LOGINกระทั่งแม่ของเขาป่วยกระเสาะกระแสะ และจากไปเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจากท่านตรอมใจเรื่องคุณหญิงแม้นมาศ เพราะพยายามที่จะขอขมาซ้ำอยู่หลายครั้ง แต่ผลก็ยังคงเป็นดังเดิม จนอาการของแม่เขาทรุดหนักอย่างน่าตกใจ ที่สุดท่านก็จากไปแบบไม่หมดห่วง ทั้งที่แพทย์ยืนยันว่าแม่จะอยู่ได้อีกหลายปี หลังจากที่คุณหญิงทราบข่าวถึงได้ยอมลดทิฐิลง ยอมที่จะไปร่วมงานศพเพื่อกล่าวให้อภัยลูกสาวในวาระสุดท้าย ยอมบากหน้าไปหาเขาและพ่อที่โมนาโก และต่อมาไม่นานก็ถึงขั้นยอมลดศักดิ์ศรีเพื่อขอร้องให้เขาเข้าไปช่วยดูแลกิจการ ในภาวะที่ธุรกิจกำลังดิ่งลงเหว และการเงินกำลังง่อนแง่น ด้วยน้ำมือของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ที่คิดจะพาเมียย้ายถิ่นฐานไปอยู่อเมริกา
“ถ้าจะว่ากันจริงๆ ในเชิงปฏิบัติ ผมต่างหากที่เป็นผู้ถูกกระทำ หลานคุณเห็นเรียบร้อยอย่างนั้น ‘ร่าน’ น่าดู จับผมกดทั้งคืนยันเช้า เล่นเอาเอวแทบเคล็ดแน่ะ”
วาจาหน้าไม่อายทำให้คนแก่แทบทำหน้าไม่ถูก
“อย่ามาปรักปรำหลานสาวยายนะ!”
“งั้นก็ปลุกเด็กนั่นขึ้นมาถามเลยสิ ว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้ถูกกระทำ ใครกันแน่ที่ถูกกด ถูกขี่…ทั้งคืน”
เขาท้าทายพร้อมบุ้ยปากไปยังคนที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงซึ่งห่างออกไปไม่กี่ก้าว ครั้นเห็นคนแก่ยังคงนิ่งเฉยก็เป็นฝ่ายสาวเท้ามาหยุดลงตรงข้างเตียง แล้วเอ่ยเรียก
“ตื่นได้แล้ว ยัยลูกหมูขี้เซา”
“ฮื้อ…อย่ากวนน่า คนจะนอน”
เสียงประท้วงงึมงำในลำคออย่างรำคาญ ขณะที่ตาทั้งสองข้างยังคงปิดสนิท ด้วยเกียจคร้านที่จะลุกขึ้นมาในเวลาที่ร่างกายเหมือนไปกรำศึกหนักมาตลอดทั้งคืนเช่นนี้
“ฉันบอกให้ตื่นเดี๋ยวนี้ปานระพี!”
ขาดคำคนใจร้อนก็ฟาดฝ่ามือลงบนสะโพกเต็มตึงแรงๆ
เพียะ!!!
คราวนี้คนที่นอนอยู่ถึงกับตัวแข็งทื่อ สำเหนียกได้ว่าเสียงที่ได้ยินก่อนหน้าหาใช่ความฝันอย่างที่พร่ำบอกตัวเองแต่อย่างใด ครั้นกลั้นใจลืมตาขึ้น ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นมหรรณพในชุดเสื้อผ้ายับยู่ยี่ และผมยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง แต่ยังคงความหล่อกระชากใจ แต่อึ้งหนักยิ่งกว่าเมื่อเหลือบไปเห็นผู้เป็นย่าซึ่งยืนอยู่ถัดไป
“คุณย่า! คุณหวง!”
