แชร์

บทที่ 122

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
"ฉัวะ!"

ตะเกียบเสียบทะลุข้อมือของชายร่างกำยำ เลือดสีแดงข้นหยดไหลตามตะเกียบลงพื้น

ทันใดนั้น ชายร่างกำยำก็กุมข้อมือตัวเองด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าเหยเกพร้อมกับส่งเสียงร้องโหยหวน

ชายอีกคนเห็นดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เขาชักดาบออกมาทันที และขณะที่กำลังจะฟันใส่ฉงชูโม่ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากนอกห้อง

"หวังอู่! หยุดเดี๋ยวนี้!"

เมื่อได้ยินเสียงนั้น หวังอู่หันไปถามอย่างแปลกใจว่า "คุณชาย พวกมันมิเพียงมิยอมไสหัวออกไป แต่ยังทำลายมือของเอ้อร์หู่อีก ท่านจะปล่อยไปง่าย ๆ หรือ?"

"หุบปาก! เห็น ๆ อยู่ว่าเป็นพวกเจ้าที่รังแกผู้อื่นก่อน รีบไสหัวไปให้พ้น!!"

ชายหนุ่มตะโกนดุอีกครั้งก่อนจะเดินเข้ามา เขายิ้มบาง ๆ แล้วค้อมตัวทำความเคารพฉงชูโม่เล็กน้อย

"แม่นาง ข้าต้องขออภัยจริง ๆ คนของข้ามิรู้จักกาลเทศะ หากล่วงเกินประการใด ขอเจ้าโปรดยกโทษให้ด้วย"

แต่ขณะพูด สายตาของชายหนุ่มก็จ้องมองฉงชูโม่อย่างมิลดละ

ลึก ๆ ในดวงตาของเขาฉายแววโลภและกระหายอย่างปิดมิมิด

ฉงชูโม่สังเกตเห็นท่าทีไร้มารยาทของเขา คิ้วเรียวขมวดแน่น พูดด้วยน้ำเสียงรังเกียจออกมาชัดเจน "พาคนของท่านถอยออกไปเสีย อย่ามากวนพวกข้าตอนกำลังกิ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 123

    หวังอู่รับคำสั่งเสียงดังและรีบเดินตรงไปทางจวนผู้ว่าการมณฑลโดยมิรอช้า มินานนัก เขาก็กลับมา พร้อมกับชายกลางคนรูปร่างกำยำคนหนึ่งชายผู้นี้สวมชุดยาวสีน้ำเงิน แขนมีกล้ามเนื้อเป็นมัดชัดเจน นิ้วทั้งห้าดูแข็งแกร่ง แสดงให้เห็นว่าเป็นคนที่ฝึกฝนร่างกายมาอย่างดี เขาคือ “จางเฉวียน” เป็นทั้งพ่อบ้านและหัวหน้าผู้คุ้มกันประจำจวนผู้ว่าการมณฑลอีกด้วยเมื่อหูก่วงเผิงเห็นเขา ก็กระตุกยิ้มออกมา “ท่านอาจาง ท่านมาสักที ข้ารอท่านมาตั้งนานแล้ว”จางเฉวียนถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณชาย ผู้ใดช่างบังอาจเยี่ยงนี้ ถึงขั้นทำร้ายท่านเลยหรือ?”"คนพวกนั้นอยู่บนชั้นสอง ในห้องส่วนตัวห้องแรก ข้าจะพาท่านขึ้นไปเอง" หูก่วงเผิงพูดจบ ก็พากลุ่มของเขาเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมทันที มีจางเฉวียนและคนอื่น ๆ เดินตามหลังภายในห้องขณะที่ฉินซูกินอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉงชูโม่จึงลุกขึ้น ตั้งใจจะไปเรียกเสี่ยวเอ้อร์มาคิดเงิน ทันทีที่นางเปิดประตูออกมา นางก็พบกับหูก่วงเผิงกับคนของเขาเดินตรงเข้ามาหานางพอดีฉงชูโม่เหลือบมองจางเฉวียนเล็กน้อย ใบหน้าของนางปรากฏรอยยิ้มเยาะหยันขึ้นหูก่วงเผิงยืนเอามือไพล่หลัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความหย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 124

