“ได้ไงก่อน? เฮ้ย! พี่คิณ พี่คิณณณ” จังหวะที่คนตัวเล็กกำลังหันซ้ายหันขวาคิดหาหนทาง คนที่นั่งบนบิ๊กไบก์ก็สับเกียร์ออกตัวโดยไม่คิดจะเอาน้องสาวข้างบ้านที่ยังยืนอยู่สักบาท ทำเอาเจ้าตัวอดไม่ได้ที่จะก่นด่าไล่หลัง “ไอ้พี่คิณคนบ้า ไอ้คนเลว ไอ้คนไม่มีน้ำใจ ไอ้คนมนุษยธรรมติดลบ”
แล้วไงต่อ?
สุดท้ายปลาทูก็ต้องยืนรอจนช่างมายกรถของเธอไป จากนั้นก็ไหว้วานให้ไปส่งที่มหาลัยเพราะรู้จักกันดี เนื่องจากใช้บริการอยู่บ่อยครั้ง
“ขอบคุณนะคะคุณลุง” มือเล็กยกขึ้นพนมกลางอกด้วยความนอบน้อมก่อนจะลงจากรถ มองนาฬิกาก็แทบเข่าทรุด “สายมาสิบนาที”
ปลาทูไม่รอช้าสับขาวิ่งไปยังสนามหน้าตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์อย่างไม่คิดชีวิต โชคดีที่วันนี้ใส่รองเท้าผ้าใบ ไม่งั้นคงมีคนล้มคะมำหน้าแหก
เรื่องนี้จะโทษใครไม่ได้นอกจากไอ้พี่ข้างบ้านตัวร้ายที่ไม่ยอมให้เธอติดรถมาด้วย แม้จะไม่ใช่ความผิดเขาแต่ก็ขอตั้งข้อหาอีกฝ่ายไว้ก่อน
ทั้งที่บ้านเราอยู่ติดกัน เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ทำไมเขาไม่มีจิตสำนึกของความเป็นพี่น้องหยุมหัว อันแน่นแฟ้นของเราบ้างเลยนะ
ขวับ!
เมื่อมาถึง ทุกสายตาต่างหันมามองเธอเป็นตาเดียวแต่คนเหนื่อยหอบลากกลับไม่คิดจะใส่ใจ โน้มตัวเท้าแขนทั้งสองข้างกับเข่า หอบหายใจหนักหน่วง ปรายสายตาไปยังคนตัวโต ก็เห็นคิ้วเข้มนั้นขยับขึ้นลงอย่างยียวน
“ไอ้พี่บ้า!” ปลาทูพึมพำ ใบหน้ายุ่งเหยิงยิ่งกว่าแมวหิว
“คนสายเชิญข้างหน้า!” ยังไม่ทันจะหายเหนื่อย อคิณที่มีตำแหน่งเป็นรองประธานรุ่นตะเบงเสียงดัง ทำเอาคนอื่นสะดุ้งตัวกันเป็นแถว ขณะที่คนรู้ตัวกลอกตามองบนใส่แต่ก็ยอมเดินไปหน้าแถว
“ทำไมถึงมาสายครับน้องปลาทู” อาเธอร์ เฮดว๊าก รุ่นพี่มาดนิ่ง มีรอยสักชื่อตัวเองติดอยู่ตรงต้นคอ ยืนกอดอกเอ่ยถามน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“รถพังค่ะ ไม่เชื่อถามอะ...” ความปากไว้เลยทำให้เกือบหลุดคำว่า ‘ไอ้’ ออกไปแต่ดีที่กลับตัวได้ “พี่คิณได้ค่ะ”
“กูไม่รู้” คนถูกพูดถึงยกมือทั้งสองข้างขึ้น แววตาฉายความไร้เดียงสาไม่รู้เรื่อง แต่มันจะไม่รู้เรื่องได้ยังไงกันในเมื่อไปกี่สิบนาทีก่อนเขายังทำตัวเป็นพี่ชายที่ดีกับเธออยู่เลย เล่นเอาดวงตาคู่น้อยเบิกโตอ้าปากพะงาบ
“สรุปโกหกรุ่นพี่” มาวิน รุ่นพี่สุดหล่อหน้าหวาน ตำแหน่งเดือนคณะหรี่ตามองคนตัวเล็กอย่างจับผิด
“ปลาทูไม่ได้โกหกนะคะ” ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ คนพี่เลยอยากแกล้ง
“เต้น” คำพูดนั้นทำรุ่นพี่ทุกคนต่างมีสีหน้าที่พึงใจ
“คะ?”
