Home / รักโบราณ / หวนคืนอีกคราข้าไม่ขอเป็นคุณหนูผู้ถูกรังแก / บทที่ 3 ข้างามเช่นนี้มาตั้งนานแล้ว

Share

บทที่ 3 ข้างามเช่นนี้มาตั้งนานแล้ว

last update Last Updated: 2025-05-15 17:39:53

สือลี่ผิงแสร้งตกใจ นางรีบยอบกายลงบนพื้น "ใต้เท้า ท่านโมโหสิ่งใดหรือเจ้าคะ หรือข้างามไม่ถูกใจท่าน" 

เสียงทุบโต๊ะดังขึ้นอีกหน ทุกคนต่างพร้อมใจกันสะดุ้งโหยง สือจินรุ่ยเร่งยืนขึ้น ตวัดสายตามองฮูหยินตน นางรีบหลุบดวงตาไม่กล้าสู้หน้าผู้เป็นสามี พลางค้อนควักให้กับสือลี่ผิง แต่ไหนเลยสือลี่ผิงจะคิดใส่ใจ อยากเดินหมากสลับตัวหรือ มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก 

"ตะ...ใต้เท้าลู่ ท่านใจเย็น ๆ ก่อน แท้จริงหน้าตาของอี้หนานไม่ใช่เช่นนี้ นางคงป่วย" สือจินรุ่ยเร่งแก้ตัว 

"ป่วยหรือ อัปลักษณ์เพียงนี้ แล้วภาพนี้เล่ามิใช่นางรึ!" ลู่เยี่ยนฮ่าวยกภาพวาดสาวงามขึ้น 

ทันทีที่สือเสี่ยวเย่เห็นภาพเบื้องหน้า ดวงตาพลันเบิกกว้าง นางยกมือทาบอกแทบเกิดลมจับหงายตึง นั่นคือภาพวาดของสืออี้หนานจริง ไยจึงไปอยู่กับใต้เท้าลู่ได้กัน หรือเมื่อครู่เป็นสิ่งที่สือลี่ผิงขว้างมันลงไป

"ลี่ผิง!...เอ่อ...อี้หนาน ใบหน้าของเจ้าไยจึงบวมเจ่อปานนั้น" สือจินรุ่ยเอ่ยเสียงแข็ง 

สือลี่ผิงแหงนหน้าขึ้น สภาพใบหน้าของนางแทบดูไม่จืด ปากบวมแก้มปูดไปทุกสัดส่วน ยิ่งมองก็ยิ่งไม่น่าอภิรมย์ สือลี่ผิงขยับปากบวมเจ่ออู้อี้ "ท่านพ่อ หน้าตาของข้าก็เป็นเช่นนี้มานานแล้วนะเจ้าคะ ดูเหมือนว่าชาวบ้านเข้าใจผิดกันไปเอง ข้าก็ว่าข้างามออกนะเจ้าคะ" 

สือลี่ผิงลอบยิ้มในใจ นี่เป็นสูตรโอสถเปลี่ยนโฉมซึ่งนางคิดค้นขึ้นเองอย่างคึกคะนองเพื่อเอาตัวรอดจากผู้ชายมักมาก คาดไม่ถึงว่ายังไม่ตกเป็นอนุใครก็ได้ใช้ประโยชน์เสียแล้ว

ลู่เยี่ยนฮ่าวยกมือคลึงขมับ "ใต้เท้าสือ นี่หรือบุตรสาวคนงามของท่าน แล้วอีกคนอยู่ที่ใด!?" 

"เอ่อ...ใต้เท้า ใต้เท้าใจเย็นนะเจ้าคะ ดะ...เดิมทีนางสะสวยหาใครเปรียบ ทว่า..." 

