Share

หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง
หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง
Author: Sanassetong

1

Author: Sanassetong
last update Last Updated: 2025-03-01 13:31:46

ในเทศกาลสิ้นปีโคมไฟรูปทรงต่างๆลอยขึ้นสู่ฟากฟ้ามีแสงสว่างเรืองรองต่อกันเป็นสาย ทุกคนต่างอธิษฐานขอให้ใต้ล่าสงบสุขในเร็ววัน ช่วงสงครามอย่างนี้หลายๆผู้หลายๆคนไม่มีกระจิตกระใจที่จะจัดงานปีใหม่ เหล่าแม่ทัพน้อยใหญ่ต่างก็ประจำกันอยู่ที่ด่านต่างๆ บันดาลูกและภรรยาต่างนั่งสวดมนต์อธิษฐานให้ท่านพ่อและสามีนั้นปลอดภัยจากสงคราม มีแต่รัชทายาทผู้เดียวเท่านั้น ที่ป้องกันอยู่ ณ ดินแดนทางเหนือของแคว้นตง ที่เขาถูกเรียกตัวกลับมาเมืองหลวง เพื่อที่จะเฉลิมฉลองในวันเทศกาลปีใหม่นี้ คราแรกเขาไม่เต็มใจมากนักเนื่องจากสถานการณ์ของสงครามนั้น ยังอยู่ช่วงวิกฤตอยู่ แต่เสด็จพ่อของเขาสั่งแล้วมิสามารถที่จะขัดคำสั่งได้ เป็นห่วงบ้านเมืองก็เป็นห่วงแต่ท่านพ่อของเขาเป็นถึงฮ่องเต้จะให้ขัดคำสั่งได้อย่างไร องค์ชายรัชทายาทมีกองกำลังอยู่นับครึ่งของแคว้น เขาได้สั่งแม่ทัพต่างๆก่อนที่เขาจะเดินทางกลับวังหลวงให้ดูแลเข้มงวด เพราะไม่รู้ว่าข้าศึกจะใช้ช่วงที่เขากลับวังนั้นโจมตีด่านต่างๆหรือไม่ มารดาของเขาได้เสียชีวิตไปในยามสงครามครั้งที่เขาอายุเพิ่งได้หกขวบ ครั้งนั้นเกิดวิกฤตใหญ่หลวงยังดีที่ฮ่องเต้ทรงหลุดพ้นออกมาได้ ถึงแม้ว่าภรรยาสุดที่รักจะเสียไป แต่เขาก็ยังกอบกู้แคว้นตรงขึ้นมาได้ ครั้งนี้ที่เสด็จพ่อได้เรียกตัวขององค์ชายรัชทายาทกลับมาเนื่องจากว่าเขาเองก็มีอายุยี่สิบปีแล้วจึงเหมาะสมที่จะหาคู่ครองเสียที แต่เนื่องจากเขาออกรบและประจำการอยู่ที่ด่านทางด้านทิศเหนือตลอดเวลา จึงไม่สามารถที่จะหาสตรีมาแต่งงานกับตนได้ ฮ่องเต้ไม่เคยต้องการให้บุตรชายออกไปรบแต่อย่างใด เป็นเพราะองค์ชายรัชทายาทนั้นฝังใจเรื่องมารดาที่เสียไปตั้งแต่ตอนที่ตัวเองอายุได้เพียงหกขวบซึ่งครั้งนั้น ข้าศึกบุกเข้ามายังวังหลวงและจับสตรีทุกคนของฮ่องเต้จนในที่สุดก็ได้ฆ่ามารดาของเขา เขาไม่ต้องการที่จะสูญเสียใครในสงคราม จึงต้องสละตัวเองที่ออกไปจัดการกับข้าศึกด้วยตัวเอง เรื่องแต่งงานนี้นเขาไม่เคยที่จะคิดถึงมันด้วยซ้ำ เดิมทีตำแหน่งรัชทายาทนั้นเขาไม่ต้องการแต่เพราะฮ่องเต้รักและชื่นชมในตัวของมารดาของเขาจึงมอบตำแหน่งนี้ให้ตั้งแต่ที่มารดาของเขาเสียไป บุรุษที่ใบหน้าหล่อเหลา ผิวกลับคล้ำเนื่องจากถูกแสงแดดเป็นเวลานาน ได้ขี่ม้ากลับมากับลูกน้องคนสนิท

