Share

นังบ้า ฆ่าคนแล้ว

Penulis: l3oonm@
last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-23 22:04:02

ทั้งสองยังเดินมาไม่ถึงเรือนตระกูลหลี่ดี ก็ได้ยินเสียงโวยวาย ด่าทอของคนจำนวนมากที่อยู่ภายในเรือนกันแล้ว

“อากวน เจ้าเป็นบิดาของนางจริงหรือไม่ เหตุใดถึงได้เอ่ยออกมาเช่นนี้” จูซื่อตำหนิเขาออกมาอย่างไม่พอใจ

หลิงเฟิ่งและชุยหยุนยืนรอฟังเรื่องราวอยู่ด้านนอกมิได้เดินเข้าไปด้านใน

“ข้าเคยพูดเสียที่ไหนว่านางมิใช่บุตรสาว ในเมื่อขายให้เจ้าไปแล้ว เจ้าจะฆ่าแกงนางเช่นใดก็เชิญ นางเสียสติเช่นนั้นยังจะเอาใบรับรองตัวตนไปทำอันใด” หลี่กวนเอ่ยออกมาอย่างไม่สนใจ

เขานำเงินสองตำลึงที่ได้มาจากการขายหลิงเฟิ่งไปเป็นเจ้าสาวตระกูลซ่ง นำไปซื้อเนื้อ สุรา มากินกับบุตรชายทั้งสอง ทั้งสามกำลังสนุกกันเต็มที่ จูซื่อที่พาหัวหน้าหมู่บ้านมาทำเรื่องตัดขาดหลิงเฟิ่งกับตระกูลหลี่ ทั้งยังขอใบรับรองตัวตน เขาขี้เกียจเกินกว่าจะลุกขึ้นไปหามาให้เท่านั้น

“อากวน เจ้าควรจะมอบให้ตระกูลซ่งตั้งแต่วันที่ส่งตัวเจ้าสาว วันนี้เจ้าเพียงแค่ไปหยิบมาเท่านั้น เหตุใดต้องทำให้ยุ่งยากด้วยเล่า” หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจ

“นางจะตายอยู่แล้ว จะเอาไปทำอันใด บุตรชายของเจ้าอีกไม่นานก็ต้องตาย เมื่อได้ตัวอัปมงคลไปอยู่ในเรือน” อาจจะเป็นด้วยฤทธิ์ของสุรา ที่ทำให้คนเป็นบิดาเอ่ยออกมาเช่นนี้ได้

“ท่านพ่อ ท่านเก็บไว้ที่ใด ข้าไปหยิบให้เอง ท่านรีบประทับนิ้วมือยินยอมตัดขาดนางไปเสีย จะได้หาความสำราญต่อ” หลี่เฉียงเอ่ยออกมาอย่างเสียอารมณ์ เขาเพิ่งจะดื่มไปได้เพียงไหเดียว ชาวบ้านก็พากันมาที่เรือนแล้ว

“หากเจ้าขยันก็ไปหยิบ ใบรับรองตัวตนของเฟิ่งเออร์ ข้าใช้รองขาเตียงอยู่ในห้องนอน” ชาวบ้านที่ได้ยินต่างพากันส่ายหัว

อาจจะเป็นด้วยหลิงเฟิ่งนางเสียสติ หากปล่อยให้ออกมานอกเรือน นางก็จะวิ่งไปทั่วหมู่บ้าน คนตระกูลหลี่จึงได้ขังนางเอาไว้แต่ภายในเรือน ชาวบ้านจึงไม่รู้ว่านางถูกบิดาและพี่ชายมองเป็นเพียงคนไร้ค่าเท่านั้น

อาหาร เสื้อผ้าที่ชาวบ้านแบ่งให้คนตระกูลหลี่ ก็ด้วยเห็นใจที่เขามีบุตรสาวเสียสติ อีกทั้งยังสงสารหลิงเฟิ่งที่เกิดมามีใบหน้างดงาม แต่ก็กลายเป็นเพียงหญิงบ้า หาประโยชน์อะไรจากนางไม่ได้