"ไม่มีทว่าใด ๆ ทั้งสิ้น หากวันนี้ข้าไม่พบหน้าของลูกสาวพวกท่านทั้งสองพร้อมกัน ตระกูลสือก็เตรียมไร้ที่ซุกหัวนอน" 

สือจินรุ่ยถึงกับหน้าเสีย ในเมื่อเรื่องบานปลายใหญ่โตก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้แล้ว เรื่องที่ปิดบังคงต้องหารือเพื่อสารภาพกันอีกครา ตอนนี้จะด่าทอทุบตีสือลี่ผิงต่อหน้าผู้อื่นก็ไม่อาจทำได้ เขาจึงจำใจให้บ่าวไพร่ไปตามตัวของสืออี้หนานตัวจริงเข้ามา 

"ไปตามลี่ผิงมา!" 

"ท่านพี่!" สือเสี่ยวเย่ถึงกับเบิกตากว้าง 

หากนางตามตัวลูกสาวคนโตของตนมา คาดว่าคงไม่อาจหลีกพ้นเงื้อมมือมัจจุราชได้แล้ว เดิมทีให้ลูกสาวทั้งสองสลับชื่อกันก็ยุ่งยากพออยู่แล้ว นางควรทำเช่นไรดีเล่า 

"ข้าบอกให้เจ้าไปตามลี่ผิงมา" สือจินรุ่ยกัดฟันกรอด 

"จะ...เจ้าค่ะ" สือเสี่ยวเย่หน้าถอดสี นางตั้งท่าเดินจากไปทว่าใต้เท้าลู่กลับปรามไว้เสียก่อน 

"เดี๋ยว...ฮูหยินใหญ่สือ ท่านไม่ต้องไป เกรงว่าหากท่านไป ลูกสาวของท่านคงกลายเป็นตัวประหลาดไปอีกราย ข้าอยากเห็นใบหน้าของนางที่ไม่ต่างจากภาพวาดใบนี้" 

สือเสี่ยวเย่ชะงักฝีเท้าลง นางเหลียวกายเนิบนาบด้วยหัวใจไหวระทึก ผู้เป็นสามีทำได้เพียงทอดถอนใจ เขาพยักหน้าให้สาวรับใช้ไปตามคุณหนูใหญ่ซึ่งผันตัวเองมาเป็นคุณหนูรองเดี๋ยวนั้น

สือจินรุ่ยเป็นพวกเห็นแก่เงิน ต่อให้ต้องแลกบุตรสาวคนโปรดกับอำนาจและทรัพย์สมบัติไปสักคนเขาย่อมไม่อนาทรร้อนใจใดอยู่แล้ว ในเมื่อทุกอย่างจวนตัว แผนการพังไม่เป็นท่า ก็ควรต้องปล่อยเรือตามน้ำ หลังจากนั้นค่อยกลับมาคิดบัญชีกับลูกสาวคนรองตัวดีอีกครา 

.

.

"อะไรนะ ท่านแม่ให้มาตามข้าไปพบตาแก่นั่นรึ มิใช่ว่าลี่ผิงมันออกหน้าแทนข้าแล้วหรือไร ข้าไม่ไป!" สืออี้หนานโวยลั่น นางขว้างปาข้าวของไม่พอใจยกใหญ่ 

มารดาของนางกำชับเองไม่ใช่หรือว่าห้ามออกจากห้อง ซ้ำหากผู้ใดถามให้นางเปลี่ยนนามเป็นสือลี่ผิง นางรังเกียจชื่อนี้เป็นที่สุด ทว่าเพื่อเอาตัวรอดจากตาแก่ตัณหากลับ และส่งตัวน้องสาวต่างมารดาไปแทนนาง สืออี้หนานจึงจำยอมก้มหน้าใช้นามว่าลี่ผิง ทว่าตอนนี้นางกลับได้ยินคำว่าต้องออกไปพบใต้เท้าลู่เช่นเดียวกับน้องสาวของตน ความโมโหเดือดดาลจึงปะทุขึ้นเป็นริ้ว ๆ 

"คุณหนูใหญ่ อย่าทำให้ข้าน้อยลำบากใจเลยเจ้าค่ะ อีกอย่างนายท่านกำชับมาว่าหากท่านไม่ไป เกรงว่าตระกูลสือคงไม่มีที่ให้ เอ่อ...ให้ซุกหัวนอนแล้ว" สาวใช้นางหนึ่งเอ่ยด้วยอาการประหม่า สีหน้าของนางหวั่นวิตกถึงขีดสุด 

สืออี้หนานกรีดร้องลั่นห้อง ขว้างปาข้าวของราวคนเสียสติ ตลับแป้งลอยกระแทกเข้าหน้าผากสาวใช้อย่างจัง 

โอ๊ย!

