Share

บทที่ 532

Penulis: จันทร์กระจ่างภูผา
เมื่อองค์ชายสี่หลี่จือเห็นคณะทูตจากชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือมาถึง เขาก็รีบลงจากม้าแล้วนำขุนนางกรมธรรมการกลุ่มหนึ่งไปทักทายพวกเขาอย่างรวดเร็ว “หลี่จือ องค์ชายสี่แห่งต้าเซี่ยได้รับคำสั่งให้มาต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกคนจากแดนไกล...”

เซียวเม่ยเอ๋อร์เปิดม่าน เผยให้เห็นใบหน้าที่งดงามไม่มีใครเทียบได้ “ขอบพระทัยเพคะ องค์ชายสี่”

หลี่จือตะลึงงันไปทันที!

ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นสตรีที่งดงามมาก่อน

แต่สตรีที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล มีความดุร้ายอย่างเซียวเม่ยเอ๋อร์นั้นหาได้ยากมากในต้าเซี่ย

เมื่อเซียวเม่ยเอ๋อร์เห็นท่าทีของหลี่จือ นางก็เยาะเย้ยทันที “บุรุษจากต้าเซี่ยก็คงไม่มีอะไรไปมากกว่านี้แล้ว! ช่างน่าเบื่อจริงๆ...”

นักล่าจะรู้สึกเบื่อหน่ายกับเหยื่อที่ได้มาง่ายเกินไป

จู่ๆ ใบหน้าของหลี่จือก็แดงเรื่อ เขาพูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว

เซียวเม่ยเอ๋อร์มองไปที่หลี่หลงหลิน หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “เขาเป็นใคร? กล้าเมินต่อข้า! ช่างน่าสนใจดี...”

หลี่จือรีบพูดว่า “เขาคือองค์ชายเก้า หลี่หลงหลิน...”

จู่ๆ เซียวเม่ยเอ๋อร์ก็เข้าใจ “อ่อ เขาเป็นองค์ชายเก้าที่ไม่ได้เรื่องผู้นั้นน่ะหรือ! ข้าเคยได้ยินชื่อของเขามาบ้าง!”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 533

    ตอนนี้เขามีอำนาจทหารอยู่ในมือ ได้รับความโปรดปรานจากเสด็จพ่อ ชื่อเสียงก็รุ่งโรจน์ แล้วข้าล่ะ?เมื่อครู่ขอร้องให้ท่านตาไปบอกท่านยาย หาทางให้เสด็จพ่อปล่อยข้าจากการกักบริเวณแต่ทันทีที่ข้าออกมา ก็ต้องมาขัดแย้งกับเจ้าเก้าหรือ?ข้ายังอยากจะมีชีวิตต่ออีกหลายวันหลี่จือยิ้มประจบประแจงกล่าวว่า “ท่านราชครูอย่าถือสาเลย! น้องเก้าของข้าเป็นคนเจ้าอารมณ์! อย่าไปถือสาเขาให้มากนักเลย! ท่านลงจากหลังม้า พวกเราก็จะเดินเข้าเมืองหลวงไปพร้อมกับพวกท่าน...”เซียวเซวียนเช่อโกรธมาก “มีเหตุผลเสียที่ไหน!”ทันทีที่มาถึงเมืองหลวง ยังไม่ได้เข้าไปในประตูเมืองด้วยซ้ำ ก็ถูกวางอำนาจใส่แล้วเขาเป็นราชครูชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ แล้วจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?สิ่งที่น่าโมโหที่สุดก็คือ คนที่ทำให้ตนอับอาย จริงๆ แล้วคือองค์ชายเก้าแห่งต้าเซี่ยผู้ไร้ประโยชน์ที่มีชื่อเสียงผู้นั้น!เซียวเซวียนเช่อไม่อาจกลืนความโกรธนี้ได้จริงๆในเวลานี้ เสียงที่มีเสน่ห์และน่ารักของเซียวเม่ยเอ๋อร์ก็ดังออกมาจากรถม้า “ในเมื่อต้าเซี่ยมีกฎเช่นนี้ เช่นนั้นพวกเราก็ควรเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ยิ่งไปกว่านั้น ข้าก็อยากจะดูว่าเมืองหลวงของต้าเซ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 534