หลี่เฉียงรีบเข้าไปหยิบใบรับรองตัวตนของหลิงเฟิ่ง ส่วนหลี่กวนก็ประทับลายนิ้วมือลงในหนังสือตัดขาด เขาไม่แม้แต่จะถามว่าด้านในเขียนสิ่งใดเอาไว้บ้าง

หลิงเฟิ่งที่หวนคิดถึงเรื่องในอดีต ที่นางเคยเอ่ยถามถึงหนังสือรับรองตัวตน แต่หลี่กวนกับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้นางดู ที่แท้เขาก็ทิ้งใบรับรองตัวตนของนางไว้ที่เรือนในหมู่บ้านหู่เซิง มิได้นำติดไปในเมืองด้วย

ยิ่งฟังคำพูดของสามพ่อลูกที่เห็นแก่ตัว ความแค้นใจก็ระอุขึ้นมาอีกครั้ง หลิงเฟิ่งนางไม่รู้ตัวเลยว่ายามนี้นางใช้เล็บจิกเข้าไปที่มือของชุยหยุนอยู่

“เป็นอันใดหรือไม่” แม้จะรู้สึกเจ็บมือ แต่ก็ยังอดที่จะเห็นใจนางไม่ได้ เขาจึงไม่ได้บอกนางว่ากำลังทำให้เขาเจ็บอยู่

หลิงเฟิ่งปล่อยมือออกจากมือของชุยหยุน นางเห็นไม้ท่อนเดิมที่นางทุบตีพวกเขาเมื่อวานอยู่ตรงประตูเรือน นางจึงได้พุ่งตัวเข้าไปคว้าไม้มาถือไว้ แล้ววิ่งเข้าไปทุบตีหลี่กวนที่เพิ่งประทับลายนิ้วมือเสร็จ ก่อนจะทุบไปที่หัวของหลี่ซวงจนแตกเลือดอาบเต็มใบหน้า

“นังบ้า ฆ่าคนแล้ว” หลี่ซวงร้องออกมาอย่างเสียขวัญ ยิ่งเห็นเลือดไหลออกมามากมาย เขาก็แทบจะเป็นลมหมดสติ

พอสายตาของหลิงเฟิ่งเหลือบไปเห็นหลี่เฉียงถือใบรับรองยับยู่ยี่เดินออกมา นางก็เปลี่ยนเป้าหมายหันไปทุบตีเขาด้วยเช่นกัน ก่อนจะแย่งใบรับรองมาถือไว้ในมืออีกข้างอย่างรวดเร็ว

“โอ๊ยยย เจ้ากลับมาทำไมอีก นังบ้า!!!” หลี่เฉียงร้องตะโกนไปด้วย แล้วปัดป้องไปด้วย

ครั้งนี้หลิงเฟิ่งนางโกรธจนเลือดขึ้นหน้า จึงไม่ได้ระวังตัวมากนัก หลี่เฉียงสบโอกาสผลักตัวนางจนล้มไปกองกับพื้น เสียงร่างของนางกระแทกจนชาวบ้านที่อยู่ในเรือนได้สติ แล้วรีบเข้ามาช่วยห้ามทันที

“ขวางข้าทำไม ไม่เห็นรึว่านางตีพวกข้าจนเกือบตาย ข้าจะตีนางให้ตายเช่นกัน” หลี่เฉียงถือไม้เอาไว้ในมือ หมายจะเข้ามาทุบตีหลิงเฟิ่งให้สมกับที่นางตีเขา