ร่างผอมบางทิ้งกายลงโขกศีรษะทั้งที่โลหิตเริ่มไหลปริ่มออกมาด้วยความขลาดเกรง "คะ...คุณหนูอภัยข้าน้อยด้วย ข้าเพียงทำตามคำสั่งของฮูหยินและนายท่านเท่านั้น" 

สืออี้หนานหันขวับ พลางกัดฟันกรอด "ทำตามคำสั่งหรือ หากท่านพ่อข้าสั่งให้เจ้าไปตายเจ้าจะไปหรือไม่!" 

"คะ...คุณหนู ท่านระงับอารมณ์เถิดเจ้าค่ะ ถึงอย่างไรในสัญญาก็แจ้งเอาไว้ว่าต้องเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูล ตอนนี้ท่านเปลี่ยนตัวตนกับคุณหนูรองเรียบร้อย ออกไปก่อนแล้วต่อรองในภายหลังดีกว่าหรือไม่เจ้าคะ" เสียงเล็กตะล่อมหว่านล้อมเพื่อหมายเอาชีวิตรอด

สืออี้หนานพยายามระงับสติอารมณ์ นางทรุดตัวนั่งหน้าคันฉ่องสีอำพัน นัยน์ตาคู่งามเดือดพล่านประดุจดั่งหุบเขาลาวา ฝ่ามือเล็กกำหมัดแน่นจนไหล่สั่นสะท้าน พลางกล่าวลอดไรฟัน "ทำไมจำต้องเป็นข้า สือลี่ผิง ไยเจ้าไม่ตาย ๆ ไปซะ!" 

.

.

"นายน้อย ตอนนี้ตระกูลสือติดหนี้ทว่าไม่มีปัญญาจ่าย นายท่านทำสัญญาเอาไว้หากไม่อาจใช้หนี้ตามกำหนด จำต้องส่งคุณหนูใหญ่ของตระกูลสือเข้ามาเป็นอนุของท่าน ขอรับ!" 

เจ้าของใบหน้าหล่อเหลากัดฟันเสียจนเส้นเลือดบนขมับปูดโปน ทันทีที่ได้ยินเสียงรายงานจากผู้ติดตามคนสนิท มือที่เช็ดมีดสั้นอยู่พลันชะงักลงเดี๋ยวนั้น นัยน์ตาคมกริบสะท้อนความกรุ่นโกรธออกมาอย่างปิดไม่มิด "ตาแก่นั่นยังไม่เลิกตัณหากลับอีกหรือ มีอนุตั้งเท่าใดแล้ว ต้องให้ท่านแม่ข้าตรอมใจตายก่อนหรืออย่างไร" 

มือแกร่งปักมีดลงบนโต๊ะเสียงดังปัก ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ลู่อี้ฝานคือบุตรชายที่กำเนิดจากฮูหยินใหญ่ของตระกูลลู่ เขาเกลียดการกลับจวนสกุลลู่เป็นที่สุด เนื่องจากกลับคราใด เป็นต้องพบว่าบิดาของตนมัวกกกอดสตรีเหล่านั้นไม่เว้นแต่ละวัน ราวมารราคะเข้าสิง ทันทีที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยองครักษ์เสื้อแพร เขาจึงไม่เคยย่างกรายเข้าเหยียบจวนสกุลลู่อีกเลย เว้นเพียงการใช้ทางลัดแวะเวียนไปเยี่ยมมารดาอันเป็นที่รักก็เท่านั้น

"นายน้อย ครั้งนี้ท่านจะทำเช่นไรขอรับ" 

ดวงตาคมหรี่ลงเล็กน้อย เสียงทุ้มเอ่ยหยามหยันชิงชัง "สกุลสือนี่ก็ช่างปะไร ขายลูกสาวกินไม่อายบ้างหรือ คุณหนูใหญ่นามว่าอะไร"

