-ของขวัญ-
"...พี่จะขึ้นไปส่ง" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเมื่อรถของพี่องศาเลื่อนเข้ามาจอดภายในลานจอดรถของคอนโดที่ฉันอยู่ ทั้งที่ความเย็นชาที่เขาแสดงออกมามันบอกว่าฉันควรเผื่อใจและตัดใจ แต่สิ่งที่ฉันต้องการมันกลับตรงกันข้าม ฉันกลับพยักหน้ารับเพราะลึกๆ อยากรั้งเขาให้อยู่กับตัวเอง "แล้วรถจะเอากลับยังไง มีนเป็นคนเอากลับหรือเปล่า" "ยัยมีนมีแฟนไปรับ ส่วนรถเอาจอดไว้ที่นั่นไม่เป็นไรหรอกค่ะ พรุ่งนี้จะให้ยัยมีนมารับไปเอาแล้วค่อยไปเรียนทีเดียว" "เอารีโมทมาไว้กับพี่ พี่จะไปเอามาไว้ให้เอง" "พี่องศาจะกลับไปที่นั่นอีกเหรอคะ" "ทิ้งรถไว้แบบนั้นมันไม่ปลอดภัย" ฉันมองหน้าหล่อๆ ของพี่องศาด้วยความสับสน เพราะเขาเป็นแบบนี้ไงฉันถึงไม่แน่ใจว่าควรจัดการยังไงกับความรู้สึกของตัวเองดี บางทีเขาก็ทำเหมือนไม่สนใจ ไม่ได้อยากแคร์ แต่บางครั้งก็ทำเหมือนเป็นห่วงทั้งที่เรื่องบางเรื่องไม่ได้เอ่ยขอออกมา "เป็นอะไร" "เวียนหัวนิดหน่อย คงเพราะดื่มมากเกินไป" "งั้นก็กลับขึ้นไปอาบน้ำแล้วนอนพัก กินอะไรมาหรือยัง" ฉันส่ายหน้าแทนคำตอบ ใจหายแปลกๆ ตอนที่เห็นเขาถอนลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย พอจะเลิกทำตัวเป็นภาระด้วยการบอกว่าไม่เป็นไรมือกลับถูกรวบไปจับแล้วพาขึ้นไปที่ห้องฉันพร้อมกัน เครื่องปรับอากาศทำงานอัตโนมัติเมื่อก้าวขาเข้ามาในห้องพัก ไม่มีอะไรทำให้คนตัวโตหยุดมองได้ทั้งนั้น พี่องศาตรงไปยังห้องครัวทันที "มีอะไรให้กินบ้าง ปกติกินข้าวที่ไหน ทำเองหรือเปล่า" "ถ้าไม่ได้ออกไปกินกับเพื่อนก็สั่งมากินที่ห้องค่ะ" "ซื้อกินตลอดเลยสินะ" ฟันสวยบดกลีบปากของตัวเองแน่น มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ไม่ถูก คำพูดของพี่องศามันทำให้ฉันมีความรู้สึกว่าฉันไม่มีดีอะไรเลยสักอย่าง ผู้หญิงที่ดีและน่ารักต้องทำอาหารเป็นแบบนั้นใช่ไหม? "มีแต่อาหารสำเร็จรูป" "หนูกินได้ค่ะ" "...ถ้ารอได้ หรือถ้าพี่ได้กลับมาเร็ว ตอนเอารถกลับมาส่งพี่จะซื้อมาให้ สั่งเดลิเวอรี่แล้วให้เขาเอามาส่งตอนกลางคืนมันไม่ปลอดภัย" กำแพงที่บางครั้งนึกอยากสร้างมันขึ้นมาพังทลายลงไปในพริบตาในยามที่ตาคมคู่นั้นหันมามอง บางครั้งคิดว่าสถานะคู่หมั้นทำให้ฉันมองว่าฉันมีสิทธิ์เรียกร้อง ไม่ปฏิเสธว่าตอนนี้ทุกอย่างมันกำลังตีกันรวนอยู่ในหัว จะเดินหน้าหรือถอยหลังก็ไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้เลย! ตากลมกลอกกลิ้งไปมาบนตัวเลขเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ลมหายใจอุ่นๆ ปราศจากกลิ่นแอลกอฮอล์ผ่านทางลมหายใจเมื่ออาบน้ำแปรงฟันเสร็จเรียบร้อยถูกพ่นออกมาแทบนับครั้งไม่ได้ เหมือนคู่หมั้นหนุ่มแค่ให้ความหวัง ปล่อยให้เธอนั่งรอความหวังแบบลมๆ แล้งๆ จนถึงตอนนี้ชักแน่ใจว่ามันไม่ได้มีอยู่จริง "...