คนที่เพิ่งลุกขึ้นมานั่งในสภาพผมเผ้ารุงรังยกมือขยี้ตาเล็กน้อย มองคนทั้งคู่สลับกันไปมา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เอ่อ…คุณย่ากับคุณหวงมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”
“ก่อนจะถามย่า ก้มลงดูสภาพตัวเองเสียก่อนเถอะแม่ตัวดี”
คุณหญิงแม้นมาศเอ่ยเสียงขึ้นจมูก ทำเอาคนถูกเตือนทำหน้างง แล้วรีบก้มลงดูสภาพของตัวเอง ทันใดนั้นก็ต้องเบิกตากว้าง หลุดอุทานออกมา
“ว้าย!”
ปานระพีรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดบังเนื้อตัวมือไม้สั่น ใบหน้างามแดงซ่านด้วยความอับอาย
“เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมแพรถึง…”
“ย่าควรจะถามเรามากกว่า ว่าไปทำอีท่าไหนถึงมานอนที่ห้องนี้ได้”
“เมื่อคืนแพรมางานวันเกิดเพื่อนค่ะ แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้นอนไม่ใส่เสื้อผ้าแบบนี้” เสียงในตอนท้ายเบาหวิว หัวคิ้วขมวดมุ่น เพราะสมองกำลังควานหาสาเหตุที่ทำให้ตนตกอยู่ในสภาพล่อนจ้อนเช่นนี้
“เธอจะบอกว่าจำอะไรไม่ได้งั้นสิ” มหรรณพโพล่งขึ้นเป็นเชิงประชด
“ค่ะ แพรจำได้แค่ว่าเพื่อนคะยั้นคะยอให้ดื่มเหล้าไปเกือบสองแก้ว จากนั้นก็รู้สึกมึนๆ หัว หายใจไม่ค่อยออก แล้วก็ร้อนวูบวาบแปลกๆ เหมือนโดนวางยา…เอ่อ…ปลุกเซ็กส์ ก็เลยรีบหนีกลับห้องมา จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลยค่ะ” สาวน้อยเอ่ยเล่าเท่าที่หัวสมองพอจะนึกได้ด้วยท่าทางซื่อๆ
“งั้นจะบอกให้ก็ได้ ว่าเธอน่ะบุกเข้าห้องฉัน”
“หา!...แพรเนี่ยนะคะ! บุกเข้าห้องคุณหวง!” สาวน้อยอุทานตาโต
“ใช่!”
หลังจากอ้าปากค้างไปหลายนาที ปานระพีก็ละล่ำละลักออกมาพลางส่ายหน้าหวือ
“เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ แพรไม่มีทางทำอย่างนั้น…”
ปากค้านว่าอย่างนั้น แต่น้ำเสียงยืนยันกลับผาดแผ่วในช่วงท้าย ใบหน้าหวานใสเริ่มซีดสลับแดง หลังจากใช้สมองคิดทบทวนอย่างถ้วนถี่ แล้วปรากฏภาพเหตุการณ์ขึ้นมาเป็นฉากๆ ถึงจะมีบางช่วงที่ไม่ปะติดปะต่อไปบ้าง เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ผสมยาปลุกเซ็กส์ แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ทำให้เธออยากจะมุดดินหนีเสียให้มันรู้แล้วรู้รอด
หากแต่วินาทีถัดมาปานระพีก็ต้องช็อกกับวาจาที่มหรรณพเอ่ยขึ้น เป็นเชิงย้ำเตือนว่าสิ่งที่เขาได้กล่าวออกมาเมื่อครู่นั้นล้วนเป็นความจริงทุกประการ
“แต่มันเป็นไปแล้ว เมื่อคืนเธอบุกเข้าห้องฉัน…”
