"หม่อมฉันถังมู่เหริน…
"หม่อมฉันจ้าวซีเฟย…
""ถวายบังคมเสด็จพ่อ เสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ/เพคะ""
“ตามสบายเถิด ชินอ๋อง เจ้าพาพระชายาไปนั่งเถอะ”
“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ”
เขาจูงมือนางเดินไปนั่งที่ประทับสำหรับพวกเขา ที่จัดให้แล้ว สำหรับพิธีคารวะช่วงเช้า
“เป็นอย่างไรบ้าง องค์หญิงซีเฟย เจ้าเดินทางมาไกล คงจะเหน็ดเหนื่อย ช่วงนี้ เจ้าก็พักผ่อนให้มากๆ นะ”
“ขอบพระทัยเสด็จพ่อเพคะ หม่อมฉันสบายดีเพคะ ที่นี่อากาศดี จึงทำให้หม่อมฉันรู้สึกผ่อนคลาย ท่านอ๋องดูแลหม่อมฉันเป็นอย่างดีเพคะ”
“ดีๆๆ อ้าว รัชทายาท มาสิ มานั่งเร็วเข้า”
“หม่อมฉันถังมู่เจิน คารวะเสด็จพ่อ เสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ”
“นั่งเถอะๆ อย่ามากพิธี
“อ้าว น้องรอง เจ้าพึ่งแต่งงาน ทำไมถึงรีบมาคารวะเสด็จพ่อนักล่ะ”
“เสด็จพี่ ถึงหม่อมฉันพึ่งจะแต่งงานก็จริง แต่ไม่ลืมธรรมเนียมปฏิบัติพ่ะย่ะค่ะ”
องค์รัชทายาทส่งสายตาท้าทายและยิ้มหลี่ตาให้เขาน้อยๆ
“อย่างนั้นเอง มา เสด็จพ่อ ลูกขอให้ท่านอายุยืนหมื่นปีพ่ะย่ะค่ะ”
ซีเฟยสังเกตสีหน้าและความผิดปกติบางอย่าง นางรินชา และวางลงข้างตัว ใช้เข็มลองจิ้มดู ชินอ๋องเหลือบไปเห็น เข็มเปลี่ยนสีทันที “มีพิษ” เขาเบิกตากว้าง ใครกันที่อยากจะกำจัดเขาแบบนี้ หากไม่ใช่ พี่ชายที่แสนดีที่อยู่ตรงหน้านี้ เกรงว่ายาพิษในห้องหอของเขา ก็คงไม่พ้นฝีมือเขาเช่นกัน
“น้องรอง เจ้าเป็นอะไรไป ไม่ดื่มถวายพระพรเสด็จพ่อหรอกหรือ”
เขาส่งยิ้มท้าทายน้อยๆ มาให้ จ้าวซีเฟยรินน้ำชาให้มู่เหริน พร้อมเขี่ยบางอย่างจากเล็บของนาง ลงในถ้วยชา หันไปสบตาเขา และนางก็พยักหน้าให้เขา
“ลูกขอให้เสด็จพ่อ เสด็จแม่ อยู่เป็นมิ่งขวัญให้กับไพร่ฟ้าราษฎร ตราบนานเท่านาน”
“บ้านเมืองร่มเย็น ราษฎรเป็นสุข ปราศจากโรคภัย ถวายพระพรให้เสด็จพ่อ เสด็จแม่มีพลานามัยที่แข็งแรงหมื่นปีเพคะ”
“ดี ดีมากๆ เยี่ยมจริงๆ ดื่ม”
พวกเขาดื่มชาถ้วยนั้นเข้าไป ทำตัวเป็นปกติ มู่เหรินประคองซีเฟยให้นั่งลง นางเหลือบไปมองหน้าองค์รัชทายาท ซึ่งยังคงนิ่งเฉยอยู่ เมื่อนั่งไปสักพัก องค์รัชทายาทจึงเริ่มดูวิตกกังวล เหมือนบางอย่างไม่เป็นไปตามแผน เขาจึงทูลลาฝ่าบาท และพวกเขาทั้งหมดก็ออกมาจากพระตำหนัก
“เจ้า ทำอะไรกับชานั่น”
“ข้าแค่ใส่ยาถอนพิษลงไป”
“เจ้ารู้ได้เช่นไรว่าชานั่นมีพิษ”
“ข้าชินกับการวางยาพิษมาตั้งแต่เด็ก ข้าย่อมต้องระวังตัว แค่คิดไม่ถึงว่าหนีมาถึงที่นี่ ก็ไม่พ้นเรื่องพวกนี้”
