งตัวเจ้าสาว วันนี้เจ้าเพียงแค่ไปหยิบมาเท่านั้น เหตุใดต้องทำให้ยุ่งยากด้วยเล่า” หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจ

“นางจะตายอยู่แล้ว จะเอาไปทำอันใด บุตรชายของเจ้าอีกไม่นานก็ต้องตาย เมื่อได้ตัวอัปมงคลไปอยู่ในเรือน” อาจจะเป็นด้วยฤทธิ์ของสุรา ที่ทำให้คนเป็นบิดาเอ่ยออกมาเช่นนี้ได้

“ท่านพ่อ ท่านเก็บไว้ที่ใด ข้าไปหยิบให้เอง ท่านรีบประทับนิ้วมือยินยอมตัดขาดนางไปเสีย จะได้หาความสำราญต่อ” หลี่เฉียงเอ่ยออกมาอย่างเสียอารมณ์ เขาเพิ่งจะดื่มไปได้เพียงไหเดียว ชาวบ้านก็พากันมาที่เรือนแล้ว

“หากเจ้าขยันก็ไปหยิบ ใบรับรองตัวตนของเฟิ่งเออร์ ข้าใช้รองขาเตียงอยู่ในห้องนอน” ชาวบ้านที่ได้ยินต่างพากันส่ายหัว

อาจจะเป็นด้วยหลิงเฟิ่งนางเสียสติ หากปล่อยให้ออกมานอกเรือน นางก็จะวิ่งไปทั่วหมู่บ้าน คนตระกูลหลี่จึงได้ขังนางเอาไว้แต่ภายในเรือน ชาวบ้านจึงไม่รู้ว่านางถูกบิดาและพี่ชายมองเป็นเพียงคนไร้ค่าเท่านั้น

อาหาร เสื้อผ้าที่ชาวบ้านแบ่งให้คนตระกูลหลี่ ก็ด้วยเห็นใจที่เขามีบุตรสาวเสียสติ อีกทั้งยังสงสารหลิงเฟิ่งที่เกิดมามีใบหน้างดงาม แต่ก็กลายเป็นเพียงหญิงบ้า หาประโยชน์อะไรจากนางไม่ได้

หลี่เฉียงรีบเข้าไปหยิบใบรับรองตัวตนของหลิงเฟิ่ง ส่วนหลี่กวนก็ประทับลายนิ้วมือลงในหนังสือตัดขาด เขาไม่แม้แต่จะถามว่าด้านในเขียนสิ่งใดเอาไว้บ้าง

หลิงเฟิ่งที่หวนคิดถึงเรื่องในอดีต ที่นางเคยเอ่ยถามถึงหนังสือรับรองตัวตน แต่หลี่กวนกับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้นางดู ที่แท้เขาก็ทิ้งใบรับรองตัวตนของนางไว้ที่เรือนในหมู่บ้านหู่เซิง มิได้นำติดไปในเมืองด้วย

ยิ่งฟังคำพูดของสามพ่อลูกที่เห็นแก่ตัว ความแค้นใจก็ระอุขึ้นมาอีกครั้ง หลิงเฟิ่งนางไม่รู้ตัวเลยว่ายามนี้นางใช้เล็บจิกเข้าไปที่มือของชุยหยุนอยู่

“เป็นอันใดหรือไม่” แม้จะรู้สึกเจ็บมือ แต่ก็ยังอดที่จะเห็นใจนางไม่ได้ เขาจึงไม่ได้บอกนางว่ากำลังทำให้เขาเจ็บอยู่

หลิงเฟิ่งปล่อยมือออกจากมือของชุยหยุน นางเห็นไม้ท่อนเดิมที่นางทุบตีพวกเขาเมื่อวานอยู่ตรงประตูเรือน นางจึงได้พุ่งตัวเข้าไปคว้าไม้มาถือไว้ แล้ววิ่งเข้าไปทุบตีหลี่กวนที่เพิ่งประทับลายนิ้วมือเสร็จ ก่อนจะทุบไปที่หัวของหลี่ซวงจนแตกเลือดอาบเต็มใบหน้า

