Share

บทที่ 732

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ฉินซูกล่าวพึมพำ "อันดับแรก ข้าคือบุตรแห่งนักปราชญ์คนใหม่ของหอดารารักษ์ของพวกท่านอยู่แล้ว อีกอย่างมีพวกท่านเป่ยเยี่ยนคอยรับมือเป็นด่านหน้า แม้ว่าอ๋องเซียงหยางหมายจะระรานต้าเหยียน ก็ต้องผ่านด่านพวกท่านไปก่อนมิใช่หรือ?"

แม้ปากจะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังรู้สึกหวั่น ๆ อยู่มิใช่น้อย

เพราะเขาเองก็มิแน่ใจว่า อ๋องเซียงหยางจะใช้อำนาจของตนเองกดดันต้าเหยียนในเรื่องอื่นหรือไม่

ซ่างกวนอวิ๋นซีพูดอย่างมิค่อยสบอารมณ์นัก "เจ้าพล่ามกระไรนักหนา ตกลงคิดหาวิธีได้หรือยัง?"

"คิดได้แล้ว" ฉินซูพูดด้วยท่าทีจริงจัง

"รีบว่ามา!"

"ก่อนอื่นตอนนี้ต้องปิดข่าวเรื่องการตายของหยวนหัวไปก่อน แล้วค่อยดูสถานการณ์กันต่อไป!"

ซ่างกวนอวิ๋นซีขมวดคิ้ว "นี่คือวิธีที่เจ้าคิดได้หรือ?"

ฉินซูพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง

"ดูเหมือนเจ้าจะคิดว่า คำพูดของข้าก่อนหน้านี้แค่ขู่เจ้าเท่านั้นสินะ"

เมื่อสิ้นเสียงพูด กระบองหนามแหลมก็ปรากฏขึ้นในมือของนางแล้ว!

ฉินซูรีบถอยร่นไปหลายก้าว "ใจเย็นก่อน ข้ามิได้หลอกท่าน ข้าจริงจังนะ"

ซ่างกวนอวิ๋นซีโบกกระบองหนามในมือ พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "เรื่องที่จะหักขาสกปรกของเจ้า เรื่องนั้นข้าก็พูดจริงเช่นกัน!"
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 1

    ราชวงศ์ต้าเหยียน ชานเมืองหลงเฉิง เขาต้าอวี่“ตายซะ!”เสียงคำรามดังกึกก้อง ดาบคมกริบที่มีแสงเย็นเฉียบแทงเข้าหาหัวใจของฉินซูเร็วยิ่งกว่าสายฟ้า“คุ้มกันองค์รัชทายาท!”ราชองครักษ์หลายนายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉินซูตะโกนลั่นด้วยความโกรธ พลางชักดาบขึ้นสู้ในขณะที่พวกเขากำลังต่อสู้กัน ฉินซูมีแววตาเลื่อนลอย‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น?‘‘เมื่อกี้ข้ายังอยู่กับเทพีสงครามผู้งดงามในห้องอยู่เลยมิใช่หรือ?’‘ไฉนจู่ ๆ ข้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้?‘ขณะที่เขากำลังสงสัยอยู่นั้น จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดศีรษะแปลบ ความทรงจำที่มิใช่ของตัวเองไหลเข้ามาในสมองราวกับน้ำป่าไหลหลาก!ราชวงศ์ต้าเหยียน... รัชทายาท…‘(สะอึก!) นี่ข้าข้ามมิติมาแถมยังกลายเป็นองค์รัชทายาทของราชวงศ์ต้าเหยียนไปแล้วจริง ๆ หรือนี่!‘ฉินซูตื่นตัวอย่างรวดเร็ว มิคิดมิฝันว่าการข้ามมิติที่เคยอ่านในนิยายจะเกิดขึ้นจริงกับตัวเองในขณะที่เขากำลังประหลาดใจ เหล่าราชองครักษ์ก็ถูกมือสังหารฟันลงไปกองกับพื้น(เสียงชักดาบออกมาพร้อมกัน)มือสังหารสวมหน้ากากเจ็ดหรือแปดคนถือดาบล้อมรอบเขาไว้หนึ่งในนั้นตะโกนอย่างเย็นชา “ฉินซู ถึงขนาดนี้แล้ว เจ้ายังมิยอมฆ่าตัวตายอีก รอหาอะไ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 2