    สิ่งที่ทำให้เซียวเม่ยเอ๋อร์ตกใจยิ่งกว่านั้นคือมีชาวบ้านมาต้อนรับทั้งสองฝั่งข้างทาง!ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วน ในมือถือใบผักเน่าและไข่เน่า...ไม่สิ!เซียวเม่ยเอ๋อร์ตกตะลึงในใจชาวบ้านในต้าเซี่ยเหล่านี้ ล้วนมีสีหน้าโกรธเคือง เห็นได้ชัดเลยว่าไม่ต้อนรับ!“พวกหมานอี๋ ไสหัวออกไปซะ!”“ต้าเซี่ยไม่ต้อนรับพวกเจ้า!”“สุนัขจิ้งจอก! สัตว์เดรัจฉาน!”ในสายตาของทุกคนในต้าเซี่ย เต็มไปด้วยความเกลียดชัง เมื่อคณะทูตจากชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือเข้ามาใกล้ ก็ขว้างของเน่าเสียในมือทั้งหมดไปที่หัวของพวกเขา!คณะทูตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือไม่ทันได้ป้องกันตัว ก็ถูกของสกปรกขว้างใส่เต็มตัวไปหมด สภาพดูไม่ได้ยิ่งนักแม้แต่เซียวเซวียนเช่อก็โดนไข่เน่าขว้างใส่ จึงอดไม่ได้ที่จะสาปแช่ง “พวกสารเลวเอ๊ย! นี่คือวิธีต้อนรับแขกมาเยือนของต้าเซี่ยหรือ?”เหยลวี่เกอยืนอยู่ตรงหน้าเซียวเม่ยเอ๋อร์เหมือนหอคอยเหล็ก ช่วยบดบังใบผักเน่าและไข่เน่าให้กับนางองค์ชายสี่หลี่จือและกลุ่มขุนนางจากกรมธรรมการก็พลอยถูกลูกหลงไปด้วย ถูกขว้างใส่จนกรีดร้องออกมา“พวกเจ้าดูให้ดี ข้าคือองค์ชายสี่ ไม่ใช่หมานอี๋!”“พวกข้าคือขุนนางราชสำนัก...”ยิ่ง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 535

    “องค์ชายสี่กับขุนนางกรมธรรมการ ล้วนแต่เป็นหนูบนถนน”“มีเพียงองค์ชายเก้าเท่านั้นที่ยังไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรงั้นหรือ?”“เรื่องนี้มีเหตุผลอะไรหรือไม่?”หากเซียวเม่ยเอ๋อร์ถามความลับของราชสำนัก ต่อให้เสนาบดีกรมพิธีการทูตต้องตายก็ไม่มีทางกล้าพูดออกมาแต่ถ้าถามเรื่ององค์ชายเก้าก็ไม่เป็นอะไรอย่างไรเสีย การกระทำขององค์ชายเก้าเป็นที่รู้จักกันดีของทุกคนในต้าเซี่ย ไม่ได้เป็นความลับอะไรเสนาบดีกรมพิธีการทูตกล่าวด้วยรอยยิ้ม “องค์หญิง ข้อมูลของท่านน่าจะเก่าแล้ว!”“องค์ชายเก้าเคยเป็นเสเพลมาก่อนจริงๆ เป็นคนไร้ความสามารถ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ”“ความจริงแล้ว เขาเป็นพวกเสือซ่อนเล็บ ซ่อนความสามารถของตัวเองมาตลอด!”เซียวเม่ยเอ๋อร์ประหลาดใจ “ซ่อนความสามารถ? หาได้ยากจริงๆ ใช่หรือไม่?”เสนาบดีกรมพิธีการทูตกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อองค์หญิงสนใจองค์ชายเก้ามาก กระหม่อมสามารถเล่าเรื่องเกี่ยวกับเขา...”หลังจากที่เห็นเซียวเม่ยเอ๋อร์พยักหน้า เสนาบดีกรมพิธีการทูตก็เริ่มเล่าเรื่องราวของหลี่หลงหลินจากการกบฏขององค์ชายหก หลี่หลงหลินก็สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงในเขาทิศประจิม ทหารใหม่

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 536

    “เซียวเซวียนเช่อ!”แววตาของซูเฟิ่งหลิงแดงก่ำ นางหยิบทวนเงินขึ้นมาแล้วเดินออกไปข่าวลือแพร่กระจายไปข้างนอกกองทัพของตระกูลซูถูกทำลาย ก็เพราะเซียวเซวียนเช่อเป็นคนวางแผนฆ่าด้วยตัวเอง!คนผู้นี้คือศัตรูอันดับหนึ่งของซูเฟิ่งหลิง!จะต้องฆ่าเท่านั้น!หลี่หลงหลินกล่าวว่า “สายเกินไปแล้ว! ทูตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือเข้าไปอยู่ในกรมพิธีการทูตแล้ว!”“ที่นั่นมีการป้องกันอย่างแน่นหนา!”“เจ้าจะไปฆ่าเซียวเซวียนเช่อคนเดียวไม่ได้!”ฟรึ่บ!ซูเฟิ่งหลิงยกทวนเงินขึ้นแล้วชี้ไปที่คอของหลี่หลงหลิน ดวงตาแดงก่ำ “ข้าฆ่าเขาไม่ได้ แต่ข้าฆ่าเจ้าได้!”“ทำไมเจ้าไม่บอกข้าว่าเซียวเซวียนเช่อก็อยู่ในกลุ่มคณะทูตด้วย?”“ไม่อย่างนั้น ตอนที่เขาเข้ามาในเมือง คงจะตายใต้ทวนของข้าแล้ว!”หลี่หลงหลินพูดอย่างเย็นชา “ถ้าเขาตาย เจ้าก็ไม่รอด! เจ้าอยากให้ตระกูลซูสิ้นหรือ?”“เจ้าจะอธิบายให้ผู้ภักดีของตระกูลซูในปรโลกอย่างไร?”ซูเฟิ่งหลิงร้อนใจมากจนน้ำตาไหลอาบแก้ม “ข้าเข้าใจทุกอย่างที่เจ้าพูด! แต่...”ดวงตาของหลี่หลงหลินเป็นประกาย “ไม่มีแต่! เจ้าฟังข้านะ อย่าใช้อารมณ์!”“ข้ารับปากเจ้า จะไม่มีวันปล่อยเซียวเซวียนเช่อได้เดินอ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 537

