ห้องโถงใหญ่
“ท่านแม่เสร็จแล้วหรือเจ้าคะ”
“ใช่เจ้าไปไหนมาพวกเรากำลังจะกลับกันแล้ว คืนนี้จะมีงานเลี้ยง… เหตุใดเจ้าถึงได้หน้าซีดเช่นนั้นเป็นอะไรไป”
“นั่นสิน้องรองเจ้าเป็นอะไรไปน่ะ ทำไมหน้าตาตื่นแบบนั้น”
“ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ เรารีบกลับกันดีกว่า”
เล่อชุนหลันใช้เหตุผลนี้ไม่ไปร่วมงานเลี้ยงในตอนเย็น นางรู้ว่าเหตุการณ์ในงานเลี้ยงตอนเย็นจะเกิดอะไรขึ้น
“จินถิงข้าอยากออกไปเดินเล่นสักหน่อย ไปเป็นเพื่อนข้าทีสิ”
“คุณหนูท่านบอกว่าอยากพักผ่อนนี่เจ้าค่ะ”
“เดินเล่นก็ถือว่าพักผ่อนมิใช่หรือ ที่สำคัญตอนเย็นข้าไม่ไปร่วมงานเลี้ยงแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไร”
“เจ้าค่ะ”
ตลาดเมืองเหลียงโจว
เล่อชุนหลันใช้เวลาเดินในตลาดและค่อย ๆ ซึมซับความรู้สึกที่หายใจโล่งมากขึ้นให้เต็มที่ นานแค่ไหนกันแล้วนะที่นางไม่ได้ออกมาเดินเล่นเช่นนี้ ก่อนหน้านั้นทั้งชีวิตนางเฝ้าเพียรแต่ร่ำเรียนจนมีทักษะที่ยอดเยี่ยมในทุก ๆ ด้านเพื่อให้เป็นสตรีที่เหมาะสมกับท่านอ๋องแม่ทัพแห่งดินแดนบูรพา ใครจะคิดว่าหลังจากอภิเษกไปแล้วนางจะกลายเป็นพระชายาที่ไร้ค่าอยู่ในตำหนักหลังที่เยือกเย็นนั่น
“ในเมืองยังคึกคักเช่นเดิม”
“คุณหนูวันนี้ท่านทำท่าทางแปลก ๆ นะเจ้าคะ”
“แปลกอย่างไรหรือจินถิง”
“ท่านพูดน้อยลงและดูโตขึ้นกว่าที่ข้ารู้จัก เมื่อคืนท่านฝันเห็นอะไรกันแน่เจ้าคะ”
“โตขึ้นงั้นหรือ นั่นสินะเมื่อมองเห็นทุกอย่างมากขึ้นย่อมโตขึ้นเป็นธรรมดา เอ๊ะนี่โรงละครนี่นาจำได้ว่าข้าเคยชอบมาก ไปกันเถอะจินถิง”
“เจ้าค่ะ”
พวกนางชอบดูละครมากแต่หลังจากเข้าตำหนักอ๋องที่เยือกเย็นนั่นแล้วก็ไม่เคยมีโอกาสได้ออกมาฟังละครอีกเลย เมื่อได้ที่นั่งแล้วทั้งคู่ก็นั่งฟังไปพร้อมกับจิบชาไปด้วยโดยไม่ทันได้สังเกตว่าที่นี่ในตอนนี้นางมิได้อยู่ลำพัง
“ท่านอ๋อง รายงานบอกว่าพวกมันจะมาที่นัดพบเพื่อลอบส่งข่าวกันนี่แต่กระหม่อมไม่ทราบว่าจะเป็นแขกหรือว่า…”
“คอยดูเงียบ ๆ สังเกตให้ดี ๆ ผิวของคนพวกนี้จะคล้ำกว่าปกติที่ไม่ใช่เพราะแดด สายตาแข็งกระด้างและพูดไม่ชัดหากพวกเจ้าเห็นจะรู้ได้ทันที”
""พ่ะย่ะค่ะ""
หยางอี้เหรินในใชุดลำลองสีขาวแบบรัดกุมนั่งอยู่อีกฝั่งของ “หอจินเซ่อ” ที่นี่เป็นโรงน้ำชาใหญ่ที่มักจะมีละครมาเล่นให้แขกฟัง เขามาที่นี่เพื่อจับตัวสายลับต่างแคว้นที่ลอบเข้ามาในเหลียงโจวตามรายงานลับที่ถูกส่งเข้ามาจากชายแดน
“เสิ่นปา”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“ให้คนของเราดูแลรอบ ๆ ให้ดีอย่าให้ผู้คนแตกตื่น หากพบตัวก็ให้เงียบเอาไว้และจัดการเงียบ ๆ”
“พ่ะย่ะค่ะ… ท่านอ๋อง นั่นบุตรีของท่านเสนาบดีเล่อพ่ะย่ะค่ะ”
“อะไรนะ เหตุใดนางจึงมาที่นี่!”
