ชินอ๋องนั่งเฝ้าซีเฟย เขาจับมือที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลเอาไว้แน่น หน้าของนางบัดนี้เริ่มมีเลือดฝาดแล้ว นั่นแสดงว่าการรักษาได้ผล โชคดีที่ท่านอาจารย์อาพาอาจารย์อีกสองท่านมาได้ทันเวลา ซีเฟยเริ่มขยับตัว แต่นางเหมือนอยู่ในฝันร้ายที่ทำให้นางไม่ตื่น“ไม่…อย่าเข้ามา…อย่าเข้ามา…อย่านะ..”“เฟยเฟย ข้าอยู่นี่ ตื่นสิ เฟยเฟย..”“ไม่!!!………..”ซีเฟยสะดุ้งและตื่นจากฝันร้าย ก่อนที่จะลุกขึ้นมาอย่างตกใจ เหงื่อออกเต็มไปหมด“เฟยเฟย ไม่เป็นไรแล้ว เจ้าปลอดภัยแล้วนะ”ชินอ๋องดึงนางเข้ามากอดเพื่อปลอบ นางพึ่งผ่านสถานการณ์แบบนี้มา เป็นปกติที่ต้องหวาดกลัวและตกใจจนฝันร้าย เขาหวังว่านางจะไม่เป็นแบบนี้ไปนานนัก“ท่านพี่ ข้า…กลัวมาก...พวกสัตว์พวกนั้น”นางร้องไห้สะอึกสะอื้น อย่าว่าแต่เป็นคนธรรมดาที่ต้องไปเจอเลย ซีเฟยที่อยู่ในสภาพนั้น ทั้งถูกมัดแขนขา และเอาผ้ายัดปากไว้ไม่ให้ร้อง นางจะหวาดกลัวสักเพียงใด เพียงแค่เขาคิดขึ้นมาก็โกรธจนแทบบ้า ต่อให้มีอีกสิบจ้าวซีเหมย เขาก็อยากจะจับมาฆ่าเสียให้หมดอีกเป็นสิบๆ ครั้งเขาไม่เคยลงมือฆ่าสตรี จ้าวซีเหมยเป็นคนแรกที่ทำให้เขาฝืนกฎของตัวเองลงมือกับนางอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งวิธีนี้ เขาคิดว่า เป็นโ
จ้าวซีเหมยที่กระแทกกับผนัง หันมามองผู้ที่ถีบประตูเข้ามา“สือเย่วเทียน”“ซีเหมย เจ้าทำอะไรอาเฟย”สือเย่วเทียนตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า ชินอ๋องจัดการกับทหารสองคนนั้นก่อน เพื่อให้พวกมันได้รับผลกรรมที่บังอาจมายุ่งกับพระชายาของเขา“ท่านอ๋อง เร็วเข้า ไปช่วยอาเฟยก่อน นางอยู่นั่น”ชินอ๋องวิ่งเข้าไป พร้อมกับฆ่าสัตว์ร้ายนั้น แต่พวกอสรพิษมีมากเกินไป และตอนนี้เริ่มหันไปเล่นงานทหารสองคนนั้นแทน เพราะมันได้กลิ่นคาวเลือด“ท่านอ๋อง ช่วยข้าด้วยเพคะ ข้าไม่ได้ทำ ข้ากำลังจะไปเรียกคนมาช่วยท่านพี่เพคะ ท่านอ๋อง ได้โปรด”“ไปให้พ้นหน้าข้า หลีกไป เฟยเฟย!!!”จ้าวซีเหมยวิ่งไปกอดขาชินอ๋อง เป็นภาพที่น่าสะอิดสะเอียนยิ่งนัก ความหวังครั้งสุดท้ายของนางที่จะทำให้เขาเห็นใจดับวูบลง เขาสะบัดนางออกจากขาอย่างไม่ใยดี พร้อมกับวิ่งเข้าไปช้อนตัวอุ้มซีเฟยออกมาจากเตียง และต้องคอยฆ่าสัตว์ร้ายที่ล้อมรอบตัวซีเฟยอยู่ และพานางออกมาด้านนอก ดึงผ้าและตัดเชือกออก“เย่วเทียน ไม่ใช่ข้านะ ข้าไม่รู้เรื่อง นางเป็นคนพาข้ามา เชื่อข้าสิ ช่วยข้าด้วย กรีี๊ดดดดดดด……”นางจะวิ่งออกมา ชินอ๋องรู้ดีว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องชั่วร้ายนี่ เขาวางซีเฟยลง ก่อนที