    การประชุมครั้งนี้จบลงอย่างไม่มีความสุขนักหลังออกจากวัง เซียวเม่ยเอ๋อร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านราชครู ท่านช่างฝีมือดีจริงๆ! พูดเพียงไม่กี่คำ ก็ทำให้ขุนนางทั้งราชสำนักเดือดดาล! แม้แต่ฮ่องเต้ต้าเซี่ยก็โกรธจนจมูกเบี้ยว!”เซียวเซวียนเช่อลูบเคราแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ฮ่องเต้หวู่ก็ฉลาดเพียงเท่านี้!”จู่ๆ เซียวเม่ยเอ๋อร์ก็พูดว่า “แต่มีข้อยกเว้นอยู่คนหนึ่ง!”เซียวเซวียนเช่อตกใจ “ใคร?”เซียวเม่ยเอ๋อร์พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “องค์ชายเก้าหลี่หลงหลิน!”“เขาหรือ?”เซียวเซวียนเช่อขมวดคิ้วสิ่งที่เขาให้ความสนใจเมื่อครู่นี้ คือฮ่องเต้ต้าเซี่ยและขุนนางฝ่ายบุ๋นฝ่ายบู๊ จนไม่ได้สนใจหลี่หลงหลินว่าแสดงความรู้สึกออกมาอย่างไรแต่เซียวเม่ยเอ๋อร์กลับตรงกันข้ามนางไม่สนใจใครเลย สนเพียงหลี่หลงหลินเท่านั้นเซียวเซวียนเช่อพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ข้าได้ยินมาว่าองค์ชายเก้าผู้นี้ซ่อนความสามารถมาหลายปี เมื่อผงาดขึ้นในเวลา ก็สร้างความดีมากมาย เป็นอัจฉริยะที่โลกตะลึง!”“องค์หญิง ท่านพูดมาให้ข้าฟังสิ องค์ชายเก้ามีท่าทีอย่างไร?”เซียวเม่ยเอ๋อร์ส่ายหัวกล่าวว่า “เขาไม่มีสีหน้าอะไรเลย! ดูเหมือนว่าได้คาดการณ์ไว้นานแล้ว และ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 538

    ซูเฟิ่งหลิงแค้นเคืองมาก “ไม่ต้องถึงขั้นหนิงเซิง! พี่สะใภ้สี่ ต่อให้เป็นท่านไป ท่านก็ยังดีกว่าบัณฑิตเน่าๆ เหล่านั้น!”หลิ่วหรูเยียนส่ายหัวกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น “น้องเล็ก เจ้าหยุดยกยอข้าได้แล้ว!”“เซียวเซวียนเช่อผู้นั้นยังเก่งกาจมาก!”ซูเฟิ่งหลิงกัดฟัน “ใช่! ถ้าเขาไม่เก่งกาจ เขาจะฆ่าท่านปู่ได้อย่างไร...”เมื่อพูดเช่นนี้ออกมา ตระกูลซูก็ตกอยู่ในความเงียบงันบรรดาสตรีทุกคนก้มหน้าลง น้ำตาในเบ้าตาเป็นประกายเซียวเซวียนเช่อเป็นศัตรูคู่อาฆาตของตระกูลซู!แต่ตนไม่สามารถฆ่าเซียวเซวียนเช่อได้!ต้องมองดูเซียวเซวียนเช่อมีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้น ในใจก็ยิ่งไม่ยอม!“ฮ่าๆๆ!”ทันใดนั้นหลี่หลงหลินก็เอามือวางไว้ที่ท้ายทอยแล้วหัวเราะซูเฟิ่งหลิงโกรธมาก ตบโต๊ะแล้วยืนขึ้นชี้หน้าหลี่หลงหลิน “มีเรื่องอะไรให้เจ้าขำนักหนา?”หลี่หลงหลินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ตอนแรกข้าก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นหนอนบ่อนไส้ แต่ตอนนี้ข้าพอจะมีเบาะแสแล้ว!”หนอนบ่อนไส้?บรรดาสตรีตระกูลซูขมวดคิ้วกำลังพูดถึงความรู้ของเซียวเซวียนเช่ออยู่ไม่ใช่หรือ?เกี่ยวอะไรกับหนอนบ่อนไส้?หลี่หลงหลินส่ายหัว “ดูเหมือนว่าพวกเจ้ายังไม่เข้าใจสินะ!”“เ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 539

