Share

อกหักทำพิษ🔞

last update Last Updated: 2025-05-17 18:15:14

หมับ!

จอมทัพคว้าน่องเรียวขาวเอาไว้ก่อนจะออกแรงบีบอย่างลืมตัว

คนขี้แกล้งสะดุ้งโหยง ใบหน้าเหยเกทันที สีหน้าเจ็บปวดของอีกคนทำเอาจอมทัพตกใจจนต้องปล่อยมือ ประจวบกับรถจอดนิ่ง ปั้นสิบหันหน้ามาถามพวกเขาว่าจะเอาไรมั้ยจะเข้าร้านสะดวกซื้อ จอมทัพได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธไป ส่วนคิระบอกไปว่าอยากกินน้ำองุ่นซ่า ๆ แทน

ไม่นานบรรยากาศในรถก็กลับสู่สภาวะเงียบงันอีกครั้ง ความเย็นของแอร์ยังไม่สู้บรรยากาศระหว่างคนสองคน จอมทัพที่ละมือออกจากขาเรียวก็ผินหน้าออกไปอีกฝั่ง ข่มกลั้นอารมณ์บางอย่างที่ผุดออกมาภายใน แต่อีกคนยังไม่เข็ด

คิระยังคงใช้ส้นเท้าลูบไล้ผ่านเป้ากางเกงเพื่อนด้านข้างที่หันหลังให้เขา ผินหน้าออกไปทางหน้าต่างอีกด้าน ยิ่งอีกคนฟึดฟัดก็ยิ่งน่าแกล้ง นั่นแหละนิสัยของคิน หรือ นากาโมโตะ คิระ

“มึงเลิกแกล้งกูสักที” เป็นจอมทัพที่ทนไม่ไหวหันมาสบตากับคิระที่ตอนนี้ได้วางโทรศัพท์ลงบนตักเรียบร้อยแล้วพลางเท้าคางมองหน้าเขาอยู่

“อะไร ไปบวชมาก็ต้องอดทนได้สิ” ว่าพลางกดย้ำน้ำหนักลงที่เป้า

กรอด! เสียงขบฟันกรามกระทบกันอย่างกลั้นอารมณ์

ความคิดของเขาเหมือนถูกผลักดันให้กลับไปหวนคืน…คืนนั้น

คืนที่ทุกอย่างหลุดจากการควบคุม…

คืนที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเราไม่เหมือนเดิม

ท่ามกลางบรรยากาศครึกครื้นของสถานบันเทิงชื่อดัง ดนตรีรอบนอกไม่อาจแทรกซึมผ่านหัวใจคนที่พึ่งโสดหมาด ๆ ได้เลย ไม่รู้ว่ากี่แก้วต่อกี่แก้วที่ยกขึ้นกระดกในค่ำคืนนี้ รู้แค่เพียงหวังว่าน้ำเมาจะช่วยให้หัวใจที่เจ็บช้ำไร้ความรู้สึกเสียที

เนิ่นนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ที่จอมทัพกระดกเอา ๆ ไม่พัก ที่จอมทัพนั่งอยู่เป็นเคาน์เตอร์บาร์ มีบาร์เทนเดอร์คอยชงเสิร์ฟแบบแก้วต่อแก้ว รู้ตัวอีกทีก็มีคนมานั่งด้านข้าง น้ำเสียงที่คุ้นเคยเอ่ยแซว

“เรียกให้กูมาแบกรึไง” คิระส่งเสียงแซวเบา ๆ ก่อนจะนั่งลงด้านข้างว่างว่างเว้นไว้ให้

“แม่งโคตรเจ็บ อกหักมันเป็นแบบนี้หรอวะ” น้ำเสียงยานคางเอ่ย พลางหมุนแก้วที่อยู่ในมือ