วันรุ่งขึ้นซีเฟยตื่นแต่เช้าในวันที่อากาศเริ่มเย็นลง ด้านนอกพระตำหนักหมอกลงหนาจนแทบจะมองไม่เห็นทางข้างหน้า หน้าหนาวของทางเหนือนั้น หนาวกว่าทางเมืองหลวงของชิงโจวมากนักซีเฟยปลุกท่านอ๋องมาทานข้าวเช้าและดื่มยาและน้ำอุ่นๆ เพื่อคลายหนาว ก่อนที่นางจะทำการเปลี่ยนผ้าพันแผลให้เขา เมื่อเปลี่ยนเสร็จ มีนางกำนัลเข้ามาขอเข้าเฝ้า“ทูลพระชายาชินอ๋อง ท่านอ๋องจ้าวให้พระองค์ไปเข้าเฝ้าเป็นการส่วนตัวเพคะ”“เสด็จอาแจ้งหรือไม่ว่าเรื่องอันใด”ซีเฟยถามนางกำนัล“แจ้งเพียงว่าเกี่ยวข้องกับพระอาการของฝ่าบาทเพคะ”“เฟยเฟย ข้าไปกับเจ้าด้วย”“ขออภัยเพคะ ท่านอ๋องทูลว่า ขอพบกับพระชายาเป็นการส่วนตัวเพคะ”ซีเฟยหันมายิ้มให้ท่านอ๋อง ก่อนบอกเขาไปเพื่อให้คลายกังวล“ไม่เป็นไรเพคะ หม่อมฉันคุ้นเคยกับวังหลวงที่นี่ดี เสด็จอาคงมีเรื่องลำบากใจบางอย่าง จึงอยากพบหม่อมฉันคนเดียว เดี๋ยวหม่อมฉันกลับมานะเพคะ”“ได้ ข้าจะรออาจารย์อา หากเขามาแล้วจะได้พาไปพบเจ้า”ซีเฟยยิ้มให้เขา ก่อนจะเดินตามนางกำนัลไป นางเดินตามไปเรื่อยๆ จนถึงตำหนักชั้นใน ที่นี่นางเคยพักอยู่ตั้งแต่เด็กจนโต เป็นตำหนักเดิมของนาง“เหตุใดท่านอาจึงได้นัดข้าที่นี่ โอ๊ย เดี๋ยวก่อน
เขาเดินออกมาเงียบๆ ตอนนี้เขาช่วยอะไรนางไม่ได้ คงต้องฝากอันเหมยดูแลนางไปก่อน เมื่อเขาออกมาก็พบกับสือเยว่เทียนและอาจารย์อาที่รอเขาอยู่“เยว่เทียน ท่านอา พวกท่านมาเยี่ยมเฟยเฟยหรือ คือว่านาง…”“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องจ้าวอยากพบพระองค์ ให้กระหม่อมมาเชิญพ่ะย่ะค่ะ”“ได้สิ ท่านนำทางไปได้เลย ท่านอา ท่านจะ...”“เดี๋ยวข้าจะดูนางให้ แล้วค่อยตามไป ท่านไปก่อนเถิด”“ขอรับ”“ท่านอ๋อง เชิญทางนี้...”เขาเดินตามเย่วเทียนไปพบอ๋องจ้าวที่ท้องพระโรง“เสด็จอา ท่านเรียกข้า มีอะไรด่วนหรือพ่ะย่ะค่ะ”“ท่านอ๋อง อาการบาดเจ็บของท่าน”“ดีขึ้นแล้วพ่ะย่ะค่ะ เฟยเฟยทำแผลให้ข้า เกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”“ฮองเฮาดื่มยาพิษในคุกหลวง สวรรคตแล้ว”“เบื้องหลังนาง ยังมีกองทัพกบฏหลงเหลืออีกหรือไม่ เย่วเทียน”ชินอ๋องสอบถามสือเย่วเทียน“ที่กระหม่อมตรวจสอบดู ไม่มีเหลือแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“แล้วเสด็จอา คิดจะทำเช่นไรต่อพ่ะย่ะค่ะ”“นางเป็นคนเดียวที่ถอนพิษให้เสด็จพี่ได้ ตอนนี้นางฆ่าตัวตายไปแล้ว นั่นแสดงว่า นางต้องการให้เสด็จพี่ สิ้นพระชนม์ตามนางไปด้วย ข้า ไม่รู้ว่าจะแจ้งเรื่องนี้กับซีเฟยเช่นไร และยังมีเรื่องซีเหมยอีก นางพึ่งจะทราบข่าวฮองเฮา แต่นางก็เอา