"นางมีนามว่า สืออี้หนานขอรับ" 

ลู่อี้ฝานเดาะลิ้นในปากเล่น หนนี้เขาอยากดัดนิสัยตาแก่ตัณหากลับสักครั้ง "เช่นนั้นคืนนี้ข้าคงต้องตรวจสอบเสียหน่อย ว่านางเป็นเช่นไร ไยตาแก่อยากได้นักอยากได้หนาจนหนี้เท่าผืนฟ้าก็แทบประเคนเกือบหมด" 

"นายน้อย ท่านจะทำเช่นนี้จริงหรือขอรับ" 

ลู่อี้ฝานเป็นถึงหัวหน้าหน่วยองครักษ์เสื้อแพร ทว่าเวลานี้เขากำลังจะทำผิดศีลธรรมและผิดกฎหมายโดยพลการ หากเบื้องบนทราบเข้า ตำแหน่งของเขาต้องสั่นคลอนแน่ 

"เจ้ากลัวหรือ ถึงอย่างไรสกุลสือก็เป็นพวกเห็นแก่เงิน ไม่ว่าจะเป็นบิดาหรือบุตรสาว นิสัยละโมบย่อมไม่ต่างกันหรอก"

นัยน์ตาคมคู่นั้นเย็นเยียบราวน้ำแข็ง ไอสังหารเป็นประกายวาววับไร้ปรานี เขาเกลียดชังบรรดาอนุของบิดาตนทุกราย หนนี้เป็นสตรีคราวลูกเช่นนั้นหรือ ถึงขั้นทำให้ลู่เยี่ยนฮ่าวยกหนี้ก้อนมหาศาลให้ได้ นับว่าคงไม่ธรรมดาสมคำร่ำลือสิท่า  

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หวนคืนอีกคราข้าไม่ขอเป็นคุณหนูผู้ถูกรังแก   บทที่ 6 บุรุษตระกูลลู่แสนวิปริต (1/2)

    ลู่อี้ฝานเดินจากไปโดยไม่หันมาสนใจนางอีก สือลี่ผิงมองตามอีกฝ่ายตาปริบ ๆ เขากำลังคิดทำสิ่งใดกันแน่ แล้วนางควรทำเช่นไรต่อหรือจ้าวหวินและมารดาของสือลี่ผิงคงกำลังคอยทางตนอยู่เป็นแน่คิดสิลี่ผิงควรทำเช่นไรดี สือลี่ผิงพยายามประมวลความคิด ดูเหมือนอีกฝ่ายชะล่าใจอยู่ไม่น้อย แม้ห้องอาจทึมทึบทว่ากลับยังมีแสงรำไรลอดผ่าน เสียงบานประตูปิดงับดังปัง ร่างบอบบางจึงรีบถลันกายแนบหูชิดบานประตูเดี๋ยวนั้น บรรยากาศด้านในช่างดูอับชื้นไม่น่าอภิรมย์สือลี่ผิงพยายามแนบใบหูให้ชิดกับบานประตูมากที่สุด นางได้ยินเสียงสนทนาของบุรุษดังแว่วเป็นระยะ"นายน้อย เอาเช่นไรดีขอรับ ตอนนี้นายท่านได้เปลี่ยนตัวอนุเป็นสือลี่ผิงแล้วขอรับ"ลู่อี้ฝานเลิกคิ้วหนึ่งฝั่ง เขารู้สึกแคลงใจกับสถานะของคุณหนูตระกูลนี้อย่างน่าประหลาด แท้จริงแล้วสืออี้หนานคือนางที่อยู่กับเขา หรือเป็นสือลี่ผิงตัวจริงตามที่นางกล่าวอ้างกันแน่"เมื่อสักครู่นางปฏิเสธว่าตนเองคือสืออี้หนาน เช่นนั้นตอนนี้สือลี่ผิงตัวจริงยังคงอยู่ที่จวนสกุลสือใช่หรือไม่""เอ่อ...เกร

  • หวนคืนอีกคราข้าไม่ขอเป็นคุณหนูผู้ถูกรังแก   บทที่ 5 ข้าไม่ใช่สตรีที่ท่านต้องการ

