Share

เพื่อนกัน🔞

last update Last Updated: 2025-05-17 18:16:20

“อ๊ะ ค่อย ๆ กูเจ็บ”

เสียงทุ้มนุ่มครางกระเส่าในลำคอ กล่องดวงใจเต้นแรงราวกับถูกใครเขย่า แก่นกายร้อนแท่งยักษ์แม้จะเบิกทางแต่ก็ยังสร้างความเจ็บปวดให้คนโดนกระทำจนน้ำตาซึม

เพราะเป็นครั้งแรกแถมยังมารับศึกหนักอีก ดวงตาเรียวกระพริบไล่น้ำสีใสที่หัวตาอย่างกั้นไม่อยู่ ส่งผลให้ช่องทางรักรัดแน่นจนจอมทัพแทบขยับไม่ได้ ความปวดแล่นเข้ามาอีกครั้ง

“ผ่อนคลายหน่อยอึก…มันรัดกู…”

จอมทัพกัดฟันกับความคับแน่นที่บีบลูกชายเขาแทบขาด ก่อนจะโน้มตัวลงไปเล่นกับยอดอกเพื่อเบี่ยงเบน ไม่นานช่องทางรักก็ปรับสภาพกับความใหญ่ได้ ชายหนุ่มหน้าดุจัดการโยกเอวเบา ๆ ความเป็นชายสอดเข้าไปจนสุดทางกระทบเข้ากับจุดเสียวของคนใต้ร่างอย่างจัง จนคิระครางเสียงหลง

“อ๊ะอ๊า”

คนที่พึ่งอกหักเสือกไสความเป็นชายด้วยจังหวะอ่อนโยนในช่วงแรก รอจนกระทั่งคนใต้ร่างเริ่มปรับตัวได้จึงค่อย ๆ เร่งความเร็ว

เสียงเนื้อกระทบกันดังผสานกับเสียงครางกระเส่าอย่างเสียวซ่านของหนุ่มลูกครึ่ง หมดลุคคุณชายแสนดูดี ตอนนี้มีเพียงคุณชายร่านรักเพียงเท่านั้น

มือหนาออกแรงนวดคลึงไปตามเรือนร่างขาวนวล น้ำหนักมือที่ลงแรงไมม่หนักมากแต่ผิวของคิระนั้นแสนจะขึ้นสีได้ง่ายไวต่อการสัมผัส ไม่ว่าจอมทัพจะบีบจับตรงไหนก็แดงไปหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งจุกนมสีสวยที่บัดนี้บวมเต่งที่ล่อตาล่อใจ

อดไม่ได้ที่จะไม่ฉกชิมลิ้มลองอีกครั้ง จอมทัพดูดดึงราวกับว่ามันจะมีน้ำนมไหลออกมา จอมทัพผู้รักความยุติธรรมยิ่งชีพไม่ให้อีกข้างน้อยใจ จัดการบดบี้จนเกิดเสียงครางเครืออย่างสุขสมลอยมา

ถึงอย่างนั้นส่วนล่างก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่มีตก เสียงลามกกระทบกันของสองอวัยวะที่ตอกเข้าออกเป็นเครื่องจักร ดังก้องทั่วทั้งห้อง คิระถูกจับพลิกคว่ำโก้งโค้งในท่าหมา ใบหน้านวลซุกลงกับหมอน แอ่นสะโพกไปทางด้านหลัง ท่านี้เห็นแท่งร้อนหลุบเข้าออกได้ชัดเจน แถมรูรักที่ถูกกระแทกก็แดงก่ำอย่างน่าสงสารอีก

“เสียวสัสอื้ม”

จอมทัพแค่นคำหยาบเสียงกระเส่า แลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผากด้วยความกระสันที่มากขึ้นจากภาพตรงหน้า มือแกร่งประคองสะโพกอวบแน่นของคนตรงหน้าเอาไว้ ก่อนจะโหมแรงตอกกระแทกความเป็นชายเข้าไปลึกสุดอย่างหนักหน่วงระรัวดั่งปืนกล

“อื้อเบา ๆ อ๊า”