เขามองตามคำบอกขององครักษ์ทันทีเมื่อมองไปที่ชั้นสองฝั่งตรงข้ามก็เห็นเล่อชุนหลันที่นั่งฟังละครอยู่จริง ๆ
“เพิ่มการคุ้มกัน อย่าให้นางได้รับอันตราย”
“พ่ะย่ะค่ะ”
แม้ว่าจะสงสัยแต่เสิ่นปาก็มิได้ถาม เขาเดินไปและสั่งให้คนของตัวเองเพิ่มการคุ้มกันให้กับเล่อชุนหลันตามคำสั่งท่านอ๋อง
“ไม่เห็นสนุกเลย”
“คุณหนูท่านไม่ชอบหรือเจ้าคะ ปกติแล้วท่านชอบดูนี่เจ้าคะ”
(ข้าในตอนนั้นก็ไร้สาระใช้ได้เลยนะ นั่งฟังละครเช่นนี้ได้เป็นวัน ๆ)
“เรากลับกันเถอะ”
“เจ้าค่ะ”
นางให้จินถิงไปจ่ายเงินและค่อย ๆ เดินออกไปโดยไม่ได้สังเกตคนรอบ ๆ ท่านอ๋องเห็นว่านางกำลังจะเดินออกไปก็รู้สึกโล่งใจแต่ก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเสี่ยวเอ้อร์ของโรงน้ำชาที่กำลังเดินมาหาพวกนางนั้นทำตัวน่าสงสัย
“นี่เสี่ยวเอ้อร์ ค่าอาหาร”
คนผู้นั้นรับเงินของจินถิงไปทันทีจนนางนึกโมโหเพราะความไร้มารยาทนางจึงโวยวายขึ้น ชุนหลันได้ยินเสียงสาวใช้จึงหันมาดู
“นี่เจ้าเหตุใดจึงได้ดึงเงินไปจากมือข้าเช่นนี้ไม่เอาถาดมารับ ทำไมไร้มารยาทแบบนี้”
แต่คนผู้นั้นไม่พูดและเพียงแค่ก้มให้นางและจะเดินไป
“นี่!”
“จินถิง เกิดอะไรขึ้น”
“คุณหนู คนผู้นั้นเจ้าค่ะ”
“แม่นางทั้งสองเกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ”
เถ้าแก่ของร้านรีบเข้ามาในทันทีเพราะเขารู้จักเล่อชุนหลันที่เป็นบุตรีของเสนาบดีเล่อ
“คุณหนูเล่อเกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ”
“เถ้าแก่เสี่ยวเอ้อร์คนนั้นไม่มีมารยาทเลยเขาดึงเงินจากข้าไปโดยไม่ขอบคุณสักคำ”
“เอ่อ เจ้าน่ะ…หันมานี่สิ”
ทันทีที่เสี่ยวเอ้อร์หันมาเขาก็คว้าคอของจินถิงทันที เกิดความชุลมุนขึ้นเมื่อคนร้ายดึงมีดออกมา เสิ่นกงที่อยู่ด้านหลังรีบวิ่งขึ้นมา ท่านอ๋องเห็นแล้วว่าคนร้ายคือใครและเริ่มโจมตีแต่ไม่ทันเล่อชุนหลันที่ใช้ผงบางอย่างสาดไปที่คนผู้นั้น
“โอ๊ย!! นี่มันผงอะไร!!”
“สำเนียงแบบนั้นไม่ผิดแน่ ไปจับมา!!”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ชุนหลันดึงจินถิงออกมาและรีบวิ่งหนีออกมาทันทีโดยไม่ได้มองว่าใครอยู่ด้านหลัง เกิดเสียงต่อสู้ขึ้นแต่พวกนางวิ่งหนีเอาตัวรอดอย่างเดียวจนพบกับคนร้ายที่หน้าประตูอีกสองคน
“จะไปไหนงั้นหรือคุณหนู”
“จินถิงเจ้าหลบไป”
“ไม่เจ้าค่ะ”
“ข้าบอกให้หลบไปอย่าเกะกะข้า”
ชุนหลันพอจะมีวรยุทธ์อยู่บ้างเพราะเคยฝึกดาบกับพี่ใหญ่ของนางและขี่ม้ายิงธนู นางพอจะรู้เพลงดาบเมื่อพวกมันเริ่มโจมตีนางก็เริ่มสู้ จินถิงตะโกนร้องให้ช่วย หยางอี้เหรินที่อยู่ชั้นบนเมื่อเห็นจึงรีบลงมาช่วยนางทันที
“เสิ่นกงรีบพาสาวใช้หลีกไปก่อน”
จินถิงถูกพวกมันรุมและผลักนางจนกระเด็น ท่านอ๋องรับนางเอาไว้ได้และหันไปฟาดทั้งคู่ร่วงในหมัดเดียว เขาอุ้มนางเอาไว้และค่อย ๆ วางลง
“เจ้าไม่เป็นไรนะ”
“ท่านอ๋อง!!”
“หลบไปก่อนที่นี่อันตราย”
ชุนหลันหาที่หลบทันทีตามคำสั่ง นางไม่ได้อยากต่อสู้แค่อยากเอาตัวรอดแต่ใครจะคิดว่าจู่ ๆ จะมาเจอคนร้ายเช่นนี้ เหตุการณ์เช่นนี้นางไม่เคยพบในชาติก่อนแม้ว่าในช่วงเวลานี้มักจะมีคนจับสายลับต่างแคว้นได้แต่นางก็แค่ได้ยินเท่านั้นไม่เคยเจอกับตัว
“พาพวกนางหลบไป!!”
“คุณหนูพวกท่านรีบมาตรงนี้”
“แต่ว่าท่านอ๋อง...”
“ไม่ต้องห่วงขอรับ”
ไม่นานเสิ่นกงก็ต้องรีบไปช่วยท่านอ๋อง ชุนหลันเห็นช่องทางหนีนางกับจินถิงจึงวิ่งออกไปแต่คนร้ายที่เห็นนางแล้วจึงรีบจับตัวนางมาทันที
“หยุด!! ไม่งั้นนังนี่ตาย!!”
“คุณหนู!! ช่วยคุณหนูข้าด้วยเจ้าค่ะ”
“ปล่อยข้านะ”
“อย่าดิ้น!”
คนร้ายข่มขู่นางด้วยน้ำเสียงและสำเนียงแปลก ๆ ที่นางไม่คุ้นนั่นแสดงว่าพวกมันไม่ใช่คนเหลียงโจวแต่เป็นคนที่อื่น เหตุเพราะนางไม่อยู่ในจวนเหตุการณ์จึงเปลี่ยนไปงั้นหรือนี่
“เล่อชุนหลัน”
“ทิ้งอาวุธไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่านาง”
“เจ้าขู่ผู้ใดกัน เจ้ามองไม่เห็นหรือว่าตรงหน้าเจ้าคือผู้ใด”
“อย่าพูดมาก”
“นี่ข้าจะบอกอะไรให้เจ้ารู้ไว้นะ ข้ากับเขาเป็นศัตรูกันเจ้าจับผิดคนเสียแล้วล่ะ”
“อย่ามาเล่นลิ้นกับข้านังตัวดี ข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก”
“ไม่เชื่อหรือ เจ้ามองสิเขาสนใจใครที่ไหนกันเจ้ามองดูดี ๆ เจ้ารู้จักเขานี่ ชินหยางอ๋องผู้นี้มีหัวใจที่ไหนกันเข้าไม่สนใจเพราะข้ามิใช่สตรีของเขา และที่สำคัญเขาก็เกลียดข้ามากหากว่าข้าตาย… เขาคงจะดีใจมากกว่าพวกเจ้าเสียอีก”
หยางอี้เหรินไม่รู้ว่านางพูดอะไรกับคนร้าย แต่เขารู้สึกว่ามันกำลังฟังนางอย่างตั้งใจซึ่งเขาไม่ชอบและไม่อยากให้มันแตะต้องแม้แต่ปลายเส้นผมของนาง
“เจ้าพูดจริงหรือ”
“ไม่อย่างนั้นเขาจะปล่อยให้เจ้าจับข้าได้งั้นหรือ ข้านี่มันอาภัพนักดันไปรักคนที่ไม่สมควรรัก”
“ไร้ประโยชน์ เช่นนี้จะเก็บเจ้าไว้ทำไม”
“เก็บไว้เป็นแม่เจ้าอย่างไรเล่า!!”
เล่อชุนหลันกระทุ้งศอกไปสุดแรงที่ท้องของคนร้ายและดึงแขนลงมาก่อนจะหมุนตัวและล็อกแขนคนร้ายเอาไว้
“เจ้า!!”
นางใช้ผงแป้งที่มักพกติดตัวเอาไว้ปาใส่คนร้ายอีกครั้ง มือหนึ่งดึงนางออกมาจากคนร้ายซึ่งไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดแต่นางรู้ว่าเขาน่าจะเป็นคนช่วยนางเอาไว้
“นังสารเลว!!”
“ชุนหลันระวัง!!”
มีดสั้นในมือของคนร้ายพุ่งมาตามหลังแต่คนที่โดนคมมีดนั้นกลับไม่ใช่นาง ชุนหลันรู้สึกถึงร่างหนาของใครสักคนที่โอบรัดนางเอาไว้ก่อนจะหันไปและใช้ดาบให้มือฟาดไปเพียงครั้งเดียว เสียงทุกอย่างก็เงียบลงมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อร่างหนานั้นก้มลงมาด้วยเสียงแหบพร่า
“เจ้าปลอดภัยดีหรือไม่ บาดเจ็บ… ที่ใดหรือเปล่าเล่อ…ชุนหลัน”
“ท่านอ๋อง!!”
“แต่ไม่ใช่ต่อหน้าผู้คนเช่นนี้ แล้วยังเป็นในงานมงคลของท่านพี่ข้าด้วย”“ไม่เป็นไรหรอกหลันเอ๋อร์พวกเราชินแล้ว เจ้าไม่รู้อะไรพวกเราน่ะต้องประชุมเรื่องทารกในครรภ์ของเจ้าในราชสำนักมากี่วันแล้ว”“จื่อหลง แม้ว่าเจ้าจะเป็นพี่ชายพระชายาข้าก็สั่งลงอาญาเจ้าได้นะหากเจ้ายังพูดมากข้าจะเรียกค่าเสียหายให้เจ้าหมดตัวเลยล่ะ”“กระหม่อมไม่กล้าแล้วพ่ะย่ะค่ะ โปรดทรงอภัย ทรงอภัยด้วย”“มา ดื่มเหล้ามงคลกับเจ้าหน่อย ยินดีด้วยที่หาพี่สะใภ้ให้พวกข้าได้เหมาะสม จากนี้ไปขอให้พวกเจ้าอยู่ด้วยกันยืนยาวลูกหลานเต็มเมือง แต่อย่าให้เกินข้าเพราะข้าจะไม่ยอมแพ้พวกเจ้า”“ฮ่า ๆ ท่านอ๋องทรงกล่าวเกินไปแล้ว กระหม่อมมีหรือ….”“พี่ใหญ่ ท่านพี่!! พวกท่านช่วยไว้หน้าข้าบ้างเถิด”“เอ้า ดื่ม ๆ”สุรามงคลหลายจอกทยอยนำมาให้ดื่ม มู่หรงเฉิงช่วยรับแขกอยู่ด้านนอกส่วนเจ้าบ่าวตอนนี้ถูกส่งไปที่ห้องส่งตัวแล้ว ท่านอ๋องจึงพาพระชายาของตนเองกลับจวนเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เสนาบดีเล่อและฮูหยินเดินมาส่งทั้งคู่“ท่านแม่เอาไว้ชุนหลันใกล้คลอดข้าจะส่งคนมารับท่านให้ไปอยู่เป็นเพื่อนนาง อาจจะต้องรบกวนท่านพ่อหลายวันหน่อยนะขอรับ”“ท่านอ๋องอย่าทรงเกรงพระทัยเพคะ ท้องแ
แม้จะบอกว่าจะอ่อนโยนแต่ความดุดันและความต้องการของทั้งคู่ก็มิอาจอัดอั้นความต้องการไปได้เพราะท่านอ๋องอ่อนโยนได้เพียงชั่วครู่ก็ต้องเร่งจังหวะกลับเป็นเช่นเดิมตามความต้องการของพระชายา“อื้อ…ท่านพี่เพคะ เร็วอีกนิด จะ…ไม่ไหวแล้ว อ๊าา”เรือนร่างที่เคยเรียบเนียนผุดผ่องบัดนี้เต็มไปด้วยรอยแดงจากพระสวามีที่ฝากเอาไว้ แรงกระแทกที่ไม่ลดละจนเกิดเสียงดังเพราะน้ำรักของทั้งคู่ที่เอ่อล้นออกมาหลังผ่านศึกรักกันมาเกินสามรอบจนเตียงแทบจะไม่สามารถนอนได้แล้ว“อื้อ…อี้เหริน อ๊าาา”“ชุนหลันเจ้าเบาหน่อย ท่านี้มันกระแทกแรงไปหรือไม่เจ้า...ขย่มเบา ๆ อาา...”แต่เขากลับละสายตาจากสองเต้าคู่งามตรงหน้าไม่ได้เมื่อพระชายาเริ่มขยับเอวอยู่บนร่างของเขา ลิ้นหนาฉกเข้าไปดูดดื่มราวทารกกระหายน้ำนมมารดา เสียงครางดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับแรงขย่มเอวจากพระชายาจนนางเริ่มเกร็งตัวขึ้นอีกครั้ง“ชุนหลันน…อาาา ที่เหลือให้ข้าจัดการเอง”เขาไม่ได้ให้นางขยับไปไหนเพียงแค่จับเอวบางของนางกระแทกซ้ำมาที่เดิมและเอนกานรับจนตามนางไปอีกครั้ง ผมเผ้ายุ่งเหยิง เตียงที่ไม่สามารถใช้การได้เพราะความยุ่งเหยิงและเปียกชื้นทำให้ทั้งคู่ต้องเปลี่ยนมานอนที่ห้องนอนเล็กขอ
“อะไรนะ ปัดความรับผิดชอบแต่เหตุใดพระสนมจึงได้…”“พระสนมในตอนนั้นทั้งโกรธและโมโหแต่ก็ไม่อยากเอาเรื่อง ขอเพียงออกจากวังหลวงต้าจินโจวไปได้ดังนั้นจึงทูลขอฝ่าบาทว่าหากยินยอมให้นางซึ่งเป็นสนมที่ถูกส่งมาเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ได้มีอิสระนางก็จะยอมมอบยาถอนพิษให้ ฝ่าบาทจึงปล่อยนางออกมาจากเมืองหลวงและให้คนพานางมาอยู่ที่อารามแห่งนี้”“เช่นนั้นเสด็จพ่อต้องส่งคนมาปกป้องพระสนม”“ใช่แล้ว คนผู้นั้นคือขุนนางคู่พระวรกาย ผู้จงรักภักดีต่อฝ่าบาทและยังเป็นเสนาบดีข้างพระวรกายมาหลายปี “เล่ออันจ้าน” บิดาของพระชายา"เรื่องราวของพระสนมผู้นี้เขาไม่เคยทราบมาก่อนเพราะเสด็จพ่อของเขามีสนมถึงยี่สิบกว่าคนและบางคนเขาก็ไม่รู้จัก อีกอย่างเรื่องนี้หากวันนี้เขาไม่ได้มาที่นี่ก็คงไม่เคยทราบเรื่องเช่นนี้มาก่อนและไม่รู้เลยว่าลี่จางหย่งยังมีบุตรชายอีกคนหนึ่งอยู่“เช่นนั้น เสนาบดีเล่อก็ปิดเรื่องนี้เป็นความลับมาโดยตลอด มิน่าเล่าปีนั้นเขาถึงถูกส่งมาที่นี่ ที่แท้เรื่องราวเป็นเช่นนี้นี่เอง”“ใช่ ฮูหยินของเขาก็ทราบทั้งสองช่วยกันดูแลพระสนมและอาตมามาโดยตลอด ที่ดินตรงนี้แต่เดิมก็คือที่ดินของสกุลเล่อ เสนาบดีเล่อและฮูหยินดูแลพระสนมจนถึงวาระสุด
“ใต้ซือที่ท่านพูดหมายถึง….”ใต้ซืออู๋หยวนเพียงแค่ยิ้มให้พวกเขาเท่านั้น“จริงสิยินดีด้วยที่ได้พบกับคนที่เจ้าตามหา”“อาจารย์ทราบด้วยหรือเจ้าคะ”“หึหึ เจ้าพามาด้วยเช่นนี้ไม่ว่าผู้ใดก็คาดเดาได้”“ขอบคุณอาจารย์ที่ชี้แนะบอกให้ข้าลงจากเขาไปวันนั้นเพื่อบอกว่าให้ไปพบกับคนที่จะพาข้าไปหาพี่ชายและก็ได้พบจริง ๆ”"อะไรนะ เจียวเมิ่งนี่เจ้า… กำลังหมายถึงข้างั้นหรือ"“เจ้าค่ะพี่ชุนหลัน อาจารย์บอกให้ข้าลงเขาไปวันที่พบท่านในเมืองและบอกว่าจะได้พบกับผู้ช่วยเหลือ วันนั้นก็เป็นท่านและท่านอ๋องที่เข้ามาช่วยข้าจริง ๆ เจ้าค่ะ”ท่านอ๋องและเล่อชุนหลันหันมามองหน้ากัน พวกเขามั่นใจว่าไม่เคยพบใต้ซืออู๋หยวนมาก่อนในชาติก่อนแต่เหตุใดดูเหมือนว่าใต้ซือผู้นี้จะรู้ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในเมือง“จริงสิเจียวเมิ่งในเมื่อเจ้าพบกับพี่ชายแล้วเหตุใดจึงไม่พาเข้าไปสักการะและไหว้พระในวิหารสักหน่อยเล่า”“อ้อ เจ้าค่ะอาจารย์พี่ใหญ่ไปเถอะข้าจะพาท่านเดินชมทั่ว ๆ วัดหลังจากที่ไหว้พระ จื่อหลงท่านก็มาด้วยกันสิ”“อ้อ ได้สิ เสี่ยวเฉิงไปเถอะ”ทั้งหมดพากันเดินออกไปแล้วจึงเหลือเพียงท่านอ๋องและพระชายาเท่านั้นส่วนจินถิงและสององครักษ์ก็เดินออกมาเฝ้าด้
