ปัจจุบันอาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลี ญี่ปุ่นคือสิ่งที่สาวๆ หลายคนโปรดปราน แม้ว่าจะควบคุมน้ำหนักแทบตายเพื่อไม่ให้ตัวเองกลายพันธุ์เป็นแม่หมูตัวอ้วนกลมแก้มยุ้ยน่ารักน่าหยิก ก็แหมกลิ่นของเนื้อสัตว์ที่หมักด้วยน้ำซอสสารพัดอย่างยามวางบนเตาย่างมันชวนน้ำลายสอจะตายไป ฉันคนหนึ่งล่ะที่จะไม่ยอมมองเตาแล้วทำตาปริบๆ และท่องบอกตัวเองในใจว่าอย่านะ มันอ้วนหรอกย่ะ เพราะหมูแดงคนนี้ไม่ได้ควบคุมน้ำหนักอย่างบ้าคลั่งถึงขนาดนับปริมาณแคลอรี่ในอาหารว่าวันๆหนึ่งสามารถบริโภคนั่นนี่ได้เท่าไหร่ อึ๋ย ขืนเป็นแบบนั้นคงไม่ต้องกินอะไรกันพอดีนอกจากดื่มน้ำเปล่า กินผลไม้ ธัญญพืชบลาๆ ยิ่งอาหารบนโลกใบนี้มันน่ากินไปซะหมดใครมันจะไปอดใจไหวแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมีความพอดีไม่มากจนท้องแตกตาย
ใช่แล้วล่ะ ตอนนี้ฉันกำลังนั่งสวยๆ เป็นนางเอกซีรีส์แบบมโนอยู่ภายในร้านอาหารเกาลีกับนายขุนพลที่บังคับและข่มขู่ให้ฉันมาด้วยจนได้ สั่งสิ่งที่อยากกินเสร็จฉันก็นั่งเท้าคางสำรวจตรวจตราใบหน้าผู้ชายฝั่งตรงข้ามอย่างพิจารณา อยู่นิ่งๆ นี่มาดคุณชายชัดๆ เลยค่ะคุณขา การแต่งตัวก็สะอาดสะอ้าน ผิวพรรณก็เปล่งปลั่งขาวเนียนละเอียดละออม๊ากมาก แถมหมอนี่มีลักยิ้มด้วยแหละ โอยฉันจะบ้าตายถ้าได้เห็นมัน และเกิดความรู้สึกอยากจะใช้นิ้วจิ้มเล่น มันเขี้ยว งื้ออ บ้าๆ นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ยที่ฉันมานั่งมองผู้ชายแล้วแอบเคลิ้มแอบเขินทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับแกเลยยัยหมูแดง ฮือ สงสัยช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาฉันเสพติดซีรีส์มากเกินไป เลยเพ้อเจ้อไปเรื่อย
“จะนั่งจ้องเตาอีกนานไหมหมู อ้าปากดิวะ” ขุนพลพูดอย่างหงุดหงิดเมื่อคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามเอาแต่จ้องเตาย่างตาไม่กระพริบมาเกือบสิบนาทีเข้าไปแล้ว
“อุ๊ย! ตกใจหมดเลย ตะคอกทำไมก็ไม่รู้อยู่ใกล้แค่นี้เอง” คนกำลังคิดอะไรเพลินๆ ไม่สะดุ้งให้มันรู้ไป
“แน่ะ ยังจะมามองค้อนทำหน้าตาน่ารักน่าฟัดใส่ฉันอีกเดี๋ยวก็โดนฟาดจนได้หรอก ฉันบอกให้เธออ้าปากไงเล่า จะกินไหมไอ้หมูย่างเนี่ย” ขุนพลดุอีกรอบเมื่อปากน้อยๆ ของฉันยังคงเม้มเอาไว้ ไม่ยอมกินง่ายๆ ดุแบบนี้ฉันก็อยากพยศน่ะสินายบื้อเอ๊ย! แต่ก็ทำได้ไม่นานหรอก เพราะ...
