Share

ตอนที่ 5 หรือควรตัดใจ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-15 16:49:55

หลังจากกลับมาถึงบ้านได้ไม่นานเยี่ยฟางก็รู้สึกว่ายังไม่สบายใจเกี่ยวกับวีรกรรมที่ตนได้ทำลงไป

แม้เรื่องที่ด่าทอลูกค้าและทำลายข้าวของบริษัทเธอก็ได้รับใบเตือนจากฝ่ายบุคคลแล้ว แต่ว่าเรื่องที่เธอคว้าคอเสื้ออี้เฟิงมาจูบแล้วเรียกเขาว่าสามี มันเป็นสิ่งที่ทำให้เธอถูกมองว่ากำลังใฝ่สูงอยากเข้าหาเขา บางคนบอกว่าเธอเป็นภรรยาลับๆ ของอี้เฟิงด้วยซ้ำ

“ไม่สิ ฉันต้องลืมมัน ฉันต้องลืมมัน เขายิ่งใหญ่ขนาดนั้นเขาคงไม่สนใจเรื่องเล็กๆ แค่นี้หรอก”

หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง เดินไปที่หน้าต่างแล้วเปิดม่านมองดูพระจันทร์ที่ลอยอยู่บนฟ้า พร้อมกับชะเง้อมองที่หน้าบ้านหลังข้างๆ ป่านนี้แล้วจางซีเหอยังไม่กลับ ไม่รู้ว่าเขาจะขยันทำงานอะไรนักหนา

สักพักรถที่คุ้นตาก็แล่นมาจอดที่ถนนหน้าบ้านตรงที่ประจำ เพราะในบ้านของเขาคับแคบเกินกว่าที่จะจอดรถเอาไว้ได้ จึงอาศัยจอดที่ข้างถนนมาตลอด

เธอจ้องมองร่างสูงโปร่งที่เดินเข้ามาด้วยท่าทางเหน็ดเหนื่อย สีหน้าของเขาวันนี้ราวกับมีเรื่องให้ต้องคิดหนักและมีความเคร่งเครียด

ชายหนุ่มรู้สึกว่าตนเองถูกจ้องมองก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าของดวงตานั้นมาจากทิศไหน เขาเงยหน้าขึ้นมองยังชั้นสองของบ้านไม้สองชั้นที่อยู่ข้างๆ มองเห็นเยี่ยฟางยืนที่หน้าต่างกำลังมองมาที่เขา

เมื่อเห็นว่าเขามองขึ้นมาหญิงสาวก็โบกมือให้ด้วยความดีใจ แต่ครั้งนี้เขาทำเป็นมองไม่เห็นแล้วเดินกลับเข้าบ้านไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด โดยที่เธอก็ไม่ทราบสาเหตุ

ปกติแล้วแม้จะโกรธเธอแค่ไหนเขาก็ยังทำดีกับเธอ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าบ้านของเธอมีบุญคุณต่อครอบครัวเขา แต่เธอไม่เคยใช้เหตุผลนี้ในการบังคับให้เขาทำอะไรให้เธอเลย

เป็นลู่จินหรงและจางซีเหอเองที่มักจะเกรงใจบ้านของตน และทำดีด้วยโดยไม่ต้องร้องขอ

แต่คราวนี้ใบหน้าที่เขาจ้องมองมานั้นราวกับว่าเบื่อหน่ายตน ทำให้สาวรู้สึกใจหายอย่างน่าประหลาด

“ไม่หรอกพี่ซีเหอจะต้องเหนื่อยจากการทำงานแน่ๆ เขาคงเครียดอยู่ ไม่มีอะไรหรอก” หญิงสาวพยายามคิดในแง่บวก สลัดความคิดที่ทำให้รู้สึกแย่ออกไป ไม่เก็บเอามาใส่ใจ