นางโดนวางยาพิษมาตั้งแต่เด็กอย่างนั้นหรือ เกิดอะไรขึ้นกับนางกันแน่นะ เหตุใดจึงมีชะตากรรมเช่นนี้ เขาจะลองสืบดู
“ข้ามีธุระนอกเมือง เจ้ากลับเข้าจวนก่อนเถอะ ขาดเหลืออะไรก็บอก เสี่ยวหลงไว้ เขาจะแจ้งให้ข้าทราบเอง”
“ขอบพระทัย หม่อมฉันขอตัว”
จวนรับรองแขก
“ถวายบังคมเสด็จอา”
“ท่านอ๋อง ตามสบายเถอะ ไม่ต้องเกรงใจ”
“ท่านพักที่นี่ ขาดเหลืออะไรบ้างหรือไม่ ข้าจะได้ให้คนจัดเพิ่มให้พ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง ท่านอ๋องไม่ต้องเป็นห่วง เพียงแต่วันนี้ ท่านมาหาข้า เพราะเรื่องของซีเฟยสินะ”
“ข้าเลี้ยงนางมาตั้งแต่ฮองเฮาองค์ก่อนสิ้นพระชนม์เพราะโรคระบาด ตั้งแต่นั้น นางเลยสนใจศึกษาวิชาแพทย์ นางมีอาจารย์แพทย์แผนโบราณที่สอนนางอยู่ นางมักจะขลุกตัวอยู่ที่นั่นทั้งวัน ทั้งคืน ว่าแต่ ท่านอ๋อง ท่านอยากจะทราบเรื่องใดหรือ”
“เพราะเหตุนี้ นางจึงอยากรักษาคน และรักษาชีวิตตัวเองใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
“เฮ้อ พูดไปก็เป็นพวกข้าที่ผิด ไม่สามารถปกป้องนางได้ นางได้รับพิษมามากจริงๆ ฮองเฮาองค์ปัจจุบัน นางมีความระแวง และขี้อิจฉามากเกินไป นางพยายามทุกทางเพื่อไม่ให้ซีเฟย เหนือกว่าซีเหมย นิสัยของนางจึงค่อนข้างแปลก ไม่ไว้ใจใคร ไม่เชื่อใจใคร ขนาดข้าเป็นอาของนาง ยังไม่สามารถอ่านใจนางได้เลย การที่นางยอมตกลงแต่งงานมาที่นี่ นับเป็นอีกเรื่องที่ข้ารู้สึกแปลกใจ ข้าเลยมาส่งนางด้วยตัวเอง”
“ข้าเข้าใจว่าผู้ที่จะอภิเษกมา คือองค์หญิงซีเหมย”
“ก่อนหน้านั้นก็เป็นเช่นนั้น แต่แม่ของนางไม่อาจทนจะห่างจากบุตรสาวได้ นางยังเด็กมากนัก และอุปนิสัยของนาง อะแฮ่ม น่าจะ ไม่เข้ากับท่านสักเท่าใด ฮองเฮาเลยขอร้องฝ่าบาท ให้เปลี่ยนเป็นซีเฟยแทน เพราะไม่อยากให้สองแคว้นทำสงครามกัน ท่านพี่ข้าจึงจัดงานอภิเษกนี้ขึ้น เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ ซีเฟย ย่อมเหมาะสมกว่าซีเหมย”
เขาควรจะขอบคุณสวรรค์ ที่ไม่ส่งสตรีไร้มารยาทนั่นมาอภิเษกกับเขา แต่อย่างไร พวกนางก็ต่างล้วนแต่งมาเพื่อเป็นบรรณาการให้แคว้นที่ยิ่งใหญ่อย่างชิงโจวเท่านั้น นางแค่หนีจากที่นั่น มาพึ่งพาที่นี่
“ขอบคุณเสด็จอาที่บอกเรื่องนี้กับข้า ข้าไม่รบกวนเวลาพักผ่อนท่าน ทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”
จวนชินอ๋อง
