LOGINหลังจากกินมื้ออร่อยที่ฉันตั้งใจซื้อมากินกับเขาในบรรยากาศที่เรียกได้ว่าค่อนข้างสันติ เพราะตลอดเวลาที่นั่งกินส้มตำด้วยกันก็แทบไม่มีเสียงทะเลาะระหว่างเราให้ได้ยินเลยสักนิด มีเพียงเสียงส้อมที่แย่งคอหมูย่างและเนื้อย่างกระทบกันเท่านั้น ฉันก็ปล่อยให้เจ้าของห้องอย่างเขาเก็บจานไปล้าง เก็บขยะไปทิ้ง และเช็ดโต๊ะให้เรียบร้อย ถามว่าเขายอมทำทุกอย่างง่ายๆ ไหม ตอบเลยว่าไม่!
ฉันเลยยกข้ออ้างว่าฉันเป็นคนขับรถไปซื้อและถือพะรุงพะรังขึ้นมา รวมถึงเป็นคนเปิดฝากล่องเดินไปหยิบจานแบ่งและช้อนส้อมด้วย เขาถึงกับยกมือให้ฉันหยุดพูด ยอมลุกขึ้นเก็บจานไปล้างทั้งหน้าตึงๆ นั่นแหละ อยู่ด้วยกันก็ต้องช่วยกันทำงานบ้านสิ ฉันไม่ยอมทำคนเดียวแน่ ส่วนฉันก็รีบเดินหนีคนหน้ายักษ์เข้าห้องนอน พาตัวเองมาอาบน้ำเตรียมตัวจองที่นอนบนเตียงกว้าง ถ่ายงานมาตั้งหลายชั่วโมง ร่างกายคิดถึงเตียงนุ่มๆ มากเลย "ตายแล้ว! ลืมเอาชุดนอนเข้ามาได้ยังไงเนี่ย" "ทำไงดีละทีนี้" ฉันยืนลังเลถามตัวเองอยู่ในห้องน้ำนานหลายนาที ก่อนจะตัดสินใจหยิบผ้าขนหนูสีชมพูพันตัวเองเอาไว้ปิดอะไรอะไรที่กลัวว่าเขาจะเห็นให้มิดชิดและเดินออกมาหยิบชุดนอนในตู้เสื้อผ้า ป่านนี้ยังคงอยู่ในครัวละมั้ง แกร๊ก! "เฮ้ย!" "ว้าย! นะ นายเข้ามาทำไมเนี่ย" ในตอนที่ฉันกำลังก้มๆ เงยๆ หยิบชุดนอนตัวโปรดที่พับไว้ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้า เสียงประตูก็ถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับคนหน้านิ่ง ทำฉันสะดุ้งด้วยความตกใจจับปมผ้าขนหนูเอาไว้แน่น เพราะไม่คิดว่าเขาจะเข้ามาเร็วขนาดนี้ "ห้องฉัน" "หลับตาเลยนะ ห้ามมอง!" คนตัวโตยืนกอดอกพิงประตูห้อง มองกันด้วยสายตากรุ่มกริ่มแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ พอให้แก้มนุ่มๆ ของฉันเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความรู้สึกไหวหวาม คนอะไรสายตาเจ้าชู้ชะมัด "ใครเขาอยากมองเธอ เซิร์ฟ บอร์ด" "..." เซิร์ฟบอร์ด? เขาว่าฉันเหมือนกระดานหรอ? ทำไมปากจัดได้ขนาดนี้นะ ว่าอะไรก็ว่าได้ แต่ว่าฉันเหมือนไม้กระดานเซิร์ฟบอร์ด พริบพราวจะไม่ทน! ยอมไม่ได้เด็ดขาดเลย! เขาทิ้งให้ฉันยืนอารมณ์เดือดไปกับคำพูดแสนร้ายกาจของเขา แล้วจงใจเดินเฉียดไหล่กันผิวปากอย่างอารมณ์ดีที่แกล้งให้ฉันโมโหได้สำเร็จ แน่นอนว่าฉันไม่มีทางปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้ ทันทีที่เขาเผลอ ฉันก็หมุนตัวตั้งหลักมั่นกระโดดขึ้นไปขี่หลังแกร่งกอดคอเขาไว้แน่นเพราะกลัวตก ก่อนจะงับเข้าที่คอของเขาจนจมเขี้ยว ทำเขาร้องลั่นพยายามสะบัดฉันให้ลงจากหลังเขา