วันนี้เธอมีอะไรให้คิดมากพอแล้ว เธอไม่อยากจะคิดอะไรที่ทำร้ายหัวใจตัวเองอีก

************************

ในตอนเช้าจางซีเหอรับประทานอาหารเช้ารวมกับมารดา พร้อมกับหิ้วกระเป๋าเดินทางใบเล็กออกมาด้วย บ่งบอกว่าเขาจะต้องเดินทางไปที่ไหนสักที่

“ผมจะต้องไปตรวจดูงานที่ต่างเมืองสักสามถึงสี่วัน น่าจะกลับมาอีกทีก็วันจันทร์ แม่อยู่คนเดียวดูแลตัวเองด้วยนะครับ”

“ไม่ต้องห่วงแม่หรอกลูก ตั้งใจทำงานเถอะ”  

ลู่จินหรงบอกด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล คีบอาหารใส่ถ้วยข้าวของลูกชาย แล้วมองเขาใช้ตะเกียบพุ้ยข้าวเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยเพื่อเอาใจเธอ

“ลูกชายแม่ปีนี้ก็อายุย่างยี่สิบสามแล้ว ยังไม่คิดหาลูกสะใภ้มาดูแลแม่อีกหรือ ถ้าหาไม่ได้...”

“แม่ครับ” เขาพูดแทรกมารดาก่อนที่อีกฝ่ายจะโยงไปหาเยี่ยฟาง

“อาฟางเป็นคนดี” ลู่จินหรงพูดออกมา

“ผมต้องหาลูกสะใภ้ให้แม่ได้แน่ แต่ว่าตอนนี้...”สายตานั้นลังเลราวกับว่าอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็เปลี่ยนใจไม่ได้พูดมันออกไป

“จริงๆ ผมรู้นะครับว่าลุงหยางที่อยู่ซอยถัดไปเขาชอบแวะเวียนมาคุยกับแม่บ่อยๆ หากแม่จะลองเปิดใจคุยกับเขาดูผมก็ไม่ติดอะไรนะ”

เขามองใบหน้าที่แดงเรื่อของมารดา ในวัยสี่สิบแปดปี มารดาของเขายังคงดูงดงาม ยิ่งช่วงนี้ที่ไม่ได้ทำงานหนักแล้วเธอก็ยิ่งดูดีขึ้น เพราะมีเวลาดูแลตนเอง จึงไม่แปลกหากจะมีคนเข้ามาชอบพอ และหนึ่งในนั้นก็คือพ่อหม้ายหยาง

เขาเป็นคนขยันขันแข็ง ชื่นชอบมารดาของตนอยู่นานแล้ว ที่ผ่านมาเธอก็ปฏิเสธไปเพราะอยากเลี้ยงตนให้ดีที่สุด แม้ตนเองก็ดีใจที่มารดาไม่ได้แต่งงานใหม่ แต่ตอนนี้อยากให้เธอมีความสุขในบั้นปลายชีวิตกับใครสักคน

“บ้าจริงเชียวเด็กคนนี้ ไปทำงานตั้งแต่เช้ากลับก็ดึกเอาเวลาที่ไหนมารู้เรื่องของแม่กันเนี่ย”

“เรื่องของแม่ผมรู้ทุกเรื่องก็แล้วกันครับ” เขาพูดแล้วยิ้มให้กับมารดา จากนั้นก็กินอาหารฝีมือเธอจนหมดอย่างเอาใจ

ลู่จินหรงมองบุตรชายที่ตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว ทำงานกับบริษัทต่างชาติ แต่ก็ยังชื่นชอบอาหารพื้นเมืองอยู่ ไม่รู้ว่าทำเพราะเอาใจเธอหรือว่าลูกชายคนนี้ติดใจรสมือของมารดาแล้ว

หลังจากที่กินข้าวจนหมดถ้วย จางซีเหอก็ฉีกยิ้มกว้าง แล้วชมอาหารฝีมือของมารดาที่อร่อยที่สุดสำหรับเขา

“ผมไปทำงานแล้วนะครับ แล้วจะรีบกลับมา แม่รักษาสุขภาพด้วย”

