เข้าสู่ระบบ"หวานใจ!"
เสือหาญเรียกชื่อคนที่เขาประคองขึ้นมา ใบหน้าซีดเซียวกับบาดแผลเต็มไปหมดทำให้ขมวดคิ้ว สำรวจดูรอบคอที่ขึ้นรอยมือสีแดงเด่นชัด มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หวานใจไม่ควรจะมาอยู่ที่นี่เสียด้วยซ้ำ
ในระหว่างที่กำลังคิดแล้วจับดูไปตามแขนเรียวที่บอบช้ำ ดวงตากลมก็พยายามตื่นขึ้นมามอง เสียงพูดแสนแผ่วเบาทำให้เสื้อหาญขยับเข้าไปฟังใกล้ขึ้น
"ชะ ช่วย....ช่วยด้วย"
เพียงแค่คำขอความช่วยเหลือเท่านั้นที่อีกคนได้พูดก่อนจะสลบไปอีกรอบ
"ฉันว่ารีบกลับหมู่บ้านเถอะจ้ะ คุณหวานใจน่าจะเจ็บมาก"
"ไอพวกนั้นก็โดนจัดการหมด แล้วใครทำร้ายเอ็งนะหวานใจ"
"หรือจะเป็นพวกที่เคยจับตัวคุณหวานใจมา"
สิ้นเสียเอ่ยถามด้วยความสงสัยเสียงราวกับของหนักกระทบพื้นจากด้านหลังก็เรียกให้หันไปอีก เสือหาญประคองหวานใจไว้ในอ้อมแขนก่อนเพราะคิดว่าอาจจะเป็นคนที่ทำร้ายหวานใจก็ได้
เสือโชคอาสาเดินเข้าไปดูใกล้ๆ คนที่ทรุดก้มหน้าอยู่เงยขึ้นมามอง ทุกคนก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ตอนเห็นว่าเป็นเสือมิ่งที่บาดเจ็บถูกมีดแทงปักที่แขนด้วย
"นี่มันอะไรกันว่ะ มึงออกมาได้ยังไงไอมิ่ง กูบอกให้มึงอยู่ที่หมู่บ้านไง"
"ขะ ขอโทษจ้ะพี่หาญ พอดีฉันเห็นคุณหวานใจด้อมๆมองๆแล้วก็เดินตามพวกพี่ออกมา ฉันกลัวว่าจะเกิดเรื่องก็เลยตามมาด้วย"
"เอาเถอะ รีบกลับหมู่บ้านไปรักษาก่อน"
"พี่หาญให้ฉันอุ้มคุณหวานใจก็ได้นะ"
"ไม่ต้อง กูอุ้มเอง มึงช่วยกันพยุงไอมิ่งไป"
ธาราวิหค
ยายนวลดึงผ้าห่มขึ้นคลุมกายให้หวานใจ แววตาของหญิงสูงวัยฉายแววเป็นห่วงออกมาชัดเจน มือเหี่ยวย่นลูบหัวให้คนนอนผวาได้สงบลงแล้วถอนหายใจ ยิ่งมองดูก็ยิ่งน่าสงสาร ใครกันทำร้ายเด็กผู้หญิงตัวเล็กได้ถึงขนาดนี้
เสือหาญเดินเข้ามาหลังจากเดินไปส่งหมอคมเสร็จ ตามมาด้วยกะทิที่เดินมายืนข้างกายแล้วกอดอกมอง ในใจเอาแต่คิดว่าทำไมไม่ตายไปซะให้มันสิ้นเรื่องไปทุกอย่างจะได้จบ
"ไอมิ่งมันว่ายังไงบ้าง?"