    เซียวเม่ยเอ๋อร์ยิ้มอย่างมีเสน่ห์ “ท่านราชครู! ทั้งสำนักศึกษาแห่งแคว้นและสำนักฮั่นหลินต่างก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า!”“ครั้งนี้ ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือของพวกเราได้ภูมิใจแล้ว!”“คนต้าเซี่ย ยังกล้าใส่ร้ายพวกเราว่าเป็นเผ่าหมานอีกหรือไม่?”“พวกเขาต่างหากที่เป็นเผ่าหมานตัวจริง!”เซียวเซวียนเช่อลูบเครา แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “จี้จิ่วของสำนักศึกษาแห่งแคว้น และปราชญ์มหาสำนักของสำนักฮั่นหลิน ยังนับว่ามีความสามารถจริงๆ!”“จริงๆ แล้วข้าใช้ลูกไม้!”ลูกไม้ที่ว่านี้ก็คือการใช้เงินฟาด!ขุนนางฝ่ายบุ๋นของต้าเซี่ยแสร้งทำเป็นว่าตัวเองมือสะอาด แต่จริงๆ แล้วทุกคนก็โลภมากเพียงติดสินบนจี้จิ่วให้ยอมแพ้ เซียวเซวียนเช่อใช้เงินถึงหนึ่งแสนตำลึง!และติดสินบนปราชญ์มหาสำนักแห่งสำนักฮั่นหลิน ทำให้พวกเขายอมแพ้ ก็ใช้เงินไปเกินล้านตำลึงแล้วเซียวเม่ยเอ๋อร์ขมวดคิ้วกล่าวว่า “สำนักศึกษาล่ะ? มีบัณฑิตมากมายขนาดนั้น หากจะใช้เงินฟาด สิบล้านตำลึงคงเอาไว้อยู่!”เซียวเซวียนเช่อกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เพื่อจัดการกับสำนักศึกษาหลักทั้งสี่แห่ง ไม่จำเป็นต้องใช้เงิน! ข้าใช้ความสามารถที่แท้จริง ก็สามารถโน้มน้าวพวกเขาให้ยอมแพ้ได้แล้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 540

    ฮ่องเต้หวู่ต้องการไปเข้าร่วมงานชุมนุมวรรณกรรมด้วยตัวเอง ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอย่างแน่นอนเมื่อข่าวนี้ออกมา ทั้งเมืองหลวงก็คึกคักสถานที่จัดงานชุมนุมวรรณกรรมจัดขึ้นที่วิหารขงจื๊อ!วิหารขงจื๊อเป็นสถานที่สำหรับสักการะนักปราชญ์ กว้างขวางพอที่จะรองรับคนได้นับพันคนในวันเดียวกันนั้นรถม้าก็วิ่งมาถึงหน้าวิหารขงจื๊อทีละคัน ชนชั้นสูงและขุนนางก็เดินลงมา“รีบไปดูสิ! พวกคนชั้นสูงมากันแล้ว!”“เสนาบดีกรมทั้งหกคน ปราชญ์มหาสำนักเลขาธิการ และอัครมหาเสนาบดี...”“คนใหญ่คนโตมากันมากขนาดนี้ ช่างเป็นการแข่งขันที่ใหญ่มากจริงๆ!”“ไม่เพียงแต่ชนชั้นสูงต่างๆ เท่านั้น แต่ฮ่องเต้ก็จะเสด็จมาเป็นประธานในงานชุมนุมวรรณกรรมด้วย!”“มันก็แค่งานชุมนุมวรรณกรรมเท่านั้นไม่ใช่หรือ? เหตุใดต้าเซี่ยถึงได้ให้ความสำคัญขนาดนี้ล่ะ?”“เรื่องนี้ทำอะไรกับมันไม่ได้หรอก! ใครใช้ให้สำนักศึกษาแห่งแคว้นและสำนักฮั่นหลินพ่ายแพ้กันล่ะ! หากสำนักศึกษาแพ้ ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือจะต้องหัวเราะเยาะพวกเราต้าเซี่ยว่าไม่มีคนที่มีความสามารถ!”เหล่านักเรียนวัยรุ่นของสำนักศึกษาพากันพูดคุยในเวลานี้ คณะทูตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือก็มาถึงเซ

Bab terbaru

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1288

    ความยินดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮ่องเต้หวู่ เปี่ยมด้วยความพอใจอย่างยิ่ง “เจ้าเก้านี่มักจะทำให้ข้าประหลาดใจได้เสมอจริงๆ”ฮ่องเต้หวู่ทรงยกน้ำแกงปลาเบื้องหน้าขึ้น ค่อยๆ ลิ้มรสความหวานละมุน รสชาติยังคงติดตรึง ยิ่งกว่าความอร่อยที่รับรู้ทางรสสัมผัสคือความรู้สึกอิ่มเอมในพระทัยเมื่อเห็นฝ่าบาททรงพอพระทัยยิ่งนัก ฮองเฮาหลินจึงรีบทูลว่า “ฝ่าบาท หากฝ่าบาททรงโปรด หม่อมฉันสามารถทำน้ำแกงปลาถวายฝ่าบาทได้ทุกวัน เพื่อบำรุงพระวรกายของฝ่าบาทเพคะ ยิ่งไปกว่านั้น แม้พระโอรสจะไม่ได้อยู่ใกล้ๆ นี่ก็เป็นความกตัญญูของเขาเพคะ”ฮ่องเต้หวู่ทรงดื่มน้ำแกงปลาในชามจนหมดสิ้น ก็รู้สึกสบายพระวรกาย “ข้าไม่เคยได้ลิ้มรสเนื้อปลาที่สดอร่อยถึงเพียงนี้ คาดไม่ถึงว่าที่ตงไห่จะมีปลาพันธุ์ดีรสเลิศเช่นนี้อยู่ด้วย วันนี้ข้าถือว่าได้อิ่มหนำสำราญแล้ว!”เมื่อเห็นฮ่องเต้หวู่ทรงสำราญพระทัย ก้อนหินที่ถ่วงอยู่ในใจของฮองเฮาหลินก็คลายลง นางกลัวว่าฮ่องเต้หวู่จะทรงลงพระอาญาแก่หลี่หลงหลิน ในความเห็นของฮองเฮาหลินแล้ว น้ำแกงปลาชามนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับชะตากรรมของหลี่หลงหลินทีเดียวฮ่องเต้หวู่มองไปที่เว่ยซวินอย่างสนพระทัยยิ่ง ตรัสว่า “สหาย เล่าให้ข้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1287

    เรื่องในราชสำนักล้อเล่นไม่ได้เป็นอันขาด มิเช่นนั้นจะต้องนำพาภัยพิบัติมาสู่บ้านเมืองและราษฎร ชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปชั่วกาลนาน!ฮ่องเต้ยืนเอามือไพล่หลัง ใบหน้าเคร่งขรึม “ข้าตั้งใจจะเรียกตัวองค์รัชทายาทเข้าเมืองหลวงมาพบข้าทันที ข้าจะถามเขาต่อหน้า ว่าไอ้ ‘เหตุใดไม่กินโจ๊กเนื้อเล่า’ นี่มันหมายความว่ากระไรกันแน่!”ทันใดนั้น ฮองเฮาหลินชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะทูลว่า “ฝ่าบาท สิ่งที่พระโอรสพูด ดูเหมือนว่า...ก็ไม่ผิดนะเพคะ”“อะไรนะ?”ในแววตาของฮ่องเต้เต็มไปด้วยความเย็นชา “มิน่าเล่าหลี่หลงหลินถึงได้ทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ คาดไม่ถึงว่าแม้แต่เจ้ายังเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา! เหลือเชื่อจริงๆ! มีแม่เช่นไรย่อมมีลูกเช่นนั้น!”เพียงชั่วพริบตา ความประทับใจดีๆ ที่ฮ่องเต้ทรงมีต่อฮองเฮาหลินมาตลอดหลายปีก็มลายหายไปสิ้นฮองเฮาหลินทูลเสียงหนักแน่น “ฝ่าบาท เกรงว่าพระองค์จะทรงเข้าพระทัยความหมายของหม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ”กล่าวจบ ฮองเฮาหลินก็ทรงหยิบสาส์นฉบับนั้นออกมา ถวายให้ฮ่องเต้ “ฝ่าบาท นี่คือลายมือขององค์รัชทายาทเพคะ ขอฝ่าบาททอดแววตาด้วยเพคะ”ฮ่องเต้ทรงเหลือบมอง ในแววตาเต็มไปด้วยโทสะ “ข้าไม่ดู! ต่อให้เป็นล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1286

