“จริงหรือ?”เซียวเม่ยเอ๋อร์ยิ้มพลางสะอื้นใบหน้างดงามไร้ผู้ใดเทียบเทียม ต่อให้มีรอยน้ำตาก็ตาม!นางเก่งกาจด้านวางแผน เห็นบุรุษเป็นของเล่น ต่อให้เป็นเช่นนี้ก็สามารถทำลายได้อย่างง่ายดาย?ชีวิตคนเหมือนละคร ทั้งหมดล้วนต้องพึ่งการแสดง!หลี่หลงหลินเหลือบมองใบหน้าด้านข้างของเซียวเม่ยเอ๋อร์ สายตาคมกริบดุจใบมีด “คำพูดหนักแน่นดุจทองพันชั่ง พูดไปแล้วก็ยากจะคืนคำ! ถ้อยคำที่ข้าเคยพูด ย่อมไม่ใช่ความเท็จ! แต่ ข้าไม่สามารถถอนหมั้นซูเฟิ่งหลิงได้!”เซียวเม่ยเอ๋อร์ไม่เข้าใจ กะพริบตา “ท่านไม่ถอนหมั้น เช่นนั้นจะแต่งงานกับข้าได้เยี่ยงไร?”หลี่หลงหลินเอ่ยปากเสียงเรียบ “นางเป็นใหญ่ ท่านเป็นน้อย! นางเป็นภรรยา ท่านเป็นอนุ!”เพียงถ้อยคำนี้พูดออกมา ทุกคนล้วนเงียบกริบทุกคนในราชสำนักล้วนลืมตาอ้าปากค้าง ไม่กล้าเชื่อหูของตนองค์หญิงเผ่าหมาน ฐานะสูงศักดิ์เพียงใด?นางไม่ใช่เพียงกิ่งทองใบหยกธรรมดาเพียงนั้น!ต้องรู้ว่า การรับสืบทอดของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ มิใช่ลูกชายสืบทอดต่อจากบิดาหากผู้นสูงสุดของชนเผ่าตายไปเซียวเม่ยเอ๋อร์ก็สามารถรับสืบทอดตำแหน่งผู้นสูงสุดของชนเผ่าได้ กลายเป็นฮ่องเต้หญิงของชนเผ่าป่า
ฮ่องเต้หวู่เลิกคิ้ว “ทหารม้าหุ้มเกราะยอดเยี่ยม? แต่ขี่ม้าจะตีเมืองเยี่ยงไรเล่า?”เซียวเซวียนเช่อยิ้มเย็น “ข้ามาเมืองหลวงครั้งนี้ มีอาวุธที่ยิ่งใหญ่หนึ่งอย่าง ต้องการแสดงให้ฝ่าบาทได้ทอดพระเนตร!”อาวุธที่ยิ่งใหญ่?ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้วหรือว่าเผ่าหมานได้รับความพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ยังยโสโอหังเพียงนี้!ดูท่าแล้วอาวุธยิ่งใหญ่ของเซียวเซวียนเช่อก็คือไพ่ตายของเผ่าหมาน!ฮ่องเต้หวู่ตกตะลึง “อาวุธยิ่งใหญ่ที่เจ้าพูดถึง อยู่แห่งใด?”เซียวเซวียนเช่อตอบ “อยู่นอกเมืองพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หวู่พยักหน้า “ดี! ขุนนางทุกท่านออกจากวังพร้อมเรา! เรากลับอยากเห็น อาวุธยิ่งใหญ่อะไร สามารถตีเมืองซั่วเป่ยได้!”เหล่าขุนนางต่างแปลกใจ ตามหลังฮ่องเต้หวู่ ออกจากเมือง มาที่ชานเมืองเหยลวี่เกอเตรียมการพรักพร้อมตั้งแต่แรกแล้ว พาทหารเผ่าหมานมารอยังพื้นที่ว่างบนพื้นที่ว่างวางของสิ่งหนึ่งสองกงล้อใหญ่ ตรงกลางคือถังเหล็กเหล่าขุนนางต้าเซี่ยล้วนหันหน้ามองกัน ไม่เคยเห็นของเล่นแปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนเว้นเสียแต่หลี่หลงหลินที่รูม่านตาหดลง จำได้แล้ว!ปืนใหญ่หงอี!แท้จริงแล้วเดิมทีเรียกว่า ‘ปืนให