"นายน้อยขอรับเราจะถึงวังหลวงแล้วจะเข้าไปเลยไหมขอรับหรือเราจะกลับตำหนักองค์ชายรัชทายาทเสียก่อน"

ซูเสวี่ยลูกน้องของคนสนิทของหนามกงฟู่กล่าวถามผู้เป็นนายขึ้น

"ไปถวายบังคมเสด็จพ่อก่อนเถอะเดี๋ยวค่อยกลับตำหนัก"

หนามกงฟู่กล่าวขึ้นพลางลงจากหลังม้าและยื่นเชือกให้ลูกน้องของตัวเองแล้วเดินเข้าไปในวังทันที

"เสด็จพ่อลูกของคารวะพะยะค่ะ ขณะนี้ทางค่ายทหารของทิศเหนือกำลังเตรียมตัวเพื่อที่จะรอให้ทหารฝ่ายแคว้นอี้โจมตีก่อนพวกเราสู้กับแน่นอนขอรับ"

หนามกงฟู่กล่าวขึ้น

"อ้ามาแล้วหรือ เราเรียกตัวเจ้ากลับมาเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ เราไม่ได้เรียกตัวเจ้ากลับมาเพื่อที่จะมารายงานเรื่องสนามรบ เจ้าพอกับเรื่องรบได้แล้ว เจ้าให้แม่ทัพที่อยู่ฝ่ายเหนือนั้นทำเถอะเจ้ากลับมาอยู่ในพระราชวัง เราจะหาบุตรีแม่ทัพ หรือบุตรีขุนนางให้สักคนเพื่อที่จะตกแต่งกับเจ้า เรื่องของมารดาเจ้าก็ปล่อยวางเสียเถอะพ่อคิดว่าแม่ทัพของพวกเรา ก็มีแต่คนที่เก่งกาจซึ่งเขาก็เป็นลูกน้องของเจ้าทั้งนั้น เจ้าก็น่าจะเชื่อใจในตัวลูกน้องของเจ้านะ พวกเขาน่าจะพาแคว้นตงของเราให้อยู่รอดได้"

ฮ่องเต้หนามกงเฉินกล่าวกับบุตรชาย

"มันไม่เหมือนกันนะขอรับท่านพ่อ หากข้าได้ออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารและท่านแม่ทัพทุกคนมันก็จะเป็นขวัญและกำลังใจให้พวกเขาต่อด้านศัตรูได้ดี ข้าเองเป็นถึงราชวงศ์แต่ยังออกรบด้วยตนเองนั่นแหละทำให้พวกเขารู้ว่าพวกเขานั้นสำคัญขนาดไหนข้าถึงทำงานร่วมกับพวกเขา"

องค์ชายรัชทายาทหนามกงฟู่กล่าวขึ้น

"พ่อไม่เถียงเจ้าแล้วก็ได้ เจ้ากลับมาก็ดีแล้ว งานเทศกาลปีใหม่นี้ข้าให้แม่เจ้าจัดเตรียมสาวงามลูกหลานของเหล่าแม่ทัพ ในการแต่งงานของเจ้า ถึงข้าจะเป็นบิดาแต่ข้าก็จะไม่บังคับเจ้า ข้าอยากให้เจ้าเปิดใจให้สาวงามพวกนั้นหากเจ้าสนใจผู้ใดเจ้ามารายงานกับท่านแม่เจ้าได้เลย"

