รุ่งเช้าวันต่อมา
วันนี้หลี่หนิงซินตั้งใจจะพาลูกสาวออกไปปั่นจักรยานดูร้านรับซื้อนาฬิกา แต่เธอก็ยังไม่มั่นใจว่ายุคนี้จะมีร้านแบบนั้นหรือไม่ ค่ำคืนที่ผ่านมาเธอกับลูกนอนหลับพักผ่อนอยู่ในมิติ บางเวลาหนิงซินก็แอบออกมาดูนอกมิติว่าโจรขโมยไหมแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"วันนี้กินข้าวต้มดีไหมลูก"
"ดีค่า แม่จ๋ากิงโก๋โก๋ด้วยได้ม้าย" (ดีค่ะ แม่จ๋ากินปาท่องโก๋ด้วยได้ไหม)
"โก๋โก๋?"
"โก๋โก๋เมื่อวางงายแม่จ๋า" (ปาท่องโก๋เหมือนที่กินเมื่อวานไงแม่จ๋า)
"อ๋อ ปาท่องโก๋ที่ร้านคุณยายเหรอลูก"
"ช่ายค่า"
"ได้ ๆ เดี๋ยวแม่พาเดินออกไปซื้อ ขอแม่ต้มหม้อน้ำซุปไว้ก่อนนะคะ หนูนั่งเล่นตัวต่อรอแม่จ๋าก่อนนะ"
สองแม่ลูกพูดคุยกันระหว่างที่เดินลงจากบันไดชั้นสองของร้านอาหาร หลังจากตกลงกันได้ต่างคนก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง หนูน้อยเสี่ยวเปาไปนั่งเล่นอยู่ในคอกกั้นเล็ก ๆ ของเด็ก ในนั้นมีทั้งตุ๊กตาเจ้าหญิง และตัวต่ออีกหลายอย่างให้เลือกเล่น
"เป่าเปาหนูอยากกินข้าวต้มอะไรลูก หมู กุ้งหรือปลา"
"จุ้งตัวโต ๆ ค้า" (กุ้งตัวโต ๆ ค่า)
"ได้เลย"
หนิงซินตั้งหม้อน้ำซุปแล้วใส่กระดูกหมูลงไป ตามด้วยเกลือ รากผักชีและพริกไทดำอีกเล็กน้อย เธอดูความแรงของไฟให้อยู่ในระดับปานกลางพอเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วจึงเรียกเป่าเปาให้ออกจากมิติไปพร้อมกัน
"แม่จ๋าเสร็จแล้วลูก ไปซื้อปาท่องโก๋กันค่ะ"
"ไปแย้วแม่จ๋า เป่าเปาขอฉามตัวน๊า" (เป่าเปาขอ 3 ตัวนะ)
"ได้เลยจ้ะ"
หนิงซินพาลูกน้อยออกจากมิติแล้วเดินออกไปที่หน้าบ้านเช่า เมื่อปิดล็อกกุญแจเรียบร้อยทั้งคู่จึงจับมือกันเดินออกไปที่หน้าปากซอย ด้วยว่าตอนนี้เป็นเวลาเพียง 7.30 น. อากาศเย็นสบายจึงถือว่าได้เดินเล่นไปในตัว
บรื้นนนนน
"โฮ๊ะ แม่จ๋ารกเยอะแยะเยย ฮะ ฮะ"
หนูน้อยเสี่ยวเปาชี้ไปที่รถคันใหญ่ที่วิ่งสวนกันไปมาบนถนนไม่ต่างจากเมื่อวานที่ผ่านมา บ่อยครั้งที่หนิงซินต้องตอบคำถามลูกน้อยที่เพิ่งมีโอกาสได้เห็นสิ่งใหม่ ๆ แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่เธอเหนื่อยหน่ายกับคำถามมากมายของยัยหนู
"ดูได้แต่จำที่แม่จ๋าบอกได้ไหมคะ ห้ามอะไรเอ่ย?"