สมน้ำหน้า! อยากว่ากันดีนัก ตุ๊บ! สองขาแกร่งพยายามเดินเข้าหาเตียงกว้าง ก่อนจะออกแรงเหวี่ยงร่างเล็กๆ ของฉันให้ตกลงบนที่นอนอย่างแรง จนกระเด็นเด้งไปกับความยืดหยุ่นของที่นอน เขาไม่ปล่อยให้ฉันคิดพาตัวเองลุกหนีได้ทัน ตามลงมาทาบทับร่างของฉันเอาไว้ จับข้อมือเล็กชูขึ้นเหนือศีรษะให้หมดทางสู้ ทำฉันเลิ่กลั่กไปหมด แต่ที่หน้าตกใจไปกว่านั้นจนตากลมโตเบิกกว้างก็เพราะเวลานี้ปมผ้าขนหนูที่ฉันผูกเอาไว้กลับคลายออกและหลุดลงมากองรวมกันอยู่ที่เอวบาง จนความนุ่มนิ่มของฉันบดเบียดแผงอกแกร่งอย่างไม่มีอะไรกั้น มีเพียงเสื้อยืดคอกลมที่เขาใส่อยู่เท่านั้น! "ปะ ปล่อย" "ง่ายๆ เลย?" "ยะ ยอมแพ้ก็ได้" และเหมือนเขาจะสัมผัสได้กับอะไรบางอย่าง ถึงได้หลุบตาลงมองเล็กน้อย ก่อนจะทิ้งตัวลงมาให้อะไรต่อมิอะไรของเราสองคนแนบชิดขึ้นจนแทบจะฝังรวมเป็นร่างเดียวกัน หน้าผากกว้างวางพักบนหน้าผากมน จมูกมีสันแตะปลายจมูกเชิดรั้นสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ทำตากลมโตหลุบต่ำลงพยายามหลบสายตากรุ่มกริ่มที่ทำให้ใจดวงน้อยสั่นไหว แต่กลับช่วยไม่ได้เลย... เพราะเวลานี้เสียงโครมครามของหัวใจที่เต้นแรงมันดังชัดเจย ดังมากจนฉันกลัวว่าเขาจะได้ยินแล้วเอามาพูดล้อกัน ก่อนที่ฉันจะแทบหยุดลมหายใจ กับสัมผัสปลายจมูกที่แตะลงบนแก้มซ้ำๆ ค่อยๆ ขยับพาลมหายใจร้อนลงไปยังลำคอขาวแตะริมฝีปากร้ายๆ ลงผิวอ่อนอย่างแผ่วเบา เหมือนว่าเขากำลังหลงใหลกลิ่นครีมอาบน้ำของเขาที่อยู่บนตัวของฉันอย่างไงอย่างงั้น "โอ๊ย! จะ เจ็บนะ" "ไอ้หมาบ้านี่" ในตอนที่ฉันกำลังเคลิ้มไปกับสัมผัสไหวหวามจากเขา เขาก็งับลงมาที่ลำคอของฉันในตำแหน่งเดียวกันกับที่ฉันงับคอเขา นี่เขาหลอกให้ฉันตายใจ เพื่อแก้แค้นกันหรอกเหรอ? ตาคู่คมเหลือบมองกันทันทีที่ฝากรอยเขี้ยวไว้ได้สำเร็จ มุมปากได้รูปยกยิ้มขึ้นอย่างได้ใจ และยืดตัวขึ้นเล็กน้อยให้พอที่เขาสามารถกดจมูกลงบนแก้มนุ่มจนเป็นรอยบุ๋มดมกลิ่นหอมๆ สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดฟอดใหญ่ ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มผืนใหญ่ลงมาคลุมตัวร่างอวบอิ่มจนมิดชิด โดยที่เขาไม่มองอะไรไปมากกว่านั้น เพราะกลัวจะเผลอทำอะไรตามใจตัวเอง คนตัวโตยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีพาตัวเองเดินเข้าห้องน้ำไปแช่น้ำเย็นๆ หวังจะให้อุณหภูมิของน้ำช่วยดับความร้อนรุ่มที่กำลังพลุ่งพล่านในตัวเขาให้ลดลง ปล่อยให้คนตัวเล็กนอนหน้าแดงอยู่ใต้ผ้าห่มอยู่อย่างนั้น คืนแรกของผมและตัวยุ่ง..ก็ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด #รักกันแบบหยุมหัว #อ่านฟินฟินดูความประพฤติสามวันของเมียตัวแสบก็คือ หลังจากที่ผมลักพาตัวเธอกลับมากินเค้กด้วยกันที่คอนโด ผมก็ไม่ได้นอนกอดร่างนุ่มนิ่ม เพราะเธอกลับไปนอนที่คอนโดของเธอ ปล่อยให้ผมนอนไม่หลับอยู่คนเดียวที่ห้อง แล้วผมจะทำอะไรได้ นอกจากแอบเถียงคนเดียวอยู่ในใจ...โคตรจะใจร้ายวันนี้ผมเลยรีบอาบน้ำแต่งตัวออกจากห้องตั้งแต่เช้ามืด แวะซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งเจ้าอร่อยและน้ำเต้าหู้สำหรับเราสองคนตรงไปหาเธอที่ห้องตั้งแต่ยังไม่เห็นแสงรับอรุณ ถือวิสาสะแอบเปิดประตูเข้าไปจัดการวางทุกอย่างในมือบนโต๊ะกินข้าวขนาดเล็ก แล้วพาตัวเองมานอนกอดคนขี้เซาบนเตียงภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน โดยที่เธอก็ขยับตัวเข้ามาซุกหน้าลงตรงแผงอกทันทีราวกับกำลังรอให้ผมมานอนกอดอย่างไงอย่างนั้น แต่จะตื่นมาโวยวายทีหลังหรือเปล่านั้น ผมตอบอย่างมั่นใจได้เลยว่า...หูชาแน่นอน"นาย เข้ามาได้ยังไงเนี่ย" "เปิดประตู" "โอ้ย!" แล้วนิ้วเล็กเล็กของยัยแม่มดก็หยิกลงเนื้อต้นแขนแกร่งเข้าอย่างจังทันทีที่ตากลมโตตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงโวยวาย จนผมแทบอยากจะหยิกคืนตรงตำแหน่งที่ทำให้ใจสั่นไหวด้วยความมันเขี้ยว แต่เพื่อไม่ให้โทษที่มีเพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้ เพราะงั้
"..." ผมยกข้ออ้างจากรอยแดงบนหลังมือพร้อมกับแสดงอาการเจ็บปวดผ่านสีหน้าเหมือนว่ากำลังเจ็บมากราวกับจะทนไม่ไหวให้เธอยอมใจอ่อนเดินไปหาอุปกรณ์ทำแผลและยาทามานั่งลงข้างๆ กัน ก่อนที่สองมือเล็กจะค่อยๆ ประคองมือใหญ่ข้างที่เจ็บของผม เทแอลกอฮอล์สำหรับล้างแผลลงบนสำลีแล้วเอามาเช็ดบริเวณรอบๆ รอยบวมแดงอย่างใส่ใจ แล้วใช้สองนิ้วเรียวสวยค่อยๆ ลูบวนทายาให้อย่างเบามือ แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าสวยๆ ก็ยังคงง้ำงอเบะปากเล็กๆ คว่ำจนผมอยากจะกัดสักทีให้หายมันเขี้ยวกึก! จุ๊บไวเท่าความคิดผมก็โน้มหน้าก้มลงไปกัดปากสีแดงหนึ่งทีอย่างท้าทายอำนาจมืด ก่อนจะกดปากจูบตรงที่เดิมโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว ทำตากลมโตถลึงตาใส่นัยน์ตาเป็นเปลวไฟราวกับจะแผดเผาผมให้ไหม้เกรียมเสียอย่างนั้น เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมป๊าถึงไม่อยากทำให้มามี๊โกรธ"กลับไปได้แล้ว" "ไม่กลับ" ผมใช้สองแขนแกร่งรวบตัวคนตัวเล็กที่กำลังเตรียมจะลุกเดินหนีจนเซมานั่งบนตักแกร่ง"ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ" ทำเธอแสดงท่าทีเหมือนม้าพยศพยายามดิ้นไปดิ้นมาเพื่อให้หลุดจากพันธนาการของผม "จิ๊" แน่นอนว่าผมไม่มีทางยอมเด็ดขาด ยิ่งร่างบางพยายามขยับตัวดิ้นเท่าไหร่ สองแขนแกร
แกร๊ก! "ยัยแพร ฉันกลับก่อนนะ" คนตัวเล็กวิ่งเข้ามาในห้องรับรองพยายามเก็บอาการน้อยใจที่มีไว้ข้างใน "อะ อ่าว เดี๋ยวฉันไปส่ง" แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ก็เหมือนจะยิ่งปิดไม่มิด เพราะตากลมโตแดงก่ำเต็มไปด้วยน้ำใสใสที่พร้อมจะร่วงหล่นลงมา จนเพื่อนรักสังเกตเห็น"นาย เอากุญแจรถมา" เป็นแพรนวลที่หันไปขอกุญแจรถจากคนที่ไปรับเธอมา จัดแจงหยิบกระเป๋าสะพายและเสื้อผ้าของเพื่อน ก่อนจะเดินไปจูงมือเล็กออกจากห้องเงียบๆ ไม่แม้แต่จะแสดงความยินดีกับคนที่พึ่งได้รับรางวัลจากการแข่งขันเมื่อครู่ รู้เพียงแต่ว่าต้องพาเพื่อนรักออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด"..." ปลายนิ้วเรียวยาวพยายามยื่นไปสัมผัสมือเล็กอยากจะรั้งเธอให้อยู่ด้วยกันต่อ แต่เธอกลับเลื่อนมือไปจับกระเป๋าเหมือนเลี่ยงการสัมผัสจากผม เป็นผมเองที่เป็นคนทำนิสัยไม่ดีใส่เธอวันนี้ผมรอเธอมาเป็นกำลังใจตลอดทั้งวัน พยายามเข้าใจว่าเธอมีงานมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ รอเธออย่างใจเย็นทั้งๆ ที่เป็นคนไม่ชอบรอใคร จนกระทั่งเห็นเธอเดินออกมาจากข้างสนามในชุดที่มันทำให้หัวของผมร้อนจนแทบระเบิดออกมาเป็นไฟ เสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยเผยให้เห็นผิวขาวและเน้นทุกสัดส่วนที่ผม
"บี๋ เค้าไปก่อนนะ" "เค้าไปส่ง""ห๊ะ""อะ เอ่อ ไม่ต้องๆ เค้าไปเองได้ค่ะ" อีกแล้ว อีกแล้ว เกือบหลุดพิรุธให้เขาจับได้อีกแล้วยัยพริบพราวฟอดฉันรีบวิ่งเข้าไปกระโดดหอมแก้มใสของคนตัวสูงฟอดใหญ่ ก่อนจะรีบสะพายกระเป๋าพาตัวเองออกไปจากตรงนี้โดยเร็วที่สุด ขืนอยู่นานกว่านี้ มีหวังความลับที่ฉันพยายามเก็บเอาไว้ตลอดหลายวันได้ถูกเปิดเผยออกมาแน่ก็คนมันตื่นเต้นนี่นา ตื่นเต้นจนทำอะไรหรือพูดอะไรก็พาลทำให้ดูเลิ่กลั่กไปหมด"คุณพ่อขา ลูกสาวคนสวยมาแล้วค่ะ" "หึ มีอะไรให้พ่อช่วยมั้ย" "ไม่มีค่ะ ไม่มี" วัตถุดิบมากมายพร้อมสำหรับทำเค้กขนาดสองปอนด์ถูกวางลงบนโต๊ะไอส์แลนด์สีขาวสะอาดตาในห้องครัวบ้านคุณพ่อ สถานที่ที่ฉันใช้ทำของขวัญวันเกิดให้เขา เพราะมีทั้งเตาอบขนม ไหนจะอุปกรณ์ที่ครบครัน สำคัญที่สุดปลอดภัยจากสายตาคู่คมของเขาแน่นอน"คุณพ่อทานข้าวเช้าหรือยังคะ หนูแวะซื้อน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋มาฝากด้วยนะ" "พ่อกำลังอยากกินพอดีเลยลูก" "เดี๋ยวหนูจัดการให้ค่ะ" น้ำเต้าหู้หวานน้อยเพื่อสุขภาพพร้อมกับปาท่องโก๋และซาลาเปาทอดถูกจัดใส่จานเล็กสำหรับใส่ของว่างพร้อมเสิร์ฟ แน่นอนว่าฉันไม่ลืมที่จะนั่งทานมื้อเช้