ร่างสมส่วนของคิระกระดอนกระเด็นตามจังหวะสอดเข้าออกของแท่งร้อน เสียงครางระงมทั่วห้องปลุกกระตุ้นสัญชาติญาณดิบในตัวของจอมทัพมากขึ้นไปอีก ทนไม่ไหวจนต้องโน้มตัวลงไปพรมจูบตามแผ่นหลังเนียนสวย ร่างกายขาวขึ้นสีแดงห้อเลือดบาง ๆ เป็นรอยกัดรอยดูด เหมือนหมาเด็กฟันพึ่งขึ้น

แก่นกายยักษ์กระทุ้งเข้าออกรูจีบบวมแดงของหนุ่มลูกครึ่งอย่างร้อนแรงหนักหน่วง ภายในช่องทางรักขมิบตอดรับแท่งร้อนอย่างไม่มีใครยอมใคร

“อ๊า ไม่ไหว อื้อจะแตก”

คนตัวขาวส่ายหน้าไปมาแนบกับหมอน เส้นผมสีเข้มสะบัดไปมา เสียงร้องครางระคนสุขสมใกล้ได้รับการปลดปล่อย ยิ่งอีกฝ่ายตะบี้ตะบันแทงเข้ามาอย่าถี่รัว ร่างกายสมส่วนของคิระก็สั่นไม่หยุด ขาเรียวสั่นระริกอย่างควบคุมไม่ได้แทบทรุดลงอยู่รอมร่อ ถ้าไม่ได้แขนแกร่งของจอมทัพประคองไว้ทรุดเป็นแน่

“อีกนิด…ซี๊ดดเสร็จพร้อมกัน”

เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นข้างหู ก่อนจะเร่งความเร็วตอกความเป็นชายเข้ารูรักถี่รัว ร่างขาวหัวสั่นคลอนไปตามแรงกระแทก เสียงครางปนหอบผสมปนเปจนแยกไม่ออกว่าของใครกันแน่

“อ๊า!”

ไม่นานก็ถึงปลายทาง น้ำรักทุกหยาดหยดส่งเข้าไปยังตัวของเพื่อนรักตรงหน้า จอมทัพหมดแรงล้มตัวนอนทับ ทั้ง ๆ ที่ยังคาแท่งร้อนไว้ในตัวของอีกฝ่าย ไม่พอยังกระตุกพ่นน้ำรักไม่หยุดหย่อน ความอุ่นร้อนที่ถูกฉีดพ่นเข้าไปทำเอาคิระรู้สึกวูบวาบ ท้องแกร่งมีซิกแพคอ่อน ๆ ของคิระพองจากการปลดปล่อยน้ำกาม ถ้าเป็นผู้หญิงคงท้องเป็นแน่

คิระผลักจอมทัพออกด้วยแรงเฮือกสุดท้าย แท่งร้อนหลุดออกจากรูจีบบวมช้ำส่งผลให้น้ำรักที่ปลดปล่อยไหลย้อยลงมาที่หน้าขา คิระไม่มีแรงลุกไปจัดการตัวเอง เปลือกตาสีอ่อนปิดลงสนิท สติที่มีอยู่เริ่มดับวูบลงตามกันไป

ความหนาวเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้ร่างกายที่เปลือยเปล่าของทั้งคู่ขดตัวเข้าหาความอุ่นจากกันและกันราวกับแม่เหล็ก

รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อะไรเย็น ๆ แปะลงบนหน้าผาก แสงแดดยามสายแยงตาจนต้องหรี่ตาลง คิระขมวดคิ้วนิด ๆ พลางยกมือขึ้นแตะเจลเย็นบนหน้าผาก ก่อนค่อย ๆ ปรับโฟกัสในห้อง

เงียบ ไม่มีเสียงพูด ไม่มีเสียงฝีเท้า มีเพียงเสียงลมหายใจกับแอร์เย็น ๆ ที่หมุนเวียนไปทั่วห้อง

คิระลุกขึ้นนั่งช้า ๆ หันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นเงาเจ้าของห้อง มองดูนาฬิกาที่หัวนอนบ่งบอกว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยง คาดว่าอีกคนคงออกไปส่งงานแล้ว