“คนมาสายก็ต้องถูกลงโทษ แล้วบทลงโทษของเราก็คือให้น้องปลาทูเต้นให้เพื่อนๆดูครับ” มาวินอธิบาย ขณะที่เพื่อนคนพูดน้อยอย่าง เพทาย เตรียมตีกลองทำจังหวะ
โอ้ย! จะบ้า รู้เลยว่าทุกคนจงใจแกล้งเธอ รวมทั้ง การิน เจ้าของใบหน้าหล่อเข้มที่ปากร้ายพอๆกับอคิณ ยืนกอดอกหัวเราะในลำคอ
แล้วเธอเลือกอะไรได้
“ไก่ย่างถูกเผา ไก่ย่างถูกเผา...” เสียงใสร้องเองเต้นเอง พลางนึกขำตัวเองไปด้วย ทว่าสิ่งที่ได้กลับมาคือเสียงฮือฮาของหนุ่มๆรุ่นเดียวกันที่ทนต่อความสดใสน่ารักของเธอไม่ได้
“น่ารักวะ”
“นั้นดิ แม่งขาวฉิบหาย”
“จะมีแฟนหรือยังวะ”
“ตัวเล็กสเปกกู”
“กูวะ...”
“พูดเหี้ยไรกัน!” สิ่งที่ได้ยินมาเป็นระยะๆทำพี่ชายข้างบ้านติดข้องใจ ถามกลุ่มผู้ชายด้านหลังแถวน้ำเสียงแข็งกร้าว ทำให้พวกนั้นก้มหน้าก้มตาแทบไม่ทัน
“ใจเย็นดิมึง” การินที่ยืนอยู่ข้างกันเอ่ยเตือนเพราะรุ่นน้องที่นั่งออกันอยู่ รวมไปถึงคนที่กำลังสนุกกันด้านหน้าหันมามองเป็นตาเดียว ไม่เว้นแม้แต่ปลาทู “เสียงดังทำคนอื่นตกใจหมด”
“มีเรื่องไรกันวะ?” ประธานเฮดว้ากเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเข้ามาดู การินจึงกระซิบเล่าถึงเหตุการณ์
“ไอ้พวกเด็กเวร มันพูดจาเรื้อนใส่น้องไอ้คิณ”
“อึม” คนรับฟังเข้าใจ พลางหันไปมองปลาทูที่มีสีหน้างุนงง ก่อนจะหันกลับมาตะคอกเสียงดัง สั่งพวกรุ่นน้องที่สุมหัวกันเมื่อครู่ “พวกมึงลุกขึ้นมา แล้ววิ่งรอบสนามสิบรอบ”
พวกเขาไปบ้านอคิณอยู่บ่อยครั้งทำไมจะไม่รู้จักสาวน้อยอย่างปลาทู ที่เห็นแต่ละคนตึงๆใส่ก็แค่เป็นสไตล์ อยากแกล้งน้องก็เท่านั้น
“โหย...พี่” รุ่นน้องอีดออด ร้อนก็ร้อนยังจะให้วิ่งอีก
“ยี่สิบ” เสียงเข้มบอก สายตาไม่มีแม้แต่คำว่าล้อเล่น “ถ้าพวกมึงยังพูดอีกคำเดียว กูเพิ่มเป็นสามสิบ” เท่านั้นแหละ พวกนั้นถึงกับสับขาวิ่งทันที
“มีเรื่องไรกันคะพี่วิน” ใบหน้าหวานหันไปถามรุ่นพี่ที่อยู่ใกล้ที่สุด ขณะที่มาวินเองก็ไหวไหล่ แต่ถ้าให้เขาเดาก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของเธอนั้นแหละ
หึ! พี่น้องแน่นะวิ
“รู้ไหมว่าพวกพ่อๆกับแม่ๆเป็นห่วงมากแค่ไหน?”“ทำไมไปไหนไม่บอกไม่กล่าว?”“โทรไปก็ไม่ติด แม่เป็นห่วงจนจะบ้าแล้วลูกเอ้ย”ทั้งอคิณและปลาทูต่างก็ก้มหน้ารับฟังคำด่า เหตุเพราะหายไปกันทั้งคืนแล้วไม่ติดต่อใคร เวลานี้เอกภพกับปราณีก็บินมาด้วย ทำให้ทั้งคู่โดนสองต่อ จนหูแทบชา และด้วยความที่เป็นเด็กขี้อ้อน ร่างเล็กจึงเดินเข้าไปสวมกอดแม่ของสามี กอดแม่ตัวเองไม่ได้เดี๋ยวโดนเพิ่มข้อหา“แม่ณีขา อย่าโกรธเลยนะคะ คือพี่คิณขาเขาแค่อยากชวนหนูไปดูพระอาทิตย์ขึ้นเองค่ะ” ไหนๆก็ไหนๆ รู้วิธีเอาตัวรอดเป็นยอดดี โยนขี้ให้พี่แม่งเลย!