"ห้ามกั้ย ๆ ตูกม้ายแม่จ๋า" (ห้ามเข้าใกล้ถูกไหมแม่จ๋า)
"ถูกต้อง ลูกสาวแม่จ๋าเก่งมาก หนูเดินไหวไหม ให้แม่จ๋าอุ้มไหมลูก"
"ไหวค่า"
ทั้งคู่เดินคุยกันไปเรื่อย ๆ ไม่นานก็ถึงร้านป้าเหยาที่ขายโอยั๊วะกับปาท่องโก๋ทอด ไม่ต่างจากทุกวันเพราะเป็นช่วงเช้าที่เร่งด่วน โต๊ะทุกตัวมีคนนั่งเต็มไปหมด หนิงซินจึงรีบสั่งปาท่องโก๋ตามที่ลูกน้อยของเธอต้องการ
"ป้าค่ะเอาโกปี๊ 1 นมชมพู 1 ปาท่องโก๋ 5 ตัว วันนี้ใส่ถุงนะคะ"
"อ้าวยัยหนูหนิงกับเสี่ยวเปาเองเรอะลูก มา ๆ เดินมานั่งในนี้ก่อน เดี๋ยวยายจะรีบทำให้"
"คุงค่ายายจ๋า"
สองแม่ลูกเดินอ้อมมานั่งใกล้ ๆ จุดที่ป้าเหยาชงน้ำ หญิงชราเห็นแบบนั้นจึงได้เอ่ยถามถึงความเป็นอยู่ในค่ำคืนที่ผ่านมา
"แล้วเมื่อคืนเป็นยังไงบ้างลูก พออยู่กันได้ไหม"
"อยู่ได้ค่ะป้า ฉันรบกวนถามอะไรป้าสักหน่อยได้ไหมคะ"
"ว่ามาเลยลูก ไม่ต้องเกรงใจ"
มีบางจังหวะที่ป้าเหยาหันมาพูดคุยกับหนิงซิน โชคดีที่ป้าแกมีลูกมือคอยช่วยขายของอีก 2 คน จึงไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่
"ป้าพอจะรู้จักร้านรับซื้อนาฬิกา หรือว่าโรงรับจำนำบ้างไหมคะ"
"อืม มันก็มีอยู่ แต่ต้องระวังตัวหน่อยนะลูก ขยับเข้ามาใกล้ ๆ ป้าเร็วเข้า"
หนิงซินยอมขยับเข้าไปใกล้ ๆ ตามที่ป้าเหยาบอก เธอพยายามตั้งใจฟังสิ่งที่ป้าเหยากระซิบบอกที่หมายที่เธอต้องไป แต่ด้วยเส้นทางที่สลับซับซ้อนจึงทำให้เธองุนงงอยู่บ้าง
"..."
"จำได้แล้วใช่ไหมลูก"
"เอ่อ ค่ะป้า นี่เป็นค่าน้ำกับปาท่องโก๋นะคะ"
ของที่เธอสั่งเสร็จพอดี หนิงซินจึงยื่นเงินที่เตรียมมา 1 หยวน 1 เหมา ให้กับป้าเหยา แล้วขอตัวพาลูกน้อยกลับบ้านด้วยความเป็นห่วงหม้อน้ำซุปที่เธอตั้งไว้
"ขอบใจมากลูก ไปที่ที่ป้าบอก เค้าให้ราคาดี"
"ค่ะ "
"กะก่องนะค้าคุงยาย พุ่งนี้เป่าเปามาอีกค่า" (กลับก่อนนะคะคุณยาย พรุ่งนี้เป่าเปามาอีกค่า)