    ฮองเฮาหลินทรงประหลาดพระทัยยิ่งนัก บนใบหน้าอันงดงามสมเป็นมารดาแห่งแผ่นดินปรากฏแววตกตะลึง “ฝ่าบาท เหตุใดฝ่าบาทจึงตรัสถึงพระโอรสเช่นนั้นเพคะ?”ฮองเฮาหลินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่ทอดพระเนตรเห็นว่าฮ่องเต้หวู่ผู้ซึ่งปกติทรงโปรดปรานหลี่หลงหลินยิ่งนัก ยามนี้กลับเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ทรงแสดงท่าทีรังเกียจหลี่หลงหลินกระทั่งเมื่อทรงทราบว่าปลานี้หลี่หลงหลินส่งมาจากตงไห่ด้วยม้าเร็วแปดร้อยลี้ ก็ไม่ยอมเสวยน้ำแกงปลาต่อฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย พอนึกถึงหลี่หลงหลินขึ้นมา ก็รู้สึกเดือดดาลในท้อง ยิ่งไม่มีกะจิตกะใจจะเสวยน้ำแกงปลาใดๆ ทั้งสิ้น“ทำไม? ข้าต่างหากที่อยากจะถามเจ้าว่าเหตุใด! เหตุใดองค์รัชทายาทที่ปกติก็ดูดีๆ อยู่ พอไปถึงตงไห่จึงได้ทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ได้!”ฮ่องเต้หวู่กริ้วจนพระพักตร์แดงก่ำ แววตาลุกวาบด้วยโทสะขอบตาของฮองเฮาหลินแดงก่ำขึ้นทันที นางไม่เคยเห็นฮ่องเต้หวู่ทรงกริ้วถึงเพียงนี้มาก่อน ร่ำไห้สะอื้นไม่หยุด “ฝ่าบาท พระโอรสของหม่อมฉันเพียงแค่อยากจะบำรุงพระวรกายให้ฝ่าบาท เหตุใดจึงต้องทรงจ้องจับผิดเรื่องความเหลวไหลของเขาอยู่เรื่อย การส่งปลาด้วยม้าเร็วแปดร้อยลี้มันเหลวไหลมา

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1285

    ฮ่องเต้หวู่ทอดพระเนตรไปรอบๆ พระตำหนัก แต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของฮองเฮาหลิน ก็ยิ่งทำให้โทสะพุ่งขึ้น “ฮองเฮาหลินอยู่ไหน! ข้าต้องการพบนางเดี๋ยวนี้!”ขันทีน้อยประจำตำหนักฉางเล่อรีบหมอบราบกับพื้น “ทูลฝ่าบาท วันนี้ฮองเฮาเสด็จออกไปตั้งแต่เช้าตรู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ออกไป? ไปไหน?”คิ้วของฮ่องเต้หวู่ขมวดแน่น โทสะยิ่งพลุ่งพล่าน เดิมทีก็ทรงกริ้วเรื่องของหลี่หลงหลินอยู่แล้ว พอมาถึงช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ กลับหาตัวฮองเฮาหลินไม่พบอีกขันทีน้อยกล่าวเสียงสั่น “กระหม่อมไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเป็นเพียงผู้รับใช้ดูแลกิจวัตรประจำวันของฮองเฮา มิกล้าสอดรู้เรื่องที่เสด็จไปพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่ทรงพระพิโรธอย่างยิ่ง ตรัสว่า “เว่ยซวิน ส่งคนไปตามหาฮองเฮาหลินกลับมาให้ข้าเดี๋ยวนี้! วันนี้ข้าจะต้องถามนางให้รู้เรื่องว่าอบรมสั่งสอนองค์รัชทายาทอย่างไร!”เว่ยซวินคิดในใจดูท่าครั้งนี้ฝ่าบาทจะทรงกริ้วจริงจัง แม้แต่ฮองเฮาก็คงยากจะรอดพ้นความผิดไปได้เว่ยซวินกล่าวเสียงหนัก “ฝ่าบาท กระหม่อมจะส่งคนไปตามหาเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”ทันใดนั้น กลิ่นหอมระลอกแล้วระลอกเล่าโชยมาปะทะจมูก ตามมาด้วยเสียงใสกังวานราวระฆังเงินเป็นระลอกเว่ยซวินก