ก็ดี…คิระคิดในใจ ไม่รู้ว่าถ้าเจอกันตอนนี้ควรทำหน้าแบบไหนดี ถึงจะไม่รู้สึกแปลกไปยิ่งกว่าเดิม

“ตื่นแล้วเหรอ” น้ำเสียงทุ้มกล่าวขึ้นมาเงียบ ๆ คนบนเตียงตกใจสะดุ้งจนตัวโยน ไม่คิดว่าอีกคนจะยังอยู่ในห้อง

“อืม…” คิระตอบในลำคอพลางเบือนหน้าไปทางอื่นไม่กล้าสบสายตาจากเพื่อนรักตรงหน้า

“คิน…กูขอโทษ” จอมทัพเอ่ยแผ่วเบา พลางเดินเข้ามายืนที่ปลายเตียงก้มหน้าไม่สบสายตา

จังหวะเงียบลงของทั้งคู่ได้ยินเพียงลมหายใจกับลมแอร์

“กูขอโทษมึงจะต่อยจะตีอะไรยังไงกูยอมหมดเลย” เป็นจอมทัพที่พูดขอโทษขึ้นมาอีกครั้ง เสียงสั่นเครือประกอบกับใบหน้าเศร้า ๆ กับท่าทีเหมือนหมาที่หูลู่ลงอย่างสำนึกผิด ทำเอาคิระถอนหายใจออกมา เพราะมันเป็นแบบนี้ไงเขาถึงไม่เคยโกรธมันได้สักที

“เออไม่ต้องคิดมาก กูกับมึงน่าจะโดนยาทั้งคู่” คิระตอบปัด ๆ อย่างไม่สนใจ

“เพราะกูเอง…” ท่าทีสำนึกผิดของจอมทัพเริ่มทำให้คิระหงุดหงิดขึ้นมาเล็ก ๆ

“เลิกโทษตัวเองได้แล้ว กูไม่ได้อะไร แต่ถ้ามึงยังไม่เลิกพูดกูจะโกรธจริงด้วย”

“…มึงเจ็บมั้ย” คนตัวใหญ่แต่ใจเล็กจิ๋วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ กลัวว่าเพื่อนจะเจ็บ เพราะเมื่อคืนก็พอจำได้ว่าใส่ไม่ยั้งแรงเลยด้วย

คิระกลอกตาเมื่อได้ยินคำถามแสนซื่อจากคนตรงหน้า

“เจ็บดิวะ มึงกระแทกมาไม่ยั้ง อดอยากปากแห้งมาจากไหน”

ความรู้สึกเจ็บเสียดแล่นมาถึงกลางกลังยามขยับตัวแรง ๆ ทุกครั้งที่มีอะไรกับใครคิระมักจะรุกเสมอ ดังนั้นครั้งนี้เป็นครั้งแรกประสบการณ์ครั้งแรกในการเป็นฝ่ายรับเลยก็ว่าได้ ถึงจะรู้สึกแปลก ๆ แต่ก็รู้สึกดีเกินกว่าที่คิดไว้ คาดยากที่จะยอมรับ

“กูไม่ค่อยได้ปลดปล่อย” จอมทัพหลบสายตาพลางขยับมือเกาท้ายทอยแก้เขิน จริง ๆ แล้วจอมทัพไม่ใช่พวกที่ดีลกับคนที่ไม่รู้จัก ตั้งแต่โตมาก็ใช้นิ้วมือทั้งห้ามาตลอด จนมีแฟนก็พึ่งได้เคยทำครั้งแรกและครั้งเดียว และใช่ คิระเป็นผู้ชายคนแรกที่เปิดซิงน้องชายเขาด้วยเช่นกัน

คิระพ่นลมหายใจดัง ๆ เอื้อมมือเตรียมจะดึงผ้าห่มออก

“กูจะไปอาบน้ำ มาช่วยพยุงหน่อย”

“เอ่อ...อื้อ”

