Home / วาย / หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg] / ตอนที่ 1 ดั่งใบไม้ที่ย้อนคืนสู่ฤดูใบไม้ผลิ

Share

ตอนที่ 1 ดั่งใบไม้ที่ย้อนคืนสู่ฤดูใบไม้ผลิ

last update Last Updated: 2025-05-16 14:23:30

อรุณแรกของวันทอดแสงละมุนลอดผ่านหน้าต่างไม้ฉลุลาย วิ่งเล่นบนม่านผ้าไหมบางเบา ก่อนจะตกกระทบพื้นไม้ขัดมันเป็นประกาย ภายในเรือนใหญ่แห่งตระกูลเซี่ย เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วจากสวนเบื้องนอกคล้ายบทเพลงแห่งฤดูใหม่ ทว่าภายในใจของเซี่ยเหยียนอวี่กลับเงียบงัน ดั่งบึงลึกยามไร้ลมสะกิดผิวน้ำ

เขาทอดกายนอนนิ่งบนเตียงผ้าไหม มือเรียวกุมผ้าห่มแน่น ดวงเนตรงามจ้องมองเพดานไม้ด้วยความเหม่อลอย แววตานั้นแฝงไว้ด้วยเงาแห่งความระแวดระวัง อดีตชาติอันโหดร้ายยังคงติดตรึงดั่งรอยสลักบนดวงวิญญาณเขา

วังหลวงที่งดงาม...

ท้องพระโรงเย็นเยียบ...

สายตาเย้ยหยันของฉินลี่หรง...

และ... ดวงตาเย็นชาราวเหมันต์ฤดูขององค์ชายจวิ้นอี่

ทุกสิ่งยังคงชัดเจนประหนึ่งภาพสะท้อนในกระจกเงาบานใหญ่ มันยังคงฉายซ้ำอยู่ภายในความทรงจำของเขาตลอดเวลา

เหยียนอวี่บรรจงเคลื่อนมือมาสัมผัสใบหน้าตน ผิวเนียนนุ่มปราศจากร่องรอยแห่งความทุกข์ เป็นใบหน้าในยามวัยเยาว์ ช่วงเวลาที่ยังเปี่ยมด้วยความหวังและความฝันอันไร้ขอบเขต เขาก้าวลุกขึ้นด้วยความนิ่งสงบ เดินไปยังตู้กระจกโบราณ เงาสะท้อนตรงหน้าคือบุรุษหนุ่มผู้หล่อเหลาราวหยกขาว ภาพตรงหน้ายังคงเหมือนดังเช่นในอดีต แต่ดวงตาที่ครั้งหนึ่งเคยใสซื่อ บัดนี้ทอประกายเด็ดเดี่ยวแน่นหนัก

“ข้ายังมีชีวิตอยู่...” เขากระซิบเสียงแผ่ว ทว่าเต็มเปี่ยมด้วยพลัง “สวรรค์ได้มอบโอกาสให้อีกครั้ง...”

เขาหลับตานึกถึงอดีต คิดถึงตนผู้โง่เขลาที่เคยหลงเชื่อในรักแท้ มอบหัวใจให้ท่านอ๋องโดยมิระแวง ไม่รู้เลยว่าความบริสุทธิ์นั้นจะนำพาเขาไปสู่หายนะ ความรัก ความหวัง และความฝัน ล้วนพังทลายลงด้วยเล่ห์กลของฉินลี่หรง และด้วยความนิ่งเฉย ไม่คิดแม้แต่จะปกป้องของบุรุษที่เขาเคยรักจนหมดหัวใจ

“ข้าจะไม่ยอมให้โชคชะตาซ้ำรอยอีก” เสียงเขาเย็นชา ขณะมือกำแน่นจนเล็บจิกลงบนฝ่ามือ “ครานี้ ข้าจะทวงคืนทุกสิ่ง... ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม”

เมื่อแสงตะวันยามสายส่องผ่านบานหน้าต่างฉลุ เหยียนอวี่พาตัวเองมานั่งอยู่ในห้องหนังสือ ล้อมรอบด้วยตำราเก่าและม้วนประกาศมากมาย จดหมายจากวังหลวงถูกคลี่ออกต่อหน้า เขาอ่านถ้อยคำอย่างไม่สะทกสะท้าน เนื้อความระบุชัดว่าเขาได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมพิธีคัดเลือกคู่หมั้นขององค์ชายจวิ้นอี่ และจะต้องเข้าสู่ราชสำนักในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