    ใบหน้าของฉงชูโม่พลันมืดมน นางจ้องเขม็งไปที่ฉินซูด้วยความดุดันฉินซูทำท่าทีราวกับมิกลัวอันตรายใด เขาพูดด้วยน้ำเสียงเอาจริงเอาจังว่า “โธ่เมียรัก ท่านนี้คือคุณชายจากจวนผู้ว่าการมณฑล เรามิอาจล่วงเกินได้จริง ๆ เจ้าก็แค่ตามเขาไปสักหน่อยเถิด อย่าได้ทำให้ข้าลำบากเลย”"ท่าน..." ฉงชูโม่โกรธจนแทบระเบิดนางกลอกตาไปมา แล้วจู่ ๆ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็เผยขึ้นบนใบหน้า"ได้ เจ้าคนใจดำ ข้าถูกคนรังแก ท่านกลับนิ่งเฉยมิสนใจ เช่นนั้นรอดูไปเถอะ!" นางหันไปพูดกับหูก่วงเผิง "คุณชายหู หากท่านช่วยข้าสั่งสอนเจ้าสามีใจดำคนนี้ให้ข้า ข้าก็จะยินยอมตามท่านไปแต่โดยดี""เจ้าพูดจริงหรือ?!" หูก่วงเผิงแทบมิเชื่อหูตัวเองฉงชูโม่พยักหน้าจริงจัง "จริงแท้แน่นอน คนใจจืดใจดำเยี่ยงเขา ข้าคิดจะลาจากไปตั้งนานแล้ว"หูก่วงเผิงดีใจจนตัวแทบลอย เขารีบตอบรับทันทีว่า "ไม่มีปัญหา ข้าจะสั่งสอนเขาให้เจ้าอย่างสาสมทีเดียว!"เขาโบกมือใหญ่ของเขา พลางสั่งว่า "ท่านอาจาง หักขาเจ้าหนุ่มนี่แล้วโยนมันทิ้งที่นอกเมืองเสียเถอะ ปล่อยให้เผชิญยถากรรมเอาเอง"“ได้!” จางเฉวียนรับคำแล้วก้าวเท้าตรงเข้าหาฉินซูฉินซูขมวดคิ้วและหันไปพูดกับฉงชูโ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 125

    หากคนธรรมดา ถูกจางเฉวียนโจมตีเพียงครั้งเดียว กระดูกคงหักในทันทีแต่สำหรับฉงชูโม่แล้ว ท่าทางที่ดูแข็งแกร่งและดุดันของจางเฉวียนนั้น เป็นเพียงการแสดงปาหี่เท่านั้นนางมิอยากเสียเวลาอีกต่อไป จึงฝ่ามือฟาดออกไปโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า“ปัง!!”ร่างของจางเฉวียนพลันลอยขึ้นไปกลางอากาศ และหล่นลงไปอย่างแรงที่ระเบียงนอกห้อง! เขาพยายามตะเกียกตะกายจะลุกขึ้น แต่ร่างกายเหมือนจะแหลกละเอียด และมิสามารถขยับได้เลยแต่ที่ทำให้เขาตกใจยิ่งกว่านั้นคือ เขารู้สึกว่าลมปราณในกายปั่นป่วนอย่างรุนแรง และมิสามารถควบคุมลมปราณได้ เขากระอักเลือดออกมาคำใหญ่!ภาพนี้ทำให้หูก่วงเผิงและพรรคพวกถึงกับตะลึงงัน! พวกเขารู้ดีถึงความแข็งแกร่งของจางเฉวียน ซึ่งเป็นถึงจอมยุทธขั้นสูงสุดระดับซวน แต่ตอนนี้จอมยุทธขั้นสูงสุดระดับซวนผู้นี้ กลับถูกหญิงสาวที่ดูไม่มีแรงแม่แต่จะฆ่าไก่คนนี้ซัดจนกระเด็น และยังดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บภายในอีกด้วย!หากมิได้เห็นกับตาตัวเอง พวกเขาคงไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด!ฉงชูโม่ตบมือเบา ๆ สองสามที แล้วกล่าวอย่างดูถูกว่า “ไสหัวไปซะ หากยังกล้ามาวุ่นวายอีก ตาย!”หูก่วงเผิงที่เพิ่งรู้สึกตัวอยากจะเอ่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 126