“นังบ้า ฆ่าคนแล้ว” หลี่ซวงร้องออกมาอย่างเสียขวัญ ยิ่งเห็นเลือดไหลออกมามากมาย เขาก็แทบจะเป็นลมหมดสติ

พอสายตาของหลิงเฟิ่งเหลือบไปเห็นหลี่เฉียงถือใบรับรองยับยู่ยี่เดินออกมา นางก็เปลี่ยนเป้าหมายหันไปทุบตีเขาด้วยเช่นกัน ก่อนจะแย่งใบรับรองมาถือไว้ในมืออีกข้างอย่างรวดเร็ว

“โอ๊ยยย เจ้ากลับมาทำไมอีก นังบ้า!!!” หลี่เฉียงร้องตะโกนไปด้วย แล้วปัดป้องไปด้วย

ครั้งนี้หลิงเฟิ่งนางโกรธจนเลือดขึ้นหน้า จึงไม่ได้ระวังตัวมากนัก หลี่เฉียงสบโอกาสผลักตัวนางจนล้มไปกองกับพื้น เสียงร่างของนางกระแทกจนชาวบ้านที่อยู่ในเรือนได้สติ แล้วรีบเข้ามาช่วยห้ามทันที

“ขวางข้าทำไม ไม่เห็นรึว่านางตีพวกข้าจนเกือบตาย ข้าจะตีนางให้ตายเช่นกัน” หลี่เฉียงถือไม้เอาไว้ในมือ หมายจะเข้ามาทุบตีหลิงเฟิ่งให้สมกับที่นางตีเขา

“หากเจ้าตีภรรยาข้า ข้าจะแจ้งทางการ ที่ผ่านมาคนตระกูลหลี่ชั่วช้าหมายจะปล่อยให้นางอดตายอยู่ภายในเรือน แต่พอเห็นว่านางไม่ตาย จึงได้รับข้อเสนอให้นางแต่งเข้าเรือนตระกูลซ่ง คงคิดว่าหากข้าตาย นางก็คงต้องลงหลุมไปพร้อมกับข้า สิ่งที่พวกเจ้าทำ ยังเรียกว่ามนุษย์ได้หรือไม่ แค่ก แค่ก” เสียงเย็นของชุยหยุนกล่าวจบก็ไอออกมาเสียตัวโยน เมื่อเห็นสายตาของหลิงเฟิ่งที่มองเตือนเขา ว่าท่านยังป่วยใกล้ตายอยู่

“อาหยุน เจ้าออกมาเพื่ออันใด แล้วนี่ยังจะพาเฟิ่งเออร์นางมาด้วย” จูซื่อเมื่อสำรวจหลิงเฟิ่งว่านางไม่ได้บาดเจ็บมากแล้ว จึงเดินเข้าไปประคองร่างของบุตรชายเอาไว้

“เหอะ ไม่ต้องเอาทางการมาอ้างกับข้า เจ้าเรียกนังบ้าว่าภรรยาได้เต็มปาก คงมิใช่ว่า...เข้าหอกับนางแล้วหรอกนะ” หลี่เฉียงมองเยาะเย้ยชุยหยุน

“ต่อให้นางจะเสียสติ ในเมื่อมารดาข้าซื้อนางเพื่อแต่งให้ข้าแล้ว ข้าก็ไม่คิดจะถอดทิ้งนาง เจ้าจะพูดไร้ยางอายเช่นใดก็ได้ ข้าไม่สนใจ แต่หากนับจากนี้ พวกเจ้ายังกล้ารังแกนาง ก็คอยดูว่าข้าจะกล้าแจ้งทางการจับพวกเจ้าไปลงโทษหรือไม่ แค่ก แค่ก”

“เพ้ย!!! หมดเรื่องกันแล้วใช่หรือไม่ หากหมดเรื่องแล้วก็ไสหัวกันไปให้หมด แล้วเอานังบ้านี่ไปด้วย ต่อไปอย่าได้มาเหยียบที่เรือนข้าอีก ไม่ว่านางจะสร้างเรื่องอันใด หรือทำร้ายผู้ใด ต่อไปนังบ้ากับตระกูลหลี่ไม่นับญาติกันแล้ว” หลี่เฉียงขว้างไม้ลงบนพื้นอย่างแรง