เขายกยิ้มบาง คล้ายเยาะเย้ยตนเองในชาติที่แล้ว เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นแห่งโศกนาฏกรรมที่เขาเคยเดินผ่านมา หากแต่ครั้งนี้เขาจะย่างก้าวด้วยหัวใจที่แข็งแกร่งดุจศิลา หาใช่ด้วยความฝันลม ๆ แล้ง ๆ เช่นเดิม

“องค์ชายจวิ้นอี่...” เขาพึมพำ ดวงตาหลุบต่ำซ่อนประกายเย็นเฉียบ “ครานี้ ข้าจะไม่ยอมให้ท่านครอบครองหัวใจข้าอีกต่อไป”

ภาพอดีตหวนกลับคืนมา ดวงตาอ่อนโยน รอยยิ้มอันเคยทำให้หัวใจเขาเต้นแรง และมือที่เคยสัมผัสด้วยความรัก บัดนี้ ล้วนเป็นเพียงม่านลวงตา เขาสะบัดหน้าอย่างแรง เพื่อขับไล่ความรู้สึกเหล่านั้นให้มลายสิ้น

ก๊อก ๆ ๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้น

“นายน้อย ท่านพร้อมหรือยังเจ้าคะ?” ลู่ชิง สาวใช้คนสนิทกล่าวเบา ๆ พลางเปิดประตูเข้ามาอย่างระมัดระวัง กลิ่นชาดอกเหมยในถาดที่เธอถือเข้ามาด้วยลอยอบอวลไปทั่วห้อง

เหยียนอวี่หันไปสบตา นางคือผู้ภักดี แม้ในอดีตยามเขาตกต่ำ นางยังลอบนำอาหารให้ถึงตำหนักร้าง ทว่าความภักดีนั้นนำพาโทษทัณฑ์มาให้นางเช่นกัน นั่นทำให้เขารู้สึกผิดไม่น้อย แต่โอกาสที่สวรรค์ให้เขาในครั้งนี้ ทำให้เขาไม่อาจมอบความเชื่อใจแก่ใครได้ง่ายดายอีกแล้ว แม้กระทั่งนางก็ตาม

“ข้าพร้อมแล้ว” เขาตอบเรียบ ๆ เสียงนิ่งเสียจนลู่ชิงชะงักไปเล็กน้อย นางรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่เปลี่ยนแปรจากนายน้อยผู้เคยอ่อนโยนที่เธอเห็นมาตั้งแต่อีกฝ่ายยังเด็ก ดวงตาของเขาล้ำลึกเกินกว่าจะหยั่งถึง

“ท่านพ่อรออยู่ที่ห้องโถงเจ้าค่ะ” นางเอ่ยพร้อมวางถาดชา

เหยียนอวี่พยักหน้าเงียบ รู้ดีว่าการเข้าสู่พิธีคัดเลือกคู่หมั้นของราชสำนักไม่ใช่เพียงชะตาของเขาเพียงคนเดียว แต่มันคือเดิมพันของทั้งตระกูล หากเป็นชาติก่อน เขาคงรู้สึกหนักอึ้งจากความคาดหวัง ทว่าในครานี้ เขาจักใช้มันเป็นบันไดสู่การล้างแค้น

เขาเดินตามลู่ชิงออกไปด้วยท่าทีสงบ เขารู้ดีว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น เพราะมันเป็นเรื่องราวที่เคยปรากฏมาแล้วในอดีต ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้เรื่องราวมันซ้ำรอยเดิมอย่างแน่นอน ครั้งนี้เขาจะเอาคืนทุกอย่างที่ต้องเสียไปแบบที่เขาเองก็ไม่ได้เต็มใจ