    หูก่วงเผิงบ่นพึมพำอย่างโกรธแค้นว่า "นางแพศยา คอยดูเถอะ คืนนี้ข้าคุณชายผู้นี้จะทำให้เจ้าเชื่อฟังอย่างดีเลย!" เมื่อพูดจบ เขาก็นำพรรคพวกออกไปในโรงเตี๊ยม ฉงชูโม่เรียกเสี่ยวเอ้อร์เข้ามา เมื่อเห็นว่าฉงชูโม่และฉินซูก็ยังอยู่ดีไม่มีอันตราย เสี่ยวเอ้อร์ก็ทำหน้าประหลาดใจอย่างมากฉินซูเลิกคิ้วแล้วถามว่า "พี่เสี่ยวเอ้อร์ เหตุใดเจ้าจึงมองเราด้วยสายตาเช่นนี้เล่า?""หา… หามิได้ขอรับ ข้าน้อยเพียงแต่รู้สึกเหลือเชื่อเล็กน้อยเท่านั้น""โอ้? ไยถึงพูดเช่นนั้นเล่า?"เสี่ยวเอ้อร์มองไปรอบ ๆ ก่อนหันไปมองนอกประตู เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ด้านนอก จากนั้นเขาจึงลดเสียงลงแล้วพูดว่า "คุณชายอาจจะมิทราบมาก่อน คุณชายหูเป็นคนยโสโอหังและเจ้าเผด็จการ ในเมืองหลงโย่วนี้ มีสตรีจากตระกูลดี ๆ หลายคนถูกเขาล่วงละเมิด ผู้ใดกล้าขัดใจเขา ไม่มีใครมีจุดจบที่ดีสักคน ข้าน้อยเห็นว่าพวกท่านมีปัญหากับเขา แต่กลับยังคงปลอดภัยดี จึงรู้สึกว่าเหลือเชื่อน่ะขอรับ"ฉงชูโม่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า "สตรีที่ถูกเขาล่วงละเมิด พวกนางมิไปแจ้งความหรือ?""เฮ้อ บิดาของเขา หูเฟิงเป็นถึงผู้ว่าการมณฑลของหลงโย่ว หากไปแจ้งความ นั่น

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 127

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ห้าปีแล้ว ในที่สุดก็มีข่าวของเขา!ฉินซูถามด้วยความสงสัยว่า "เหตุใดพวกเจ้าถึงเรียกเขาว่าสวีผู้ผดุงธรรม?" เสี่ยวเอ้อร์ก็เริ่มเล่าเรื่องราวอย่างลื่นไหลทันทีเรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อหนึ่งปีก่อน มีหมู่บ้านนอกเมืองหลงโย่วถูกกลุ่มโจรภูเขาบุกปล้น ชาวบ้านหลายคนถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม และทรัพย์สินทั้งหมดก็ถูกโจรปล้นไป ทางการส่งกองทหารออกไปปราบ แต่พวกโจรหลบหนีเข้าไปในภูเขาลึก จับตัวมิได้นับแต่นั้นมา พวกโจรภูเขาก็ออกมาอาละวาดเป็นระยะ ๆ เหตุการณ์ที่สร้างความวุ่นวายที่สุดครั้งหนึ่ง คือพวกโจรปะทะกับทหารที่ประจำการในเมือง ผลลัพธ์คือทั้งสองฝ่ายต่างมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ไม่มีฝ่ายไหนได้เปรียบ หลังจากนั้นสองเดือน โจรเหล่านั้นก็กลับมาบุกอีกครั้ง และทหารที่ประจำการในเมืองก็ออกไปต่อสู้ แต่ใครจะคาดคิดว่า นั่นเป็นกับดักของพวกโจรภูเขา เมื่อพวกทหารไล่ตามไปถึงเนินเขาสิบหลี่ พวกโจรที่ซุ่มอยู่ก็ปรากฏตัวออกมาล้อมพวกทหารเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าทหารเหล่านั้นถูกล้อมและกำลังจะถูกสังหาร แต่ในตอนนั้นเอง ชายผู้กล้าหาญคนหนึ่งก็ปรากฏตัวราวกั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 128

