ปัจจุบันอาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลี ญี่ปุ่นคือสิ่งที่สาวๆ หลายคนโปรดปราน แม้ว่าจะควบคุมน้ำหนักแทบตายเพื่อไม่ให้ตัวเองกลายพันธุ์เป็นแม่หมูตัวอ้วนกลมแก้มยุ้ยน่ารักน่าหยิก ก็แหมกลิ่นของเนื้อสัตว์ที่หมักด้วยน้ำซอสสารพัดอย่างยามวางบนเตาย่างมันชวนน้ำลายสอจะตายไป ฉันคนหนึ่งล่ะที่จะไม่ยอมมองเตาแล้วทำตาปริบๆ และท่องบอกตัวเองในใจว่าอย่านะ มันอ้วนหรอกย่ะ เพราะหมูแดงคนนี้ไม่ได้ควบคุมน้ำหนักอย่างบ้าคลั่งถึงขนาดนับปริมาณแคลอรี่ในอาหารว่าวันๆหนึ่งสามารถบริโภคนั่นนี่ได้เท่าไหร่ อึ๋ย ขืนเป็นแบบนั้นคงไม่ต้องกินอะไรกันพอดีนอกจากดื่มน้ำเปล่า กินผลไม้ ธัญญพืชบลาๆ ยิ่งอาหารบนโลกใบนี้มันน่ากินไปซะหมดใครมันจะไปอดใจไหวแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมีความพอดีไม่มากจนท้องแตกตาย
ใช่แล้วล่ะ ตอนนี้ฉันกำลังนั่งสวยๆ เป็นนางเอกซีรีส์แบบมโนอยู่ภายในร้านอาหารเกาลีกับนายขุนพลที่บังคับและข่มขู่ให้ฉันมาด้วยจนได้ สั่งสิ่งที่อยากกินเสร็จฉันก็นั่งเท้าคางสำรวจตรวจตราใบหน้าผู้ชายฝั่งตรงข้ามอย่างพิจารณา อยู่นิ่งๆ นี่มาดคุณชายชัดๆ เลยค่ะคุณขา การแต่งตัวก็สะอาดสะอ้าน ผิวพรรณก็เปล่งปลั่งขาวเนียนละเอียดละออม๊ากมาก แถมหมอนี่มีลักยิ้มด้วยแหละ โอยฉันจะบ้าตายถ้าได้เห็นมัน และเกิดความรู้สึกอยากจะใช้นิ้วจิ้มเล่น มันเขี้ยว งื้ออ บ้าๆ นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ยที่ฉันมานั่งมองผู้ชายแล้วแอบเคลิ้มแอบเขินทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับแกเลยยัยหมูแดง ฮือ สงสัยช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาฉันเสพติดซีรีส์มากเกินไป เลยเพ้อเจ้อไปเรื่อย
“จะนั่งจ้องเตาอีกนานไหมหมู อ้าปากดิวะ” ขุนพลพูดอย่างหงุดหงิดเมื่อคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามเอาแต่จ้องเตาย่างตาไม่กระพริบมาเกือบสิบนาทีเข้าไปแล้ว
“อุ๊ย! ตกใจหมดเลย ตะคอกทำไมก็ไม่รู้อยู่ใกล้แค่นี้เอง” คนกำลังคิดอะไรเพลินๆ ไม่สะดุ้งให้มันรู้ไป
“แน่ะ ยังจะมามองค้อนทำหน้าตาน่ารักน่าฟัดใส่ฉันอีกเดี๋ยวก็โดนฟาดจนได้หรอก ฉันบอกให้เธออ้าปากไงเล่า จะกินไหมไอ้หมูย่างเนี่ย” ขุนพลดุอีกรอบเมื่อปากน้อยๆ ของฉันยังคงเม้มเอาไว้ ไม่ยอมกินง่ายๆ ดุแบบนี้ฉันก็อยากพยศน่ะสินายบื้อเอ๊ย! แต่ก็ทำได้ไม่นานหรอก เพราะ...
“งืออออ ชิ้นนี้ดีงามมาก มีอีกไหมอ่าแบบนี้อ่ะ” ดวงตาฉันเป็นประกาย จ้องหมูในตะเกียบที่ขุนพลคีบมาตรงหน้าตาเป็นประกาย พลางรีบอ้าปากงับหมูติดมันน่าหม่ำเข้าปากแต่โดยดีไม่มีอิดออดให้คนป้อนต้องอารมณ์เสียอีกรอบ
“คนอะไรกินเนื้อตัวเองได้น่าอร่อยขนาดนี้ หมูกินหมูโคตรน่าดูเลยว่ะ” ขุนพลกระตุกยิ้มแล้วเอื้อมมือใช้กระดาษทิชชู่เช็ดมุมปากให้ฉันคงจะเห็นว่ามันเลอะ
“หมูกินหมูแล้วใครจะทำไม ชิ!” คนปากไม่ดีว่าฉันกินตัวเองงั้นเหรอ เชอะ! โทษทีไม่สนใจหรอกตอนนี้อ่ะ ฉันกำลังฟินเฟ่อ เพราะมันอร่อยมากเลยจำต้องยอมอภัยให้ไปก่อน ทะเลาะด้วยเดี๋ยวเสียอรรถรสในการกินหมด
“นี่! ช่วยป้อนฉันมั่งดิวะหมู ฉันย่างให้เธอกินอยู่นะเนี่ย ช่วยมีน้ำใจกับฉันหน่อยสิ” ฉันยู่ปากใส่คนทำหน้าตาหงิกงอเป็นหมาหงอยเวลาเห็นเจ้านายกินของอร่อยแต่ตัวเองไม่ได้กิน แค่คีบเข้าปากตัวเองมันยากเย็นตรงไหนกัน
“อย่ามาทวงบุญคุณนะขุน” แค่ย่างให้ฉันกินทำมาบ่นนั่นนี่ตัวเองเป็นคนบังคบฉันมาแท้ๆ ยังจะพูดมากอีก “อ้าม อ้าปากสิ เห็นแก่ที่นายบริการหรอกนะเนี่ย” ฉันยื่นแขนไปจนสุดเพื่อป้อนคนบ่น แขนก็สั้นลำบากจะตายยังมาให้ป้อนใส่ปากอีก