ไม่ว่าใคร... เขาจะไม่ยอมให้ทำร้ายเขาได้อีกแล้ว

สองเท้าก้าวเข้าไปภายในห้องโถงของเรือนตระกูลเซี่ยอันตกแต่งด้วยความประณีต เซี่ยจง บิดาของเขานั่งอยู่ที่โต๊ะไม้จันทร์ด้านในด้วยท่าทางสุขุม น่าเกรงขาม เหยียนอวี่ตรงเข้าไปทักทายด้วยความเคารพก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม พ่อของเขาเอ่ยด้วยเสียงแน่นหนักทันที

“เหยียนอวี่ เจ้ารู้ใช่ไหมว่าเจ้าคือความหวังของตระกูลเรา”

“ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง” เขากล่าว พร้อมแววตาแน่วแน่ดุจหินผา “ข้าขอเวลาฝึกฝนตนก่อนเข้าวัง เพื่อให้พร้อมรับทุกกลศึกในนั้น”

เซี่ยจงนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้า “ข้าจะเตรียมทุกสิ่งให้เจ้า”

เมื่อการสนทนาสิ้นสุด เหยียนอวี่ก้าวผ่านสวนดอกเหมยของเรือน สายลมหอบกลิ่นบุปผาโชยมาแตะจมูก กลีบเหมยปลิวตกอย่างงดงาม แต่ในใจเขากลับคล้ายพายุโหมกระหน่ำ เวลาแห่งการเอาคืนใกล้มาถึงแล้ว

“ฉินลี่หรง...” เสียงกระซิบของเขานั้นเย็นเยียบ “เจ้าคือผู้เริ่มเกม ครานี้ ข้าจะเป็นผู้วางหมากด้วยตนเอง”

ตลอดทั้งบ่ายเขาเริ่มฝึกฝนในลานฝึกหลังเรือน แขนแกร่งยกดาบไม้ฝึกท่าพื้นฐานอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย หยาดเหงื่อไหลรินตามไรผม ทุกจังหวะคือคำมั่น ทุกเหวี่ยงดาบคือคำสาบาน

ลู่ชิงเฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ ก่อนกระซิบกับตนเองอย่างเป็นกังวล “นายน้อย... เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ”

เมื่ออาทิตย์ลับฟ้า เหยียนอวี่นั่งอยู่ใต้ต้นเหมยทอดตามองฟ้ายามสนธยา ม้วนคำสั่งจากวังยังอยู่ในมือ ริมฝีปากคลี่ยิ้มบาง ไม่ใช่รอยยิ้มแห่งสุข หากเป็นรอยยิ้มของผู้ที่พร้อมเผชิญพายุลูกใหญ่

“ราชสำนัก... จงรอข้าเถิด” เสียงของเขาเบา ทว่าเปี่ยมด้วยพลัง “ครานี้ ข้าจะเป็นผู้กำหนดโชคชะตาของตนเอง”

กลีบเหมยร่วงหล่นลงพื้น เป็นดั่งสัญญาณแห่งการเริ่มต้นชีวิตบทใหม่ของเซี่ยเหยียนอวี่ ผู้ที่กลับมาด้วยหัวใจซึ่งไม่มีผู้ใดอาจหักทลายได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg]   ตอนที่ 10 ชาแห่งความลับ

    แสงจันทร์สาดทอผ่านหน้าต่างฉลุของตำหนักหย่งชิง สะท้อนเงาร่างเซี่ยเหยียนอวี่ซึ่งนั่งนิ่งหน้าตู้กระจก มือเรียวปรับมงกุฎหยกบนเรือนผม ดวงหน้างามสง่าดุจหยกสลักฉายแววครุ่นคิดลึกล้ำ เหมือนบึงน้ำกลางคืนที่ไร้ผิวนิ่ง เขานึกถึงภาพขององค์ชายจวิ้นอี่ที่พบในสวนหย่อมของวังหลวงก่อนหน้านี้ คำพูดของท่านอ๋องที่ฟังดูเหมือนจะเจือปนกลิ่นของอดีต และสายตาที่คล้ายมองเห็นเขาลึกเกินไปกว่าคนที่เพิ่งจะได้เจอหน้ากันก๊อก ๆ ๆเสียงเคาะประตูแผ่วเบาดังขึ้น“นายน้อย ข้ามีจดหมายจากตำหนักหลงอวิ๋นเจ้าค่ะ” เสี่ยวหลานกล่าว พลางยื่นม้วนกระดาษที่ผนึกด้วยตราส่วนพระองค์เหยียนอวี่คลี่ผนึกอย่างสงบ ตัวอักษรหมึกดำเรียบง่าย... แต่ถ้อยคำมีน้ำหนัก“พบกันคืนนี้ เพื่อดื่มชาร่วมสนทนา”จากจวิ้นอี่ ไม่มีคำอธิบายเพิ่มเติม มีเพียงเงาแห่งความเงียบที่แฝงความหมายเอาไว้ภายใต้จดหมายนั้น“บอกผู้ส่งสารว่าข้าจะไป และเจ้าช่วยเตรียมชุดให้ข้าด้วย... ขอเรียบง่าย แต่สง่างาม”ยามค่ำคืน ตำหนักหลงอวิ๋นยืนเงียบสงบอยู่ท่ามกลางตำหนักอีกหลายองค์ในราชสำนัก โคมแดงแขวนเรียงรายดุจดวงดาว แสงจันทร์ทาบผ่านเงาต้นหลิว กลิ่นกำยานลอยเจืออากาศ บรรยากาศราวกับภาพฝันที่แฝง

  • หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg]   ตอนที่ 9 หน้ากากแห่งความเปราะบาง

    แสงแดดยามเช้าทาบผ่านม่านไหมของตำหนักหย่งชิง เงารำไรสะท้อนบนพื้นไม้ขัดเงาดั่งเงาใจ เซี่ยเหยียนอวี่ยืนหน้าตู้กระจกโบราณ มือเรียวปรับมงกุฎหยกบนเรือนผมที่ถักอย่างบรรจง ชุดผ้าไหมขาวปักลายบัวเงินขับใบหน้าเขาให้ยิ่งงดงามดุจหยกสลัก ทว่าสิ่งที่เด่นที่สุดมิใช่โฉมภายนอก หากแต่เป็นดวงเนตรที่แฝงไว้ด้วยไฟในเงานิ่งวันนี้ เขาตัดสินใจสวมหน้ากากอันใหม่แล้ว หน้ากากแห่งการแสดงตามแผนที่เขาได้วางเอาไว้ มันจะทำให้เขาดูเปราะบาง และอ่อนไหว เพื่อลวงสายตาคนทั้งวังให้เผยความจริงภายในใจที่มีต่อเขาออกมาให้หมด“นายน้อย ท่านพร้อมหรือยังเจ้าคะ?” เสียงเสี่ยวหลานดังขึ้น พร้อมกลิ่นชาดอกมะลิในถาดไม้แกะสลักเหยียนอวี่หันมาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนกว่าปกติ ท่าทีดูอ่อนแรงกว่าในทุกวัน เขาเอื้อมมือไปหยิบชามะลิในถาดขึ้นมาจิบพลางกระแอมเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยพูดต่อ “ขอบใจเสี่ยวหลาน... แต่วันนี้ข้ารู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อย ขอพักอีกสักหน่อยแล้วค่อยไป”เสี่ยวหลานนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนตอบ “รับทราบเจ้าค่ะ! นายน้อยพักผ่อนต่ออีกสักหน่อย ข้าจะดูแลท่านให้ดีที่สุดเจ้าค่ะ” แม้คำพูดฟังอ่อนหวาน แต่ในแววตามีความอยากรู้บางอย่างแวบผ่านเขาเพียงยิ้มจางก่อนใช้เว

  • หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg]   ตอนที่ 8 สายลมแห่งความภักดี