“หากเจ้าตีภรรยาข้า ข้าจะแจ้งทางการ ที่ผ่านมาคนตระกูลหลี่ชั่วช้าหมายจะปล่อยให้นางอดตายอยู่ภายในเรือน แต่พอเห็นว่านางไม่ตาย จึงได้รับข้อเสนอให้นางแต่งเข้าเรือนตระกูลซ่ง คงคิดว่าหากข้าตาย นางก็คงต้องลงหลุมไปพร้อมกับข้า สิ่งที่พวกเจ้าทำ ยังเรียกว่ามนุษย์ได้หรือไม่ แค่ก แค่ก” เสียงเย็นของชุยหยุนกล่าวจบก็ไอออกมาเสียตัวโยน เมื่อเห็นสายตาของหลิงเฟิ่งที่มองเตือนเขา ว่าท่านยังป่วยใกล้ตายอยู่

“อาหยุน เจ้าออกมาเพื่ออันใด แล้วนี่ยังจะพาเฟิ่งเออร์นางมาด้วย” จูซื่อเมื่อสำรวจหลิงเฟิ่งว่านางไม่ได้บาดเจ็บมากแล้ว จึงเดินเข้าไปประคองร่างของบุตรชายเอาไว้

“เหอะ ไม่ต้องเอาทางการมาอ้างกับข้า เจ้าเรียกนังบ้าว่าภรรยาได้เต็มปาก คงมิใช่ว่า...เข้าหอกับนางแล้วหรอกนะ” หลี่เฉียงมองเยาะเย้ยชุยหยุน

“ต่อให้นางจะเสียสติ ในเมื่อมารดาข้าซื้อนางเพื่อแต่งให้ข้าแล้ว ข้าก็ไม่คิดจะถอดทิ้งนาง เจ้าจะพูดไร้ยางอายเช่นใดก็ได้ ข้าไม่สนใจ แต่หากนับจากนี้ พวกเจ้ายังกล้ารังแกนาง ก็คอยดูว่าข้าจะกล้าแจ้งทางการจับพวกเจ้าไปลงโทษหรือไม่ แค่ก แค่ก”

“เพ้ย!!! หมดเรื่องกันแล้วใช่หรือไม่ หากหมดเรื่องแล้วก็ไสหัวกันไปให้หมด แล้วเอานังบ้านี่ไปด้วย ต่อไปอย่าได้มาเหยียบที่เรือนข้าอีก ไม่ว่านางจะสร้างเรื่องอันใด หรือทำร้ายผู้ใด ต่อไปนังบ้ากับตระกูลหลี่ไม่นับญาติกันแล้ว” หลี่เฉียงขว้างไม้ลงบนพื้นอย่างแรง

หลิงเฟิ่งหลุบตาลงต่ำ นางมิต้องการให้พวกเขาเห็นแววตาอาฆาตของนาง

“ลุกไหวหรือไม่” ชุยหยุนเดินเข้ามาจับข้อมือของนางไว้

“...” หลิงเฟิ่งมิได้ตอบ แต่นางจุกไม่น้อยเลย ที่โดนหลี่เฉียงผลักเมื่อครู่

“ไป ข้าจะพาเจ้าไปส่ง” ป้าเหลียนจัดเสื้อผ้าให้หลิงเฟิ่ง ชุยหยุนจึงได้นึกออก สาเหตุที่พวกตนมาที่เรือนตระกูลหลี่ เพื่อมาเอาเสื้อผ้าของหลิงเฟิ่ง

“ป้าเหลียน เฟิ่งเออร์ นางไม่มีเสื้อผ้าไปที่เรือนข้าเลยขอรับ ข้าจึงได้พานางกลับมาเอาเสื้อผ้า ไม่คิดว่าจะพานางมาเจ็บตัวเช่นนี้”

“ไม่ให้!!! ในเมื่อนางตัดขาดกับตระกูลหลี่แล้ว ข้าวของในเรือน ข้าไม่ให้นางทั้งนั้น” หลี่กวนตะโกนกร้าวออกมา เขาไม่ได้เดินเข้ามาจัดการหลิงเฟิ่งกับหลี่เฉียง เพราะต้องดูอาการของหลี่ซวง

“เหอะ ไม่ให้ก็ไม่เอา เสื้อผ้าข้ามีเยอะแยะ ไป เฟิ่งเออร์ แม่จะทำชุดใหม่ให้เจ้าเอง” จูซื่อเดินเข้ามาช่วยประคองหลิงเฟิ่งอีกคน

