Share

อกหักทำพิษ🔞

last update Last Updated: 2025-05-17 18:15:14

หมับ!

จอมทัพคว้าน่องเรียวขาวเอาไว้ก่อนจะออกแรงบีบอย่างลืมตัว

คนขี้แกล้งสะดุ้งโหยง ใบหน้าเหยเกทันที สีหน้าเจ็บปวดของอีกคนทำเอาจอมทัพตกใจจนต้องปล่อยมือ ประจวบกับรถจอดนิ่ง ปั้นสิบหันหน้ามาถามพวกเขาว่าจะเอาไรมั้ยจะเข้าร้านสะดวกซื้อ จอมทัพได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธไป ส่วนคิระบอกไปว่าอยากกินน้ำองุ่นซ่า ๆ แทน

ไม่นานบรรยากาศในรถก็กลับสู่สภาวะเงียบงันอีกครั้ง ความเย็นของแอร์ยังไม่สู้บรรยากาศระหว่างคนสองคน จอมทัพที่ละมือออกจากขาเรียวก็ผินหน้าออกไปอีกฝั่ง ข่มกลั้นอารมณ์บางอย่างที่ผุดออกมาภายใน แต่อีกคนยังไม่เข็ด

คิระยังคงใช้ส้นเท้าลูบไล้ผ่านเป้ากางเกงเพื่อนด้านข้างที่หันหลังให้เขา ผินหน้าออกไปทางหน้าต่างอีกด้าน ยิ่งอีกคนฟึดฟัดก็ยิ่งน่าแกล้ง นั่นแหละนิสัยของคิน หรือ นากาโมโตะ คิระ

“มึงเลิกแกล้งกูสักที” เป็นจอมทัพที่ทนไม่ไหวหันมาสบตากับคิระที่ตอนนี้ได้วางโทรศัพท์ลงบนตักเรียบร้อยแล้วพลางเท้าคางมองหน้าเขาอยู่

“อะไร ไปบวชมาก็ต้องอดทนได้สิ” ว่าพลางกดย้ำน้ำหนักลงที่เป้า

กรอด! เสียงขบฟันกรามกระทบกันอย่างกลั้นอารมณ์

ความคิดของเขาเหมือนถูกผลักดันให้กลับไปหวนคืน…คืนนั้น

คืนที่ทุกอย่างหลุดจากการควบคุม…

คืนที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเราไม่เหมือนเดิม

ท่ามกลางบรรยากาศครึกครื้นของสถานบันเทิงชื่อดัง ดนตรีรอบนอกไม่อาจแทรกซึมผ่านหัวใจคนที่พึ่งโสดหมาด ๆ ได้เลย ไม่รู้ว่ากี่แก้วต่อกี่แก้วที่ยกขึ้นกระดกในค่ำคืนนี้ รู้แค่เพียงหวังว่าน้ำเมาจะช่วยให้หัวใจที่เจ็บช้ำไร้ความรู้สึกเสียที

เนิ่นนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ที่จอมทัพกระดกเอา ๆ ไม่พัก ที่จอมทัพนั่งอยู่เป็นเคาน์เตอร์บาร์ มีบาร์เทนเดอร์คอยชงเสิร์ฟแบบแก้วต่อแก้ว รู้ตัวอีกทีก็มีคนมานั่งด้านข้าง น้ำเสียงที่คุ้นเคยเอ่ยแซว

“เรียกให้กูมาแบกรึไง” คิระส่งเสียงแซวเบา ๆ ก่อนจะนั่งลงด้านข้างว่างว่างเว้นไว้ให้

“แม่งโคตรเจ็บ อกหักมันเป็นแบบนี้หรอวะ” น้ำเสียงยานคางเอ่ย พลางหมุนแก้วที่อยู่ในมือ

“ไม่รู้ว่ะ…กูก็ไม่เคยมีแฟนเหมือนกัน” น้ำเสียงทีเล่นทีจริงของคิระตอบกลับมาอย่างไม่คิดอะไร แต่แววตากลับเฝ้าสังเกตทุกอาการของอีกคนเงียบ ๆ