จากนั้นปานระพีก็ทำได้เพียงนั่งตัวแข็งทื่อ อ้าปากค้าง หน้าแดงซ่าน บ้างกะพริบตาปริบๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อกับความหน้าไม่อายของมหรรณพ นึกไม่ถึงว่าผู้ชายที่เธอทั้งรักและเทิดทูน เพราะเขาเคยช่วยชีวิตเอาไว้ จะร้ายกาจได้มากถึงเพียง เขาทำให้เธออยากจะแกล้งตายด้วยการเอ่ยอย่างฉะฉาน ว่าเธอเป็นคนเดินเข้าห้องมาเสนอตัวให้เขาเอง หากแต่ครั้นจะค้านก็ทำได้ไม่เต็มปากเต็มคำ เพราะดันเข้าห้องผิดจริงๆ แถมในช่วงแรกที่ยาออกฤทธิ์เธอยังถลาไปหาเขาด้วยความอ่อนหัด ลูบไล้ร่างใหญ่ยักษ์ไม่ต่างอะไรจากการยั่ว มิหนำซ้ำยังหลงเพริดเตลิดอย่างขาดความยับยั้งชั่งใจ ถึงแม้มันจะเกิดจากฤทธิ์ยา และความช่ำชองอันแสนร้ายกาจของเขา แต่มันก็น่าอับอายเกินจะเอ่ย
แต่จะโทษใครได้ ในเมื่อเธอมางานวันเกิดท่ามกลางเพื่อนที่ไม่สนิท แวดล้อมด้วยคนที่ไม่หวังดี แถมยังประสงค์ร้าย และที่สำคัญคือทุกคนเห็นเธอเป็นตัวตลกที่นึกอยากจะแกล้งยังไงก็ได้ เธอก็แค่หลงผิด ยอมมาด้วยเพราะคิดว่าถ้ามาแล้วจะมีเพื่อนกับเขาบ้าง ทุกคนจะยอมรับ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความหายนะทั้งเพ จากนี้เธอคงต้องระวังตัวให้มากขึ้น และไตร่ตรองให้ดีหากคิดที่จะเปิดใจคบใครสักคนเป็นเพื่อน
หลังจากออกไปคุยเป็นการส่วนตัวกับผู้เป็นยายตรงระเบียงห้อง ไม่นานมหรรณพก็กลับเข้ามาด้วยความหัวเสีย แต่สีหน้ายังคงเรียบสนิทอย่างอ่านอารมณ์ไม่ออก เพราะผลสุดท้ายแล้วผู้เป็นยายก็ยังคงยืนกรานให้เขารับผิดชอบ ‘หลานสาวนอกไส้’ ด้วยการจดทะเบียนสมรส โดยยกเอานักข่าวที่อยู่ด้านนอกมาบีบบังคับ ซึ่งไม่ต้องบอกก็พอจะรู้ว่าไอ้พวกข้างนอกน่ะเป็นพรรคพวกของใคร ที่สุดคนโอหังก็ต้องจำใจเซ็นชื่อลงในทะเบียนสมรส ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ซึ่งยายของเขาเตรียมพร้อมมาอย่างดี ดีจนแทบไม่ต้องสงสัยว่าทั้งหมดเป็นแผนของใคร
ครั้นเห็นปานระพีจรดปากกาลงไปในทะเบียนสมรสสมใจคุณหญิงแม้นมาศ หลังจากที่อีกฝ่ายเอ่ยเกลี้ยกล่อมหลานสาวอยู่พักใหญ่ เขาก็แค่นยิ้มหยัน ทันทีที่ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ใบทะเบียนสมรสถูกยัดใส่มือ หลังจากยายของเขาสั่งให้คนเคลียร์ทาง มหรรณพก็ผลุนผลันจากไปอย่างไม่เหลียวหลัง