    ยามรุ่งสาง หมอกบางคลอเคลียเหนือสวนหย่อมของตำหนักหย่งชิง กลิ่นดอกบัวลอยอบอวลในอากาศ เซี่ยเหยียนอวี่ยืนอยู่กลางลานฝึก ร่างในชุดขาวเคลื่อนไหวดุจสายน้ำ ดาบไม้ในมือเหวี่ยงพริ้วด้วยพลังสงบแต่มั่นคง ทุกกระบวนท่าแฝงความรู้สึกคั่งค้าง ไม่ว่าจะเป็นความระแวงต่อเครื่องรางหยกของฉินลี่หรง หรือสายตาเยือกเย็นขององค์ชายจวิ้นอี่ และคำนินทาที่แทรกซึมกระจายไปทั่ววังกำลังเริ่มก่อคลื่นพายุใหญ่เขาวางดาบลงหลังผ่านระยะเวลาฝึกซ้อมมาช่วงหนึ่ง หยาดเหงื่อผุดขึ้นตามร่างกายจนเปียกท่วม แต่สายลมยามเช้าพัดแผ่วเบาผ่านมา นำพาให้ความเหน็ดเหนื่อยและความว้าวุ่นในจิตใจให้คลี่คลายลงบ้างเล็กน้อย เขาชายตามองเงาของตนบนพื้นหินก่อนจะพึมพำกับตัวเองเมื่อความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของเขาระหว่างนั้น “สนามรบนี้ ไม่ใช่สำหรับผู้ที่ไร้เกราะใจ”“นายน้อย ท่านฝึกหนักยิ่งนัก” เสียงอ่อนโยนของเสี่ยวหลานดังก่อนจะยื่นถาดน้ำสมุนไพรพร้อมรอยยิ้มสุภาพเกินจริงเหยียนอวี่รับถ้วยชามาอย่างเรียบเฉย สายตาลอบมองใบหน้าของสาวใช้เพียงครู่หนึ่งก่อนจะหันไปทางอื่น “ขอบใจ เสี่ยวหลาน” น้ำเสียงของเขาฟังดูนุ่มนวล หากแต่เยือกเย็นยิ่งแสงตะวันยามสายเคลื่อนผ่าน เหยียนอ

  • หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg]   ตอนที่ 7 ลิขิตแค้นในเงื้อมมือ

    แสงแดดยามสายส่องลอดบานหน้าต่างตำหนักหย่งชิง กลิ่นชาดอกมะลิอบอวลคลุ้ง เซี่ยเหยียนอวี่นั่งสงบอยู่หน้าโต๊ะไม้จันทน์แดงในห้องตำรา พู่กันเปื้อนหมึกในมือเป็นดั่งโลหิตที่กำลังไหลลื่นลงบนแผ่นกระดาษ ตัวอักษรที่ปรากฏขึ้นแต่ละตัวงดงาม เฉียบคม และเปี่ยมไปด้วยพลัง ราวสลักจากความทรงจำและคำสาบานในห้วงลึกแห่งหัวใจเขายกถ้วยขึ้นจิบช้า ๆ ดวงตาหวานลึกลอบระแวดระวัง แม้บรรยากาศดูเงียบสงบ ทว่าในความเงียบนั้น พายุที่กำลังก่อตัวในม่านหมอกเริ่มครุกรุ่นขึ้นตั้งแต่วันที่เขาเห็นฉินลี่หรงพกหยกแปลกตาไว้ติดตัว เขาเฝ้าตามหามาตลอดว่ามันคือหยกอะไร จะว่าเป็นตราประดับยศก็หาใช่ไม่ เพราะไม่ปรากฏลายประทับของตราประจำตระกูลบนหยกนั้น ด้วยสัญชาตญาณบางอย่างทำให้เขาตั้งข้อสงสัยว่านั่นไม่ใช่เพียงเครื่องประดับหยกธรรมดาทั่วไป อักขระโบราณที่สลักเอาไว้บนนั้นมันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าหยกนี้มีหน้าที่พิเศษของมันเขาตามหาตำราที่บันทึกเกี่ยวกับเรื่องราวของหยกเอาไว้ แต่ก็ยังไม่เจอเล่มไหนที่เล่าถึงหยกของฉินลี่หรง จนกระทั่งเช้าวันนี้ที่อยู่ ๆ เขาก็ดันเจอม้วนตำราเล่มหนึ่งตกอยู่หลังชั้นวางตำราท้ายห้อง เขาหยิบขึ้นมาดูด้วยความสงสัย ก่อนจะพบว่าภ

  • หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg]   ตอนที่ 6 สายตาแห่งอดีต