“ไปเถอะ ไปเถอะ ขับรถระวังด้วยล่ะ” ลู่จินหรงอวยพรลูกชาย แล้วเดินไปส่งเขาที่หน้าประตูบ้าน มองดูลูกชายเดินไปตามทางเดิน

ในขณะเดียวกันเยี่ยฟางออกจากบ้านในชุดกี่เพ้าที่สวยงามของตน พร้อมกับกระเป๋าสะพายใบโปรด

เธอเดินออกมาแล้วเห็นว่าจางซีเหอก็กำลังเดินออกจากบ้านเช่นเดียวกัน จึงรีบสาวเท้ายาวๆ เดินออกไปทันเจอเขาพอดี หญิงสาวมองดูกระเป๋าเดินทางนั้นแล้วทำหน้าเศร้า

เธอคิดว่าตอนเย็นวันเสาร์และวันอาทิตย์นี้อยากจะมาหาเขาที่บ้านเสียหน่อย แต่แผนที่คิดไว้คงไม่มีโอกาสแล้ว

“พี่ซีเหอจะไปไหนคะ”

“ไปดูงานที่ต่างเมืองน่ะ” ใบหน้านั้นยิ้มแย้มแต่ดวงตาภายใต้กรอบแว่นหนาไม่ได้ยิ้มตามด้วย

“แล้วจะกลับมาทันวันอาทิตย์ไหมคะ” เธอถามอย่างมีความหวัง

“ไม่น่าทันนะ มีอะไรหรือเปล่า” เขาถามอย่างไม่ใส่ใจ มองดูน้องสาวข้างบ้านที่ยืนทำหน้าผิดหวัง

“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร” เธอบอกแล้วมองใบหน้าของเขาที่เหมือนกำลังฝืนยิ้มให้

บางทีเยี่ยฟางก็แอบน้อยใจ ที่เขาทำดีกับเธอนั้นเป็นเพราะบุญคุณของครอบครัวของเธอหรือไม่ บางอย่างเขาดูฝืนใจที่จะทำ การแอบรักคนที่เขาไม่มีวันรักตัวเองทำไมมันเจ็บปวดและทรมานอย่างนี้

“พี่ซีเหอ เดินทางปลอดภัยนะคะ” หญิงสาวกล่าวเสียงเบา

“อืม ขอบใจนะ” เขาตอบรับสั้นๆ จากนั้นก็เดินขึ้นรถแล้วขับออกไป ไม่แม้แต่จะถามว่าจะให้เธอติดรถไปด้วยหรือไม่

ตั้งแต่ที่ไปเรียนที่ปักกิ่งกลับมา เขาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และดูเหมือนจะไม่ค่อยอยากใกล้ชิดกับตน มันทำให้หญิงสาวรู้สึกน้อยใจอยู่ไม่น้อย

“จะมีวันที่ฉันสมหวังหรือเปล่าคะพี่ซีเหอ หรือว่าฉันควรจะตัดใจจากพี่ดี” เธอพึมพำแล้วมองรถที่แล่นออกไปจนลับตา ไม่เคยคิดเผื่อใจเลยว่าหากวันหนึ่งเขาต้องแต่งงานไปกับเจ้าสาวที่ไม่ใช่เธอ หญิงสาวจะต้องรู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหน

ไม่แน่ว่าพอถึงตอนนั้นจริงๆ เธออาจจะยินดีที่คนที่ตนเองรักมีความสุขก็เป็นได้

************************

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 34 ตอนจบ

    หนึ่งปีต่อมามูลนิธิอี้เฟิงถูกเปิดขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยใช้ที่ดินของสกุลจางที่อี้เฟิงได้คืนมาในการสร้างเป็นศูนย์ช่วยเหลือเด็กกำพร้าและผู้ยากไร้ตามที่เขาตั้งปณิธานเอาไว้ตอนนี้อี้เฟิงเป็นผู้ทรงอำนาจในวงการค้าขายวัตถุโบราณและเป็นนักธุรกิจที่ได้รับการยอมรับว่ามีความสามารถบางคนรู้ตัวตนของเขาเพราะอี้เฟิงไม่ได้ปิดบังอีกต่อไป แต่หลายคนก็ไม่รู้พื้นเพของนักธุรกิจคนนี้ รู้แค่เพียงว่าอี้เฟิงถอดหน้ากากออกแล้ว และไม่ได้อัปลักษณ์อย่างที่เขาเล่าลือกัน เป็นชายหนุ่มหน้าตาดีและมีความสามารถที่อยากปิดบังตัวตนเท่านั้นเยี่ยฟางตอนนี้ใช้ความสามารถเข้ามาทำงานในแผนกประมูลงานได้สมดั่งความตั้งใจ เธอได้รับความไว้ใจให้เป็นคนวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า และศึกษาพฤติกรรมและความชอบของคนที่มีความเป็นไปได้ที่อยากได้วัตถุโบราณชิ้นสำคัญนอกจากนี้ยังได้เรียนรู้จากอาจารย์เฉิน นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุโบราณ เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาและวิธีการตรวจสอบของแท้ด้วยวิธีดั้งเดิม ซึ่งเป็นคนที่สอนอี้เฟิงจนมายืนในจุดนี้“อาฟาง กลับบ้านเถอะ” อี้เฟิงลงมาเรียกภรรยาด้วยตัวเอง หากเป็นวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ พวกเขาจะกลับไปนอนที่บ้

  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 33 งานมงคล (18+)

    พิธีแต่งงานของทั้งคู่ ถูกจัดขึ้นโดยประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ยังคงความเป็นอนุรักษนิยมอยู่ตามที่เยี่ยชงต้องการสินสอดถูกนำไปให้ที่บ้านเจ้าสาว เจ้าบ่าวในนามของอี้เฟิงที่เปิดใบหน้าของเขาให้คนอื่นรับรู้ตัวตน และไม่ได้ปิดบังตัวตนจริงอย่างที่เคยตั้งใจไว้ตู้เย็น หม้อหุงข้าว และชุดเครื่องนอน สามสิ่งนี้บ้านเจ้าสาวซื้อใหม่เป็นของขวัญวันแต่งงาน เพื่อเตรียมเอาไว้ให้ขนย้ายไปที่เรือนหอ ตามธรรมเนียมการแต่งงานที่เจ้าสาวต้องย้ายไปอยู่บ้านฝ่ายชาย สื่อถึงการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของทั้งคู่ทุกคนมองเจ้าบ่าวเจ้าสาวด้วยความชื่นชม ทั้งคู่อยู่ในชุดแต่งงานแบบดั้งเดิม สีแดงมงคล และประดับด้วยเครื่องประดับที่มีมูลค่าอย่างสมเกียรติอี้เฟิงในชุดเจ้าบ่าวที่โดดเด่น นำขบวนรถมารับเจ้าสาวและพ่อตาแม่ยายที่บ้าน เพื่อไปจัดพิธีแต่งงานที่โรงแรมหรูใจกลางเมือง พร้อมกับรถบรรทุกคันเล็กที่จะขนของขวัญแต่งงานไปยังเรือนหอชั่วคราว นั่นคือห้องพักที่บริษัทหลี่โถว“จริงๆ พ่อจะเตรียมไว้แปดอย่าง แต่มันมากเกิน ฉันเลยให้เตรียมพอเป็นพิธีเท่านั้น” เธอกระซิบบอกเจ้าบ่าวของตน“เสียใจไหมที่แต่งงานกับผม แทนที่จะเป็นจางซีเหอ” เขาถ

  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 32 ความจริง

    เจ้าของร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาในบริษัทด้วยรอยยิ้มที่ปรากฏภายใต้หน้ากากของเขา ข้างกายคือเยี่ยฟางที่เดินควงแขนเข้ามาอย่างเปิดเผย และเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่สดใสสามเดือนแล้วที่หมั้นหมายกัน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกคนในบริษัทหลี่โถวก็เห็นภาพหวานนี้จนชินตาอี้เฟิงที่เข้ามาทำงานเต็มเวลา ล้มเลิกระบบทำงานตอนเย็นและวันหยุด ก็ทำให้หลายฝ่ายทำงานสะดวกขึ้น“วันนี้คุณยิ้มกว้างกว่าทุกวันเลยนะคะ”“วันนี้ครบสองเดือนที่โฉนดครบกำหนดน่ะ ตอนนี้ผมได้ที่ดินตรงนั้นคืนมาแล้ว” เขาเดินไปนั่งที่เก้าอี้ทำงาน โดยที่คู่หมั้นสาวนั่งเก้าอี้ฝั่งที่อยู่ตรงข้ามโดยมีโต๊ะกั้นระหว่างทั้งคู่“แล้วคุณจะเปิดเผยตัวตนกับทุกคนตอนไหนคะ ในเมื่อทุกอย่างก็จบลงแล้ว คุณก็ประสบความสำเร็จ และได้ทุกอย่างกลับคืนมาแล้ว” หญิงสาวถามด้วยความใคร่รู้“พรุ่งนี้” เขายิ้มด้วยความสะใจเมื่อวานนี้ผลการตรวจสอบเอกสารเท็จทำให้หลายบริษัทถูกสั่งปรับค่าภาษีย้อนหลังจำนวนหลักแสนไปจนถึงหลักล้าน บางบริษัทถึงกับต้องปิดตัวลงเพราะข่าวฉาวทำให้ไม่มีคนเชื่อถือ แม้ปิงชางจะรอดมาได้ก็เจ็บหนักเอาการ“ให้ฉันไปด้วยไหมคะ” เยี่ยฟางถามด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใย

  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 31 ถูกตรวจสอบ

    ที่บริษัทตรวจสอบบัญชีที่จางซีเหอทำงาน เขาได้ทำการตรวจสอบและให้เตียวหม่ารับรองบัญชีให้กับบริษัทปิงชางไปตั้งแต่เดือนที่แล้วตอนนี้เขาได้ส่งคืนเอกสารรับรองไปยังบริษัทปิงชาง เพื่อให้ทางนั้นยื่นเข้าสู่สำนักงานตรวจสอบภาษีของรัฐบาลต่อไปตามขั้นตอนจางซีเหอได้ทำเอกสารตรวจสอบบัญชี และยื่นให้เตียวหม่ารับรองให้อีกสองบริษัทให้เสร็จเรียบร้อย เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยว่าทิ้งงานกลางคันและตัดสินใจยื่นใบลาออกจากบริษัทนี้ เพราะทุกอย่างเป็นไปตามแผนการแล้ว “นี่นายจะลาออกจริงๆ เหรอ ทำงานเสร็จตั้งสามงานแล้วนี่ ไม่รอเงินโบนัสก่อนเหรอ” เตียวหม่าถามด้วยความห่วงใย แต่ในใจนั้นคิดว่าโชคลาภได้ลอยมาถึงตนแล้วนอกจากจะได้งานและได้หน้าแล้ว ยังได้รับเงินในสิ่งที่ตนไม่ได้เป็นคนลงมือ ใครจะโชคดีไปกว่าเขาไม่มีอีกแล้ว“ครับ ผมจะต้องย้ายไปทำงานที่บริษัทใกล้บ้านเพราะต้องดูแลแม่ที่แก่ชรา ท่านไม่เหลือใครเลยนอกจากผม” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แสร้งเสียดาย เตียวหม่าได้แต่ตบไหล่ให้กำลังใจเขา“นายยังหนุ่มยังแน่น ไปทำงานที่ไหนก็สามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ขอให้โชคดีก็แล้วกัน” เขาไม่ได้รั้งพนักงานที่เก่งและรอบคอบคนนี้เอาไว้ แต่กลับพูดให้กำล