นักศึกษาหลายคนที่เดินผ่านไปมาตรงบริเวณลานใต้ต้นไม้หน้าคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ต่างเมียงมองชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ไหล่กว้าง ที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาอ่านอะไรบางอย่างบนกระดาษสีขาวอย่างสนใจ โดยเฉพาะสาวๆ เพราะไม่บ่อยนักที่จะมีชายหนุ่มหน้าตาดี ภูมิฐาน และท่าทางสมาร์ท เหมือนหลุดออกมาจากปกนิตยสารหัวนอกที่เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจ จะมานั่งทอดหุ่นล่ำๆ ยั่วสายตาอยู่หน้าคณะแบบนี้ นักศึกษาสาวบางคนถึงขั้นใจกล้าเดินเฉียดกายมาใกล้โต๊ะ แต่กลับต้องหน้าหงาย เพราะเขาดูไม่ได้สนใจอะไรมากไปกว่ากระดาษที่กำลังเพ่งอยู่ มีบ้างที่จะก้มลงไปมองร่างจ้ำม่ำที่นอนเอาหัวหนุนตักอยู่บนเก้าอี้ตัวเดียวกัน และท่าทางอ่อนโยนนั้นก็ทำให้สาวๆ ต่างมองตาเยิ้ม กระทั่งเสียงหนึ่งดังขึ้น “พ่อจ๋า”น้ำเสียงออดอ้อนชวนเอ็นดูติดจะงัวเงียทำให้คนที่เงยหน้ากลับไปอ่านเอกสารในมือได้ไม่นาน วางงานลงบนโต๊ะหินอ่อน แล้วก้มลงไปมองร่างอ้วนจ้ำม่ำที่กำลังบิดขี้เกียจน้อยๆ “จ๋า…ว่าไงครับลูก”คำว่า ‘ลูก’ ที่หลุดออกมาจากปากหยักลึกทำให้สาวๆ ที่รอลุ้นพากันทำหน้าผิดหวังแกมเสียดาย“น้องเลิฟปวดชิ้งฉ่องค่า”เด็กหญิงปาฏิหาริย์ นิธิธาดา หรื
เสียงรองเท้ากระทบพื้นเป็นจังหวะชวนใจสั่น ทำให้ร่างใหญ่ที่กำลังนั่งปลดกระดุมกางเกงอยู่บนปลายเตียง หลังจากที่สลัดเสื้อออกจากกาย ถึงกับชะงักกึก เงยหน้าขึ้น แล้วก็ต้องตาค้าง ร่างเย้ายวนยั่วน้ำลายสวมเสื้อคุณหมอสีขาวที่ชายสั้นเต่อจนเห็นสะดือบุ๋ม และหน้าท้องที่เริ่มนูนน้อยๆ โดยบนอกเสื้อมีรูปหูฟังของหมอ ส่วนช่วงล่างก็เป็นกระโปรงบานสั้นจู๋ โอยยยย…หัวใจจะวาย น้ำลายจะหกในวินาทีที่แม่เจ้าประคุณเยื้องย่างมาหยุดลงตรงหน้า กางขาน้อยๆ กอดอกยืนจังก้า แล้วส่งสายตาหยาดเยิ้มเชิญชวนมาให้เขาก็แทบจะกระโจนเข้าใส่ “ขี้ยั่ว” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยอย่างมันเขี้ยวปนคาดโทษ “แล้วชอบไหมล่ะ?”เธอแสร้งวางมือทาบตรงหน้าอกตัวเอง จากนั้นก็ขยำเบาๆ พลางกัดปากทำท่าเซ็กซี่ขยี้ใจ แว่วเสียงคำรามกระหึ่มหลุดออกมาจากปากหยักลึกของคนที่จ้องเธอตาวาบวับ “ที่สุด”“คนหื่น”ก็จริง เขายอมรับว่าหื่นหนักมาก“พี่ดุนะหนูไหวเหรอ”“ถ้าอยากรู้ว่าไหวไม่ไหว ก็นอนลงไปจ้ะพี่จ๋า” ยังไม่ทันจะขาดคำคนตัวเล็กก็ผลักอกเขาแรงๆ จนร่างทรงพลังลงไปนอนแผ่หลาบนเตียง จากนั้นก็ขยิบตาให้หนึ่งที ตวัดลิ้นเลียปากด้วยท่าทางเซ็กซี่ แล้วค่อยๆ ย่อตัวลงนั่งยอง