หลิงเฟิ่งหลุบตาลงต่ำ นางมิต้องการให้พวกเขาเห็นแววตาอาฆาตของนาง

“ลุกไหวหรือไม่” ชุยหยุนเดินเข้ามาจับข้อมือของนางไว้

“...” หลิงเฟิ่งมิได้ตอบ แต่นางจุกไม่น้อยเลย ที่โดนหลี่เฉียงผลักเมื่อครู่

“ไป ข้าจะพาเจ้าไปส่ง” ป้าเหลียนจัดเสื้อผ้าให้หลิงเฟิ่ง ชุยหยุนจึงได้นึกออก สาเหตุที่พวกตนมาที่เรือนตระกูลหลี่ เพื่อมาเอาเสื้อผ้าของหลิงเฟิ่ง

“ป้าเหลียน เฟิ่งเออร์ นางไม่มีเสื้อผ้าไปที่เรือนข้าเลยขอรับ ข้าจึงได้พานางกลับมาเอาเสื้อผ้า ไม่คิดว่าจะพานางมาเจ็บตัวเช่นนี้”

“ไม่ให้!!! ในเมื่อนางตัดขาดกับตระกูลหลี่แล้ว ข้าวของในเรือน ข้าไม่ให้นางทั้งนั้น” หลี่กวนตะโกนกร้าวออกมา เขาไม่ได้เดินเข้ามาจัดการหลิงเฟิ่งกับหลี่เฉียง เพราะต้องดูอาการของหลี่ซวง

“เหอะ ไม่ให้ก็ไม่เอา เสื้อผ้าข้ามีเยอะแยะ ไป เฟิ่งเออร์ แม่จะทำชุดใหม่ให้เจ้าเอง” จูซื่อเดินเข้ามาช่วยประคองหลิงเฟิ่งอีกคน

หลิงเฟิ่งเองก็ตกใจจนนิ่งค้าง เมื่อจูซื่อเรียกแทนตนเองว่า แม่ กับนาง ภายในหัวของหลิงเฟิ่งสับสนไม่น้อย หากสวรรค์ไม่กลั่นแกล้งนางจนเกินไป ครอบครัวใหม่ของนางในครั้งนี้ คงจะไม่ทำให้ชีวิตของนางเลวร้ายเช่นครั้งที่แล้ว

หัวหน้าหมู่บ้านส่งหนังสือตัดขาดของหลิงเฟิ่งให้ชุยหยุนเก็บเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยพูดให้เขารักษาตัวเองให้ดี เพื่อต่อไปจะได้หายแล้วช่วยมารดาดูแลหลิงเฟิ่ง แล้วจึงได้แยกย้ายกันกลับเรือน

ป้าเหลียนช่วยประคองหลิงเฟิ่งที่ข้อเท้าพลิกกลับมาส่งถึงที่เรือนตระกูลซ่ง นางเอ่ยพูดกับจูซื่อถึงความใจดำของคนตระกูลหลี่ต่ออีกหลายประโยคก่อนที่จะขอตัวกลับเรือนไป

“แม่จะไปทำชุดให้เฟิ่งเออร์ เจ้าพานางไปพักเถิด นี่...เปลี่ยนเองได้หรือไม่” จูซื่อยื่นชุดของนางให้หลิงเฟิ่งเอาไปใส่ชั่วคราวก่อน

“...” หลิงเฟิ่งพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะรับมาถือไว้ในมือ นางกระโดดเป็นกระต่ายขาเดียวเพื่อจะออกไปล้างตัวด้านหลังเรือน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   บทสรุป