มือขาวเลิกผ้าห่มออก

จอมทัพเดินไปพยุงอีกคนเข้าห้องน้ำ ทันทีที่เปิดผ้าห่ม หน้าแดงขึ้นสีแดงแปร๊ดราวกับมะเขือเทศสด ร่างกายสมส่วนออกไปทางมีกล้ามเนื้อที่สวยงามที่สาวยังต้องหลง บัดนี้ลายพร้อยเป็นตุ๊กแก นี่เป็นฝีมือของเขาหรอ ไหนจะคราบน้ำกามสีขุ่นที่ไหลลงมาตรงช่องทางรักที่แทบปิดไม่มิด

จอมทัพกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก

ใจเย็น ๆ ไว้น้องชาย จอมทัพบอกกับตัวเองในใจก่อนจะช่วยพยุงคนตรงหน้าไปห้องน้ำ

ซ่า!!

“อึก…อ๊ะ!” คนตรงหน้าพยายามกลั้นเสียงครางไม่ให้หลุดลอดออกมาโดยเอามือตะครุบปากไว้ ใบหน้าหล่อเหลาปนหวานแดงซ่าน แม้จะทำหน้านิ่งปกปิดเอาไว้ก็ตาม

จอมทัพค่อย ๆ เอานิ้วคว้านเอาน้ำพิษที่ลูกชายตนเองคายทิ้งไว้ออกมาจากช่องทางรักบวมแดงตรงหน้า ร่างกายโอนอ่อนระทวยแทบระทวยของคนใต้อ้อมแขนสั่นเป็นลูกนก

“ทำช้าจังวะ” คิระเอ่ยเสียงกระเส่า

“กลัวมึงเจ็บ”

“อึก!”

คำตอบของอีกฝ่ายทำเอาคนโดนกระทำทั้งคืนหน้าขึ้นสีอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่จอมทัพไม่เห็นมุมขวยเขินนั้น

“เรายังเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิมใช่มั้ย”

นิ้วมือแกร่งคว้านจนเสร็จก็หยุดชะงักดึงออกมา ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบปนสั่นเอ่ยข้างใบหูขาว บ่งบอกถึงความกังวลใจที่ท่วมท้นอย่างปิดไม่มิด

ชีวิตนี้จอมทัพไม่ใช่คนที่มีเพื่อนเยอะนัก เอาตรง ๆ เลยก็คือมีแค่ 3 คนเท่านั้นที่เขาสนิท สายฟ้า ปั้นสิบ และคนตรงหน้าที่ไม่รู้ว่าจะยังอยากเป็นเพื่อนเขาต่ออยู่มั้ย

ความรู้สึกผิดท่วมท้นภายในใจจนร่างกายทนไม่ไหวแสดงออกมาจนหมด ความเศร้าที่ผ่านทางสีหน้า น้ำเสียงสั่นเครือ สองมือกำแน่นจนเส้นเลือดขึ้น

“…มึงยังอยากเป็นเพื่อนกับกูอยู่มั้ยล่ะ?” เสียงเรียบนิ่งของคิระเอ่ยขึ้นอย่างลองใจ ก่อนจะหันเผชิญหน้า

ทุกพฤติกรรมของจอมทัพอยู่ในสายตาของคิระทั้งหมด เวลากังวลอีกฝ่ายจะชอบขมวดคิ้วกัดปาก ซึ่งตอนนี้จอมทัพแสดงออกทุกอย่างที่กล่าวมาโดยไม่รู้ตัว

“ทำไมถามอย่างนั้น กูไม่อยากเลิกเป็นเพื่อนมึง” คิ้วเข้มขมวดเป็นปมหลังได้ยินคำถามคนตรงหน้า

“เอองั้นก็เป็นเพื่อนกันต่อ เรื่องแค่นี้กูไม่คิดมากอยู่แล้ว” ขณะพูดคนตัวขาวก็เอื้อมมือไปคลึงระหว่างคิ้วของคนตรงหน้าให้คลายออกไปด้วย

สีหน้าเรียบเฉยยากที่จะอ่านได้ออกของคิระทำเอาจอมทัพสับสนในใจ

นากาโมโตะ คิริ บุคคลที่จอมทัพยกให้อันดับหนึ่งในการอ่านยากที่สุด ไม่รู้เลยว่าภายใต้ความนิ่งนั้นอีกคนรู้สึกยังไงกันแน่

“จริงหรอ…” จอมทัพได้แต่เถียงตัวเองในใจ แต่เขาก็อยากเป็นเพื่อนกับมันต่อไป จึงจำใจต้องกดความสงสัยไว้ให้ลึกสุดชั้นหัวใจ “สัญญานะ! ห้ามเลิกคบกูนะ!”