    เห็นสระเลือดอยู่มิไกลเบื้องหน้า!ฉินเหยี่ยนพูดด้วยความมิเชื่อ “เลือดพวกนี้ หรือว่าเป็นของคนพี่สี่?”คนสนิทคนหนึ่งโบกมือแล้วสั่งคนที่อยู่ข้างหลังว่า “ไปสำรวจบริเวณรอบ ๆ เดี๋ยวนี้!”เหล่าบรรดาองครักษ์แยกย้าย!หลังจากนั้นมินานพวกเขาก็รีบวิ่งกลับ แต่ละคนส่ายหัวแล้วพูดว่า “องค์ชาย นอกจากที่นี่แล้วไม่มีร่องรอยเลือดที่อื่นเลยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินเหยี่ยนขมวดคิ้วและพึมพำ “เป็นไปได้อย่างไร? หรือว่าพวกเขาทั้งหมดถูกไอ้สารเลวฉินซูนั่นฆ่าตายหมดแล้ว?”“องค์ชาย พวกที่ท่านอ๋องซิ่นส่งมาล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งสิ้น องค์รัชทายาทมัวเมาในสุราเคล้านารีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่มีกำลังพอที่จะฆ่าคนพวกนั้นได้ กระหม่อมจึงมั่นใจว่า ต้องมียอดฝีมือคอยแอบช่วยเหลืออยู่เป็นแน่ มิเช่นนั้น องค์รัชทายาทย่อมมิอาจอยู่รอดปล่อยภัยได้แน่พ่ะย่ะค่ะ!”หลังจากได้ยินสิ่งนี้ฉินเหยี่ยนก็พยักหน้าช้า ๆ “ตัวข้าก็สงสัยอยู่ว่า เหตุใดฉินซูถึงกล้าฆ่าเฉินฉวิน ที่แท้เขาอาศัยความช่วยเหลือจากยอดฝีมือในเงามืด เดิมทีข้าวางแผนที่จะรอให้คนของอ๋องซิ่นฆ่าฉินซูแล้วคอยจับมือสังหารเหล่านั้น ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!”“เช่นนั้นเราควรทำอย่างไรดีหรือพ่ะย่ะค่ะ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 3

    ในพระตำหนักจินหลวนอันอันสง่างามและโอ่อ่าฉินอู๋ต้าว จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ต้าเหยียน สวมฉลองพระองค์ลายมังกร นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรพระพักตร์ดูสง่างาม มิมีแววโกรธแต่ยังดูทรงอำนาจมิว่าจะเป็นขมับที่ขาวโพลน หรือรอยย่นสามเส้นบนหน้าผาก ล้วนแต่บอกเล่าถึงความเหนื่อยล้าจากการทรงงานราชการตลอดทั้งวันใต้บันไดหยก มีเก้าอี้ไม้หนานมู่เนื้อทองสองตัวอยู่ทางซ้ายและขวา มีชายชราสองคนนั่งอยู่บนเก้าอี้เหล่านั้นคนทางซ้ายสวมชุดขุนนางสีม่วง และเข็มขัดสีทองลายดอกไม้เลื้อยรอบเอวแม้ว่าเขาจะอายุเกินเจ็ดสิบปีแล้วแต่เขาก็เต็มไปด้วยพลังและกระปรี้กระเปร่า!มิใช่ใครอื่นนอกจากผู้อาวุโสแห่งสำนักขุนนางใหญ่!คนทางขวามีอายุเท่าเว่ยเจิงสวมชุดนักปราชญ์ บนคางมีหนวดเคราสีเทายาวประมาณสามนิ้ว ในมือถือเข็มทิศหยกขาวไว้เสื้อคลุมสีเทาของเขาปักลวดลายของกลุ่มดาวหมีใหญ่ทั้งเจ็ดดวง!แววตาของเขาดูลึกซึ้งและสงบ แต่การเคลื่อนไหวเฉียบคมราวกับสามารถมองทะลุทุกสิ่งในใต้หล้าได้ในพริบตามิใช่ใครอื่นนอกจากเหลยเจิ้น หัวหน้าโหรหลวงแห่งสำนักหอดูดาวหลวง!ชายสองคนนี้เป็นทั้งขุนนางที่มีอิทธิพลอย่างมากในราชวงศ์ต้าเหยียน และได้รับความไว้วา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 4

    ดูเหมือนหนิวจินจะมิตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ เขาถือดาบและตะโกนด้วยเสียงทุ้ม “ฉินซูปล่อยองค์ชายของกระหม่อมเดี๋ยวนี้!"ฉินซูยิ้มอย่างดูแคลนและมองเขาราวกับว่าเขากำลังมองร่างไร้วิญญาณ!ทันใดนั้นใบหน้าของเฉิงจืออี้มืดครึ้มลงทันที เขาสังหรณ์ใจมิดีเสียแล้ว!เขากำลังจะขอให้หนิวจินวางดาบลงแต่ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงแหลมดังขึ้น“ฉึก!”เลือดพุ่งออกมาบนหน้าผากของหนิวจินทันทีจากนั้นก็หงายหลังล้มลงในแอ่งเลือด!หลังจากขุนนางทั้งหมดตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก็หันไปมองที่เหลยเจิ้นบุคคลเดียวที่สามารถฆ่านักรบอันดับหนึ่งของเป่ยเยี่ยนได้อย่างง่ายดาย คงมีเพียงหัวหน้าโหรหลวงเท่านั้นฉินซูยังลอบเหลือบมองเหลยเจิ้น และแอบพยักหน้าในใจสามารถใช้กำลังภายในฆ่าคนได้โดยมิเผยกำลังภายนอกเช่นนี้ หัวหน้าโหรหลวงผู้นี้เป็นยอดฝีมือระดับแนวหน้าอย่างแท้จริงเขาอยากรู้มากว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเหลยเจิ้นไปถึงขั้นไหนแล้วตั้งแต่ที่เขาเดินทางข้ามมิติมาจนถึงตอนนี้ เขายังมิได้เข้าใจระบบการบ่มเพาะของใต้หล้านี้เลยส่วนเจ้าของร่างดั้งเดิมขององค์รัชทายาทนั้น มิรู้อะไรเลยเกี่ยวกับวรยุทธ ดังนั้นฉินซูจึงมิได้รับข้อม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 5