"จ้า ๆ อย่าลืมมาหายายนะ"
"ค้า"
หนูน้อยเสี่ยวเป่าตอนนี้สดใสและยิ้มง่ายขึ้น ไม่นานก็รู้จักโปรยเสน่ห์ไปทั่วจนคนเฒ่าคนแก่ต่างก็เอ็นดู หลังจากสองแม่ลูกเดินกลับเข้าซอยไป ชางหยวนที่นั่งหันหลังให้หนิงซินก็มองตามสองคนแม่ลูกจนลับตา
"จะไปไหนครับลูกพี่"
หมิงเจ๋อเอ่ยถามผู้เป็นนายที่นั่งกินโอยั๊วะกับปาท่องโก๋ที่อยู่ ๆ ก็ลุกพรวดพราดอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
"วันนี้ให้เถียนซ่วยดูงานที่บ้านปันสุขไปก่อน ส่วนนายตามฉันมานี่"
พูดจบชางหยวนก็ควักเงินออกมาจ่ายค่าน้ำชากาแฟให้ลูกน้องรวมไปถึงคนงานก่อสร้างทุกคน จากนั้นก็ขึ้นมอเตอร์ไซค์คู่ใจแล้วให้ลูกน้อยอย่างหมิงเจ๋อซ้อนท้าย
"จะไปไหนครับลูกพี่ เดี๋ยวผมขับให้เองครับ"
"ไม่ต้อง อยู่เงียบ ๆ"
หมิงเจ๋อจำต้องปิดปากให้สนิทแล้วนั่งซ้อนท้ายไปเงียบ ๆ เพื่อรอดูว่าลูกพี่ของเขาจะทำอะไร ชางหยวนขับมอเตอร์ไซค์ไปเรื่อย ๆ เพื่อจะดูว่าบ้านหนิงซินกับลูกพักอยู่บ้านหลังที่เขาสงสัยจริงหรือไม่
พอเห็นว่าทั้งคู่เลี้ยวเข้าไปในบ้านเช่าเลขที่ 8 จริง ๆ เขาจึงขับรถผ่านไปไม่ให้มีพิรุธ ก่อนจะกลับรถออกมาแล้วเปลี่ยนให้ลูกน้องมาขับแทน
"นายมาขับไปส่งฉันที่ร้านรับซื้อของในตลาดมืด เสร็จแล้วให้นายรีบเอาแผนที่ร้านมาโยนเข้าไปที่บ้านหลังนั้น เข้าใจที่ฉันสั่งใช่ไหม"
"บ้านของสองแม่ลูกที่คุยกับป้าเหยาเมื่อกี้เหรอครับ ลูกพี่ดูแปลกไปนะครับรู้ตัวไหม ผมไม่เคยเห็นลูกพี่จะสนใจเรื่องของคนอื่นซะหน่อย คนรู้จักก็ไม่ใช่"
พั๊วะ!
"ทำตามที่ฉันสั่งก่อนจะโดนมากกว่านี้"
"โอ๊ยลูกพี่ ถึงขั้นโบกหัวผมขนาดนี้คงไม่ธรรมดาแล้วมั้งครับ"
"ยังอีก!"
"ครับ ๆ ขึ้นมาเลย รับรองว่าผมจะตั้งใจเขียนแผนที่ให้ดี อาซ้อจะได้ตามไปหาลูกพี่ถูก"
ป้าบ!