แต่ก็ช่างมันเถอะ ในเมื่ออ่านไม่ออกก็ใช้สัญชาตญาณนำทางไปละกัน จอมทัพตัดสินใจใช้เซนส์ของตัวเองนำทาง

โดยลืมไปว่าจอมทัพเป็นคนที่รับรู้อะไรได้ช้าที่สุด เซนส์เซิ้นอะไรไม่เคยมีกับเขาหรอก

“เห้ออ กูก็มีเพื่อนแค่พวกมึง 3 ตัวมั้ยล่ะ เลิกดราม่าแล้วอาบน้ำกันได้แล้ว” คิระพูดตัดบทเมื่อเห็นสีหน้าที่ดูดีขึ้นของหมาใหญ่ตรงหน้า

“เอ่อ…งั้นมึงอาบก่อนก็ได้เดี๋ยวกูออกไปรอข้างนอกก่อน”

จอมทัพพูดจบก็หันหลังเตรียมออกไปรอข้างนอก แต่ทันทีที่หันหลังได้ไม่นาน คนเปลือยเปล่าก็กุมมือยั้งตัวเขาไว้ด้วยคำพูดที่ธรรมดา แต่ทำเอาใจคนฟังแทบสะดุดหน้าทิ่ม

“เห็นกันมาหมดแล้วจะอายอะไรวะ” คิระพูดด้วยใบหน้านิ่งเฉยราวกับหุ่นยนต์ ไม่มีท่าทีเอียงอาย ผิดกับจอมทัพที่ใบหูแดงจนร้อนผ่าว แม้จะกัดปากกลั้นความอายแค่ไหนก็ไม่อาจพ้นสายตาของหนุ่มลูกครึ่งตรงหน้า

“อืม”

ในเมื่อพูดเช่นนี้จอมทัพก็ไม่อาจปฏิเสธได้ คนตัวสูงกว่าห้าเซนจัดการอาบน้ำตนเองอย่างรวดเร็ว กดข่มลูกชายไม่ให้ตั้งด้วยการนับแกะในใจไปเกือบร้อยตัว พยายามบังคับใบหน้าไม่ให้หันไปมองร่างกายอีกคน ภายในสองนาทีเท่านั้นจอมทัพก็จัดการอาบน้ำเสร็จ ไม่รั้งรอรีบเดินออกมาทันที ทิ้งให้คิระอาบน้ำอยู่เพียงลำพัง

ร่างแกร่งก้าวเดินฉับ ๆ ออกไปโดยไม่หันกลับมามองคนข้างหลังเลยสักนิด

โดยมีสายตานุ่มลึกยากที่จะอ่านออกได้ของคนข้างหลังที่มองมา รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏเพียงชั่วพริบตาก่อนจะหายไป เหลือไว้เพียงสีหน้าเรียบเฉยยากจะคาดเดา…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   จิ๊กซอตัวสุดท้าย