“นี่ฉันถามจริงเถอะ ไอ้เสื้อที่มันตัวใหญ่ไม่รัดนมไม่มีแล้วเหรอวะยกแขนทีหนึ่งฉันกลัวว่ากระดุมเสื้อเธอมันจะกระเด็นกระดอนมาดีดใส่หน้าใส่ตาฉัน พอๆ เธอไม่ต้องป้อนฉันแล้ว” ขุนพลทำหน้าตาแบบว่าไม่พอใจฉันแรงมาก
“นายก็อย่ามาจ้องนมฉันสิยะ หน้าสวยๆ น่ะ มองเข้าไปสิโว้ย!”ฉันแทบจะพ่นไฟออกมา เพราะความอายที่หมอนี่มันพูดตรงเกินและทั้งยังสายตาราวกับกำลังประเมินอะไรสักอย่าง ที่สำคัญมันไม่ได้ขนาดนั้นเลยนะ แค่หน้าอกหน้าใจที่ม๊าให้ฉันมามันใหญ่เกินตัวเลยทำให้ดูเหมือนใส่ชุดอะไรมันก็ดูรัดรูปไปเสียหมด ยกเว้นพวกเสื้อยืดตัวใหญ่แบบหลวมๆ ไซส์ผู้ชายเท่านั้นแหละที่ใส่แล้วไม่เน้นรูปร่าง
“อย่ามาโวยวายเสียงดังใส่ฉันนะ รีบย้ายก้นงอนๆ ของเธอมานั่งนี่เดี๋ยวนี้เลยยัยหมูปีศาจ อย่าให้ฉันต้องพูดย้ำซ้ำไปมาหลายรอบ ถ้าไม่มามีจูบโชว์คนทั้งร้านแน่นอน” ขุนพลตบเบาะข้างตัวแล้วใช้มืออีกข้างกวักเรียกให้ฉันย้ายไปนั่งที่ว่างข้างตัวเอง
“สาบานนะว่าเราสองคนเพิ่งทำความรู้จักกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายทำเหมือนกับว่าเรารู้จักมาสักสองสามปี หรือมากกว่านั้นเยอะอ่ะถามหน่อยฉันไปสนิทสนมกับนายตอนไหนไม่ทราบไอ้คนบ้าปากไม่ดี” ปากฉันบ่น หน้าฉันตูมไม่รื่นเริงใจนะ แต่ก็ต้องจำใจลุกขึ้นจากที่เดิม แล้วเดินมาหย่อนก้นนั่งข้างไอ้คนดีแต่สั่งและสั่ง เพราะไม่อยากถูกจูบโชว์ไงล่ะ นั่นไง นั่งปุ๊บแขนมันก็เลื้อยพาดเกี่ยวรัดรอบเอวปั๊บเลย แหม่อะไรมันจะมือไวปานนี้
“แค่วันเดียวฉันก็สามารถสนิทสนมจนลอกคราบเธอได้แล้วหมู สนใจอยากลองไหมล่ะ ฉันพร้อมเสมอขอแค่เธอบอกว่าต้องการฉัน” จมูกโด่งของขุนกดประทับลงบนแก้มของฉันแล้วยักคิ้วให้อย่างกวนๆ พออ้าปากเตรียมจะด่าหมูก็ยัดเข้ามาในปากเต็มคำ
ฉันเคี้ยวหมูในปากแต่สายตาจ้องหน้าไอ้คนทะลึ่งที่ลูบเอวฉันเล่นอย่างเพลินมือแล้วฉีกยิ้มหวานหยดย้อย หึๆ ถึงปากไม่ว่างแต่มือน้องว่างนะจ๊ะพี่ขุนจ๋า หยิกมันสิคะจะรออะไรล่ะ ให้หน้าตาดีแค่ไหนฉันก็ไม่เว้นนะจะบอกให้
“ซี๊ด เธอหยิกฉันอีกแล้วนะ จุดเดิมกับเมื่อเช้าด้วยเนี่ย ยัยหมูปีศาจใจร้าย ทำไมทำกับพี่ขุนแบบนี้ล่ะหมู เลือดซิบแล้วมั้งเนี่ย เป่าให้เลยเจ็บจริง” ฉันล่ะอยากจะเอาตะเกียบอุดปากหมอนี่จังเลย ถ้าไม่หยิกให้เจ็บแล้วฉันจะหยิกทำไม
“เจ็บอะไรไม่ทราบยะ โดนแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ นี่ฉันออมแรงแล้วนะ ย่างต่อสิไม่ต้องมาเสแสร้งแกล้งสำออยเลย หิว! ฉันยังไม่อิ่มเข้าใจไหมขุน!” ฉันบอกอย่างหงุดหงิดปนหมั่นไส้สุดๆ แม้เขาจะทำมันออกมาได้น่ารักมากแค่ไหนก็ตาม
“ครับ คุณนายหมู”
Kunpon Talksพออิ่มท้องแล้วผมก็พาหมูมาเดินเล่นย่อยอาหารในโซนศูนย์การค้าต่อเลยเพราะยังไม่อยากกลับ หมูแดงตัวเล็กน่าทะนุถนอมมากหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งคือเตี้ยอ่ะเวลาเดินข้างกันความสูงแค่ระดับอกเท่านั้นเอง ส้นสูงที่ใส่อยู่นี่ไม่ได้ช่วยให้ตัวสูงขึ้นมาได้เลยเหอะ เรื่องส่วนสูงไม่ใช่ประเด็นหลักห่าเหวอะไรหรอกแค่คิดขำๆ เท่านั้น แต่ที่ไม่ขำนี่คือฟาร์มโคนมยัยบ้านี่ต่างหาก ไอ้ชอบมันก็ชอบนะมองแล้วเพลินเป็นบ้าและทำให้จินตนาการไปถึงความขาวความอวบของเนื้อแท้ภายใต้เสื้อนักศึกษาด้วย แล้วคนอื่นที่เห็นมันจะไม่คิดเหรอวะ“ทำไมนายชอบถึงเนื้อถึงตัวฉันเรื่อยเลยเนี่ยขุน! เดินเองได้ไม่ต้องประคอง” แม่ตัวดีแหงนหน้าคอตั้งมองหน้าผมอย่างหงุดหงิดเมื่อถูกกระชากเอวอ้อนแอ้นให้ขยับมาแนบชิดกับร่างกายผมจนแทบไม่มีช่องว่างให้อากาศได้รอดผ่าน แค่จับมือเดินเกี่ยวก้อยมันยังไม่เพียงพอหรอกตอนนี้ นี่ถ้าอุ้มเธอเดินได้ผมอุ้มไปแล้วนะแต่กลัวจะโดนหยิกจนเนื้อหลุดซะก่อนน่ะสิ“ฉันชอบ จบไหม”“ไม่ชอบ จบไหมคะพี่ขุน” ลอยหน้าลอยตาพูดเลยก้มฟัดแก้มแม่งเลยอยากท้าทายดีนัก ถึงจะเรียกพี่ก็ไม่ปล่อยหรอก“อ๊าย ขุนน” มือบางผลักหน้าผมออกพลางเบี่ยงหลบเป็นพัล