ไปเอารถตั้งสามชั่วโมง แล้วบอกให้รอเพื่ออะไร" ฉันคว่ำหน้าจอโทรศัพท์พร้อมกับปิดสวิตช์ไฟที่อยู่หัวเตียง แม้ในความมืดฉันก็ยังคงนั่งอยู่แบบนั้น ปราศจากความง่วง หัวใจยังอยากรอทั้งที่ควรท้อเพราะเขาอาจจะไม่มา 02:40 น. '...ชะ ชั้นใต้ดิน ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่!' ความมืดรอบตัวส่งผลให้ท่อนแขนเรียวยกขึ้นมาโอบกอดร่างกายตัวเองเพื่อเป็นเกราะป้องกันหัวใจดวงน้อยที่กำลังเต้นแรง อีกทั้งเพื่อหลบหลีกจากความเหน็บหนาว เย็นยะเยือกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ความกลัวทำงานทันทีที่พื้นที่รอบตัวมีเพียงความว่างเปล่า พื้นที่ด้านหน้า ด้านหลัง สองฝั่งด้านข้างมีเพียงความมืดที่ไม่รู้เลยว่า ถ้าตัดสินใจเดินไปทางใดทางหนึ่งจะเจอทางออกแบบที่ควรจะเป็นไหม 'พะ พี่องศา' หัวใจที่เต้นแผ่วลงทุกขณะมีความหวังขึ้นมาทันทีที่เห็นว่าคู่หมั้นหนุ่มยืนอยู่เบื้องหน้า พี่องศากวักมือเรียกเพื่อให้ฉันเดินตาม ทว่าเดินไปเพียงไม่กี่ก้าว กลับพบใครต่อใครที่ไม่รู้จักมองมาที่ฉันและพยายามจะดึงมือเพื่อให้ไปด้วยกัน ในขณะที่มือของใครต่อใครพยายามฉุดฉัน พี่องศาที่เดินนำหน้าและเป็นความหวังเดียวในตอนนี้กลับหายไป รอยยิ้มที่เปื้อนบนหน้าของคนที่ไม่รู้จักกันและพยายามคว้ามือฉันกำลังทำให้ฉันมีความคิดว่าพวกเขาคือเพื่อน เพื่อนที่อาจจะพาฉันออกไปจากที่นี่ได้ในตอนที่คู่หมั้นหนุ่มหายออกไปจากรัศมีสายตา ใบหน้าจิ้มลิ้มเชิดขึ้นบน ตากลมมองด้านบนที่มีช่องว่างขนาดใหญ่หลายช่องที่รู้สึกเหมือนว่าจะเป็นทางออก และมันก็เป็นแบบที่คิด แสงสว่างที่สาดส่องจากทางด้านบนหลายต่อหลายช่องคือทางที่คนเหล่านั้นจะพาฉันออกไป ในขณะที่ฉันกำลังมุ่งหน้าตามทางที่คนแปลกหน้าจะพาออกไป เสียงของพี่องศากลับดังเข้ามาในหู เสียงของเขาดังเบากว่าตอนแรกมาก แต่เห็นชัดว่าเขาพยายามจะพาฉันออกไปจากที่นี่ สองมือสองแขนพยายาม ตะเกียกตะกายปีนขึ้นไปด้านบนเพื่อให้พบเจอกับทางออก แต่ต่อให้ฉันจะพยายามปีนขึ้นไปได้สูงแค่ไหน สุดท้ายตัวของฉันก็ตกลงไปยังชั้นใต้ดินอย่างเก่า ใบหน้าของพ่อและแม่ ใบหน้าของพี่องศาทำให้ฉันพยายามปีนขึ้นด้านบนต่อ ไม่ท้อแม้ว่าจะกลิ้งตกลงมาคืนทุกครั้ง ความเหนื่อยเล่นงานเมื่อฉันใช้แรงหนักขึ้น สองมือสองขาเปื้อนคราบดิน น้ำตาเม็ดโตพรั่งพรูออกมาจากตาเมื่อเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะหมดแรง '...กลับไปซะ!' เสียงของใครบางคนดังขึ้นในตอนที่ฉันแหงนใบหน้าเพื่อมองหาทางออก 'คะ คุณยาย คุณยายอยู่ที่นี่เหรอคะ ตอนแรกทำไมหนูไม่เห็นคุณยายเลย' 'หนูกลับบ้านไปซะ กลับไปเดี๋ยวนี้เลยลูก' 'นะ หนูออกไปไม่ได้ หนูพยายามจะปืนขึ้นไปแต่สุดท้ายมันก็ตกลงมาเหมือนเดิม หนูจะไม่ไหวแล้วค่ะคุณยาย' 'นั่นไง เขาคือคนที่จะพาหนูออกไป' '...ขะ ข้าวสวย' พี่สาวที่ตายจากกันไปเกือบสามปีปรากฏขึ้นเบื้องหน้า ไม่ทันได้คิดทบทวนด้วยซ้ำว่าข้าวสวยตายจากไปด้วยวิธีไหน กลับมีพระสงค์อีกรูปหนึ่งเดินออกมาให้เห็นและบอกว่าจะเป็นฝ่ายนำทางออกไป น่าแปลกที่ทางออกรอบนี้ราบรื่นกว่าครั้งก่อนหน้า แสงสว่างมีมากขึ้นเรื่อยๆ ภาพพี่องศาที่หายไปในตอนแรกปรากฏขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้ฉันขึ้นมาจากชั้นใต้ดินสำเร็จดังที่หวังมีพี่สาวที่ตอนนี้อยู่กันคนละโลกและพระสงค์เป็นผู้นำทาง คนร่วมสายเลือดที่ตายจากกันไปแล้วเขียนบางอย่างลงในกระดาษก่อนจะยื่นมันให้ฉัน คล้ายมีกระแสไฟฟ้าฟาดลงมาที่กลางใจเมื่อฉันกลับมาหายใจได้เต็มปอดอีกครั้ง ข้าวสวยกลับกระโดดลงไปยังชั้นใต้ดินอย่างเก่า พระสงค์หายไป พร้อมกับร่างกายของฉันที่สะดุ้งตื่น ผวาไปทั้งร่าง สั่นไปทั้งตัว "...กลัว ฮึก!" น้ำตาเม็ดโตพรั่งพรูออกมาจากตา ไม่รู้ตัวเลยว่ามันเปื้อนซ้ำรอยเก่า ความกลัวเล่นงานอย่างจังจนกระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉันไม่ลังเลที่จะลุกพรวดพราดออกจากเตียงแล้วตรงไปยังประตูหน้าห้องเพื่อเปิดรับคนที่เข้ามาในตอนที่ฝันร้ายทำให้ความรู้สึกของฉันดิ่งลงเหว ไม่ลังเลแม้เศษเสี้ยววินาทีเดียว ขาสวยก้าวออกไปที่เบื้องหน้า ภาวนาให้เป็นคู่หมั้นที่จะต้องแต่งงานกันในวันข้างหน้าทันทีที่เปิดประตูห้อง ภาวนาให้เป็นเขาในตอนที่ฉันต้องการคนข้างๆ เพื่อขับไล่ความหวาดกลัวที่กำลังเผชิญปึง~ เสียงกระชากประตูให้ปิดลงส่งผลให้ร่างบอบบางที่นอนคว่ำหน้าบนเตียงสะดุ้งด้วยความตกใจ จีน่าพลิกตัวกลับ แขนเรียวที่ขยับทำให้สัมผัสได้ถึงความเย็นของพื้นที่ข้างกาย บ่งบอกว่าคนที่หลับนอนด้วยกันมาทั้งคืนเขาตื่นก่อนเธอ"ไปไหนมาเหรอเซย์" ไร้เสียงตอบกลับจากคนถูกถาม