Share

บทที่ 13

Author: ชาผลไม้
อวี่ซีกระโดดลงจากรถม้าและยืนคุ้มกันอยู่ด้านหลังฉู่เนี่ยนซี ส่วนอวี่ตง อวี่หนาน และอวี่เป่ยถือดาบคุ้มกันอยู่ด้านหน้าของนาง

ฉู่เนี่ยนซีเริ่มหมดความอดทน นางกวาดสายมององครักษ์รอบตัวด้วยสีหน้าเย็นชา และพูดเสียงต่ำแต่หนักแน่น "หลบไป!"

อวี่หนานเลิกคิ้ว และอดไม่ได้ที่จะมองเจ้านายคนใหม่จากหางตา

ใคร ๆ ก็บอกว่าพระชายาหลีเป็นหนึ่งในคนที่ยอมคนมากที่สุดในเมืองหลวง นางถูกเอาอกเอาใจมาตั้งแต่เด็ก จนมีนิสัยอ่อนแอเหมือนลูกคุณหนู

ไม่ว่านายหญิงจะมีแผนการอะไร นางก็คงไม่กล้าแม้แต่จะเมินทหารองครักษ์ของท่านอ๋องหลีแน่ และยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ยอมให้ซ่างกวานเยียนแต่งเข้ามาในจวนท่านอ๋องเช่นนี้ด้วย

เพียงแต่วันนี้เมื่อมองดูแล้ว...เหมือนเรื่องนี้จะเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น

ทันทีที่สิ้นสุดคำพูด เหล่าทหารก็มองหน้ากันก่อนจะมองไปที่หัวหน้าองครักษ์

องครักษ์มีสายตาดูถูกเหยียดหยาม และทำราวกับว่าตนเองกำลังปฏิบัติตามหน้าที่อยู่ "ในช่วงเวลาพิเศษของจวนเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็มิได้รับอนุญาตให้เข้าไปทั้งนั้น"

ฉู่เนี่ยนซียิ้มเยาะที่มุมปากก่อนจะก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว "ไม่ว่าใครอย่างนั้นรึ? แม้แต่พระชายาอย่างข้าจะกลับบ้านตัวเองก็ยังไม่ได้ด้วยใช่หรือไม่?"

“เชิญพระชายากลับไปก่อน กระหม่อมเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่งเท่านั้น”

“ช่างเป็นคนที่ยึดมั่นในหน้าที่เสียจริง ตอนนี้ท่านอ๋องไม่สามารถออกคำสั่งเช่นนี้ได้ ข้าอยากจะรู้นักว่านอกเหนือจากคำสั่งของท่านอ๋องและคำสั่งของข้าซึ่งเป็นพระชายา พวกเจ้ายังฟังคำสั่งของใครอีก?”

“พระชายาจากไปตั้งแต่วันอภิเษกสมรสของท่านอ๋อง จึงไม่รู้ว่าพระชายารองซ่างกวานเป็นคนจัดการเรื่องต่าง ๆ ภายในจวน พวกกระหม่อมจำเป็นต้องฟังคำสั่งนาง” องครักษ์ไม่ได้มองฉู่เนี่ยนซีด้วยซ้ำ พวกเขาไม่ได้รู้สึกกลัวเพราะมีคนคอยหนุนหลังอยู่

“โอ้ เช่นนั้นหรือ?” ฉู่เนี่ยนซีเลิกคิ้วและยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะมองอวี่ตงที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตาดุจนกฟีนิกซ์

องครักษ์ตกตะลึงกับการแสดงออกของนาง ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบโต้ ร่างของอวี่ตงก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น เขาก็ชักมีดออกมาและโจมตีกระดูกขาของเขาทันที!

องครักษ์กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะล้มลงกับพื้น

ฉู่เหนียนซีสะบัดแขนเสื้อ มองดูเขาจากด้านบนแล้วพูดช้า ๆ "วันอภิเษกสมรสอย่างนั้นรึ? ท่านอ๋องหลีแต่งงานกับข้าคนเดียวเท่านั้น! เขาจัดงานอภิเษกสมรสอีกครั้งตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? นอกจากนี้ แม้ว่าแม่นางซ่างกวานจะเข้ามาในจวนในฐานะชายารอง แต่นางก็เป็นเพียงนางสนมเท่านั้น พวกเจ้ากล้าเมินคำสั่งของข้าซึ่งเป็นชายาเอก แต่กลับเชื่อฟังคำสั่งจากนาง พวกเจ้าไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา หรือว่า...เพิกเฉยต่อพระประสงค์ของจักรพรรดิกันแน่?”

ทันใดนั้นองครักษ์ที่อยู่รอบ ๆ ก็ตื่นตระหนกกันทันที

เนื่องจากซ่างกวานเยียนได้รับความโปรดปราน พวกเขาจึงเชื่อฟังคำสั่งของนาง แต่ทุกสิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นก็สมเหตุสมผล แม้ว่านางจะไม่ได้รับการโปรดปราน แต่นางก็เป็นนายหญิงที่ถูกต้องตามกฎหมาย

เพียงแต่ หากปล่อยให้นางเข้าไป พวกเขาจะอธิบายกับคนในจวนอย่างไร?

"พวกเจ้ากำลังทำอะไร!"

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากด้านใน ทหารต่างพากันตกตะลึง และพร้อมใจกันหลีกทางให้

ฉู่เนี่ยนซีมองไปทางแหล่งที่มาของเสียง เห็นชายร่างสูงเดินออกมาพร้อมกับดาบที่เอว

เขาคนนี้คือเหลียงหยวน ผู้เป็นองครักษ์และสหายที่เติบโตมากับเย่เฟยหลี

เหลียงหยวนมองไปที่ฉู่เนี่ยนซี ใบหน้าของเขาดูเรียบเฉย เพียงแค่หันตัวไปด้านข้าง และหลีกทางให้พร้อมกับพูดขึ้นว่า "เชิญพระชายา ตอนนี้ท่านอ๋องอยู่ในห้องโถงหลักพ่ะย่ะค่ะ"

ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเหลียงหยวนก่อนจะเดินเข้าไปในจวน

เหลียงหยวนมองแผ่นหลังของนาง และร่องรอยของการเปลี่ยนแปลงก็แวบขึ้นมาในดวงตาของเขา

หากฉู่เนี่ยนซีเจอเหตุการณ์เช่นนี้ นางคงจะร้องไห้โวยวาย หรือไม่ก็ระเบิดความโกรธไปแล้ว

แต่ตอนนี้ฉู่เนี่ยนซีดูราวกับคนละคน นางไม่เพียงแต่มีวิธีการที่เฉียบคมเท่านั้น แต่ยังสามารถจัดการหัวหน้าองครักษ์ได้โดยไม่พูดอะไรสักคำ และแต่คำพูดของนางก็ดูฉะฉานและเฉียบคม

อย่างไรก็ตาม พลังที่น่าหวาดกลัวที่มาจากตัวนางนั้นทำให้เหลียงหยวนเห็นร่องรอยของเย่เฟยหลีผ่านตัวนาง

เหลียงหยวนตกตะลึงกับความคิดตัวเอง เขาจะเปรียบเทียบหญิงสาวอัปลักษณ์กับท่านอ๋องได้อย่างไร

เขาสงบสติอารมณ์แล้วเดินตามเข้าไปด้านในจวน

ทหารในจวนมารวมกลุ่มกันใหม่ทันที และรีบช่วยกันพยุงองครักษ์ขึ้นมาจากพื้นและตามเข้าไป

ประตูปิดลงอีกครั้งราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในช่วงบ่ายอันเงียบสงบนี้

ก่อนที่ฉู่เนี่ยนซีจะก้าวเข้าไปในห้องโถงหลักของเย่เฟยหลี เสี่ยวเถาก็วิ่งโซเซมาและพูดว่า "พระชายา ท่านกลับมาแล้ว! คราวหน้าต้องพาเสี่ยวเถาไปด้วยนะเพคะ!"

เมื่อเห็นสีหน้าโศกเศร้าของนาง ฉู่เหนียนซีจึงตบมือนางเบา ๆ เพื่อปลอบใจ "เอาล่ะ คราวหน้าข้าจะพาเจ้าไปด้วย ตอนนี้บอกเรื่องเกี่ยวกับท่านอ๋องให้ข้าฟังก่อน"

เสี่ยวเถารู้ถึงความสำคัญของเรื่องนี้ จู่ ๆ นางก็แสดงสีหน้าจริงจังและรีบเดินเข้าไปกระซิบ "เช้านี้ท่านอ๋องควรจะไปท้องพระโรง แต่ลือกันว่าขณะที่พระองค์ขี่ม้าอยู่หน้าจวน แล้วก็มีลูกธนูพุ่งเข้ามาจากทางไหนไม่รู้ปักโดนท่านอ๋องเพคะ! ลูกธนูมียาพิษ และมันก็เป็นพิษที่แปลกมาก ในตอนเช้ามีหมอสามคนมาจากสำนักหมอหลวง และพวกเขาก็พยายามควบคุมพิษอย่างสุดกำลัง แต่พิษแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถกำจัดได้เพคะ”

พิษประหลาดอย่างนั้นรึ?

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status