    ฉินซูพูดโดยมิต้องคิด “แทนที่จะไปหาตัวเขา สู้ทำเรื่องที่นี่ให้เอิกเกริกขึ้นหน่อย แล้วเขาจะมาหาเราเอง”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเห็นด้วยกับความคิดของฉินซู "ได้ งั้นทำตามที่ท่านว่า เช่นนั้นพวกเรามาก่อเรื่องใหญ่กันเถอะ!" เมื่อเห็นนางแสดงท่าทางร้อนใจเช่นนั้น ฉินซูก็พูดอย่างหมดความอดทนว่า "ตัวการยังมิมาเลย เจ้าจะร้อนใจหาปะไร รอให้พวกเขามาก่อนเถอะ ถึงตอนนั้นเจ้าก็แค่ปล่อยให้ตัวเองไปวุ่นวายเท่านั้น ถ้าเรื่องแพร่กระจายออกไป เจ้าคิดหรือว่าสวีหลายจะมิโผล่มาเอง" ฉงชูโม่ถอนหายใจเบา ๆ แล้วก็นั่งลง ฉินซูหันไปถามเสี่ยวเอ้อร์ว่า "เมื่อครู่ข้าขึ้นบันไดมา ข้าสังเกตว่าที่นี่ดูเหมือนจะมีที่พักด้วยใช่หรือไม่?" "มีขอรับ แขกผู้มีเกียรติ ที่ชั้นสามและชั้นสี่เป็นห้องพักทั้งหมด และเป็นห้องชั้นดีทั้งสิ้น หากท่านทั้งสองต้องการ ข้าน้อยจะจัดการให้เดี๋ยวนี้ขอรับ" "ดี ไปเถอะ" ฉินซูมิอยากเสียเวลาไปหาที่พักที่อื่นแล้ว มินานนัก ฉินซูกับฉงชูโม่ก็ขึ้นไปยังชั้นสาม และแยกกันเข้าห้องพักของตัวเอง ขณะที่ฉินซูกำลังจะเอนกายลงนอน ก็มีคนเปิดประตูเข้ามาอย่างกะทันหัน เขา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 129

    มิทันที่ฉินซูจะพูดจบ ฉงชูโม่ก็ขมวดคิ้วแล้วขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย "หากท่านพูดปลอบใจมิเป็น ก็อย่าพูดเลย ฟังท่านพูดจบ หม่อมฉันยิ่งรู้สึกแย่กว่าเดิมอีก" ฉินซูยักไหล่ "เช่นนั้นข้ามิพูดแล้ว เหล้านี่ก็แย่เกินจะดื่ม ข้าขอมิดื่มกับเจ้าแล้วกัน เดินทางมาตั้งไกล ข้าของีบสักหน่อยก่อน" พูดจบ ฉินซูก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงและหลับตาพักผ่อน ฉงชูโม่จ้องมองเขาด้วยความมิพอใจ ก่อนจะหันกลับมาดื่มเหล้าต่อไปเพียงคนเดียว มิรู้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่จู่ ๆ ฉินซูก็ได้กลิ่นหอมละมุนลอยมาจากข้างกายเขาลืมตาขึ้น แต่แล้วก็ต้องตกใจจนตาเบิกกว้าง! ฉงชูโม่นอนอยู่ข้างเขา! มิเพียงแค่นั้น นางยังพลิกตัวพาดแขนขาวเนียนเหมือนรากบัวมาพาดไว้ที่คอของเขาอีกด้วย ร่างกายที่นุ่มนวลและอบอุ่นของนางแนบชิดกับเขาเต็มที่เมื่อได้สัมผัสถึงความอุ่นที่แผ่มาจากร่างของนาง ฉินซูรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ เลือดลมในร่างกายพลันร้อนระอุ เขากลืนน้ำลายแล้วพูดกระซิบเบา ๆ "ชูโม่ ชูโม่ เจ้าตื่นสิ..." ฉงชูโม่ที่กำลังเมามายพูดเสียงอ้อแอ้ "อือ... ท่านจะอะไรนักหนา น่ารำคาญ อย่ากวนสิ" "มิใช่ ไยเจ้ามานอนเตียงข้าเล่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 130