ปังๆๆๆ“โอ๊ย! คำว่าเกรงใจน่ะสะกดเป็นไหมคะคุณ ฮึ่ย!” เสียงใสบ่นกระปอดกระแปดพลางเดินกระแทกส้นเท้าไปที่หน้าประตูและเขย่งที่ช่องตาแมวดูว่าใครบังอาจมาเคาะประตูแทบหลุดรบกวนเวลาส่วนตัวของผู้หญิงตัวเล็กๆ ในช่วงสายเช่นนี้ เมื่อดูจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครก็เตรียมถอยหลังกลับ ขืนเปิดไปดูสุ่มสี่สุ่มห้ากลายเป็นโจรขึ้นมาซวยแย่ ไม่ว่ากลางคืนหรือกลางวันก็น่ากลัวพอๆ กันนั่นแหละ“หมูแดง ยัยหมูปีศาจ รีบมาเปิดประตูห้องให้ฉันเข้าไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันรู้ว่าเธอได้ยินเสียงฉัน ถ้ายังไม่เปิดถีบประตูพังจริงๆ นะเว้ย!” ขาที่กำลังก้าวชะงัก เพราะคุ้นกับเสียงนี้มาก ทำไมเมื่อกี้เขย่งดูไม่มีใครสักคนพอหันหลังเท่านั้นแหละเสียงปริศนาดังไล่หลังมาทันทีราวกับรู้ว่ากำลังทำอะไรคนหรือผีกันแน่แอ๊ดด“ขุน! นายมาทำบ้าอะไรที่นี่ไม่ทราบ” ฉันตะโกนเสียงดังอย่างหงุดหงิดใส่หน้าหล่อๆของหมอนี่ทันทีที่กระชากประตูออกมาปะทะสายตา นาทีนี้ต่อให้หน้าตาอปป้าบุคลิกแบดบอยแค่ไหนหมูแดงก็ไม่สน โหวกเหวกโวยวายชนิดที่ว่าไม่กลัวห้องอื่นจะออกมาด่าแม่ด่าพ่อขนาดนี้บอกตรงๆ โมโหค่ะ กริ่งมีก็ไม่ยอมกดใช้มือทุบปังๆ สนั่นหวั่นไหว ยอมใจเขาเลยไอ้คนเถื่อน“ที่เปิดช้านี่ไม่ใ
Kunpon Talksยัยตัวเล็กตาค้างเลย สงสัยจะอึ้งที่ผมบอกให้เธอเป็นแฟนผม ไม่ได้พูดเอาสนุกนะแต่ผมคิดจริงเลยพูดออกมาอย่างง่ายดายทั้งที่คำๆนี้ไม่เคยคิดอยากจะใช้กับใครมาก่อนเลย ก็นะหมูน่ารักขนาดนี้ใครมันจะมัวแต่ช้าอืดอาดเป็นเต่าอยู่ได้ ทำงั้นหมาได้คาบชิ้นเนื้องามๆ ชิ้นนี้ไปกินก่อนน่ะสิ ผมไม่ยอมหรอกเว้ย ที่บอกว่าไม่ได้นอนทั้งคืนนี่ก็เรื่องจริงนะเพราะในหัวสมองมันคอยแต่จะวนเวียนคิดถึงใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรา เสียงใสๆ ตัวหอมๆ อยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ผมมาส่งเธอที่คอนโด อยากโทรหาใจแทบขาดแต่ก็ต้องยับยั้งชั่งใจตัวเองเอาไว้ขืนโทรมาฟังเสียงเจื้อยแจ้วมีหวังได้บึ่งรถมาหากลางดึกแน่ และเมื่อท้องฟ้าสว่างโล่ พระอาทิตย์ขึ้นประจำการผมก็ไม่รอช้าที่จะบุกมาหาถึงบนห้อง นี่ผมเป็นเอามาอย่างคาดไม่ถึงเลย หมูทำเสน่ห์ยาแฝดใส่ผมปะวะ หรือเป็นผมเองที่เกิดอาการคลั่งยัยตัวเล็กมากมาย ทั้งที่เธอไม่ได้มีท่าทางอะไรให้เห็นว่าชอบผมมากเกินกว่านี้“เป็นแฟนงั้นเหรอ ถามหน่อยนายชอบฉันรึเปล่าหรือแค่อยากควงเล่นฆ่าเวลาเฉยๆ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันไม่เอาด้วยเด็ดขาดบอกไว้ตรงนี้เลย” สวยด้วยฉลาดด้วยหมูของผม ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นผมคิดว่าคงไม่มีใครมาถามแบบนี้
เสือสามตัวสุดท้ายท้ายสุดฉันก็ไม่ได้ไปเรียนจริงๆ แถมยังโดนหอบหิ้วมาที่ร้านแต่งรถครบเครื่องแสนหรูหราของผู้ชายที่ฉันกำลังศึกษาดูใจหมาดๆ ฟังดูดีใช่ไหมล่ะ แต่ก็นั่นแหละประโยคนี้เหมือนฉันจะใช้เรียกอยู่ฝ่ายเดียวและชื่อร้านก็อื้อหือเลยตอนเห็นป้าย ใครเป็นคนคิดชื่อนี้กันเนี่ยมันไม่เหมือนร้านแต่งรถเลย ดิบๆ ทื่อๆ คล้ายร้านขายยาดอง ร้านหมูกระทะยังไงก็ไม่รู้สิ ไม่มีไอเดียที่ดีกว่านี้แล้วหรือไง อืมถึงชื่อร้านมันจะแปลกแหวกแนวไม่สมกับกิจการไปสักหน่อยแต่ลูกค้านี่อย่างเยอะอ่ะ รถดีๆ ราคาแพงๆ มาจอดรอทำกันเพียบ“นี่หมูแดงเมียกู” ฉันถูกแนะนำอย่างนี้กับลูกน้องทุกคนของหมอนี่เมียฉันกลายเป็นเมียแทนแฟนหรืออะไรก็ตามที่ไอ้บ้าขุนมันสามารถพูดได้แต่ไม่เลือกที่จะพูดไง สรุปที่คุยๆ กันไว้ไม่เป็นไปตามนั้นเลยสักนิดเดียว ไม่ว่าจะเป็นการถูกเนื้อต้องตัวโน่นนี่นั่นก็ยังปฏิบัติเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือหนักกว่าเก่าอีก“มึงได้น้องหมูแดงแล้วเหรอวะไอ้ขุนแม่เจ้าโว้ยไวไฟจริงเพื่อนกู” ไม่ใช่ใครพี่จิวนั่นเองที่แหกปากตะโกนเสียงดังมาแต่ไกล สงสัยอยากบอกคนทั้งซอยมั้ง“เออกูจับหมูกลืนลงท้องแล้วเรียบร้อย ตอนนี้กูเลยขยับขั้นขึ้นมากลายเป็นผัวหม
เช้านี้ที่แสนจะไม่สดชื่นเลยของหมูแดง เมื่อคืนกว่าจะกลับถึงห้องได้ก็ปาเข้าไปดึกโขละ แล้ววันนี้ก็ดันมีเรียนเช้าอีกไงแปดโมงครึ่งอยากหยุดนอนตีพุงให้เต็มอิ่มนะแต่เมื่อวานก็ดันหยุดไปโดยไม่ใช่เหตุสำคัญแล้วน่ะสิ ซึ่งความผิดนี้มันไม่ใช่ของฉันแต่ความผิดนี้มันคือของไอ้บ้าขุนคนเดียวเลย บอกให้พากลับก็เดี๋ยวอยู่นั่นแหละจนฉันตาจะปิดจริงๆ ถึงได้ยอมบอกลาทุกคน สภาพตอนนี้คืออยู่ในชุดนักศึกษาแต่หน้าสดทาแค่ครีมกันแดดกับแป้งฝุ่นบางๆ ไม่ได้ลงเมคอัพเขียนแค่คิ้วมงกุฎของใบหน้าเพิ่มความสวยให้กับตัวเองเท่านั้น มาในลุคใสๆ มากกว่าทุกครั้ง ลืมตาเล็กๆ บ่งบอกถึงความเป็นอาหมวยน้อยเดินออกจากห้องมาได้นี่ก็นับว่าดีมากๆ แล้วล่ะ เดินอ้าปากหาวแล้วหาวอีกจนน้ำตาเล็ดเช็ดไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ นอนไม่พออ่ะมันเลยพาลให้หงุดหงิดย้อนกลับไปเมื่อคืนเสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานออกรสออกชาติเฮฮาปาจิงโกะ ตามประสาวัยรุ่นแหกปากโหวกเหวกโวยวายราวกับที่นี่รวบรวมกลุ่มคนบ้ามาไว้ด้วยกัน ร้องเพลงเพราะบ้างเพี้ยนบ้างสลับกันไป ชนแก้วกันครื้นเครงประหนึ่งกำลังนั่งอยู่ในร้านเหล้า ซึ่งมันเป็นแบบนี้มาสักประมาณหนึ่งชั่วโมงได้แล้วหลังจากที่นายพวกนี้ปิดร้า
กลับมายังปัจจุบันตอนนี้ฉันลากสังขารมาถึงมหาวิทยาลัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยการโบกแท็กซี่นั่งมาเพราะอาการนี้ไม่เหมาะแก่การขับขี่บนท้องถนนด้วยตัวเองเป็นอย่างมาก อันที่จริงคอนโดกับมหาลัยก็ไม่ได้ไกลจากกันเท่าไหร่หรอกอยู่ในละแวกเดียวกันนั่นแหละ แต่ว่าบ้านกับที่เรียนเนี่ยมันไกลกันไงเลยต้องมาอาศัยอยู่คอนโดแทนการไปกลับ เสาร์อาทิตย์ถึงจะกลับไปนอนบ้านให้ป๊าม๊าหายคิดถึง ปิดเทอมใหญ่ที่ผ่านมาก็อยู่บ้านช่วยขายทองยาวเลยเพิ่งกลับมาเมื่อวันเปิดเทอมวันแรกนี่เอง“แหม! เหม่อนะคะหล่อน ทำไมมัวแต่คิดถึงพี่ขุนสุดหล่ออยู่รึไงจ๊ะนังหมวย หน้าสดมาด้วยเหรอเนี่ยว๊าว น่ารักแบบโคเรียมากค่ะวันนี้เพื่อนฉัน” มินนี่เอ่ยทักเสียงใสดั่งระฆังแก้วแสบหูทันทีเมื่อหย่อนก้นนั่งลงฝั่งตรงข้ามนาง เรานัดเจอกันที่โรงอาหารเพื่อมาฝากท้องหาข้าวเช้าใส่ท้องก่อนจะขึ้นไปเรียน“ง่วงนอนต่างหากไม่ได้เหม่อย่ะแล้วก็ไม่ได้คิดถึงหมอนั่นด้วยอย่ามารู้ดีไปหน่อยเลย ส่วนเรื่องหน้าสดเนี่ยทำอย่างกับแกไม่เคยเห็นฉันเปลือยมันงั้นแหละชอบเว่อร์วังอลังการตลอด ไปหาซื้อข้าวกินเหอะหิวด้วยง่วงด้วยเนี่ย ว่าแต่ยัยพิ้งค์เถอะหายไปไหนล่ะมันมาถึงนานแล้วไม่ใช่เหรอ” เราสา
Kunpon Talksผมลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเกียจคร้านเพราะเสียงริงโทนโทรศัพท์ที่เพิ่งวางสายไปเมื่อสักครู่ ไอ้จิวมันบอกให้เข้าไปมหาลัยเพื่อเข้าชมรมที่เราสามคนสุมหัวคิดกันขึ้นมาเองเพราะไม่อยากไปอยู่ภายใต้คำสั่งของใคร อาศัยเส้นใหญ่คับมหาลัยของมันคนอื่นๆ เลยไม่กล้ามีปัญหาหรือต่อกรด้วยเลยสักคนแม้แต่อาจารย์ ที่นี่มีมันกฎบังคับว่านักศึกษาชั้นปีที่สามต้องก่อตั้งชมรมของแต่ละคณะขึ้นมาทุกปีเพื่อให้น้องปีหนึ่งปีสองคณะอื่นมาแลกเปลี่ยนทำกิจกรรมร่วมกันโดยไม่อนุญาตให้เข้าชมรมคณะตัวเองยกเว้นปีสี่ไม่ต้องยุ่งใกล้จบแล้วเป็นไงดีไหมล่ะ หมูแดงเองก็ต้องมาอยู่ชมรมเดียวกับผมเท่านั้น นั่นคือสิทธิ์ขาดที่ผมเลือก เรื่องอะไรจะยอมปล่อยให้เลือกตามความสมัครใจของตัวเองไม่มีทางซะหรอกยิ่งดื้อบวกพยศอยู่ด้วย ชมรมที่ว่าก็ไม่ได้จะให้ทำอะไรมากหรอกสบายจะตายเผลอๆ แค่นั่งนอนหรือไม่ต้องเข้าเลยด้วยซ้ำใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่นานผมก็ขับรถตรงดิ่งมามหาวิทยาลัย ไม่ต้องวนหาที่จอดรถนานเหมือนคนอื่นเพราะเรามีที่จอดค่อนข้างส่วนตัวโทรหาหมู หมูก็ดันไม่ยอมรับสาย ไลน์ไปก็ไม่อ่านถ้าเจอตัวต้องจัดการหน่อยแล้ว โทรศัพท์มีไว้ใช้ไม่ได้มีไว้ประดับกระเป๋าเฉยๆ ท
ห้องชมรมของพวกคณะบริหาร กว้างขวางมากรวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน อย่างว่าแหละน่าหนึ่งในสมาชิก ณ ที่นี้ซึ่งนั่นก็คือพี่จิวเป็นถึงลูกชายของเจ้าของมหาลัยเชียวนะมันจะธรรมดาได้ยังไง ฉันที่ไม่มีสิทธิ์เลือกและไม่ได้เลือกเองด้วยความสมัครใจมานั่งแหมะกับเพื่อนหลังจากที่โดนนายขุนลากมาได้พักใหญ่แล้ว คนที่รู้จักในนี้มีแค่พี่จิว พี่เคนเท่านั้น ส่วนรุ่นพี่คนอื่นๆ ไม่รู้จักใครเลยสักคน ถูกมองไหมมันแน่นอนอยู่แล้วเพราะเราสามคนไม่ใช่เด็กในสังกัดของคณะนี้แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามอะไรออกมาเลยนะ คงเป็นเพราะว่าฉันรู้จักสามหนุ่มนี่ด้วยเลยไม่มีใครกล้ายุ่งกล้าซัก วันนี้เขาให้เลือกก่อนคนที่ต้องการเข้ามาอยู่เลยยังไม่มีสิทธิ์ก้าวขาเข้ามาในนี้ยกเว้นฉัน มินนี่และพิ้งค์ที่ได้สิทธิพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ ที่มีคนพาตัวมานั่งตากแอร์เย็นๆ ถึงที่“ชมรมนี้มันชื่อชมรมอะไรอ่ะยังไม่รู้เลยหรือว่ามันไม่มีชื่อนอกเหนือจากนี้ ใช้ว่าชมรมคณะบริหารงี้เลยเหรอหมูแดง” ยัยมินนี่สะกิดถาม ฉันส่ายหน้าเพราะไม่รู้เหมือนกันว่ามันอะไรยังไง โดนพามาอย่างงงๆ ตอนระหว่างทางที่เดินมาก็ไม่ได้ถามนายขุนด้วย หมอนี่ก็นะแทนที่จะบอกกันล่วงหน้าไม่มีหรอก
“นั่นสิคะ รีบ ๆ ทำเข้าพี่เคน เสียเวลา เกรงใจเจ้าของห้องอย่างเพื่อนมินนี่ซะบ้าง เรื่องบางเรื่องอย่าทำเป็นรู้มากเหมือนตัวเองเซียนหน่อยเลยค่ะ” มินนี่ว่าเข้าให้ สายตานี่มองแรงด้วย เห็นมีมุมหวาน ๆ แบบนี้เวลาโมโหก็นางมารดี ๆ นี่เอง“ดุพี่ทำไมเนี่ยมินนี่ พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดนะ แค่แซวเล่น ๆ ขำ ๆ เอง”“พี่ด้วยพี่จิว น่าหมั่นไส้”“เลิกออเซาะเมียแล้วหันกลับมาทำส่วนของมึงต่อสิวะไอ้ขุน เพราะมึงนั่นแหละกูโดนพิ้งค์หมั่นไส้เลย มีแต่คนเข้าข้างมึงจนน่าระ...เอ่อ หมั่นไส้จริง ๆ” คำว่ารำคาญเปลี่ยนเป็นหมั่นไส้อย่างทันท่วงทีเมื่อสายตาสองคู่พุ่งตรงเข้าใส่“หอมหน่อยหมู”ฉันยู่ปากแล้วเอียงแก้มให้คนมีอาการง่วงที่ยอมโงหัวขึ้นมาหอมทั้งสองข้าง สงสัยจะต้องลุกไปชงกาแฟมาให้ดื่มแล้วสิ ไม่งั้นฉันคงได้เป็นคนทำรายงานแทนแน่ ๆ หาวให้หวอด ๆ“เดี๋ยวไปชงกาแฟมาให้นะ”“จูบก่อน”“ทำให้เสร็จก่อนแล้วจะให้จูบ ขยับด้วยขุนฉันจะเข้าไปในครัว”“ไอ้ขุน!! อย่าลีลาดิวะ”“กูรู้แล้วเคนว่าต้องทำส่วนของตัวเองน่ะ จะแหกปากทำบ้าอะไร”“รู้แล้วก็ช่วยขยับสักทีสิขุน” ฉันฟาดไหล่คนพาลไปแรง ๆ หนึ่งที ปากบอกรู้แต่ยังอยู่ท่าไหนท่านั้น ฟึดฟัดอยู่แป๊บถึงยอมแต