ขุนนางขันทีล้วนเหมือนฮ่องเต้หวู่ คิดว่าเซียวเซวียนเช่อพูดเกินจริงไปมากอาวุธปืนมิใช่หรือ!ก็แค่คล้ายกับดอกไม้ไฟกระมัง?ท่าดีทีเหลว!เซียวเซวียนเช่อเองก็คร้านจะอธิบาย ออกคำสั่งเหยลวี่เกอ “จุดไฟ ปล่อยกระสุน!”เหยลวี่เกอหยิบพับไฟออกมา จุดสายชนวนปืนใหญ่ตูม...เสียงดังอื้ออึง แผ่นดินสะเทือน!ฮ่องเต้หวู่ตกตะลึงพรึงเพริด รู้สึกเพียงหูอื้อ เวียนศีรษะตาพร่ามัวทันใดนั้นมือสองข้างก็ปิดหูเขาไว้หันหน้าไปมองแวบหนึ่ง ก็คือหลี่หลงหลินฮ่องเต้หวู่ปลาบปลื้มใจ เอามือไพล่หลัง รับชมอย่างเย่อหยิ่งโอหังส่วนขุนนางบุ๋นบู๊ของต้าเซี่ย กลับตกใจจนฉี่ราด พากันหมอบบนพื้นโดยเฉพาะหัวหน้าขุนนางฝ่ายบุ๋นตู้เหวินยวนราวกับฟ้าถล่มก็มิปาน มือสองข้างปิดศีรษะ ปล่อยก้นกระแทกพื้น ตกใจคล้ายนกกระทา ขายหน้าอย่างมากฮ่องเต้หวู่มองหลี่หลงหลินสายตาลุ่มลึกแวบหนึ่งเขาโชคดีมาก มีเจ้าเก้าลูกชายกตัญญูเช่นนี้!หาไม่แล้ว คาดว่าตนก็คล้ายขุนนางเหล่านั้น ตกใจจนหมดความกล้า อับอายขายหน้าโดยแท้!บึ้ม!เสียงดังสนั่นห่างออกไปไม่ไกลกำแพงดินถูกกระสุนปืนยิงใส่ พังทลายลงมาภาพนี้ ทำให้ฮ่องเต้หวู่ตกตะลึงอ้าปากค้าง พูดเสียงสั่
เซียวเซวียนเช่อถูกเปิดโปง โมโหแย่แล้ว “องค์ชายเก้า ท่านอย่าโอหังเกินไปนัก! นี่คือความเมตตาของเผ่าหมานอี๋ของพวกเรา...”หลี่หลงหลินยิ้มเย็น “ฮึๆ? เผ่าหมานอี๋กินขนดื่มเลือด ต่างอันใดจากสัตว์ร้าย? ยังขวัญกล้าเรียกตนเองว่ามีเมตตา? เจ้าคงมิได้อ่านตำราของต้าเซี่ยจนโง่งมไปแล้วกระมัง!”เซียวเซวียนเช่อชะงักจริงเสียด้วย!ภายในตำราของต้าเซี่ย มักเขียนเรื่องใจดีมีเมตตาเกี่ยวอันใดกับเผ่าหมานอี๋กันเล่า?เดิมทีเผ่าหมานอี๋ก็เป็นเสือหมาป่า!เซียวเซวียนเช่อตะคอกเสียงต่ำ “ตอนนี้เผ่าหมานอี๋ไม่มี! ภายภาคหน้าก็ไม่แน่! รอพ่อค้าชาวเปอร์เซียนำปืนใหญ่หงอีมาส่ง ก็คือวันตายของพวกท่าน!”ฮ่องเต้หวู่หวั่นไหวแล้ว “เจ้าเก้า ปืนใหญ่หงอีนี้ยอดเยี่ยมมาก หากขัดแย้งกับเผ่าหมานอี๋พลิกฟ้าพลิกดินขึ้นมา น่ากลัวว่าภายภาคหน้า...”หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “เสด็จพ่อ พระองค์อย่ายกระดับความทะเยอทะยานของผู้อื่น จนทำลายความน่าครั่นคร้ามของตนเลย! เผ่าหมานอี๋มีอาวุธปืน หรือว่าต้าเซี่ยไม่มี? อาวุธปืนของต้าเซี่ย มีอานุภาพยิ่งกว่าปืนใหญ่หงอีมากนับร้อยนับพันเท่า!”ฮ่องเต้หวู่ทั้งตกตะลึงทั้งดีใจ “หา? เอาชนะอาวุธปืนอย่างปืนใหญ่หงอีได้?
