Share

2

Author: Sanassetong
last update Last Updated: 2025-03-01 17:59:07

ในคืนงานเลี้ยงเทศกาลปีใหม่ของวังหลวงจัดขึ้น ในวังหลวงนั้นมีทั้งบุรุษและสตรีมากมายที่เข้ามาร่วมเฉลิมฉลอง หลังจากที่ฮ่องเต้เปิดงานเทศกาลปีใหม่ หลายๆคนก็ดื่มดำกับความสุขในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แบบนี้ ทางราชวังก็ยินดีให้ลูกหลานของขุนนางและเหล่าแม่ทัพทั้งหลายเข้ามาร่วมในงานครั้งนี้ด้วย หย่าเซี่ยหว่านลูกขุนนางตระกูลหย่า วันนี้นางมาในชุดแบบเรียบหรูแต่ดูแล้วนางมีเสน่ห์เหลือเกิน บุรุษทุกคนต้องหันหน้ามองนางราวกับว่านางเป็นเจ้าของงานในค่ำคืนนี้ แม้กระโปรงของนางจะเป็นเพียงสีฟ้าอ่อนแต่มันขับกับผิวของนางทำให้นางโดดเด่นซะเหลือเกิน หนามกงฟู่เหลือบมองเล็กน้อย สตรีผู้นี้อันตรายอยู่มาก เป็นสตรีที่ลือเลื่อง และเก่งแทบทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเรือนหลัง นางยังร่ำเรียนเกี่ยวกับขุนนางแบบท่านพ่อของนางด้วย ซูเสวี่ยรายงานให้เขาฟังเขาจึงตัดสตรีผู้นี้ออกทันที เพราะหากว่าเป็นบุตรของขุนนางตระกูลหย่าและหัวดื้อรั้นก็คงจะหนีไม่พ้นต้องเกี่ยวดองด้วยแบบจริงจัง เขาไม่ได้มองผู้ใด เนื่องจากว่าซูเสวี่ยลูกน้องของเขายังสืบข้อมูลของบุตรหลานของท่านแม่ทัพและเหล่าขุนนางยังไม่มากพอ แต่ตัวของซูเสวี่ยเองนั้นสนใจบุตรสาวของตระกูลแม่ทัพหย่า ซึ่งตัวเขานั้นไม่เห็นด้วยถ้าอยากให้ตกแต่งก็คงจะตกแต่งกับซูเสวี่ยเองดีกว่า หย่าเซี่ยหว่านเองนั้นมีบุรุษหลายคนเข้ามาพูดคุยแต่นางเองก็สงวนท่าที แต่สายตาก็เหลือบไปมององชายรัชทายาทอยู่บ่อยครั้ง และองค์ชายรัชทายาทหนามกงฟู่ก็มองนางเพียงครั้งเดียว ที่เหลือก็มัวแต่ร่ำสุรา หลังจากร่ำสุราไปไม่นานองค์ชายรัชทายาทก็รู้สึกตัวว่าตัวเขาเองนั้นมึนเมาเสียแล้ว ทั้งๆที่อยู่ค่ายทหารนั้น เขาร่ำสุรากับแม่ทัพน้อยแม่ทัพใหญ่ออกจะบ่อยครั้งแต่เขาก็ไม่เมามายขนาดนี้ เพราะเขาก็เป็นบุรุษผู้นึงที่คอแข็งอยู่มาก เหมือนว่าสุราเมืองหลวงกับสุราที่ค่ายทหารที่เขาอยู่นั้นมันแตกต่างกัน ไม่นานหนามกงเฉียวก็ให้คนมาแบก องค์ชายรัชทายาทไปไว้ที่ห้องที่เขาได้เตรียมไว้ ส่วนซูเสวี่ยลูกน้องข้างกายขององค์ชายรัชทายาทนั้น ได้เฝ้าอยู่ตำหนักองค์ชายรัชทายาทเนื่องจากว่าองค์ชายสามรู้ดีว่าคนข้างกายขององค์ชายรัชทายาทนี้ มีฝีมือสุดยอดเขาจึงปล่อยข่าวว่าจะมีผู้ที่ลอบเข้าตำหนักขององค์ชายรัชทายาท ทำให้ซูเสวี่ยไม่ได้ออกไปร่วมงาน