    แสงจันทร์โปรยปรายเหนือสวนหลวง เงาสนโบราณทอดยาวลงบนพื้นหิน ดอกเหมยขาวร่วงพลิ้วตามลมราวหิมะในฤดูใบไม้ผลิ เซี่ยเหยียนอวี่ยืนนิ่งใต้ศาลาริมสระบัว มือบางแตะขอบระเบียงหิน ดวงเนตรจ้องลึกลงในเงาน้ำที่ไหวระลอก ความว้าวุ่นจากวันก่อนยังหลงเหลืออยู่ฉินลี่หรงและเครื่องรางหยกนั้น... ท่านอ๋องจวิ้นอี่ในงานเลี้ยง... และสายตานับร้อยที่รอให้เขาพลาดพลั้งวังหลวงคือเขาวงกตแห่งเล่ห์กล ทุกย่างก้าวต้องรอบคอบ ทุกคำพูดต้องชั่งน้ำหนัก เขานึกถึงชาติก่อน วันที่เดินสวนนี้ด้วยหัวใจเปี่ยมรัก เพียงหวังพบท่านอ๋องจวิ้นอี่เพียงครู่เดียว...ทว่าเหตุการณ์นั้นกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเพลิงที่เผาผลาญทำลายทุกสิ่งในชีวิตของเขาจนสิ้น“ข้าจะไม่ยอมให้ท่านครอบครองหัวใจข้าอีก” เขากระซิบกับเงาน้ำ“ผู้ใดกันที่เจ้าเอ่ยถึง?” เสียงทุ้มนุ่มดังจากเงาไม้ เหยียนอวี่สะดุ้ง หันกลับมาพบองค์ชายจวิ้นอี่ในชุดที่ดูเบาสบายกว่าในงานเลี้ยงยืนอยู่ตรงหน้า เงาใต้ต้นสนทาบลงบนดวงหน้าคมคาย รอยยิ้มบางปรากฏที่มุมปาก แตกต่างจากความเย่อหยิ่งในท้องพระโรง หากแฝงไว้ด้วยบางอย่างลึกซึ้ง“ฝ่าบาท... ข้าเพียงพูดกับตนเอง” เหยียนอวี่ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบราวกับน้ำนิ่

  • หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg]   ตอนที่ 5 น้ำแข็งแห่งวังหลวง ลวงเล่ห์เงาจันทร์

    ยามเช้าแห่งวังหลวงอาบด้วยแสงแดดอ่อนละมุน ทาบทอลงบนตำหนักทองและหอคอยลอยท่ามกลางกลุ่มหมอกประหนึ่งภาพวาดจากสรวงสวรรค์ กลิ่นกำยานเจือจางลอยแทรกกับเสียงระฆังจากหอสูง เซี่ยเหยียนอวี่ก้าวลงจากเกี้ยว มือบางแตะขอบเบา ๆ ดวงหน้าเรียบสงบ หากแฝงแววคมลึกไว้ในดวงตานั้นนี่คือวันแรกที่เขาก้าวเข้าสู่ราชสำนักอีกครั้ง หลังจากผ่านพิธีการคัดเลือกคู่หมั้นเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ตอนนี้เขายังคงอยู่ในฐานะว่าที่คู่หมั้นแห่งองค์ชายจวิ้นอี่เท่านั้น และการเข้าสู่วังหลวงครั้งนี้ก็มิใช่เพื่อความรัก แต่เพื่อทวงชะตาที่เคยพ่ายแพ้กลับคืนมาเท่านั้นหลี่กงกง ขันทีชราก้าวนำทาง สองข้างทางมีองครักษ์ยืนเรียงราย ดวงตาของเหยียนอวี่นิ่งสงบราวรูปสลัก ทว่าแฝงแรงกดดันที่อัดแน่นทุกย่างก้าว ราวกับวังหลวงทั้งวังกำลังจับจ้องเขาตำหนักหย่งชิงที่พักชั่วคราวต้อนรับเขาด้วยพิธีรีตองครบครัน ทว่าเบื้องหลังรอยยิ้มและเสียงก้มคารวะ ไม่ได้ทำให้เหยียนอวี่รู้สึกปลอดภัยนัก เขารู้ดีว่าในตำหนักแห่งนี้เต็มไปด้วยสายลับของฉินลี่หรงที่ซ่อนตัวเอาไว้เสี่ยวหลาน สาวใช้ผู้นำกลุ่มเดินเข้ามาหลังจากที่เขาเข้ามานั่งพักในห้องโถงของตำหนัก ก่อนจะเอ่ยวาจาสุภาพด้วยแววต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status