Share

บทที่ 349

Author: ชาผลไม้
เขาบีบไหล่ของเย่ฉงเฉิงอย่างเคร่งขรึม และความจริงใจในดวงตาของเขาทำให้เย่ฉงเฉิงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

“น้องเจ็ด บางสิ่งข้าก็ตระหนักรู้เป็นอย่างดี หากยังไม่ชัดเจนพอ ข้าได้สาบานด้วยชีวิตของข้าที่ห้องโถงใหญ่เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนางแล้ว และเจ้าต้องจำไว้ว่าในชีวิตนี้ คนที่จะเป็นพี่สะใภ้สามของเจ้ามีเพียงฉู่เนี่ยนซีเท่านั้น!”

“ขอทีเถอะ” เย่เฟยหลีดึงมือของเขาออกแล้วกลับไปเป็นอ๋องหลีที่เย็นชา เขาก้าวขึ้นไปนั่งบนหลังด้วยสายตาที่แน่วแน่อย่างไม่ต้องสงสัย

ทหารที่แต่งตัวแตกต่างจากทหารคนอื่น ๆ มาหาเย่ฉงเฉิงและแสดงท่าทางเชื้อเชิญ “องค์บุรุษเจ็ด อย่าทำให้พวกกระหม่อมต้องลำบากใจเลย พวกกระหม่อมยังต้องปฏิบัติตามรับสั่ง เชิญท่านกลับไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อบุรุษคนนั้นเชิญเย่ฉงเฉิงออกจากฝูงชน และรักษาระยะห่างจากพวกเขาเล็กน้อย เขาพูดด้วยเสียงแผ่วเบาที่มีเพียงทั้งสองคนได้ยิน “กระหม่อมคือรองหัวหน้าโจวเหยี่ยน หากองค์บุรุษเจ็ดทรงมีเรื่องอะไร ท่านสามารถเชื่อใจกระหม่อมได้พ่ะย่ะค่ะ”

เย่ฉงเฉิงมองโจวเหยี่ยนกลับไปรวมกลุ่ม เมื่อรู้ว่ามีคนของเย่เฟยหลีอยู่ที่นี่ เขาก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น

เขาขึ้นหลังม้าหันกลับไปและ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 350

    ไทเฮาทรงประทับอยู่บนตั่งนุ่ม ๆ ซึ่งด้วยผ้าห่มขนสุนัขจิ้งจอกสีดำแวววาว หลังจากที่องค์จักรพรรดิทรงทักทายและกล่าวสวัสดีแล้ว พระองค์ก็นั่งอีกด้านหนึ่ง แม่กับลูกชายนั่งหันหลังให้บริวาร และกำลังหารือกันเรื่องอ๋องหลีและชายาของเขา“องค์จักรพรรดิ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอาณาจักร หากฉู่เนี่ยนซี สตรีนางนั้นมีความสัมพันธ์กับต่างแดนจริง ๆ ท่านจะต้องจัดการอย่างรวดเร็วและหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้น”ไทเฮาทรงตรัสช้า ๆ พร้อมหลับตาพลางขมวดคิ้วเผยให้เห็นความรู้สึกไม่สบายใจ“เพียงแต่ว่าเราไม่พบหลักฐานชี้ชัดใดใดที่แสดงว่าฉู่เนี่ยนซีร่วมมือกับศัตรู ยิ่งไปกว่านั้น นางเป็นบุตรีของมหาเสนาบดี การเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวอาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เรื่องนี้เสด็จแม่และลูกต้องคิดอย่างรอบคอบ”ในขณะนี้นางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงที่รออยู่ข้าง ๆ ไทเฮาก็รีบเข้ามา ลมเย็น ๆ ที่พัดเข้ามาทำให้ไทเฮาทรงลืมพระเนตร เมื่อเห็นว่านางดูไม่สุขุมก็รู้สึกไม่พอใจ “มีอะไร?!”“ทูลไทเฮา องค์หญิงฉางเล่อต้องการขอเข้าเฝ้าเพคะ”“หลิงเอ๋อร์?”ไทเฮาตกใจมากและรีบเชิญเย่หลิงเอ๋อร์เข้ามาในตำหนักอย่างรวดเร็ว นางรู้สึกเป็นทุกข์มากเมื่อเห็นใบหน้าเล็

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 351

    ไทเฮาดูเหมือนเหนื่อยล้า น้ำเสียงของนางฟังดูอ่อนแรงขึ้นมากเย่หลิงเอ๋อร์ไม่มีทางเลือกนอกจากโค้งคำนับและจากไปหลังจากออกจากประตูพระราชวัง เย่หลิงเอ๋อร์ก็เงยหน้าขึ้นมองพระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์อันเย็นเยียบตกลงมาในดวงตาของนาง ทำให้อารมณ์ของนางดูแปลกไปมากแต่ไม่นานหลังจากกลับมาถึงตำหนักฉางหลิง เย่หลิงเอ๋อร์ก็มีอาการหัวใจวายและเป็นลมล้มลงกับพื้น หลานชุ่ยตกใจมากรีบตะโกนเรียกหาหมอหลวงทันที!เมื่อจักรพรรดิ ไทเฮา และฮองเฮามาถึง หมอหลวงได้ตรวจชีพจรให้นางแล้ว และกำลังจะออกจากพระราชวังเพื่อเขียนใบสั่งยา“หลิงเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?” จักรพรรดิถามอย่างเป็นกังวล“ทูลฝ่าบาท องค์หญิงฉางเล่อตากลมหนาวจึงทำให้มีไข้และเนื่องจากความเครียดจึงหมดสติไปพะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปสั่งยาให้เดี๋ยวนี้ เพียงแต่ไม่สามารถรับประกันได้ว่าองค์หญิงจะตื่นขึ้นมาเมื่อใด” หมอหลวงทำความเคารพก่อนจะตอบจักรพรรดิ“เป็นเวลาหลายปีแล้ว พวกเจ้ายังรักษาโรคของนางไม่หายอีกรึ แล้วข้าจะมีพวกเจ้าไว้ทำไมกัน?! หากหลิงเอ๋อร์เป็นอะไรไป หัวพวกเจ้าได้หลุดออกจากบ่าแน่!”เมื่อเห็นจักรพรรดิโกรธ หมอหลวงก็ตอบสนองอย่างสั่นเทาและรีบไปจัดเตรียมยาทันที

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 352

    ฮองเฮาตกตะลึง นางได้ยินข่าวจากตำหนักเฟิงอี้ว่าฉู่เนี่ยนซีได้ฟื้นฟูคืนรูปลักษณ์เดิมของนางแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่านางจะดูเหมือนฉู่เคอมากขนาดนี้!แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลานสาวจะดูเหมือนป้านางระงับความตกใจ และรักษาความสงบและสง่าของฮองเฮาเอาไว้ และนั่งลงด้านข้างเพื่อดูว่าฉู่เนี่ยนซีจะมีวิธีรักษาใดบ้างหลังจากที่ฉู่เนี่ยนซีทำความสะอาดมือเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าไปหาเย่หลิงเอ๋อร์ เมื่อตรวจชีพจรให้เย่หลิงเอ๋อร์ ก็รู้สึกว่านางสกิดฝ่ามือของตน หัวใจของนางจึงกระตุกเล็กน้อย แล้วหันกลับไปทำความเคารพต่อจักรพรรดิและฮองเฮาก่อนจะทูลว่า “เสด็จพ่อเสด็จแม่โปรดออกไปรอที่ห้องโถงก่อนเถิดเพคะ ในนี้มีคนเยอะเกินไป องค์ต้องการอากาศบริสุทธิ์”จักรพรรดิมองหน้าฉู่เนี่ยนซี แสงเทียนสลัวกระทบใบหน้าของนาง ทำให้เห็นใบหน้าของนางชัดเจนมากขึ้นอีก แล้วภาพฉู่เคอที่คุกเข่าก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เขาอยากจะพยุงนางขึ้นมา แต่ก็รู้สึกตัวขึ้นในไม่ช้า “เจ้ามีวิธีรักษาหรือไม่?”จักรพรรดิขมวดคิ้วถามฉู่เนี่ยนซี เขารู้ว่าฉู่เนี่ยนซีมีความสามารถแต่ก็ไม่ตั้งคำถามมากเกินไป“ลูกสามารถรักษาได้เพคะ”น้ำเสียงของนางบางเบาแต่หนักแน่น ฉู่เนี่ยน