“เอาตัวนางไปขังให้คนเฝ้าเอาไว้ ข้าจะไปหาท่านอ๋องที่ท้องพระโรง”“พ่ะย่ะค่ะ”กลับมาที่ตำหนักกลาง “เล่อชุนหลัน ความอัปยศนี้ข้าจะให้เจ้าเป็นผู้รับทั้งหมด”“นางอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ”ท่านอ๋องพร้อมกับพระชายาและคนที่เหลือเดินเข้ามาในห้องเพื่อมาสอบสวนลี่จินเซียนเพิ่มเติม แต่เมื่อมาถึงนางกลับไม่พูดอะไรเพียงแค่มองออกไปที่นอกหน้าต่างและเห็นว่าบิดากำลังถูกดูถูกอยู่ตรงด้านหน้าท้องพระโรงและรอให้รถนักโทษมารับไปยังคุกหลวงเพื่อรอการประหาร“ลี่จินเซียน ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้สารภาพมาว่าเจ้ามีส่วนรู้เห็นในแผนการครั้งนี้หรือไม่”“หึ หากว่าพูดว่าไม่พระองค์จะทรงเชื่อหรือเพคะ ไม่ว่าจะอย่างไรหม่อมฉันก็เป็นคนผิดในสายตาพระองค์อยู่แล้ว ไม่เหมือนนางที่ทำสิ่งใดก็ถูกหมด พระองค์มันหน้ามืดตามัวลุ่มหลงจนมองไม่เห็นผู้อื่น”“ลี่จินเซียน ข้าถามเจ้าดี ๆ”“หม่อมฉันก็ตอบดี ๆ แล้วนี่เพคะ อีกอย่างแค่ถามดี ๆ แต่กลับล่ามตัวข้าเอาไว้เช่นนี้ หึ ถามดีจริง ๆ”“เสิ่นกงปล่อยนาง”“พระชายา!!” / เสิ่นกง“ปล่อยนาง มีข้าอยู่ไม่เป็นไรหรอกหากนางอยากคิดจะทำอะไรโง่ ๆ ครั้งนี้ก็โทษข้าไม่ได้แล้ว” / ท่านอ๋องเสิ่นกงเป็นคนไปปลดเชือกที่มัดลี่จินเซียนเอา
“เจ้า!!”“ข้าไม่ทำผู้ใดก่อนหากนางไม่สั่งคนมาจับข้าเพื่อจะใช้เป็นข้อต่อรองกับท่านอ๋อง ช่วยไม่ได้นะพวกท่านเริ่มก่อนเองในเมื่อหาเรื่องก็ต้องยอมรับผลของมันสิ”“ชุนหลัน แล้วลูก…”“ข้ากับลูกปลอดภัยเพคะพระองค์ไม่ต้องห่วง”“เจ้าทำอย่างไรถึงได้ต้านทานทหารของข้าได้ พวกเขาล้วนเป็นนักฆ่ารับจ้างฝีมือดี ไม่มีทางที่จะจัดการได้ง่าย”“นักฆ่าที่โหดเหี้ยมฝีมือดีข้ายอมรับ แต่พวกมันมาฆ่าเพราะคำสั่งและค่าจ้าง อีกอย่างท่านก็คงจะลืมใส่สมองมาให้พวกมันกระมัง แค่โดนค่ายกลของข้าเพียงสองด่านพวกมันก็หลุดเข้ามาในตำหนักไม่ได้แล้ว อ้อจริงสิมีแค่ลี่จินเซียนที่ข้าตั้งใจให้นางเข้ามาเท่านั้นเพราะไม่อยากทำร้ายนางด้วยเข็มพิษและธนูอาบยาพิษเจ็ดไฟกัลป์ ท่านคุ้นชื่อนี้บ้างหรือไม่ใต้เท้าลี่”“เจ้า!! อ๊ากกกกก!!!”ท่านอ๋องดึงชุนหลันเข้ามากอดเอาไว้แน่นเมื่อเห็นว่าลี่จางหย่งเริ่มเสียสติและตะโกนลั่นจนกระอักเลือด เขานึกออกแล้วครั้งก่อนที่นางใช้เงินห้าพันตำลึงนั้นไปซื้อยุทโธปกรณ์ก็เพื่อวางค่ายกลเอาไว้รอบตำหนักด้วยนี่เองส่วนเข็มพิษและพิษร้ายแรงนั่นคงมาจากหวังเจียวเมิ่งที่ใส่เอาไว้ในอาวุธ เดิมทีเขาแค่วางกำลังปกป้องนางเงียบ ๆ รอบตำหนักแ