ฮ่องเต้หนามกงเฉิงกล่าวขึ้น องค์ชายรัชทายาทหนามกงฟู่ได้ฟังก็ยิ้มเล็กน้อย ตัวเขาเองยังไม่คิดที่จะมีชายานะเวลานี้ หากเขามีชายา ณ เวลานี้ก็จะทำให้เขาต้องอยู่ในพระราชวังเพื่อที่จะปกป้องดูแลชายา และเขาก็คิดอยู่เสมอว่าท่านพ่อของเขานั้นมี ชายามากจึงทำให้ท่านพ่อปวดหัวไม่น้อย เขาจึงสาบานกับตัวเองแล้วว่าเขาจะมีเพียงชายาอย่างเดียว หลังจากกลับตำหนักไปเขาก็ให้ลูกน้องคนสนิทซูเสวี่ย ไปตามสืบข้อมูลของลูกหลานแม่ทัพ ว่ามีผู้ใดพอใช้ได้บ้าง ผู้ที่จะเป็นผู้บังหน้าในการเป็นชายาของเขาเพราะเขายังไม่ได้คิดเรื่องนี้จริงจัง เขาคิดว่าหลังจากจบจากเทศกาลปีใหม่เขาต้องรีบขึ้นเหนือเพื่อที่จะไปเฝ้าประจำการอยู่ที่ด่านเหนือ

"ท่านแม่ขอรับเจ้าฟู่กลับมาแล้วหรือขอรับ ข้าจะเริ่มแผนของพวกเราพรุ่งนี้เลยนะขอรับ"

หนามกงเฉียวองชายสามกล่าวกับมารดา ซึ่งตอนนี้มารดาของตนได้กลายเป็นฮองเฮาแล้ว หลังจากที่มารดาของหนามกงฟู่สิ้นไป แต่ถึงมารดาของตนจะได้เป็นฮองเฮา แต่ผู้เป็นบุตรก็ไร้ตำแหน่งองค์รัชทายาท เขาก็คิดตลอดว่าตำแหน่งนี้ต้องเป็นของบุตรชายของเขา ถ้ามันไม่มีหนามกงฟู่อยู่ กลางคืนพรุ่งนี้เขาต้องจัดการหนามกงฟู่ให้อยู่มัด ถึงแม้เขาจะรู้ว่าบุรุษผู้นั้นมีทหารอยู่ในมือมากเพียงใดแม่ทัพคนใดบ้างที่อยู่ข้างของเขา แต่ตอนนี้เขาก็ได้แม่ทัพผู้นึงที่อยู่ในเมืองหลวงมาอยู่ข้างตนแล้วนั่นก็คือคนตะกูลหลิว เพราะตอนนี้เขาทำให้บุตรีที่เกิดขึ้นกับฮูหยินของแม่ทัพหลิวนั้นตกหลุมรักอย่างมาก ไม่มีทางที่กองทับรักษาวังหลวงแห่งนี้จะตกเป็นของรัชทายาทไปได้ เดิมทีหลิวเสียงเหย่านั้นก็แทบจะเป็นแม่ทัพน้อยอยู่แล้ว แต่เป็นหนางกงเฉียวที่เข้าไปทำให้นางปั่นป่วน จนล้มเลิกที่จะฝึกวรยุทธและหันกลับมาเย็บปักถักร้อยเพื่อที่จะได้ออกเรือนกับหนามกงเฉียว นางปฏิบัติตัวราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อก่อนตื่นเช้านางต้องฝึกร่างกายให้แข็งแรงเนื่องจากว่านางติดตามบิดาออกไปซ้อมกับทหารจึงทำให้นางนั้นซ้อมด้วย จนทุกทุกคนในกองทหารของท่านพ่อชอบนางและเคารพนางเป็นอย่างมาก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   67