    ฉินอู๋ต้าวเหลือบมองฉินซู และถามอย่างใจเย็น “องค์รัชทายาท เจ้ามีแผนการดี ๆ จริงรึ?”ฉินซูพูดอย่างใจเย็น “ทูลเสด็จพ่อ กระหม่อมไม่มีความคิดดีๆ เลยพ่ะย่ะค่ะ"ทันทีที่เขาพูดจบ ฉินเหยี่ยนก็พูดด้วยความเย้ยหยัน “เมื่อเสด็จพี่องค์รัชทายาท ตอนท่านวิจารณ์ทูตของเป่ยเยี่ยน ดูดุดันมากเพียงนั้น ตอนนี้กลับบอกว่าไม่มีความคิดดี ๆ อะไรเลย นี่มิไร้สาระไปหน่อยหรือ?"“เช่นนั้น หากไม่มีแผนดี ๆ แล้วท่านยังจะเสนอให้ทำสงครามอีกหรือท่านอยากเห็นต้าเหยียนของเราตกที่นั่งลำบาก หรือท่านอยากอวดตัวต่อหน้าเหล่าขุนนางในท้องพระโรงกันแน่?”ฉินหงก็สนับสนุนทันที เขามิอยากพลาดโอกาสที่จะได้เหยียบย่ำองค์รัชทายาทต่อหน้าขุนนางทั้งหลายเช่นนี้หลินซียังถามอีกว่า “ในเมื่อองค์รัชทายาทไม่มีแผนการในใจ เหตุใดท่านถึงมิเห็นด้วยกับการคืนเมืองชิ่งโจวให้กับเป่ยเยี่ยนเล่า?”ฉินซูวางมือไพล่หลังและส่งเสียงฮึมฮัม “หึ เมืองชิ่งโจวเดิมทีเป็นดินแดนของต้าเหยียน เหล่าทหารพยายามอย่างยากลำบากกว่าจะยึดกลับคืนมาได้ แต่พวกเจ้ากลับต้องการคืนชิ่งโจวให้เป่ยเยี่ยน การกระทำเช่นนี้มิเพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของเราเท่านั้น แต่ยังบ่อนทำลายขวัญกำลังใจ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 6

    ฉินหงขมวดคิ้วและถามว่า “ไฉนท่านมองข้าเช่นนั้นเล่า?”ฉินซูยิ้มอย่างสงบและพูดว่า “ไม่มีอะไร ข้าแค่อยากจะบอกว่า หากมู่หรงฟู่มิชอบก็ยังมีหลินชิงเหยามิใช่รึ?”บุตรีสุดที่รักของใต้เท้าหลินเป็นหนึ่งในห้าของสาวงามแห่งหลงเฉิงของเรา ด้วยความงามเช่นนี้ ตราบใดที่มู่หรงฟู่มิใช่ขันที ก็คงไม่มีทางที่เขาจะมิถูกนางล่อลวงหรอกใช่หรือไม่?”ครั้นได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของฉินหงก็แสดงถึงความมิพอใจทันใด!ขุนนางคนอื่น ๆ ก็มีการแสดงออกที่แตกต่างกันออกไปมีผู้ใดมิรู้บ้างเล่าว่า หลินชิงเหยาเป็นคนรักของอ๋องฉี ฉินหง เมื่อฉินซูพูดเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาอยากมีปัญหากับอ๋องฉีใช่หรือไม่?สีหน้าหลินซีดูมิพอใจ เขาประสานมือและโค้งคำรับไปทางฉินอู๋ต้าว “ฝ่าบาท บุตรีของข้าน้อยมีคนที่นางรักอยู่แล้ว ข้าน้อยมั่นใจว่าฝ่าบาทจะมิ…”ยังมิทันที่เขาจะพูดจบฉินอู๋ต้าวก็โบกมือและขัดจังหวะเขา“เสนาบดีหลิน เรื่องยังมิไปถึงขั้นนั้น ไฉนเจ้าต้องตื่นตระหนกนัก?”“ข้าน้อย… ข้าน้อยเพียงกังวล…”“มีสิ่งใดให้กังวลนัก? แม้ว่านางจะแต่งงานกับมู่หรงฟู่โดยมีข้าสนับสนุน เช่นนั้นเจ้าก็กลัวว่ามู่หรงฟู่จะกล้ารังแกนางรึ? อีกอย่างข้าเพิ่งบอกว่าเรื่องยั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 7

