บทที่ 1.1 รักแรก
หกปีต่อมา
“ริตา! ไม่เห็นหรือไงว่าตรงนี้มันสกปรกแค่ไหน ตอนเช็ดได้ใช้ตามองบ้างหรือเปล่า หรือมัวแต่เอาลูกตาไปมองผัวชาวบ้าน!”
เสียงแปดหลอดของ ‘เจ๊ขวัญ’ เมียเจ้าของร้านข้าวมันไก่ที่หญิงสาวมารับจ๊อบเป็นพนักงานจิปาถะ หรือพูดง่าย ๆ คือเบ๊ที่ทำตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ ไม่ว่าจะเป็นปัด กวาด เช็ด ถูร้านไปจนถึงล้างจานและเสิร์ฟอาหาร
หล่อนจำเป็นต้องกล้ำกลืนฝืนทนทำต่อไป แม้จะต้องฟังถ้อยคำดูถูกจากเจ๊ขวัญมากมายก็ตาม คนที่เรียนไม่จบและไร้วุฒิการศึกษาสูง ๆ ไม่ได้มีงานดี ๆ รองรับมากมายนัก
“จะเช็ดให้ใหม่เดี๋ยวนี้แหละจ้ะเจ๊”
เธอตอบเสียงเบา ก้มหน้าก้มตาทำตามคำสั่งต่อไปด้วยจำเป็นต้องใช้เงินมาก อะไรที่มองข้ามได้ หญิงสาวก็จะมองข้ามมันไปเพื่อให้วันเวลาเลวร้ายพวกนี้ผ่านพ้นไปอีกวัน
เจ๊ขวัญยืนจิกตามองหล่อนอยู่ครู่เดียวก็มีสายเรียกเข้าในมือถือจึงปลีกตัวไปคุยธุระ คนตัวเล็กมองตามแล้วได้แต่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก การถูกจ้องแบบกดดันสร้างความกังวลให้ไม่น้อย ทำเอามือไม้แข็งจนเกือบทำงานไม่ได้
หมับ!
คล้อยสายตาเจ๊ขวัญไปได้ไม่ทันเท่าไหร่ ปาริตาก็ถูกจู่โจมกอดจากด้านหลังด้วยฝีมือของ ‘เฮียฮง’ เจ้าของร้านหรือพูดให้เข้าใจง่ายก็คือผัวสุดรักสุดดวงใจของคนที่เพิ่งเดินหายเข้าไปด้านในไม่ถึงสามนาทีนั่นเอง!
“เฮียจะทำอะไร ปล่อยริตานะ”
หล่อนดีดดิ้นเพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดน่าสะอิดสะเอียนนี้ ทว่าคนอวบอ้วนพุงพลุ้ยก็ไม่ยอมง่าย ๆ แต่ออกแรงที่วงแขนมากขึ้นหมายจะให้เธออยู่หมัดในคราวเดียว
“ไม่เอาน่าริตา ตรงนี้ไม่มีใครอีกแล้วนอกจากเราสองคน อย่าทำเป็นเมินเฮียอีกเลยนะจ๊ะ เฮียรู้นะ…ว่าหนูต้องการเงิน เฮียสัญญา ถ้าหนูยอมปรนนิบัติเฮียเป็นอย่างดี เฮียจะให้เงินมากเท่าที่หนูต้องการเลย”
“เฮีย! ริตามาทำงานแลกเงินนะจ๊ะ ไม่ได้มาขายตัว”
เธอตอบเสียงดังฟังชัด คำพูดของเฮียฮงมันดูถูกและเหยียดหยามศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงของหล่อนเป็นอย่างมาก ปาริตายังคงดิ้นสุดแรงด้วยต้องการบอกให้อีกฝ่ายรู้ถึงความไม่ยินยอม
“เฮียก็ไม่ได้บอกว่าริตามาขายตัวสักหน่อย เฮียก็แค่อยากจะดูแลหนูให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง เห็นหนูขยันขันแข็งแบบนี้ เฮียก็อยากช่วย”
“ถ้าเฮียอยากช่วย เฮียก็แค่ปล่อยให้ริตาได้ทำงานแบบคนปกติก็พอค่ะ เลิกสร้างความเดือดร้อนให้ริตาสักที”
หญิงสาวยังคงพยายามแกะมืออวบลื่น ๆ เพราะเหงื่อไหลไคลย้อยเต็มตัวของเฮียฮงออก แต่ก็ไม่อาจสู้แรงได้ ดวงตาคู่สวยกวาดมองซ้ายขวา ตอนนี้เป็นเวลาปิดร้านแล้วจึงไม่ค่อยมีใครผ่านไปผ่านมานัก
หล่อนต้องขอความช่วยเหลือ!