ตาคมเพียงแค่ตวัดมามองก่อนจะดึงสายตากลับไปดังเดิม"เป็นอะไรเนี่ย ทำหน้าเหมือนโกรธใครมา" "จะกลับเลยไหม ฉันไม่ส่งนะ ส่วนค่าแท็กซี่กลับอยากได้เท่าไหร่ก็หยิบเอา" ว่าจบกระเป๋าเงินก็ถูกวางลงบนโต๊ะใกล้ๆ จีน่าไม่ได้หยุดโฟกัสที่เหตุผลของความหงุดหงิดอีกต่อไป ความจุกตอนที่มองเห็นความไร้ค่าของตัวเองต่างหากที่เข้ามาแทน"เป็นอะไร ไม่พอใจอะไรฉัน" "บอกให้กลับก็กลับไปเถอะ หรืออยากอยู่ต่อเพื่อให้ฉันทำอะไรๆ กับเธออีก" "ฉันถามนายดีๆ นะ อยู่ดีๆ ก็มาเป็นแบบนี้ เหมือนคนผีเข้าผีออก" "ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร" ขายาวก้าวผ่านหน้าไปซะดื้อๆ ปล่อยคนบนเตียงไว้กับความงุนงงที่ไม่สามารถให้คำตอบกับตัวเองได้จีน่าสะบัดผ้าห่มที่คลุมกายออกห่างก่อนจะดันตัวลุก สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือรีบไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ ควรทำใจยอมรับว่าเซย์ก็ยังเป็นเซย์แบบนี้ เมื่อไห
"มีไร" เสียงทุ้มดังขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์พร้อมกับการปรากฎตัวของเซย์ตอนนี้องศาไม่ได้แปลกใจเลยสักนิด ว่าทำไมใครต้องใครถึงยกให้เซย์เป็นผู้ชายที่ไร้ความรู้สึก หมอนี่มันไม่ชอบยิ้ม หัวเราะน้อยมาก ออกจะเฉยๆ กับทุกเรื่องจนแทบอ่านไม่ออกว่ากำลังคิดอะไร"มึงกำลังหงุดหงิด?" "มึงรบกวนเวลาพักผ่อนของกู" "ก็ไม่น่าจะอารมณ์เสียถึงขนาดนั้นนะ ทำอย่างกับไม่เคยตื่นเช้า แต่ก็ไม่น่าใช่หรอก กูว่ากูน่าจะรู้ว่าเหตุผลที่มึงหงุดหงิดคืออะไร" "..." "บนคอมึงนั่นรอยเล็บนี่" องศาจ้องร่องรอยบนลำคอของเพื่อนนิ่งๆ แต่ถึงจะถูกทักแบบนั้นแต่เจ้าตัวก็ยังเฉย ไม่ได้สะทกสะท้านกับความผิดปกติที่เกิดขึ้นบนร่างกายของผู้ชายที่ใครต่อใครเข้าใจว่าไม่มีใคร"บอกเรื่องที่มึงจะพูดมาเถอะ กูไม่ได้มีเวลาว่างเยอะขนาดนั้น" "ใครรอที่ห้องเหรอ?""เอาเวลาไปสนใจเมียมึงเถอะ ถึงขั้นออกมาซื้อของแต่เช้า หลงเมียนะมึงอ่ะ" องศาไหวไหล่ไปมาอย่างไม่ใส่ใจ"กูมีเรื่องที่จริงจังมากๆ อยากคุยกับมึง และอยากให้มึงบอกความจริงออกมาตรงๆ ด้วย""เรื่อง?" "มึงกับจี" คนถูกถามหันขวับ ดวงตาคมกริบจ้องมองเพื่อนรักคนสนิทไม่วางตา"มองแรงเกินไปหรือเปล่า นี่ขนาดยังไม่ได้ตั้งคำ