    หลังจากผ่านคำคืนเฉลิมฉลองให้กับคู่รักข้าวใหม่ปลามันเสร็จทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปคนละทาง สายฟ้าก็มีแฟนหนุ่มอย่างแสงเหนือมารับถึงที่ ส่วนปั้นสิบก็ลงไปเรียกรถกลับห้องอย่างน้อยใจชีวิต ปล่อยให้คู่รักคู่ใหม่ได้ใช้เวลาสวีทหวานร่วมกันเป็นเวลาเกือบบ่ายโมง ร่างสมส่วนลุกขึ้นจากที่นอนก่อนจะเอี้ยวตัวบิดเพราะความเมื่อยล้าหลังจากที่แยกย้ายกับเพื่อนเมื่อคืนเสร็จทั้งเขาและจอมทัพก็เข้านอนกันเลยตาเรียวหรี่ตามองฝั่งซ้ายของเตียงที่ว่างเปล่า ก่อนจะเดินออกไปยังห้องครัว แต่กลับได้ยินเสียงคุ้นเคยดังขัดขึ้นมาเสียก่อน“ไงมึง ข้าวอยู่ในครัวนะ”คิระเดินขยี้ตาออกมาจากห้องนอนก็สะดุดกับคำทักทายของผู้บุกรุกนิรนามตรงหน้า สายตาเริ่มปรับโฟกัส สมองเริ่มตื่นเต็มที่ก็ผงกหัวตอบรับไป“กินข้าวยังล่ะ”“กูกินตั้งแต่สิบโมงละ มึงกินเลยกูซื้อของโปรดมา”“ทัพไปไหน”“เห็นมันบอกว่าไปธุระกับที่บ้านนะเลยโทรให้กูซื้อข้าวมาให้มึงหน่อย คนโสดอย่างกูถึงได้มาเสนอหน้าอยู่ที่นี่ไง” ปั้นสิบอธิบาย หลังจากที่จอมทัพโทรปลุกเขาตั้งแต่เช้าตรู่ว่ามาดูแลเมียมันให้หน่อยเมียมันก็เพื่อนเขาไม่ใช่รึไง ปั้นสิบส่ายหัวอย่างเอือมระอากับอาการคนคลั่งรัก

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   สิ้นสุดการรอคอย

    ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน รู้ตัวอีกทีก็สัมผัสได้ว่ามีอะไรเย็น ๆ กระทบที่ใบหน้า ตาคมกระพริบไล่ความงัวเงีย แสงไฟจากเพดานแยงเข้าตาอย่างจังจนต้องหยีตาลง และเมื่อปรับสายตาได้แล้วก็ต้องตกใจคนที่อยู่ตรงหน้าใบหน้าขาวนวล ผมหน้ายาวแทบปิดตา แต่ก็ไม่อาจปกปิดแววตาที่ราวกับรวมดวงดาวนับล้านนั้นเอาไว้ได้ เจ้าของดวงตาสวยมองมาไม่กระพริบทำให้ตอนนี้ทั้งเขาทั้งคิระเอาแต่จ้องตากัน เนิ่นนานจนกระทั่งคิระเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน“ตื่นแล้วหรอ” เสียงนุ่มทุ้มที่ฟังอยู่แทบทุกวัน คนตรงหน้าเอื้อมมือที่ถือผ้าชุบน้ำอยู่เช็ดตามกรอบหน้าคมเบา ๆ อย่างอ่อนโยน ความเย็นจากน้ำประทะกับความหนาวของเครื่องปรับอากาศทำเอาขนแขนลุกความเงียบเข้าปกคลุมพื้นที่ห้องนั่งเล่น คนเมาไล่สายตามองคนตรงหน้าที่ตั้งอกตั้งใจเช็ดตัวให้เขาอยู่ ใบหน้าเรียบนิ่งอ่านออกได้ยากว่ากำลังคิดหรือรู้สึกอย่างไรแต่ในใจเขาก็ขอให้มันรู้สึกเหมือนกัน เขาไม่อยากมั่นใจนักแต่ที่มันมาหาเขาถึงที่ขนาดนี้ก็ต้องมีรู้สึกบ้างแหละ “มีอะไรก็พูดสิ” คิระเห็นท่าทีเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูดของคนเมาก็เอ่ยถาม“มึงกับยูตะ…เอ่อมันยังไง” ในที่สุดจอมทัพก็เอ่ยถามเรื่องที่ค้างค