“ชะ…!”
“อีนังริตา!”
เจ๊ขวัญที่คุยโทรศัพท์เสร็จพอดีเดินออกมาเห็นทุกอย่างก่อนหญิงสาวจะทันได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ พอรู้ว่าเมียมาเฮียฮงก็รีบปล่อยมือ ทำเป็นผลักปาริตาออกราวกับว่าหล่อนนั่นแหละที่เป็นฝ่ายเข้าหา
“เฮียบอกแล้วไงว่าไม่ได้! ริตาเลิกทำอย่างนี้สักทีเถอะ เฮียรักเมียของเฮียคนเดียว ต่อให้หนูจะสวยหยาดเยิ้มปานนางฟ้าแค่ไหน เฮียก็ไม่สนใจ!”
คนตัวเล็กยืนอึ้ง นึกไม่ถึงเลยว่าผู้ชายคนนี้จะหน้มาไม่อายถึงขั้นกล้าเล่นละครหลอกเจ๊ขวัญทันท่วงทีเพื่อเอาตัวรอด
“หน็อยแน่นังริตา ฉันคิดอยู่แล้วเชียวว่าแกมันต้องเลี้ยงไม่เชื่อง เห็นชอบทำเล่นหูเล่นตากับผัวฉันและพวกลูกค้าผู้ชายบ่อย ๆ อีนังร่าน! ถ้าคันมากนักก็ออกไปขายตัวสิ จะมายุ่งกับผัวคนอื่นทำไม!”
“เจ๊ขวัญจ๊ะ ริตาไม่ได้…”
เพี๊ยะ!
“ฉันไล่แกออก จะไปแรดที่ไหนก็ไป!”
คนโกรธไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น เชื่อในคำพูดของสามีมากเสียจนลงไม้ลงมือกับลูกจ้างรายวันอย่างหล่อน ปาริตาหน้าหันไปตามแรงตบ รอบดวงตารื้นไปด้วยน้ำใส ๆ เจ็บปวดที่กายยังไม่เท่าเจ็บปวดที่ใจ
คำพูดดูถูกสารพัดพวกนั้นหล่อนโดนมานับครั้งไม่ถ้วน หากแต่ก็ไม่เคยชินเสียที มีแต่จะรู้สึกแย่สะสมเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมชีวิตของตนเองจึงอยู่ในจุดตกต่ำมาตลอด
ไม่เคยได้พบช่วงเวลาแห่งความสุขกับเขาบ้างเลย..