หลิงเฟิ่งเองก็ตกใจจนนิ่งค้าง เมื่อจูซื่อเรียกแทนตนเองว่า แม่ กับนาง ภายในหัวของหลิงเฟิ่งสับสนไม่น้อย หากสวรรค์ไม่กลั่นแกล้งนางจนเกินไป ครอบครัวใหม่ของนางในครั้งนี้ คงจะไม่ทำให้ชีวิตของนางเลวร้ายเช่นครั้งที่แล้ว

หัวหน้าหมู่บ้านส่งหนังสือตัดขาดของหลิงเฟิ่งให้ชุยหยุนเก็บเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยพูดให้เขารักษาตัวเองให้ดี เพื่อต่อไปจะได้หายแล้วช่วยมารดาดูแลหลิงเฟิ่ง แล้วจึงได้แยกย้ายกันกลับเรือน

ป้าเหลียนช่วยประคองหลิงเฟิ่งที่ข้อเท้าพลิกกลับมาส่งถึงที่เรือนตระกูลซ่ง นางเอ่ยพูดกับจูซื่อถึงความใจดำของคนตระกูลหลี่ต่ออีกหลายประโยคก่อนที่จะขอตัวกลับเรือนไป

“แม่จะไปทำชุดให้เฟิ่งเออร์ เจ้าพานางไปพักเถิด นี่...เปลี่ยนเองได้หรือไม่” จูซื่อยื่นชุดของนางให้หลิงเฟิ่งเอาไปใส่ชั่วคราวก่อน

“...” หลิงเฟิ่งพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะรับมาถือไว้ในมือ นางกระโดดเป็นกระต่ายขาเดียวเพื่อจะออกไปล้างตัวด้านหลังเรือน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   ใบรับรองการเป็นสามีภรรยา

    เมื่อก่อนตอนเสียสติ นางก็ไม่เคยนึกรังเกียจที่มีหลิงเฟิ่งเป็นลูกสะใภ้ แต่พอนางหายดี ความสามารถของนาง ทั้งสิ่งของที่นางสามารถนำออกมาจากความว่างเปล่าได้ ยิ่งทำให้นางอยากจะขอบคุณสวรรค์วันละสามเวลาหลังอาหาร“หื้ม...แบบร่างของข้าน่าสนใจเพียงนั้นเลยรึเจ้าคะ”นางมิได้ร่างแบบที่แปลกประหลาดแต่อย่างใด นางเพียงแค่เพิ่มระเบียงหลังห้องที่สามารถนั่งอ่านตำรา หรือนั่งพูดคุยกันได้เพิ่มขึ้นมา ทั้งเรื่องห้องน้ำที่แบ่งพื้นที่เปียกกับพื้นที่แห้งชัดเจน จวนใหญ่ก็คงมีเช่นนี้ นางคิดว่าไม่ใช่เรื่องประหลาด“ใช่แล้ว นายช่างกวนไม่เคยเห็นเรือนที่เจ้าร่างมาก่อน ทั้งประตูที่ทำเป็นแบบเลื่อนได้ ข้าก็พูดไม่รู้เรื่อง เจ้าออกไปพูดเองดีกว่า หากอาหยุนจะตำหนิเจ้า ข้าจะจัดการเอง” จูซื่อดึงมือหลิงเฟิ่งออกไปพบนายช่างทันที“ประเดี๋ยวท่านแม่...ท่านลืมไปแล้วรึ ว่าชาวบ้านยังไม่มีผู้ใดรู้เรื่องที่ข้าหายดีแล้ว”“ตายจริง ข้าเกือบลืมไป ข้าจะออกไปพูดใหม่ ว่าอาหยุนเป็นคนร่าง เจ้ากลับเข้าไปอยู่ในห้องเถิด” จูซื่อนึกอยากจะตบปากตัวเองเสียหลายๆ ที นางจำต้องเดินไปพบนายช่างกวนเพื่อบอกให้เขามาพบชุยหยุนอีกครั้งในตอนเย็นชุยหยุนที่เข้าเมืองไปพร้อม