กองทัพทหารของแคว้นเยี่ยน นำโดยสือเยว่เทียน นำขบวนกองทัพกลับเข้าเมือง พร้อมกับกองทัพฟินิกซ์อัคคีและกองทัพอุดรของชินอ๋องแห่งชิงโจวตามมาด้วยการเข้าจับกุมฮองเฮากบฏแห่งเมืองเยี่ยน ที่ถูกอาจารย์อา ตามไปจับถึงที่พักค่ายกบฏ และนำตัวมารับโทษที่เมืองหลวง พร้อมกับเสียงสาปแช่งของบรรดาประชาชนในเมืองเยี่ยนจ้าวซีเหมยเมื่อทราบข่าวความพ่ายแพ้ของกองทัพเหลียงฮุ่ย นางก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้องนอน แม้ว่าจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นองค์หญิงของฮองเฮาซึ่งเป็นกบฏ แต่อ๋องจ้าวอี้เหลียงก็ไม่คิดที่จะทำร้ายหรือลงโทษนาง เพียงเพราะเขาคิดว่านางไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกบฏของฮองเฮาขบวนของชินอ๋องเข้าพักที่พระตำหนักหลวงที่ทางอ๋องจ้าวจัดเอาไว้ให้ เมื่อถึงที่พัก เขาลงจากหลังม้าและซีเฟยก็รีบตามเข้าไปเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บให้เขาทันที โดยที่ไม่พูดอะไรกับเขาสักคำ“เฟยเฟย เจ้ามาได้เช่นไรกัน เหตุใดไม่รอข้าอยู่...โอ๊ยย เจ็บนะ เฟยเฟย เบามือหน่อยสิ”“แผลอักเสบแล้ว อันเหมย เตรียมน้ำร้อน และยาฆ่าเชื้อ เอาเข็มมาด้วย เราต้องฝังเข็ม ก่อนที่จะผ่าเอาหนองออก พอผ่าแล้ว ต้องเย็บแผล เพราะปากแผลเปิดและฉีกออกมาแล้ว”“ผ่าสดเลยก็ได้ ไม่ต้องฝังเข็มก็ได้
ลูกธนูนับร้อยถูกยิงออกมา ก่อนที่อ๋องเจ้าจะหลบเข้าไป พร้อมกับเกราะเงินที่ถูกยกขึ้นมาบัง และเกราะเงินนั้นสะท้อนกับแสงอาทิตย์ และส่งกลับไปที่ทัพของศัตรู ทำให้พวกเขาแสบตา“บ้าจริง โล่เงิน ท่านแม่ทัพ พวกมันเตรียมการมาดีเหมือนกันนะขอรับ”กองทัพกบฏสูญเสียลูกธนูไปมากมาย แต่กลับทำอะไรโล่เงินของกองทัพเยี่ยนไม่ได้ มีการเคลื่อนไหวบางอย่าง โล่เงินบางอันค่อยๆ ขยับออก ก่อนที่จะมีปากกระบอกยาวๆ ยื่นออกมาจากป้อมปราการกำแพงเมือง“นั่นมันอะไรน่ะ”“แย่แล้ว นั่นมัน ปืนไฟ ตั้งแถว เตรียมโล่กำบัง”กองทัพกบฏล่าถอย และตั้งโล่เพื่อรองรับการโจมตี อ๋องจ้าวให้สัญญาณ ก่อนที่จะยกธงโบกเพื่อเป็นสัญญาณให้ยิง โดยที่ไม่ใช้เสียงให้ฝั่งตรงข้ามรู้“ตู้มมมม ตู้มมมม”ปืนไฟ สี่กระบอกถูกยิงออกไปยังทัพของกบฏ ทำให้โล่ของพวกเขาแตก และสูญเสียกำลังพลไปมากพอสมควร“แย่แล้ว ท่านแม่ทัพ เอาอย่างไรดีขอรับ”“ต้องเข้าประตูเมืองให้ได้ อย่าให้มันมีโอกาสยิงอีก บุก”“บุกกก!!”โล่กำบังถูกแยกออก และเหล่าทหารพร้อมท่อนไม้ใหญ่ วิ่งเข้าไปชนกำแพงเมืองเพื่อให้ประตูเปิด พวกเขาลงมือกระทุ้งอย่างหนัก ปืนไฟด้านบนกำแพง ยังคงยิงออกไปอย่างต่อเนื่องทำให้กองทัพกบ