    เมื่อริมฝีปากของทั้งสองได้สัมผัสกัน ฉงชูโม่ถึงกับมึนงงไปทันที ในขณะนั้นสมองของนางว่างเปล่า หัวใจเต้นรัวอย่างมิรู้ตัว ฉินซูเองก็ถูกการกระทำที่มิทันตั้งตัวของฉงชูโม่ทำให้ตกใจเช่นกัน เมื่อสติกลับคืนมา ดวงตาของเขาเบิกกว้าง เต็มไปด้วยความตกตะลึงทั้งสองคนต่างนิ่งค้างอยู่อย่างนั้นสักพัก ฉงชูโม่ก็เริ่มรู้สึกตัว ใบหน้านางเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ก่อนที่จะคิดถอยออกไป แต่ในตอนนั้นฉินซูโอบรัดเอวนางไว้ แล้วจุมพิตอย่างลึกซึ้งและอ่อนโยน แรกเริ่ม ฉงชูโม่ยังคงพยายามผลักเขาออกตามสัญชาตญาณ แต่ภายใต้การรุกของฉินซู นางพบว่าร่างกายของนางอ่อนยวบไปหมด ไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อต้านแม้แต่น้อย พร้อมกันนั้น นางยังรู้สึกว่า ความรู้สึกนี้ช่างน่าพิศวงนักจนอดมิได้ที่จะโอนอ่อนตามไป สองแขนงามประหนึ่งหยกของนางคล้องคอฉินซูไว้โดยมิรู้ตัวเมื่อได้รับการตอบสนองจากฉงชูโม่ ฉินซูก็โอบรัดนางและล้มตัวลงบนเตียงไปตามธรรมชาติใบหน้าของฉงชูโม่แดงซ่านราวกับกลีบเมฆที่ต้องแสงอาทิตย์อัสดงภายใต้จูบของฉินซู ร่างของนางอ่อนระทวยราวกับคล้ายกับธารน้ำใสที่ดูเหมือนค่อย ๆ หลอมละลาย ฉินซูไปด้วยฉินซูจูบไปพลาง มือทั้งสองข้างไ

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 716

    กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง “ท่านว่ากระไรนะ? หนานเยวี่ยถูกทำลายแล้วหรือ?”“ใช่ เพิ่งได้รับข่าวเมื่อมินานมานี้ ฉินซูใช้กลอุบายเล็กน้อยก็บีบบังคับให้ทหารหนานเยวี่ยแสนนายยอมจำนน จากนั้นยังนำทหารชั้นยอดเพียงหมื่นนายบุกเข้ายึดเมืองหลวงของหนานเยวี่ย และสังหารเชื้อพระวงศ์หนานเยวี่ยจนหมดสิ้น”“มิจริงกระมัง? ท่านแน่ใจหรือว่าข่าวนั้นเป็นความจริง?” กู้เสวี่ยเจี้ยนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข่าวนี้เป็นความจริงทุกประการ ต้องยอมรับว่าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดแห่งต้าเหยียนผู้นี้พอมีฝีมืออยู่บ้าง หากเขามา บางทีอาจจะช่วยข้าได้”“ท่านต้องการให้ฉินซูช่วยท่านทำกระไรหรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความหวาดระแวง“ถึงเวลานั้นเจ้าก็จะรู้เอง เอาเถอะ เจ้าลงไปได้แล้ว ข้าจะฝึกวิชา”ซ่างกวนอวิ๋นซีออกคำสั่งไล่แขกดื้อ ๆกู้เสวี่ยเจี้ยนเบะปากแล้วหันหลังเดินลงบันไดไปซ่างกวนอวิ๋นซีกลับไปยังห้องฝึกตน จากนั้นก็ร่ายเวทด้วยสองมือ ตวัดนิ้วส่งพลังปราณไปยังกระจกทองเหลืองบานหนึ่งในเวลาเดียวกันภายในสำนักหอดูดาวหลวงแห่งต้าเหยียนเหลยเจิ้นกำลังนั่งสมาธิบำเพ็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 715

    มู่หรงเซี่ยวเทียนอธิบายว่า “คุณชายหยวน เทพธิดาซ่างกวนกำลังกักตนบำเพ็ญเพียรอยู่จริง ๆ หากท่านมิเชื่อ ท่านสามารถไปดูที่หอดารารักษ์ได้”“ข้าต้องไปแน่ ข้าขอพูดตามตรง ครั้งนี้ที่ข้ามาก็เพื่อสู่ขอนาง เทพธิดาซ่างกวน ข้าจะต้องแต่งกับนางให้ได้!”“การได้รับความเมตตาจากคุณชายหยวนนับเป็นบุญของเทพธิดาซ่างกวน คุณชายหยวนโปรดวางใจ เมื่อนางออกจากด่านกักตนบำเพ็ญเพียรแล้ว ข้าจะทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ท่านด้วยตนเอง”หยวนหัวยิ้มประสานมือคารวะมู่หรงเซี่ยวเทียน “เช่นนั้น ก็ขอบพระทัยฝ่าบาทแห่งเป่ยเยี่ยนยิ่งนัก”"คุณชายหยวนเกรงใจเกินไปแล้ว เชิญเถิด"จากนั้น มู่หรงเซี่ยวเทียนก็นำคณะของแคว้นฉีเข้าเมืองในหมู่เชื้อพระวงศ์แห่งเป่ยเยี่ยน หญิงสาววัยสิบแปดสิบเก้าปีคนหนึ่งแค่นเสียงเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ว่า “หึ แคว้นฉีพูดเสียดิบดีว่าจะส่งองค์รัชทายาทมาตรวจราชการ เสด็จพ่อจึงเสด็จออกไปต้อนรับด้วยพระองค์เอง ใครจะคิดว่าคนที่มาจะเป็นเพียงบุตรชายของอ๋องเซียงหยาง ช่างมิเห็นหัวคนเสียนี่กระไร”“ใครว่ามิจริงเล่า ข้าเองก็รู้สึกแย่พอกัน หากเป็นอ๋องเซียงหยางเสด็จมาด้วยตนเอง เสด็จพ่อเสด็จออกไปต้อนรับก็ยังพอว่า แต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 714