“งืออออ ชิ้นนี้ดีงามมาก มีอีกไหมอ่าแบบนี้อ่ะ” ดวงตาฉันเป็นประกาย จ้องหมูในตะเกียบที่ขุนพลคีบมาตรงหน้าตาเป็นประกาย พลางรีบอ้าปากงับหมูติดมันน่าหม่ำเข้าปากแต่โดยดีไม่มีอิดออดให้คนป้อนต้องอารมณ์เสียอีกรอบ
“คนอะไรกินเนื้อตัวเองได้น่าอร่อยขนาดนี้ หมูกินหมูโคตรน่าดูเลยว่ะ” ขุนพลกระตุกยิ้มแล้วเอื้อมมือใช้กระดาษทิชชู่เช็ดมุมปากให้ฉันคงจะเห็นว่ามันเลอะ
“หมูกินหมูแล้วใครจะทำไม ชิ!” คนปากไม่ดีว่าฉันกินตัวเองงั้นเหรอ เชอะ! โทษทีไม่สนใจหรอกตอนนี้อ่ะ ฉันกำลังฟินเฟ่อ เพราะมันอร่อยมากเลยจำต้องยอมอภัยให้ไปก่อน ทะเลาะด้วยเดี๋ยวเสียอรรถรสในการกินหมด
“นี่! ช่วยป้อนฉันมั่งดิวะหมู ฉันย่างให้เธอกินอยู่นะเนี่ย ช่วยมีน้ำใจกับฉันหน่อยสิ” ฉันยู่ปากใส่คนทำหน้าตาหงิกงอเป็นหมาหงอยเวลาเห็นเจ้านายกินของอร่อยแต่ตัวเองไม่ได้กิน แค่คีบเข้าปากตัวเองมันยากเย็นตรงไหนกัน
“อย่ามาทวงบุญคุณนะขุน” แค่ย่างให้ฉันกินทำมาบ่นนั่นนี่ตัวเองเป็นคนบังคบฉันมาแท้ๆ ยังจะพูดมากอีก “อ้าม อ้าปากสิ เห็นแก่ที่นายบริการหรอกนะเนี่ย” ฉันยื่นแขนไปจนสุดเพื่อป้อนคนบ่น แขนก็สั้นลำบากจะตายยังมาให้ป้อนใส่ปากอีก
“นี่ฉันถามจริงเถอะ ไอ้เสื้อที่มันตัวใหญ่ไม่รัดนมไม่มีแล้วเหรอวะยกแขนทีหนึ่งฉันกลัวว่ากระดุมเสื้อเธอมันจะกระเด็นกระดอนมาดีดใส่หน้าใส่ตาฉัน พอๆ เธอไม่ต้องป้อนฉันแล้ว” ขุนพลทำหน้าตาแบบว่าไม่พอใจฉันแรงมาก
“นายก็อย่ามาจ้องนมฉันสิยะ หน้าสวยๆ น่ะ มองเข้าไปสิโว้ย!”ฉันแทบจะพ่นไฟออกมา เพราะความอายที่หมอนี่มันพูดตรงเกินและทั้งยังสายตาราวกับกำลังประเมินอะไรสักอย่าง ที่สำคัญมันไม่ได้ขนาดนั้นเลยนะ แค่หน้าอกหน้าใจที่ม๊าให้ฉันมามันใหญ่เกินตัวเลยทำให้ดูเหมือนใส่ชุดอะไรมันก็ดูรัดรูปไปเสียหมด ยกเว้นพวกเสื้อยืดตัวใหญ่แบบหลวมๆ ไซส์ผู้ชายเท่านั้นแหละที่ใส่แล้วไม่เน้นรูปร่าง
“อย่ามาโวยวายเสียงดังใส่ฉันนะ รีบย้ายก้นงอนๆ ของเธอมานั่งนี่เดี๋ยวนี้เลยยัยหมูปีศาจ อย่าให้ฉันต้องพูดย้ำซ้ำไปมาหลายรอบ ถ้าไม่มามีจูบโชว์คนทั้งร้านแน่นอน” ขุนพลตบเบาะข้างตัวแล้วใช้มืออีกข้างกวักเรียกให้ฉันย้ายไปนั่งที่ว่างข้างตัวเอง