“ไม่รู้ว่ะ…กูก็ไม่เคยมีแฟนเหมือนกัน” น้ำเสียงทีเล่นทีจริงของคิระตอบกลับมาอย่างไม่คิดอะไร แต่แววตากลับเฝ้าสังเกตทุกอาการของอีกคนเงียบ ๆ

คิระอาบน้ำจะเตรียมตัวอ่านหนังสือต่อ ก็เห็นสายคุ้นเคยโทรเข้ามา เมื่อรับสายอีกฝ่ายก็พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือจนเขางงว่าเกิดอะไรขึ้นกัน ทั้ง ๆ ที่พึ่งแยกกันไม่ถึงชั่วโมง เขาเปิดลำโพงฟังอีกคนพร่ำเพ้อจนแต่งตัวเสร็จก็เรียกรถมาเจอที่ร้าน จับใจความได้แค่ว่า เจนเอาคนอื่นมานอนด้วย ทำไมเจนทำกับกูแบบนี้วะ และประโยคตัดพ้ออีกมากมายนับไม่ถ้วน

แต่เรื่องของเจนก็ไม่ได้เป็นที่แปลกใจสำหรับคิระมากนัก…

บรรยากาศกลับมาสู่โหมดประหยัดคำพูดอีกครั้งเมื่อบทสนทนาเงียบลงอีกครั้ง เหล้าในแก้วถูกเติมจนล้น จอมทัพยังกระดกไม่หยุด ส่วนคิระก็ได้แต่เอื้อมมือรับเครื่องดื่มจากบาร์เทนเดอร์มือระวิง แต่ก็ไม่วายสังเกตอีกฝ่ายเงียบ ๆ เช่นกัน

“กูเลิกกับเจนแล้ว”

“เออกูรู้แล้ว มึงพูดคำนี้มาจะสิบรอบแล้ว” คิระตอบกลับด้วยน้ำเสียงเอือมระอาก่อนจะส่ายหัวเบา ๆ

แกร๊ก!

เสียงแก้วกระทบโต๊ะดังเบา ๆ พร้อมกับน้ำเสียงนุ่ม ๆ ของพนักงานชายที่ยื่นแก้วเครื่องดื่มสีอำพันมาให้

“มีคนฝากมาให้ครับ”

คนไม่มีสติคว้าแก้วยกขึ้นกระดกรวดเดียว โชคดีที่คิระไวกว่าจึงคว้าอีกครึ่งหนี่งไว้ทัน แม่งปกติใครให้อะไรมันรับเสียที่ไหน พอเมาหน่อยก็รับหมดเลย

“เอามา กูยังดื่มไม่หมดเลยเสียน้ำใจเขาหมด” มือหนาเอื้อมมือจะคว้าแก้วกลับไป คิระยกมือเอี้ยวหลบ พลางยกกระดกส่วนที่เหลือขึ้นจนไม่เหลือสักหยด

“พอ ๆ กลับกันได้ละ พรุ่งนี้มีส่งงานเช้า”

“มึงจะนอนเป็นเพื่อนกูมั้ย”

คิระถอนหายใจ เงียบไปสักพักก่อนจะเออออตอบรับไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

“…เออๆ เห็นแก่ที่มึงอกหักละกัน จะตามใจสักวันนึง”

“ไอ้จอมมึงเดินดี ๆ ดิ้ ตัวก็หนัก!”

คิระบ่นเสียงเอือมระอาระคนเหนื่อยขณะหิ้วปีกเพื่อนรักอย่างจอมทัพ ที่พ่วงสถานะคนอกหักมาหมาด ๆ ก่อนจะวางไว้ที่เตียงนอนของอีกคน

แต่ด้วยน้ำหนักตัวทีไม่ใช่น้อย ๆ ของทั้งสองบวกกับความมึนของน้ำเมาที่ดื่มเข้าไปทำให้ร่างกายเอนเอียงไม่ต่างจากไม้หลักปักดินเลนเลยสักนิด ทำให้ร่างกายของคิระที่แบกจอมทัพอยู่ทรงตัวไม่ไหวล้มลงไปนอนด้วยกันบนที่นอนขนาดใหญ่