คิระอาบน้ำจะเตรียมตัวอ่านหนังสือต่อ ก็เห็นสายคุ้นเคยโทรเข้ามา เมื่อรับสายอีกฝ่ายก็พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือจนเขางงว่าเกิดอะไรขึ้นกัน ทั้ง ๆ ที่พึ่งแยกกันไม่ถึงชั่วโมง เขาเปิดลำโพงฟังอีกคนพร่ำเพ้อจนแต่งตัวเสร็จก็เรียกรถมาเจอที่ร้าน จับใจความได้แค่ว่า เจนเอาคนอื่นมานอนด้วย ทำไมเจนทำกับกูแบบนี้วะ และประโยคตัดพ้ออีกมากมายนับไม่ถ้วน

แต่เรื่องของเจนก็ไม่ได้เป็นที่แปลกใจสำหรับคิระมากนัก…

บรรยากาศกลับมาสู่โหมดประหยัดคำพูดอีกครั้งเมื่อบทสนทนาเงียบลงอีกครั้ง เหล้าในแก้วถูกเติมจนล้น จอมทัพยังกระดกไม่หยุด ส่วนคิระก็ได้แต่เอื้อมมือรับเครื่องดื่มจากบาร์เทนเดอร์มือระวิง แต่ก็ไม่วายสังเกตอีกฝ่ายเงียบ ๆ เช่นกัน

“กูเลิกกับเจนแล้ว”

“เออกูรู้แล้ว มึงพูดคำนี้มาจะสิบรอบแล้ว” คิระตอบกลับด้วยน้ำเสียงเอือมระอาก่อนจะส่ายหัวเบา ๆ

แกร๊ก!

เสียงแก้วกระทบโต๊ะดังเบา ๆ พร้อมกับน้ำเสียงนุ่ม ๆ ของพนักงานชายที่ยื่นแก้วเครื่องดื่มสีอำพันมาให้

“มีคนฝากมาให้ครับ”

คนไม่มีสติคว้าแก้วยกขึ้นกระดกรวดเดียว โชคดีที่คิระไวกว่าจึงคว้าอีกครึ่งหนี่งไว้ทัน แม่งปกติใครให้อะไรมันรับเสียที่ไหน พอเมาหน่อยก็รับหมดเลย

“เอามา กูยังดื่มไม่หมดเลยเสียน้ำใจเขาหมด” มือหนาเอื้อมมือจะคว้าแก้วกลับไป คิระยกมือเอี้ยวหลบ พลางยกกระดกส่วนที่เหลือขึ้นจนไม่เหลือสักหยด

“พอ ๆ กลับกันได้ละ พรุ่งนี้มีส่งงานเช้า”

“มึงจะนอนเป็นเพื่อนกูมั้ย”

คิระถอนหายใจ เงียบไปสักพักก่อนจะเออออตอบรับไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

“…เออๆ เห็นแก่ที่มึงอกหักละกัน จะตามใจสักวันนึง”

“ไอ้จอมมึงเดินดี ๆ ดิ้ ตัวก็หนัก!”

คิระบ่นเสียงเอือมระอาระคนเหนื่อยขณะหิ้วปีกเพื่อนรักอย่างจอมทัพ ที่พ่วงสถานะคนอกหักมาหมาด ๆ ก่อนจะวางไว้ที่เตียงนอนของอีกคน

แต่ด้วยน้ำหนักตัวทีไม่ใช่น้อย ๆ ของทั้งสองบวกกับความมึนของน้ำเมาที่ดื่มเข้าไปทำให้ร่างกายเอนเอียงไม่ต่างจากไม้หลักปักดินเลนเลยสักนิด ทำให้ร่างกายของคิระที่แบกจอมทัพอยู่ทรงตัวไม่ไหวล้มลงไปนอนด้วยกันบนที่นอนขนาดใหญ่

จอมทัพที่ไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะเมื่อล้มลงนอนได้ที่แล้วก็คว้าเอาคนด้านข้างที่นึกว่าเป็นหมอนข้างกอดก่ายอย่างเต็มแรง ใบหน้าหนุ่มลูกครึ่งที่ถือว่ามีสติมากกว่าร้องโวยวายพลางผลักร่างสูงใหญ่ที่ตัวเท่า ๆ กันออก

“โอ๊ย! มึงปล่อยเอวกูนะ กูไม่ใช่หมอนข้างนะเว้ย!”