“สาบานนะว่าเราสองคนเพิ่งทำความรู้จักกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายทำเหมือนกับว่าเรารู้จักมาสักสองสามปี หรือมากกว่านั้นเยอะอ่ะถามหน่อยฉันไปสนิทสนมกับนายตอนไหนไม่ทราบไอ้คนบ้าปากไม่ดี” ปากฉันบ่น หน้าฉันตูมไม่รื่นเริงใจนะ แต่ก็ต้องจำใจลุกขึ้นจากที่เดิม แล้วเดินมาหย่อนก้นนั่งข้างไอ้คนดีแต่สั่งและสั่ง เพราะไม่อยากถูกจูบโชว์ไงล่ะ นั่นไง นั่งปุ๊บแขนมันก็เลื้อยพาดเกี่ยวรัดรอบเอวปั๊บเลย แหม่อะไรมันจะมือไวปานนี้
“แค่วันเดียวฉันก็สามารถสนิทสนมจนลอกคราบเธอได้แล้วหมู สนใจอยากลองไหมล่ะ ฉันพร้อมเสมอขอแค่เธอบอกว่าต้องการฉัน” จมูกโด่งของขุนกดประทับลงบนแก้มของฉันแล้วยักคิ้วให้อย่างกวนๆ พออ้าปากเตรียมจะด่าหมูก็ยัดเข้ามาในปากเต็มคำ
ฉันเคี้ยวหมูในปากแต่สายตาจ้องหน้าไอ้คนทะลึ่งที่ลูบเอวฉันเล่นอย่างเพลินมือแล้วฉีกยิ้มหวานหยดย้อย หึๆ ถึงปากไม่ว่างแต่มือน้องว่างนะจ๊ะพี่ขุนจ๋า หยิกมันสิคะจะรออะไรล่ะ ให้หน้าตาดีแค่ไหนฉันก็ไม่เว้นนะจะบอกให้
“ซี๊ด เธอหยิกฉันอีกแล้วนะ จุดเดิมกับเมื่อเช้าด้วยเนี่ย ยัยหมูปีศาจใจร้าย ทำไมทำกับพี่ขุนแบบนี้ล่ะหมู เลือดซิบแล้วมั้งเนี่ย เป่าให้เลยเจ็บจริง” ฉันล่ะอยากจะเอาตะเกียบอุดปากหมอนี่จังเลย ถ้าไม่หยิกให้เจ็บแล้วฉันจะหยิกทำไม
“เจ็บอะไรไม่ทราบยะ โดนแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ นี่ฉันออมแรงแล้วนะ ย่างต่อสิไม่ต้องมาเสแสร้งแกล้งสำออยเลย หิว! ฉันยังไม่อิ่มเข้าใจไหมขุน!” ฉันบอกอย่างหงุดหงิดปนหมั่นไส้สุดๆ แม้เขาจะทำมันออกมาได้น่ารักมากแค่ไหนก็ตาม
“ครับ คุณนายหมู”
ผมเงยหน้าจากซอกคอขาวที่ฝากฝังเขี้ยวไว้หลายจุด ประสานนัยน์ตาเอาเรื่องของเมียหมู พลางยักคิ้วกวนอารมณ์ขุ่นมัวของคนกำลังอินซีรีส์แต่ดันค้าง เพราะผมชิงปิดก่อน งับจมูก จูบมุมปาก ก่อนจะล้มตัวลงนอนกอดก่ายหมอนข้างมีชีวิต ซุกหน้าเข้าหานมหนองโพคู่โตที่ประจำของผม วันไหนไม่ได้แตะต้องจะทำให้ผมงุ่นง่าน ของผู้หญิงคนอื่นผมเฉยๆ แต่กับของเมียมันทำให้ผมตื่นตัวได้ตลอดเวลา ขนาดว่าเห็นจนชิน กินทุกวันก็เถอะ“เอาไว้ค่อยดูวันหลัง เวลานี้ควรเป็นของขุน ไม่ใช่ซีรีส์”“ก็อยากดูตอนนี้ให้จบ ทำไมต้องปิดก่อนด้วย แล้วตัวเนี่ยมีแต่ กลิ่นบุหรี่ทั้งนั้น รีบไปอาบน้ำ ล้างกลิ่นออกเดี๋ยวนี้เลยนะ ก็รู้ว่าไม่ชอบ ยังจะแกล้งมานอนทับอีก ไล่ออกไปนอนนอกห้องดีไหมเนี่ย” เมียคนสวยได้ทีแล้วบ่นผัวใหญ่ แต่เท่าที่ผมลองพิสูจน์กลิ่นก่อนเข้ามามันก็ไม่ได้รุนแรงเท่าไหร่นะ ถ้าไม่ถอดเสื้อออกนี่สิ คงเป็นเรื่องมากกว่านี้ เพราะมันซึมซับมาเต็มๆ“ไม่เอา พี่ขุนไม่นอนนอกห้อง จะนอนกอดเมีย ขอห้านาทีนะครับแล้วเดี๋ยวพี่ขุนจะไปอาบน้ำตามคำบัญชาของคุณนายหมูแดง” ผมต่อรองเสียงอ่อน ใช้ลูกอ้อนนิดหน่อย พร้อมส่ายหน้าไปมากับอกนุ่มๆ ของเมียหมูที่นอนตะแคงข้างโอบกอดผมเอ
12:15 A.M....@ Marina ClubKunponTalksควันบุหรี่ลอยคละคลุ้ง ตลบอบอวลอยู่ในอากาศมันทำให้ผมหงุดหงิดมาก ความรู้กเหมือนตัวเองกำลังจะถูกรมควัน หรือย่างสดเลย เข้าใจหัวอกคนอยู่ท่ามกลางไอ้พวกสิงห์อมควันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ถ่องแท้ก็ตอนเลิกสูบนี่แหละ ยอมรับว่าแต่ก่อนผมก็มีนิสัยไม่ต่างจากพวกมันนักหรอก แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วไง ไม่น่าเชื่อว่าผมจะเลิก มันได้เด็ดขาด ไม่ลงแดงเหมือนใครหลายๆ คนที่ถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษา ถือว่ามันเป็นความโชคดีของผมด้วยแหละ และแรงบันดาลใจ ของผมก็คือหมูแดง พอรู้ว่าแม่คุณทูนหัวไม่ชอบกลิ่นเหม็นๆ ของมัน ผมก็พยายามไม่แตะต้องมันอีก กลายเป็นความเคยชินมาจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าหมูจะไม่ได้ห้ามเด็ดขาดแต่ผมก็รู้ตัวเองดี เมื่อก่อนนอกจากคนในครอบครัว เพื่อนรักเวรๆ อย่างไอ้เคน ไอ้จิว ผมก็ไม่แคร์ หรือสนใจใคร กระทั่งมีหมูแดงเข้ามาในชีวิต มีอิทธิพลกับผมมากกว่าแม่เสียอีกมั้ง ผู้หญิงสองคนนี้ที่ผมรักไม่น้อยไปกว่ากันนี่เวลาอยู่ด้วยกันทีไร เข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ไอ้ขุนเลยกลายเป็นหมาเฮ้อ...ห่างกันยังไม่ถึงสองชั่วโมงผมก็คิดถึงแล้ว ในหัวผมมัน ไม่ค่อยมีเรื่องอะไรให้คิดมากมายนักหรอก
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะขุน มีความสุขในทุกวัน สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วย อยู่กันไปแบบนี้เรื่อยไปจนเราแก่เฒ่าเลยนะ หมูแดงรักขุน รักนะคะ” พออวยพรจบปุ๊บฉันก็ประคองข้างแก้มแล้วจุ๊บที่ริมฝีปากหยัก แสงไฟสีนวลที่เปิดเอาไว้ส่องกระทบใบหน้าขุนทำให้ฉันเห็นว่าเขาตาแดงๆ ฉันว่าฉันก็พูดธรรมดานะ แต่ออกมาจากหัวใจล้วนๆ “โอ๋ มามะ” ฉันหอมแก้มแล้วดันท้ายทอยหนาให้ทิ้งหน้าลงกับไหล่ฉัน เกลือกกลั้วใหญ่เลย เอ็นดู“รักหมู รักหมู” เด็กชายขุนพลหอมซอกคอฉันแล้วไซร้ใหญ่เลย สงสัยจะมันเขี้ยว แต่ฉันเนี่ยจั๊กจี้ แต่เอาเถอะ ฉันจะยอมทนให้ก็ได้ เห็นว่าวันนี้เป็นวันเกิด“อยากได้ของขวัญเลยไหม” มาปลุกให้ตื่นขึ้นมาแล้วฉันว่าฉันควรทำอะไรให้มันครบครันไปเลย ไหนๆ ฉันก็มีของขวัญเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วขุนพยักหน้าแต่พอฉันจะดันตัวออกห่างเพื่อไปหยิบสิ่งที่คิดไว้ว่าจะให้ตอนเย็นวันนี้พร้อมคนอื่นๆ ก็ไม่ยอมปล่อย “ไม่ให้ขยับแล้วจะไปหยิบของขวัญมาให้ได้ยังไง”“อย่าช้านะ อยากกอด”ฉันย่นจมูกใส่แล้วรีบรุดลงจากเตียงเมื่อเจ้าของอ้อมกอดยอมให้อิสระแก่ฉัน และเดินหายเข้ามาในห้องแต่งตัวเพื่อหยิบกล่องของขวัญขนาดใหญ่ออกมา“ไม่รู้ว่าจะถูกใจรึเป
ฉันโอ๋เด็กโข่งอยู่นานกว่าขุนจะยอมกลับบ้านไปอย่างจำยอม แก้มก็แทบจะช้ำ เพราะจมูกกับปากขยันเอามาชน เหตุผลนอกเหนือจากที่บอกขุนไปแล้ว แน่นอนว่าฉันย่อมมีเหตุผลอื่นอีก เพียงแต่ฉันไม่ได้พูดออกมาก็เท่านั้น“คุณนายหมูเจ้าขา เลิกอมยิ้มกับตัวเองแล้วช่วยกรุณาสนใจเพื่อนๆ ด้วยค่ะ พี่ขุนของแกเขากลับไปพักใหญ่แล้วค่ะ” พิ้งค์โบกมือฉวัดเฉวียนไปมาตรงหน้าฉันย่นจมูกใส่แล้วปัดความคิดที่เกี่ยวข้องกับขุนออกไปชั่วคราว เดี๋ยวเพื่อนจะกัดแกมหยอกอีก ซึ่งเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เช้าและทุกครั้งที่ฉันชื่นชมทรงผมตัวเองแบบเงียบๆ“เลิกเรียนไปหาของขวัญให้พี่ขุนดีไหม หมูแดงคงไม่ต้องถามเพราะคิดว่ามีเตรียมเอาไว้สุดที่รักแล้วเรียบร้อย” มินนี่ถามพิ้งค์แล้วก็หันมามองฉันด้วยกันทั้งคู่“สายตาไม่ค่อยอยากจะรู้กันเลยเนอะ” ฉันประชด“เออน่า บอกมาเหอะหมวย ฉันสองคนไม่คิดปริปากหรือแอบแย้มบอกสามีแกหรอก ประเด็นคือจะได้ไม่ซื้อซ้ำกันไง น่านะ” วิธีการหลอกถามของพิ้งค์ที่มองผิวเผินคือไม่มีอะไร แต่แท้จริงคือการหลอกถามดีๆ นี่เอง01.05 น.หลังจากฉันส่งข้อความไปสุขสันต์วันเกิดขุนตอนเที่ยงคืนพอดิบพอดีเป็นที่เรียบร้อยก็ล้มตัวลงนอน แต่ข่มตาเท่าไหร่ก็ยัง