ฮ่องเต้หวู่หน้าถอดสี พูดเสียงสั่น “ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ ถึงขั้นจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตเพียงนี้?”ภายในความทรงจำของเขา ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือเจริญรุ่งเรือง คิดอ่านเรียบง่าย แม้ว่าเชี่ยวชาญการต่อสู้ กลับไม่เชี่ยวชาญการวางกลยุทธ์ฝันไปก็คาดไม่ถึง ภายในคำพูดของหลี่หลงหลิน อุบายของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือโหดเหี้ยมถึงขั้นนี้?หลี่หลงหลินกระซิบเสียงค่อย “เสด็จพ่อ หากเป็นคนเผ่าหมานธรรมดา ย่อมไม่อำมหิตเพียงนี้! แต่ทั้งหมดนี้ หากเป็นแผนของเซียวเซวียนเช่อ...”ฮ่องเต้หวู่ใจสั่นงานชุมนุมวรรณกรรมต่อสู้กันด้วยตำราพิชัยสงคราม แม้ว่าเซียวเซวียนเช่อแพ้ไปหนึ่งครั้งแต่ตำราพิชัยสงครามสิบสองเล่มของเขา กลับกดดันบัณฑิตของต้าเซี่ยได้คนผู้นี้ล้ำลึกยิ่งนัก!หลี่หลงหลินกลับไม่ได้กังวลอย่างไร้เหตุผล สันนิษฐานไร้สาระไม่แน่ว่า เซียวเซวียนเช่ออาจวางแผนเช่นนี้จริง!“ซี้ด..”ฮ่องเต้หวู่หายใจเย็นเฮือกหนึ่ง ดวงตาสะท้อนแววอำมหิต “ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือหัวใจโหดเหี้ยมดุจหมาป่า มิสู้ เราทำลงไปแล้ว ก็ทำให้ถึงที่สุด...”หลี่หลงหลินส่ายหน้า พูดว่า “เสด็จพ่อ เรื่องยังไม่ร้ายแรงถึงขั้นนี้พ่ะย่ะค่ะ! ยิ
.....หลี่หลงหลินก้าวเข้าสกุลซู ก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหารระลอกหนึ่ง!วันปกติสาวใช้มักแย้มยิ้มให้เขา สายตาล้วนแปลกไปบ้างเล็กน้อย“องค์ชายเก้า!”“ฮูหยินผู้เฒ่ารอท่านที่หอบรรพบุรุษนานมากแล้ว!”“ให้ท่านไปพบโดนพลัน!”สาวใช้ขยับขึ้นมาพูดกับหลี่หลงหลินหอบรรพบุรุษ?มิใช่วันเทศกาลอะไรเสียหน่อยหลี่หลงหลินบ่นงึมงำภายในใจ เดินเข้าหอบรรพบุรุษภายในหอบรรพบุรุษสกุลซู ป้ายวิญญาณบรรพบุรุษสกุลซูดุจภูเขา ด้านหน้าวางของเซ่นไหว้ เปลวเทียนพลิ้วไหว!ชวนให้คนตกตะลึงคือไม่เพียงซูเฟิ่งหลิงสวมชุดเกราะ สะใภ้ทั้งสี่และฮูหยินผู้เฒ่าซู ก็ล้วนสวมชุดเกราะ คุกเข่าหน้าป้ายวิญญาณ!บรรยากาศตึงเครียดมาก!หลี่หลงหลินเห็นสถานการณ์เช่นนี้ อึ้งงันอยู่กับที่ “ฮูหยินผู้เฒ่า เฟิ่งหลิง ยังมีพี่สะใภ้ พวกท่านนี่คือ...”ซูเฟิ่งหลิงไม่พูดจา เบือนหน้าไปสีหน้าสะใภ้ทั้งสี่ ทั้งหมดล้วนเยียบเย็นปานหิมะ!“ประคองข้าขึ้น!”ฮูหยินผู้เฒ่าซูโขกคำนับป้ายวิญญาณสามครั้ง ออกคำสั่งหลี่หลงหลินถลันขึ้นไป จะประคองฮูหยินผู้เฒ่าซูขึ้นมาเพียะ!มือของเขากลับถูกฮูหยินผู้เฒ่าซูตีตกไปที่ฝั่งหนึ่งหลี่หลงหลินตกตะลึงเหม่อไป!นับตั้ง