    ตุบ!"โอ๊ย!"ร่างบอบบางถูกโยนลงพื้นอย่างไม่ปรานี ตลอดเส้นทางสือลี่ผิงพยายามด่าทอทุบตีบุรุษปริศนาเสียจนสิ้นไร้เรี่ยวแรง มีอย่างที่ไหน ยกร่างสือลี่ผิงขึ้นบ่าแข็งราวแผ่นเหล็กไม่หนำใจ เขายังวางตัวของนางพาดเอาไว้บนหลังม้า ขณะที่อาชาห้อตะบึงไปเบื้องหน้าความจุกเสียดก็พลอยแล่นปร๊าดเข้ามาบริเวณช่องท้องเสียจนแทบอาเจียนพรึบ!ผ้าคลุมศีรษะถูกปลดออก สือลี่ผิงพยายามปรับรูม่านตาของตนเพื่อให้สามารถมองภาพเบื้องหน้าได้ชัดถนัดตา ทว่านางพิศมองเพียงใดบุรุษตรงหน้าก็ยังประดุจเงาสูงใหญ่เงาหนึ่งเท่านั้น"ท่านเป็นใคร เหตุใดต้องทำกับข้าถึงเพียงนี้"เจ้าของร่างสูงนั่งไขว้ขาอยู่บนเก้าอี้ไม้เนื้อดี ทว่าสือลี่ผิงกลับมองหน้าของเขาไม่ชัดนัก เนื่องจากด้านในเป็นห้องขนาดไม่กว้างมาก ซ้ำยังมืดมนทึมทึบ มีเพียงแสงสว่างจากเชิงเทียนที่ส่องสะท้อนอยู่เบื้องหลัง อีกฝ่ายมองเห็นนางได้กระจะตาเขาทอดสายตามองสตรีบนพื้นพลางเหยียดยิ้มหยามหยัน"เจ้าหรือ สืออี้หนาน" เสียงทุ้มเอ่ยเย็นเยียบเสียงคุ้น ๆ ปวดหัวนักความทรงจ

  • หวนคืนอีกคราข้าไม่ขอเป็นคุณหนูผู้ถูกรังแก   บทที่ 4 โอกาสแสนบัดซบ (2/2)

    "คุณหนูและฮูหยินรองหายไปขอรับ" เสียงบ่าวในจวนเอ่ยหน้าตื่นสือจินรุ่ยโมโหจนถึงขีดสุด เขายกมือขึ้นคลึงหว่างคิ้วพลางหลับดวงตาพยายามระงับโทสะ สือเสี่ยวเย่เดินอาด ๆ เข้ามาด้านในก็ให้ต้องงุนงงกับความอลหม่านในจวน"ท่านพี่เกิดเรื่องใดหรือเจ้าคะ""มู่หรานและลี่ผิงหนีไปแล้ว""หนีไป!" เสียงแหลมแผดดังลั่นด้วยอาการตื่นตระหนกสือจินรุ่ยขมวดคิ้ว "เสียงดังหนวกหูนัก""แล้วจะทำอย่างไรเล่าเจ้าคะ" น้ำเสียงของนางร้อนรน แผนสำรองที่วางเอาไว้ต้องพังครืนไม่เป็นท่าอีกแล้วหรือ เหตุใดสือลี่ผิงจึงปีกกล้าขาแข็งได้เพียงนี้สือจินรุ่ยตวัดสายตามอง กล่าวลอดไรฟัน "เพราะเจ้าไม่ใช่หรือ อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ เจ้ากดขี่พวกนางเกินกว่าเหตุ""ท่านพี่ จะกล่าวหาเพียงข้าได้อย่างไรเจ้าคะ ท่านเองก็ไม่ต่างจากข้า""หุบปาก!" สือจินรุ่ยตวาดลั่นสือเสี่ยวเย่หน้าซีดเผือดสะดุ้งตัวโยน นางผินหน้าประกาศเสียงดังก้อง "แยกย้ายกันออกตามหาพวกนาง หากวันนี้ไม่พบก็อย่าได้เสนอหน้ากลับมา""ขอรับ/เจ้าค่ะ"บ่าวในจวนต่างแยกย้ายออกตามหาสือลี่ผิงให้จ้าละหวั่น กว่าที่นางจะหล