จริง ๆ แล้วคิระกับจอมทัพส่วนสูงห่างกันไม่เกิน 5 เซนติเมตรด้วยซ้ำ แต่ที่อีกคนตัวใหญ่กว่าเนื่องจากจอมทัพชอบเล่นกีฬาและออกกำลังกายเป็นประจำผิดกับคิระที่ชอบเล่นเกมใช้สมองมากกว่า ทำให้หุ่นของหนุ่มลูกครึ่งลีนและบางมากกว่า

“เจน…เจนทำแบบนี้กับเราทำไมฮรึก…” แต่คนเมาไม่มีแรงจะตอบอะไร นอกจากเสียงพึมพำในลำคอ

ร่างกายของคิระเกร็งทื่อ บ่าแกร่งของคนใต้ร่างสั่นระริกระคนน่าสงสาร เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังคลอแข่งกับเสียงเครื่องปรับอากาศ คิระตอนแรกที่พยามยามผลักอีกคนก็ก็นิ่งค้าง ก่อนจะขนลุกซู่กับความรู้สึกแปลกประหลาดที่แล่นวาบไปทั่วตัว

“แม่งทำไมรู้สึกร้อนๆ วะ”

“มึง…ปล่อยก่อนกูร้อน” คิระพยายามผลักจอมทัพออกแต่ก็ไม่ได้ผล เพราะยิ่งฝืนมากเท่าไหร่คนตรงหน้าก็ยิ่งกอดรัดราวกับงูเหลือมมากขึ้นเท่านั้น

“อึก ฮรึก”

คนตัวบางกว่าผลักไหล่คนตัวหนาไม่ออมแรง แต่ถึงกระนั้นคนเมาก็ไม่ยอมคลายอ้อมกอด ร่างขาวใบหน้าขึ้นสี หอบหายใจแรง รู้สึกได้ถึงความรุ่มร้อนที่ตีตื้นขึ้นมาตั้งแต่ล่างขึ้นบน อีกคนก็ไม่ต่างกันเสียงลมหายใจสะเปะสะปะของจอมทัพรดรินที่ต้นคอขาวระหงส์ คิระเม้มปากแน่น หัวใจเต้นแรงจนแทบระเบิด ในหัวมีแต่เสียงความคิดตีกันยุ่งเหยิง

คิระไม่ใช่คนโง่ที่ไม่รู้ว่าอาการนี้ไม่ใช่แค่การเมาเหล้าทั่วไปแต่เป็นเพราะว่าเขาทั้งคู่นั้น โดนยา

“จอมมึงเอามือออกไปก่อน กูขออาบน้ำ” น้ำเมาเริ่มออกฤทธิ์ ส่งผลให้ร่างคิระโงนเงนเล็กน้อย หัวสมองเบลอจากการพยายามแงะมือปลาหมึกออก

เสียงหอบหายใจรินรดซอกคอขาว จู่ ๆ คนใต้ร่างก็พลิกตัวขึ้นมา แขนแกร่งของคนตัวใหญ่กว่ากักขังคิระไว้ในอ้อมแขน จมูกโด่งเป็นสันเฉียดข้างแก้มไปมา ถูไถลงต่ำมาถึงซอกคอ

“มึงทำบ้าอะไรวะอื้อ!”

สิ้นเสียงคำพูดไม่นาน ริมฝีปากสีซีดก็ก้มลงฉกชิง ดวงตาของคิระเบิกโพลงอย่างตกใจ ความรุ่มร้อนที่เริ่มแผ่กระจายไปทั่วเรือนร่างทั้งคู่ทำให้เวลานี้ไม่มีใครดึงสติกลับมาได้เลย

มือหนาลูบไล้เรือนกายขาวผ่องคนลูกครึ่งเมืองอาทิตย์อุทัย เรียกเสียงครางพึงพอใจดังลอดออกมา

“ระร้อน อื้ออ”

ริมฝีปากหนาเม้มทั่วเรือนร่างจนเกิดรอย มืออีกข้างก็ถกดึงเสื้อเชิ้ตสีเข้มตัดกับผิวขึ้นอย่างไม่ออมแรงนัก ผิวขาวนวลเสียดสีกับเสื้ออย่างแรงจนเกิดรอยแดงพาดลำตัว เสื้อเชิ้ตแสนเกะกะถูกดึงไปอยู่เหนือหน้า เผยให้เห็นยอดอกสีสวยน่าลิ้มลองอย่างเต็มตา

แผล่บ ๆ

ไม่รอช้า จุกสีสวยที่ล่อตาล่อใจปลุกกำหนัดจากหมาบ้านกลายเป็นหมาป่าหิวโหยทันที

“อ๊ะ!”