"เล่นไม่เลิก"
"ครับ ๆ หยุดแล้วครับ"
ถึงแม้หมิงเจ๋อจะได้กินขนมตุ๊บตั๊บไปสองที แต่ในหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เท่านี้เขาก็แน่ใจแล้วว่าลูกพี่ของเขาต้องสนใจผู้หญิงคนนี้มากแน่นอน ไม่แน่เธออาจจะได้กลายมาเป็นอาซ้อของพวกเขาก็เป็นได้ หากว่าลูกพี่ของพวกเขามีความกล้าพอ
หนิงซินกับเป่าเปาพอกลับถึงบ้านก็รีบเข้าไปในมิติแล้วทำข้าวต้มกุ้งกินคู่กับปาท่องโก๋กรอบ ๆ และเครื่องดื่มร้อน ๆ ที่ได้มาจากร้านป้าเหยาทันที ใช้เวลาไม่ถึง 30 นาทีสองคนแม่ลูกก็อิ่มแปล้ และเตรียมตัวจะออกไปตะลุยในเมืองใหญ่ต่อ
แอดดด
"เป่าเปาออกมาเร็วลูก"
"มาแย้วแม่จ๋า"
สองแม่ลูกเดินออกจากบ้านมาในชุดกางเกงทะมัดทะแมงเพื่อให้ปั่นจักรยานได้สะดวก นาฬิกาที่หนิงซินเตรียมมาเธอเอาใส่ถุงผ้าแล้วเรียงใส่ตะกร้าหน้ารถ ระหว่างนั้นสายตาของหนิงซินก็หันไปเห็นกระดาษสีขาววางอยู่บนพื้นภายในรั้วบ้านเธอจึงเดินไปหยิบขึ้นมาดู
"แผนที่เหรอ สงสัยจะเป็นป้าเหยา"
หนิงซินทำความเข้าใจกับแผนที่ในกระดาษที่เธอคิดว่าป้าเหยาเป็นคนนำมาให้ หลังจากนั้นก็ปิดล็อกบ้านแล้วพาลูกน้อยปั่นจักรยานไปยังตลาดมืดตามที่เขียนอยู่ในแผนที่ ยังดีที่เธอไม่ลืมจะปิดบังใบหน้าของเธอกับลูกสาวเอาไว้
"เป่าเปาถ้าร้อนบอกแม่นะลูก"
"ค่า"
สองแม่ลูกปั่นจักรยานไปตามทางเรื่อย ๆ บนถนนที่วุ่นวายพอสมควร ส่วนใหญ่จะเป็นจักรยานและสามล้อลาก บางครั้งก็มีรถยนต์และสามล้อเครื่องขับสวนกันไปมาเป็นระยะ กว่าจะมาถึงที่หมายได้ก็เล่นเอาหนิงซินเหงื่อออกไปไม่น้อย เพราะความไม่คุ้นชินกับการจราจรที่สับสนวุ่นวายกว่าที่เคยเจอมา
เมื่อถึงจุดหมายที่เป็นประตูสีดำตามที่มีบอกในแผนที่ หนิงซินจอดจักรยานไว้ปากทางเข้า เสร็จแล้วปกปิดใบหน้าของเธอกับลูกน้อยให้เรียบร้อยแล้วถือกระเป๋าผ้าที่อยู่หน้าตะกร้าหน้าจักรยานเดินไปหาคนเฝ้าประตู
"เป่าเปา หนูซบไหล่แม่ไว้นะลูก หันเข้ามาหาแม่ ไม่ว่าจะได้ยินอะไรก็ห้ามพูดเด็ดขาด ถ้าเข้าใจแล้วพยักหน้าให้แม่รู้ด้วย"
"อื้อ"
หนูน้อยเป่าเปาทำตามที่แม่จ๋าของเธอบอกทุกอย่าง หนิงซินที่เห็นว่ามีคนคอยเข้าอยู่หน้าประตูทางเข้าตามที่ในใบแผนที่บอกเธอจึงรีบเดินเข้าไปถามอย่างระแวดระวัง เพราะที่นี่ดูลึกลับซับซ้อนพอตัว แต่ละคนที่เข้าออกก็ปิดหน้าปิดตาอย่างดี
"พี่ชายจ๊ะ ฉันขอถามหน่อยได้ไหมว่าร้านนี้ต้องไปยังไง"