  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 30 ลงโทษ

    สัญญาซื้อขายหยกจักรพรรดิถูกลงนามทั้งสองฝ่าย เหลือเพียงให้จางเสิ่นนำโฉนดมาวางในวันจันทร์ก็เป็นอันเสร็จสิ้นจางเฟยหรงเดินควงแขนอี้เฟิงออกมาจากห้องเซ็นสัญญา เธอรู้สึกได้ถึงสายตาของพนักงานสาวในชุดกี่เพ้าสีแดงที่กำลังจ้องมองมาที่ตน จึงชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจจนอี้เฟิงสังเกตเห็น“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณหนูจาง” อี้เฟิงรีบถามอย่างเอาใจ“พนักงานของคุณจ้องมองฉันอยู่ ไม่สุภาพเอาเสียเลย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เย่อหยิ่ง และเอาแต่ใจเขาหันไปมองตามสายตาของหญิงสาว พบว่าเป็นเยี่ยฟางที่กำลังจ้องมองมา“คุณมานี่” เขาเรียกให้เธอเดินเข้ามาหาเยี่ยฟางมองแขนที่เธอวางคล้องแขนของอี้เฟิงแล้วก็รู้สึกไม่พอใจลึกๆ เรียวขางามก้าวเดินเข้าไปพร้อมกับก้มศีรษะเล็กน้อย เพื่อให้ความเคารพจางเสิ่นแหละจางเฟยหรงตามมารยาทของผู้ที่ต้องต้อนรับแขก“เธอคือเยี่ยฟาง เป็นคู่หมั้นของผม” อี้เฟิงแนะนำด้วยน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งความรู้สึกในตอนนั้นเยี่ยฟางรู้สึกเจ็บแปลบเล็กน้อย แม้รู้ว่าเป็นการเล่นละครของเขา แต่มันต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรือ‘คอยดูเถอะอี้เฟิง จบงานนี้เมื่อไหร่ฉันจะหยิกคุณให้หลังเขียวเลยเชียว’ หญิงสาวคิดในใจ“นี่คือประธานจางและคุณหนู

  • หว่ออ้ายหนี่ พี่ชายที่รัก   ตอนที่ 29 งานประมูล

    งานประมูลของบริษัทหลี่โถวได้ถูกจัดขึ้นในวันเสาร์ ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นตามที่ได้วางแผนเอาไว้วัตถุโบราณถูกนำออกมาประมูลขายทีละชิ้น เริ่มจากชิ้นที่ราคาถูกที่สุดไล่ไปจนถึงชิ้นสุดท้ายที่เป็นดาวเด่นของงาน นั่นก็คือคทามังกรซึ่งมีราคาประมูลขั้นต่ำที่ตั้งเอาไว้ที่สองล้านหยวนเป็นราคาที่สูงพอสมควรแต่กลับเป็นที่ต้องการของระดับมหาเศรษฐีนักธุรกิจ เพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งนำโชคที่จะทำให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ถึงเวลานำออกมาประมูลจางเสิ่นและลูกสาววัยยี่สิบสามปีของตน จางเฟยหรง ทั้งคู่มาร่วมงานนี้เพราะได้รับการ์ดเชิญจากบริษัทหลี่โถว และจางเฟยหรงก็อยากเข้าสังคมที่มีแต่เศรษฐีจึงรบเร้าบิดาให้พามาอี้เฟิงต้อนรับสองพ่อลูกด้วยตนเอง พาเดินชมวัตถุโบราณที่เป็นรูปถ่ายติดเอาไว้แทนของจริงที่รอการประมูลอยู่แววตาของเขามองจางเฟยหรงอย่างชื่นชม พร้อมทั้งชวนพูดคุยจนหญิงสาวนั้นรู้สึกว่าอีกฝ่ายมีใจให้แก่ตนแขกที่มาร่วมงานเป็นระดับมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยทั้งนั้น แต่เขากลับเลือกที่จะมาต้อนรับแต่เธอกับบิดาเป็นการส่วนตัวหากจะบอกว่าคิดเข้าข้างตัวเองก็คงไม่ใช่“ประธานอี้ คุณฟู่อยากจะคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว” เล

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status