กระจกขนาดเหมาะมือลวดลายสวยงามคู่กายที่มีติดไว้ในกระเป๋าถูกฉันหยิบมาใช้งานแทบตลอดเวลา ในระหว่างเรียน กินข้าวกินขนม หรือคุยเล่น คือไม่ได้มองเบ้าหน้าแต่ฉันชื่นชมผมเปียคล้ายทรงเจ้าหญิงเอลซ่าของฉันต่างหาก ก็แหม... ขุนถักให้ฉันเองกับมือเชียวนะ จะไม่ภูมิใจได้ยังไงกัน เขาบอกว่าแอบฝึกหัดกับเส้นผมของวิกที่สั่งซื้อมาจากอินเทอร์เน็ตเพื่องานนี้เลย โดยเปิดยูทูปแล้วทำตามคนสอน กว่าจะทำได้ก็หัวเสียแล้วหัวเสียอีกจนอยากจะปาทิ้งอยู่หลายรอบ ใช้เวลาเมื่อตอนไม่มีฉันไปที่ร้านด้วย ซึ่งมันแทบจะไม่มีวันนั้นเลย พอฉันไม่ไปก็โวยวาย ลากไปด้วยจนได้ เพื่อนก็ไม่ให้ใครมารู้เห็นด้วย เพราะกลัวเอามาป่าวประกาศจนฉันล่วงรู้ก่อนที่เขาจะทำในสิ่งที่ยากเกินไปสำหรับผู้ชายเป็น อย่าว่าแต่ยากสำหรับสุภาพบุรุษทั้งหลายเลย กับผู้หญิงเองก็ยากเหมือนกันนั่นแหละ เห็นว่าเรื่องนี้เงียบๆ ไปนับตั้งแต่ครั้งนั้น ฉันคิดว่าล้มเลิกความตั้งใจหรืออาจลืมไปแล้ว ฉันเองก็ไม่ได้คาดหวังด้วย และมันก็ไม่ใช่ความลับระดับชาติที่ต้องปิดบัง แต่เขาต้องการเซอร์ไพรส์ฉัน เรื่องเล็กน้อยที่เขาเก็บใส่ใจทำให้ฉันมีความสุขและฉันก็ใกล้เหมือนคนบ้าเข้าไปทุกทีเมื่อหุบยิ้มได้ยาก
กว่าผมจะพาหมูออกจากห้องอีกครั้งก็เป็นเวลาอาหารค่ำเลย สีหน้าสาวๆ ของเพื่อนหมูก็ดูอิดโรยไปตามๆ กัน คนบนตักผมก็เช่นเดียวกัน ซบหน้ากับซอกคอผมเป็นลูกแมวสิ้นฤทธิ์เลย ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟผมก็แทะเมียเล่นไปก่อน บอกแล้วว่าอย่าดื้อกับพี่ขุนให้มากนักถ้าไม่อยากหมดแรง ก่อนพากันออกมาที่นี่ผมถามแล้วว่าอยากกินที่ห้องแทนไหม หมูรีบส่ายหน้าพร้อมพูดเสียงแข็งใส่หน้าว่าไม่เอา มาทั้งทีจะให้อยู่แต่ในห้องน่าเบื่อตายชัก กิจกรรมก็มีให้ทำให้ดูเพียบแต่เพราะคนแถวนี้ซึ่งก็คือผมทำให้เธอมีสภาพไม่ต่างกจากผักสักเท่าไหร่ ดูเมียผมเปรียบเทียบตัวเอง“ทำไมชอบทำให้หมูแดงคอยหมดแรงอยู่เรื่อยเลยนะ คนนิสัยไม่ดีมาเที่ยวน่าจะเว้นว่างจากความหื่นลงบ้าง ไม่ใช่เพิ่มเลเวลขึ้นแบบนี้”เสียงอู้อี้ต่อว่าผมเบาๆ คล้ายคนจะหลับ ผมชอบนะที่จะเป็นเก้าอี้หรือเตียงนอนให้เมียได้พักร่างกาย สิ่งที่หมูต้องการนั้นทำได้โคตรยากเลยแต่ผมก็ไม่ใช่คนใจร้ายกับเมียนักหรอก เหนื่อยก็พัก หายเหนื่อยก็ต่อ ธรรมดาจะตายไป“ก็ชอบดื้อไง และเรื่องแบบนี้มันว่างเว้นได้ยากมากหมูก็รู้นี่นายิ่งมาต่างสถานที่ ในบรรยากาศดีๆ ด้วย ใครจะไปอดใจไหวจริงไหม” ผมแนบริมฝีปากกับข้างแก้มนุ่ม