ถังมู่เหริน หรือชินอ๋อง เดินเข้ามาในตำหนัก เขากำลังจะเดินไปที่ห้องหนังสือ เขาหยุดมองจ้าวซีเฟย ซึ่งตอนนี้อยู่ที่สวนหน้าตำหนัก นางและสาวใช้อีกสองคน และเสี่ยวหลง กำลังช่วยกันพรวนดิน เพื่อปลูกบางอย่างลงดิน นางมาอยู่ที่นี่ได้เกือบสองเดือนแล้ว นางปรับตัวเข้ากับทุกคนในจวนได้เป็นอย่างดี นางดีกับบ่าวไพร่และสาวใช้ทุกคน มีน้ำใจ และมักจะทำของอร่อยๆ ให้พวกนั้นกินเสมอ
“นั่นนางกำลังทำอะไร”
“กระหม่อมคิดว่า น่าจะปลูกสมุนไพรพ่ะย่ะค่ะ เมื่อเช้า เห็นว่าพระชายาให้สาวใช้นำมาวางที่สวน ท่านอ๋อง จะเสด็จไปดูหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ใช่ธุระของข้า ไปเถอะ ข้ามีงานอื่นต้องทำ”
มู่เหรินเดินออกจากบริเวณนั้น ซีเฟยมองเห็นเขาไกลๆ นางยืนมองเขาที่เดินจากไป เขากลับมาแล้วหรือ
ห้องหนังสือจวนอ๋อง
“ท่านอ๋อง ข้านำของว่างมาให้เพคะ”
ซีเฟยนำขนม และชาวางให้เขา นางนั่งลงและรินน้ำชาส่งให้เขา
“วางลงเถอะ เดี๋ยวข้ากินเอง”
นางวางถ้วยชาลง
“ขนมนี่ ข้าเข้าครัวทำเอง ท่านลองชิมดูนะเพคะ”
“อืม ข้ายุ่งอยู่ พระชายามีธุระอะไรก็ไปทำเถอะ”
ซีเฟยหุบยิ้มน้อยๆ นางถอยออกมา
“เพคะ งั้นข้าไม่รบกวน”
ซีเฟยเดินออกมา นางทำอะไรผิดงั้นหรือ เขาจึงได้ปฏิบัติต่อนางเช่นนี้ นางมาอยู่นี่เกือบสองเดือนแล้ว แต่เขาก็ยังเย็นชากับนางอยู่เสมอ จริงอยู่ที่การอภิเษกนี่ เกิดจากการเชื่อมความสัมพันธ์สองแคว้น แต่นางคิดว่าที่นี่ น่าจะดีกว่าที่ที่นางจากมา
เอาเถอะ พึ่งวันแรกๆ คงยังไม่ทันปรับตัว เพราะพวกผู้คนในจวนอ๋องนี้ ล้วนแต่ดีกับนางทั้งสิ้น ทั้งแม่นมหยง สาวใช้ทุกคนต่างก็เป็นมิตร และให้ความสนใจพวกนางทั้งสิ้น ชีวิตในจวนนี้ ก็คงไม่แย่มากหรอก ซีเฟยคิดในใจ นางพลันคิดไปถึงเรื่องเมื่อคืนเข้าหอ ที่เขาจูบนาง นี่นางคงโลภมากไปสินะ ที่หวังให้เขาทำดีกับนางเพียงนิด หึ น่าขำจริงๆ
ถังมู่เหรินมองชาและขนมที่นางทำมาวางให้เขา ขนมนี่ช่างดูน่ากิน คนทำคงพิถีพิถันอย่างดีในการทำ เขายกชาขึ้นมาจิบ เขารีบรินเพิ่ม และดื่มรวดเดียวหมด ชานี่ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นยิ่งนัก เขาดื่มจนเกือบหมด และหยิบขนมขึ้นมาพร้อมกับอ่านตำราพิชัยยุทธไปด้วย ขนมนี่อร่อยมาก เข้าปากแล้วละลายทันที และยังส่งกลิ่นหอมยั่วยวนนัก
สักพักเดียว ทั้งชาและขนมก็หมด เขาเรียกเว่ยอีเข้ามา ให้ไปเอามาเพิ่ม เว่ยอีเดินไปที่โรงครัว เพื่อจัดขนมอีกชุดไปให้ท่านอ๋อง เขารินชาเพื่อดื่ม แต่รสชาไม่เหมือนเดิม
“เว่ยอี เหตุใดชาในกานี้ ถึงได้รสชาตไม่เหมือนเดิมล่ะ”