    เหลยเจิ้นมิตอบทันที แต่ชี้ไปที่หัวของตนฉินอู๋ต้าวขมวดคิ้วเล็กน้อย “เจ้าหมายถึงอะไร?”“ทูลฝ่าบาท ปีนี้ดาวแห่งจักรพรรดิจะเข้าสู่วังชีวิต ทำลายอิทธิพลชั่วร้าย ดาวดวงอื่น ๆ หลับใหล นี่เป็นตัวบ่งบอกถึงจำนวนภัยพิบัติ อย่างไรก็ตาม เมื่อดาวไท่เวยอยู่ข้าง ๆ วังชีวิต เคราะห์ร้ายก็คลายกังวล หลังจากวันชุนเฟินในปีหน้า ครั้นดาวทุกดวงกลับคืนสู่ตำแหน่ง ไทเว่ยก็จะถูกขับออกจากตำแหน่ง"“เจ้ากำลังบอกว่า องค์รัชทายาทคือกุญแจสำคัญที่ช่วยป้องกันข้าจากเคราะห์ร้ายรึ?”เหลยเจิ้นพยักหน้าเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “พ่ะย่ะค่ะ ก่อนที่ดวงดาวจะกลับสู่ตำแหน่ง ต้องมิรบกวนไท่เวย มิเช่นนั้นโชคร้ายร่วงหล่นจากสวรรค์ ทั่วหล้าโกลาหลวุ่นวาย แคว้นจะตกอยู่ในอันตรายพ่ะย่ะค่ะ!”การแสดงออกของฉินอู๋ต้าวเริ่มจริงจังหากมีใครพูดเช่นนี้เขาคงจะสั่งให้ลากคนผู้นั้นออกไปตัดศีรษะแล้วทว่ายามนี้คำพูดที่มาจากปากของหัวหน้าโหรหลวงแห่งสำนักหอดูดาวหลวง เขาก็มิกล้าที่จะนิ่งนอนใจท้ายที่สุดแล้ว ความสามารถของเขาในการขึ้นสู่บัลลังก์นั้นขึ้นอยู่กับวิธีการทำนายที่ลึกลับยากจะคาดเดาของเหลยเจิ้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คำทำนายทั้งหมดของเหลยเจิ้นนั้นเป็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 8

    ฉินหงตะลึงตัวแข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่งและรีบอธิบายว่า “มิใช่เป็นแน่ ตอนนั้นข้าเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ข้าจะมิยอมให้อะไรเกิดขึ้นกับเจ้าเด็ดขาด”หลินชิงเหยาเยาะเย้ยในใจ คร้านจะพูดอะไรกับเขามากกว่านี้ฉินหงพูดกับตัวเองว่า “วันนี้ตัวข้าอารมณ์ดี ไปล่องเรือในทะเลสาบกันเถอะ”หลินชิงเหยาส่ายหัวด้วยสีหน้าเย็นชา "หม่อมฉันขออภัยเพคะ วันนี้หม่อมฉันรู้สึกมิสบายนิดหน่อย หม่อมฉันคงไปกับท่านอ๋องมิได้ โปรดประทานอภัยให้หม่อมฉันด้วยเพคะ"ฉินหงถามด้วยความเป็นห่วง “เจ้าเป็นอะไรไป? ให้ข้าเรียกหมอมาดีหรือไม่?"“มิเป็นไรเพคะ หม่อมฉันแค่เวียนหัวนิดหน่อย เพียงต้องพักผ่อนเพคะ”“ก็ได้ เช่นนั้นเจ้าพักผ่อนก่อน หลังจากโค่นฉินซูองค์รัชทายาทไร้ประโยชน์ลงได้แล้ว ข้าจะพาเจ้าไปเที่ยวชมสถานที่ดี ๆ”หลังจากพูดเพิ่มเติมเล็กน้อย เขาก็หันหลังกลับเดินออกไปอย่างมิเต็มใจเมื่อมองดูร่างที่จากไปของเขา ดวงตาของหลินชิงเหยาก็สั่นไหว หัวใจของนางดิ้นรนกับอารมณ์ที่ขัดแย้งกันหลินชิงเหยา สวมเสื้อคลุมสีดำ เดินออกจากประตูหลังจวนอย่างเงียบ ๆ และมุ่งตรงไปยังตำหนักบูรพา……ตำหนักบูรพาขันทีน้อยหลายคนยืนเฝ้าอยู่ด้านนอกห้องทรงพระอักษรด้วย