ความเย็นจากแอร์ประทะผิวกายได้ไม่นานก็ตามมาด้วยสัมผัสอุ่นๆ จากอวัยวะหยุ่น ๆ ดูดดึงราวทารกแรกคลอด สร้างความเสียดเสียวให้คนตัวขาวเป็นอย่างมาก

ร่างสมส่วนบิดเร้าไปมาจนที่นอนยับยู่ คิระตกอยู่ในวังวนความกระสัน สัมผัสแปลกใหม่ไม่ที่เคยมีใครทำให้มาก่อน บวกกับฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด ทำให้สติสตังของคิระหายวับยากที่จะเรียกกลับคืน

“อ๊ะ อย่ากัด”

ฟันคมลากผ่านจุกสีสวยเบา ๆ ไล่เลียรอบฐานสีอ่อนก่อนจะขบกัดครอบครองประทุมเม็ดงามตรงหน้า สร้างความกระสันแก่คนข้างใต้ไม่น้อย

คิระที่ตกอยู่ในห้วงราคะจากการปรนเปรอยอดอกเม็ดงาม รู้ตัวอีกทีเสื้อผ้าบนร่างกายก็อันตทานหายลับไปตกอยู่บนพื้นข้างเตียง

มือแกร่งแยกขาเรียวออก แม้อยากจะขัดขืนหุบเอาไว้ จนหน้าขึ้นสีก็ไม่อาจต้านแรงกำหนัดคนด้านบนได้เลย

“โอ๊ย! เจ็บเอาออกไป” จู่ ๆ ร่างกายก็ต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามากะทันหัน ความเจ็บแล่นเข้าสู่สมองจนใบหน้าเหยเก ดวงตาเรียวเจ้าเล่ห์แต่งแต้มไปด้วยหยาดน้ำสีใส ริมฝีปากเม้มแน่น

หนุ่มลูกครึ่งเบนหน้าหนี กัดฟันแน่นจนใบหน้าเกร็ง คิระไม่เคยเป็นฝ่ายรับมาก่อน ทุกครั้งที่มีอะไรกับใครเขามักจะเป็นฝ่ายเสียบเสมอ นี่เป็นครั้งแรกที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาช่องทางด้านหลัง

เพราะเป็นฝ่ายกระทำมาตลอดจึงไม่รู้ว่าฝ่ายรับต้องเจ็บขนาดนี้

“ขอโทษ อึกผ่านคลายหน่อยมึงรัดกูแน่น…ขนาดแค่นิ้วนะเนี่ย”

จอมทัพสบถเบา ๆ เมื่อความแน่นภายในช่องทางรักรัดแน่นจนนิ้วแทบขยับไม่ได้ ความกระสันไล่บี้ขึ้นมา อยากจะเสียบเต็มทนแต่ก็ต้องอดทนไว้เพราะยังไม่ได้เบิกทาง ไม่งั้นมีหวังเลือดออกเป็นแน่

ความเจ็บเสียดเริ่มบรรเทาลง ช่องทางรักผ่อนคลายมากขึ้น จอมทัพก็ไม่รอช้าคว้านนิ้วแกร่งชักเข้าชักออกจนเกิดเป็นเสียงลกมก

แจ๊ะ ๆ

มืออีกข้างก็ไม่อยู่เฉยจัดการบดคลึงยอดอกบวมเต่งที่เกิดจากอารมณ์กระสันของอีกคน จับดึงยืดเหมือนมาร์ชแมลโลว์ที่โดนไฟผิง

“อ๊ะ เสียวอย่า”

เมื่อช่องทางคับแคบถูกเบิกขยายจนพร้อมได้ที่ก็เอามือออก รูรักตอดรั้งนิ้วแกร่งปานเสียดายช่องทางสีสวยกระตุกถี่ราวกับต้องการบางสิ่งที่ขนาดใหญ่และยาวกว่าให้กระแทกเข้ามาเร็ว ๆ

คนอกหักหมาด ๆ ไม่รอช้า จอมทัพจับขาสวยอ้ากว้าง ชักรูดแก่นกายขนาดใหญ่ของตนเองสองสามที ความปวดหนึบจากแท่งร้อนส่งผลให้สีหน้าคมเหยเก ก่อนจะจัดการกดส่วนหัวเข้าไปยังรูรักเบื้องหน้า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   จิ๊กซอตัวสุดท้าย