"ล้อเล่นกับหัวใจของพี่แบบนี้ คนที่เดือดร้อนอาจจะเป็นขวัญก็ได้นะ" องศากระซิบบอกเสียงแหบพร่าเมื่อคนตัวเล็กป้อนจูบขึ้นมาเป็นระยะถึงปากจะบอกออกไปว่าอดทนได้ แต่ก็ใช่ว่าเรื่องของความรู้สึกมันจะห้ามกันได้ง่ายๆ ยิ่งตอนที่คนอย่างเขาอยู่กับคนรัก นับวันยิ่งมองเห็นความน่ารักของเธอขึ้นทุกวัน ความเป็นธรรมชาติ ความเป็นเธอที่แสดงออกชัดเจนว่ารักเขา มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เขาจะไม่รู้สึกดี"หนูแค่จูบเอง" "ก็แล้วทำแบบนี้จะให้พี่อดใจยังไงไหว" องศาขยับริมฝีปากเพื่อจูบตอบ เขาชอบกลีบปากนุ่มๆ และเรียวลิ้นหวานๆ ของคนรักเป็นที่สุดการที่ของขวัญทำแบบนี้บอกเลยว่าเธอเอาตัวเองเข้ามาเสี่ยงแบบหนักมาก เสี่ยงในแบบที่บางทีอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป"หนูไม่อยากท้องค่ะ แต่หนูก็ไม่ได้อยากขัดใจพี่ หนูอยากให้พี่มีความสุขกับร่างกายหนูเหมือนกัน" "ขวัญ..." "วันนี้หนูอนุโลมให้ก็ได้ค่ะ แต่ต่อไปนี้ต้องรับปากนะคะว่าจะใส่ถุงยางตลอด""พี่รับปาก แต่วันนี้ยอมได้จริงๆ ใช่ไหม ขวัญโอเคจริงๆ ใช่ไหมครับ" ของขวัญยิ้มมุมปาก เวลาที่มองหน้าหล่อๆ ที่แสดงความต้องการของตัวเองออกมาอย่างเก็บไม่มิด เธอยิ่งไม่อยากแกล้งเขาไม่อยากทรมานคนที่บอกว่
คอนโด K หมับ~ "อื้อ! หนูง่วงแล้ว" "คุยกันก่อน" องศากดริมฝีปากลงบนขมับบางเมื่อสองแขนล็อคร่างบอบบางเอาไว้ในอ้อมกอดได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว"คุยอะไรอ่ะ หนูอยากอาบน้ำ ง่วงนอนไม่ไหวแล้วค่ะ" คนตัวเล็กทำท่างอแงเสมือนกำลังรู้ล่วงหน้าว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตกลงกันไว้เป็นดิบดีการที่ทุกอย่างมาแปรผันแบบไม่คุยกันก่อนเรื่องมันไม่จบง่ายๆ อย่างแน่นอน"เรามีเรื่องที่ต้องคุยกัน และพี่มั่นใจว่าขวัญรู้อยู่แล้วว่าพี่อยากคุยกันเรื่องอะไร" ของขวัญกระพริบตาปริบๆ ถึงจะรู้อยู่เต็มอกว่าอีกคนกำลังจะเปิดปากคุยเรื่องอะไรแต่ถึงอย่างนั้นก็พยายามเฉไฉ"คุยเรื่องอะไรคะ ถ้ามันไม่ได้สำคัญอะไรมาก หนูคิดว่าเราควรพักเรื่องนี้เก็บเอาไว้ก่อน มันเป็นเวลาที่ต้องนอนก่อน" "ถึงเราจะอยากนอน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพี่จะยอมให้นอน" "พี่องศา!" "วันนี้เมียพี่ดื้อที่สุด ทำไมถึงทำแบบนั้นทั้งๆ ที่ตอนแรกเราเป็นคนบอกพี่เองว่าอยากให้พี่กันคนที่จะเข้ามายุ่งกับเซย์เพราะอยากให้สองคนนั้นรู้ใจตัวเองก่อน" "ก็ตอนแรกหนูก็อยากให้มันเป็นแบบนั้น แต่พี่จีเป็นผู้หญิง ผู้หญิงเป็นฝ่ายน่าสงสารมากที่สุดค่ะ" "เพราะ?" "เพราะผู้ชายไ
