แชร์

12 - กัลยาณมิตรที่ดี

ผู้เขียน: โอชิม่อน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-10 13:36:22

กัลยาณมิตรที่ดี

บ้านสวนปานวิชญ์

“กลับเฮือนมึงไปได้แล้วบักโก ให้เวลาสองแม่ลูกเขาได้พักผ่อนแหน่” (กลับบ้านมึงไปได้แล้วไอ้โก ให้สองแม่ลูกเขาได้พักผ่อนหน่อย) ชนาวิชญ์เอ่ยขึ้นมาทันที เมื่อยังเห็นเพื่อนของเขาอยู่ที่บ้านของสุทธิดาตั้งแต่เช้ายังไม่ยอมกลับไป

“กูสิกลับอยู่ดอก มึงกะอย่าฟ้าวไล่กูหลาย” (กูจะกลับอยู่หรอก มึงก็อย่าพึ่งไล่กูสิ) โกสินทร์ทำเป็นไขสือและเอ่ยตอบด้วยวาจาที่ดูเหน็บแนมคนพูด

“มึงจำคำที่กูเว้าได้บ่” (มึงจำคำที่กูพูดได้ไหม)

“ฮืม...”

โกสินทร์จำได้ดีว่าชนาวิชญ์เคยพูดอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่เพราะตัวเขาเองยังปรับปรุงตัวเองไม่ได้ และเป็นความเคยชินที่เขานั้นมักจะมุกขลุกอยู่ที่นี่เป็นประจำ เรื่องทำงานเขาได้งานทำแล้ว แค่รอวันที่ถูกเรียกตัวเท่านั้น

“จำได้กะเฮ็ดให้มันได้นำแหน่” (จำได้ก็ทำให้มันได้ด้วย) ชนาวิชญ์ตอกย้ำอีกที

“กลับก่อนนะธิดา” โกสินทร์จึงหันมาบอกกลับเจ้าของบ้านหลังนี้ ที่เขาใช้เวลามานั่งเล่นอยู่เกือบทั้งวันแล้ว

“...” สุทธิดาได้แต่พยักหน้ารับ แล้วก็หันมาสนใจลูกสาวตัวน้อยขของเธอต่อ

โกสินทร์มองหน้าคุณแม่ลูกอ่อนด้วยสายตาที่อาลัยอาวรณ์ก่อนจะยอมลุกขึ้น แล้วเดินออกไปจากบ้านหลังนี้

“วันนี้หลานพี่งอแงไหมธิดา” ปาณิศาจึงเอ่ยถามสุทธิดาขึ้นมาบ้าง เมื่อโกสินทร์กลับออกไปแล้ว ทุกเย็นเธอและสามีจะคอยแวะมาดูสุทธิดา เพราะเป็นห่วงเธอที่ต้องอยู่กันตามลำพังเพียงสองแม่ลูก

“ไม่เลยค่ะพี่ปลา วิวาห์เลี้ยงง่ายมาก” เธอตอบปาณิศา แต่สายตากลับมองดูลูกสาวในอ้อมแขนด้วยสายตาที่อ่อนโยนอบอุ่นเปี่ยมไปด้วยความรัก

ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชีวิตของเธอจะได้มารับบทแม่ในวัยนี้ ตอนแรกที่รู้ว่าตัวเองตั้งท้อง ความกังวลต่าง ๆ นานา เกิดเป็นความที่เห็นแกตัวบ้างว่าจะเก็บหนึ่งชีวิตนี้ไว้ดีหรือไม่ เธอคิดไม่ตกมาตลอดว่าจะเลี้ยงเขาได้รอดหรือเปล่า เพราะความพร้อมอะไรก็ยังไม่มีเลย ทั้งหน้าที่การงานเพราะตัวเองก็ยังเรียนไม่จบ และการเงินก็เป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิตอีกด้วย

แต่ถือว่าเธอเป็นคนที่โชคดีมากคนหนึ่ง ที่มีคนรอบข้างที่ดีคอยให้การช่วยเหลือ และเป็นกำลังใจเป็นกัลยาณมิตรที่ดีให้เธอเสมอมา ที่ยอมอุ้มท้องมาคนเดียวโดยไม่ยอมบอกให้พ่อของลูกรับรู้ เพราะกลัวว่าเขาจะไม่ยอมรับและอาจจะให้เธอไปเอาเด็กออกก็ได้ แต่กลับเปล่าเลยเมื่อเขารู้ว่าตัวเองนั้นมีลูก เขากลับอยากเข้ามาทำหน้าที่ตรงนั้นแถมยังช่วยเหลือเธอทุกอย่าง ถึงแม้ว่าสถานะจะเป็นเพียงแค่พ่อและแม่ของลูกก็ตาม

“ดีแล้วล่ะ น้องวิวาห์คงจะเห็นใจแม่แกด้วยมั้ง ที่รู้ว่าแม่ต้องเลี้ยงแกคนเดียวเลยไม่ค่อยงอแงเหมือนเจ้าตัวแสบของพี่ รายนั่นมีแต่คนโอ๋...”

“...” สุทธิดานิ่งเงียบไปทันที

“พี่กลับล่ะ ธิดามีอะไรโทรฯเรียกพี่กับวิชญ์ได้ตลอดทุกยี่สิบสี่ชั่วโมงได้เลยน่ะ ไม่ต้องเกรงใจ” ก่อนที่จะกลับ ปาณิศาไม่ลืมที่จะเอ่ยย้ำบอกกับเธอ

“จ้า”

“พี่จะให้คนมาอยู่ด้วยก็ไม่ยอม”

ตั้งแต่วันแรกที่กลับมาอยู่บ้าน ปาณิศาจะให้คนมาอยู่กับเธอที่นี่ แต่เธอก็ปฏิเสธยืนกรานว่าเธออยู่กันตามลำพังสองแม่ลูกได้ เพราะบ้านแต่ละหลังก็ไม่ได้ห่างกันมาก

“ธิดาดูแลตัวเองได้ค่ะ ทุกคนต่างก็มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบกันทั้งนั้น พี่ปลากับพี่วิชญ์ไม่ต้องเป็นห่วงนะแค่นี้ธิดาสบายมาก”

เพราะความเคยชินของตัวเอง ปกติก็เพื่อนน้อยอยู่แล้ว แถมมาอยู่ต่างถิ่นเธอก็ไม่รู้จักใครด้วย แถมตัวเองก็ยังท้องไม่มีพ่ออีกด้วย แน่นอนว่าคนภายนอกก็ต้องติฉินนินทาเป็นธรรมดา เธอจึงเลือกที่จะอยู่ตามลำพังไม่สุงสิงกับใคร นอกเสียจากตอนกลางวันเท่านั่น ที่เธอต้องออกไปเจอหน้าผู้คนเพราะมีหน้าที่ที่ตัวเองต้องทำ

“อย่าทำอะไรที่ทำให้ตัวเองเสี่ยงเด็ดขาด ถ้ามีของหนักจริง ๆ ก็เรียกให้คนมาช่วยพวกเราเป็นคนกันเองทั้งนั้นไม่ต้องเกรงใจ” ชนาวิชญ์ย้ำกับเธอบ้าง และพยายามชวนเธอคุยให้เป็นกันเองที่สุดกับเธอ

“ค่ะพี่วิชญ์”

“ไปปลาเรากลับไปหาเจ้าตัวแสบของเรากัน ป่านนี้แม่บ่นให้แล้วมั้ง” ชนาวิชญ์จึงหันมาชวนภรรยากลับ เมื่อสุทธิดารับปาก

สองสามีภรรยากลับออกไป ทิ้งให้สองแม่ลูกได้อยู่กันตามลำพัง พวกเขาเป็นห่วงแต่ก็เคารพการตัดสินใจของเธอ

*

*

หลายวันต่อมา

วันนี้เป็นอีกวันที่วรากรมาทำงานเหมือนเช่นทุกวันตั้งแต่ที่กลับมาจากต่างจังหวัดในวันนั้น แต่วันนี้เขากลับทำให้เจ้านายแปลกใจและตั้งคำถามมากมายในตัวเขา

“นายว่ายังไงน่ะ” เสียงของ คิณณ์ณภัทร เจ้านายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความแน่ใจอีกครั้ง ที่วันนี้วรากรเข้ามายื่นใบขอลาออก

“ตามนั่นแหละครับพี่คิน”