"ปวดหัวเหลือเกิน และร่างกายข้าเหมือนมีไฟเข้ามาแทนทีของเลือด นางไม่สามารถที่จะนำไฟนั้นออกไปได้เลย ความปวดแสบปวดร้อนผสมปนเปกันไปหมด ทั้งความเสียวซานที่อยู่ตรงช่วงของท้องน้อยแม้ลมหายใจเข้าลึกก็รู้สึกเสียวไปถึงหัวใจ ข้าเป็นอะไรไปหรือในเมื่อข้านั้นกำลังจะตาย มือข้างขวาของข้ากำแหวนหยกปาจือสีลาเวนเดอร์ที่หนามกงฟู่เคยมอบให้ และเขาและตัวของหนามกงฟู่เองก็ตายไปต่อหน้าต่อตาพร้อมกับบุตรชายของข้าที่พึ่งจะหกขวบ ข้าาเป็นอะไรกันแน่"

หลิวเสียงเหย่าคิดอยู่ในใจยามหายใจก็ทรามารเสียเหลือเกินทรมารกับความเสียวลมหายใจของนางไม่เป็นจังหวะเสียแล้วความรู้สึกของช่วงกลางลำตัวก็รู้สึกเจ็บปะปนกับความเสียว นางค่อยๆลืมตามาก็พบว่ามีบุรุษอยู่ข้างบนตัวนางที่กำลังเขากำลังไซคอนางไปมา เขากำลังฉวยโอกาสกับนาง นางลืมตาขึ้นมองก็พบว่าเป็นศีรษะของสามีนางซึ่งมีนามว่าอ๋องฟู่ ทำไมเขาตายแล้วแต่ทำไมเหมือนยังไม่ตายความรู้สึกที่ปนเปกับความรู้สึกที่เสียวของช่วงล่างนั้นทำให้นางเลอะเลือนไปชั่วขณะความเจ็บปวดของช่วงล่างทำให้นางจำขึ้นได้เป็นครั้งแรกที่เขาพบและมีความสัมพันธ์กับองค์ชายรัชทายาทหนาวกงฟู่ ด้วยแผนขององค์ชายสามหนามกงเฉียวที่ทำให้ทั้งสองได้ลงเอ่ยกัน แล้วยังปล่อยให้นางตั้งครรภ์บุตรของหนามกงฟู่อีกด้วย นางและหนามกงฟู่ครั้งนี้ที่มีความสัมพันธ์กันเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่มากระตุ้นทั้งสองจึงทำให้ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนที่ดื่มด่ำของทั้งสอง แต่พอรุ่งเช้าสถานการณ์ก็เปลี่ยนไป ทั้งนี้นางคงได้เกิดใหม่อีกครั้งที่ย้อนเวลาจากครั้งที่นางตายมาเกือบเจ็ดปีที่นางต้องทนทุกข์อยู่กับเรื่องนี้ เรื่องที่นางตัดสินใจผิดพลาด ทำให้ตัวนางบุตรของนาง และสามีคนทีนางไม่ได้รักผู้นี้ได้ตายไป เพราะคนที่นางรักมากและเชื่อใจมากอย่างองค์ชายสามหนามกงเฉียว ไม่สิก่อนที่นางจะตายนั้นเขาได้เป็นถึงองค์ชายรัชทายาทหนามกงเฉียว เขาใช้เรื่องของนางคืนนี้ทำให้องค์ชายรัชทายาทหนาวกงฟู่นั้นถูกปลด และถูกขังอยู่ในคุกแต่เมื่อข้าศึกโจมตีทางด้านทิศที่มีทะเลนั้นจึงทำให้แม่ทัพบุกเข้ามาช่วยเหลือหนามกงฟู่เพื่อที่จะไปต่อสู้จนชนะศึกกลับมา และเขาจึงถูกตั้งเป็นอ๋องฟู่ในภายหลัง แต่ก็เป็นเพราะนางที่เปิดเผยทุกอย่างให้หนามกงเฉียวรู้จุดอ่อนของหนามกงฟู่ และหนามกงเฉียวก็จัดการหนามกงฟู่จนสำเร็จ แต่เขาก็ไม่ได้ปล่อยนางกับบุตรไป เดิมทีนางคิดว่าเขารักนางมากจึงรับหนามกงเฟ่ยบุตรชายของนางเป็นบุตรของเขาที่แท้ก็เพื่อแผนการของเขากับสตรีที่เขารักที่สุดหลู่ชิงเหยา ขอครั้นเมื่อเขาแต่งหลู่ชิงเหยาเป็นชายาเสร็จสมบูรณ์เขาก็ลงมือกับนางและครอบครัวอย่างไม่ใยดี ความเจ็บปวดนี้เขาเจ็บปวดเหลือเกินจนถึงวินาทีสุดท้ายที่สิ้นลมแต่แล้วความอาฆาตของเขาก็ไม่ได้ทำให้สูญเปล่ากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ซึ่งอยู่ในตอนที่กำลังจะเข้าช่วงที่ทำให้ชีวิตนางนั้นเปลี่ยนไปตลอดกาล

"ซี๊ดแม่นางเจ้า"

เสียงของหนามกงฟู่ครางขึ้น จึงทำให้หลิวเสียงเหย่าได้สติจึงใช้ปากปิดปากของเขา มือข้างขวาของนางเหมือนสัมผัสกับบางสิ่งที่นางรู้สึกว่าก่อนตายนั้นนางได้สัมผัสมัน ใช่แล้วแหวนหยกปาจือสีม่วงลาเวนเดอร์ของเขานี่เอง หลังจากที่ความเคลื่อนไหวบนเตียงเงียบลง องค์ชายรัชทายาทก็ผลอยหลับไปด้วยฤทธ์ยา เดิมทีหลิวเสียงเหย่าก็หลับไหลไปด้วยฤทธิ์ยาเช่นกัน แต่คราวนี้นางอาจจะพึ่งฟื้นจากความตายจึงทำให้นางไม่ได้หลับลง แต่ร่างกายของนางนั้นก็เจ็บปวดอยู่โดยเฉพาะช่วงกลางลำตัวของนางนั้นแทบขยับเขยื้อนไม่ได้เลย นางพยายามที่ลงเตียงไปเพื่อเขียนอะไรบางอย่างให้เขา แต่ก่อนที่นางจะลงไปนางดึงแหวนหยกปาจือของเขาออกมาก่อน แล้วลงไปหาหมึกและพู่กันมาเขียนอะไรสักอย่างบนผ้าหนังผืนหนึ่ง หลังจากเขียนเสร็จนางก็เป่าให้แห้งแล้วพับมันไว้ แล้วปลดสร้อยคอของตัวเองออก สร้อยคอของนางประดับด้วยจี้หยกรูปแมลงปอ นางสอดผ้าและสร้อยคอของนางใส่กระเป๋าอกเสิ้อขององค์ชายรัชทายาท และนางก็เอนกายลงนอนต่อ นางรู้อยู่แล้วว่าอีกไม่กี่ชั่วยามจะเกิดอะไรขึ้น นางต้องการจะเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างไปไม่ให้ลงเอยดังเดิม แต่นางก็รู้ดีว่าหากออกไปตอนนี้ ก็จะถูกคนเหล่านั้นจับนางมาส่งที่ห้องนี้อยู่ดี สู้นอนรอตอนเช้าแล้วแก้สถานการณ์ดีกว่า หลังจากนั้นนางก็ผลอยหลับไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   67

    เมื่อทหารทั้งสามไปยังกระโจมของท่านแม่ทัพ ข้างในก็จะมีอาหารว่างที่ว่างอยู่บนโต๊ะเหมือนจัดให้พวกเขาทั้งสามพร้อมกับถ้วยชา เมือทหารทั้งสามมานั่งแล้วรองแม่ทัพซูเสวี่ยเป็นผู้รินน้ำชาให้พวกเขาทั้งสามพร้อมกับให้แม่ทัพด้วย"เชิญพวกท่านดื่มน้ำเช้าก่อน"รองแม่ทัพซูเสวี่ยกล่าวขึ้น"ท่านรองแม่ทัพท่านไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ขอรับเดี๋ยวข้าน้อยริมน้ำชากันเอง"ทหารผู้หนึ่งกล่าวขึ้น"พวกเจ้าเชิญดื่มชาเถอะ และก็ของว่างนี้ด้วย ถ้าสั่งให้คนครัวทำกับข้าวอยู่แต่เขาน่าจะทำยังไม่เสร็จพวกเจ้าจะได้กินข้าวกันไม่ได้กินนานเลยล่ะสิ"รองแม่ทัพซูเสวี่ยกล่าวขึ้น"อาหารที่อยู่บนเรือรบนั้นรสชาติอาจจะไม่ถูกปากแต่บอกเลยเพื่อข้าไม่เคยอด แต่แล้วแต่เมื่อคืนนั่นแหละที่พวกเขาเดินเรือมายังน่านน้ำนี้ก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลย"ทหารผู้หนึ่งกล่าวขึ้น พลางหยิบของว่างเข้าปาก"ที่ข้าร้อนใจเรียกพบเจ้าทั้งสามมาก็เพราะเรื่องนี้นั่นแหละ มีใครพอจะวาดแผนที่บนเรือให้ข้าได้หรือไม่ข้าอยากวางแผนทำเรือรบหากครั้งนี้เราชนะข้าเกรงว่าครั้งต่อไปก็คงจะมีการรบทางน้ำอีก เพราะฉะนั้นเรือรบนั้นข้าคิดว่ามันน่าจะสำคัญอย่างยิ่งในภายภาคหน้า และตอนนี้ข้าต้องการให

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   66

    เป็นดังที่ท่านแม่ทัพคิดไว้ไม่มีผิดหลังจากที่เรือรบนั้นกลับไปแล้วยังมีเสียงละลอกของคลื่นน้ำกระทบกับโลหะและไม้อยู่ ไม่นานก็เห็นความเคลื่อนไหวริมน้ำ ทหารของแคว้นอี้กับแคว้นจิ้นขึ้นมาได้ ทหารของแคว้นตงก็ลงมือทันทีเสียงสู้รบกันดังสนัน เป็นละลอก ทหารสามนายของแคว้นตงที่อยู่ในเรือก็หยุดพูดคุยกันเพื่อฟังเสียงต่อสู้ "ทหารของสองแคว้นนั้นช่างอดทนเสียเหลือเกิน ว่ายน้ำไปขึ้นฝั่งได้ แต่ทหารของแคว้นตงรับรู้ได้อย่างไรนะว่าทหารของอีกสองแคว้นกำลังจะขึ้นไปบนชายฝั่ง"ทหารผู้หนึ่งถามขึ้น ทั้งสองก็นั่งคบคิดแต่หาคำตอบไม่ได้ พวกเขาอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากฝั่งเกินไปนักได้ยินเสียงสู้รบเป็นช่วงช่วง ไม่นานเรือนั้นก็เหมือนมีคนมาจับไว ปกติเรือจะโคลงเคลงตามระลอกของคลื่นเนื่องจากว่ามีความเคลื่อนไหวอยู่ในน้ำจงสงบรอบขึ้นทำให้เรือโคลงเคลง แต่ตอนนี้เรือหยุดโคลงเคลงแล้ว เมื่อส่องไฟพกไปก็ต้องพบกับแม่ทัพฉี่ฉ่างของแคว้นจิ้น ทหารทั้งสามลากตัวแม่ทัพขึ้นมา"พวกเจ้าทหารแคว้นอี้ พาเรากลับไปยังเรือรบด้วย เมื่อไปถึงแล้วข้าจะมอบรางวัลให้เจ้าอย่างงาม เพิ่มตำแหน่งให้เจ้าทั้งสามคนด้วย"แม่ทัพฉี่ฉ่างของแคว้นจิ้นกล่าวขึ้นทั้งสามพยักหน้า "แ

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   65

    ไม่นานหัวหน้าฝ่ายต่างๆก็มาช่วยกันขนธนูและลูกธนู พร้อมกับไฟที่พวกเขาเตรียมการไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ลูกธนูและธนูนั้นถูกขนไปไว้ยันต้นไม้ที่พวกเขาทำที่พักไว้ ทหารทุกคนทำงานเป็นคู่ เมื่อนำของเหล่านั้นไปไว้บนต้นไม้เสร็จแล้วทุกคนก็รวมตัวกันอีกครั้ง"ทหารทุกคนครานี้ แคว้นอี้กับแคว้นจิ้นบุกมายังแคว้นตงของเราแล้ว ในเวลายามสามข้าจะให้สัญญาณและยิงธนูออกไป หากยิงแล้วไปถูกเรือรบเหล่านั้นให้ยิงซ้ำ หากผู้ใดยิงไม่ถูกให้เปลี่ยนเป้าหมายจนกว่าจะถูก เมื่อยิงถูกเรือแล้วเรือเหล่านั้นลุกเป็นไฟ ก็จะทำให้เรามองเห็นเรือลำอื่นๆได้ชัดเจน ครานี้ข้าแม่ทัพฟู่ขอฝากความหวังไว้กับทหารทุกๆคน พวกเราจะรบเคียงบ่าเคียงไหล่กัน พวกเราจะต้านศัตรูไม่ให้พวกมันมาเหยียบแผ่นดินแคว้นตงของเราได้ "องค์ชายรัชทายาทหนามกงฟู่กล่าวเรียกขวัญและกำลังใจให้ทุกๆคน"พวกเราจะต้านศัตรู พวกเราจะต้านศัตรู"เสียงทหารทุกคนร้องขึ้นอย่างพร้อมเพียง หลังจากที่ทหารทุกคนได้ขวัญและกำลังใจเสร็จสิ้น ก็แยกย้ายกันไปประจำจุด บางคนก็ขึ้นต้นไม้เพื่อที่จะไปซุ่มยิงธนู บางคนก็ตรียมตัวอยู่ใกล้น่านน้ำ เพื่อรอฝ่ายศัตรูขึ้นมาแล้วพวกเขาก็จะสู้รบกัน เวลาผ่านไปเรื่อยไป เสียงโล

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   64

    ทางด้านค่ายทางทิศตะวันออกของแคว้นตง ในยามราตรีเข้ามา กลุ่มเรือรบก็ค่อยๆเคลื่อนเข้าไปยังพื้นดินของแคว้นตง ทหารของแคว้นตงสองคนที่อยู่ในเรือลำนั้นไม่มีโอกาสได้ขึ้นไปบนเรือเพื่อที่จะส่งสัญญาณให้คนบนพื้นดินให้รู้ว่ามีเรือรบเข้าใกล้พื้นพื้นดินของตนแล้ว เหมือนมีคนรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของพวกเขาทั้งสอง ใช้แรงงานพวกเขาทั้งสองให้อยู่ใต้เรือ คอยขนอาวุธให้คนข้างบนพวกเขาจึงไม่รู้ว่าตอนนี้เรือแล่นไปถึงไหนแล้ว ทั้งสองสบสายตากันเป็นครั้งคราว หากใกล้ที่จะถึงฝั่งจริงๆพวกเขาต้องรีบขึ้นไปส่งสัญญาณถึงแม้จะถูกจับได้แต่พวกเขาก็ต้องเสี่ยงขึ้นไปแล้ว "เรือพวกเราแลนมาขนาดนี้แล้วถึงไหนก็ไม่รู้" ทหารที่ขนอาวุธด้วยกันถามกันเองจึงทำให้ทั้งสองที่มองหน้ากันอยู่พยายามที่จะฟังสำเนียงของแคว้นอี้ให้เข้าใจ "จะแล่นถึงไหนได้ล่ะหากพวกเขาใกล้ฝั่งแล้วพวกเขาก็จะปล่อยเรือเล็กออกไปนั่นแหละถึงรู้ว่าพวกเราใกล้จะปะทะกับทหารแคว้นตงแล้ว ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาง่ายๆหรอกระยะทางที่พวกเราจอดนั้นไกลมากนัก เพราะกลัวว่าลูกธนูไฟเหล่านั้นจะทำให้เรือเราเสียหายไง" ทหารผู้หนึ่งตอบขึ้น "แล้วเจ้ามาตอนกลางคืนเช่นนี้ พวกนั้นจะเห็นเราหรือไม่นะ หรือเร

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   63

    ทางด้านนักพรตที่เป็นอาจารย์ของหลู่ชิงเหยาเมื่อออกจากเมืองหลวงไปก็ไปยังทิศทางใต้ เวลาผ่านไปหลายเดือนลางสังหรของเขานั้นก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เขาอาจวิตกมากเกินไป หรือว่าการเปลี่ยนที่อยู่แล้วจะทำให้เคราะห์นั้นหายไป เขาไม่กล้าดูอนาคตให้ตัวเองอีกแล้ว จึงได้แต่ใช้ชีวิตตามปกติ เขาตั้งสำนักดูดวงให้ชาวบ้านด่านใต้ ไม่นานก็มีคนมาขอให้สถานการณ์สงครามเพราะชาวบ้านได้ข่าวหนาหูเรื่องสงคราม เขาจึงทำการดูอนาคตให้ก็พบว่า ฮ่องเต้คนใหม่กำลังปรากฏแล้ว ในไม่ช้าจะเปลี่ยนผู้นำแคว้นคนใหม่ ซึ่งการเปลี่ยนผู้นำคนใหม่ที่มาพร้อมกับสงครามจึงทำให้เขาคบคิดขึ้นได้ว่าสงครามของแคว้นตงจะพ่ายแพ้ เขาดูอนาคตพรางพูดไปเช่นนั้น จึงทำให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณด้านใต้นั้นรู้สึกวิตกกังวลมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม เพราะพวกเขารู้ว่าสถานการณ์ตึงเครียดมานานแล้ว เมื่อท่านนักพรตคิดแผนที่พวกเขาวางไว้อาจสำเร็จเขาก็รู้สึกเสียดายไม่น้อยที่ทำให้ คุณหนูหลู่นั้นตัดขาดกับองค์ชายสามหนามกงเฉียว เมื่อเขากลับมายังที่พักแล้วเขาจึงคิดขึ้นได้ว่าควรจะดูอนาคตให้กับองค์ชายรัชทายาทว่าตอนที่เขาหมดหน้าที่ และหมดผลประโยชน์แล้วเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป คลั้นมาดูอนาคตให้องค์

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   62

    หลิวเสียงเหย่าลูบหน้าท้องของตัวเองเบาๆวันนี้ทางตระกูลจะมารับนางแล้วนางออกมาจากเรือนและเดินดูต้นไม้รอบๆ ใบไม้ยังคงปลิวตามเดิมของมันและลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ก็ยังมากวาดใบไม้อยู่เช่นเดิมแต่วันนี้เป็นสตรีที่คอยดูแลนางอยู่ประจำ หลิวเสียงเหย่าและบ่าวรับใช้ยืนมองไปที่นาง"วันนี้พวกท่านก็จะกลับบ้านกันแล้ว ข้ายินดีอย่างยิ่งที่ได้ดูแลท่านเป็นเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา หากมีโอกาสข้าจะไปหาท่านในพระราชวังนะ"เสียงลูกศิษย์สตรีดังขึ้น"ข้าต้องขอขอบคุณเจ้ามาก เรื่องที่ผ่านมาเจ้าดูแลข้าเป็นอย่างดี หากข้ากลับเข้าวังแล้ว เจ้ามีความประสงค์สิ่งใดก็เข้าไปหาข้าได้ทุกเมื่อ พวกเจ้าและท่านอาจารย์ของพวกเจ้ามีบุญคุณต่อข้ามาก ชีวิตนี้ข้าก็อยากจะทดแทน"หลิวเสียงเหย่ากล่าวขึ้น"พระชายาเจ่าคะ พระองค์ไม่คิดแบบนี้สิเพคะ ชีวิตของพระองค์กับองค์ชายน้อยมีค่ามากนะเจ้าคะ"บ่าวรับใช้กล่าวกับหลิวเสียงเหย่า"ชีวิตทุกคนมีค่าเท่ากันนั่นแหละเจ้าอย่าพูดเรื่องนี้ ทุกคนให้ความสำคัญกับข้ามากเช่นไร บุญคุณย่อมมากเท่านั้น "หลิวเสียงเหย่ากล่าวกับบ่าวรับใช้ ไม่นานก็ได้ยินเสียงคนจากภายนอกนั้นเดินทางเข้ามา บ่าวที่ดูแลหลิวเสียงเหย่าก็เตรียมตัว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status