    หลังจากผ่านคำคืนเฉลิมฉลองให้กับคู่รักข้าวใหม่ปลามันเสร็จทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปคนละทาง สายฟ้าก็มีแฟนหนุ่มอย่างแสงเหนือมารับถึงที่ ส่วนปั้นสิบก็ลงไปเรียกรถกลับห้องอย่างน้อยใจชีวิต ปล่อยให้คู่รักคู่ใหม่ได้ใช้เวลาสวีทหวานร่วมกันเป็นเวลาเกือบบ่ายโมง ร่างสมส่วนลุกขึ้นจากที่นอนก่อนจะเอี้ยวตัวบิดเพราะความเมื่อยล้าหลังจากที่แยกย้ายกับเพื่อนเมื่อคืนเสร็จทั้งเขาและจอมทัพก็เข้านอนกันเลยตาเรียวหรี่ตามองฝั่งซ้ายของเตียงที่ว่างเปล่า ก่อนจะเดินออกไปยังห้องครัว แต่กลับได้ยินเสียงคุ้นเคยดังขัดขึ้นมาเสียก่อน“ไงมึง ข้าวอยู่ในครัวนะ”คิระเดินขยี้ตาออกมาจากห้องนอนก็สะดุดกับคำทักทายของผู้บุกรุกนิรนามตรงหน้า สายตาเริ่มปรับโฟกัส สมองเริ่มตื่นเต็มที่ก็ผงกหัวตอบรับไป“กินข้าวยังล่ะ”“กูกินตั้งแต่สิบโมงละ มึงกินเลยกูซื้อของโปรดมา”“ทัพไปไหน”“เห็นมันบอกว่าไปธุระกับที่บ้านนะเลยโทรให้กูซื้อข้าวมาให้มึงหน่อย คนโสดอย่างกูถึงได้มาเสนอหน้าอยู่ที่นี่ไง” ปั้นสิบอธิบาย หลังจากที่จอมทัพโทรปลุกเขาตั้งแต่เช้าตรู่ว่ามาดูแลเมียมันให้หน่อยเมียมันก็เพื่อนเขาไม่ใช่รึไง ปั้นสิบส่ายหัวอย่างเอือมระอากับอาการคนคลั่งรัก

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   สิ้นสุดการรอคอย

    ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน รู้ตัวอีกทีก็สัมผัสได้ว่ามีอะไรเย็น ๆ กระทบที่ใบหน้า ตาคมกระพริบไล่ความงัวเงีย แสงไฟจากเพดานแยงเข้าตาอย่างจังจนต้องหยีตาลง และเมื่อปรับสายตาได้แล้วก็ต้องตกใจคนที่อยู่ตรงหน้าใบหน้าขาวนวล ผมหน้ายาวแทบปิดตา แต่ก็ไม่อาจปกปิดแววตาที่ราวกับรวมดวงดาวนับล้านนั้นเอาไว้ได้ เจ้าของดวงตาสวยมองมาไม่กระพริบทำให้ตอนนี้ทั้งเขาทั้งคิระเอาแต่จ้องตากัน เนิ่นนานจนกระทั่งคิระเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน“ตื่นแล้วหรอ” เสียงนุ่มทุ้มที่ฟังอยู่แทบทุกวัน คนตรงหน้าเอื้อมมือที่ถือผ้าชุบน้ำอยู่เช็ดตามกรอบหน้าคมเบา ๆ อย่างอ่อนโยน ความเย็นจากน้ำประทะกับความหนาวของเครื่องปรับอากาศทำเอาขนแขนลุกความเงียบเข้าปกคลุมพื้นที่ห้องนั่งเล่น คนเมาไล่สายตามองคนตรงหน้าที่ตั้งอกตั้งใจเช็ดตัวให้เขาอยู่ ใบหน้าเรียบนิ่งอ่านออกได้ยากว่ากำลังคิดหรือรู้สึกอย่างไรแต่ในใจเขาก็ขอให้มันรู้สึกเหมือนกัน เขาไม่อยากมั่นใจนักแต่ที่มันมาหาเขาถึงที่ขนาดนี้ก็ต้องมีรู้สึกบ้างแหละ “มีอะไรก็พูดสิ” คิระเห็นท่าทีเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูดของคนเมาก็เอ่ยถาม“มึงกับยูตะ…เอ่อมันยังไง” ในที่สุดจอมทัพก็เอ่ยถามเรื่องที่ค้างค