“หึ?” ชายหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วมองภรรยาตัวน้อยด้วยความกล้ำกลืน แล้วใครมันบอกว่ามีอารมณ์วะ แม่ง!“ตาคิณ นี่แกพาน้องไปเกเรมาเหรอ?” เอกภพหันไปเท้าสะเอวใส่ลูกชาย โมโหจริงๆ เขากับภรรยาบินมาถึงตั้งแต่เช้ามืด ไม่ได้พงไม่ได้พักอะไรเลย ก็ต้องมากังวนใจเพราะไอ้ลูกตัวดี“แต่จริงๆ อคิณตามใจยัยตัวแสบตลอดนะ ไม่มีทางที่อคิณจะพาน้องไปเอง” ดารีรู้จักลูกสาวดีจึงค้าน “ดาว่ามันต้องมีอะ...”“มันจะมีอะไรล่ะน้องดา เจ้าคิณน่ะฟังใครที่ไหน” ปราณีขัดจังหวะ พลางลูบหัวลูกสะใภ้อย่างรักใคร่ ประหนึ่งว่าเด็กน้อยไม่ผิด “นี่ก็คง
อึก!อคิณถึงกับลอบกลืนน้ำลาย คำพูดคำจาของเด็กน้อยมันชวนให้หัวใจซาบซ่านเหลือเกิน“สนองมันหน่อยสิครับคนดี ซี๊ด” เป็นต้องซูดปากแรงๆ กำเบาะแน่นระบายความเสียดเสียว เด็กน้อยอ้าปากครอบเข้าไปเกือบครึ่งลำ ไม่รีรอใดๆผงกหัวขึ้นลง แรกๆก็เนิบนาบแต่สักพักก็เร่งจังหวะ โดยใช้มือสาวตรงโคนไปด้วยจ๊วบ!ปากเล็กดูดดุนจนแก้มตอบ ราวกับแท่งเอ็นร้อนคือไอศกรีมรสช็อคโกแลตชิปกับชาเขียว ที่กินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อไม่อิ่ม รัญจวนหัวใจดวงโตจนต้องขบกรามแน่น ครางเสียงเร้าร้อนดังระงมทั้งคันรถใบหน้าหวานก็ช้อนขึ้นมามองสบตาคม มันยิ่งเป็นเชื้อเพลิงปลุกกำหนัดให้เตลิด เผลอกลั้นหายใจตอนที่น้องดูดหัวเห็ดแล้วส่งยิ้มให้กันทางสายตา เล่นเอาเกร็งหน้าขาจนปวด“อ่า อย่าดูดหัว พี่เสียวค่ะ”“แล้วไม่ชอบเหรอคะ?”โห เสียงหวานขนาดนี้ กะจะไม่ยอมให้ได้เกิดกันเลยดิ“ชะ ชอบครับ อ่า” คนเสียวจัดแทบทนไม่ไหว รู้สึกทรมานเหมือนคนใจจะขาด รวบผมสลวยเอาไว้ในมือแล้วกำแน่น ขณะเดียวกันก็จ้องมองแก่นกายที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดผลุบเข้าออกไวๆคับปากอุ่นชื้น น้ำลายไหลเลอะไปทั้งท่อนเอ็น กระสันจนต้องร้องขอชีวิต “เธอครับ เบาๆ เดี๋ยวพี่แตก อือ ปลาทู หนู ที่รักพี่จะตายค่