จอมทัพที่ไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะเมื่อล้มลงนอนได้ที่แล้วก็คว้าเอาคนด้านข้างที่นึกว่าเป็นหมอนข้างกอดก่ายอย่างเต็มแรง ใบหน้าหนุ่มลูกครึ่งที่ถือว่ามีสติมากกว่าร้องโวยวายพลางผลักร่างสูงใหญ่ที่ตัวเท่า ๆ กันออก

“โอ๊ย! มึงปล่อยเอวกูนะ กูไม่ใช่หมอนข้างนะเว้ย!”

จริง ๆ แล้วคิระกับจอมทัพส่วนสูงห่างกันไม่เกิน 5 เซนติเมตรด้วยซ้ำ แต่ที่อีกคนตัวใหญ่กว่าเนื่องจากจอมทัพชอบเล่นกีฬาและออกกำลังกายเป็นประจำผิดกับคิระที่ชอบเล่นเกมใช้สมองมากกว่า ทำให้หุ่นของหนุ่มลูกครึ่งลีนและบางมากกว่า

“เจน…เจนทำแบบนี้กับเราทำไมฮรึก…” แต่คนเมาไม่มีแรงจะตอบอะไร นอกจากเสียงพึมพำในลำคอ

ร่างกายของคิระเกร็งทื่อ บ่าแกร่งของคนใต้ร่างสั่นระริกระคนน่าสงสาร เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังคลอแข่งกับเสียงเครื่องปรับอากาศ คิระตอนแรกที่พยามยามผลักอีกคนก็ก็นิ่งค้าง ก่อนจะขนลุกซู่กับความรู้สึกแปลกประหลาดที่แล่นวาบไปทั่วตัว

“แม่งทำไมรู้สึกร้อนๆ วะ”

“มึง…ปล่อยก่อนกูร้อน” คิระพยายามผลักจอมทัพออกแต่ก็ไม่ได้ผล เพราะยิ่งฝืนมากเท่าไหร่คนตรงหน้าก็ยิ่งกอดรัดราวกับงูเหลือมมากขึ้นเท่านั้น

“อึก ฮรึก”

คนตัวบางกว่าผลักไหล่คนตัวหนาไม่ออมแรง แต่ถึงกระนั้นคนเมาก็ไม่ยอมคลายอ้อมกอด ร่างขาวใบหน้าขึ้นสี หอบหายใจแรง รู้สึกได้ถึงความรุ่มร้อนที่ตีตื้นขึ้นมาตั้งแต่ล่างขึ้นบน อีกคนก็ไม่ต่างกันเสียงลมหายใจสะเปะสะปะของจอมทัพรดรินที่ต้นคอขาวระหงส์ คิระเม้มปากแน่น หัวใจเต้นแรงจนแทบระเบิด ในหัวมีแต่เสียงความคิดตีกันยุ่งเหยิง

คิระไม่ใช่คนโง่ที่ไม่รู้ว่าอาการนี้ไม่ใช่แค่การเมาเหล้าทั่วไปแต่เป็นเพราะว่าเขาทั้งคู่นั้น โดนยา

“จอมมึงเอามือออกไปก่อน กูขออาบน้ำ” น้ำเมาเริ่มออกฤทธิ์ ส่งผลให้ร่างคิระโงนเงนเล็กน้อย หัวสมองเบลอจากการพยายามแงะมือปลาหมึกออก

เสียงหอบหายใจรินรดซอกคอขาว จู่ ๆ คนใต้ร่างก็พลิกตัวขึ้นมา แขนแกร่งของคนตัวใหญ่กว่ากักขังคิระไว้ในอ้อมแขน จมูกโด่งเป็นสันเฉียดข้างแก้มไปมา ถูไถลงต่ำมาถึงซอกคอ

“มึงทำบ้าอะไรวะอื้อ!”