ไม่สิ…
อันที่จริงมันเคยมีช่วงเวลาหนึ่งที่สดใสราวกับความฝัน แม้ว่ามันจะผ่านมานานมากแล้ว แต่เมื่อได้นึกถึงก็ยังเป็นสิ่งดี ๆ ในชีวิตที่ช่วยฮีลใจของปาริตาในวันที่โหดร้ายที่สุดได้
ตอนพิเศษ 3ภูริตเดินสำรวจไปรอบบ้านของหญิงสาวหลังปรับความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อย การได้กลับมาเจอกันในครั้งนี้เขาสาบานกับตนเองแล้วว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะชายหนุ่มไม่คิดที่จะปล่อยมือปาริตาอีก ไม่มีวันยอมให้เธอหายไปอีกเป็นครั้งที่สามอย่างแน่นอน“ไม่นอนอีกหรือคะพี่ภู ขับรถมาเหนื่อยๆ น่าจะพักนะคะ” คนตัวเล็กเดินท้องโย้เข้ามาจนต้องแอ่นหลังเล็กน้อยเพราะท้องค่อนข้างใหญ่ ภูริตตรงเข้ามาประคองเมียรักนั่งลงบนเตียง“ระวังนะคะริตา ให้พี่อุ้มไหม”“ไม่ต้องหรอกค่ะ หมอบอกว่าริตาควรออกกำลังเยอะ ๆ จะได้คลอดง่าย ๆ การเดินก็ถือเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งนะคะ”หันมาตอบเขาพร้อมยิ้มกว้าง รอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นมาหลายเดือนทำเอาชายหนุ่มอดใจไม่ไหว เมื่อพาเธอนั่งลงเขาก็นั่งลงข้าง ๆ แล้วหอมแก้มหล่อนไปหนึ่งฟอดทันที“พี่คิดถึงริตาที่สุดเลย”“พี่ภู...อย่าค่ะ มันจั๊กจี้”เสียงหวานร้องห้าม พยายามเบี่ยงตัวหลบเขาแต่ก็ถูกขโมยหอมแก้มไปได้อีกหลายฟอดก่อนจะจบลงที่ใบหน้าหล่อซุกเข้าที่ซอกคอหอมกรุ่น“ริตาบอกพี่ว่า...ต้องออกกำลังกายเยอะ ๆ เพื่อให้ลูกคลอดง่ายใช่ไหม”“ใช่ค่ะ ที่ผ่านมาริตาพยายามขยับตัวทำนู่นทำนี่ตลอด เพื่อเป็นกา
ตอนพิเศษ 2.2มือเล็กทุบลงที่อกเขา ชายหนุ่มรีบคว้าแขนหล่อนเข้ามาใกล้เพื่อดึงมากอดแนบแน่น แม้จะยังไม่แน่ใจว่ามันคือความฝันหรือความจริง แต่การได้เห็น ได้สัมผัสปาริตาอยู่ในตอนนี้มันเหมือนยาถอนพิษที่เข้ามาช่วยเขาได้ทันเวลาพอดี“ริตา พี่ขอโทษ พี่ขอโทษจริง ๆ พี่ขอโทษ”“พี่ภูบ้า คนบ้า ฮือ...อย่าทำแบบนี้สิคะ อย่าทำให้ตัวเองน่าเป็นห่วงขนาดนี้ อย่าตามหาริตาอีก อย่าตาม...ฮือ...”คนตัวเล็กดีดดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของเขาครู่หนึ่งก็สงบลงก่อนจะพ่ายแพ้ต่อหัวใจและความโหยหาที่มี เรียวแขนเล็กโอบกอดชายหนุ่มกลับด้วยความรักทั้งหมดที่มี“พี่คิดถึงริตาเหลือเกิน พี่คิดถึงริตานะ”“ริตาก็คิดถึงพี่ภูค่ะ คิดถึงแทบบ้าเลย ฮึก!”น้ำตาหยดแล้วหยดเล่ารินไหลออกมา อ้อมกอดที่มีให้กันแนบแน่นราวกับไม่ต้องการจะปล่อยให้อีกฝ่ายหลุดมือไปอีก หลายเดือนที่หนีเขาไปไม่ได้ทำให้ความรู้สึกของหล่อนลดลงเลย กลับกัน...มันเหมือนเป็นการย้ำเตือนให้ปาริตารู้ว่าเธอรักเขามากแค่ไหนต่อให้ต้องแยกจากกันอีกสักกี่ครั้ง ก็ไม่อาจไปรักคนอื่นได้เลย“โอ๊ะ...คุณ...”สิธาที่ตามมาด้วยความเป็นห่วงและเพื่อช่วยเจ้านายตามหาตัวหล่อนกลับเข้ามาในห้องพอดี เขาตกใจมากที่ได้