ถอนหมั้น!ฮูหยินผู้เฒ่าซูทำเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของสกุลซู!ถึงขั้นฝ่าฝืนพระราชโองการ ถอนหมั้นตน!หลี่หลงหลินกำหมัดแน่น เพลิงโทสะโชติช่วงภายในดวงตาทั้งสองข้าง!เขาไม่โกรธซูเฟิ่งหลิง!เด็กคนนี้ วันปกติล้วนโง่งม อุปนิสัยวู่วามแต่ยามเผชิญหน้ากับปัญหา แต่ไหนแต่ไรมานางไม่เคยทำพลาด!ทั้งๆ ที่นางรู้ว่าฮูหยินผ้เฒ่าซูต้องการถอนหมั้น ยังยืนออกมาขอความเมตตาให้ตน!น้ำใจนี้ ทำให้หลี่หลงหลินซาบซึ้งใจสำหรับฮูหยินผู้เฒ่าซูหลี่หลงหลินเองก็โกรธไม่ลงคนอายุปูนนี้แล้ว มีความดื้อรั้น มีความเลอะเลือนฮูหยินผู้เฒ่าซูมีสติแจ่มชัดเพียงพอแล้ว!แต่ ภาระบนตัวนาง ช่างหนักหนาเกินไป!ซูเฟิ่งหลิงไม่แต่งงานหนึ่งวัน ฮูหยินผู้เฒ่าซูก็ต้องแบกความรับผิดชอบทำให้สกุลซูกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งไว้บนบ่ายิ่งไปกว่านั้นในตำแหน่งที่ฮูหยินผู้เฒ่าซูยืน นางก็ไม่มีทางเลือกอื่นใด!ครั้งนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าซูจะต้องได้ยินเสียงเยาะหยันจากใคร ถึงเข้าใจตนผิดไป!หลี่หลงหลินโมโห เพราะพวกสร้างข่าวลือเหล่านั้น!คำพูดคนนั้นน่ากลัว สามารถมองเห็นด้วยตาได้!หากหลี่หลงหลินเป็นเด็กหนุ่ม ถูกปรักปรำเช่นนี้ อาจโกรธขึ้นมาในทันที ไม่อธิ
เดิมทีฮูหยินผู้เฒ่าซูเลอะเลือนแล้ว เชื่อข่าวลือข้างนอกนั่นครุ่นคิดอย่างละเอียด มันไม่ถูกต้องฮูหยินผู้เฒ่าซูฉลาดมาก สามารถต่อกรกับจิ้งจอกเฒ่าในราชสำนักได้แบบที่ไม่เคยแพ้ด้วยเมืองที่นางอยู่ นางจะเชื่อข่าวลือข้างนอกนั่นง่ายๆ ได้ยังไง?วุ่นวายไปกว่าครึ่งวันฮูหยินผู้เฒ่าซูกำลังแสดงละครเพื่อให้สะใภ้สี่ได้แสดงความจริงใจหรือ?หญิงงามหรือหญิงชราใครจะเผ็ดร้อนกว่ากัน!ในหัวใจของหลี่หลงหลินปลาบปลื้มยิ่งนัก!สตรีห้าคนปรนนิบัติสามีคนเดียว?เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สตรีทั้งห้าคนหน้าแดงเรื่อ!พูดตามตรงอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน อยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน ผู้ใดจะไม่หวั่นไหวบ้างล่ะ?ยิ่งไปกว่านั้น หลี่หลงหลินยังเป็นบุรุษรูปงามเช่นนี้ด้วย!แต่ทว่า นอกจากซูเฟิ่งหลิงแล้ว ลั่วอวี้จู๋ หลิ่วหรูเยียน กงซูหว่านและซุนชิงไต้ล้วนเป็นพี่สะใภ้ของหลี่หลงหลิน!มารยาทด้านลำดับชั้น ยังคงหยั่งรากลึกเหนียวแน่น พวกนางไม่มีทางเลยเถิดเป็นอันขาด!ฮูหยินผู้เฒ่าซูกล่าวว่า “วันนี้ ข้าจะต้องไล่หลี่หลงหลินออกจากจวนตระกูลซูให้ได้! นอกเสียจากว่าพวกเจ้ายินดีจะให้เขาอยู่ต่อ!”เมื่อกล่าวมาถึงจุดนี้ จริงๆ มันก็โจ่งแจ้งมากพอแ