หลังกินสารพัดเมนูของอาหารอีสานที่เล่นทำเอาร้องซี๊ดปากเบิร์นไปตาม ๆ กันจนอิ่มท้องก็ถึงเวลาที่เหล่าคุณชายทั้งสามคนได้ฤกษ์ลงมือทำงานจริง ๆ จัง ๆ สักที ส่วนสาว ๆ ที่ไม่มีอะไรทำอย่างเรา ๆ ก็นั่งดูหนังไปด้วยพร้อมกับสั่งของออนไลน์กันสนุก ราวกับว่าเดินเข้าไปเลือกซื้อกันที่ร้าน และมันยิ่งสนุกมากเมื่อไม่ต้องใช้เงินในบัญชีของตัวเองสักบาทเดียว เพราะคุณชายขุนพลเขายัดโทรศัพท์ให้เข้าแอปโอนเงินได้ตามสบาย ไม่มีโอดครวญหรือห้ามไม่ให้ซื้อเยอะ พี่จิวกับพี่เคนเองก็ไม่ยอมน้อยหน้าเหมือนกัน“ฉันว่าเราสามคนเปลี่ยนใจไปงานวันเกิดของหนุงหนิงกันดีไหม ถ้าไปก็ได้เจอเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ที่ไม่ได้เจอกันมานมนานด้วยนะหมูแดง มินนี่ ว่าไงเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะจ๊ะ มันต้องสนุกมากแน่ ๆ กับบรรยากาศเก่า ๆ น่ะ ค่ำนี้แล้วนะ”“ถ้าแกสองคนเปลี่ยนใจจะไปกันขึ้นมาจริง ๆ ฉันก็ไม่มีทางพลาดหรอกน่า ไปไหนไปกันอยู่แล้ว” มินนี่ตอบโดยที่สายตายังคงจ้องอยู่ที่หน้าจอทีวีขนาดใหญ่ มือก็ล้วงเข้าไปในถุงมันฝรั่งอบกรอบมาเข้าปากเคี้ยวหมุบหมับ“ยังไงยะยัยหมวย จะไปหรือไม่ไป ตอบฉันสองคนมาเลยเร็ว ๆ เข้า อย่าลีลาจ้ะเพื่อน” พิ้งค์จ้องแกมบังคับจะเอาคำตอบเลย แล
อึ้งไหม ก็อึ้งน่ะสิ ตกใจไหมก็ตกใจอยู่นะ ผู้ชายของเราบอกรักครั้งแรกทั้งที บอกแบบดื้อ ๆ ด้วยที่ระเบียงมีผ้าตากไว้เต็ม หื้ม ผู้ชายของฉัน เขินตัวเองแป๊บ แต่ทั้งหมดทั้งมวลคือฉันแอบคิดเข้าข้างตัวเองมาโดยตลอดนั่นแหละว่านายขุนอาจจะมีความรู้สึกนี้กับฉัน ก็แหมจะไม่ให้คิดได้ยังไงพ่อคุณทูนหัวทูลกระหม่อมเล่นแสดงความห่วง หวงและหึงหนักมากอย่างชัดเจนไม่มีสงวนท่าทีเลยสักนิด แถมยังชอบทำตัวติดกับฉันแจเสียขนาดนี้ และคือตอนนี้ฉันพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะยังไม่ยิ้มออกมานะแต่บ้าจริงเชียว ฉันเก๊กหน้านิ่งแทบไม่ได้เลยอ่ะ“นายบอกว่ารักฉันงั้นเหรอขุน” ฉันทวนถามอีกครั้งแล้วชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ซึ่งฉันคิดว่าตัวเองยังนิ่งไม่เนียนพอเพราะหน้าที่มันร้อนผ่าว ๆ นี่แหละ ป่านนี้มันคงแดงเถือกลามลงมาถึงลำคอแล้วมั้ง“ฉันรักเธอหมูแดง รักหมูของฉัน” ขุนพลบอกฉันอย่างไม่มีแววล้อเล่นมีแต่ความออดอ้อนที่มันชัดเจนผ่านสีหน้าและแววตาพร้อมกับรวบเอวฉันไปกอดไว้แน่น เริ่มซุกปากซุกจมูกนัวเนียแถวฐานคอ อัตราการเต้นของหัวใจฉันว่าได้ยินมันชัดเลยแหละ“อย่าเพิ่งหื่นสิขุน คุยกันให้รู้เรื่องก่อน” ฉันประท้วงแต่ก็นะไม่มีผลต่อการรับรู้ของหมอนี่หรอก“เธอร
“ฉันก็จะกินกับแกมินนี่ เอาลาบหมู น้ำตกหมู ต้มแซ่บกระดูกอ่อน ส้มตำไข่เค็ม ตำซั่วหอยดอง ยำวุ้นเส้นด้วย ที่เหลือแกกับยัยพิ้งค์ก็เพิ่มเติมไปเลย” สั่งสิ่งที่อยากไปเต็มที่ แต่เชื่อเถอะว่าเห็นว่าเยอะๆ แบบนี้ สองสาวต้องเพิ่มอีกแน่ๆ“งั้นก็กินส้มตำกันทั้งหมดนี่เลยง่ายดี ไม่ต้องแปลกแยก สั่งไก่ทอดชุดใหญ่มาเพิ่มด้วย โอเคไหมวะไอ้ขุน ไอ้จิว ได้ยินที่น้องหมูแดงร่ายรายการอาหารให้มินนี่จดแล้วกูก็เริ่มอยากกินส้มตำไปด้วยแล้วเนี่ย แสบไส้ฉิบ”“อือ คุณนายเมียหมูกูกินอะไรก็กินตามนั้นแหละ ไม่เรื่องมาก” ตอบอย่างเนือยๆ แต่กลับทำตัวไม่เนือยตาม