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   ปลอบ

    คอนโดปั้นสิบ“ลมอะไรหอบมึงมาวะ”เสียงทุ้มห้วนของปั้นสิบดังขึ้นทันทีที่เห็นเพื่อนหน้าโหดที่บัดนี้ยืนหน้าหงอยกอดขวดเหล้าไว้แน่นอยู่หน้าห้อง ดวงตาคู่ดุแดงระเรื่อเหมือนคนเพิ่งผ่านการร้องไห้มาตลอดทาง“เข้ามาสิ”เจ้าของห้องไม่ได้ถามอะไรต่อ เพียงเปิดประตูแล้วถอยให้เพื่อนสนิทเดินเข้าไป จากนั้นก็เดินนำไปยังโซฟาตัวเก่าที่พวกเขาใช้เป็นฐานประจำสำหรับ ‘วงเหล้าเฉพาะกิจ’ แกร๊ก!เสียงน้ำแข็งกระทบแก้วใสกังวานตามด้วยเสียงซ่าของโซดาที่เพิ่งเปิด กลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ลอยปะปนไปกับความเงียบที่เริ่มปกคลุมห้องจอมทัพนั่งนิ่งบนโซฟา ร่างสูงดูเหนื่อยล้าแทบหมดแรงเดิน ดวงตาเหม่อลอยราวกับร่างไร้วิญญาณ สีหน้าหม่นหมองเงียบงัน ไม่พูดไม่จา เอาแต่ยกแก้วขึ้นกระดกไม่ยั้ง ไม่สนใจเจ้าของห้องที่นั่งจ้องเลยสักนิดปั้นสิบมองแขกผู้เศร้าโศกที่เคาะห้องเขายามวิกาลอยู่พักใหญ่ และความอดทนของคนผิวแทนเริ่มหมดลง “มึงจะเล่าได้ยังกูรอฟังจนจะหลับแล้วเนี่ย”เสียงถอนหายใจดังขึ้น ดวงตาคู่คมคล้ายสั่นไหวยามนึกถึงเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้น จอมทัพยกมือข้างหนึ่งมากุมหน้าอกตัวเองแน่น “เฮ้อ… กูแค่รู้สึกแปลก ๆ ในใจ มันเหมือนถูกบีบรัดแน่น ๆ ย

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   ความมืด

    “คิระคุง ข้อนี้ทำยังไงหรอ” น้ำเสียงนุ่มละมุนดังขึ้นด้านข้าง ใบหน้าหวานช้อนตามองบุคคลที่รับหน้าที่ติวเตอร์จำเป็นอย่างคิระ“อืมมันต้องทำแบบนี้นะ” ใบหน้าหล่อเหลาที่ฉายแววชัดตั้งแต่เด็กตั้งใจอธิบายด้วยท่วงท่าที่มีเสน่ห์ บวกกับคิระนั่งหลังตรงเป็นธรรมชาติช่วยเสริมบุคลิกให้ดูดีมากขึ้นไปอีก“…” มัวแต่มองใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้าเพลิน รู้ตัวอีกทีก็เห็นคิระโบกมือไปมาตรงหน้าเพื่อเรียกสติ“ยูตะเข้าใจใช่มั้ย?” คิริเอียงคอมองคนตรงหน้าที่หน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศยามที่ใบหน้าทั้งสองใกล้กันยูตะเป็นเด็กผู้ชายที่ใบหน้าหวานมองเผิน ๆ แอบคล้ายผู้หญิงตอนเจอครั้งแรกเขาก็ตกใจ ถ้าไม่ก้มดูว่าใส่กางเกงคงทักผิดเป็นแน่ ร่างเล็กตรงหน้าสวมแว่นตาทรงกลมช่วยขับให้ดูน่ารักน่าถนุถนอมยิ่งขึ้น อดไม่ได้ที่จะแกล้งเอานิ้วจิ้มที่ปลายจมูกดื้อรั้นนั่น“อ๊ะ!” ยูตะตกใจจนถอยหลัง ใบหน้าขึ้นสีทั้งหน้า ก่อนจะหมุนตัวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว“เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”“หึ” เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากคนหน้านิ่งได้เป็นอย่างดีตึกตัก ตึกตักเสียงหัวใจเต้นแรงระรัว มือน้อย ๆ แตะที่กลางอก กลัวว่ามันจะหลุดออกมา“คิระไม่สนใจฉันเลย เขาไม่ชอ