  • หวนคืนอีกคราข้าไม่ขอเป็นคุณหนูผู้ถูกรังแก   บทที่ 4 โอกาสแสนบัดซบ (1/2)

    สุดท้ายแล้วการรับอนุคนใหม่ของลู่เยี่ยนฮ่าวจึงเป็นคุณหนูรองของตระกูลสือ นามว่าสือลี่ผิง ทว่าสือลี่ผิงที่หมายถึงก็คือคุณหนูใหญ่ที่สลับตัวตนกับคุณหนูรอง ใต้เท้าลู่ต้องการนำตัวของนางกลับเดี๋ยวนั้นโดยไร้พิธีรีตองสืออี้หนานต้องการเปิดโปงสถานะของตนและสือลี่ผิง ทว่ากลับถูกบิดาปรามไว้ นางจึงยอมก้มหน้ารับชะตาด้วยความขมขื่น ท้ายที่สุดสืออี้หนานจึงลอบบอกความจริงให้ลู่เยี่ยนฮ่าวทราบ แต่เมื่อความจริงถูกเปิดเผยกลับเพิ่มความเดือดดาลให้อีกฝ่ายเป็นทบทวีคูณ ประดุจสาดน้ำร้อนลวกตนเอง"ท่านแม่...ฮรึก ฮือออ...ท่านแม่เจ้าคะ เหตุใดจำต้องเป็นข้า ไยท่านเคยบอกว่าจะส่งมันไป!" สืออี้หนานร้องไห้โยเย เอ่ยวาจาร้อนรนราวคนเสียสติสือเสี่ยวเย่กอดปลอบประโลมบุตรสาวของตนแนบอก นางเองก็จนใจช่วยเหลือ พลางกัดฟันกรอดด้วยความเคียดแค้น "อี้หนาน ไม่ต้องร้อง ถึงอย่างไรใต้เท้าลู่ก็ร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งแห่งหนานโจว ต่อให้เขามีอนุมากมายแล้วอย่างไร เจ้าก็เพียงปิดหูปิดตาอยู่ให้สุขสบายไปวัน ๆ ไม่ดีกว่าหรือ"สือเสี่ยวเย่ไม่อยากให้เรื่องเป็นเช่นนี้ ผู้ใดจะคาดคิดว่าสือลี่ผิงกล้าเล่นลูกไม

  • หวนคืนอีกคราข้าไม่ขอเป็นคุณหนูผู้ถูกรังแก   บทที่ 3 ข้างามเช่นนี้มาตั้งนานแล้ว

    สือลี่ผิงแสร้งตกใจ นางรีบยอบกายลงบนพื้น "ใต้เท้า ท่านโมโหสิ่งใดหรือเจ้าคะ หรือข้างามไม่ถูกใจท่าน" เสียงทุบโต๊ะดังขึ้นอีกหน ทุกคนต่างพร้อมใจกันสะดุ้งโหยง สือจินรุ่ยเร่งยืนขึ้น ตวัดสายตามองฮูหยินตน นางรีบหลุบดวงตาไม่กล้าสู้หน้าผู้เป็นสามี พลางค้อนควักให้กับสือลี่ผิง แต่ไหนเลยสือลี่ผิงจะคิดใส่ใจ อยากเดินหมากสลับตัวหรือ มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก "ตะ...ใต้เท้าลู่ ท่านใจเย็น ๆ ก่อน แท้จริงหน้าตาของอี้หนานไม่ใช่เช่นนี้ นางคงป่วย" สือจินรุ่ยเร่งแก้ตัว "ป่วยหรือ อัปลักษณ์เพียงนี้ แล้วภาพนี้เล่ามิใช่นางรึ!" ลู่เยี่ยนฮ่าวยกภาพวาดสาวงามขึ้น ทันทีที่สือเสี่ยวเย่เห็นภาพเบื้องหน้า ดวงตาพลันเบิกกว้าง นางยกมือทาบอกแทบเกิดลมจับหงายตึง นั่นคือภาพวาดของสืออี้หนานจริง ไยจึงไปอยู่กับใต้เท้าลู่ได้กัน หรือเมื่อครู่เป็นสิ่งที่สือลี่ผิงขว้างมันลงไป"ลี่ผิง!...เอ่อ...อี้หนาน ใบหน้าของเจ้าไยจึงบวมเจ่อปานนั้น" สือจินรุ่ยเอ่ยเสียงแข็ง สือลี่ผิงแหงนหน้าขึ้น สภาพใบหน้าของนางแทบดูไม่จืด ปากบวมแก้มปูดไปทุกสัดส่วน ยิ่งมองก็ยิ่งไม่น่าอภิรมย์ สือลี่ผิงขยับปากบวมเจ่ออู้อี้ "ท่านพ่อ หน้าตาของข้าก็เป็นเช่นนี้มานานแล้วนะเ