"อร่อยมั้ย" ซี่โครงหมูผัดพริกชิ้นพอดีคำถูกตักวางลงในจานข้าวของคนตัวโตอย่างเอาใจ เป็นเมนูโปรดที่ฉันชอบขอให้คุณพ่อทำให้กินอยู่บ่อยครั้งเวลาที่ได้กลับบ้าน พอวันนี้คุณพ่อทราบว่าฉันจะแวะไปหาก็รีบเข้าครัวทำใส่กล่องเตรียมไว้ให้ฉันกล่องใหญ่ พร้อมกับข้าวสวยสำหรับสองคนและผัดบล็อคโคลีกุ้งสดตัวโตโตที่ทำให้เขาถึงกับเติมข้าวเป็นจานที่สอง"อร่อย"ดีใจจัง ที่เขาชอบรสมือของคุณพ่อจะว่าไปฉันแอบอยากชวนเขาไปนั่งกินข้าวที่บ้านของฉันสักครั้งนะ มีคุณพ่อแสดงฝีมือการทำอาหารแสนอร่อย นั่งกินกันพร้อมหน้าพูดคุยกันแบบผ่อนคลายเหมือนเวลาที่ฉันไปบ้านเขา ที่สำคัญอยากพาเขาไปแนะนำให้คุณแม่ได้รู้จักแฟนคนแรกของลูกสาวคนสวยคนนี้ด้วย"เสาร์นี้ เธอมีงานรึป่าว" "มีช่วงเช้าหน่ะ" งานที่ว่าก็คือ...แอบไปทำเค้กเซอร์ไพร์สเขานั่นแหละ"...""ทำไมเหรอ""เค้ามีแข่งรถ" โดนเซอร์ไพร์สกลับเข้าแล้วสิเรา"เสร็จแล้วเค้าจะรีบไปหาบี๋นะ" "..."แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะใครบางคนเอาแต่นิ่งเงียบไม่ยอมปริปากพูดแม้แต่คำเดียว ตั้งแต่ได้ยินว่าฉันมีงานทั้งๆ ที่เป็นวันคล้ายวันเกิดของเขา เอาแต่นั่งตักข้าวใส่ปากทำหน้างอนๆ เหมือ
"ฮัลโหลสาว ตั้งแต่มีแฟนนี่ยิ้มไม่หุบเลยนะ" "พูดเว่อมาก ใครจะยิ้มไม่หุบ" "ฉันไม่ได้บ้านะ" เบื่อจริงๆ เลยยัยเพื่อนคนนี้เนี่ย ตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องเรียนก็เอาแต่นั่งแซวกันไม่หยุด ฉันแค่กำลังนั่งแชทคุยกับแฟนอยู่ก็เท่านั้นเอง ทีเรื่องของนางฉันยังไม่แซวเลย หรือจะแซวดี..."ได้ข่าวว่า มีผู้ชายหอบผ้ามาอยู่ด้วยหรอ""ข่าวเก่ามาก" ไม่เก่านะ แฟนฉันพึ่งเล่าให้ฟังเมื่อไม่กี่วันนี้เอง เอ๊ะ! หรือว่าจะเก่าไปแล้วจริงๆ เพราะมาลองนับดูแล้วนี่ก็ผ่านไปเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วนะ"อัพเดตมาบ้างเลยนะ" เรื่องของฉัน ยัยแพรนวลยังรู้เกือบทุกเรื่องเลย มีบางเรื่องเท่านั้นแหละที่ฉันไม่ได้เล่าให้เพื่อนฟัง เช่น ความแซ่บของเขาที่ฉันเก็บเอาไว้เป็นความลับของฉัน"ไม่ฟินเท่าเรื่องของแกหรอกจ๊ะเพื่อนรัก" นี่ฉันยังไม่ได้เล่าเลยนะ แล้วนางรู้ได้ยังไงว่าฉันฟินฉันไม่ทันได้ต่อล้อต่อเถียงเพื่อนต่อ อาจารย์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดก็เดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมแผ่รังสีที่ทำให้เสียงเจื้อยแจ้วกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานเงียบกริบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายพากันหันไปสนใจจุดศูนย์กลางตรงหน้าชั้นเรียนด้วยความตั้งใจphalan.pl : กินอะไร เดี๋ยวเค้าซื้อไ