    เป่ยเยี่ยนทั่วทั้งเมืองจินหลิงตกอยู่ภายใต้การวางกำลังที่เข้มงวดภายในเมืองหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาลของเป่ยเยี่ยนแห่งนี้ สามารถพบเห็นทหารกองรักษาการณ์พร้อมอาวุธได้ทุกหนทุกแห่งบริเวณประตูเมืองทางเหนือมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยมีกองทัพทหารม้าเกราะหนักซึ่งเป็นกองกำลังที่มีกำลังรบแข็งแกร่งที่สุดของเป่ยเยี่ยนเป็นผู้รักษาการณ์พรมแดงที่โดดเด่นสะดุดตาผืนหนึ่งทอดยาวจากถนนสายหลักเมืองทางฝั่งเหนือ ไปจนถึงนอกประตูเมืองทางทิศเหนือขุนนางทั้งบู๊และบุ๋นของเป่ยเยี่ยนต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ราชรถหรูหราโอ่อ่าของจักรพรรดิจอดอยู่ภายนอกประตูเมืองทางเหนือมู่หรงเซี่ยวเทียนในชุดลายมังกรที่ยืนอยู่สุดปลายพรมแดงกำลังมองไปยังทิศทางอันห่างไกลเบื้องหลังของเขาคือเหล่าพระโอรสและพระธิดามิว่าจะเป็นขุนนางข้าราชบริพาร หรือมู่หรงเซี่ยวเทียน หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ ต่างก็ตั้งตารอคอยราวกับกำลังรอคอยบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ก็มิปาน“ฝ่าบาท พวกเขากำลังมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งดังมาจากกำแพงเมืองมู่หรงเซี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ มองออกไป เห็นขบวนหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้า ๆ บนถนนหลวงที่อยู่ไกลออกไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 713

    "บัดนี้องค์รัชทายาทยังได้แสดงวรยุทธ์อันน่าตื่นตะลึงออกมา ข้าน้อยเห็นว่าก็สามารถใช้ประโยชน์จากองค์รัชทายาทได้ในด้านการประลองยุทธ์พ่ะย่ะค่ะหากมีองค์รัชทายาทเข้าร่วมโดยไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ราชวงศ์ต้าเหยียนน่าจะสามารถก้าวเข้าสู่สามสิบอันดับแรกได้และหากแสดงฝีมือได้ดี บางทีอันดับของต้าเหยียนในกลุ่มแคว้นลำดับรองอาจจะขยับขึ้นได้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวโบกมือ กล่าวด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เรื่องอันดับนั้นมิสำคัญ จุดประสงค์ที่เราเข้าร่วมการประชุมระหว่างแคว้นคือการเข้าสู่สามสิบอันดับแรก แล้วชิงสิทธิ์ในการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน”“เช่นนั้นก็ง่ายดาย ข้าน้อยเตรียมพร้อมทุกประการแล้ว ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนได้ ย่อมต้องพบเทพศาสตราวุธในตำนานและเมล็ดพันธุ์พืชอันล้ำค่า ถึงยามนั้น การที่ต้าเหยียนจะก้าวขึ้นเป็นแคว้นผู้นำก็อยู่แค่เอื้อม”เหลยเจิ้นกล่าวแล้วก็อดตื่นเต้นมิได้ดังที่เคยกล่าวไว้แต่ต้น เมื่อสองร้อยปีก่อน ในแผ่นดินเฉินโจว ต้าเหยียนนั้นเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีผู้ใดสนใจต่อมาหลังจากได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน ก็บังเอิญได้ครอบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status