เหล่าขุนนางในราชสำนักต่างส่งเสียงฮือฮาผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนหาใช่จำนวนน้อยๆ ไม่!ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ใบหน้าเย็นชาเจ้ากรมกลาโหมเอ่ยเสียงเนิบนาบ “ฝ่าบาท ตามที่กระหม่อมเห็น ผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนนี้คือภัยร้ายที่ซ่อนอยู่ในเมืองหลวง หากจัดการไม่เหมาะสม ผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนก่อการจลาจลขึ้น เกรงว่า...”เจ้ากรมกลาโหมไม่กล้ากล่าวอะไรต่อหากเขากล่าวอะไรต่อไปอีก จะต้องทรงพระพิโรธเป็นแน่ แต่ก็จำเป็นต้องทูลเตือนฝ่าบาท ไม่ว่าก่อนหน้านี้หลี่หลงหลินจะเคยทูลรับรองสิ่งใดต่อหน้าฝ่าบาทก็ตาม ก็จำเป็นต้องทำให้ฝ่าบาททรงตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนส่วนใหญ่เป็นพวกที่ควบคุมได้ยาก คนเหล่านี้รวมตัวกันอยู่นอกเมืองหลวงได้สร้างผลกระทบเลวร้ายไม่น้อยแล้ว หากถูกผู้ไม่ประสงค์ดีปลุกปั่น ย่อมเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่เป็นแน่!แม้ว่าตอนนี้จางไป่เจิงจะนำทัพกลับราชสำนักแล้ว กำลังทหารในเมืองหลวงจะเข้มแข็ง ก็ยังคงเป็นปัญหาที่จัดการได้ยากอยู่ดีเหล่าขุนนางต่างเห็นพ้องต้องกัน“ฝ่าบาท เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชะตาของแคว้นต้าเซี่ย โปรดอย่าได้ทรงประมาทเป็นอันขาดพ่ะย่ะค่ะ!”“ใช่พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ขณะนี้
“อะไรนะ!”ฮ่องเต้หวู่ทรงพระพิโรธอย่างยิ่ง!เขาไม่เคยคาดคิดว่าหลี่หลงหลินจะกล่าววาจาเหลวไหลถึงเพียงนี้ นี่มันยิ่งกว่าการเห็นชีวิตคนเป็นผักปลาเสียอีก! ยามนี้ราษฎรยากจนถึงขั้นไม่มีปัญญาซื้อหาธัญญาหาร แล้วจะมีเนื้อที่ไหนให้กินกัน?เจ้ากรมคลังลดเสียงลง กล่าวว่า “ฝ่าบาท วาจาเหลวไหลเช่นนี้ออกมาจากโอษฐ์ขององค์รัชทายาทจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ ทีแรกกระหม่อมคิดว่าเป็นเพราะตนเองตาฝ้าฟางไป แต่ฎีกาหลายฉบับล้วนรายงานตรงกัน เกรงว่าวาจานี้คงเป็นสิ่งที่องค์รัชทายาทตรัสจริงๆ...”เหล่าขุนนางต่างส่งเสียงฮือฮาคาดไม่ถึงว่าหลี่หลงหลินจะทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ได้!ไม่เพียงแต่สร้างความเยือกเย็นในใจของราษฎร ยังสร้างความเยือกเย็นในใจของขุนนางในราชสำนักอีกด้วย นี่คือการกระทำชั่วร้ายที่ยากจะสาธยายให้หมดสิ้น อาลักษณ์จะต้องบันทึกเรื่องนี้ลงในพงศาวดารเป็นแน่ ทำให้ชื่อเสียงของหลี่หลงหลินฉาวโฉ่ไปชั่วกาลนาน!ฮ่องเต้หวู่ส่ายพระพักตร์ ทรงครุ่นคิดในพระทัยไม่ใช่ เจ้าเก้าไม่น่าจะทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ได้ อย่างน้อยในเมืองหลวง ราษฎรส่วนใหญ่ก็เคยได้รับความเมตตาจากเขา หรือว่าก่อนหน้านี้เป็นเพียงการแสดง?ฮ่องเต้หวู่ตรัสเสียงเย็น “