ตอนพิเศษ 2.1“ยังไม่เจอเลย ผมหามาจะทั่วประเทศแล้วแต่ก็ไม่เจอ”ภูริตตอบปลายสาย ไพลินที่ไปดูงานอยู่ฝรั่งเศสโทรมาถามสารทุกข์สุกดิบเขาด้วยไม่ได้เจอกันมาหลายเดือน แม้จะจบสถานะการเป็นคู่หมั้นลงไปแล้วแต่ทั้งสองคนยังคงติดต่อกันในฐานะเพื่อน[คุณนี่มีความพยายามจังเลยนะคะ เป็นฉันหน่อยไม่ได้ ป่านนี้ได้คนใหม่ไปแล้วค่ะ]“คุณหาแฟนได้แล้วเหรอครับ?”เขายิงคำถามกลับไป บางทีไพลินอาจได้เจอผู้ชายที่ทำให้เธอตกหลุมรักจนอยากแต่งงานด้วยจริง ๆ แล้วก็ได้[ละเมออยู่หรือคะ อย่างฉันจะไปหาจากที่ไหนได้]“ถ้าคุณเปิดใจสักหน่อย ผมว่าคงหาได้ไม่ยาก ปัญหาคือคุณไม่เปิดใจต่างหากล่ะครับ”ชายหนุ่มให้คำแนะนำกับหล่อนทั้งที่ตนเองยังเอาตัวไม่รอดด้วยซ้ำ เวลาผ่านมาหลายเดือนแล้วแต่ยังไม่ได้ข่าวคราวของปาริตาเลย[เอาเวลาไปห่วงตัวเองเถอะค่ะ ไม่ต้องห่วงฉัน ตามหามานานขนาดนี้ ไม่ได้ข่าวอะไรบ้างเลยเหรอคะ]“ไม่เลยครับ”เจ้าของเสียงทุ้มตอบทันควัน เขาลองตามหาหล่อนตามสถานที่ที่เคยมาเที่ยวด้วยกันและตอนนี้ก็มาแวะอยู่โรงแรมที่ชะอำ สถานที่ที่เขากับเธอเคยร่วมกันสร้างความทรงจำแสนสุข[ฉันเอาใจช่วยคุณนะคะ แต่ตอนนี้ฉันต้องขอตัวก่อน มีประชุมด่วน ไว้คุยก
ตอนพิเศษ 1.2ด้านภูริตหลังงานแถลงข่าวจบลงก็กลับมาที่เพนท์เฮ้าส์พร้อมสิธา เขาใช้ชีวิตแทบจะเรียกได้ว่าไร้วิญญาณไปวัน ๆ ขณะวิ่งเต้นตามหาปาริตาไปทั่ว ขนาดจ้างนักสืบมาช่วยกันหาก็ยังไม่พบ ราวกับหล่อนล่องหนหายตัวไปเลย ผลจากการเอาแต่จมปลักอยู่กับเรื่องของหญิงสาว จึงลงเอยที่เขาขอถอนหมั้นกับไพลิน“นั่งก่อนครับเจ้านาย”สิธาประคองภูริตมานั่ง ตอนนั่งรถมาก็เอาแต่ดื่มเหล้ามาตลอดทางจนเดือดร้อนให้เขาต้องช่วยแบกมาถึงบนห้อง“ทำไมริตาต้องทำกับฉันแบบนี้ด้วยวะ เธอทิ้งฉันอีกแล้ว”“เจ้านายอย่าเพิ่งอาละวาดครับ ใจเย็น ๆ ก่อน”ต้องช่วยจับตัวอีกฝ่ายเอาไว้เมื่อเขาเริ่มฟาดงวงฟาดงาอาละวาดเหมือนอย่างเคย ตั้งแต่ปาริตาหายไปเขาก็ไม่เป็นผู้เป็นคน ถ้าไม่กินเหล้าก็ออกไปตามหาเธอจนไม่ยอมหลับยอมนอน เดือดร้อนสิธาต้องไปหิ้วปีกพากลับมาทุกทีเรื่องงานบริษัทไม่ต้องพูดถึง จะเจ๊งจริง ๆ ก็คราวนี้!ออด...ยังจัดการเจ้านายไม่ทันเสร็จ ก็มีแขกมาหา สิธาละจากภูริตไปเปิดประตูก่อนจะพบว่าคนที่มาคือไพลิน อดีตคู่หมั้นของเจ้าของห้องนี้นั่นเอง เธอดันประตูแล้วเดินเข้ามาด้วยตั้งใจจะมาดูสภาพของชายหนุ่มที่กำลังนอนกอดขวดเหล้าอยู่บนโซฟาแล้วเอาแต่เพ้อ