หน้าร้านยุ่งวุ่นวายเมื่อลูกค้ามาราวกับงานลดแลกแจกแถม ปลาทูเห็นว่าพี่ๆคนอื่นรับออเดอร์ไม่ทัน จากที่กำลังช่วยเช็ดแก้ว มือเล็กจึงหยิบเอาไอแพดที่ว่างอยู่ไปรับลูกค้าแทนหลังจากรับออร์เดอร์เรียบร้อยแล้วก็วิ่งไปดูที่หลังร้าน ถึงจะเคยทำมาก่อนแต่ก็ใช่ว่าจะจำได้หมดทุกอย่าง ที่เข้ามาก็เพื่อจะอธิบายกับพ่ออีกทีว่าลูกค้าไม่เอาอันนั้น ไม่เอาอันนี้ ก่อนจะถืออาหารลูกค้าออกไปด้วย ทว่ายังไม่ทันจะผ่านพ้นประตู“ที่รักครับ” เสียงอ้อนแบบนี้รู้เลย คนรู้งานเดินกลับไปหาสามีหนุ่มแล้วยื่นแก้มให้ ขณะที่เขาก็ก้มลงมาหอมแก้มเธอโดยไม่นึกจะสนใจสายตาของคนอื่นๆ ขอให้ได้ชื่นใจ ไม่กี่วินาทีก็เอา จนถูกพ่อแซว“วิทย์ ผัดไทยไม่ต้องเติมน้ำตาลนะ” ทั้งสองต่างหันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะ ก่อนจะแยกกันไปทำหน้าที่ใครหน้าที่มัน เวลาผ่านไปจนถึงสามทุ่มกว่า ใบสั่งอาหารก็เริ่มน้อยลง อคิณจึงออกมาดูหน้าร้าน ดันตาไฟเห็นเมียเด็กกำลังถูกลูกค้าชายส่งสายตาลวนลาม ไม่พอยังยื่นโทรศัพท์มาให้เธออีก จึงก้าวขายาวๆเดินผ่านโต๊ะที่พ่อตาแม่ยายนั่งอยู่ใกล้ๆหมับ!ฝ่ามือหนารวบเอวบางเข้ามาประชิดตัว ประคองดวงหน้าหวานละมุนแล้วก้มลงทาบริมฝีปากกับเรียวปากอมชมพู
วันต่อมาหลังจากที่กึ่งหลับกึ่งตื่นมาค่อนคืน เพราะร่างกายยังปรับเวลาไม่ทัน ทำให้ช่วงเช้าปลาทูเกิดอาการสะลึมสะลือ เผลอนอนลากยาว ตื่นอีกทีก็บ่าย ไม่ทันได้เจอพ่อกับแม่ที่ออกไปทำงานตั้งแต่แปดโมงเช้า“ตื่นแล้วเหรอคะ?” เห็นร่างบางเดินออกจากห้องนอนมา อคิณจึงละจากงานขึ้นมองน้อง สีหน้าอ่อนล้า มันช่างต่างกับเมื่อวานลิบลับ “นอนต่อไหม หน้าเมียพี่ดูง่วงจัด”“ง่วงค่ะ” ว่าแล้วก็เดินมาหา คนเป็นพี่จึงวางโน๊ตไว้บนโต๊ะแล้วตบหน้าขา คนตัวเล็กเข้าใจก็ขึ้นไปนั่งบนตักแล้วยกมือขึ้นโอบรอบลำคอหนา “หิวหรือเปล่า อยากกินไรไหม?” ก้มลงจุมพิตขมับน้อย ซึ่งน้องก็พยักหน้า “งั้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ ไปหาพ่อทินกับแม่ดากัน”“ค่ะ” น้ำเสียงงัวเงีย เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอก่อนจะสอดแขนเข้าใต้ข้อพับแล้วอุ้มคนตัวเล็กไปส่งที่ห้องน้ำ จัดเตรียมข้าวของเสื้อผ้าให้เสร็จก็ออกมาทำงานต่อรอไม่นานน้องก็ออกมาด้วยชุดเดรสกระโปร่งแขนตุ๊กตาน่ารัก ข้างนอกอากาศเย็นจึงมีเสื้อแขนยาวใส่ทับไปอีกตัว ในขณะที่เขาแต่งตัวด้วยเสื้อยืดกางเกงสแล็กและตามด้วยเสื้อโค๊ทอีกที“รถสวยจังค่ะ” ปลาทูตาโตกับรถยนต์คันใหม่ของพี่ที่ผู้เป็นพ่อซื้อให้ ใบหน้าหล่อเหลาฉีก