สิ้นเสียงคำพูดไม่นาน ริมฝีปากสีซีดก็ก้มลงฉกชิง ดวงตาของคิระเบิกโพลงอย่างตกใจ ความรุ่มร้อนที่เริ่มแผ่กระจายไปทั่วเรือนร่างทั้งคู่ทำให้เวลานี้ไม่มีใครดึงสติกลับมาได้เลย

มือหนาลูบไล้เรือนกายขาวผ่องคนลูกครึ่งเมืองอาทิตย์อุทัย เรียกเสียงครางพึงพอใจดังลอดออกมา

“ระร้อน อื้ออ”

ริมฝีปากหนาเม้มทั่วเรือนร่างจนเกิดรอย มืออีกข้างก็ถกดึงเสื้อเชิ้ตสีเข้มตัดกับผิวขึ้นอย่างไม่ออมแรงนัก ผิวขาวนวลเสียดสีกับเสื้ออย่างแรงจนเกิดรอยแดงพาดลำตัว เสื้อเชิ้ตแสนเกะกะถูกดึงไปอยู่เหนือหน้า เผยให้เห็นยอดอกสีสวยน่าลิ้มลองอย่างเต็มตา

แผล่บ ๆ

ไม่รอช้า จุกสีสวยที่ล่อตาล่อใจปลุกกำหนัดจากหมาบ้านกลายเป็นหมาป่าหิวโหยทันที

“อ๊ะ!”

ความเย็นจากแอร์ประทะผิวกายได้ไม่นานก็ตามมาด้วยสัมผัสอุ่นๆ จากอวัยวะหยุ่น ๆ ดูดดึงราวทารกแรกคลอด สร้างความเสียดเสียวให้คนตัวขาวเป็นอย่างมาก

ร่างสมส่วนบิดเร้าไปมาจนที่นอนยับยู่ คิระตกอยู่ในวังวนความกระสัน สัมผัสแปลกใหม่ไม่ที่เคยมีใครทำให้มาก่อน บวกกับฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด ทำให้สติสตังของคิระหายวับยากที่จะเรียกกลับคืน

“อ๊ะ อย่ากัด”

ฟันคมลากผ่านจุกสีสวยเบา ๆ ไล่เลียรอบฐานสีอ่อนก่อนจะขบกัดครอบครองประทุมเม็ดงามตรงหน้า สร้างความกระสันแก่คนข้างใต้ไม่น้อย

คิระที่ตกอยู่ในห้วงราคะจากการปรนเปรอยอดอกเม็ดงาม รู้ตัวอีกทีเสื้อผ้าบนร่างกายก็อันตทานหายลับไปตกอยู่บนพื้นข้างเตียง

มือแกร่งแยกขาเรียวออก แม้อยากจะขัดขืนหุบเอาไว้ จนหน้าขึ้นสีก็ไม่อาจต้านแรงกำหนัดคนด้านบนได้เลย

“โอ๊ย! เจ็บเอาออกไป” จู่ ๆ ร่างกายก็ต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามากะทันหัน ความเจ็บแล่นเข้าสู่สมองจนใบหน้าเหยเก ดวงตาเรียวเจ้าเล่ห์แต่งแต้มไปด้วยหยาดน้ำสีใส ริมฝีปากเม้มแน่น

หนุ่มลูกครึ่งเบนหน้าหนี กัดฟันแน่นจนใบหน้าเกร็ง คิระไม่เคยเป็นฝ่ายรับมาก่อน ทุกครั้งที่มีอะไรกับใครเขามักจะเป็นฝ่ายเสียบเสมอ นี่เป็นครั้งแรกที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาช่องทางด้านหลัง