“พระองค์ทรงหมายถึง องค์รัชทายาท”“ใช่ เพียงแต่ข้าแค่ไม่เข้าใจว่า เหตุใด เขาถึงอยากเร่งเอาชีวิตข้ามากนัก ก่อนหน้านี้ เขาไม่ทำแผนที่ต่ำทรามแบบนี้ ตั้งแต่เราแต่งงานกัน ก็มีเรื่องแบบนี้มาเรื่อยๆ ข้า ไม่เข้าใจ”“พระองค์คิดว่า มีคนอื่นร่วมทำการครั้งนี้ด้วย”“ข้าก็เริ่มนึกไม่ออกแล้ว หากต้องการชีวิตข้า ก็เพียงแค่วางยาข้าก็จบ แต่เหตุใดต้องทำร้ายเจ้าด้วย นี่คือสิ่งที่ทำให้ข้าไม่มั่นใจจุดประสงค์ของเขา”“แย่แล้ว การที่ข้าทำแบบนี้ ก็เท่ากับว่าแหวกหญ้าให้งูตื่นเสียแล้ว”“ข้ากลับคิดกลับกันนะ ว่าให้เขารับรู้ไปเลยว่าเรารู้แผนชั่วนี่ เขาจะได้เปิดเผยตัวเสียที จะได้ไม่ลอบกัดอีก"“แล้วห้องที่ถูกวางยาพิษล่ะ ต้องทำอะไรบ้าง”“เรื่องนี้ไม่ยากเพคะ ที่ให้ปิดไว้ เพราะพิษจะได้ไม่ระเหยออกมาภายนอก มาจากกำยาน ก็แก้ด้วยกำยาน คืนนี้หม่อมฉันจะทำยาถอนพิษ และให้เอาไปจุดวันพรุ่งนี้ ก็ไม่มีปัญหาแล้วเพคะ”“แต่ว่าตอนนี้มันดึกแล้วนะ เจ้าพึ่งจะฟื้นจากพิษขึ้นมา”“ไม่เป็นไรเพคะ ใช้เวลาแค่ไม่นาน สมุนไพรและของที่ต้องใช้มีอยู่แล้ว อันเหมยก็พร้อมแล้ว เดี๋ยวหม่อมฉันจะไปห้องยา เพื่อปรุงยาเพื่อแก้พิษให้ในห้องเพคะ พระองค์ พักผ่อนไปก่อนน
"ท่านอ๋องเพคะ ปล่อยหม่อมฉันลงก่อนเพคะ"“ทำไมล่ะ เจ้าจะเปลี่ยนใจอีกแล้วหรือ”“พระองค์ปล่อยหม่อมฉันก่อนสิเพคะ”ถังมู่เหรินปล่อยนางอย่างจำใจ นางเปิดห้องนอน และหันมาบอกเขา“พระองค์ถอยออกไปก่อน เร็วเข้าสิเพคะ”มู่เหรินถอยออกไปตามที่นางสั่ง เขาเริ่มไม่เข้าใจที่นางทำ“เจ้าทำอะไรน่ะ หรือเจ้าคิดว่า ในห้องนี้ ก็ถูกวางยาพิษด้วยเหมือนกัน”ซีเฟยแง้มประตูและสอดมือเข้าไปในห้อง นางเอามืออุดจมูกไว้ สักครู่เดียว นางก็ดึงมือกลับมา เข็มเงินในมือนาง เปลี่ยนเป็นสีดำ“มีพิษ ห้องนี้ก็มีกำยานพิษ ท่านอ๋อง คืนนี้เราเข้าไปพักห้องนี้ไม่ได้เพคะ”“ช่างโหดเหี้ยมนัก กะจะฆ่าคนทั้งจวนเลยหรืออย่างไรกัน”ซีเฟยนึกขึ้นได้ ตามคำพูดของเขา นางรีบวิ่งออกไป“ซีเฟย พระชายา เจ้าจะวิ่งไปไหนน่ะ รอก่อน ซีเฟย”เขาวิ่งตามนางออกไป นางวิ่งออกไปที่ลานปลุกสมุนไพร และส่งเสียงเรียก“เว่ยอี อันเหมย เสี่ยวหลง พวกเจ้าออกมานี่ให้หมด”พวกบ่าวไพร่ต่างวิ่งกรูกันออกมาที่ลานกว้างกัน ไม่ใช่แค่พวกที่มีชื่อที่พระชายาเรียก ทุกคนต่างตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น“พระชายา กระหม่อมมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”มู่เหรินหันไปมองเว่ยอี นี่องครักษ์เขา เชื่อฟังพระชายาของเขาขนาดนี้เลย