ความเย็นสบาย ทำให้ดูการ์ตูนยังไม่ทันจะถึงครึ่งเรื่อง คนตัวเล็กก็นอนหลับซบอยู่กับอกแกร่ง ตื่นมาก็ตอนที่ใกล้จบเรื่องแล้ว ดวงตาคู่น้อยเปิดสนิท ท้องไส้ทำงานเมื่อเห็นอาหารและของหวานมารอพร้อม“พี่คิณขากลับที่ได้แล้วค่ะ” “ตื่นมาก็ไล่ผัวนี่คือไร?” “ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ” เห็นพี่ชักสีหน้าใส่ก็รีบอธิบาย “หนูหิว พื้นที่วางมันนิดเดียวเอง แค่ส่วนของหนูก็เต็มโต๊ะแล้วค่ะ”“ออ...นี่เห็นแก่กินจนไม่สนใจผัวคนนี้แล้ว?” กอดอกสะบัดหน้าหนีอย่างแง่งอน “ไม่ใช่นะคะ หนูแค่กลัวว่าพี่คิณจะนั่งกินไม่สะดวก ที่มันแคบเนี่ยเห็นหรือเปล่า?” มีการทำไม้ทำมือวัดพื้นที่ให้พี่ดู แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี เพราะเขาอยากนั่งอยู่ตรงนี้ อยากนั่งกับเธอ อยากนั่งติดกับเธอ สุดท้ายเธอก็ต้องเป็นฝ่ายยอม “โอเคค่ะ ถ้าพี่คิณขาไม่ลำบาก เรานั่งด้วยกันก็ได้ค่ะ”คนพึงใจผุดรอยยิ้มหวาน สอดมือเข้าใต้รักแร้ของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงระหว่างขา ยกขึ้นให้มานั่งกับขาข้างหนึ่งของตัวเอง ให้ใบหน้าเราเสมอกัน แล้วนั่งทานข้าวด้วยกันทั้งแบบนั้นมีบ้างที่คนตัวเล็กเขินอายกับสายตาของผู้โดยสารบางท่านที่เดินไปเดินมากับพนักงานของสายการบิน แต่หัวใจก็เต็มเป
1เดือนต่อมาบนเครื่องบินชั้น First Class เครื่องขึ้นได้ไม่นาน อคิณก็ปลดเข็มนิรภัยแล้วเดินไปยังที่นั่งของภรรยาตัวน้อยข้างๆ เธอกำลังตาตื่นกับการหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปท้องฟ้าและตึกอาคารข้างล่างพื้นดินไม่ว่าจะขึ้นเครื่องมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งเธอก็ยังคงเป็นเด็กน้อยเหมือนเช่นวันวานเด็กน้อยปลาทูของพี่อคิณ มันอดไม่ได้ที่จะไม่ล้วงเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปคนตัวเล็กจากทางด้านหลัง พลางเรียกเสียงหวาน “ที่รักครับ” “คะ?” ดวงหน้าละมุนหันมา ปลายนิ้วโป้งก็กดถ่ายทันที ความน่ารักของน้องมันเย้ายวนจนไม่อาจยั้งมือถ่ายแค่หนึ่งรูป ก่อนจะเข้าไปอยู่ใกล้ๆแล้วถ่ายรูปร่วมกัน ก่อเกิดความสุขเล็กๆน้อยๆให้หัวใจได้ชุ่มช่ำ ก่อนจะถูกขัดจังหวะแอร์โฮสเตสสาวสวยมาเสริฟ Welcome Drink “ของผมเอามาไว้ตรงนั้น” ใช้สายตาชี้ไปตรงแท่นวางของ “ที่เดียวกับเมียผมเลยนะครับ” หญิงสาวเหวอไปเล็กน้อย แต่เพียงอึดใจก็ระบายยิ้มบางๆแล้ววางแก้วในส่วนของชายหนุ่มไว้คู่กันกับของเด็กสาวที่เน้นย้ำเพราะเขาเห็นนานแล้วว่าอีกฝ่ายนั้นแอบหันมาส่งสายให้บ่อยๆ ถึงเขาจะไม่เล่นด้วยแต่อย่างน้อยก็ควรออกตัว ไม่อยากให้เรื่องราวมันซ้ำรอยเดิม ก่อนจะขอให้เธอปรั