    แต่เรื่องที่น่าประหลาดอีกเรื่องของตระกูลโจว ที่ทำให้จวนโจวถูกแม่สื่อเข้ามาพูดคุยกับพานซื่อทุกวันเห็นจะเป็นเรื่องคลอดของอวี้หลินหลังจากที่ผ่านมาได้ห้าเดือนหลังจากที่หลิงเฟิ่งนางคลอดบุตรชายทั้งสามออกมา ตำหนักอ๋องก็มีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้น เมื่ออวี้หลินนางปวดท้องคลอดในกลางดึกหลิงเฟิ่งเมื่อรู้เรื่องก็รีบไปที่ตำหนักอ๋องพร้อมกับชุยหยุนทันที พานซื่อและบุรุษตระกูลโจวทั้งสามตามมาทันนางที่หน้าตำหนักพอดีจึงได้เข้าไปด้านในพร้อมกันหลิงเฟิ่งกับพานซื่อเข้าไปอยู่ภายในห้องคลอดด้วย นางเทน้ำวิเศษให้อวี้หลินได้ดื่ม เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของนางหมอตำแยก็เป็นคนเดียวกันกับที่ทำคลอดให้หลิงเฟิ่งพอเด็กทารกสองคนแรกออกมา นางก็ต้องกรีดร้องเสียงดังอย่างไม่เชื่อสายตา เมื่อมีหัวน้อยๆ โผล่ออกมาจากช่องคลอดอีกหัวหนึ่ง“สวรรค์!!! ดะ เด็ก เด็กอีกคนเจ้าค่ะ”อวี้หลินคลอดบุตรชายฝาแฝดออกมาสามคนเช่นกัน เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นมาก่อนในแคว้นต้าเยี่ยทำให้บุรุษตระกูลโจวอีกสองคนที่เหลือที่ยังไม่ยอมแต่งฮูหยินเข้าจวน ถึงกับหนักใจ ด้วยแม่สื่อที่เดินเข้าออกไปขาดสาย“อาเหว่ย ข้าจะขอไปอยู่ที่ค่ายนอกเมืองกับเจ้าสั

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   เจ้าแบ่งให้ข้าคนหนึ่งมิได้รึ

    เพียงไม่นาน ขบวนกองทัพก็ค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้น ลู่เหวินกับโจวเฉิงเหว่ยที่นำอยู่ด้านหน้า ฉีกยิ้มกว้างให้พานซื่อและอวี้หลิน ก่อนที่ทั้งสองจะรีบควบม้าเข้าไปหาคนที่รออยู่“เฟิ่งเออร์เล่า” พานซื่อเอ่ยถามหาหลิงเฟิ่งทันที เมื่อลู่เหวินลงจากหลังม้ามาหานาง“ท่านแม่ ลูกกลับมาแล้วขอรับ” โจวเฉิงเหว่ยคุกเข่าลงตรงหน้าของพานซื่อ แล้วก้มคำนับสามครั้งให้นาง“อาเหว่ย เจ้าจากบ้านไปเสียหลายปี ครั้งนี้ได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าแล้วนะลูก” นางลูบใบหน้าของบุตรชายคนรองอย่างคิดถึง“ฟะ เฟิ่งเออร์ เจ้า...”พานซื่อถูกเสียงร้องอย่างตกใจของอวี้หลิน ทำให้หันไปมองที่ด้านหลังของโจวเฉิงเหว่ยอย่างรวดเร็วดวงตาของนางเบิกกว้างขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตา ตอนที่เดินทางออกจากเมืองหลวงไป ท้องของหลิงเฟิ่งมิได้ดูเหมือนจะตั้งครรภ์มาก่อน แต่ยามนี้ท้องของนางราวกับว่าใกล้คลอดเต็มทีแล้วนี่คงเป็นเหตุผลที่นางไม่อาจเดินทางกลับเมืองหลวงได้ตามที่เคยรับปากเอาไว้“เฟิ่งเออร์ เจ้าท้องกี่เดือนกัน ตั้งแต่เมื่อใด หรือว่าเจ้าท้องก่อนที่จะเดินทางแล้ว เหตุใดถึงไม่บอกแม่เล่า” พานซื่อเอ่ยถามออกมาระรัว“ท่านแม่ ครรภ์ของข้าเพิ่งจะหกเดือนเท่านั้นเจ้าค่ะ ข้าก็เ

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   ส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้าน