ณ ท้องพระโรงบรรดาขุนนางทั้งหลายต่างสงบเสงี่ยม ก้มหน้าคารวะถวายบังคมฮ่องเต้หวู่ทอดพระเนตรกวาดสายตาไปยังหมู่ขุนนาง พลางตรัสเรียบเรื่อย “เหล่าขุนนางทุกท่าน หากมีเรื่องก็กราบทูล หากไม่มีเรื่องก็เลิกประชุมเถิด”นับตั้งแต่หลี่หลงหลินเดินทางไปยังตงไห่ ราชสำนักก็ดูสงบขึ้นไม่น้อย ฮ่องเต้หวู่ซึ่งแต่เดิมก็เอนเอียงไปทางเก็บตัวเงียบๆ ก็เริ่มชินกับจังหวะสงัดเช่นนี้ ยิ่งตอนนี้จางไป่เจิงนำทัพกลับสู่เมืองหลวง ปัญหากำลังพลไม่พอในเมืองหลวงก็คลี่คลายลง บรรดาขุนนางที่เคยซ่องสุมคิดร้ายในเงามืด ก็พากันลดราวาศอกแต่แล้ว เจ้ากรมคลังก็ก้าวออกมา สีหน้าเคร่งเครียด “ฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่เห็นเป็นกรมคลัง จึงขมวดคิ้วเบาๆ กล่าวว่า “ว่ามา”แม้ปัญหาเรื่องทหารจะคลี่คลาย แต่เงินในท้องพระคลังก็ยังร่อยหรอ หากกรมคลังเสนอฎีกาเมื่อใด มักไม่พ้นเรื่องเงินไม่พอใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขากลัดกลุ้มมาเนิ่นนาน เจ้ากรมคลังกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น “ฝ่าบาท ขณะนี้เขตตงไห่ประสบภาวะขาดแคลนเสบียงจนเกิดทุพภิกขภัย ราษฎรอดอยากปากแห้ง ร้องทุกข์ระงม แต่ละเขตในตงไห่ต่างก็ส่งฎีกาขอความช่วยเหลือจากราชสำนัก...”ฮ
กงซูหว่านมองดูแบบร่าง โครงสร้างเรียบง่ายมาก แต่นางไม่รู้ว่าควรจะเรียกมันว่าอะไรหลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเรียบ “นี่คือกระป๋อง”“กระป๋อง? มันสามารถถนอมอาหารได้หรือเพคะ?”หลี่หลงหลินยิ้มเล็กน้อย “แน่นอน หากสภาพแวดล้อมเหมาะสม แม้เวลาจะล่วงเลยไปแปดปี สิบปีก็ยังไม่เสีย”“นานขนาดนั้นเชียวหรือเพคะ?”กงซูหว่านเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง ราวกับไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยินในความเข้าใจของกงซูหว่าน การเก็บรักษาอาหารได้นานสักไม่กี่เดือนก็ถือว่าน่าทึ่งแล้วหลี่หลงหลินยิ้มบางๆ “ยิ่งไปกว่านั้น ขนาดของกระป๋องยังเล็กกระทัดรัด เหมาะแก่การพกพาในยามออกศึกยิ่งนัก”“หากพี่สะใภ้รองสามารถทำมันขึ้นมาได้ ข้าก็ตั้งใจจะเปิดโรงงานกระป๋องที่ตงไห่ แปรรูปปลาหวงฮื้อใหญ่จำนวนมหาศาลที่จับขึ้นมาโดยเฉพาะ”หลี่หลงหลินยิ้มบาง หากผลิตกระป๋องได้สำเร็จ ก็ไม่ต้องหวั่นไหวต่อภัยแล้งและความอดอยากอีกต่อไปกงซูหว่านยังคงตกตะลึง “โรงงานกระป๋องหรือเพคะ? ถึงข้าจะทำตามแบบได้เป๊ะๆ แล้วจะไปหาคนงานจากที่ใด?”ยามนี้ชาวเมืองตงไห่ต่างก็แย่งกันออกทะเลหาปลา กำลังคนขาดแคลนเป็นอย่างยิ่งหลี่หลงหลินตอบด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ให้ชาวตงไห่เขาหาปลากันต่อไ