  • หวนคืนอีกคราข้าไม่ขอเป็นคุณหนูผู้ถูกรังแก   บทที่ 2 ข้าจะฝืนลิขิตสวรรค์ (2/2)

    ชายวัยกลางคนนั่งจิบน้ำชาสีหน้าคล้ายยิ้มแต่มิยิ้มอยู่ ณ จวนสกุลสือ ที่เขาเดินทางมาในวันนี้เพียงเพื่อต้องการพบหน้าคุณหนูใหญ่ของสือจินรุ่ย ซึ่งตนหมายทำการรับนางเข้าไปเป็นอนุคนที่สี่ของจวน ใครก็ว่าบุตรสาวคนโตของสกุลสือหน้าตางดงามสะสวย ทว่ากลับมิเคยมีผู้ใดเอ่ยถึงคุณหนูรองเลยสักครา วันนี้เขาอยากเห็นกับตานักว่าจะงดงามสมคำร่ำลือหรือไม่"บุตรสาวของท่านเล่า ใต้เท้าสือ" ลู่เยี่ยนฮ่าวยกถ้วยชาขึ้นพลางเป่าลมเย็นลงไปก่อนจิบราวไม่อนาทรร้อนใจเขารู้สึกอารมณ์สุนทรีย์นักที่ตนจะได้รับอนุรุ่นลูกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของจวน นานมากแล้วที่ไม่ได้ลิ้มลองสตรีหน้าใหม่ ๆ แม้มีอนุมากมายทว่าเขารู้สึกเบื่อหน่ายบรรดาสตรีเหล่านั้นเสียแล้ว"ใต้เท้า ใจเย็น ๆ สิขอรับ ตอนนี้นางกำลังเตรียมตัวต้อนรับท่าน คงตื่นเต้นเลยช้าเพียงนี้" สือจินรุ่ยรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เขาปรายตามองฮูหยินของตน พลางเอ่ยเสียงเบาลอดไรฟัน "เมื่อใดนางจะโผล่หัวมา"สือเสี่ยวเย่ค้อนควัก "มันน่านัก เดี๋ยวข้าส่งคนไปตามเองเจ้าค่ะ""รีบไป!"สือเสี่ยวเย่กวักมือเรียกสาวรับใช้นางหนึ่ง พลางกระซิบกระซาบเสียงแผ่ว อีกฝ่ายพยักหน้าแล้วเร่งจากไปด้วยความร้อนรน"เอ

  • หวนคืนอีกคราข้าไม่ขอเป็นคุณหนูผู้ถูกรังแก   บทที่ 2 ข้าจะฝืนลิขิตสวรรค์ (1/2)