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   ปลอบ

    คอนโดปั้นสิบ“ลมอะไรหอบมึงมาวะ”เสียงทุ้มห้วนของปั้นสิบดังขึ้นทันทีที่เห็นเพื่อนหน้าโหดที่บัดนี้ยืนหน้าหงอยกอดขวดเหล้าไว้แน่นอยู่หน้าห้อง ดวงตาคู่ดุแดงระเรื่อเหมือนคนเพิ่งผ่านการร้องไห้มาตลอดทาง“เข้ามาสิ”เจ้าของห้องไม่ได้ถามอะไรต่อ เพียงเปิดประตูแล้วถอยให้เพื่อนสนิทเดินเข้าไป จากนั้นก็เดินนำไปยังโซฟาตัวเก่าที่พวกเขาใช้เป็นฐานประจำสำหรับ ‘วงเหล้าเฉพาะกิจ’ แกร๊ก!เสียงน้ำแข็งกระทบแก้วใสกังวานตามด้วยเสียงซ่าของโซดาที่เพิ่งเปิด กลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ลอยปะปนไปกับความเงียบที่เริ่มปกคลุมห้องจอมทัพนั่งนิ่งบนโซฟา ร่างสูงดูเหนื่อยล้าแทบหมดแรงเดิน ดวงตาเหม่อลอยราวกับร่างไร้วิญญาณ สีหน้าหม่นหมองเงียบงัน ไม่พูดไม่จา เอาแต่ยกแก้วขึ้นกระดกไม่ยั้ง ไม่สนใจเจ้าของห้องที่นั่งจ้องเลยสักนิดปั้นสิบมองแขกผู้เศร้าโศกที่เคาะห้องเขายามวิกาลอยู่พักใหญ่ และความอดทนของคนผิวแทนเริ่มหมดลง “มึงจะเล่าได้ยังกูรอฟังจนจะหลับแล้วเนี่ย”เสียงถอนหายใจดังขึ้น ดวงตาคู่คมคล้ายสั่นไหวยามนึกถึงเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้น จอมทัพยกมือข้างหนึ่งมากุมหน้าอกตัวเองแน่น “เฮ้อ… กูแค่รู้สึกแปลก ๆ ในใจ มันเหมือนถูกบีบรัดแน่น ๆ ย

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   ความมืด

    “คิระคุง ข้อนี้ทำยังไงหรอ” น้ำเสียงนุ่มละมุนดังขึ้นด้านข้าง ใบหน้าหวานช้อนตามองบุคคลที่รับหน้าที่ติวเตอร์จำเป็นอย่างคิระ“อืมมันต้องทำแบบนี้นะ” ใบหน้าหล่อเหลาที่ฉายแววชัดตั้งแต่เด็กตั้งใจอธิบายด้วยท่วงท่าที่มีเสน่ห์ บวกกับคิระนั่งหลังตรงเป็นธรรมชาติช่วยเสริมบุคลิกให้ดูดีมากขึ้นไปอีก“…” มัวแต่มองใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้าเพลิน รู้ตัวอีกทีก็เห็นคิระโบกมือไปมาตรงหน้าเพื่อเรียกสติ“ยูตะเข้าใจใช่มั้ย?” คิริเอียงคอมองคนตรงหน้าที่หน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศยามที่ใบหน้าทั้งสองใกล้กันยูตะเป็นเด็กผู้ชายที่ใบหน้าหวานมองเผิน ๆ แอบคล้ายผู้หญิงตอนเจอครั้งแรกเขาก็ตกใจ ถ้าไม่ก้มดูว่าใส่กางเกงคงทักผิดเป็นแน่ ร่างเล็กตรงหน้าสวมแว่นตาทรงกลมช่วยขับให้ดูน่ารักน่าถนุถนอมยิ่งขึ้น อดไม่ได้ที่จะแกล้งเอานิ้วจิ้มที่ปลายจมูกดื้อรั้นนั่น“อ๊ะ!” ยูตะตกใจจนถอยหลัง ใบหน้าขึ้นสีทั้งหน้า ก่อนจะหมุนตัวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว“เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”“หึ” เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากคนหน้านิ่งได้เป็นอย่างดีตึกตัก ตึกตักเสียงหัวใจเต้นแรงระรัว มือน้อย ๆ แตะที่กลางอก กลัวว่ามันจะหลุดออกมา“คิระไม่สนใจฉันเลย เขาไม่ชอ