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   ฝันร้าย

    บางครั้งจอมทัพก็คิดว่าตนเองคงต้องไปหาหมอแล้ว เหตุผลก็คือฝันบอกเหตุ อาจเป็นเพราะเมื่อคืนเขาไม่อาจสลัดความคิดที่วนเวียนในหัวออกไปได้ เขาถึงได้ฝันถึงคิระและยูตะ ในฝันเหมือนจริงมากเสียจนตื่นขึ้นมาเหงื่อฝุดเต็มตัวจนแทบเปียกที่นอน ยิ่งตอนที่ตื่นมาแล้วพบว่าคนข้างกายไม่อยู่บนที่นอนแล้วยิ่งร้อนใจขึ้นไปใหญ่บวกกับความฝันที่ไม่อยากให้เป็นจริงในฝันนั้นเขาเห็นว่าคิระจูบกับยูตะอย่างดูดดื่มเหมือนจริงมาก ร่างหนาลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องนอนอย่างร้อนใจ ในที่สุดก็เจอคนที่ตามหากำลังปิ้งขนมปังอยู่หมับ!“อื้อ! ตกใจหมดเลย” ร่างแกร่งคว้าตัวคนที่สวมใส่ชุดนอนลายการ์ตูนหน้าแมวส้มเข้ามาในอ้อมกอดอย่างเต็มแรง ใบหน้าคมซุกไซร้จนเกิดรู้สึกจั๊กจี้จนต้องย่นคอ“มึงแปลก ๆ ละ”“แปลกยังไง” เสียงแหบพล่าเอ่ยก่อนจะเอื้อมมือไปปิดแก๊ส แล้วอุ้มยกคนตัวขาวจับวางไว้บนเคาน์เตอร์ลายหินอ่อน“อ๊ะ! ทำไรเนี่ยอื้มมม”ริมฝีปากอวบอิ่มบ่นไม่ทันขาดคำก็ต้องกลืนคำบ่นลงท้อง ก่อนคิระจะอ้าปากรับลิ้นร้อนเกี่ยวตวัดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เนิ่นนานจวนจะหมดลมหายใจปึก! ๆมือเรียวทุบอกแกร่งดังปึกเมื่อลมหายใจใกล้จะหมด“อึก…พอก่อนหายใจไม่อื้ออ”แล

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   เดต

    ปัจจุบันโรงภาพยนตร์“อยากดูเรื่องอะไร” เสียงนุ่มดังขึ้น คิระเลื่อนหน้าจอขนาดใหญ่กว่าตัวคนเพื่อดูรอบตารางฉายหนังไปมา รอคนด้านข้างตัดสินใจวันนี้เป็นวันหยุดยูตะจึงชวนเขามาดูหนังในโรงภาพยนตร์ แม้คิระจะไม่ค่อยสันทัดมากนักแต่ก็ยอมมาอย่างไม่อิดออด คิระไม่ชอบดูหนังในโรงสักเท่าไหร่ เพราะมันมืดและไม่เป็นส่วนตัว ดังนั้นทุกครั้งที่ดูก็จะเลือกดูในห้องตนเองไม่ก็ห้องเพื่อน ๆ เท่านั้น“อยากดูเรื่องนี้” นิ้วเรียวสวยตะไบเล็บสั้นกดจิ้มลงไปยังหน้าจอ เรื่องที่ปรากฏเป็นหนังสยองขวัญที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ และยังโด่งดังจนฉายไปหลายประเทศอีกด้วย“เอาสิ” คิระตอบเสียงเรียบก่อนจะกดจิ้มที่หน้าจอเลือกที่นั่งและจ่ายเงิน“อยากซื้ออะไรไปกินมั้ย”“ป๊อปคอร์นกับน้ำก็ดีนะ” สิ้นเสียงใสกล่าวจบมือของคิระก็ถูกคนด้านข้างชักจูงไปยังเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าทันที ไม่นานแก้วน้ำอัดลมทั้งสองแก้วก็อยู่ในมือของหนุ่มลูกครึ่ง“อื้มม อร่อยมากกก ยูลองกินสิ อ้าปาก” ยูตะป้อนป็อปคอร์นรสหวานเข้าปากอีกคนทันที ก่อนจะอมยิ้มไปด้วยความสุขจนแทบล้น “อร่อยมั้ย?”“อื้ม…อร่อย” คิระตอบกลับเสียงนุ่ม พลางก้มดูดน้ำจากแก้วที่ถือไว้ ดวงตาไร้รอยยิ้มเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status