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1284

    เหล่าขุนนางในราชสำนักต่างส่งเสียงฮือฮาผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนหาใช่จำนวนน้อยๆ ไม่!ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ใบหน้าเย็นชาเจ้ากรมกลาโหมเอ่ยเสียงเนิบนาบ “ฝ่าบาท ตามที่กระหม่อมเห็น ผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนนี้คือภัยร้ายที่ซ่อนอยู่ในเมืองหลวง หากจัดการไม่เหมาะสม ผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนก่อการจลาจลขึ้น เกรงว่า...”เจ้ากรมกลาโหมไม่กล้ากล่าวอะไรต่อหากเขากล่าวอะไรต่อไปอีก จะต้องทรงพระพิโรธเป็นแน่ แต่ก็จำเป็นต้องทูลเตือนฝ่าบาท ไม่ว่าก่อนหน้านี้หลี่หลงหลินจะเคยทูลรับรองสิ่งใดต่อหน้าฝ่าบาทก็ตาม ก็จำเป็นต้องทำให้ฝ่าบาททรงตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนส่วนใหญ่เป็นพวกที่ควบคุมได้ยาก คนเหล่านี้รวมตัวกันอยู่นอกเมืองหลวงได้สร้างผลกระทบเลวร้ายไม่น้อยแล้ว หากถูกผู้ไม่ประสงค์ดีปลุกปั่น ย่อมเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่เป็นแน่!แม้ว่าตอนนี้จางไป่เจิงจะนำทัพกลับราชสำนักแล้ว กำลังทหารในเมืองหลวงจะเข้มแข็ง ก็ยังคงเป็นปัญหาที่จัดการได้ยากอยู่ดีเหล่าขุนนางต่างเห็นพ้องต้องกัน“ฝ่าบาท เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชะตาของแคว้นต้าเซี่ย โปรดอย่าได้ทรงประมาทเป็นอันขาดพ่ะย่ะค่ะ!”“ใช่พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ขณะนี้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1283

    “อะไรนะ!”ฮ่องเต้หวู่ทรงพระพิโรธอย่างยิ่ง!เขาไม่เคยคาดคิดว่าหลี่หลงหลินจะกล่าววาจาเหลวไหลถึงเพียงนี้ นี่มันยิ่งกว่าการเห็นชีวิตคนเป็นผักปลาเสียอีก! ยามนี้ราษฎรยากจนถึงขั้นไม่มีปัญญาซื้อหาธัญญาหาร แล้วจะมีเนื้อที่ไหนให้กินกัน?เจ้ากรมคลังลดเสียงลง กล่าวว่า “ฝ่าบาท วาจาเหลวไหลเช่นนี้ออกมาจากโอษฐ์ขององค์รัชทายาทจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ ทีแรกกระหม่อมคิดว่าเป็นเพราะตนเองตาฝ้าฟางไป แต่ฎีกาหลายฉบับล้วนรายงานตรงกัน เกรงว่าวาจานี้คงเป็นสิ่งที่องค์รัชทายาทตรัสจริงๆ...”เหล่าขุนนางต่างส่งเสียงฮือฮาคาดไม่ถึงว่าหลี่หลงหลินจะทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ได้!ไม่เพียงแต่สร้างความเยือกเย็นในใจของราษฎร ยังสร้างความเยือกเย็นในใจของขุนนางในราชสำนักอีกด้วย นี่คือการกระทำชั่วร้ายที่ยากจะสาธยายให้หมดสิ้น อาลักษณ์จะต้องบันทึกเรื่องนี้ลงในพงศาวดารเป็นแน่ ทำให้ชื่อเสียงของหลี่หลงหลินฉาวโฉ่ไปชั่วกาลนาน!ฮ่องเต้หวู่ส่ายพระพักตร์ ทรงครุ่นคิดในพระทัยไม่ใช่ เจ้าเก้าไม่น่าจะทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ได้ อย่างน้อยในเมืองหลวง ราษฎรส่วนใหญ่ก็เคยได้รับความเมตตาจากเขา หรือว่าก่อนหน้านี้เป็นเพียงการแสดง?ฮ่องเต้หวู่ตรัสเสียงเย็น “

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1282

    ณ ท้องพระโรงบรรดาขุนนางทั้งหลายต่างสงบเสงี่ยม ก้มหน้าคารวะถวายบังคมฮ่องเต้หวู่ทอดพระเนตรกวาดสายตาไปยังหมู่ขุนนาง พลางตรัสเรียบเรื่อย “เหล่าขุนนางทุกท่าน หากมีเรื่องก็กราบทูล หากไม่มีเรื่องก็เลิกประชุมเถิด”นับตั้งแต่หลี่หลงหลินเดินทางไปยังตงไห่ ราชสำนักก็ดูสงบขึ้นไม่น้อย ฮ่องเต้หวู่ซึ่งแต่เดิมก็เอนเอียงไปทางเก็บตัวเงียบๆ ก็เริ่มชินกับจังหวะสงัดเช่นนี้ ยิ่งตอนนี้จางไป่เจิงนำทัพกลับสู่เมืองหลวง ปัญหากำลังพลไม่พอในเมืองหลวงก็คลี่คลายลง บรรดาขุนนางที่เคยซ่องสุมคิดร้ายในเงามืด ก็พากันลดราวาศอกแต่แล้ว เจ้ากรมคลังก็ก้าวออกมา สีหน้าเคร่งเครียด “ฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่เห็นเป็นกรมคลัง จึงขมวดคิ้วเบาๆ กล่าวว่า “ว่ามา”แม้ปัญหาเรื่องทหารจะคลี่คลาย แต่เงินในท้องพระคลังก็ยังร่อยหรอ หากกรมคลังเสนอฎีกาเมื่อใด มักไม่พ้นเรื่องเงินไม่พอใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขากลัดกลุ้มมาเนิ่นนาน เจ้ากรมคลังกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น “ฝ่าบาท ขณะนี้เขตตงไห่ประสบภาวะขาดแคลนเสบียงจนเกิดทุพภิกขภัย ราษฎรอดอยากปากแห้ง ร้องทุกข์ระงม แต่ละเขตในตงไห่ต่างก็ส่งฎีกาขอความช่วยเหลือจากราชสำนัก...”ฮ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1281