ชายหน้าตาดุดันหันมาตามเสียงเรียก เขาก้มมองดูกระดาษที่หนิงซินยื่นมาตรงหน้า ทันทีที่เห็นสัญลักษณ์บางอย่างก็ทำให้เขารู้ทันทีว่าต้องดูแลผู้หญิงคนนี้ให้เธอไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
"เดินตามผมมาทางนี้เลยครับ"
"เอ่อ คือฉันจอดจักรยานไว้ตรงนี้ได้ไหมคะ"
"ไม่ต้องห่วงครับ จะไม่มีใครแตะต้องสิ่งของของคุณ"
ชายคนดังกล่าวส่งสายตาให้คนที่เหลือจัดการต่อ ส่วนเขาก็รีบนำหน้าหนิงซินไปที่ร้านรับซื้อของตามในแผนที่ทันที ตลอดทางหนิงซินสังเกตเห็นการคุ้มกันของที่นี่ แม้กระทั่งการเข้าออกที่ดูมีลับลมคมในมันทำให้เธอนึกได้อย่างเดียวก็คือที่นี่เป็นตลาดมืดที่ค้าขายสิ่งของผิดกฎหมายแน่ ๆ
ตลอดสองข้างทางที่เธอเดินไปมีทั้งแผงลอยและแบบที่เช่าเป็นร้าน บางร้านก็มีพวกอาวุธปืนวางเรียงขายได้อย่างเปิดเผย บางร้านก็คล้ายร้านขายยา หรือสมุนไพรต่าง ๆ แต่สมุนไพรประเภทไหนกันล่ะที่จะมาวางขายในตลาดแห่งนี้ ถ้าไม่ใช่สมุนไพรที่ผิดกฎหมายและให้โทษร้ายแรงต่อร่างกาย
"ถึงแล้วครับ ผมจะรอคุณตรงนี้เพื่อพาคุณกลับออกไปส่งที่ทางเข้า"
คนดูแลพาหนิงซินกับลูกมาหยุดอยู่ที่ร้านตามกระดาษที่ได้ดู ก่อนจะเปิดประตูให้เธอเดินเข้าไปข้างในได้อย่างสะดวก
"เดี๋ยวฉันเดินไปเองก็ได้ค่ะพี่ชาย ขอบคุณมากนะคะที่พามาส่ง"
"ไม่ได้ครับ ในนี้มีแต่คนมากเล่ห์ เป็นหน้าที่ของผมที่ต้องส่งคุณออกไปให้สำเร็จ รีบเข้าไปทำธุระเถอะครับ"
พอได้ยินที่ฝ่ายตรงข้ามพูดยิ่งทำให้หนิงซินคิดว่าเธอไม่ควรมาที่นี่บ่อย ๆ ครั้งแรกเธอคิดว่าจะเอานาฬิกาออกมาขายครั้งละ 10 เรือนแล้วค่อยมาอีกเรื่อย ๆ แต่พอเห็นแบบนี้ดูท่าว่าเธอคงต้องเปลี่ยนความคิดซะแล้ว
4 ปีต่อมาหน้าหลุมฝังศพขนาดเล็กถูกหนิงซินเช็ดทำความสะอาดเป็นอย่างดีเมื่อถึงวันครบรอบการสูญเสีย ดอกไม้ช่อใหญ่กับของกินอีกหลายอย่าง ที่เป็นของชอบของผู้ที่จากไปถูกจัดเรียงไว้อย่างพร้อมสรรพ"ต้าเป่า มาวางดอกไม้ให้พี่ได้แล้วลูก วันนี้ลูกมีอะไรจะเล่าให้พี่เค้าฟังไหมครับ"หนิงซินเรียกลูกชายคนเล็กที่กำลังถือดอกไม้ช่อเล็ก ๆ ให้เข้าไปพอคุยกับพี่ใหญ่ของเขาเหมือนเช่นทุกครั้งที่มาที่นี่ "พี่หย่าย ต้าเป่าอาวดอกไม้มาห้ายคับ มีฟุกบองด้วย" (พี่ใหญ่ต้าเป่าเอาดอกไม้มาให้ครับ มีฟุตบอลด้วย)เจ้าหนูตัวน้อยชางต้าเป่าค่อย ๆ เดินเอาดอกไม้ไปใส่แจกันตามที่ผู้เป็นแม่บอก แล้ววางลูกฟุตบอลเล็ก ๆ เอาไว้ใกล้ ๆ ของเซ่นไหว้"...""