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   สร้างสามห้องพอ

    “ท่านแม่ เฟิ่งเออร์ ข้าใคร่ครวญเรื่องนี้ดีแล้ว อีกอย่างข้าไม่ใจบุรุษใจโลเล ที่พบเห็นสตรีอื่นก็จะเปลี่ยนใจได้ง่าย ในเมื่อข้าหายดีก็เป็นเพราะนาง มีเงินมากมายก็เป็นเพราะนาง แล้วจะมีเหตุผลใดที่ข้าจะไม่ต้องการใช้ชีวิตกับนาง”หลิงเฟิ่งยังเม้นปากแน่น นางพอจะเชื่อว่าตระกูลซ่งรักนางจากใจจริง แต่นางยังไม่มั่นใจที่จะใช้ชีวิตเช่นสามีภรรยากับชุยหยุน“ไว้ท่านกลับเข้าไปเรียนอีกครั้ง แล้วสอบผ่านซิ่วไฉได้ หากยังต้องการสร้างครอบครัวกับข้าจริง ข้าจะไม่ปฏิเสธท่านแล้ว แต่หากพบเจอคนที่ท่านต้องการใช้ชีวิตมากกว่าข้า อย่างไรข้าก็ยังเป็นน้องสาวของท่านได้”“เช่นนั้นก็ว่ากันตามนี้ นี่ก็ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้เจ้ายังต้องเดินทางเข้าเมืองแต่เช้า เครื่องนอนก็ยังมิได้เปลี่ยน”จูซื่อเอ่ยยุติการสนทนาที่ดูท่าหากพูดกันต่ออย่างไรก็คงไม่จบในคืนนี้ หลิงเฟิ่งจึงได้ลุกขึ้นไปช่วยจูซื่อเปลี่ยนเครื่องนอนในห้องของนาง ก่อนจะกลับไปเปลี่ยนเครื่องนอนที่ห้องของตนเอง“ท่านว่า...ข้าไปนอนห้องท่านแม่ดีหรือไม่”หลิงเฟิ่งมองเตียงที่มีผ้าห่ม หมอน เพิ่มเข้ามาแล้ว หากขึ้นไปนอนสองคนก็ดูจะอึดอัดไม่น้อยเลย“ไม่ต้อง ใช้ผ้าห่มผืนเดียวก็พอ” ชุยหยุนเก็บผ

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   หลี่ซวงสร้างเรื่อง

    หากเขาได้รู้ตั้งแต่แรก คงยอมให้มารดาแต่งกับลุงกู้ไปนานแล้ว ตอนที่คิดว่าจะจบชีวิตลง ยังเป็นห่วงมารดาว่านางจะอยู่เพียงผู้เดียว“แม่...แม่” นางจูซื่อทั้งเขินอาย ทั้งไม่รู้จะหาคำใดมาพูดกับลูกชายดี นางจึงได้แต่อ้าปากและหุบปากลง“หากพวกท่านต้องการที่จะใช้ชีวิตด้วยกัน ข้าเองก็ไม่มีสิ่งใดที่จะขัด ข้าขอท่านลุงเพียงเรื่องเดียว...อย่าทำให้ท่านแม่ข้าเสียใจก็พอ” ชุยหยุนเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง“ได้ๆ ข้าไม่มีทางทำให้จูจูนางเสียใจเป็นอันขาด” ลุงกู้พยักหน้าอย่างรวดเร็วหลิงเฟิ่งได้แต่เบิกตากว้าง ถึงขั้นเรียกนามกันอย่างสนิทสนมเช่นนี้ คงดูใจกันมานานมากแล้วแน่ๆ“ข้าบอกพวกเจ้าแล้ว อาหยุนมิใช่คนไม่รู้ความหากพวกเจ้าบอกตั้งนาน ป่านนี้ก็มีลูกน้อยมาวิ่งเล่นแล้ว” ป้าจินเอ่ยเย้าออกมาหลิงเฟิ่งก็พยักหน้าน้อยๆ อย่างเห็นด้วย แม่สามีของนางยังไม่ถึงสี่สิบหนาว หากนางแข็งแรงมากพอเรื่องมีบุตรไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้“พวกข้ากลับก่อนดีกว่า พวกเจ้าก็ค่อยๆ คุยกันไป จะจัดงานมงคลเมื่อใดก็บอกข้าด้วยเล่า” ป้าเหลียนโบกมือลา ก่อนจะลากอาไฉที่มองคนนั้นทีคนนี้ทีกลับไปด้วยกันนางยังได้ยินเสียงอาไฉ ร้องตะโกนให้ป้าเหลียนไปหาสตรีมาแต่งเป็น