    กงซูหว่านมองดูแบบร่าง โครงสร้างเรียบง่ายมาก แต่นางไม่รู้ว่าควรจะเรียกมันว่าอะไรหลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเรียบ “นี่คือกระป๋อง”“กระป๋อง? มันสามารถถนอมอาหารได้หรือเพคะ?”หลี่หลงหลินยิ้มเล็กน้อย “แน่นอน หากสภาพแวดล้อมเหมาะสม แม้เวลาจะล่วงเลยไปแปดปี สิบปีก็ยังไม่เสีย”“นานขนาดนั้นเชียวหรือเพคะ?”กงซูหว่านเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง ราวกับไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยินในความเข้าใจของกงซูหว่าน การเก็บรักษาอาหารได้นานสักไม่กี่เดือนก็ถือว่าน่าทึ่งแล้วหลี่หลงหลินยิ้มบางๆ “ยิ่งไปกว่านั้น ขนาดของกระป๋องยังเล็กกระทัดรัด เหมาะแก่การพกพาในยามออกศึกยิ่งนัก”“หากพี่สะใภ้รองสามารถทำมันขึ้นมาได้ ข้าก็ตั้งใจจะเปิดโรงงานกระป๋องที่ตงไห่ แปรรูปปลาหวงฮื้อใหญ่จำนวนมหาศาลที่จับขึ้นมาโดยเฉพาะ”หลี่หลงหลินยิ้มบาง หากผลิตกระป๋องได้สำเร็จ ก็ไม่ต้องหวั่นไหวต่อภัยแล้งและความอดอยากอีกต่อไปกงซูหว่านยังคงตกตะลึง “โรงงานกระป๋องหรือเพคะ? ถึงข้าจะทำตามแบบได้เป๊ะๆ แล้วจะไปหาคนงานจากที่ใด?”ยามนี้ชาวเมืองตงไห่ต่างก็แย่งกันออกทะเลหาปลา กำลังคนขาดแคลนเป็นอย่างยิ่งหลี่หลงหลินตอบด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ให้ชาวตงไห่เขาหาปลากันต่อไ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1280

    วันต่อมา ห้องหนังสือจวนอ๋องหลี่หลงหลินยกมือนวดหว่างคิ้ว มือวาดบางอย่างบนกระดาษกงซูหว่านขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง “องค์ชาย หม่อมฉันอิงตามวิธีของท่านแล้ว วันนี้ตั้งใจไปตั้งร้านแผงลอยในบริเวณคนพลุกพล่านเป็นพิเศษ เผยแพร่วิธีทำน้ำแข็งออกไป เหล่าราษฎร์สามารถใช้งานได้ ทุกคนต่างโห่ร้องด้วยความยินดี เพียงแต่บัดนี้เกลือหมางเซียวในร้านขายยาทุกแห่งของตงไห่ไม่เพียงพอ”หลี่หลงหลินพยักหน้า “เผยแพร่ออกไปก็ดีแล้ว เช่นนี้เนื้อปลาของเหล่าราษฎร์ก็สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น ไม่ต้องสิ้นเปลือง”“พี่สะใภ้รองเหนื่อยแล้ว หากนี่คือเมืองหลวง เพียงตีพิมพ์เรียงความในหนังสือพิมพ์ก็เพียงพอแล้ว แต่อยู่ที่ตงไห่ยังต้องให้พี่สะใภ้ออกแรงเหน็ดเหนื่อยด้วยตนเอง”ภายในคำพูดหลี่หลงหลินเปี่ยมความห่วงใย อย่างไรเสียกงซูหว่านก็เป็นสตรีมีพรสวรรค์ไม่ออกนอกบ้าน อยู่แต่ในห้องหอ จู่ๆ ขอให้นางไปสอนวิธีทำน้ำแข็งแก่ราษฎร์ ช่างทำให้อึดอัดคับข้องใจโดยแท้แต่หลี่หลงหลินคิดไปคิดมา ในบรรดาพี่สะใภ้มีเพียงพี่สะใภ้รองเข้าใจวิธีใช้เกลือหมางเซียวทำน้ำแข็ง ทำได้เพียงมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้กงซูหว่านหัวเราะเบาๆ “ไม่ลำบากเพคะ จะ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status