“ท่านอ๋อง ไม่มีใครสั่งหม่อมฉันเพคะ หม่อมฉันรักท่านคือเรื่องจริง อยากให้นางตายก็คือเรื่องจริง พิษนี้ พิษนี้ หม่อมฉัน ได้มาจากตลาดมืดเพคะ”“ยิ่งตลาดมืด เจ้ายิ่งไม่มีทางไปเอามาได้ นอกจากจะมีคนไปซื้อมาให้เจ้า ข้าไปสืบเรื่องตลาดมืดที่นี่มาแล้ว ต้องเป็นสมาชิกของตลาดมืดเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์ซื้อของในนั้นได้ และค่าเข้านั้น สูงลิ่วเลยล่ะ เจ้ายอมรับมาเถอะ เรื่องนี้ เจ้ารับผิดชอบไม่ไหวหรอกนะ”ฉู่อันเหมยบอกนาง เว่ยอี และ ชินอ๋องหันมองหน้ากัน ไม่น่าเชื่อว่าพวกนางมาอยู่ที่นี่ถึงครึ่งปี แต่รู้เรื่องเกี่ยวกับเมืองนี้ ทั้งยังรู้เรื่องตลาดมืดอีกด้วยสาวใช้นั่งตัวสั่น นางไม่มีทางเลือก จึงเลือกจะฆ่าตัวตาย นางถลาเข้าไปใส่ดาบที่ชินอ๋องถือเอาไว้เพื่อจะฆ่าตัวตาย ชินอ๋องตกใจแต่เขาก็ดึงดาบกลับไม่ทัน“ฉึบ”“โอ๊ย ท่าน….”จ้าวซีเฟยดีดเข็มเงินเล่มหนึ่งสกัดจุดนางเอาไว้ก่อนที่จะถึงดาบ ทำให้นางขยับตัวไม่ได้ ชินอ๋องตกใจ รีบเก็บดาบคืนเว่ยอี ทั้งคู่ยืนตกใจกับความว่องไวของเข็มที่พระชายาปล่อยออกมาจัดการกับนาง แต่ไม่กล้าพูดอะไรออกมา“เจ้าอย่าได้คิดจะกัดลิ้นตัวเองด้วย เพราะข้าสกัดจุดให้เจ้าอยู่นิ่งๆ ให้พูดได้เท่านั้น ไม่อนุ
ค่ำวันนั้น หลังอาหารเย็นแล้ว ชินอ๋องได้เดินไปดูที่ห้องของซีเฟย ที่สาวใช้ยืนเฝ้าอยู่ พวกนางได้แต่เคาะประตู แต่ไม่มีเสียงตอบกลับมา เสี่ยวหลงบอกว่า พวกนางเรียกพระชายาอยู่ตั้งแต่บ่ายแล้ว นางไม่ยอมกินข้าว เกรงว่าจะไม่สบาย“พระชายาของพวกเจ้ายังไม่ยอมเปิดประตูอีกงั้นหรือ”“ทูลท่านอ๋อง พระชายาอยู่ในห้องตั้งแต่บ่ายแล้วเพคะ แม้แต่น้ำก็ไม่ได้ดื่ม หม่อมฉันเกรงว่า….”มู่เหรินเริ่มวิตก“ซีเฟย ซีเฟย เจ้าอยู่ข้างในหรือไม่ พระชายา”เขาเอาหูแนบกับประตู ไม่ได้ยินเสียงอะไรในห้อง เขาเริ่มร้อนใจ“เว่ยอี พังประตู เร็วเข้า”เว่ยอีตกใจ แต่ก็ทำตามรับสั่ง เขารีบถีบประตูเข้าไป ชินอ๋องวิ่งเข้าไปในห้อง ส่วนพวกเว่ยอี และคนอื่นๆ รออยู่ข้างนอก“ซีเฟย เจ้าอยู่ไหน ซีเฟย ได้ยินข้าหรือไม่”ในห้องเงียบสนิท ไม่มีแสงไฟ เขามองไปที่เตียงของนาง และเห็นนางนั่งฟุบอยู่ที่เตียง“พระชายา เจ้าเป็นอะไร ซีเฟย เฟยเฟย ฟื้นสิ เจ้าเป็นอะไรไป”เขาเอามืออังหน้าผากนาง ตัวนางไม่ร้อน แต่ทำไมหมดสติไม่รู้เรื่องแบบนี้“เว่ยอี เรียกหมอหลวงมาที่นี่เดี๋ยวนี้ เร็วๆ เข้า”“พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง กระหม่อมจะรีบไปเดี๋ยวนี้”อันเหมยและอาเหยารีบวิ่งเข้ามาในห้อง