“ทำไมถึงอยากลาออก” คิณณ์ณภัทรถามถึงเหตุผลที่วรากรมาขอลาออกวันนี้

“ผมต้องเขาไปช่วยงานพ่อที่บริษัทของท่านแล้ว” น้ำเสียงราบเรียบตอบผู้เป็นเจ้านายและทั้งยังเป็นพี่ชายที่เขานับถืออีก

“ไหนนายบอกว่าพ่อให้เวลานายตั้งสองปีไง แต่นี้ยังไม่ถึงปีด้วยซ้ำที่นายมาทำงานช่วยพี่” คิณณ์ณภัทรเลิกคิ้วถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ

“ผมมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้นด้วยครับพี่คิน”

“มีภาระอะไรที่ต้องรับผิดชอบขนาดนั้น พ่อแม่นายก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินนี้ แถมยังให้อิสระกับนายมาตลอด” คิณณ์ณภัทรถามกลับไปอีกครั้ง เพราะรู้ดีว่าวรากรและครอบครัวเป็นคนแบบไหน

“คือ...ผมต้องไปเตรียมตัว รอเข้าพิธีหมั้นครับพี่คิน” วรากรจจึงยอมบอกออกไปตามตรง ถึงเหตุผลที่ต้องลาออก

“เฮ้ย...จริงดิ” คิณณ์ณภัทรเบิกตากว้างอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าวรากรผู้ชายที่รักอิสระ จะยอมสละโสดเร็วขนาดนี้

“...” วรากรไม่ได้ตอบอะไร แต่เขากลับก้มหน้างุดยอมรับกับสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ และความจริงกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ เขาก็ต้องทำตามความต้องการของผู้มีพระคุณอยู่แล้ว

“นายไม่เต็มใจหรือไง ทำไมดูนาย...” คิณณ์ณภัทรถามออกไปปอย่างสงสัย เมื่อเห็นสายตาของวรากรที่ดูจะหนักใจมีกังวลเผยแสดงออกมาจนเขารับรู้ได้

“ผมอยากเป็นคนเลือกเองมากกว่า”

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกสาวบ้านไหนกัน ไม่ถูกใจนายเหรอ”

“ลูกสาวเพื่อนแม่ครับ พลอยไพลิน”

“เธอก็สวยมากเลยนะ แต่ทำไมนาย...” คิณณ์ณภัทรเองก็พอจะรู้จักกับหญิงสาวที่วรากรบอก เพราะครอบครัวของเขาเองก็เคยร่วมธุรกิจกับครอบครัวนี้อยู่เหมือนกัน

“ผมมีคนในใจอยู่แล้วครับ” วรากรตอบเจ้านายหนุ่มออกไปตามตรง เพราะเขามีคนในใจจริง ๆ และคน ๆ นั้นก็คือลูกสาวของเขาที่พึ่งจะเกิดมาเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง เขาเห็นหหน้าลูกสาวครั้งแรกก็ตกหลุมรักในทันที โดยที่ไม่คิดจะเอาใครเข้ามาแทรกได้อีกแล้ว

คิณณ์ณภัทรได้ยินแบบนั้น ก็คิดว่าวรากรคงจะมีคนรักที่กำลังคบหาดูใจกันอยู่แน่ ๆ และก็เห็นใจเหมือนกันที่กำลังจะถูกครอบครัวจับคลุมถุงชน

“แล้วพ่อนายว่ายังไง”

“พ่อก็ต้องเออออไปตามแม่เหมือนเดิม”

“เข้าใจแล้ว เดี๋ยวพี่เซ็นอนุมัติให้ มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกพี่ได้เสมอนะ ถือว่าพี่คือพี่ชายนาย” คิณณ์ณภัทรได้แต่พยักหน้าให้อย่างรับรู้ และยอมรับในการตัดสินใจของวรากร

“ขอบคุณครับพี่คิน ผมกลับล่ะ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หวงรัก เมียชั่วคืน   12 - กัลยาณมิตรที่ดี