Pinakabagong kabanata

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 732

    ฉินซูกล่าวพึมพำ "อันดับแรก ข้าคือบุตรแห่งนักปราชญ์คนใหม่ของหอดารารักษ์ของพวกท่านอยู่แล้ว อีกอย่างมีพวกท่านเป่ยเยี่ยนคอยรับมือเป็นด่านหน้า แม้ว่าอ๋องเซียงหยางหมายจะระรานต้าเหยียน ก็ต้องผ่านด่านพวกท่านไปก่อนมิใช่หรือ?"แม้ปากจะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังรู้สึกหวั่น ๆ อยู่มิใช่น้อยเพราะเขาเองก็มิแน่ใจว่า อ๋องเซียงหยางจะใช้อำนาจของตนเองกดดันต้าเหยียนในเรื่องอื่นหรือไม่ซ่างกวนอวิ๋นซีพูดอย่างมิค่อยสบอารมณ์นัก "เจ้าพล่ามกระไรนักหนา ตกลงคิดหาวิธีได้หรือยัง?""คิดได้แล้ว" ฉินซูพูดด้วยท่าทีจริงจัง"รีบว่ามา!""ก่อนอื่นตอนนี้ต้องปิดข่าวเรื่องการตายของหยวนหัวไปก่อน แล้วค่อยดูสถานการณ์กันต่อไป!"ซ่างกวนอวิ๋นซีขมวดคิ้ว "นี่คือวิธีที่เจ้าคิดได้หรือ?"ฉินซูพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง"ดูเหมือนเจ้าจะคิดว่า คำพูดของข้าก่อนหน้านี้แค่ขู่เจ้าเท่านั้นสินะ"เมื่อสิ้นเสียงพูด กระบองหนามแหลมก็ปรากฏขึ้นในมือของนางแล้ว!ฉินซูรีบถอยร่นไปหลายก้าว "ใจเย็นก่อน ข้ามิได้หลอกท่าน ข้าจริงจังนะ"ซ่างกวนอวิ๋นซีโบกกระบองหนามในมือ พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "เรื่องที่จะหักขาสกปรกของเจ้า เรื่องนั้นข้าก็พูดจริงเช่นกัน!"

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 731

    ฉินซูจึงได้กระจ่างในทันที แล้วถามด้วยความสงสัยอีกว่า “แล้วท่านเล่าอยู่ในระดับใด?”“ข้ามิเหมือนจอมยุทธ์! ยิ่งกว่านั้น ข้าอยู่ในระดับใดนั้นมิได้เกี่ยวข้องกับวิธีการที่เจ้าจะใช้รับมือกับอ๋องเซียงหยาง”“จะมิเกี่ยวข้องได้อย่างไร หากพลังของท่านแข็งแกร่งกว่าอ๋องเซียงหยางผู้นั้น ท่านก็มิจำเป็นต้องเสียแรงคิดหาวิธีรับมือแล้ว ท่านแค่ลงมือสังหารเขาเสียก็สิ้นเรื่องแล้ว”ซ่างกวนอวิ๋นซีส่ายหน้า “แค่ระดับเหนือมนุษย์ ข้ามิได้เห็นอยู่ในสายตา ทว่าเจ้าคิดกระไรตื้น ๆ ในฐานะอ๋องแห่งแคว้นฉีผู้กุมอำนาจทางการทหารและการปกครอง มีหรือที่จะไม่มีกลุ่มอำนาจแข็งแกร่งคอยหนุนหลัง”ฉินซูถามด้วยความประหลาดใจว่า “หมายความว่ากลุ่มอำนาจเบื้องหลังอ๋องเซียงหยางมีผู้ที่แข็งแกร่งกว่าท่านหรือ?”แม้ซ่างกวนอวิ๋นซีจะมิอยากยอมรับ แต่สิ่งที่ฉินซูคาดเดานั้นเป็นความจริงดังนั้นนางจึงทำได้เพียงพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อเห็นดังนั้น สีหน้าของฉินซูก็พลันเคร่งขรึมขึ้นผู้ที่แข็งแกร่งกว่าซ่างกวนอวิ๋นซี เกรงว่าคงมีเพียงหัวหน้าโหรหลวงเท่านั้นที่สามารถรับมือได้ในตอนนี้เอง ซ่างกวนอวิ๋นซีก็กล่าวขึ้นอีกว่า “อีกอย่างยังมิต้องกล่าวถึงว่าอำนาจเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 730

    มู่หรงเซี่ยวเทียนต้องการพบฉินซู!ซ่างกวนอวิ๋นซีกลับกล่าวอย่างอ้อมค้อมว่า “บุตรแห่งนักปราชญ์เพิ่งมาถึงหอดารารักษ์ เดินทางมาเหน็ดเหนื่อย บัดนี้หลับใหลไปแล้ว วันพรุ่ง วันพรุ่งหม่อมฉันจะพาเขาเข้าวังไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทด้วยตนเอง!”เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ มู่หรงเซี่ยวเทียนก็โกรธขึ้งในทันทีข้ารออยู่ที่นี่ตั้งนานสองนาน บัดนี้เจ้ากลับให้ข้ารอถึงวันพรุ่งอีกรึ?แม้ในใจจะเดือดพล่านเพียงใด แต่ด้วยฐานะของซ่างกวนอวิ๋นซี เขาจึงทำกระไรมิได้ดังนั้นเขาจึงกล่าวเสียงเรียบว่า “ถ้าเช่นนั้น วันพรุ่งข้าจะคอยท่านเซียนมาเยือน!”พูดจบก็ลุกขึ้นยืนเมื่อมู่หรงเซี่ยวเทียนเดินมาถึงประตูก็หยุดฝีเท้าลงกะทันหัน และหันกลับไปพูดด้วยน้ำเสียงแฝงความนัยว่า “ท่านเซียนซ่างกวน ข้ายังอยากเตือนท่านอีกสักครั้ง อ๋องเซียงหยางกุมอำนาจทางการทหารและการปกครอง อีกทั้งวรยุทธ์ยังลึกล้ำเกินหยั่งถึง การยั่วยุคนเช่นนี้ มิใช่สิ่งที่ปราชญ์พึงกระทำ!”พูดจบก็สะบัดแขนเสื้อจากไปด้วยความขุ่นเคืองซ่างกวนอวิ๋นซีขมวดคิ้วเรียวสวย รู้สึกจนปัญญาอยู่เล็กน้อยที่ฉินซูลงมือกับหยวนหัวถึงตายนั้นเป็นสิ่งที่นางคาดมิถึงแต่เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้นางก็ทำได้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 729

    ฉินซูเหลือบมองเขาผาดหนึ่งแล้วจูงมือกู้เสวี่ยเจี้ยนขึ้นไปยังชั้นบนด้วยกันหานฉีกลอกตาไปมา สุดท้ายก็แค่นเสียงอย่างดูแคลนออกมาห้องโถงชั้นบนฉินซูเลิกคิ้วถามว่า “ซ่างกวนอวิ๋นซี บัดนี้ข้าก็มาถึงแล้ว เจ้ากักตัวเสวี่ยเจี้ยนไว้ก็หาได้มีประโยชน์ไม่ ปล่อยนางกลับต้าเหยียนไปเถิด”“จะไม่มีประโยชน์ได้อย่างไร? หากนางอยู่และเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับหอดารารักษ์ของข้า เหลยเจิ้นย่อมมิอาจอยู่เฉยได้!”“ดูท่านพูดจาเข้าสิ หอดารารักษ์ของท่านเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยเยี่ยน ใครเลยจะกล้ามาหาเรื่องพวกท่านเล่า?”ซ่างกวนอวิ๋นซีจ้องมองฉินซูด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าคนสารเลว เจ้าสังหารบุตรชายของอ๋องเซียงหยาง มิหนำซ้ำยังกล่าวต่อหน้าธารกำนัลว่าเจ้าคือบุตรแห่งนักปราชญ์คนใหม่ของหอดารารักษ์ โยนความผิดทั้งหมดมาให้หอดารารักษ์ของข้าแล้วยังคิดจะให้พวกข้ารับมือกับความโกรธเกรี้ยวของอ๋องเซียงหยางแต่เพียงผู้เดียวหรือ?”ฉินซูกางมือออก “ข้ากล่าวความจริงมิใช่หรือ แล้วที่ท่านขู่เข็ญให้ข้ามา ก็เพราะอยากให้ข้าเป็นบุตรแห่งนักปราชญ์คนใหม่ของพวกท่านมิใช่หรือไร?”“ถึงจะเป็นเช่นนั้น เจ้าก็มิอาจอวดดีเช่นนี้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าก่อเรื่อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 728

    ภายในท้องพระโรงแห่งพระราชวังเป่ยเยี่ยนหลังจากฟังรายงานของแม่ทัพกองกำลังรักษาเมืองแล้ว มู่หรงเซี่ยวเทียนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรก็ลุกขึ้นพรวด“เจ้าว่าอย่างไรนะ? คุณชายหยวน… ตายแล้วรึ?!”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท เขาถูกคนผู้นั้นบิดคอตายคาที่พ่ะย่ะค่ะ!”เหล่าขุนนางที่อยู่ข้าง ๆ ต่างก็มีสีหน้าตื่นตระหนกในทันใด!“เกิดเรื่องแล้ว คราวนี้เกิดเรื่องใหญ่หลวงแล้ว คุณชายหยวนตาย อ๋องเซียงหยางไม่มีปล่อยผ่านเป็นแน่!”“ฝ่าบาท สิ่งที่สำคัญที่สุดในยามนี้คือรีบจับตัวคนร้ายแล้วส่งตัวให้อ๋องเซียงหยางแห่งแคว้นฉีจัดการพ่ะย่ะค่ะ!”“ใช่แล้ว ๆ มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้ราชสำนักเป่ยเยี่ยนของเราพ้นจากเรื่องนี้ได้”ทุกคนกล่าวขึ้นพร้อมเพรียงมู่หรงเซี่ยวเทียนซักถามแม่ทัพผู้นั้นต่อ “ผู้ที่ลงมือคือผู้ใดกันแน่? จับตัวเขาได้หรือไม่?”“ฝ่าบาท คนผู้นั้นมีวรยุทธ์แข็งแกร่งยิ่งนัก ตบผู้คุ้มกันคนสนิทของคุณชายหยวนจนกลายเป็นหมอกเลือดด้วยฝ่ามือเดียว พวกข้าน้อยหาได้มีความสามารถพอที่จะจับกุมเขาได้ไม่ เพียงแต่คนผู้นั้นกล่าวในยามนั้นว่า เขาคือบุตรแห่งนักปราชญ์คนใหม่แห่งหอดารารักษ์...”“บุตรแห่งนักปราชญ์คนใหม่?!”เมื่อได

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 727

    ซ่างกวนอวิ๋นซีเอื้อมมือไปคว้าคอเสื้อของเขาแล้วยกตัวเขาขึ้น!ฉินซูรีบร้องว่า “เดี๋ยว ๆ ท่านทำกระไร ท่านเป็นสตรี ช่วยสุภาพกว่านี้หน่อยได้หรือไม่ ข้าก็แค่...”เขายังมิทันกล่าวจบ ซ่างกวนอวิ๋นซีก็เหวี่ยงเขากระเด็นออกไปอย่างแรง ร่างของเขากระแทกเข้ากับหินก้อนใหญ่ข้างทางราวกับลูกปืนใหญ่โครม!เสียงดังสนั่น หินก้อนนั้นก็แตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ ในทันทีส่วนฉินซูนั้นราวกับกระดูกหักทั้งตัว นอนแผ่อยู่บนพื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวดสุดขีด พยายามจะลุกแต่ก็ลุกมิขึ้น“องค์รัชทายาท!”กู้เสวี่ยเจี้ยนตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน รีบเข้าไปประคองฉินซูโบกมือแล้วกล่าวว่า “อย่า อย่าขยับตัวข้า เอวข้าเหมือนจะหัก”กู้เสวี่ยเจี้ยนร้อนใจจนแทบจะร้องไห้!นางหันไปตำหนิซ่างกวนอวิ๋นซีว่า “พวกเราจะกลับไปกับท่านอยู่แล้ว เหตุใดท่านต้องลงมือรุนแรงถึงเพียงนี้ ท่านมันโหดเหี้ยมทารุณ!”“เขาสามารถตบยอดฝีมือระดับสวรรค์ให้กลายเป็นหมอกเลือดได้ด้วยฝ่ามือเดียว แค่กระทบกระเทือนครั้งเดียว เจ้าเชื่อจริง ๆ หรือว่าเอวเขาจะหัก?”“หา? มิหักหรอกหรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนงุนงงเล็กน้อยซ่างกวนอวิ๋นซีจ้องมองฉินซูด้วยสายตาเย็นชา “ข้าจะนับถึงสาม หากเจ้ามิ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 726

    จากนั้น ฉินซูก็พากู้เสวี่ยเจี้ยนควบม้าเร็วลงใต้มุ่งตรงไปยังทิศทางของต้าเหยียนมินานนัก ร่างอรชรก็ปรากฏตัวขึ้นที่นอกประตูเมืองหลวงจินหลิงทิศใต้อย่างเงียบเชียบนางสวมอาภรณ์บางเบา มีเพียงกระโปรงยาวสีม่วงตัวเดียว!ดูโดดเด่นเป็นพิเศษท่ามกลางสายลมเหมันต์ที่พัดโชยมานอกเมืองคนผู้นั้นคือเจ้าสำนักหอดารารักษ์ ซ่างกวนอวิ๋นซี!นางมองไปยังถนนหลวงอันไกลโพ้น กำลังจะออกตัวตามไปในเวลานั้นเองกลับได้ยินเสียงสนทนาของพ่อค้าสองสามคนที่อยู่ใกล้ ๆ โดยบังเอิญ“นี่ ๆ เจ้าหนุ่มเมื่อครู่นี้ ดูท่าทางเหมือนมาจากต้าเหยียนนา”“เหมือนกระไรกันเล่า? ฟังจากสำเนียงก็รู้ว่าเป็นคนต้าเหยียน!”“ว่าแต่เขาพาสาวงามราวบุปผาผู้นั้นหนีไปไหนกันนะ หรือว่ากำลังหลบหนีศัตรู?”“อาจจะเป็นเช่นนั้น แต่พวกเขาก็ฉลาดพอตัว ที่มิหนีไปตามถนนหลวง แต่กลับไปตามทางเล็ก ๆ หญ้ารกครึ้มทางนั้น สองข้างทางก็มีแต่พุ่มไม้ ศัตรูของพวกเขาคงหาตัวได้ยาก!”เมื่อได้ยินคำพูดดังนี้ ซ่างกวนอวิ๋นซีก็เผยรอยยิ้มเย็นเยียบแล้วมุ่งหน้าไปยังทางเล็ก ๆ ข้างทางหลังจากนางจากไปมินาน พ่อค้าเหล่านั้นก็ดื่มน้ำแล้วกล่าวอีกครั้ง“นี่ ๆ เจ้าหนุ่มเมื่อครู่นี้ ดูท่าทางเหมื

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 725

    "ว่ากระไรนะ?!?"สีหน้าของซ่างกวนอวิ๋นซีบิดเบี้ยวในทันใด!นางกัดฟันพูดว่า "เจ้าคนสารเลวนี่ ข้าว่าแล้วเชียว คิดว่ามีดีกระไรถึงได้กล้าฆ่าบุตรชายของอ๋องเซียงหยางแห่งแคว้นใหญ่ มิหนำซ้ำยังกล้าท้าทายองค์จักรพรรดิอย่างเปิดเผย ที่แท้ก็ปัดสวะมาให้หอดารารักษ์ของเรา มันน่ารังเกียจยิ่งนัก!""ท่านเจ้าสำนัก แย่แล้ว องค์รัชทายาทผู้รอวันปลดกับกู้เสวี่ยเจี้ยนออกจากเมืองไปแล้ว เกรงว่าจะหนีกลับต้าเหยียนไปแล้วขอรับ"ศิษย์คนหนึ่งของหอดารารักษ์รีบร้อนเข้ามาแจ้งข่าวสีหน้าของหานฉีและหลัวชางพลันมืดครึ้มลง"ท่านเจ้าสำนัก จะปล่อยเขาไปเช่นนี้มิได้นะขอรับ!""ใช่แล้ว พวกเราจะตามล้างตามเช็ดเรื่องวุ่นวายที่เขาก่อไว้มิได้นะขอรับ"หากมิใช่เพราะสู้มิไหว พวกเขาสองคนคงออกไปตามฉินซูนานแล้วซ่างกวนอวิ๋นซีส่งเสียงหึ "หึ สร้างความเดือดร้อนให้หอดารารักษ์ของข้าถึงขั้นนี้แล้วคิดจะสะบัดก้นหนีไปง่าย ๆ อย่างนั้นรึ? ฝันไปเถอะ!"ทันทีที่สิ้นเสียง นางก็หายตัวไปจากตรงนั้นหานฉีและหลัวชางต่างก็ชินเรื่องเช่นนี้เสียแล้วด้านนอกประตูทางทิศใต้ของเมืองหลวงจินหลิง ฉินซูและกู้เสวี่ยเจี้ยนขี่ม้าห้อตะบึงไปตลอดทางมินานนัก พวกเขาก็มาถ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 724

    ฉินซูไพล่สองมือไว้ด้านหลังพร้อมกล่าวอย่างองอาจว่า “ข้าคือบุตรแห่งนักปราชญ์คนใหม่แห่งหอดารารักษ์! จากนี้ไป หากพวกเจ้าได้รับความอยุติธรรมใด ๆ ที่ราชสำนักมิกล้าจัดการ ก็มายังหอดารารักษ์ได้ หอดารารักษ์จะจัดการให้พวกเจ้าเอง!”ผู้คนจึงได้ตระหนักในทันที!“อ้า! ที่แท้ก็คือบุตรแห่งนักปราชญ์คนใหม่แห่งหอดารารักษ์ มิน่าเล่าถึงได้องอาจเพียงนี้!”“คิดดูแล้วก็จริง ท่านเจ้าสำนักหอดารารักษ์มีฐานะสูงส่ง แม้แต่องค์จักรพรรดิก็ยังมิกล้าแสดงท่าทีต่อหน้า ดังนั้นผู้ที่กล้าจัดการเรื่องนี้ได้ก็มีเพียงหอดารารักษ์เท่านั้น”“หอดารารักษ์ช่างเกรียงไกร ลงมือสังหารเจ้าหยวนหัว เจ้าคนสารเลวที่สมควรตายสักพันครั้ง นับว่าขจัดภัยให้แก่ราษฎรแล้ว”มีผู้หนึ่งกล่าวด้วยความกังวลใจว่า “แต่… หยวนหัวเป็นบุตรชายของอ๋องเซียงหยางแห่งแคว้นใหญ่ บัดนี้เขาตายในเมืองหลวงเป่ยเยี่ยนของเรา อ๋องเซียงหยางคงมิยอมปล่อยผ่านเป็นแน่!”“ใช่แล้ว หากถึงเวลานั้นเขานำทัพใหญ่มาประชิดเมือง คนที่ซวยจะมิใช่พวกชาวบ้านตาดำ ๆ อย่างพวกเราหรอกหรือ?”“เฮ้อ ครานี้หอดารารักษ์มุทะลุเสียจริง”“นั่นสิ ลงโทษเพียงเล็กน้อยก็พอแล้ว เหตุใดจึงต้องลงมือถึงตายด้วยเล่า”

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status