เพราะเป็นฝ่ายกระทำมาตลอดจึงไม่รู้ว่าฝ่ายรับต้องเจ็บขนาดนี้

“ขอโทษ อึกผ่านคลายหน่อยมึงรัดกูแน่น…ขนาดแค่นิ้วนะเนี่ย”

จอมทัพสบถเบา ๆ เมื่อความแน่นภายในช่องทางรักรัดแน่นจนนิ้วแทบขยับไม่ได้ ความกระสันไล่บี้ขึ้นมา อยากจะเสียบเต็มทนแต่ก็ต้องอดทนไว้เพราะยังไม่ได้เบิกทาง ไม่งั้นมีหวังเลือดออกเป็นแน่

ความเจ็บเสียดเริ่มบรรเทาลง ช่องทางรักผ่อนคลายมากขึ้น จอมทัพก็ไม่รอช้าคว้านนิ้วแกร่งชักเข้าชักออกจนเกิดเป็นเสียงลกมก

แจ๊ะ ๆ

มืออีกข้างก็ไม่อยู่เฉยจัดการบดคลึงยอดอกบวมเต่งที่เกิดจากอารมณ์กระสันของอีกคน จับดึงยืดเหมือนมาร์ชแมลโลว์ที่โดนไฟผิง

“อ๊ะ เสียวอย่า”

เมื่อช่องทางคับแคบถูกเบิกขยายจนพร้อมได้ที่ก็เอามือออก รูรักตอดรั้งนิ้วแกร่งปานเสียดายช่องทางสีสวยกระตุกถี่ราวกับต้องการบางสิ่งที่ขนาดใหญ่และยาวกว่าให้กระแทกเข้ามาเร็ว ๆ

คนอกหักหมาด ๆ ไม่รอช้า จอมทัพจับขาสวยอ้ากว้าง ชักรูดแก่นกายขนาดใหญ่ของตนเองสองสามที ความปวดหนึบจากแท่งร้อนส่งผลให้สีหน้าคมเหยเก ก่อนจะจัดการกดส่วนหัวเข้าไปยังรูรักเบื้องหน้า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   เพื่อนกัน🔞

    “อ๊ะ ค่อย ๆ กูเจ็บ”เสียงทุ้มนุ่มครางกระเส่าในลำคอ กล่องดวงใจเต้นแรงราวกับถูกใครเขย่า แก่นกายร้อนแท่งยักษ์แม้จะเบิกทางแต่ก็ยังสร้างความเจ็บปวดให้คนโดนกระทำจนน้ำตาซึมเพราะเป็นครั้งแรกแถมยังมารับศึกหนักอีก ดวงตาเรียวกระพริบไล่น้ำสีใสที่หัวตาอย่างกั้นไม่อยู่ ส่งผลให้ช่องทางรักรัดแน่นจนจอมทัพแทบขยับไม่ได้ ความปวดแล่นเข้ามาอีกครั้ง“ผ่อนคลายหน่อยอึก…มันรัดกู…”จอมทัพกัดฟันกับความคับแน่นที่บีบลูกชายเขาแทบขาด ก่อนจะโน้มตัวลงไปเล่นกับยอดอกเพื่อเบี่ยงเบน ไม่นานช่องทางรักก็ปรับสภาพกับความใหญ่ได้ ชายหนุ่มหน้าดุจัดการโยกเอวเบา ๆ ความเป็นชายสอดเข้าไปจนสุดทางกระทบเข้ากับจุดเสียวของคนใต้ร่างอย่างจัง จนคิระครางเสียงหลง“อ๊ะอ๊า”คนที่พึ่งอกหักเสือกไสความเป็นชายด้วยจังหวะอ่อนโยนในช่วงแรก รอจนกระทั่งคนใต้ร่างเริ่มปรับตัวได้จึงค่อย ๆ เร่งความเร็ว เสียงเนื้อกระทบกันดังผสานกับเสียงครางกระเส่าอย่างเสียวซ่านของหนุ่มลูกครึ่ง หมดลุคคุณชายแสนดูดี ตอนนี้มีเพียงคุณชายร่านรักเพียงเท่านั้นมือหนาออกแรงนวดคลึงไปตามเรือนร่างขาวนวล น้ำหนักมือที่ลงแรงไมม่หนักมากแต่ผิวของคิระนั้นแสนจะขึ้นสีได้ง่ายไวต่อการสัมผั