    กัลยาณมิตรที่ดีบ้านสวนปานวิชญ์“กลับเฮือนมึงไปได้แล้วบักโก ให้เวลาสองแม่ลูกเขาได้พักผ่อนแหน่” (กลับบ้านมึงไปได้แล้วไอ้โก ให้สองแม่ลูกเขาได้พักผ่อนหน่อย) ชนาวิชญ์เอ่ยขึ้นมาทันที เมื่อยังเห็นเพื่อนของเขาอยู่ที่บ้านของสุทธิดาตั้งแต่เช้ายังไม่ยอมกลับไป“กูสิกลับอยู่ดอก มึงกะอย่าฟ้าวไล่กูหลาย” (กูจะกลับอยู่หรอก มึงก็อย่าพึ่งไล่กูสิ) โกสินทร์ทำเป็นไขสือและเอ่ยตอบด้วยวาจาที่ดูเหน็บแนมคนพูด“มึงจำคำที่กูเว้าได้บ่” (มึงจำคำที่กูพูดได้ไหม)“ฮืม...”โกสินทร์จำได้ดีว่าชนาวิชญ์เคยพูดอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่เพราะตัวเขาเองยังปรับปรุงตัวเองไม่ได้ และเป็นความเคยชินที่เขานั้นมักจะมุกขลุกอยู่ที่นี่เป็นประจำ เรื่องทำงานเขาได้งานทำแล้ว แค่รอวันที่ถูกเรียกตัวเท่านั้น“จำได้กะเฮ็ดให้มันได้นำแหน่” (จำได้ก็ทำให้มันได้ด้วย) ชนาวิชญ์ตอกย้ำอีกที“กลับก่อนนะธิดา” โกสินทร์จึงหันมาบอกกลับเจ้าของบ้านหลังนี้ ที่เขาใช้เวลามานั่งเล่นอยู่เกือบทั้งวันแล้ว“...” สุทธิดาได้แต่พยักหน้ารับ แล้วก็หันมาสนใจลูกสาวตัวน้อยขของเธอต่อโกสินทร์มองหน้าคุณแม่ลูกอ่อนด้วยสายตาที่อาลัยอาวรณ์ก่อนจะยอมลุกขึ้น แล้วเดินออกไปจากบ้านหลังนี้“วัน

  • หวงรัก เมียชั่วคืน   11 - แค่หวังดีต่อกัน

    แค่หวังดีต่อกัน“อย่ามาพูดปากเปล่าโดยที่ไม่มีอะไรมายืนยัน แกกุเรื่องขึ้นมาเพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ต้องหมั้นกับหนูหรือเปล่าใครจะไปรู้” อภิเดชสวนขึ้นมาบ้างวรากรจึงลวงโทรศัพท์มือถือของเขาในกระเป๋ากางเกงออกมา แล้วเปิดข้อมูลอะไรในหลาย ๆ อย่างที่เขาถ่ายเก็บไว้ ส่งให้พวกท่านดู“พ่อกับแม่ดูเอาเองดีแล้วกันครับ ว่าผมกุเรื่องขึ้นมาหรือเปล่า”“นี่มัน...”อรอนงค์ เมื่อได้เห็นกับตาตัวเอง ในสิ่งที่ลูกชายบอกมานั้น กลับต้องเบิกตาโพลง เพราะไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง“ครับ ถ้ายังไม่ชัดเจนพอ พ่อก็เลื่อนไปอีกจะมีใบสูติบัตรที่ผมแอบถ่ายเก็บไว้อยู่ด้วย เพื่อยืนยันว่าเป็นลูกของผม” วรากรพยักหน้ารับ แล้วเอ่ยบอกอีกครั้ง“กรธิดา พายุภัทร บิดาผู้ให้กำเนิด วรากร พายุภัทร มารดาผู้ให้กำเนิด สุทธิดา นพวงศ์” เป็นอภิเดชเองที่เป็นคนอ่านข้อมูลในนั้นออกมาเสียงดัง“วันเกิดนี้มัน...” อรอนงค์ตาลุกวาวขึ้นมาอีกครั้ง เพราะตกใจในสิ่งที่ได้เห็น“ครับ ลูกสาวผมเกิดในวันที่ไอ้วิชญ์แต่งงาน แม่เขาเลยให้ชื่อ น้องวิวาห์” วรากรจึงเล่าบอกกับพวกท่านทั้งสองอีกครั้งใจแกร่งของผู้เป็นเต้นกระส่ำแทบจะทะลุออกมาจากอก เมื่อรับรู้ว่าตัวเองมีหลานสาว คน

  • หวงรัก เมียชั่วคืน   10 - เพราะผมเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ

    เพราะผมเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ“แม่ค่ะ ดูกรเขาไม่ค่อยพอใจที่พวกเรามาคุยเรื่องนี้กันเลยนะ” พลอยไพลินเอ่ยกับผู้เป็นแม่ ขณะที่กำลังนั่งรถออกมาจากบ้านหลังนั้นได้ไม่ไกลนัก“ไม่พอใจแล้วยังไงละลูก ตากรน่ะไม่กล้าขัดใจป้าอรกับลุงเดชหรอก” เพ็ญพรรณีเชิดหน้าพูดขึ้นอย่างมั่นหน้า และมั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องสำเร็จไปตามที่เธอคาดหวังเอาไว้แน่นอน“ทำไมละคะ” พลอยไพลินได้แต่เลิกคิ้วถามผู้เป็นแม่ออกไป เพราะอะไรกันถึงทำให้มารดาเธอมั่นใจขนาดนี้“เพราะว่า จริง ๆ แล้ว ตากรไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของป้าอรกับลุงเดชยังไงละลูก” เพ็ญพรรณีจึงยอมบอกความจริงกับลูกสาวออกไป“หมายความว่า?”“ตากรเป็นเด็กกำพร้า ที่ลุงเดชกับป้าอรเขาไปขอรับมาเลี้ยง”“...” พลอยไพลินนิ่งอึ้งเมื่อรับรู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้“พวกเขาทั้งสองคนมีบุญคุณกับตากรมากขนาดนั้น ใครจะกล้าขัดละลูกว่าจริงไหม ยังไงตากรกับลูกต้องได้หมั้นกันแน่นอน” เพ็ญพรรณีพูดกับลูกสาวอย่างมั่นใจ“แต่...”ถึงพลอยไพลินจะเชื่อว่าวรากรไม่กล้าขัดคำสั่งของผู้มีพระคุณ แต่เธอก็ยังมีความกังวลหนักใจอยู่ดี เพราะดูแล้ววรากรไม่ใช่คนที่จะควบคุมได้ง่ายเลย“เชื่อแม่เถอะ เรื่องนี้ให้แม่กับอรจัดการเอง

  • หวงรัก เมียชั่วคืน   9 - ไม่ใช่แฟนครับ

    ไม่ใช่แฟนครับ“สรุปว่าเรื่องหมั้นหมายมันยังไงกันแน่ครับ พ่อแม่” วรากรเอ่ยถามผู้เป็นพ่อและแม่ขึ้นมาอีกครั้งทันที ที่แขกผู้มาเยือนกลับออกไปแล้ว“แม่กับอรเราเคยให้คำมั่นสัญญากันไว้ตั้งแต่ที่พวกเรายังไม่มีครอบครัวแล้ว ว่าหากพวกเรามีลูกเราทั้งสองจะผูกดองกัน แล้วจะให้ลูกของพวกเราได้หมั้นหมายและแต่งงานกัน” อรอนงค์จึงบอกความจริงเรื่องในอดีตของเธอกับเพื่อนให้วรากรได้ฟัง ส่วนสามีนั้นอรอนงค์ก็พึ่งเล่าบอกไปเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง“เพราะเหตุนี้หรือเปล่าครับ ที่พ่อกับแม่ไปขอผมมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เพียงเพราะสิ่งนี้หรือเปล่าครับ” วรากรถามขึ้นมาทันทีที่ผู้เป็นแม่เล่าให้ฟัง เพราะเขาเองก็อยากรู้เช่นกันว่าที่พวกท่านเอาเขามาเลี้ยง เพียงเพื่อให้ตอบแทนบุญคุณของพวกท่านเท่านั้น ไม่มีความรักความผูกพันใด ๆ เลย ใบหน้ารู้สึกผิดหวังเผยออกมาอย่างเห็นได้ชัด“เรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวกับเรื่องหมั้นหมายเลยนะกร” อภิเดชจึงแทรกขึ้นมาบ้าง เกรงว่าลูกชายจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้“จะไม่เกี่ยวได้ยังไงครับพ่อ นี้มันเรื่องใหญ่ในชีวิตผมเลยนะครับพ่อ”“จริงอยู่ที่พ่อกับแม่เราไม่มีทายาทไว้สืบสกุล แต่ที่พ่อกับแม่รับกรมาเลี้ยงนั้น เพร