วันต่อมา ห้องหนังสือจวนอ๋องหลี่หลงหลินยกมือนวดหว่างคิ้ว มือวาดบางอย่างบนกระดาษกงซูหว่านขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง “องค์ชาย หม่อมฉันอิงตามวิธีของท่านแล้ว วันนี้ตั้งใจไปตั้งร้านแผงลอยในบริเวณคนพลุกพล่านเป็นพิเศษ เผยแพร่วิธีทำน้ำแข็งออกไป เหล่าราษฎร์สามารถใช้งานได้ ทุกคนต่างโห่ร้องด้วยความยินดี เพียงแต่บัดนี้เกลือหมางเซียวในร้านขายยาทุกแห่งของตงไห่ไม่เพียงพอ”หลี่หลงหลินพยักหน้า “เผยแพร่ออกไปก็ดีแล้ว เช่นนี้เนื้อปลาของเหล่าราษฎร์ก็สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น ไม่ต้องสิ้นเปลือง”“พี่สะใภ้รองเหนื่อยแล้ว หากนี่คือเมืองหลวง เพียงตีพิมพ์เรียงความในหนังสือพิมพ์ก็เพียงพอแล้ว แต่อยู่ที่ตงไห่ยังต้องให้พี่สะใภ้ออกแรงเหน็ดเหนื่อยด้วยตนเอง”ภายในคำพูดหลี่หลงหลินเปี่ยมความห่วงใย อย่างไรเสียกงซูหว่านก็เป็นสตรีมีพรสวรรค์ไม่ออกนอกบ้าน อยู่แต่ในห้องหอ จู่ๆ ขอให้นางไปสอนวิธีทำน้ำแข็งแก่ราษฎร์ ช่างทำให้อึดอัดคับข้องใจโดยแท้แต่หลี่หลงหลินคิดไปคิดมา ในบรรดาพี่สะใภ้มีเพียงพี่สะใภ้รองเข้าใจวิธีใช้เกลือหมางเซียวทำน้ำแข็ง ทำได้เพียงมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้กงซูหว่านหัวเราะเบาๆ “ไม่ลำบากเพคะ จะ
ทุกคนสูดลมหายใจเย็นเฮือกหนึ่งโจรสลัดแคว้นโวกั๋วและชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือเป็นปัญหาแถบชายแดนต้าเซี่ยมานานนับร้อยปี ไม่ใช่ปัญหาที่สามารถจัดการได้อย่างง่ายดายมองออกว่าครั้งนี้เจตจำนงของหลี่หลงหลินยิ่งใหญ่อย่างมาก!หลี่หลงหลินพูดเรียบๆ “หากต้องการกำจัดปัญหาภายนอกจะต้องกำจัดปัญหาภายในก่อน หากต้องการเดินทางบนมหาสมุทร จะต้องจัดการปัญหาตรงหน้าให้เรียบร้อย หาไม่แล้วแผนการเดินเรือจะต้องได้รับผลกระทบแน่”“เป้าหมายสำคัญในการมาตงไห่ครั้งนี้คือพัฒนาศาสตร์ต่อเรือของต้าเซี่ย บัดนี้เรือเหล่านี้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการการเดินทางไกลได้ ความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอของเรือต้าเซี่ยก็เป็นเหตุผลที่โจรสลัดแคว้นโวกั๋วตงไห่สร้างความวุ่นวาย ได้รับผลประโยชน์มากมายในสงครามทางทะเล ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่สามารถกวาดล้างโจรสลัดแคว้นโวกั๋วที่บุกมาในคราวเดียวได้”“หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป โจรสลัดแคว้นโวกั๋วก็จะยิ่งกำเริบเสิบสาน อาละวาดอย่างไร้ขอบเขตในทะเลตงไห่ ราษฎร์ตงไห่ก็จะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก!”“ดังนั้นตราบใดที่สามารถเพิ่มระดับการต่อเรือของต้าเซี่ยได้ โจรสลัดแคว้นโวกั๋วย่อมหายไป ชนิดที่ว่าปราบตงอิ๋