"มันแค่ตามคุณหวานใจออกไป เพราะคุณหวานใจเดินตามพวกฉัน เห็นคุณหวานใจกำลังโดนทำร้ายก็เลยเข้าไปช่วยจนได้แผลมาอีกคน"
"แล้วทำไมมันจะต้องเดินตามพวกพี่ไปด้วยละจ๊ะ หรือว่ามันนั่นแหละที่เป็นพวกกับคนตัดไม้พวกนั้น แต่พอพี่จัดการได้ มันก็เลยทำเป็นโดนทำร้ายไง"
ที่กะทิพูดมันก็พอเป็นไปได้ ไม่มีเหตุผลอะไรมากพอให้หวานใจเดินไปไกลอย่างนั้นได้ แต่ถ้ายังไม่มีหลักฐานจะตัดสินอะไรก็คงไม่ได้ ถ้าเสือหาญมารู้ทีหลังว่าหวานใจเป็นอย่างที่กะทิว่าจริง คงปล่อยให้อีกคนมีชีวิตต่อไปไม่ได้
"อย่าบอกว่าเอ็งเชื่อที่นังกะทิมันพูดนะ"
"แต่อะไรก็เป็นไปได้นะยาย นังหนูของยายพึ่งมาอยู่ที่นี่ไม่นาน เรายังไว้ใจไม่ได้ อีกอย่างก็ไม่รู้ว่าทำไมหวานใจถึงจะต้องเดินตามพวกฉันออกไปด้วย"
"นังหนูมันอาจจะแค่หลงไป"
"แต่ไอมิ่งยืนยันว่าหวานใจตั้งใจตามออกไป"
ยายนวลเอ่ยปากไล่คนที่พูดจาไม่เข้าหูออกไป เสือหาญอ้าปากกำลังจะพูดแต่บานประตูถูกปิดใส่หน้าเสียงดังลั่น แอบแปลกใจเหมือนกันที่ยายนวลเชื่อใจผู้หญิงคนนี้มากเสียจนไม่ยอมฟังอะไรเลยแบบนี้
หวานใจหลับไปหนึ่งวันเต็มกว่าจะลืมตาตื่นขึ้นมา มองไปโดยรอบเห็นว่านอนอยู่ในห้องของยายนวลถึงได้รู้ว่าตัวเองยังไม่ตาย ก้มมองดูรอยฟกช้ำในมือขยับตัวหย่อนขาลงเดินไปหน้ากระจกเพราะอยากเห็นบาดแผลทั้งหมดของตัวเอง
บานประตูห้องเปิดเข้ามาจังหวะเดียวกันกับที่หวานใจเซถลาไปด้านหน้า เสือหาญโอบรับกายเล็กเอาไว้ด้วยความตกใจก่อนจะพยุงไปนั่งที่เตียงอย่างเก่าแล้วทำหน้าราวกับไม่เต็มใจ
"ถ้าไม่เต็มใจก็ไม่ต้องช่วยหรอก"
"ปากเอ็งนี่มันดีจริงๆ น่าปล่อยให้ตายกลางป่าเสียให้เข็ด"
"แล้วช่วยมาทำไม"
เสือหาญได้แต่จิ๊ปากขัดใจกับความอวดดีนี้ ทีตอนนั้นยังพูดร้องขอความช่วยเหลืออยู่เลย พอรอดมาได้ดันปากเก่งเสียเหลือเกิน คิดถูกหรือคิดผิดนะที่อุ้มมาจนกลับได้ถึงธาราวิหค
"ถ้าไม่กลัวว่ายายจะเสียใจที่เอ็งตาย ข้าก็ไม่ช่วยหรอก"
"....."
"ตื่นแล้วก็ดี ตอบข้ามา เอ็งตามพวกข้าไปทำไม"
"ฉันไม่...."
"อย่ามาบอกว่าไม่ได้ตาม เพราะไอมิ่งเป็นคนบอกข้าว่าเอ็งเดินตามพวกข้า มันเลยตามออกไป เห็นเอ็งโดยทำร้าย มันก็เลยไปช่วยจนโดนไปด้วย"
"เสือมิ่ง? ช่วยฉันหรอ?"
หวานใจขมวดคิ้วจนเป็นปม เท่าที่จำได้คือเธอเดินตามเสือหาญออกไปจริง เพราะอยากจะหาทางออกไปจากที่นี่ แต่เจอโจรโพกผ้าปิดหน้าคนหนึ่งจับเอาไว้แล้วก็ทำร้าย เธอหาทางดิ้นหลุดมาได้แล้วก็วิ่งหนีจนสะดุดแล้วกลิ้งตกลงมาจากเนินสูง ยังไม่ได้เจอกับเสือมิ่งเลย....แต่ทำไมเสือหาญถึงบอกว่าเสือมิ่งเป็นคนไปช่วยไว้
"หัวกระแทกจนสมองเลอะเลือนหรือไง"
"แล้วเสือมิ่งเป็นยังไงบ้าง?"