  • หวงรัก เมียชั่วคืน   8 - ถึงเวลาที่ต้องทำเพื่อแม่แล้ว

    ถึงเวลาที่ต้องทำเพื่อแม่แล้ว“เป็นจังใด๋ล่ะ กูเอิ้นนำกะบ่ทัน” (เป็นยังไงล่ะ กูเรียกไว้ก็ไม่ทัน) ชนาวิชญ์เอ่ยขึ้นมาทันที ที่เห็นโกสินทร์เดินกลับมาด้วยสีหน้าที่ดูจะผิดหวัง“บักหมอนั่น คือได้มาอยู่นี่” (ไอ้หมอนั่น ทำไมได้มาอยู่ที่นี่) โกสินทร์ถามขึ้นมาทันที“กะมันคือหมู่กู และเป็นพ่อของลูกธิดานำ” (ก็มันเป็นเพื่อนกู และเป็นพ่อของลูกธิดาด้วย)“กูกะเป็นหมู่มึง แต่กูคือบ่มีสิทธิ์ได้...” (กูก็เป็นเพื่อนมึง แต่ทำไมกูถึงไม่มีสิทธิ์ได้...) โกสินทร์ถามกลับอย่างไม่เข้าใจ เพราะตนเองก้เป็นเพื่อนกับชนาวิชญ์เช่นกัน แต่ทำไมเขาถึงไม่มีสิทธิ์พิเศษเหมือนกับวรากร“บักโก! มึงคิดว่ากูลำเอียงเห็นมันดีกว่ามึงแม่นบ่” (ไอ้โก! มึงคิดว่ากูลำเอียงเห็นมันดีกว่ามึงใช่ไหม)“...” โกสินทร์ได้แต่อ้ำอึ้งไม่ตอบ“กูสิบอกให้นะบักโก บักกรมันกะเป็นหมู่กูคือกัน แล้วมึงกะเป็นหมู่ของกู ทั้งมึงและมัน กูกะฮักและหวังดีนำทั้งสอง แต่ที่มันได้มาอยู่นี่ เพราะว่ามันบ่แมนคนแถวนี้ ส่วนมึงเฮือนอยู่แค่ปากทางมึงสิมาเฮือนกูยามใด๋กะได้” (กูจะบอกมึงให้นะไอ้โก ไอ้กรมันก็เป็นเพื่อนกูเหมือนกัน แล้วมึงก็เป็นเพื่อนของกู ทั้งมึงและมัน กูก็รักและหวังดี

  • หวงรัก เมียชั่วคืน   7 - ออกคำสั่ง

    ออกคำสั่งก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูไม้สักดังขึ้นอยู่ที่หน้าบ้านดังอยู่หลายครั้ง วรากรมองไปยังประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทพร้อมกับความเงียบ เขาจึงเป็นฝ่ายเดินไปเปิดประตูเสียเอง“มาทำไม?” เสียงราบเรียบเอ่ยขึ้น เมื่อเปิดประตูบ้านออกมา แล้วเจอกับเจ้าของใบหน้าที่เขาไม่ค่อยชอบหน้าเสียเลย และในตอนนี้ก็ยืนอยู่ที่หน้าบ้านของสุทธิดาแล้วทันทีที่ประตูเปิดออก คนที่ยืนอยู่หน้าประตูบานนั้นกลับเบิกตากว้างขึ้นมาทันที เพราะคนที่เปิดประตูออกมานั้นไม่ใช่หญิงสาวที่เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้“คุณ! มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” น้ำเสียงตะกุกตะกักถามออกไปอย่างตกใจที่เจอเขาอยู่ที่นี่แถมยังอยู่ในบ้านของสุทธิดาอีกด้วยใจหนึ่งก็นึกอิจฉาที่เขาได้รับอภิสิทธิ์ให้เข้าไปด้านในได้ เพราะตั้งแต่ที่เธอแยกออกมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ เขาก็มาหาเธอแทบทุกวันแต่ก็ไม่เคยได้เข้าไปสำรวจด้านในเลย อย่างมากก็ได้นั่งอยู่แค่ระเบียงหน้าบ้านเท่านั้นแต่กับวรากรเขาที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของลูกสาวสุทธิดานั้น กลับอยู่เหนือเขาเสียทุกอย่างแถมยังได้รับอนุญาตเข้าออกได้อย่างง่ายดายอีกมันน่าน้อยใจนัก แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรได้“ทำไมผมจะมาไม่ได้ ก็ลูกผมอยู่ที่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status