    เมื่อทหารทั้งสามไปยังกระโจมของท่านแม่ทัพ ข้างในก็จะมีอาหารว่างที่ว่างอยู่บนโต๊ะเหมือนจัดให้พวกเขาทั้งสามพร้อมกับถ้วยชา เมือทหารทั้งสามมานั่งแล้วรองแม่ทัพซูเสวี่ยเป็นผู้รินน้ำชาให้พวกเขาทั้งสามพร้อมกับให้แม่ทัพด้วย"เชิญพวกท่านดื่มน้ำเช้าก่อน"รองแม่ทัพซูเสวี่ยกล่าวขึ้น"ท่านรองแม่ทัพท่านไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ขอรับเดี๋ยวข้าน้อยริมน้ำชากันเอง"ทหารผู้หนึ่งกล่าวขึ้น"พวกเจ้าเชิญดื่มชาเถอะ และก็ของว่างนี้ด้วย ถ้าสั่งให้คนครัวทำกับข้าวอยู่แต่เขาน่าจะทำยังไม่เสร็จพวกเจ้าจะได้กินข้าวกันไม่ได้กินนานเลยล่ะสิ"รองแม่ทัพซูเสวี่ยกล่าวขึ้น"อาหารที่อยู่บนเรือรบนั้นรสชาติอาจจะไม่ถูกปากแต่บอกเลยเพื่อข้าไม่เคยอด แต่แล้วแต่เมื่อคืนนั่นแหละที่พวกเขาเดินเรือมายังน่านน้ำนี้ก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลย"ทหารผู้หนึ่งกล่าวขึ้น พลางหยิบของว่างเข้าปาก"ที่ข้าร้อนใจเรียกพบเจ้าทั้งสามมาก็เพราะเรื่องนี้นั่นแหละ มีใครพอจะวาดแผนที่บนเรือให้ข้าได้หรือไม่ข้าอยากวางแผนทำเรือรบหากครั้งนี้เราชนะข้าเกรงว่าครั้งต่อไปก็คงจะมีการรบทางน้ำอีก เพราะฉะนั้นเรือรบนั้นข้าคิดว่ามันน่าจะสำคัญอย่างยิ่งในภายภาคหน้า และตอนนี้ข้าต้องการให

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   66

    เป็นดังที่ท่านแม่ทัพคิดไว้ไม่มีผิดหลังจากที่เรือรบนั้นกลับไปแล้วยังมีเสียงละลอกของคลื่นน้ำกระทบกับโลหะและไม้อยู่ ไม่นานก็เห็นความเคลื่อนไหวริมน้ำ ทหารของแคว้นอี้กับแคว้นจิ้นขึ้นมาได้ ทหารของแคว้นตงก็ลงมือทันทีเสียงสู้รบกันดังสนัน เป็นละลอก ทหารสามนายของแคว้นตงที่อยู่ในเรือก็หยุดพูดคุยกันเพื่อฟังเสียงต่อสู้ "ทหารของสองแคว้นนั้นช่างอดทนเสียเหลือเกิน ว่ายน้ำไปขึ้นฝั่งได้ แต่ทหารของแคว้นตงรับรู้ได้อย่างไรนะว่าทหารของอีกสองแคว้นกำลังจะขึ้นไปบนชายฝั่ง"ทหารผู้หนึ่งถามขึ้น ทั้งสองก็นั่งคบคิดแต่หาคำตอบไม่ได้ พวกเขาอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากฝั่งเกินไปนักได้ยินเสียงสู้รบเป็นช่วงช่วง ไม่นานเรือนั้นก็เหมือนมีคนมาจับไว ปกติเรือจะโคลงเคลงตามระลอกของคลื่นเนื่องจากว่ามีความเคลื่อนไหวอยู่ในน้ำจงสงบรอบขึ้นทำให้เรือโคลงเคลง แต่ตอนนี้เรือหยุดโคลงเคลงแล้ว เมื่อส่องไฟพกไปก็ต้องพบกับแม่ทัพฉี่ฉ่างของแคว้นจิ้น ทหารทั้งสามลากตัวแม่ทัพขึ้นมา"พวกเจ้าทหารแคว้นอี้ พาเรากลับไปยังเรือรบด้วย เมื่อไปถึงแล้วข้าจะมอบรางวัลให้เจ้าอย่างงาม เพิ่มตำแหน่งให้เจ้าทั้งสามคนด้วย"แม่ทัพฉี่ฉ่างของแคว้นจิ้นกล่าวขึ้นทั้งสามพยักหน้า "แ