    สือลี่ผิงกวาดสายตามองสตรีร่างผอมโซซึ่งนอนอยู่บนเตียงกลางเก่ากลางใหม่ จิตใจของนางไหวระทึก เหมือนเหลือเกิน นี่คือท่านแม่ของนาง หน้าตาละม้ายกันถึงเพียงนี้ สือลี่ผิงจึงรับรู้ได้ในบัดดล ว่านางได้เข้ามายังร่างเดิมของตน ร่างที่ไม่รู้ว่าถือกำเนิดแต่ชาติปางไหน และนางต้องวนมาชดใช้กรรมใด ทว่าการได้มารดากลับมาอีกครั้งนับเป็นพรจากสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่เหนือคณนาแล้ว"ท่านแม่!" สือลี่ผิงถลันกายเข้าหาผู้เป็นมารดาด้วยใจคะนึงหานานมากแล้วที่แม่ของนางตายจากไปไม่อาจย้อนกลับ แม้แต่คำบอกลาก็ยังไม่ทันได้เอ่ย แค่ก แค่ก "ลี่ผิง ไยมอมแมมเช่นนี้เล่า แล้วเร่งร้อนเรื่องใด" ฝ่ามือสั่นระริกเอื้อมสัมผัสใบหน้าของบุตรสาวด้วยความทะนุถนอม พลางไอโขลกไม่หยุดหย่อน สื่อลี่ผิงส่ายหน้าเป็นพัลวัน นางจับมือของมารดาแนบไว้ข้างแก้มของตน หยาดน้ำสีใสเอ่อคลอ ภาพเบื้องหน้าเริ่มพร่าเบลอ "ท่านแม่ ข้าคิดถึงท่านเจ้าค่ะ" มู่หรานคลี่ยิ้มอบอุ่น ปลายนิ้วชี้ค่อย ๆ ปาดหยาดน้ำตาซึ่งหลั่งรินลงมาอาบพวงแก้มจนเปื้อนเขรอะ "เด็กดี ไม่ต้องร้อง ทำราวกับเราจากกันนานโข เจ้าถูกลงโทษให้อยู่ห้องเก็บฟืนทั้งคืน คงลำบากแย่แล้ว" "ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ เพียงข้ายังพ

  • หวนคืนอีกคราข้าไม่ขอเป็นคุณหนูผู้ถูกรังแก   บทที่ 1 คุณหนูผู้ถูกกระทำคนนั้นได้ตายไปแล้ว

    เสียงลมหายใจดังผะแผ่วท่ามกลางความเงียบสงัด นัยน์ตากลมโตปิดสนิทราวคนมืดบอด อีกไม่นานคงต้องบอกลาโลกใบนี้เสียแล้ว สตรีร่างบอบบางนอนทอดกายไร้เรี่ยวแรงอยู่ภายในโลงไม้แสนคับแคบ เหตุใดบรรยากาศแลดูวิเวกวังเวงนัก นางกำลังถูกฝังทั้งเป็น!หญิงสาวผู้หนึ่งถูกใส่ความว่านางคบชู้สู่ชาย ขณะที่บุรุษสามารถมีภรรยามากมายทว่าสตรีกลับไม่ได้รับความเป็นธรรม ซ้ำร้ายบุรุษที่นางต้องแต่งเข้ามายังแก่คราวพ่อ มักมากในกาม บิดาของนางไม่เคยไยดีต่อบุตรีเช่นนาง ทุกคนล้วนทราบดีว่านางเป็นคุณหนูรองที่บิดาไม่ได้ตั้งใจให้กำเนิด นางคือความผิดพลาดของตระกูล คือความอัปยศที่ไม่อาจกล่าวถึง ครั้นถึงคราต้องขายบุตรสาวเพื่อใช้หนี้ บิดาของนางจึงไม่ลังเลที่จะเลือกส่งนางออกไปเป็นอนุผู้อื่น อยู่จวนของตน ถูกพี่สาวต่างมารดารังแก ตบแต่งออกมาถูกอนุคนอื่น ๆ รุมกลั่นแกล้ง สวรรค์ช่างเลือดเย็นกับนางยิ่งนัก ชาตินี้ข้าไม่อาจมีชีวิตดังใจหวัง ชาติหน้าขออย่าให้ข้าต้องเกิดมาอ่อนแอเช่นนี้อีกเลย ..ซ่าาาาา....."ลากมันออกไป!" สตรีร่างบอบบางนอนขดกายอยู่บนพื้นเย็นเยียบ มีเพียงฟางแห้งที่ใช้ปูรองเอาไว้อย่างลวก ๆ นางค่อย ๆ ขยับเปลือกตาเนิบช้า เรือนกายสั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status