วังนี้ต้าเป่ามีของเล่งมาฝากเยอะแยะเยยนะค้าบ พี่หย่ายเล่งด้วยกังม๊ะ"(วันนี้ต้าเป่ามีของเล่นมาฝากเยอะแยะเลยนะครับ พี่ใหญ่เล่นด้วยกันไหม)หนิงซินที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ร้องไห้ออกมาเป็นสาย แม้ว่าจะผ่านไปกี่ปีเหตุการณ์นั้นก็ยังกลายเป็นภาพติดตาเธออยู่ตลอด ชางหยวนที่เห็นภรรยาเศร้ามากก็ได้แต่รีบมาปลอบใจให้อีกฝ่ายดีขึ้น "ต้าเป่ามาถึงนานรึยัง น้องคงได้เล่นกับพี่ใหญ่ก่อนพี่แล้วสิ""เป่าเปา เย้ เป่าเปามาแย
1 เดือนผ่านไปชีวิตของหนิงซินมีความสุขขึ้นมากตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา การใช้ชีวิตในบ้านหลังใหม่ที่มีพื้นที่ให้ยัยหนูกับเจ้าอาหยุนได้มีที่วิ่งเล่น มันทำให้บ้านเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะความสัมพันธ์ระหว่างชางหยวนกับบิดาก็ค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ ทั้งหมดก็ต้องยกให้เป็นความดีความชอบของยัยหนูเป่าเปา มีอยู่วันหนึ่งคุณปูแวะมาทานข้าวที่ร้าน ยัยหนูเลยคุยจ้อเรื่องเจ้าอาหยุนเพื่อนรักสี่ขา และคะยั้นคะยอให้คุณปู่กลับบ้านไปด้วยกันจากนั้นมานายท่านชางก็เทียวแวะเวียนไปหาหลานสาวที่บ้านหลังใหม่เป็นประจำ ชางหยวนที่เคยใจแข็งก็ต้องโอนอ่อนตามคำขอของลูก มื้อเย็นหลายต่อหลายวันเข้าก็ทำให้ทั้งคู่ได้เริ่มพูดคุยกันบ้างแม้จะยังเคอะเขินอยู่ก็ตาม"หนิงซิน"ช่วงบ่ายของวันที่ลูกค้าจางลงบ้างแล้ว ระหว่างที่หนิงซินกันลูกน้องรวมไปถึงยัยหนูเป่าเปากำลังนั่งพักอยู่ในร้าน อยู่ ๆ เสียงที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินอีกก็ดังขึ้นจากหน้าร้าน ทำเอาหนิงซินต้องเงยหน้าจากเอกสารแล้วมองดูผู้มาเยือน"มู่ปิงเฉิงอย่างนั้นเหรอ! คุณมาที่นี่ทำไม?"อยู่ ๆ เรื่องที่เฉิงฮวนเคยเตือนเธอไว้ก็ผุดขึ้นมาในหัวของหนิงซิน ดูจากสีหน้าของมู่ปิงเฉิง คาดว่าตอนนี้
หลังจากมรสุมและเรื่องยุ่ง ๆ ผ่านไปตอนนี้ก็เป็นเวลากว่า 2 อาทิตย์แล้วที่เยว่ชิงกับน้องสาวเข้ามาช่วยงานที่ร้ายของหนิงซิน เยว่เล่อเรียนรู้ขั้นตอนการทำอาหารกับหนิงซินเพียงไม่กี่วันก็คล่องตัว หนิงซินไม่ได้ห่วงเรื่องรสชาติ เพราะน้ำซอสทุกอย่างเธอเป็นคนเตรียมเอาไว้ให้แล้ว แทนที่มีผู้ช่วยเข้ามาจะทำให้เธอว่างงานลงบ้างแต่ไม่ใช่เลย ตอนนี้หน้าที่ควบคุมการเงินและดูแลบัญชีของชางหยวน ตกมาเป็นหน้าที่ของเธอจนหมด พอเลิกงานสองคนพ่อลูกก็แอบพากันออกไปนอกบ้านทุกวัน ซึ่งเหตุผลแต่ละวันก็ไม่ซ้ำกันเลย"หวัดดีจ้ะหนิงซิน"หนิงซินเงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียกก็พบว่าเป็นชางพ่านเอ๋อกับชางจื่ออัน ญาติผู้พี่ของสามีมาหาถึงที่ เธอจึงรีบลุกขึ้นไปต้อนรับ "อาซ้อ เฮีย สวัสดีค่ะ เชิญนั่งก่อนค่ะ เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมาให้นะคะ""หวัดดี แล้วสองพ่อลูกพากันไปไหน ทำไมไม่เห็นได้ยินเสียงเลย"ชางจื่ออันที่ตั้งใจจะมานั่งเล่นกับหลานสาวตัวน้อยเอ่ยถามด้วยความสงสัย เขามีของมาฝากยัยหนูแก้มซาลาเปาตั้งหลายอย่าง ถ้าไม่ได้ให้เองกับมือคงเสียดายแย่เลย"อีกเดี๋ยวก็มาค่ะเฮีย ช่วงนี้ไม่รู้ทำไมชอบพากับออกจากบ้านหลังเลิกงาน แล้วก็ไปกันสองคนพ่อลูกด้วยนะคะ ทำ
12.00 นหมิงเจ๋อกับเถียนซ่วยรีบมาขนเสบียงอาหารไปที่จุดซ่อมแซมจุดที่ 2 ซึ่งอยู่หมู่บ้านถัดไปอีกไม่ไกล หนิงซินได้เอาผลไม้ของเฉิงฮวนออกมา 4 กล่อง แบ่งไปจุดละ 2 กล่องไม่นานคนงานรวมถึงชาวบ้านก็นำถ้วยของตัวเองมาตักเอาอาหารที่สามสาวช่วยกันเตรียมไว้ ส่วนยัยหนูเป่าเปาก็มาช่วยแม่จ๋าของเธอแบ่งผลไม้ใส่จานไปให้คนงานที่นั่งกินข้างเป็นกลุ่ม ให้ได้กินกันอย่างทั่วถึง"ผงไม้ค่า ผงไม้มาแย้ว""ขอบคุณครับคุณหนู เจริญ ๆ โตเร็ว ๆ นะครับ""คุงค่าคุงลุง""กับข้าวนี่เรียกว่าอะไรจ๊ะคุณนาย อร่อยมากเลย ทั้งหมู ทั้งกุ้ง ทั้งกุนเชียง ถ้าคุณนายไม่มาพวกเราคงไม่ได้กินดีอยู่ดีขนาดนี้"หญิงสูงวัยที่เป็นคนงานในบริษัทเอ่ยขึ้นด้วยความตื้นตันใจ เมื่อมองดูถ้วยอาหารที่พูนเต็มไปด้วยเนื้อสัตว์และเครื่องเคียงนานาชนิด"ข้าวอบเผือกค่ะคุณป้า ฉันก็อยากจะทำอาหารกลางวันไปส่งให้ทุกวันนะคะ แต่ติดตรงที่ร้านไม่มีคนช่วย เอ๊ะ หรือว่า..เฮียคะ ฉันขอจ้างอาชิงกับอาเล่อไปช่วงงานที่ร้านได้ไหมคะ เผื่อตอนกลางวันจะได้เอาอาหารไปส่งให้เฮียได้สะดวกขึ้น"ชางหยวนที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับยิ้มหน้าบาน เป็นไปได้เขาอยากจะพาลูกเมียติดตามไปด้วยทุกที่เลยด้วยซ้ำ
เช้าวันนี้หนิงซินกับลูกตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมออกเดินทางไปกับสามีตามที่คุยกันเอาไว้เมื่อคืนที่ผ่านมา ช่วงนี้เธอตั้งใจที่จะปิดร้านอีกสัก 2-3 วัน แล้วตามไปรับหน้าที่ทำอาหารกลางวันให้คนงานที่รวมตัวกันไปช่วยซ่อมบำรุงบ้าน ให้เพื่อน ๆ ในบริษัทที่ประสบภัยจนครบทุกหลังชางหยวนเองก็ประกาศออกไปแล้วว่าจะจ่ายเงินค่าแรงให้ทุกคนเช่นเดิม พร้อมกับเพิ่มเงินช่วยเหลือให้อีก 1 เท่าของเงินเดือนตามที่คุณนายชางเรียกร้องมา"มีอะไรให้ช่วยไหมครับคุณแม่ พ่อจ๋ากับลูกสาวเสร็จแล้วนะครับ"หนิงซินที่กำลังจัดอุปกรณ์และวัตถุดิบต่าง ๆ ใส่ในหม้อและกระทะใบใหญ่ พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าพ่อลูกอาบน้ำแต่งตัวหอมฉุยเดินลงมาจากชั้นสองแล้ว"เสร็จพอดีค่ะ นั่งกินข้าวก่อนไหมคะ พี่หมิงเจ๋อกับพี่เถียนซ่วยยังไม่มาเลย""ได้ครับ ยัยหนูของพ่อจ๋าก็นั่งตรงนี้นะลูก วันนี้เราต้องออกไปช่วยคุณลุงคุณป้าซ่อมบ้านกันนะคะ""ได้เยยค้า ป้อจ๋าไปหน๋ายเป่าเปาไปด้วย" (ได้เลยค่า พ่อจ๋าไปไหนเป่าเปาไปด้วย)ฟอดด"พ่อจ๋ารักหนูที่สุด"จุ๊บ จุ๊บ"เป่าเปาก็ยังป้อจ๋าตี้ฉุด"หนิงซินจ้องมองสองคนพ่อลูกที่บอกรักกันอย่างชื่นมื่น เธอจึงรับตักซุปปูที่ทำไว้เมื่อคืนกับสเต๊ก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก"หมวยซิน เปิดประตูให้เฮียหน่อย"ชางหยวนกลับมาถึงร้านเกือบ 4 ทุ่ม แต่หนิงซินก็นั่งทำบัญชีเงินเก็บของเธอรอ จนกว่าสามีของเธอจะกลับมา เมื่อได้ยินเสียงของเขาเธอก็รีบหยิบกุญแจออกไปเปิดประตูอย่างรวดเร็ว"มาแล้วค่ะ"แอดด ครืดดด"ขอบคุณครับ""แล้วนั่นพี่หมิงเจ๋อกับพี่เถียนซ่วยกลับเลยเหรอคะ เข้ามากินข้าวก่อนไหม"หนิงซินมองเห็นลูกน้องของสามีทั้งสองคนกำลังจะออกรถ จึงรีบชวนทั้งคู่ลงมากินข้าวก่อน กลับไปดึกขนาดนี้คงไม่มีแรงทำอะไรกินเองแน่ ๆ"พวกเราไม่รบกวนดีกว่าครับคุณนาย ก่อนหน้านี้ลูกพี่แบ่งอาหารให้พวกเรากินแล้วครับ"หมิงเจ๋อรีบตอบกลับตามความจริง นอกจากอาหารที่ลูกพี่แบ่งให้ ยังมีน้ำใส ๆ ที่ดื่มลงไปแล้วรู้สึกสดชื่น บาดแผลเล็ก ๆ ตามตัวก็หายไปจนหมด แม้กระทั่งความเหนื่อยล้าก็ไม่หลงเหลือ"ถ้าอย่างนั้นขับรถกลับดี ๆ นะคะ""ครับคุณนาย"ชางหยวนรีบปิดประตูร้านอย่างมิดชิดทันทีที่ลูกน้องขับรถออกไป ระหว่างนั้นหนิงซินก็รีบไปจัดอาหารใส่จานออกมาให้สามีของเธอทว่า......"เฮียไม่หิวครับ แต่หิวอย่างอื่นมากกว่า"รอยยิ้มกรุ้มกริ่มกับนัยน์ตาเจ้าเล่ห์ทำให้หนิงซินยอมวางมือจากทุกอย่าง ก่อนที่เธอจะจับมือส