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   ฝันร้าย

    บางครั้งจอมทัพก็คิดว่าตนเองคงต้องไปหาหมอแล้ว เหตุผลก็คือฝันบอกเหตุ อาจเป็นเพราะเมื่อคืนเขาไม่อาจสลัดความคิดที่วนเวียนในหัวออกไปได้ เขาถึงได้ฝันถึงคิระและยูตะ ในฝันเหมือนจริงมากเสียจนตื่นขึ้นมาเหงื่อฝุดเต็มตัวจนแทบเปียกที่นอน ยิ่งตอนที่ตื่นมาแล้วพบว่าคนข้างกายไม่อยู่บนที่นอนแล้วยิ่งร้อนใจขึ้นไปใหญ่บวกกับความฝันที่ไม่อยากให้เป็นจริงในฝันนั้นเขาเห็นว่าคิระจูบกับยูตะอย่างดูดดื่มเหมือนจริงมาก ร่างหนาลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องนอนอย่างร้อนใจ ในที่สุดก็เจอคนที่ตามหากำลังปิ้งขนมปังอยู่หมับ!“อื้อ! ตกใจหมดเลย” ร่างแกร่งคว้าตัวคนที่สวมใส่ชุดนอนลายการ์ตูนหน้าแมวส้มเข้ามาในอ้อมกอดอย่างเต็มแรง ใบหน้าคมซุกไซร้จนเกิดรู้สึกจั๊กจี้จนต้องย่นคอ“มึงแปลก ๆ ละ”“แปลกยังไง” เสียงแหบพล่าเอ่ยก่อนจะเอื้อมมือไปปิดแก๊ส แล้วอุ้มยกคนตัวขาวจับวางไว้บนเคาน์เตอร์ลายหินอ่อน“อ๊ะ! ทำไรเนี่ยอื้มมม”ริมฝีปากอวบอิ่มบ่นไม่ทันขาดคำก็ต้องกลืนคำบ่นลงท้อง ก่อนคิระจะอ้าปากรับลิ้นร้อนเกี่ยวตวัดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เนิ่นนานจวนจะหมดลมหายใจปึก! ๆมือเรียวทุบอกแกร่งดังปึกเมื่อลมหายใจใกล้จะหมด“อึก…พอก่อนหายใจไม่อื้ออ”แล

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   เดต

    ปัจจุบันโรงภาพยนตร์“อยากดูเรื่องอะไร” เสียงนุ่มดังขึ้น คิระเลื่อนหน้าจอขนาดใหญ่กว่าตัวคนเพื่อดูรอบตารางฉายหนังไปมา รอคนด้านข้างตัดสินใจวันนี้เป็นวันหยุดยูตะจึงชวนเขามาดูหนังในโรงภาพยนตร์ แม้คิระจะไม่ค่อยสันทัดมากนักแต่ก็ยอมมาอย่างไม่อิดออด คิระไม่ชอบดูหนังในโรงสักเท่าไหร่ เพราะมันมืดและไม่เป็นส่วนตัว ดังนั้นทุกครั้งที่ดูก็จะเลือกดูในห้องตนเองไม่ก็ห้องเพื่อน ๆ เท่านั้น“อยากดูเรื่องนี้” นิ้วเรียวสวยตะไบเล็บสั้นกดจิ้มลงไปยังหน้าจอ เรื่องที่ปรากฏเป็นหนังสยองขวัญที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ และยังโด่งดังจนฉายไปหลายประเทศอีกด้วย“เอาสิ” คิระตอบเสียงเรียบก่อนจะกดจิ้มที่หน้าจอเลือกที่นั่งและจ่ายเงิน“อยากซื้ออะไรไปกินมั้ย”“ป๊อปคอร์นกับน้ำก็ดีนะ” สิ้นเสียงใสกล่าวจบมือของคิระก็ถูกคนด้านข้างชักจูงไปยังเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าทันที ไม่นานแก้วน้ำอัดลมทั้งสองแก้วก็อยู่ในมือของหนุ่มลูกครึ่ง“อื้มม อร่อยมากกก ยูลองกินสิ อ้าปาก” ยูตะป้อนป็อปคอร์นรสหวานเข้าปากอีกคนทันที ก่อนจะอมยิ้มไปด้วยความสุขจนแทบล้น “อร่อยมั้ย?”“อื้ม…อร่อย” คิระตอบกลับเสียงนุ่ม พลางก้มดูดน้ำจากแก้วที่ถือไว้ ดวงตาไร้รอยยิ้มเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status