ปากแดงของเหล่าสะใภ้ขยับเบาๆ ดวงตาสะท้อนความแปลกใจ “เป้าหมายคือมหาสมุทรอันกว้างใหญ่?”แม้เหล่าสะใภ้ไม่รู้ว่ามหาสมุทรอันกว้างใหญ่คือที่ใด แต่ได้ยินหลี่หลงหลินอธิบาย จะต้องเป็นสถานที่อันงดงามแน่!ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยถาม “องค์ชาย มหาสมุทรกว้างใหญ่มากถึงเพียงนี้ เป้าหมายของพวกเราคือที่ใด?”กงซูหว่านพยักหน้า “ใช่แล้วองค์ชาย ยิ่งไปกว่านั้นระดับการเดินเรือในตอนนี้มากที่สุดก็ไปได้ถึงตงอิ๋ง หากยังไปทางทิศตะวันออก กลับยังไม่มีตัวอย่างมาก่อน”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เป้าหมายของพวกเราก็คือทวีปใหม่! ต้าเซี่ยและทวีปใหม่ห่างกันเพียงมหาสมุทรกั้น ลักษณะทางภูมิศาสตร์ได้เปรียบโดยธรรมชาติ สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือคิดหาทางพัฒนาเรือของต้าเซี่ย ขนวัวม้าสัตว์ใช้แรงงานจำนวนมากเพียงพอไปยังทวีปใหม่”“ขอเพียงมีวัวม้าสัตว์ใช้แรงงาน ต้องการผืนดินมากน้อยเพียงใดก็ย่อมได้ มีผืนดินนับพันลี้ให้ราษฎร์ได้ใช้!”เหล่าสะใภ้ได้ยินภาพที่หลี่หลงหลินอธิบาย ใบหน้าเผยรอยยิ้มเปี่ยมความหวังออกมาสถานที่ที่ไม่มีสงครามและไม่มีความหิวโหยอยู่ห่างเพียงมหาสมุทรกั้น กำลังโบกมือต้อนรับตนเองหลี่หลงหลินเปล่งเสียงเคร่งขรึม “ขอเพียง
“เป็นไปไม่ได้! ดินแดนที่ดีถึงเพียงนี้ ไฉนเลยจะไม่มีคน?”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เหตุที่มีคนน้อยมีเพียงข้อเดียว ตอนนี้พวกเขายังกินไม่อิ่ม”ถ้อยคำนี้ของหลี่หลงหลินดุจฟ้าผ่ากลางวันแสกๆเหล่าพี่สะใภ้ได้ฟังแล้ว คิดว่านี่คล้ายเรื่องเพ้อฝันยามราตรี ดินแดนอุดมสมบูรณ์ถึงเพียงนี้ ถึงขั้นยังมีคนกินข้าวไม่อิ่มท้องอีกหรือ?กงซูหว่านมองหลี่หลงหลินด้วยความตกตะลึง เอ่ยถามว่า “องค์ชาย ท่านไม่ได้กำลังล้อพวกเราเล่นหรอกกระมัง? อิงตามคำพูดของท่าน ทวีปใหม่จะต้องอุดมสมบูรณ์อย่างมากแน่ เหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์คนกินข้าวไม่อิ่มท้องได้เล่า?”“ใช่แล้วองค์ชาย หม่อมฉันไม่เชื่อ”“หรือว่าดินแดนที่ดีถึงเพียงนี้ พวกเขาไม่สามารถเพาะปลูกได้กันเล่า?”เหล่าพี่สะใภ้ฟังจนอารมณ์ดำดิ่งลงไป ต่างขอให้หลี่หลงหลินพูดออกมาให้ชัดเจน หลี่หลงหลินพูดเรียบๆ “ไม่ใช่พวกเขาไม่เพาะปลูก ทวีปใหม่ดีมากเยี่ยงไร มีเพียงข้อเดียวที่ไม่ดี ก็คือไม่มีวัวไม่มีม้า ไม่มีสัตว์ใช้แรงงาน”ดวงตาของเหล่าสะใภ้ทอประกายระยับ ประคองใบหน้างดงามรับฟังเงียบๆ“ดังนั้นตอนนี้พวกเขายังหยุดอยู่ที่ใช้มีดถางป่าเผาไร่เพาะปลูก ใช้วิธีการพื้นฐานที่สุดในการ
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค