ท่าทางร้อนรนของอาฉู่ เสี่ยวเอ้อของที่นี่ ที่หลินเฟยคุ้นเคยเป็นอย่างดี เรียกความสนใจจากหลินเฟยได้ดีนัก เพราะท่าทางแบบนี้เดาไม่ยากเลยว่าคงทำอะไรผิดมาแน่ๆ
อะแฮ่ม
เสียงกระแอมของหลินเฟยเรียกความตกอกตกใจของอาฉู่ได้ดียิ่งนัก
"พี่สาวเฟย เป็นท่าน"
กล่าวพลางใช้มือลูบอก
"อาฉู่ มีอะไรหรือไม่ ข้าเห็นเจ้าลุกลี้ลุกลนยิ่งนัก"
กล่าวถามพร้อมสังเกตอาการคนตรงหน้าที่มีท่าทางลังเลใจไม่กล้าที่จะบอกกล่าวจึงเอ่ยต่อไปอย่างเป็นห่วง
"เจ้าสามารถบอกกล่าวพี่สาวได้ เผื่อข้าช่วยเหลือเจ้าได้"
"คือ ข้าลืมเอากำยานไปจุดในห้องพักของแขกตามที่เถ้าแก่เนี้ยสั่งไว้ จะไปตอนนี้ก็ปลีกตัวไปไม่ได้ ข้าต้องโดนดุอีกแน่"
"เรื่องแค่นี้เอง ทำไมต้องกลัวถึงขนาดนี้ด้วย ทำอย่างกับเรื่องคอขาดบาดตาย"
"แต่เถ้าแก่เนี้ย สั่งแล้วสั่งอีกว่าอย่าให้มีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้น"
เอ่ยพลางทำหน้าจะร้องไห้
"ห้องไหนล่ะ เดี๋ยวข้าไปจุดให้"
"จริงหรือขอรับ"
"อืม มันก็ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงอะไร"
"ขอบคุณพี่สาวเฟย ขอรับ"
"บอกมาเร็วๆ เดี๋ยวแขกกลับมาข้าไม่รู้ด้วยนะ"
"ชั้นสามห้องปีกขวาริมสุดขอรับ"
บอกพลางยิ้มหวานประจบมาให้
"ก็แค่นั้น"
หลินเฟยจึงเดินไปหยิบกล่องกำยานแล้วเดินไปยังห้องจุดหมายที่อาฉู่บอก
เมื่อก้าวเข้ามาภายในห้องก็หันมองรอบๆ ด้วยความสนใจ ห้องใหญ่ซะด้วยคงเป็นผู้มีอันจะกินกระมัง สายตาก็มองหาโถกำยาน ก็พบว่าวางอยู่ ตรงปลายเตียง จึงเดินเข้าไปจุดกำยานเมื่อเรียบร้อยแล้วจึงลุกขึ้น ยังไม่ทันได้หันหลังก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดและปิดอย่างรุนแรงจึงรีบหันกลับไปมองเห็นชายหนุ่มรูปงามร่างกายสูงใหญ่กำยำ ดูสง่าผ่าเผย คงเป็นคุณชายเจ้าของห้องกระมัง จึงส่งยิ้มขอโทษไปให้แล้วรีบกล่าว
"ข้าแค่เข้ามาจุดกำยานให้เจ้าค่ะ"
มองบุรุษตรงหน้าที่ดูมีท่าทางไม่ชอบมาพากลถึงหน้าตาจะดูคล้ายดังเทพเซียนแต่แววตาช่างเหมือนดังปีศาจหื่นกระหายอย่างไรอย่างนั้น
"เอ่อ ขอตัวเจ้าค่ะ"
แม่ทัพหยางหรงที่พยายามสะกดกลั้นอารมณ์กำหนัดรีบกลับเข้ามาในห้องแต่ดันเปิดเข้ามาเจอนางฟ้านางสวรรค์ที่ดูงามเย้ายวนนัก เขาที่พบเจอสตรีงดงามปานล่มเมืองมาก็มาก แต่ไม่มีสตรีใดที่ทำให้เกิดอาการตกตะลึงได้เท่าสตรีชุดขาวตรงหน้า ที่ทําให้ลมหายใจถึงกับสะดุด
ร่างบอบบางที่รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายอันตรายจึงรีบก้าวออกมาให้พ้นจากความน่าอึดอัดนี้แต่พอกำลังจะก้าวผ่านร่างหนากลับโดนกระชากอย่างแรงทำให้หน้าอกอวบหยุ่นปะทะหน้าอกแกร่งจนเกิดเป็นความร้อนประหลาดเกิดขึ้น
"โอ๊ย"
แม่ทัพหยางหรงที่พยายามอดทนกับฤทธิ์ยาถึงกับสติขาดผึง เมื่อร่างงดงามเย้ายวนก้าวผ่าน จมูกเจ้ากรรมกลับได้กลิ่นหอมอ่อนหวานจากกายนางจนยากที่จะตัดใจปล่อยผ่าน มือแกร่งเร็วกว่าความคิดรีบดึงรั้งร่างบอบบางมาแนบชิด เมื่อสัมผัสกับความนุ่มนิ่มละมุนมือและกลิ่นหอมเย้ายวนใจก็ลืมสิ้นความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ปล่อยกายใจให้ตกลงไปในหลุมเสน่หาอย่างไม่คิดที่จะยั้งกายใจอีกต่อไป
หลินเฟยที่ตกใจแทบสิ้นสติรีบยกมือบางขึ้นยันอกแกร่งที่นางรับรู้ได้ถึงอาการสั่นไหวของกายกำยำที่เหมือนกับกำลังอดกลั้นต่ออะไรบางอย่าง ลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดใบหน้างามมีกลิ่นสุราเจือจางในลมหายใจนั้นไม่ได้ทำให้นางนึกรังเกียจ จนตัวเองยังอดที่จะแปลกใจไม่ได้ ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้นางคงไม่เกิดแพ้ทางคนหน้าตาดีขึ้นมาหรอกนะ รีบรวบรวมกำลังทั้งหมดผลักร่างหนาใหญ่โตออกอย่างแรง แต่ให้ตายเถอะยิ่งพยายามวงแขนแกร่งยิ่งรัดแน่น ไม่นะอุตส่าห์รอดจากปากเหยี่ยวปากกามาได้ถึงสิบหกหนาว ข้าจะมาพลาดพลั้งกับบุรุษที่ไม่รู้จักแถมพึ่งเจอเมื่อกี้ไม่ได้เด็ดขาด ถึงแม้จะหน้าตาดีมากก็เถอะ
"ปล่อยข้า เดี๋ยวนี้นะเจ้าคนชั่ว"
มองเข้าไปในตาของบุรุษที่กอดนางไว้นั้น บุรุษผู้นี้คงโดนวางยาปลุกกำหนัดมาแน่ ทำไมนางถึงได้ซวยขนาดนี้นะ
"ท่านโดนวางยามาใช่หรือไม่ อดทนอีกนิดข้าจะไปตาม ฮื่อออ"
ร่างบอบบางบนชุดมงคลสีแดงของเจ้าสาวที่นั่งกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงด้วยความตื่นเต้นนัก วันนี้เป็นวันที่นางเฝ้ารอคอยมาอย่างใจจดใจจ่อตลอดการเดินทางในระยะเวลาสองเดือนท่านพี่ฉีฟงดูแลนางเป็นอย่างดีและให้เกียรตินางมาตลอดไม่เคยล่วงเกินนางอีกเลยจะมีก็แต่กอดหอมแก้มและจูบนิดหน่อยเท่านั้น ในวันมงคลของนางนางอยากให้สามีของนางมีความสุขที่สุดและคืนเข้าหอของนางจะต้องเร่าร้อนที่สุดสามีนางจะต้องอยู่ในกำมือนาง จนลืมการร่วมหอครั้งแรกไปเลยถึงเขาจะบอกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะยาปลุกกำหนัดและเล่ห์กลของสตรีเท่านั้นแต่นางไม่มีทางยอมเด็ดขาด เสี่ยวหลานที่นั่งคิดอย่างหมายมั่นนัก มีอยู่ครั้งหนึ่งนางได้ช่วยเหลือนางคณิกานางหนึ่งไว้ด้วยความบังเอิญจากการโดนฉุด นางจึงให้ตำราไว้เล่มหนึ่งบอกว่าเป็นตำราหายากมากเป็นสินน้ำใจ นางจึงรับไว้แต่พอเปิดดูนางเกือบจะหยุดหายใจเพราะเป็นตำราวสันต์จึงได้เก็บซ่อนเอาไว้และไม่เคยเปิดอ่านอีกเลย จนเมื่อไม่นานมานี้นางได้นำออกมาศึกษาจนแตกฉานเพื่อใช้ในคืนเข้าหอของนางโดยเฉพาะและที่สำคัญนางยังได้ถ่ายทอดเคล็ดลับให้พี่สะใภ้คนงามของนางอีกด้วย เมื่อนึกถึงพี่สะใภ้เสี่ยวหลานถึงกับหัวเราะออกมาอย่างล
กรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง เสียงกระดิ่งข้อเท้าและเสียงเจี๊ยวจ๊าวที่ดังใกล้เข้าทำให้ปาอ๋องและพระชายาซือเซียน บุตรชาย บุตรเขย ที่กำลังนั่งจิบชาสนทนากันอยู่นั้นหันไปมองสาวน้อยวัยสี่หนาวและสามหนาวที่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูนัก ร่างกลมป้อมสองร่างที่จูงมือกันวิ่งเข้ามาพร้อมใบหน้าแดงก่ำชื้นเหงื่อเพราะพากันวิ่งเล่นจนเหนื่อย"ท่านย่าหลานอยากกินขนมจังเจ้าค่ะ"อู๋ไป๋หลินที่มาถึงก็ป่ายปีนขึ้นมานั่งข้างพระชายาซือเซียนออดอ้อนอย่างน่าเอ็นดูนัก"หลานก็อยากกินนักเจ้าค่ะท่านยาย"หานหลันซี บุตรีวัยสามหนาวของกุนซือฉีฟงและเสี่ยวหลานที่ปีนมานั่งอีกด้านก็ไม่น้อยหน้าช่างออดอ้อนเหมือนญาติผู้พี่มิมีผิดเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนกับความน่ารักน่าชังของทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี"ช่างน่าน้อยใจนักไม่มีใครสนใจคนแก่ผู้นี้เลยหรือ หลินเอ๋อก็ไม่สนใจปู่ ซีเอ๋อก็ไม่สนใจตา มันน่าน้อยใจจริงๆ ไม่มีใครรักข้าเลยหรือนี่" เสียงตัดพ้อไม่ค่อยจริงจังที่เอ่ยขึ้นทำให้ทุกคนอมยิ้มกับท่าทางของคนแก่ที่น่าโหดแต่พยายามทำเสียงเล็กเสียงน้อยเรียกร้องความสนใจจากหลานๆ ที่พอได้ยินเช่นนั้นก็รีบเข้าไปโอบกอดและหอมแก้มฟอดใหญ่ ให้คนแก่ชื่นใจนัก "หลินเอ๋อรักท่
หลินเฟยที่คล่อมอยู่เหนือร่างหนาที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแข็งแกร่งสะบัดผมยาวสลวยไว้ด้านหลังมองคนใต้ร่างด้วยสายตายั่วยวนนัก ใช้นิ้วเรียวเล็กไล้ตั้งแต่จมูกโด่งได้รูปมายังริมฝีปากหนาที่นางรู้ว่าร้ายกาจเพียงใดบดคลึงแผ่วเบาจนคนใต้ร่างครางอือแม่ทัพหยางหรงหรี่ตามองภรรยารักด้วยสายตาเร่าร้อนนักทั้งตื่นเต้นว่านางจะทำอะไรและแปลกใจหนักหนาว่าเฟยเอ๋อของเขาไปได้ท่าทางแสนยั่วยวนนี้มาจากที่ใดกันแม้จะดูขัดเขินแต่เขากลับพอใจนัก มองดูนิ้วเล็กขาวผ่องลากไล้สันกรามแกร่งมาตามลำคอล่ำสันใช้สองมือบอบบางแหวกชุดคลุมตัวในออกเผยให้เห็นแผงอกแกร่งกำยำหนั่นแน่นแต่งแต้มด้วยรอยแผลประปรายดูน่าหลงใหลนัก มือเรียวเล็กนุ่มนิ่มลูบไล้แผ่นอกกว้างกำยำจนร่างหนากล้ามเนื้อหดเกร็งกัดกรามแกร่งแน่นด้วยความซ่านเสียว เห็นมือบางยกขึ้นปลดชุดนอนบางเบาออกจากร่างงามเย้ายวนเหลือแค่เอี๊ยมบังทรงสีแดงตัวน้อยที่แทบไม่ช่วยอะไรเลยตัดกับผิวขาวผ่องนวลเนียนทำให้เขาแทบหยุดหายใจ มือใหญ่จึงรีบเอื้อมไปเพื่อดึงเอี๊ยมตัวน้อยที่ช่างเกะกะนักแต่ถูกมือเล็กตะครุบไว้"ไม่เอาจะถอดเอง"เสียงอ่อนหวานเอ่ยขึ้นอย่างสั่นไหวจนเขารู้สึกได้หึหึ เสียงหัวเราะของคนใต้ร่างจึงดัง
อู๋ไป๋หลินอายุเข้าสองเดือนพอดิบพอดีกับที่จวนอ๋องจะมีงานมงคลของท่านอาหญิงของเจ้าตัวเล็ก จึงทำให้ทุกคนต่างวุ่นวายกันยกใหญ่ พระชายาซือเซียนแม่สามีดูจะตื่นเต้นกว่าใครเพราะบุตรสาวจะได้ออกเรือนเสียทีหลังจากรอคอยอย่างหวาดผวาว่าบุตรสาวจะมิได้ออกเรือนเพราะนางนั้นทโมนนักไม่เหมือนบุตรีจวนอื่นที่เรียบร้อยอ่อนหวาน เย็บปักถักร้อยล้วนเป็นเลิศแต่บุตรของนางเอาเที่ยวเล่นเตร็ดเตร่ไปทั่ว ผิดกับปาอ๋องพ่อสามีที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด หนวดกระตุกเพราะความไม่ยินยอมแต่ทำอันใดไม่ได้เพราะภรรยาได้ใส่พานถวายเสียอย่างนั้น หึ เจ้าฉีฟงไม่นึกว่าเจ้านั่นจะมาเป็นบุตรเขยพระองค์ ช่างแสบนัก แล้ววันมงคลก็มาถึงแม่ทัพหยางหรงที่มองภรรยาที่แต่งตัวงดงามนักตาปรอย ร่างที่ดูอวบอิ่มขึ้นอยู่ในชุดสีส้มอมแดงที่พออยู่บนร่างสมส่วนนั้นช่างขับผิวให้ดูขาวผ่องนวลเนียนนัก"เฟยเอ๋อ คืนนี้เราเข้าหอกันนะ"หลินเฟยหันมองร่างสูงตาโต พลันใบหน้าร้อนผ่าว"ท่านพี่พูดอะไรเจ้าคะ""ก็ท่านหมอบอกว่าสามารถทำได้แล้ว แต่พี่เห็นเจ้ายุ่งๆ อยู่กับงานมงคลของหลานเอ๋อ เลยไม่อยากให้เจ้าเหนื่อยนัก วันนี้ก็เสร็จเรียบร้อยดีทุกอย่าง เข้าหอพร้อมกันดีงามนัก"พูดขึ้นตาหวานฉ่
หลินเฟยที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมารู้สึกได้ถึงมืออุ่นที่กอบกุมมือเล็กของนางอยู่ หันไปมองก็เห็นเป็นร่างคุ้นตาที่นอนฟุบหลับอยู่ข้างๆ นางโชคดีที่สุดที่มีบุรุษที่แสนดีผู้นี้อยู่เคียงข้าง"ท่านพี่" แม่ทัพหยางหรงที่เผลอหลับไปลืมตาขึ้นมองเจ้าของเสียงเรียกอย่างดีใจนักหลังจากคลอดบุตรคนแรกของทั้งสองนางก็สลบไปท่านหมอแจ้งว่านางเสียเลือดมากแต่ไม่เป็นอันตรายแค่หมดแรงเท่านั้น พักสักครู่ก็รู้สึกตัวแต่นางกลับหลับไปถึงหนึ่งคืนกับอีกหนึ่งวันเต็มๆ เขาจึงร้อนใจนัก มานั่งเฝ้านางไม่ยอมห่างเพราะกลัวว่านางจะเป็นอะไรไป เขาคงอยู่ไม่ได้แน่"เฟยเอ๋อเจ้าฟื้นแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง เจ็บที่ใดอีกหรือไม่ ซิ่วอิง ซิ่วอิงตามท่านหมอเร็วเฟยเอ๋อฟื้นแล้ว" คนตัวโตที่ดูร้อนรนนัก ส่งเสียงเรียกบ่าวคนสนิทของชายารักจนคนตัวเล็กต้องรีบจับมือใหญ่ไว้"ข้าไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะท่านพี่ แค่รู้สึกอ่อนแรงเท่านั้น" สิ้นเสียงอ่อนแรงท่านหมอก็เข้ามาตรวจชีพจรร่างบาง" ไม่มีอะไรน่าห่วงพ่ะย่ะค่ะดื่มยาบำรุงสักสามเทียบอาการอ่อนแรงก็จะหายหลังจากนั้นก็ดื่มยาสำหรับสตรีหลังคลอดร่างกายก็จะกลับมาเป็นปกติ" ท่านหมอจึงขอตัวกลับไปจัดยาสำหรับพระชายา" ลูกของเราเล่าเ
แม่ทัพหยางหรงที่ได้รับสาส์นด่วนจากกุนซือฉีฟงทั้งที่เขาพึ่งกลับมาถึงและต้องกุมขมับเพราะอู๋เสี่ยวหลานน้องสาวหายตัวไป และต้องกุมขมับอีกครั้งเมื่อเปิดอ่านสาส์นฉบับนั้นของสหายดี ดียิ่งเจ้าสหายน่าตายแล้วเขาจะแจ้งบิดามารดาว่าอย่างไร หลินเฟยที่เห็นสามีอารมณ์ไม่สู้ดีนักจึงเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นห่วง"มีอะไรร้ายแรงหรือไม่เจ้าคะท่านพี่" หยางหรงจึงหันมาส่งยิ้มให้ร่างอวบอิ่มที่มองมายังเขาอย่างห่วงใย จึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ภรรยาฟัง หลินเฟยถึงกับหัวเราะออกมา ท่านกุนซือฉีฟงช่างร้ายกาจจริงๆ นับถือ นับถือ"ถึงว่าท่านพี่กับท่านกุนซือถึงคบหาเป็นสหายกันได้"แม่ทัพหยางหรงได้ฟังถึงกับคิ้วกระตุกหรี่ตามองภรรยารัก"ร้ายกาจเหมือนกันมิมีผิด" พร้อมหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของสามี "โอ้ะ!!!!"เสียงหัวเราะที่หยุดลงกะทันหัน พร้อมกับมีน้ำไหลออกมาจากช่องคลอดมากมายทำให้หลินเฟยตกใจนัก"ท่านพี่ ข้าปวดท้องเจ้าค่ะ"หยางหรงที่ตกใจนักเมื่อเห็นภรรยาเจ็บปวด บั่นคอศัตรูมาเป็นร้อยเป็นพันเห็นความเจ็บปวดทรมานจนชาชิน แต่พอเห็นภรรยาเจ็บปวดหัวใจรู้สึกบีบรัดนัก รีบร้อนเรียกบ่าวไพร่ตามหมอกันจ้าละหวั่น ช้อนร่างอุ้ยอ้ายขึ้นอุ้มตรงไ