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   อกหักทำพิษ🔞

    หมับ! จอมทัพคว้าน่องเรียวขาวเอาไว้ก่อนจะออกแรงบีบอย่างลืมตัวคนขี้แกล้งสะดุ้งโหยง ใบหน้าเหยเกทันที สีหน้าเจ็บปวดของอีกคนทำเอาจอมทัพตกใจจนต้องปล่อยมือ ประจวบกับรถจอดนิ่ง ปั้นสิบหันหน้ามาถามพวกเขาว่าจะเอาไรมั้ยจะเข้าร้านสะดวกซื้อ จอมทัพได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธไป ส่วนคิระบอกไปว่าอยากกินน้ำองุ่นซ่า ๆ แทนไม่นานบรรยากาศในรถก็กลับสู่สภาวะเงียบงันอีกครั้ง ความเย็นของแอร์ยังไม่สู้บรรยากาศระหว่างคนสองคน จอมทัพที่ละมือออกจากขาเรียวก็ผินหน้าออกไปอีกฝั่ง ข่มกลั้นอารมณ์บางอย่างที่ผุดออกมาภายใน แต่อีกคนยังไม่เข็ดคิระยังคงใช้ส้นเท้าลูบไล้ผ่านเป้ากางเกงเพื่อนด้านข้างที่หันหลังให้เขา ผินหน้าออกไปทางหน้าต่างอีกด้าน ยิ่งอีกคนฟึดฟัดก็ยิ่งน่าแกล้ง นั่นแหละนิสัยของคิน หรือ นากาโมโตะ คิระ“มึงเลิกแกล้งกูสักที” เป็นจอมทัพที่ทนไม่ไหวหันมาสบตากับคิระที่ตอนนี้ได้วางโทรศัพท์ลงบนตักเรียบร้อยแล้วพลางเท้าคางมองหน้าเขาอยู่“อะไร ไปบวชมาก็ต้องอดทนได้สิ” ว่าพลางกดย้ำน้ำหนักลงที่เป้ากรอด! เสียงขบฟันกรามกระทบกันอย่างกลั้นอารมณ์ความคิดของเขาเหมือนถูกผลักดันให้กลับไปหวนคืน…คืนนั้นคืนที่ทุกอย่างหลุดจากการควบคุม…คืนที่ทำใ

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   ลา

    “หลวงพี่ก็เลยมาบวชอะหรอ” เณรพ่ายถาม ใบหน้าเล็กแหงนมองหลวงพี่ด้วยสายตาที่ตั้งใจจดจ่อ ทำเอาคนเล่าอย่างจอมทัพเอ็นดูกับความตั้งใจฟังของคนตัวเล็กตรงหน้าจอมทัพพยักหน้าตอบเบา ๆ“ประมาณนั้น”จอมทัพเล่าทั้งหมดให้แก่เณรพ่ายฟังเสร็จก็เดินไปหยิบไม้กวาดทางมะพร้าวที่วางทิ้งเอาไว้ก่อนหน้านี้ขึ้นมาหมายจะกวาดต่อเรื่องนี้มีแค่เพื่อน ๆ ของเขาเท่านั้นที่รู้ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบังอะไร เพราะตอนนี้เขาก็ไม่ได้รู้สึกรักเจนแล้วเหลือแต่ความรู้สึกว่างเปล่าต่อจากนี้…ต่างคนก็ต่างเดินบนทางของตัวเอง“ไม่เป็นไรนะหลวงพี่ หล่อ ๆ อย่างหลวงพี่เณรเชื่อว่าสึกไปสาวติดตรึม” คำพูดและท่าทางแก่แดดของเจ้าตัวจ้อยทำเอาจอมทัพถึงกับถลึงตาดุคนตัวเล็กตรงหน้าทันที“เณรสำรวม ระวังคำพูดด้วย” จอมทัพเอ่ยเสียงดุ ท่าทีจริงจังรวมกับสายตาที่ดุดันทำให้คนตัวเล็กหน้าหงอยลงทันตา“ขอประทานโทษครับหลวงพี่” เสียงอ้อมแอ้มเอ่ยขอโทษเบา ๆ สีหน้าเจื้อนลงถนัดตาร่วมกับท่าทีสำนึกผิดของเณรพ่ายทำเอาจอมทัพถึงกลับใจอ่อน เด็กยังไงก็เป็นเด็ก จอมทัพปลอบตัวเองในใจ“เฮ้อ เอาเถอะ เดี๋ยวไปช่วยกันกวาดศาลากัน”“ครับหลวงพี่!” ใบหน้าหงอยกลับมายิ้มอีกครั้ง ท่าทีสดใสร่า