"...พี่ลมบอกว่ามีเรื่องอยากปรึกษา เรื่องแฟนหรือเปล่าคะ" คนตัวเล็กเอียงคอถามระหว่างคอยอาหาร คำถามที่ตรงไปตรงมากระตุ้นคนถูกถามให้หลุดเสียงหัวเราะออกมาทันที"นี่เราคิดว่าแฟนหาง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง" "ระดับพี่ลมหนูไม่เห็นว่าน่าจะยากตรงไหน ใครๆ ก็ชอบคนหล่อแหละ" "ชมพี่ว่าหล่อ ไม่กลัวแฟนตัวจริงน้อยใจเหรอครับ ร้องไห้อีกครั้งนี่พี่ไม่ปลอบแล้วนะ" ลมหนาวพูดทีเล่นทีจริงพร้อมกับมองหน้าหล่อๆ ขององศาเป็นระยะ เขามองชีวิตของขวัญอยู่ห่างๆ ค่อนข้างมั่นใจว่าผู้หญิงที่เขาเคยรู้สึกชอบมาก จะไม่มีทางผิดหวัง และร้องไห้แบบที่เขาแซวอีกแน่ๆ"แฟนหนูรู้ค่ะว่าที่จริงแล้วในสายตาหนูใครหล่อสุด" ของขวัญออกตัวพร้อมกับคว้ามือคนรักมาจับ รู้หรอกว่าอีกคนตั้งใจแกล้ง แต่เธอแค่ไม่อยากล้อเล่นกับความรู้สึกของแฟนตัวเอง"รู้ครับ พี่ล้อเล่นน่า ที่จริงนายก็คงรู้อยู่แล้วว่าในสายตาน้องมันไม่เคยมองใครเลย""อือ" องศาพยักหน้ารับ ในสายตาของเขาลมหนาวไม่มีอะไรด้อยเลยสักนิด ดีไม่ดี ถ้าคนที่คบอยู่กับของขวัญตอนนี้ไม่ใช่เขาแต่เป็นลมหนาว ของขวัญก็คงมีความสุขไม่แพ้กัน"จะว่าไปแล้วก็ยังไม่มีโอกาสได้ขอบคุณนายเลยนะ" "ขอบคุณเรื่องไรอ่ะ" "ก็เรื่อง
คอนโด K "งอแงอะไรคะ" ของขวัญเดินนวยนาดเข้าไปหาคนรักที่โซฟากลางห้องเมื่อก้าวขาออกมาจากห้องแต่งตัวแล้วพบว่าคนตัวโตกำลังมองมาที่เธอตาละห้อย"ใส่ชุดนี้ไปเหรอ" "ไปไม่ไกลมากเลยคิดว่าแต่งสบายๆ ก็พอแล้วค่ะ" องศามองใบหน้าจิ้มลิ้มไม่วางตาในขณะที่นิ้วยาวเหยียดลูบต้นแขนเนียนไปมาอย่างอ่อนโยน"ให้พี่ไปส่งนะ เสร็จธุระก็โทรบอก อ้อ วันนี้พี่มีเรื่องจะเล่าให้ฟังด้วยแหละ" ของขวัญเอียงคอมองแทนคำตอบ เอวคอดถูกโอบรัดจนกระทั่งสัมผัสได้ถึงกลิ่นลมหายใจของกันและกัน"เรื่องอะไรเหรอคะ" "วันนี้ที่มอ. พี่เจอคัพเค้กน่ะ เขาน่าจะตั้งใจเดินเข้ามาหาแหละ" ของขวัญรับฟังอย่างใจเย็นพร้อมกับพยักหน้ารับ"ที่จริงก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก พี่ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปคุยอะไรกับเขา แต่พี่แค่อยากบอกขวัญให้รู้แค่นั้นเอง" "กลัวหนูไม่สบายใจเหรอ""พี่แค่บอกตัวเองตลอดว่าพี่ต้องชัดเจนทุกเรื่อง พี่ต้องสม่ำเสมอกับทุกอย่าง เพราะพี่อยากคบกับขวัญไปนานๆ" "ลืมไปแล้วเหรอคะว่าพี่สาวของหนูอยู่ในกลุ่มของพี่ด้วย พี่คิดว่าจะมีความลับกับหนูได้ไหมล่ะ" "แสบนักนะ" องศาบีบแก้มเนียนอย่างมันเขี้ยว ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในตากลมสวย เลือกที่จะแสดงความรู้สึกของ