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   65

    ไม่นานหัวหน้าฝ่ายต่างๆก็มาช่วยกันขนธนูและลูกธนู พร้อมกับไฟที่พวกเขาเตรียมการไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ลูกธนูและธนูนั้นถูกขนไปไว้ยันต้นไม้ที่พวกเขาทำที่พักไว้ ทหารทุกคนทำงานเป็นคู่ เมื่อนำของเหล่านั้นไปไว้บนต้นไม้เสร็จแล้วทุกคนก็รวมตัวกันอีกครั้ง"ทหารทุกคนครานี้ แคว้นอี้กับแคว้นจิ้นบุกมายังแคว้นตงของเราแล้ว ในเวลายามสามข้าจะให้สัญญาณและยิงธนูออกไป หากยิงแล้วไปถูกเรือรบเหล่านั้นให้ยิงซ้ำ หากผู้ใดยิงไม่ถูกให้เปลี่ยนเป้าหมายจนกว่าจะถูก เมื่อยิงถูกเรือแล้วเรือเหล่านั้นลุกเป็นไฟ ก็จะทำให้เรามองเห็นเรือลำอื่นๆได้ชัดเจน ครานี้ข้าแม่ทัพฟู่ขอฝากความหวังไว้กับทหารทุกๆคน พวกเราจะรบเคียงบ่าเคียงไหล่กัน พวกเราจะต้านศัตรูไม่ให้พวกมันมาเหยียบแผ่นดินแคว้นตงของเราได้ "องค์ชายรัชทายาทหนามกงฟู่กล่าวเรียกขวัญและกำลังใจให้ทุกๆคน"พวกเราจะต้านศัตรู พวกเราจะต้านศัตรู"เสียงทหารทุกคนร้องขึ้นอย่างพร้อมเพียง หลังจากที่ทหารทุกคนได้ขวัญและกำลังใจเสร็จสิ้น ก็แยกย้ายกันไปประจำจุด บางคนก็ขึ้นต้นไม้เพื่อที่จะไปซุ่มยิงธนู บางคนก็ตรียมตัวอยู่ใกล้น่านน้ำ เพื่อรอฝ่ายศัตรูขึ้นมาแล้วพวกเขาก็จะสู้รบกัน เวลาผ่านไปเรื่อยไป เสียงโล

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   64

    ทางด้านค่ายทางทิศตะวันออกของแคว้นตง ในยามราตรีเข้ามา กลุ่มเรือรบก็ค่อยๆเคลื่อนเข้าไปยังพื้นดินของแคว้นตง ทหารของแคว้นตงสองคนที่อยู่ในเรือลำนั้นไม่มีโอกาสได้ขึ้นไปบนเรือเพื่อที่จะส่งสัญญาณให้คนบนพื้นดินให้รู้ว่ามีเรือรบเข้าใกล้พื้นพื้นดินของตนแล้ว เหมือนมีคนรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของพวกเขาทั้งสอง ใช้แรงงานพวกเขาทั้งสองให้อยู่ใต้เรือ คอยขนอาวุธให้คนข้างบนพวกเขาจึงไม่รู้ว่าตอนนี้เรือแล่นไปถึงไหนแล้ว ทั้งสองสบสายตากันเป็นครั้งคราว หากใกล้ที่จะถึงฝั่งจริงๆพวกเขาต้องรีบขึ้นไปส่งสัญญาณถึงแม้จะถูกจับได้แต่พวกเขาก็ต้องเสี่ยงขึ้นไปแล้ว "เรือพวกเราแลนมาขนาดนี้แล้วถึงไหนก็ไม่รู้" ทหารที่ขนอาวุธด้วยกันถามกันเองจึงทำให้ทั้งสองที่มองหน้ากันอยู่พยายามที่จะฟังสำเนียงของแคว้นอี้ให้เข้าใจ "จะแล่นถึงไหนได้ล่ะหากพวกเขาใกล้ฝั่งแล้วพวกเขาก็จะปล่อยเรือเล็กออกไปนั่นแหละถึงรู้ว่าพวกเราใกล้จะปะทะกับทหารแคว้นตงแล้ว ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาง่ายๆหรอกระยะทางที่พวกเราจอดนั้นไกลมากนัก เพราะกลัวว่าลูกธนูไฟเหล่านั้นจะทำให้เรือเราเสียหายไง" ทหารผู้หนึ่งตอบขึ้น "แล้วเจ้ามาตอนกลางคืนเช่นนี้ พวกนั้นจะเห็นเราหรือไม่นะ หรือเร