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   สาเหตุ

    จิ๊บ ๆ ~เสียงร้องเจื้อยแจ้วของนกเขาตัวเมีย ส่งเสียงเรียกปลุกลูกนกออกจากรังเพื่อป้อนอาหาร วัดนี้เป็นวัดต่างจังหวัดในภาคกลาง พื้นดินถือว่าอุดมสมบูรณณ์ รายล้อมไปด้วยทุ่งนา แมกไม้ วัวควาย และเสียงรถมอเตอร์ไซค์รุ่นเก่าที่กว่าจะสตาร์ทได้แต่ละทีเล่นเอาเหนื่อยหอบ ยังคงดังผ่านไปมา เป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายที่จอมทัพเจอมาตลอดสามเดือนนี้สายลมเย็น ๆ พัดพาดวงใจเงียบสงบเสมอมา ทว่าครั้งนี้กลับไม่เหมือนเช่นเคย คงเป็นเพราะในใจแอบไหววูบเล็กน้อยที่ต้องจากที่นี่ไปในอีกไม่กี่วัน หรือแท้จริงแล้ว ไม่อยากจะพบเจอใครบางคนแต่ยังไงงานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกราอยู่ดี เขาอยู่ที่นี่ไปตลอดไม่ได้ ยังมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ไหนจะครอบครัว เพื่อนฝูง ที่รอคอยเขากลับไปแกร็ก ๆเสียงไม้กวาดทางมะพร้าวกระทบพื้นปูนเปลือยใต้ศาลาวัด ในทุกเช้าจอมทัพจะทำหน้าที่หลัก ๆ อยู่ไม่กี่อย่าง อย่างเช่นตอนนี้ที่เขากวาดลานวัดอยู่ หลังจากกลับมาจากบิณฑบาตรกับหลวงพ่อและเณร“หลวงพี่ทัพพพพ!” สิ้นเสียงเล็กแหลมตะโกนดังเข้ามาจอมทัพก็หลุดออกจากภวังค์ความคิด ใบหน้าคมหันตามเสียงเรียก เป็นเณรพ่ายนั่นเอง“ว่าไงเณร เรียกซะเสียงดังเลย”“เณรเรียกหล