เดี๋ยวกอดเดี๋ยวหอมขาฉันประหนึ่งว่ามันคือน้ำมันหอมระเหยให้ความสดชื่นแก่ร่างกาย ตั้งแต่เริ่มทำรายงานที่ไม่เห็นจะได้เรื่องได้ราวอะไรเลย นี่ก็พร้อมใจกันหยุดพักแล้วด้วยเพราะความหิวเข้าโจมตี ยกขาขึ้นนั่งขัดสมาธิก็ไม่ได้ด้วยนะ ไม่ยอมต้องให้ขาฉันห้อยลงมาทั้งสองข้าง บางครั้งก็ให้พาดบ่าเกี่ยวเอาไว้ ไอ้ที่ว่าเมื่อยๆ นี่อาจเป็นเพราะเหตุนี้ก็ได้นะฉันว่า“เออ สั่งมาเยอะๆ หน่อยนะครับสาวๆ คือพวกพี่หิวกันมาก”“ห้องแกมีน้ำแข็ง น้ำหวาน น้ำอัดลมพอพวกเรากินไหมอ่ะหมูแดง ถ้าไม่มีจะได้ให้พี่จิวล
เช้าวันอาทิตย์แทนที่จะได้นอนตื่นสายสบายๆ แต่ผมกลับต้องแหกตาตื่นตั้งแต่เจ็ดโมง กว่าจะข่มตาหลับลงได้ก็ค่อนคืนเข้าไปแล้วเพราะร่างในอ้อมแขนทำให้เสียการทรงตัว ลุกเข้าห้องน้ำไปสองรอบ เป็นไอ้ขุนบางครั้งก็ทรมานเป็นบ้าเลย แทะเล็มหมูจนได้เรื่องและเดือดร้อนตัวเองจนโดนรังแก“ขุน!! ทำให้ไม่รีบตากให้มันเสร็จๆ ไปล่ะ จะยืนหล่อเหม่อมองท้องฟ้าอีกนานไหม ไม่ได้กำลังถ่ายเอ็มวีเพลงหรือซีรีส์โปรดอย่าเข้าใจหน้าที่ตัวเองผิดไป” เสียงแหลมๆ เล็กๆ ทำเอาสะดุ้งลืมเรื่องที่กำลังคิดชั่วขณะเลย“รู้แล้วครับคุณนายหมู เร่งจังเลย มีแค่สองมือจะให้เร็วยังไงวะเนี่ย ขอเวลาให้ฉันหน่อยดิ” งานของผมตอนนี้ก็คือยืนตากผ้ารับอากาศร้อนๆตรงระเบียงที่เมียหมูซักไง คุณเธอโยนลงเครื่องกดปุ่มปั่น แล้วกระชากผมให้ลืมตาขึ้นตื่นมาทำหน้าที่ตาก เป็นการทำโทษที่ผมจับถอดชุดนอนออกเหลือแค่กางเกงในตัวเดียวที่ติดกายโคตรจะน่าขย้ำ จับฟัดจับจูบจนง่วง หลับไปตอนไหนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ตื่นขึ้นมาอีกทีก็เพราะเสียงตะคอกดุๆ และหนังหัวแทบหลุดพร้อมสายตาแข็งๆ ของเมียหมูที่กลายร่างเป็นปีศาจ“จะไม่ให้ฉันเร่งได้ยังไงล่ะกับอีแค่ตากผ้าทำซะนานชะมัดเลย นายยังต้องไปเก็บกวาดเช็ด
Kunpon Talks“คุยกับใครหมู ผู้ชายรึเปล่า” ผมเดินออกจากห้องน้ำก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุขกระแทกเข้าหูเลยเร่งฝีเท้ามาที่เตียงนอนแล้วคลานเข่าเข้าซ้อนหลังบอบบางที่นอนตะแคงข้างหันหน้าไปทางซ้ายมือ ด้วยความอยากรู้จึงชะโงกหน้ามองโทรศัพท์หน้าจอที่มือเล็กกำลังพิมพ์โต้ตอบอย่างคล่องแคล่ว และเห็นตรงมุมบนซ้ายเป็นชื่อกลุ่มที่มีสมาชิกเป็นยี่สิบคน“คุยกับเพื่อนๆ สมัยที่เรียนโรงเรียนน่ะ มีทั้งผู้หญิงผู้ชายนั่นแหละ ห้ามโวยวายเด็ดขาดบอกไว้ก่อน สระผมแล้วทำไมถึงไม่ยอมเช็ดให้มันแห้งก่อนล่ะ ยังเปียกชุ่มอยู่เลยนะขุน เช็ดเดี๋ยวนี้เลยน้ำมันหยดใส่ฉันเนี่ย ให้มันแห้งก่อนค่อยนอน แน่ะบอกละยังจะทำนิ่งทำเฉยอยู่อีก โตแล้วไม่ใช่เด็กๆสักหน่อย” หมูแดงเอี้ยวหน้ากลับมาดุและบ่นแล้วก็กลับไปสนใจหน้าจอโทรศัพท์ต่อ“ไม่ต้องมาทำเสียงเข้มเลย อยากให้เช็ดนักเธอก็เช็ดให้ฉันหน่อยดิ ไม่งั้นฉันจะนอนแบบนี้จริงๆ ด้วย เธอตัวเปียกไปด้วยอย่ามาบ่นฉันละกัน” ผมเลิกคิ้วหยั่งเชิง แล้วแย่งสิ่งที่ดึงความสนใจของหมูไปจากผมมาถือไว้ แล้วยัดผ้าขนหนูผืนหนาใส่มือเล็กแทนเวลานี้มันควรจะเป็นของผมแค่คนเดียวเท่านั้น ดึกๆ ดื่นๆ ไม่ไปหลับไปนอนกันวะ