"แผลแค่นั้นมันไม่ตายหรอก ตอบข้ามาได้แล้ว"
ดวงตาคมมองจ้องเค้นถามผ่านแววตานั้น หวานใจก้มหน้าหลบไป มาถึงขนาดนี้คงปิดบังต่อไปไม่ได้ หวานใจกำลังจะอ้าปากตอบสิ่งที่เสือหาญสงสัยแต่เสียงแหลมของกะทิดังขึ้นมาเสียก่อน
"ตื่นขึ้นมาทำไม นึกว่าแกจะตายไปแล้วซะอีก"
"ถ้าฉันตายจะมาหาเธอคนแรกเลย เผื่ออยากไปอยู่ด้วยกันจะได้ไม่เหงาปาก"
หวานใจตอบกลับอย่างเจ็บแสบแล้วขยับตัวนอนลงบนที่นอน ดึงผ้าห่มมาคุมโปงไว้ไม่อยากพูดคุยอะไรด้วยอีก ถึงจะแอบหงุดหงิดกับคำพูดของกะทิไปบ้าง แต่ก็ถือว่ามาได้ถูกเวลาดี
"เอ็งมาทำไมนังกะทิ"
"ฉันจะมาถามจ้ะว่างานหมู่บ้านอาทิตย์หน้าพี่จะจัดที่ริมธารน้ำเหมือนเดิมไหม ฉันจะได้ให้คนเตรียม"
"อืม ที่เดิมนั่นแหละ"
เสียงของคนคุยกันเงียบไปแล้วหวานใจเลยถอนหายใจเฮือกใหญ่ที่เสือหาญไปเสียที อย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องตอบคำถามอะไรให้มากมาย พอนึกถึงแววตาของเสือหาญที่เอ่ยถามกัน ก็พอจะทำให้รู้ได้ว่าอีกคนน่าจะกำลังสงสัยในตัวเธอ ผู้หญิงตัวเล็กอย่างหวานใจจะไปทำอะไรได้ บางทีก็อยากให้เขาคิดถึงข้อนี้บ้าง
"โอ๊ย!"
หวานใจสะดุ้งลุกขึ้นนั่งในตอนที่พลิกตัวแล้วขาเตะเข้ากับใครบางคน เปิดผ้าห่มออกมาก็เห็นเป็นเสือหาญที่นั่งมองดุอยู่ปลายเตียง เขายังไม่ไปอีกหรอ นึกว่าไม่มีใครอยู่แล้วซะอีก ดีนะที่พูดในใจไม่ได้พูดบ่นออกมา
"เอ็งมาถีบข้าทำไม"
"ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ ก็นึกว่าคุณออกไปแล้ว"
"ข้ายังคุยกับเอ็งไม่จบ คิดยังไงว่าข้าจะออกไป"
เรียวแขนเล็กถูกรั้งเข้าไปหาเสือหาญที่มองจ้องเขม็ง ดวงตากลมเริ่มมองหาคนช่วยเหลือ แต่ดันไม่มีใครเข้ามาในตอนนี้เลย ขืนใช้วิธีตะโกนละก็เสือหาญต้องจัดการเธอแน่
"บอกข้ามาให้ชัด เอ็งตามออกไปทำไม ต้องการอะไร"
"ฉันก็แค่อยากกลับบ้าน"
"บ้าน?"
"ชะ ใช่ ก็แค่คิดว่าถ้าออกไปจนถึงผาน้ำตกได้ ก็น่าจะเดินออกจากป่านี้ไปได้ไม่ยาก"
"ทั้งที่พวกข้าบอกไปแล้วว่ามันไม่ง่าย เอ็งก็ยังจะอวดเก่ง แล้วดูความอวดเก่งของเอ็งสิ ทำให้ไอมิ่งมันเจ็บตัวเห็นไหม"
หวานใจก้มหน้าลงไม่พูดอะไรกลับไป ถึงจะนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าเสือมิ่งเข้าไปช่วยเธอตอนไหน แต่ในเมื่อเขายืนยันแบบนั้นเธอเองก็รู้สึกผิด ถ้าจะทำให้ใครสักคนมาเจ็บตัวเพื่อช่วยเหลือเธอ โดยเฉพาะคนดีๆอย่างเสือมิ่ง
เสือหาญเห็นคนตรงหน้านิ่งไปก็เริ่มคลายมือออก ดูท่าคงรู้สึกรู้สาอะไรขึ้นมาบ้างแล้ว ว่าการขัดคำสั่งหรือไม่ฟังในสิ่งที่เขาพูดมันสร้างความเดือดร้อนยังไง ก็ใช่ว่าจะอยากให้ผู้หญิงคนนี้อยู่ที่นี่นาน แต่การบุ่มบ่ามทำอะไรตามใจของอีกคนมีแต่ผลเสียตามมาทั้งนั้น
"หลังจากนี้ก็หัดฟังข้า ถึงธารวิหคมันจะไม่ได้อยู่สุขสบาย แต่ก็ดีกว่าเอ็งออกไปอยู่ในป่ากว้างนั่นแน่นอน"
หวานใจพยักหน้ารับคำ ท่าทีเชื่อฟังที่เสือหาญไม่เคยเห็นมาก่อนทำเอานิ่งงันไปสักพัก เวลาไม่มีปากเสียงแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ค่อยน่าคุยดีด้วยหน่อย แต่พอหวานใจทำปากยู่ลงเขาก็กระแอมแล้วตีหน้านิ่งขึ้นมาอีก ไอหน้าอ้อนๆแบบนี้บอกแล้วไงว่าเห็นทีไรก็หงุดหงิด
"เอ็งไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้น"
"หน้าแบบไหน?"
"ก็ไอหน้าอ้อนนี่ไง ข้าไม่ใช่ยาย ไม่ใช่พวกไอเพ้ง ไม่หลงกลเอ็งหรอก"
"นี่ไม่ใช่หน้าอ้อน มันหน้าของคนรู้สึกผิดต่างหาก"
เสือหาญเอนไปด้านหลังแล้วใช้แขนประคองตัวเองเอาไว้ในตอนที่จู่ๆหวานใจก็ขยับเข้ามาใกล้ ดวงตาคู่นั้นจู่ๆก็ทอประกายแล้วมองสบตาเขาไม่เลิก กระพริบตาปริบๆอย่างใสซื่อ ไหนจะมือที่ยื่นมาเกาะแขนเขาเอาไว้อีก เสือหาญกำลังถูกทำเสน่ห์หรือเปล่า ทำไมถึงละสายตาจากคนตรงหน้าไปไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว
"แบบนี้ต่างหากเรียกว่าหน้าอ้อน"
หวานใจขยับเข้าไปใกล้อีก พอเห็นว่าเสือหาญเหมือนจะเสียทรงก็เลยอยากแกล้งมากกว่าเก่า แต่ดันถูกเขาดันตัวเธอเอาไว้
"อ้อนตีนข้าหรอ ออกไป!" เสือหาญพูดไว้เท่านั้นแล้วเดินออกไปทั้งยังคอยหันมามองหวานใจเป็นระยะ ก่อนไหล่จะชนเข้ากับขอบประตูจนหวานใจหลุดขำออกมา
"คนอะไร เขินแล้วปากเสียชะมัดเลย"
เสือหาญอุ้มคนที่แทบจะไม่มีสติมาถึงกระท่อมอีกมุมหนึ่งในป่า กระท่อมนี้มิดชิดมากพอที่จะไม่มีใครมองเห็น เขาวางหวานใจลงบนแค่ไม้ เตรียมจะขยับตัวออกห่างแต่เธอก็รั้งคอเขาเอาไว้ซะก่อน เสือหาญล้มลงทั้งมือค้ำยันกับแค่ไม้เอาไว้หวานใจที่นอนดิ้นเร่าทั้งเสียงแหบพร่าที่เอาแต่เอ่ยร้องเรียกเขาทำเอาเขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ แขนเรียวสองข้างยกขึ้นคล้องคอเขาแล้วรั้งเขาเข้าไปจูบอย่างไม่ได้ตั้งตัว เสือหาญพยายามดันตัวออกในตอนแรก แต่จูบนี้ก็หวานเหลือเกินมือหนาประคองใบหน้าอีกคนเอาไว้แล้วบดจูบตอบกลับไป ตอนนี้มันยากสำหรับเขาที่จะหักห้ามใจ ทำไมถึงรู้สึกเหมือนหวานใจมีอิทธิพลต่อความอยากของเขามากขนาดนี้เลย“ไม่ไหวแล้ว” เสียงสั่นเครือของหวานใจกลับทำให้เขารู้สึกถึงความเย้ายวนมากกว่าเก่า มือเล็กที่จับหน้าเขาเอาไว้ยิ่งเพิ่มสัมผัสให้ต้องการมากขึ้นไปอีกเสือหาญก้มลงกดจูบริมฝีปากคนร้องขอ ลิ้นร้อนแทรกผ่านเกี่ยวกระหวัดอย่างลุ่มหลง ก่อนเขาจะผละออกมาแล้วหายใจหอบถี่ มองดูคนที่ยังคงยั่วยวนกันไม่หยุด“ข้าจะถามเอ็งอีกครั้ง เอ็งแน่ใจนะ?” หวานใจไม่พูดอะไร แต่ใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามอกแกร่ง ทันทีที่นิ้วเรียวลากผ่านหน้าท้องเขาก็ขนลุกซู่ มือเ
"ยายนวลไหวไหมจ๊ะ?" หวานใจกับเสือหาญเดินตามมาก็ได้ยินเสียงเพ้งถามยายนวลขึ้นมาพอดี มองดูถึงได้เห็นว่าหญิงสูงวัยกำลังนั่งพิงต้นไม้ใหญ่อยู่ ท่าทางเหมือนจะเป็นลมหน้ามืดลงไป เสือหาญกำลังจะเดินเข้าหาแต่หวานใจกลับเร็วกว่า อีกคนเดินไปนั่งลงใกล้ยายนวลก่อนเขา"หนูว่ากับดีไหมคะ? ยายน่าจะไม่ไหว""แต่ข้ายังต้องหาสมุนไพรอีกหลายอย่าง""เสือหาญแล้วจะทำยังไงดี?" ทำท่าครุ่นคิดอยู่พักก็พอจะนึกวิธีออก เสือหาญเลือกจะบอกให้หวานใจพายายนวลกลับก่อน เหลือแค่เขากับเพ้งอู่หาสมุนไพรให้ต่อ แต่พอจบประโยคยายนวลก็พูดขัดขึ้นมา"นังหนูหวานใจตัวเล็กแค่นี้จะพาข้ากลับยังไง ให้ไอเพ้งพาข้ากลับ ส่วนเอ็งกับนังหนูช่วยกันหาสมุนไพรแล้วกัน""เอ่อคือว่าหนูพายายกลับได้นะคะ ถึงหนูจะตัวเล็กแต่แข็งแรงมาก" หวานใจยกแขนเรียวเล็กขึ้นมาแล้วทำหน้ามั่นใจ"ทำไม? กลัวไม่กล้าอยู่กับข้าหรือไง"ดวงตากลมตวัดไปมองคนที่พูดจาดูถูกกันเมื่อครู่ คิ้วหนาที่ยักขึ้นราวกับตั้งใจกวนกันนั่นแสนน่าหงุดหงิด แบบนี้หวานใจจะไปยอมได้ยังไง สุดท้ายก็ตกปากรับคำที่จะอยู่หาสมุนไพรต่อกับเสือหาญเอง ขาเรียวก้าวเดินตามคนที่ไม่ยอมรอกันแล้วถอนหายใจ พยายามเอ่ยบอกเขาเท่าไหร่ก็ไม
"ยายนวลไหวไหมจ๊ะ?" หวานใจกับเสือหาญเดินตามมาก็ได้ยินเสียงเพ้งถามยายนวลขึ้นมาพอดี มองดูถึงได้เห็นว่าหญิงสูงวัยกำลังนั่งพิงต้นไม้ใหญ่อยู่ ท่าทางเหมือนจะเป็นลมหน้ามืดลงไป เสือหาญกำลังจะเดินเข้าหาแต่หวานใจกลับเร็วกว่า อีกคนเดินไปนั่งลงใกล้ยายนวลก่อนเขา"หนูว่ากับดีไหมคะ? ยายน่าจะไม่ไหว""แต่ข้ายังต้องหาสมุนไพรอีกหลายอย่าง""เสือหาญแล้วจะทำยังไงดี?" ทำท่าครุ่นคิดอยู่พักก็พอจะนึกวิธีออก เสือหาญเลือกจะบอกให้หวานใจพายายนวลกลับก่อน เหลือแค่เขากับเพ้งอู่หาสมุนไพรให้ต่อ แต่พอจบประโยคยายนวลก็พูดขัดขึ้นมา"นังหนูหวานใจตัวเล็กแค่นี้จะพาข้ากลับยังไง ให้ไอเพ้งพาข้ากลับ ส่วนเอ็งกับนังหนูช่วยกันหาสมุนไพรแล้วกัน""เอ่อคือว่าหนูพายายกลับได้นะคะ ถึงหนูจะตัวเล็กแต่แข็งแรงมาก" หวานใจยกแขนเรียวเล็กขึ้นมาแล้วทำหน้ามั่นใจ"ทำไม? กลัวไม่กล้าอยู่กับข้าหรือไง"ดวงตากลมตวัดไปมองคนที่พูดจาดูถูกกันเมื่อครู่ คิ้วหนาที่ยักขึ้นราวกับตั้งใจกวนกันนั่นแสนน่าหงุดหงิด แบบนี้หวานใจจะไปยอมได้ยังไง สุดท้ายก็ตกปากรับคำที่จะอยู่หาสมุนไพรต่อกับเสือหาญเอง ขาเรียวก้าวเดินตามคนที่ไม่ยอมรอกันแล้วถอนหายใจ พยายามเอ่ยบอกเขาเท่าไหร่ก็ไม
"ข้าเคยบอกไปแล้วว่าผู้หญิงคนนี้มันเป็นตัวกาลกิณี ฤกษ์แต่งไม่มีหรอก!"ยายนวลมองแม่หมอที่พูดจบแล้วหันไปยิ้มกับกะทิอย่างมีเลศนัย สองแม่ลูกนี่อยากจะจับหลานชายให้อยู่หมัดทำไมยายนวลจะไม่รู้ ไอเรื่องตัวกาลกิณีกับฤกษ์ยามที่หาไม่ได้ก็คงตั้งใจพูดขึ้นมาก็เท่านั้น "ดีเลยค่ะ ไม่มีฤกษ์ งั้นไม่ต้องแต่งหรอกนะคะ" แทนที่หวานใจจะเสียใจแต่กลับยิ้มร่าจนเสือหาญกลายเป็นคนหงุดหงิดกับรอยยิ้มนั้นซะเอง การไม่ได้แต่งกับผู้ชายอย่างเขาหวานใจควรจะต้องเสียใจถึงจะถูก แต่ไอท่าทางโล่งอกโล่งใจแล้วยังหันไปยิ้มกับเสือมิ่งนี่มัน อยากจับมาหักคอเสียจริง"ไม่ได้ ยังไงก็ต้องแต่ง ถึงแม่หมอจะไม่มีฤกษ์ก็ไม่เป็นไร แต่ข้ามี"หวานใจหันไปมองเสือหาญแล้วอ้าปากค้าง อุตส่าห์ดีใจแต่ยิ้มได้ไม่ถึงสองนาทีก็ต้องกลับมากลุ้มอีกแล้ว"ในเมื่อเป็นอย่างนี้ก็เอาฤกษ์สะดวก วันอาทิตย์หน้าเลยเป็นยังไง""อะไรนะ!?"เสือหาญอุทานลั่นกำลังจะเอ่ยปากคัดค้านแต่ยายนวลยกมือปามเอาไว้ ก็อย่างที่บอกยายนวลอยู่เหนือเสือหาญทุกสิ่ง ไม่เคยมีสักเรื่องที่ยายนวลต้องการแล้วเสือหาญจะขัดใจ สุดท้ายก็เลยได้แต่เดินหนีออกไปจากตรงนี้ก่อนที่จะหัวเสียมากกว่าเก่ากะทิลุขึ้นมองตามเสือ
เสือหาญอุ้มคนเมาขึ้นมาชั้นบนของบ้าน เห็นห้องยายนวลถูกล็อกกุญแจไว้จากข้างนอกก็ได้แต่ถอนหายใจ ก้มมองคนที่เมาหลับไปอยู่ในอ้อมแขนเขา ตัวเสือหาญเองก็มีอาการมึนเมาอยู่บ้างแต่พอเห็นคนที่เมากว่าก็สร่างขึ้นมาเสียดื้อๆ เดินพาหวานใจเข้าไปในห้องนอนตัวเองอย่างห้ามไม่ได้ ที่นอนที่ไม่เคยมีใครได้ย่างกายขึ้นไปแต่บัดนี้มีกายเล็กของหวานใจนอนอยู่บนนั้นถึงจะแสดงสีหน้าไม่อยากจะดูแลแต่มือก็ยังจัดแจงท่าให้หวานใจได้นอนสบายแถมยังดึงผ้าห่มขึ้นคลุมให้อย่างดี กำลังลุกลงจากเตียงตั้งใจจะอาบน้ำอาบท่าแล้วพาตัวเองไปนอนพื้นชั่วคราวสักคืนแต่ถูกหวานใจดึงรั้งแขนเอาไว้จนล้มลงไปบนที่นอน"นังหวานใจ เอ็งปล่อยข้า!"เสือหาญเหวขึ้นมาตอนที่แขนถูกดึงไปเป็นหมอนหนุน แล้วขาเรียวยกขึ้นมาก่ายพาดบนตัวเขา แต่เพราะเสียงงอแงราวเด็กน้อยถูกรบกวนตอนนอนนั่นทำเอาเสือหาญหยุดนิ่ง ได้แต่นอนแข็งทื่อเป็นหมอนหนุนกับหมอนข้างให้ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ ในตอนที่พยายามขยับตัวทีไรเสียงงอแงก็ดังขึ้นทุกทีเลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ก็ไม่รู้ทำไมถึงได้กลัวว่าจะรบกวนการนอนของอีกคนเข้า"เอ็งนี่นะ เอาแต่ใจจริง"ราวกับหวานใจได้ยินที่เขาพูดแล้วก็ขยับเข้ามาแนบชิด
"เดินให้มันเร็วๆหน่อย"หวานใจเดินหอบของพะรุงพะรังถอนหายใจใส่คนที่เดินนำหน้าตัวเปล่าแล้วออกคำสั่งไม่หยุด ก้าวเดินตามเขามาตั้งแต่หน้าบ้านกว่าจะไปถึงธารน้ำตกคงหมดแรงก่อนพอดี ดูก็รู้ว่าตั้งใจแกล้งกัน เอาไว้จะหาทางเอาคืนแน่"คุณหวานใจหนักไหมจ๊ะ มาเพ้งช่วย"เผยรอยยิ้มออกมาในตอนที่ได้ยินคำนั้นจากขึ้นที่เดินมาเจอ กำลังจะส่งของให้เพ้งช่วยถือไปแต่เสียงเข้มของเสือหาญหยุดทุกอย่างไว้ ก่อนเพ้งจะเดินถอยหลังเพราะไม่กล้าขัดคำสั่งของเสือหาญที่ไม่ให้เข้ามาช่วยเธอหวานใจแบกของหนักเดินต่อไปทั้งใบหน้ามุ่ย กว่าจะมาถึงธารน้ำตกที่เป็นจุดหมายก็หอบหนักจนแทบหายใจไม่ทัน เป็นเสือมิ่งที่วิ่งเข้ามาช่วยรับไปโดยที่ไม่สนใจสายตาของเสือหาญที่มองอยู่"เสือมิ่งแผลหายแล้วหรอคะ? ฉันขอโทษนะคะที่ทำให้เดือดร้อน""ข้าดีขึ้นแล้ว เอ็งไม่ต้องขอโทษหรอก ยังไงข้าก็ต้องช่วยเอ็ง"เสือมิ่งยิ้มมาให้ทั้งที่ยังถือของหนักอยู่ในอ้อมแขนโดยไม่แสดงอาการหนักเลยสักนิด สองคนยืนยิ้มให้กันไม่ได้พูดอะไรแต่กลับดูน่ารำคาญสำหรับเสือหาญ จนเขาต้องเดินผ่ากลางคนที่จ้องมองกันอยู่ นี่ถ้าเป็นปลากัดคงท้องไปแล้ว "เจ็บนะเนี่ย เดินชนมาได้"กำปั้นเล็กยกขึ้นทำท่าจะช