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   เรื่องที่ชุยหยุนไม่เคยรู้

    ชาวบ้านที่ออกมารอรับ เมื่อเห็นเกวียนวัวมิได้มีชุยหยุนและหลิงเฟิ่งลงมา ต่างก็รีบวิ่งตามเกวียนวัวที่เคลื่อนตัวไปทางเรือนตระกูลซ่งทันทีแม้ชาวบ้านคนอื่นจะสงสัย แต่ก็ไม่ได้คิดที่จะตามไป ชาวบ้านที่วิ่งตามคงฝากเจ้าของเกวียนวัวกับชุยหยุนซื้อของ เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในหมู่บ้านที่ห่างไกลเมือง จนเป็นเรื่องชินตาอยู่แล้วหลิงเฟิ่งนางเอาเงินส่วนของพวกลุงกู้ออกมาใส่ไว้ในตะกร้าแล้ว พอมาถึงเรือนชุยหยุนก็ส่งสายตาบอกบุรุษทั้งสาม ว่าตั๋วเงินอยู่ในตะกร้า ก่อนจะจูงหลิงเฟิ่งที่กลับมาแกล้งบ้า เข้าไปพักเรือนก่อนป้าเหลียนกับป้าจิน ถูกสามีและบุตรชายดันตัวให้เข้าไปช่วยชุยหยุนประคองหลิงเฟิ่งไปส่งในเรือน พวกนางจึงได้รับเข้าไปทำหน้าที่แทนชุยหยุนทันที“เจ้าไปคุยกับชาวบ้านเถิด ข้าจะพาเฟิ่งเออร์ไปพักเอง” ชุยหยุนเข้าใจในคำพูดของป้าเหลียน เขาจึงปล่อยมือหลิงเฟิ่งแล้วเดินไปหาหัวหน้าหมู่บ้านแทน“ห้องเจ้าแคบ ไปห้องข้าดีกว่า” จูซื่อเห็นว่าป้าเหลียนกับป้าจินจะตามหลิงเฟิ่งเข้าไปสอบถามความในห้อง จึงได้ขวางหน้าเอาไว้สตรีทั้งสี่คนอยู่ภายในห้องนอนของจูซื่อ ทั้งยังลงกลอนไว้อย่างแน่นหนาแล้วด้วย“พวกท่านรับปากข้าก่อน ห้ามร้องออกมา