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 353

    หลังจากที่ขันทีเฉินปลุกจักรพรรดิและฮองเฮาขึ้นมา ฉู่เนี่ยนซีก็คุกเข่าลงและพูดด้วยความดีใจว่า "องค์หญิงฉางเล่อดีขึ้นแล้วเพคะ เพียงแค่ใช้ยาที่ลูกออกให้ค่อย ๆ ปรับสมดุล และไม่ทำกิจกรรมที่หนักจนเกินไป ก็จะหายดีเพคะ”“จะไม่หมดสติไปอีกใช่หรือไม่?” เมื่อได้ยินเช่นนั้น จักรพรรดิก็มีความสุขมาก"เพคะ"เมื่อได้ยินคำตอบที่มั่นใจของฉู่เนี่ยนซี ฮองเฮาที่อยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกไม่พอใจ นางทำได้เพียงกำหมัดในแขนเสื้อและแสร้งทำเป็นยินดี "หม่อมฉันขอแสดงความยินดีกับฝ่าบาทด้วยเพคะ ขอให้องค์หญิงฉางเล่อพลานามัยแข็งแรง"“ขอแสดงความยินดีกับฝ่าบาท ขอแสดงความยินดีกับองค์หญิงฉางเล่อ”คนอื่น ๆ ก็คุกเข่าลงและตะโกนขึ้นพร้อมกัน“ลุกขึ้นเถิด” องค์จักรพรรดิหันไปหาฉู่เนี่ยนซีและดูมีพลังมากยิ่งขึ้น “เจ้าอยู่ดูแลองค์หญิงฉางเล่อที่นี่อีกสักสองสามวันแล้วกัน”“น้อมรับคำสั่งเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าฮองเฮารออยู่ที่นี่ทั้งคืนแล้ว จึงให้กลับไปพักผ่อนโดยไม่ต้องเข้าทักทายนางสนม จากนั้นเขาก็ส่งคนไปที่พระตำหนักอันชิ่งเพื่อรายงานกับไทเฮา ล้างหน้าล้างตาก่อนจะเดินทางไป ท้องพระโรงฉู่เนี่ยนซีเขียนใบสั่งยาบำรุง เย่หลิงเอ๋อร์เกิดมาพร้อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 354

    ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างขอบคุณสายตานี้ทำให้เย่ฉงเฉิงอดสงสัยไม่ได้ว่านี่คือฉู่เนี่ยนซีที่หยิ่งผยองและชอบเถียงเขาคนนั้นหรือนางหันศีรษะมองออกไปข้างนอก เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเข้ามา จึงหยิบปากกาและกระดาษขึ้นมาวาดภาพจากความทรงจำ ฉู่เนี่ยนซียื่นภาพให้เย่ฉงเฉิงแล้วรีบกล่าวขึ้นว่า "นี่เป็นหนึ่งในคนของมณฑลตะวันตก ท่านไปหาอวี๋เป่ยและบอกให้พวกเขารีบตามหาคนกลุ่มนี้โดยเร็วที่สุด”ขณะที่เย่ฉงเฉิงเก็บภาพเหมือน หลานชุ่ยก็เข้ามาพร้อมยา เมื่อนางเห็นเขา ก็โน้มตัวลงโค้งคำนับและมอบยาให้ฉู่เนี่ยนซี“ในเมื่อท่านอายังพักฟื้นอยู่ งั้นข้าก็จะไม่รบกวน หากท่านอาตื่นแล้วก็บอกข้าด้วย”เย่ฉงเฉิงจงใจพูดให้หลานชุ่ยฟัง จากนั้นจึงออกจากวังไปพร้อมกับภาพวาดแต่เมื่อเขากำลังจะก้าวออกจากห้อง เขาก็ได้ยินเสียงคนข้างหลังกระซิบขอบคุณ เขาตกตะลึงและมีความคิดมากมายอยู่ครู่หนึ่ง แต่จากนั้นเขาก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติและยืดอกเดินออกจากห้องไปอีกด้านหนึ่ง จวนขององค์ชายหลีเงียบมากจนเกือบจะได้ยินเสียงใบไม้ร่วง เย่เฟยหลีกำลังเขียนพู่กันอยู่ในห้องอักษร ลายมือของเขามีความหนาและทรงพลัง แต่เขาไม่ได้ จดจ่ออยู่กับตัวอักษร หูของเ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 355

    นางทำเพียงเพื่อมิตรภาพระหว่างคนสองคนเท่านั้น ไม่ใช่เพื่ออยากได้รับรางวัลด้วยพระราชกฤษฎีกาของไทเฮา ผู้คุมยิ้มมากขึ้นเมื่อเห็นฉู่เนี่ยนซีแต่ฉู่เนี่ยนซียังคงสงบนิ่ง จึงทำให้ผู้คุมแอบสาปแช่งลับหลังว่านางช่างไม่รู้จักบุญคุณส้มเขียวหวานถูกส่งมาที่ตำหนักเฟิงอี้ เจี่ยงจาวอวิ๋นค่อย ๆ ลอกเปลือกออก ดึงไหมสีขาวที่อยู่บนนั้นออกแล้ววางลงตรงหน้าฮองเฮา“เกิดอะไรขึ้น เหตุใดจึงดูไม่มีความสุขเช่นนั้น? ตั้งแต่มาที่นี่ก็ดูไม่ผ่อนคลายเอาเสียเลย”ฮองเฮาวางหนังสือในมือลง ใช้เล็บสีแดงสดแบ่งส้มออกครึ่งหนึ่งก่อนจะใส่เข้าไปในปาก และถามเจี่ยงจาวอวิ๋นโดยไม่ละสายตาเจี่ยงจาวอวิ๋นกำลังเช็ดน้ำส้มบนมือด้วยผ้าเช็ดหน้า เมื่อนางได้ยินฮองเฮาถามสิ่งนี้ จึงรู้ตัวว่าตนเองซ่อนมันไม่มิดนางขยับตัวเบา ๆ ไปที่ด้านข้างของฮองเฮา นวดไหล่ของฮองเฮาและกล่าวขึ้นว่า "เสด็จแม่เพคะ เสด็จพ่อขังฉู่เนี่ยนซีไว้แบบนี้ แต่ไม่การเคลื่อนไหวใด ๆ เลย พระองค์ทรงคิดอะไรอยู่กันแน่เพคะ?"ฮองเฮาเงยหน้าขึ้น และสาวใช้ก็ถวายชา ฮองเฮารับมาก่อนจะส่ายหน้าแล้วเป่าชาร้อนเบา ๆ สร้อยไข่มุกสีทองบริสุทธิ์บนขมับขกระทบกับหูของนางเบา ๆ“ก็นั่นน่ะสิ ข้าคิดว่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 356