“บ้าเหรอ ใครจะติดสปริงที่หน้าอก อื้อ! อย่าบีบสิขุน เดี๋ยวก็ดูหนังไม่รู้เรื่องหรอก เลิกเล่นซนสักทีเถอะน่า ปล่อยเลย” ฉันทุบไหล่หนาเมื่อมือซนๆ เริ่มไม่อยู่นิ่ง แทนที่จะฟังกันดันเลื้อยเข้ามาในเสื้ออีก สมาธิไม่มีตั้งแต่หนังยังไม่ฉาย“เรื่องอะไรต้องเอาออกด้วยมันก็ของฉันเหมือนกัน เธอรู้ไหมสถานที่ที่คู่รักอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศมาพลอดรักกันเธอรู้ไหมว่าโรงหนังก็ติดอันดับหนึ่งในห้าเลยนะหมูจ๋า บนเครื่องบิน บนเรือ ในทะเลก็ติดนะฉันอ่านเจอมาเมื่อไม่นานนี้เอง ที่ติดเป็นเพราะว่ามันค่อนข้างตื่นเต้นดี และไม่ใช่ว่าใครก็สามารถทำมันได้” พลอดรักในที่นี้คงไม่ได้หมายถึงจูบกันธรรมดาใช่ไหม บ้าน่า“ละ...แล้วยังไงล่ะ นายจะมาบอกทำไมเนี่ย ไม่อยากรู้เลยสักนิด” ฉันถามอย่างระแวดระวังสุดฤทธิ์และพยายามควบคุมเสียงไม่ให้ตื่นเกินเหตุ นายขุนไม่น่าไว้วางใจอีกแล้วเพราะสายตาเจ้าเล่ห์คู่นี้มันกำลังจะบอกอะไรบางอย่างกับฉัน“ก็อยากลองเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในนี้ดูบ้างว่าจะตื่นเต้นมากน้อยแค่ไหน น่าสนใจดีไม่ใช่เหรอ ไหนๆ เราสองคนก็นอนกอดกันอยู่ในโรงหนังแล้วด้วย ลองหน่อยดีไหม” ฮือ หมูแดงอยากมีคาถาหายตัวได้ตอนนี้เลยเจ้าค่ะสวรรค์เจ้าขา“ขุ
“อย่างอนพี่ขุนสิจ๊ะเมียหมูจ๋า พี่ขุนไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนเข้าโรงหนังเลย ส่วนมากจะพาเข้าแต่โรงแรมน่ะ อะ...โอ๊ย! ซี๊ดด...เจ็บโคตร” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดหลุดออกมาราวถูกฉันปาดคอ เพียงเพราะว่าถูกเล็บคมๆ ของฉันหยิกเข้าที่สีข้าง“แล้วตอนนี้ล่ะยังได้พาผู้หญิงคนไหนเข้าอยู่อีกไหมโรงแรมน่ะ ตอบมาให้ชัดๆ เลยนะ!!” ฉันถามคนปากดีเสียงเข้มและห้วนจัดแต่ไม่ได้ดังอะไรมากมายแค่ให้ได้ยินกันสองคนพอ เพราะด้วยสถานที่ในตอนนี้มันคือที่สาธารณะ มีคนนอกอยู่ไม่น้อยต้องเกรงใจคนส่วนมาก ท่องไว้เงียบๆ แม้ฉันจะเกลียดหน้าหล่อๆ ของไอ้บ้าขุนตอนตอบว่าส่วนมากจะพาเข้าแต่โรงแรมขั้นสุด หน้าตาช่างระรื่นชื่นบานจนน่าหมั่นไส้ โดนหยิกแค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ โมโห“ก็ไม่เคยไง วันๆ มีแต่หมู คิดถึงแต่เมียหมู ไม่อยากได้ใครอีกนอกจากหมู ถ้าจะพาเข้าโรงแรมก็คงจะเป็นเมียคนหมูคนนี้คนเดียวเท่านั้น ล้อเล่นนิดหน่อยทำไมต้องจริงจังขนาดนี้ด้วยเนี่ย” เสียงทุ้มพูดด้วยน้ำเสียงติดงอนๆ อ้อมแขนก็กอดรัดแน่นขึ้นไปอีกเมื่อพูดจบและจมูกโด่งเป็นสันก็กำลังคลอเคลียอยู่ที่แก้มไม่ห่าง แทบจะนั่งสิงร่างกายกันอยู่รอมร่อแล้วตอนนี้“ทำไมต้องจริงจังงั้นเหรอ? ลองสลับให้ฉันพ
ตอนนี้ฉันกับขุนมาถึงห้างดังเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากฝ่าการจราจรที่ค่อนข้างจะหนาแน่นแม้ว่าวันนี้เป็นวันหยุดแต่สำหรับคนที่ทำงานวันเสาร์และหยุดเพียงวันอาทิตย์วันเดียว ก็ยังคงเอาเรื่องอยู่หากมาในช่วงเวลาเลิกงาน คนเจ็บปากเพราะโดนเฮียหนึ่งต่อยร้องอยากจะมาดูหนังเรื่องใหม่ที่เพิ่งเข้าเมื่อสองสามวันก่อน ฉันก็ไม่ได้ขัดข้องแต่ประการใด ส่วนหนึ่งคืออยากเดินเที่ยวด้วยเผื่อจะได้อะไรใหม่ๆ ติดไม้ติดมือกลับไปใช้สอยให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเอง เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอาง เครื่องประดับ คอลเลกชันล่าสุดที่ยังไม่มีไรงี้ และสำคัญที่สุดคือเราสองคนยังไม่เคยได้ทำกิจกรรมนี้ร่วมกันเลยถ้าไม่นับที่ดูหนังด้วยกันในคอนโดครั้งนั้นที่ไม่จบอีกต่างหาก ไม่จบไม่ว่าคืนนั้นเป็นคืนที่อ๊าย หน้าอกฉันถูกลวนลามอย่างบ้าคลั่งด้วย มีแต่รอยแดงเต็มไปหมด คิดแล้วเลือดลมก็สูบฉีดดีเหลือเกิน ร้อนผ่าวไปทั้งตัวเลยเนี่ย ฉันไม่ได้หื่นนะแค่ความคิดมันไหลไปเอง ควบคุมไม่ได้ด้วยไม่ ไม่ ไม่ ฉันหลับตาแล้วสะบัดหัวนิดหน่อยเพื่อขับไล่ความคิดสิบแปดบวกให้ออกจากสมอง ยืนฟังขุนเจรจากับพนักงานอย่างตั้งอกตั้งใจแทน“ขอบคุณมากครับ”“ครับ”สรุปที่อุต