    โจวเฉิงเหว่ยนั่งอยู่บนหลังม้า ยืนอยู่หน้าเหล่าทหารหลายหมื่น สายตาของเขาจ้องมองไปยังร่างกำยำของแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานอย่างเย็นชา“บิดาเจ้าเหล่า เหตุใดต้องส่งลูกเต่าเช่นเจ้ามาเอาชีวิตข้า”“ท่านพ่อไม่คิดว่าท่านจะตัดสินใจเช่นนี้”“หึหึ บุรุษตระกูลโจวเก่งกาจนัก หากข้ารู้สักนิดว่าโจวลู่เหวินมิได้สูญเสียวรยุทธ์ก็คงจะทูลขอให้ฝ่าบาททรงเปลี่ยนใจ แต่ในเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว ข้าเกาซือหม่า ขอแลกชีวิตกับเหล่าทหารแคว้นต้าหานทั้งหมด หวังว่าแม่ทัพน้อยโจว จะปล่อยให้ทหารของข้ากลับคืนสู่แคว้นต้าหาน”แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหาน ดึงดาบออกมาพาดที่คอ เขาตัดคอตนเองออกโดยไม่เผยความหวั่นเกรงใดออกมา โจวเฉิงเหว่ยจ้องมองหัวของแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานหลุดลงพื้นด้วยสายตาที่เรียบเฉย“เก็บกลับค่าย ถอยทัพ!!! ไม่ต้องตามทหารแคว้นต้าหาน ปล่อยพวกมันกลับไป แต่หากยังรั้งอยู่ภายในสองวันนี้ ฆ่าให้หมดไม่ต้องเหลือเอาไว้”เสียงของโจวเฉิงเหว่ยประกาศกร้าว จนแม้แต่ทหารแคว้นต้าหานที่ออกมาดูท่านแม่ทัพใหญ่ของตนปลิดชีพได้ยินอย่างชัดเจนหัวของแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานถูกเก็บกลับไปที่ค่ายของแคว้นต้าเยี่ย เหลือเพียงร่างไร้ศีรษะให้ทหารแคว้นต้าหานเ

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   การตัดสินใจของเกาซือหม่า

    ลู่เหวินยกธนูขึ้นเล็งไปทางแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหาน ก่อนจะปล่อยลูกธนูออกจากสายไป แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานได้แต่มองเยาะเย้ยอย่างได้ใจ ระยะไกลเพียงนี้ ต่อให้เก่งการเพียงใดก็ยิงไม่ถึงเขาเป็นแน่“เฮือกกกก” เสียงสูดลมหายใจของทหารแคว้นต้าหานเมื่อลูกธนูที่ลู่เหวินปล่อยออกมา มันทะลุคอม้าที่แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานขี่ราวกับจับวาง นี่คือสิ่งที่ลู่เหวินต้องการ เขาไม่ได้ต้องการสังหารแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานภายในลูกธนูเดียว แต่เป็นการย้ำเตือนว่าตนมิได้สูญเสียวรยุทธ์เช่นที่คิดกัน“บุก!!!” แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหาน เปลี่ยนม้าตัวใหม่ได้ ก็ร้องตะโกนบอกทหารของตนทันทีความยับยั้งชั่งใจหายไปจนสิ้น เมื่อถูกหยามเช่นนี้ เขาควบม้าเข้าไปหาลู่เหวินอย่างไม่เกรงกลัว“บุก!!! ฆ่าให้หมด อย่าให้เหลือรอด” ลู่เหวินควบม้าพุ่งทะยานเข้าไปในสนามรบเช่นกันหลิงเฟิ่ง ที่นอนพักอยู่ภายในเรือนสะดุ้งตกใจตื่น นางกับชุยหยุนมิได้เข้าไปนอนภายในมิติ จึงได้ยินเสียงต่อสู้อย่างชัดเจน“ท่านพี่”“สงครามเริ่มแล้ว หากเจ้ากลัวเข้าไปหลบในมิติก่อนดีหรือไม่” ชุยหยุนกอดหลิงเฟิ่งเอาไว้แน่น“ไม่เจ้าค่ะ” นางส่ายหน้าหลิงเฟิ่งมิอาจข่มตาให้หลับลงได้ นางเป็นห่วงบิดาแ

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   กองทัพแคว้นต้าหานประชิดเมืองแล้ว