“ข้าไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับนาง”“ก็ดีแล้วที่ท่านทำใจได้ นางน่ะ รักสวยรักงาม ต้องการคนเอาใจ ติดนิสัยคุณหนู มักใหญ่ใฝ่สูงเกินไป ตอนนี้นางเป็นว่าที่พระชายาองค์รัชทายาทไปแล้ว นางก็หยิ่งผยองขึ้นไปอีกสิบเท่า จากที่ไม่น่าคบหาอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย นางไม่เหมาะกับท่านหรอก ตอนแรกข้าคิดว่า ท่านเหมาะจะอยู่คนเดียว ใครจะคิดว่าท่านยอมแต่งงานง่ายๆ กันล่ะ”ซีเฟยกำลังจะยกน้ำชาและขนมไปให้พวกเขาในห้อง ได้ยินทุกประโยคที่พวกเขาคุยกัน ที่แท้ ที่เขาแต่งงานกับนาง ก็เพราะเขาต้องการลืมสตรีที่ทิ้งเขา นางเป็นเพียงเครื่องมือที่ทำให้เขาหนีข้อครหา ว่าสตรีนางนั้นทิ้งเขา หึ น่าสมเพชตัวเองยิ่งนัก นางเดินกลับไป และให้เว่ยอี นำชาและขนมไปให้ท่านอ๋องแทน“เจ้าอย่าพูดเหลวไหล เรื่องข้ากับชิงอีเหนียงจบไปนานแล้ว และการแต่งงานนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนาง”“ท่านอ๋องขอรับ ข้านำของว่างมาให้ขอรับ”“อืม”เขายกชาขึ้นมาดื่ม ชานี้ดื่มทีไรก็รู้สึกสดชื่นขึ้นทุกครั้งจริงๆ ดื่มแล้วจะนึกถึงผู้ทำขึ้นมาทุกครั้ง“อืมมม รสชาตินี้แหละ ใช่เลย ฝีมือซีเฟยแน่นอน”“เจ้ารู้ได้อย่างไร”“ก็นางทำให้ข้าดื่มที่ศาลาเมื่อครู่ ขนมนี่ด้วย อร่อ
เว่ยอีมองเขาอยากรู้สึกงุนงง เขาก็แค่ไปสั่งให้ในครัวจัดมาเพิ่ม“ท่านอ๋อง ชานี่ไม่เหมือนเดิมหรือพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยก็ให้คนครัวจัดมาและบอกว่าให้เอาแบบชุดเดิมนะพ่ะย่ะค่ะ”“ยกออกไป ข้าไม่กินแล้ว”“พ่ะย่ะค่ะ”เว่ยอีกยกน้ำชา และกำลังจะยกขนมออกไป“รอก่อน ยกแต่ชาไป ขนมไม่ต้อง เอาชาอู่หลงมาให้ข้าแทน”“พ่ะย่ะค่ะ”เว่ยหลงยกชาออกมา และให้คนครัวไปเปลี่ยนเป็นชาอู่หลงแทน“ท่านอ๋อง รายงานพ่ะย่ะค่ะ”“ว่ามา”“ข้าสืบเรื่องของพระชายามาแล้ว ก่อนหน้านี้ นางถูกฮองเฮาวางยาพิษอยู่เนืองๆ และยังถูกหมั้นหมายกับบุตรชายของเสนาบดีมาก่อน ทั้งคู่โตมาด้วยกัน ชื่อสือเยว่เทียน เข้าปักใจรักพระชายามากพ่ะย่ะค่ะ และตอนนี้เขาทราบเรื่องที่นางอภิเษกมาที่นี่แล้ว และกำลังตามมาหานางพ่ะย่ะค่ะ”“อืม เข้าใจแล้ว เรื่องอื่นล่ะ”“พระชายามีอาจารย์หมอเทวดาอยู่คนหนึ่ง อยู่บนเขาเทียนซาน ทุกปีนางจะขึ้นไปเยี่ยม แต่ปีนี้ เห็นว่าอาจารย์นางออกท่องเที่ยว นางเลยไม่ได้ไปพ่ะย่ะค่ะ”“ข้ารู้แล้ว เจ้าไปได้ ติดตามนางเงียบๆ อย่าให้นางรู้ตัว ระวังองครักษ์หญิงของนางด้วย”“รับพระบัญชา กระหม่อมทูลลา”เว่ยอียกชามาถึงห้องหนังสือและวางลง เขาเงยหน้ามอง“เจ้ามีอะไร