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   หลง

    กาเยนะ วาจายะ เจตะสา วาสังเฆ กุกัมมัง ปะกะตัง มายา ยังสังโฆ ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตังกาลันตะเร สังวะริตุง วะ สังเฆเสียงสวดมนต์ทำวัตรเย็นดังขึ้นทั่วทั้งศาลาวัดจบลง บทบรรเลงขับขานตามคำสอนของพระผู้เป็นเจ้าขัดเกลาแก่เหล่าภิกษุผู้อยู่ในธรรมเป็นที่ตั้ง รวมถึงตัวของชายหนุ่มหน้าโหดด้วยนี่ก็เป็นเวลาเกือบจะสามเดือนแล้วที่ จอมทัพ หรือตอนนี้คงต้องเรียก พระจอม ได้บวชเรียนศึกษาธรรมะภายใต้ชายผ้าเหลืองอดีตหนุ่มหล่อวิศวะ ปัจจุบันเป็นพระบวชใหม่ที่วัดป่าในชนบทแห่งหนึ่ง ที่เลือกต่างจังหวัดแทนในเมืองหลวงมีไม่กี่เหตุผล หนึ่งในนั้นคือรู้สึกถึงความสงบเหมือนได้กลับบ้าน เนื่องจากจอมทัพเกิดและโตที่ภาคเหนือพื้นที่ที่เต็มไปด้วยอากาศเย็นเกือบทั้งปี ที่บ้านทำไร่ทำสวนส่งออกผลไม้รายใหญ่ของภูมิภาค ในทุกการปิดเทอมจึงมักจะไปช่วยงานที่บ้านยกเว้นเทอมนี้ที่เขาเลือกมาบวชแทน และเหตุผลต่อมาคือเขาคิดว่าการที่ได้มาชนบทได้เห็นวิถีชีวิตผู้คน รู้จักผู้คน ทำให้ได้ตระหนักถึงชีวิตมากขึ้นไปอีกขั้น เห็นแบบนี้จอมทัพค่อนข้างจริงจังกับชีวิตและแคร์ผู้คนรอบข้างเป็นอย่างมาก แต่บางครั้งการใจดีก็ใช่ว่าจะได้ดีตอบกลับเสมอไป ญาติโยม

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   ปฐมบท

    “หนุ่มเอ้ย ถึงคราวเคราะห์ร้ายมาเยือน เจ้ากรรมนายเวรตามมาถึงหน้าประตู ถ้าเอ็งไม่บวชละก็ได้เกิดเรื่องแน่ ๆ ”“เชื่อข้าเถอะหนุ่ม บวชสักพรรษานึง ไม่งั้นเอ็งได้เลือดตกยางออกอย่างแน่นอน…”น้ำเสียงแหบแห้งของหญิงชราที่ไม่เคยพบเจอหน้ากันมาก่อน คำพูดคนแปลกหน้าติดอยู่ในห้วงความคิดของชายหนุ่มหน้าโหดจนยากที่จะสลัดออกจอมทัพ ชายหนุ่มรูปร่างกำยำ ขมวดคิ้วเข้มชิดกันเป็นปมแน่น ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรง ท่าทีบึ้งตึงบ่งบอกถึงอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก“มึงอย่าไปเชื่อเลย ฟังหูไว้หู”เป็นสายฟ้าที่พูดโพล่งออกมายามเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของจอมทัพ และไม่ปล่อยให้บรรยากาศตึงเงียบไปมากกว่านี้ ปั้นสิบที่เดินมาด้วยกันข้างๆ ก็รีบพุ่งเข้ารับไม้ต่อจากสายฟ้าทันที“จริง! หมอดูก็คู่กับหมอเดาแหละโว้ยอย่าไปคิดมาก”ธรรมดาของมนุษย์ที่พยายามบอกว่าไม่คิดมากแต่สุดท้ายก็คิดมาก ความคิดมากมาย ข้อสันนิษฐานต่าง ๆ สะเปะสะปะจนจับต้นชนปลายไม่ถูก ชายหนุ่มหน้าโหดพยายามคิดยังไงก็คิดไม่ตกจอมทัพมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักกับหญิงชราคนนั้นมาก่อนอย่างแน่นอน แต่ทำไมหญิงชราคนนั้นถึงทักเรื่องเคราะห์ร้ายอะไรแบบนั้นกับเขากันว่ากันตามตรงจอมทัพเป็นคนที่ไ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status