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   63

    ทางด้านนักพรตที่เป็นอาจารย์ของหลู่ชิงเหยาเมื่อออกจากเมืองหลวงไปก็ไปยังทิศทางใต้ เวลาผ่านไปหลายเดือนลางสังหรของเขานั้นก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เขาอาจวิตกมากเกินไป หรือว่าการเปลี่ยนที่อยู่แล้วจะทำให้เคราะห์นั้นหายไป เขาไม่กล้าดูอนาคตให้ตัวเองอีกแล้ว จึงได้แต่ใช้ชีวิตตามปกติ เขาตั้งสำนักดูดวงให้ชาวบ้านด่านใต้ ไม่นานก็มีคนมาขอให้สถานการณ์สงครามเพราะชาวบ้านได้ข่าวหนาหูเรื่องสงคราม เขาจึงทำการดูอนาคตให้ก็พบว่า ฮ่องเต้คนใหม่กำลังปรากฏแล้ว ในไม่ช้าจะเปลี่ยนผู้นำแคว้นคนใหม่ ซึ่งการเปลี่ยนผู้นำคนใหม่ที่มาพร้อมกับสงครามจึงทำให้เขาคบคิดขึ้นได้ว่าสงครามของแคว้นตงจะพ่ายแพ้ เขาดูอนาคตพรางพูดไปเช่นนั้น จึงทำให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณด้านใต้นั้นรู้สึกวิตกกังวลมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม เพราะพวกเขารู้ว่าสถานการณ์ตึงเครียดมานานแล้ว เมื่อท่านนักพรตคิดแผนที่พวกเขาวางไว้อาจสำเร็จเขาก็รู้สึกเสียดายไม่น้อยที่ทำให้ คุณหนูหลู่นั้นตัดขาดกับองค์ชายสามหนามกงเฉียว เมื่อเขากลับมายังที่พักแล้วเขาจึงคิดขึ้นได้ว่าควรจะดูอนาคตให้กับองค์ชายรัชทายาทว่าตอนที่เขาหมดหน้าที่ และหมดผลประโยชน์แล้วเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป คลั้นมาดูอนาคตให้องค์

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   62

    หลิวเสียงเหย่าลูบหน้าท้องของตัวเองเบาๆวันนี้ทางตระกูลจะมารับนางแล้วนางออกมาจากเรือนและเดินดูต้นไม้รอบๆ ใบไม้ยังคงปลิวตามเดิมของมันและลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ก็ยังมากวาดใบไม้อยู่เช่นเดิมแต่วันนี้เป็นสตรีที่คอยดูแลนางอยู่ประจำ หลิวเสียงเหย่าและบ่าวรับใช้ยืนมองไปที่นาง"วันนี้พวกท่านก็จะกลับบ้านกันแล้ว ข้ายินดีอย่างยิ่งที่ได้ดูแลท่านเป็นเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา หากมีโอกาสข้าจะไปหาท่านในพระราชวังนะ"เสียงลูกศิษย์สตรีดังขึ้น"ข้าต้องขอขอบคุณเจ้ามาก เรื่องที่ผ่านมาเจ้าดูแลข้าเป็นอย่างดี หากข้ากลับเข้าวังแล้ว เจ้ามีความประสงค์สิ่งใดก็เข้าไปหาข้าได้ทุกเมื่อ พวกเจ้าและท่านอาจารย์ของพวกเจ้ามีบุญคุณต่อข้ามาก ชีวิตนี้ข้าก็อยากจะทดแทน"หลิวเสียงเหย่ากล่าวขึ้น"พระชายาเจ่าคะ พระองค์ไม่คิดแบบนี้สิเพคะ ชีวิตของพระองค์กับองค์ชายน้อยมีค่ามากนะเจ้าคะ"บ่าวรับใช้กล่าวกับหลิวเสียงเหย่า"ชีวิตทุกคนมีค่าเท่ากันนั่นแหละเจ้าอย่าพูดเรื่องนี้ ทุกคนให้ความสำคัญกับข้ามากเช่นไร บุญคุณย่อมมากเท่านั้น "หลิวเสียงเหย่ากล่าวกับบ่าวรับใช้ ไม่นานก็ได้ยินเสียงคนจากภายนอกนั้นเดินทางเข้ามา บ่าวที่ดูแลหลิวเสียงเหย่าก็เตรียมตัว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status