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   ข้ารู้สึกว่ามีคนมอง

    ทั้งสองที่รอให้เสี่ยวเอ้อไปชั่งหญ้าหนอน จึงสอบถามว่าหมอถานยังรับเพิ่มอีกหรือไม่ ตอนนี้ชาวบ้านกำลังเก็บอยู่ พรุ่งนี้คงจะนำมาขายให้อีกรอบได้“หมู่บ้านหู่เซิง มีหญ้าหนอนมากเพียงนี้เลยรึ” เขาเอ่ยถามออกมาอย่างสงสัยด้วยที่ผ่านมาไม่เคยมีชาวบ้านเก็บมาขายเลย หรือว่าจะไม่รู้จักก็เห็นจะไม่ใช่ ราคาที่สูงของโสม เห็ดหลินจือ หญ้าหนอน ทำให้ชาวบ้านที่ขึ้นเขาได้แต่หวังว่าจะโชคดีพบเจอสักเล็กน้อย“ขอรับ อาจจะเป็นความโชคดี ที่พวกข้าได้บังเอิญไปพบบนภูเขาที่ชาวบ้านไม่ได้เข้าไปหาของป่า”“เป็นเช่นนี้เอง” หมอถานพยักหน้าอย่างเข้าใจครั้งนี้เขาคงไม่ให้หลงจู๊เดินทางไปส่งของที่เมืองหลวงแล้ว คงจะเดินทางไปด้วยตนเองแทนเสี่ยวเอ้อเดินเข้ามาแจ้งเรื่องจำนวนหญ้าหนอนที่ชั่งได้ ของพวกลุงกู้เก้าชั่ง เป็นเงินสองพันเจ็ดร้อยตำลึงทอง ของหลิงเฟิ่งยี่สิบห้าชั่ง เป็นเงินมากถึงหนึ่งหมื่นสองพันห้าร้อยตำลึงทองค่าเงิน1 อิแปะ, เหวิน = 1 เหรียญทองแดง1 ก้วน = 1,000 อิแปะ /เหวิน/เหรียญทองแดง1 ตำลึงเงิน = 1ก้วน (พวง)1 ตำลึงทอง = 10 ตำลึงเงินแม้แต่หลิงเฟิ่งเองก็ตกใจกับน้ำหนักหญ้าหนอนหนึ่งตะกร้า ดูจะมากกว่าที่นางขายผักเมื่อชีวิตที่แล้

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   เข้าเมืองขายหญ้าหนอน

    เกวียนวัวเริ่มเคลื่อนตัวออกจากหมู่บ้าน หลิงเฟิ่งที่ทนแรงเขย่าไม่ให้ก็เอนตัวพิงเกวียนเพื่อหลับตาพักผ่อน นางกลัวจะอาเจียนออกมา หากไม่ข่มตาหลับ ชุยหยุนเห็นเช่นนั้นจึงประคองศีรษะของนางให้พิงมาที่ไหล่ของเขาแทน“หึ มิคิดว่าเจ้าจะดูแลนังบ้าดีเช่นนี้” หลี่ซวงอดที่จะถากถางออกมาไม่ได้ ยิ่งมองรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของหลิงเฟิ่งเขาก็ยิ่งไม่ชอบใจนางคงจะอยู่ดีกินดี ถึงได้เริ่มมีน้ำมีนวล อีกทั้งใบหน้าที่เคยซูบผอมไม่ชวนมองก็เริ่มเผยความงามออกมาแล้ว“เจ้าควรจะดีใจ ที่ตระกูลซ่งของข้าดูแลนางดีเช่นนี้ หรือว่า...เจ้ามิใช่พี่ชายของนาง” หากมองดูดีๆ หลิงเฟิ่งก็ไม่ได้มีส่วนใดที่คล้ายกับคนตระกูลหลี่เลย จะบอกว่านางเหมือนมารดาของนางก็คงไม่ใช่ มารดาของหลิงเฟิ่งปากหนา ตาเล็ก จมูกก็มิได้เป็นสันโด่งเช่นนั้นนาง“ผู้ใดอยากจะมีน้องสาวเสียสติเช่นนาง ตอนนี้นางก็ถูกตระกูลหลี่ตัดขาดไปแล้ว ต่อไปเจ้าอย่าได้อ้างถึงคนตระกูลหลี่อีก”นี่คือสิ่งที่ชุยหยุนอยากได้ยินจากปากของหลี่ซวง ในเกวียนมีชาวบ้านในหมู่บ้านอีกนับสิบ สิ่งที่เขาพูดในวันนี้ย่อมมีผลภายหน้าอย่างแน่ตลอดสองชั่วยามที่เดินทางเข้าเมือง ไม่ว่าหลี่ซวงจะพูดสิ่งใดต่อ ชุยหยุนก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status