“พี่จะส่งเราไปให้หมอเฉพาะทางดูแลต่อนะ”“อายขอเป็นคนไข้ของพี่แพรไม่ได้เหรอคะ”น้ำคำเว้าวอน และแววตาสั่นระริกที่ส่งมาทำให้คุณหมอสาวต้องเอื้อมมือไปกุมมือเรียว แล้วบีบเบาๆ อย่างให้กำลังใจ แกมปลอบประโลมให้อีกฝ่ายคลายกังวล“พี่เป็นหมอกระดูก ไม่ใช่นิวโรศัลย์ อาจดูเคสของเราได้ แต่ไม่สามารถผ่าตัดให้เราได้ แต่สัญญาว่าจะขอทางผู้อำนวยการของโรงพยาบาลไปสังเกตการณ์ตอนผ่าตัด” “พี่แพรสัญญาแล้วนะคะ”“จ้ะ”“อายขอร้องว่าอย่าบอกใครได้ไหมคะ”“หืม?”“เอ่อ…อายหมายถึง คนที่อาจรู้จักอายน่ะค่ะ เผื่อเขามาถามอะไรเกี่ยวกับอายจากพี่แพร”คนที่ออกอาการหวาดระแวงเอ่ยพลางบีบมือตัวเองแน่น กระทั่งเห็นคุณหมอสาวพยักหน้าเบาๆ ถึงได้ลอบผ่อนลมหายใจออกมา ปานระพีคงไม่รู้หรอกว่าตั้งแต่เหตุการณ์เลวร้ายที่อารญาเคยเล่าให้ฟัง สาวน้อยตรงหน้าก็ไม่เคยเปิดใจรับใครเข้ามาในชีวิตในทุกๆ แง่ของความสัมพันธ์ อาจจะมีบ้าง แต่ก็แค่ฉาบฉวย เพราะอารญามีแผลใจจากการถูกคนใกล้ตัวหักหลังและทำร้ายอย่างเลือดเย็น ซึ่งปานระพีเป็นคนแรกที่เธอยอมเปิดใจคบหาเป็นเพื่อนตอนอยู่ต่างแดน เพราะตอนนั้นปานระพีตามองไม่เห็น ส่วนเธอก็แค่คนระหกระเหินพลัดถิ่นที่อยากได้เพื่อ
ไชโย! เมียไลน์หาถามว่าแค่เมียไลน์หาจำเป็นต้องดีใจจนเนื้อเต้นขนาดนั้นไหม สำหรับมหรรณพต้องดีใจมากอยู่แล้ว เพราะเขากับปานระพีมีข้อตกลงร่วมกัน ว่าในระหว่างที่เธอตั้งครรภ์อ่อนๆ จะไม่มีการร่วมรัก ด้วยกลัวว่าจะกระทบกระเทือนไปถึงลูก ซึ่งมันเป็นอะไรที่ทรมานฉิบหาย เขาเกือบลงแดงตายไปหลายหน แต่บอกตัวเองให้อดทน เพราะกว่าลูกจะติดได้ไม่ใช่ง่ายๆ เขากับเธอรอมาตั้งนาน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เมียเป็นฝ่ายสะกิด ก็แสดงว่าพ้นระยะอันตราย ฟีเจอริงกันได้ พิกกี้ตัวอวบ : คุณหวงขา อยู่เป็นก็เมียเขานี่แหละ อยากได้อะไรทีชอบเอาคำอ้อนหวานๆ มาล่อลวงสามี แถมพอแม่คุณท้องแล้วมันคือดี ชีวิตคู่ดีอย่างไร้คำบรรยาย เพราะเธอขี้อ้อนขึ้น ปากหวานขึ้น และที่สำคัญคือติดผัวแจ และอย่างหลังนี่แหละที่ทำให้เขาหลงเมียหนักมากจนหน้ามืดตามัว แทบจะไม่อยากห่างจากเธอ เจ้าของฟาร์มหมู (ที่มีหมูสองตัว) : ว่าไงครับพิกกี้?หมูสองตัวที่ว่าก็คือเมียกับลูกของเขานั่นเอง เมียเขาอวบเพราะช่วงนี้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ แม่ยอดยาหยีของเขามีน้ำมีนวลน่าจับฟัด แต่ก็ยังไม่ถึงกับอ้วน เพราะท้องยังไม่โตมากมายอะไร ยังไม่ต้องใส่ชุดคลุมท้อง พิกกี้ตัวอวบ : คิดถึงจั
สองปีผ่านไป“โอ๊ก! โอ๊ก! โอ๊ก!”เสียงประหลาดที่แว่วเข้ามาในหูตอนที่มหรรณพงัวเงียตื่น เพราะวาดมือไปข้างกาย แล้วไม่พบคนที่ตัวเองกกกอดไว้ทั้งคืน ทำให้คิ้วเข้มเหนือนัยน์ตาคมขมวดเข้าหากัน ก่อนที่เสียงประหลาดที่ว่าจะดังขึ้นอีกระลอก ทำเอาร่างใหญ่เด้งขึ้นจากที่นอน แล้วเดินแกมวิ่งไปยังห้องน้ำในสภาพที่ไม่มีเสื้อผ้าติดกายแม้แต่ชิ้นเดียว “แพร!”ทันทีที่เห็นร่างแน่งน้อยนั่งยองๆ เกาะขอบชักโครกโก่งคออาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตาย เสียงห้าวก็หลุดอุทานออกมา ร่างใหญ่ถลาไปลูบหลังให้เบาๆ ครั้นเห็นเธอทำท่าขย้อนด้วยท่าทางสุดแสนทรมานก็ทำหน้าเหยเก จากนั้นก็คอยลูบหลังให้ไม่ห่าง กระทั่งเธอเงยหน้าขึ้นจากชักโครกด้วยสภาพเหนื่อยหอบ ใบหน้าซีดเผือดเต็มไปด้วยหยาดเงื่อ“มานี่มาที่รัก ผมพาไปล้างหน้า” ว่าแล้วเขาก็จัดการโอบประคองร่างอ่อนแรงไปยังเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า เปิดน้ำ แล้ววักน้ำล้างหน้าให้คนที่ยืนเอามือทั้งสองข้างค้ำขอบอ่างด้วยท่าทางยังไม่หายเหนื่อย จากนั้นก็หยิบแก้วมารองน้ำแตะมือเรียวให้เธอบ้วนปาก ปานระพีรับไปอย่างว่าง่าย บ้วนปากเสร็จก็พึมพำขอบคุณเสียงเนือยๆ ก่อนจะถูกสามีอุ้มกลับไปวางที่เตียงนอน“สีหน้าแพรไม่ดีเ
ไอ้หมาเวรติดสัด!แน่นอนมหรรณพเข้าใจในพฤติกรรมของสัตว์ ว่าจะต้องมีช่วงที่ถึงฤดูกาลหาคู่ผสมพันธุ์ แต่มันน่าโมโหตรงที่ไอ้หมาเวรลูกเทพของเมียเขา มันดันไปถูกตาต้องใจสาวเสียไกลถึงนนทบุรี และไม่ว่าจะหาหมาสาวๆ สวยๆ มาให้ไม่รู้กี่ตัวต่อกี่ตัว เจ้าซีซาร์ก็เข้าตำราหมาเมิน ไม่สน ทำเชิดหยิ่ง ไม่เข้าใกล้ และหวงตัวจนน่าหมั่นไส้ แต่อะไรก็ไม่น่าถีบเท่าตกดึกไอ้หมาจอมเรื่องมากจะร้องโหยหวนกวนประสาทรบกวนเวลานอน แถมเสียงของมันยังทำให้เมียเขาอยู่ไม่สุข จนต้องออกปากถามไถ่ถึงพฤติกรรมของมันในช่วงที่กลับมาจากไปเที่ยวในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าซีซาร์ดันไปเจอสาวที่ปั๊มน้ำมันตรงเซเว่นแห่งหนึ่งในชานเมืองนนทบุรี และไม่รู้ไปคุยกันอีท่าไหน ไม่นานมันก็พาสาวหายเข้าไปทางสุมทุมพุ่มไม้หลังห้องน้ำ ต่อมาก็มองตาละห้อยไปยังเบื้องหลังตลอดทางกลับบ้านจากนั้นไม่นานก็มีอาการกระวนกระวาย ไม่กิน ไม่นอน แถมยังทำท่าจะจับตุ๊กตาที่เขาซื้อไว้ให้ลูกที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะมาเกิดกระทำชำเรา ตีความหมายว่า ‘ติดสัด’ แต่หาสาวมาให้ดันไม่เอา ไม่ยอมฟีเจอริง ซึ่งเขาก็เดาว่ามันคงติดใจสาวเมืองนนท์เข้าเสียแล้ว ถึงได้มีอาการกินไม่ได้ นอนไม่หลับ กร