    หลิงเฟิ่งอยู่ภายในมิตินางก็ไม่ได้ทำสิ่งใดมาก นอกจากตื่นมากินแล้วนอนต่อ ตั้งแต่ตั้งครรภ์มา นางรู้สึกว่าขี้เกียจจะขยับร่างกายไปเสียหมด ต่อให้หลิงเฟิ่งอยู่แต่ภายในมิติ เสียงขององครักษ์ที่อยู่ด้านนอกนางก็ยังได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันจึงได้รู้ว่า กองทัพของแคว้นต้าหานเดินทัพมาประชิดเร็วกว่าที่คาดเอาไว้ คงอีกไม่เกินห้าวันพวกเขาก็คงจะมาตั้งค่ายอยู่ไม่ห่างแล้วผ่านมาได้เพียงสามวัน กองทัพของแคว้นต้าหานก็เดินทางมาตั้งค่ายเสียแล้ว เจ้าเมืองเป่ยตู่เร่งพาชาวบ้านที่อยู่ใกล้เขตชายแดนลี้ภัยออกไปอยู่ค่ายหลบภัยที่นอกเมืองเป่ยตู่อย่างเร่งด่วนสนามสอบแทบจะเร่งบัณฑิตให้ส่งกระดาษสอบแล้วให้เดินทางออกไปจากสนามสอบให้เร็วที่สุด“เฟิ่งเออร์ เฟิ่งเออร์ ข้ากลับมาแล้ว” ชุยหยุนเมื่อกลับมาถึงเรือนก็ร้องเรียกหลิงเฟิ่งเสียงดัง“เหตุใด กลับมาเร็วนักเล่า” ฟ้าด้านนอกเพิ่งจะสว่างได้ไม่นาน ชุยหยุนก็เดินทางมาถึงเรือนแล้ว“กองทัพแคว้นต้าหานประชิดเมืองเป่ยตู่แล้ว ตอนนี้ชาวบ้านบางส่วนก็อพยพย้ายไปอยู่ที่ค่ายลี้ภัยนอกเมืองแล้ว”“เร็วเพียงนั้นเลยรึ” หลิงเฟิ่งอดที่จะตกใจไม่ได้“สงครามยังคงไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ แคว้นต้าหานเร่งเดิน

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่ายินดี

    ความจริงหลิงเฟิ่ง นางอยากจะรั้งอยู่ เพื่อเดินทางกลับพร้อมบิดาและพี่ชาย เพื่อว่ามีสิ่งใดที่นางพอจะช่วยเหลือได้บ้าง แต่หากว่านางตั้งครรภ์ขึ้นมาจริงก็ควรจะเร่งเดินทางออกจากเมือง เพื่อไม่ให้พวกเขาเป็นกังวลทั้งสี่พูดคุยเรื่องเสบียงอาหารต่ออีกเพียงไม่นาน ท่านหมอก็เดินเข้ามาภายในห้องพัก บุรุษทั้งสามจึงได้เดินไปนั่งรอที่โต๊ะตรงกลางห้อง แต่สายตาของพวกเขาก็ยังจ้องมองมาที่หมออย่างกดดัน“บุตรีข้าเป็นเช่นใด”“น้องสาวข้า อาการร้ายแรงหรือไม่”หมอยังมิทันจะได้จับชีพจร บุรุษตระกูลโจวก็เอ่ยถามออกมาอย่างกดดันเสียแล้ว น้ำเสียงของพวกเขาราวกับเอ่ยถามทหาร ว่าวันนี้พวกเจ้าตั้งใจฝึกซ้อมกันหรือไม่ หมอจะมีสมาธิตรวจได้อย่างไร“ท่านแม่ทัพใหญ่โจว ท่านแม่ทัพโจว ขอเวลาข้าน้อยสักครู่เถิด พวกท่านกดดันเช่นนี้ ข้าน้อยจะตรวจได้อย่างไร”ลู่เหวินกับโจวเฉิงเหว่ยจึงนั่งดื่มชาอย่างเงียบๆ แต่สายตาของเขาก็ยังคงไม่ละไปจากนิ้วมือของท่านหมอที่กำลังจับชีพจรของหลิงเฟิ่งอยู่“ยินดีด้วยขอรับ ฮูหยินนางตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว”“ห๊ะ/ห๊ะ ตั้งครรภ์” สองพ่อลูกตระกูลโจวลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว“เจ้าตรวจให้ดี หลานข้าเป็นเช่นใดบ้าง ครรภ์ของนา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status