ตอนพิเศษ 1.1หลายเดือนแล้วที่ปาริตาหนีจากภูริตกลับมาอยู่บ้านเดิมของบิดาบนดอยเอื้อมฟ้าที่เชียงใหม่ เธอก็ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายตามแบบของตนเอง เอาเงินที่เก็บหอมรอมริบไว้มาใช้ระหว่างรอให้ถึงกำหนดคลอด ใช้พื้นที่รอบบ้านในการปลูกผักสวนครัวเพื่อหารายได้เล็ก ๆ น้อย ๆโชคดีที่ร้านขายของชำบนดอยนี้จำได้ว่าหล่อนคือลูกสาวของพ่อที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่เลยให้ความช่วยเหลือ ยอมให้หญิงสาวเอาผักและขนมที่ทำไปวางขายได้ชีวิตของปาริตาสงบและเรียบง่าย เธอหาซื้อไหมพรมมาเพื่อถักเสื้อผ้าของลูกน้อยเตรียมเอาไว้ในเวลาว่าง ๆ บ้างก็ติดต่อไปหาพี่สาวเพื่อบอกเล่าสารทุกข์สุกดิบต่อกัน“น้องริตา ทำอะไรอยู่คะ”เพื่อนบ้านผู้แสนดีประหนึ่งสไปเดอร์แมนและคอยให้ความช่วยเหลือ ห่วงใยทุกเรื่องราวในชีวิตของเธอแวะมาทักทาย ยืนเกาะรั้วพร้อมกับข้าวในมือ“ริตากำลังจะลงผักเพิ่มคะ พี่หนูดีมีอะไรหรือเปล่าคะ”“พี่ทำกับข้าวมาเผื่อจ้ะ อร่อยมากเลยนะ กินดีกับคนท้องมาก ๆ”หญิงสาวรีบออกไปรับมาถือไว้เอง ว่ากันตามจริงหากไม่ได้หนูดีและคนละแวกนี้คอยมาพูดคุยด้วยอยู่เสมอ ปาริตาก็คงหงอยเหงาจนไม่เป็นอันทำอะไรเธอยังคงคิดถึงภูริตอยู่ทุกวัน เพ้อหาเขาแทบทุกคืน อ
บทที่ 47.2 จบบริบูรณ์ (ลายแทงสมบัติ)“พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้วเหรอเนี่ย แม่เผลอหลับเพลินไปหน่อย เกือบพาลูกออกมาดูพระอาทิตย์ตกไม่ทันแล้วนะ”ปาริตาก้มมองท้องของตนเองพร้อมลูบเบา ๆ อย่างอ่อนโยนขณะออกมารับแสงแดดอบอุ่นยามเย็นก่อนช่วงเวลากลางคืนจะเข้ามาแทนที่เป็นเวลากว่าเจ็ดเดือนแล้วที่หล่อนตัดสินใจออกมาจากชีวิตของภูริตเพื่อมาอยู่ที่นี่ หญิงสาวรับรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขาเพราะปาริฉัตรโทรมาเล่าให้ฟังจนหมด รวมถึงเรื่องที่ชายหนุ่มถอนหมั้นกับไพลินไปตั้งแต่หกเดือนก่อนจนเป็นข่าวดังไปทั่ว ทำเอาข่าวสังคมในโทรทัศน์เล่นข่าวนี้อยู่หลายสัปดาห์กว่าจะหายไป ถึงอย่างนั้นหล่อนก็ไม่ได้คิดจะกลับไปหาเขา ปาริตาไม่อยากกลับเข้าไปเป็นความหวาดกลัวในชีวิตของภูริตอีกแม้ว่าจะคิดถึงแทบขาดใจก็ตาม...“อีกไม่นานเราสองคนแม่ลูกก็จะได้เจอกันแล้วนะ ถึงตอนนั้นมาสร้างความสุขร่วมกับแม่เยอะ ๆ นะจ๊ะ”“แบบนั้นก็ไม่แฟร์สิ แม่ลูกจะสร้างความทรงจำร่วมกันสองคนโดยขาดพ่อได้อย่างไร”ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างกับเสียงที่ได้ยินจากทางด้านหลัง หญิงสาวยืนตัวแข็งทื่อ ไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าเป็นใคร“พี่จะไม่พูดเรื่องเก่า ๆ ที่ผ่านมาแล้ว เราสองคนไม่ต้องข