    “ฉู๋เนี่ยนซี พบกันอีกแล้วนะ เจอข้าในสถานที่เช่นนี้แบบนี้ เจ้าดีใจหรือไม่?”เจี่ยงจาวอวิ๋นมองไปที่ใบหน้าของฉู๋เนี่ยนซี มันสวยงามมาก รอยยิ้มของนางกลายเป็นความชั่วร้ายและดุร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมองไปที่ดวงตาอันดื้อรั้นและหยิ่งยโสของฉู๋เนี่ยนซี ไฟในหัวใจของนางก็ระเบิดออกมา นางหยิบแส้สั้นขึ้นมาและเหวี่ยงมันใส่หน้าของฉู๋เนี่ยนซีอย่างรุนแรงเลือดไหลไปทั่วใบหน้าที่สวยงามของฉู๋เนี่ยนซีทันที ดวงตาของนางมืดมนลง เมื่อเห็นว่ากระโปรงเสื้อผ้าถูกแต้มไปด้วยสีแดงฉาน นางก็มองไปที่เจี่ยงจาวอวิ๋นอย่างดุเดือด "วันนี้ ท่านทุบตีข้าให้ตายที่นี่ หรือไม่ก็รอให้ข้าออกไปแล้วจะเอาคืนท่านเป็นสิบเท่าร้อยเท่า”เจี่ยงจาวอวิ๋นตกใจมากกับความหนาวเย็นที่อยู่รอบ ๆ ฉู๋เนี่ยนซี ทั้งยังมีดวงตาที่เหมือนหมาป่าของนาง หลังจากที่เจี่ยงจาวอวิ๋นสงบลง นางก็รู้สึกเสียหน้าและโกรธมากจนยกแส้ขึ้นสูงเพื่อตีฉู๋เนี่ยนซีอีกครั้ง“บอกมา เจ้าติดต่อกับมณฑลตะวันตกได้อย่างไร?!”หลังจากที่แส้ปลิวขึ้นไปในอากาศสองครั้ง มันก็ตกลงบนผิวหนังอันอ่อนอุ่นของฉู๋เนี่ยนซีฉู๋เนี่ยนซีรู้ว่าเจี่ยงจาวอวิ๋นเพียงต้องการระบายความโกรธของตัวเอง ดังนั้นนางจึงเง

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 357

    เป่ยถูปรากฏตัวออกมาจากที่ใดก็ไม่รู้ เขาสวมเสื้อคลุมสีฟ้าอ่อน ด้วยรูปร่างที่แข็งแกร่งและรอยยิ้มที่ผ่อนคลายเมื่อคนหนุ่มทั้งสองยืนอยู่ด้วยกัน เป่ยถูดูเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่า ในขณะที่เซวียหนานคงดู​​​​เป็นคนที่อ่อนแอกว่า“เรื่องโรงพนันหุยหุน ฝีมือเจ้าหรือเปล่า? อย่าบอกว่าไม่ใช่ ข้าคิดดีแล้ว มีเจ้าเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่มีความสามารถในการวางแผนเช่นนี้”ดวงตาของเซวียหนานคงเย็นลงเล็กน้อย เขายืนลังตรงอยู่ตรงข้ามเป่ยถู และจ้องมองตรงไปที่ดวงตาของอีกฝ่ายแต่มือที่กำแน่นกลับทรยศต่ออารมณ์ของเขา สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดคือการได้ยินคำตอบปฏิเสธของเป่ยถู“ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วยังไง? ไม่ใช่แล้วจะยังไง? เกิดอะไรขึ้นกับโรงพนันหุยหุน? เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าของโรงพนันหุยหุน? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้ากัน?”เป่ยถูไม่ตอบคำถาม แต่ถามกลับหลายข้ออย่างใจเย็น เซวียหนานคงพูดไม่ออกและตกตะลึงทันที“เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วย เจ้าทำได้อย่างไร…?”เซวียหนานคงบูดบึ้งและมองไปยังเป่ยถูด้วยความขุ่นเคือง ก่อนที่เขาจะพูดจบเป่ยถูก็ขัดขึ้นก่อน “หนานคง!” เป่ยถูเรียกเขาเสียงต่ำ ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เจ้ากลับมาทั้งที กลับมาตั้งคำถามกับข

Latest chapter

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status