LOGINอสูรร้ายเริ่มร่ายมนตร์ให้สาวน้อยอ่อนต่อโลกีย์โอนอ่อนผ่อนตามความช่ำชองที่มีอยู่มากล้น ปลายลิ้นหนาควานหาความนุ่มและหอมหวานอย่างไม่รู้จักอิ่ม รสชาติแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยลิ้มลอง ทำให้มาเฟียหนุ่มไม่อยากผละจาก ยังคงเกี่ยวกระหวัดรัดเร้าดูดดึงเรียวลิ้นนุ่มอย่างโหยหิวราวกับห่างหายการจูบมาช้านาน ยิ่งได้ลิ้มลองรสชาติใหม่ที่ไม่เหมือนใคร อเล็สซานโดรยิ่งไม่อยากจะถอยห่างปากเล็กคู่นี้แม้วินาทีเดียว
จุมพิตในครั้งนี้ไม่ได้มีผลแค่คนจูบเพียงคนเดียว ยังส่งผลตรงถึงร่างกายของทิพย์ธาราที่มีอาการร้อนรุ่มจากไฟเสน่หาที่ค่อยๆ ลามเลียในร่างกายทีละน้อย เลือดลมในร่างสาวสูบฉีดผิดปกติ เช่นเดียวกับอัตราการเต้นของหัวใจที่กระหน่ำเร็วแรง
ร่างบางถูกผ่อนให้ราบไปตามโต๊ะตัวยาวที่มีเครื่องสำอางมากมายวางเรียงรายอยู่ ของเหล่านั้นถูกปัดอย่างไม่ไยดีด้วยมือหนา ทิพย์ธารารู้สึกตัวเมื่อแผ่นหลังบาง สัมผัสกับความเย็นของโต๊ะ สติที่เริ่มหลงทางไปไกล เริ่มคืบคลานเข้ามาในสมองของเธอทีละนิดๆ
“ไม่ ปล่อยฉัน” ทิพย์ธาราร้องห้ามเสียงแหบพร่าเบาหวิว เมื่อริมฝีปากบางได้รับอิสระ หากแต่อสูรร้ายกลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคำพูดนั้น เขาเลื่อนปากไปตามลำคอระหง ซุกไซ้สูดดมความหอมกรุ่นจากกลิ่นกายสาวที่ปลุกเร้าความต้องการของเขาถึงขีดสุด
มือแกร่งสอดเข้าในเสื้อตัวบางอย่างย่ามใจ สูงขึ้นจนถึงทรวงอกอวบเต็มไม้เต็มมือ ออกแรงเคล้นเบาๆ ก่อนจะสอดมือไปทางด้านหลังใช้ปลายนิ้วสะกิดตะขอบราเพียงนิด ตะขอนั้นจึงหลุดออกจากกันอย่างง่ายดาย
เสื้อตัวบางถูกร่นขึ้นเหนือทรวงอก พร้อมกับบราเซียร์สีฟ้าสดลายลูกไม้ที่ถูกร่นขึ้นตามไปด้วย ทรวงอกอวบเบ่งบานเมื่อเป็นอิสระจากบราตัวสวย อเล็สซานโดรเห็นความสวยงามตรงหน้าเพียงแวบเดียวอารมณ์พิศวาสก็พวยพุ่งทะยานสูง ไม่รั้งรอให้เวลาผ่านไปนานก้มหน้าดอมดมดอกบงกชคู่งามทันที
ร่างสาวสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกถึงความอุ่นร้อนจากช่องปากของเขาที่ครอบงับปลายถันของเธอ ก่อนที่ความรู้สึกที่ไม่เคยรู้จักจะวิ่งเข้ามาในความรู้สึกและกระจาย เป็นสายธาราแห่งความเสียวซ่านที่ไหลบ่าแทรกซึมเข้าสู่ทุกอณูเนื้อ แม้ว่าร่างกายจะคล้อยตามสัมผัสของชายร่างใหญ่ ทว่าจิตใจก็ยังมีสตินึกคิดจึงเอ่ยปากต้องห้าม มือเล็กก็พยายามออกแรงผลักไสร่างแข็งแรงดุจหินให้ออกห่างตนเอง
“ไม่ อย่า” แต่เสียงห้ามปรามของทิพย์ธารานั้นแสนจะเบา เบาเสียจนอเล็สซานโดรไม่ได้ยิน หรือเขาอาจจะไม่สนใจ เนื่องจากมีสิ่งอื่นที่น่าสนใจมากกว่า เมื่อเขาไล้เลียปทุมถันของเธอไม่หยุดหย่อน ความกระสันซ่านก็เข้ามาเยือนความรู้สึกของเธออย่างต่อเนื่องเช่นกัน
อเล็สซานโดรยังคงครอบครองปลายถันสลับกันไปมาทั้งสองข้างทรวงอย่างเมามัน ยิ่งได้ยินเสียงร้องครางหวานเสนาะหูด้วยแล้ว เขาก็ยิ่งไล้เลียและดูดดึงไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ร่างกายของชายหนุ่มร้อนไปทั้งตัวอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ความปรารถนาที่ไม่เคยปะทุเดือดมากขนาดนี้ เลือดในกายสูบฉีดแรง ความต้องการที่ถูกปลุกเริ่มตึงแน่นจนเขาเจ็บปวดไปหมด
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูหน้าห้องแต่งตัวของอแมนดาดังขึ้นหลายครั้ง หากแต่อเล็สซานโดรหาสนใจไม่เพราะสิ่งที่เขาสนใจมากที่สุดตอนนี้คือ หญิงสาวร่างอ่อนระทวย ใบหน้าแดงซ่านด้วยความเสน่หาที่ถูกปลุกเร้า ดวงตาฉ่ำปรือ ริมฝีปากเผยอเล็กน้อยปล่อยเสียงครางเบาๆ ชวนฟัง ทรวงอกอวบใหญ่คู่สวยที่เขากำลังครอบครองนี้ต่างหาก คือสิ่งที่เขาต้องการ และต้องการมากกว่าจูบด้วย
“เจ้านายครับ เจ้านาย” โรแบร์โตลูกน้องคนสนิทตัดสินใจตะโกนเรียก เมื่อเขาเพียรพยายามเคาะประตูนับสิบครั้ง จึงตัดสินใจเปลี่ยนเป็นเรียกชื่อแทน
“บ้าเอ๊ย!” อเล็สซานโดรสบถ เมื่อเสียงของลูกน้องคนสนิทร้องเรียกไม่หยุด อสูรร้ายจึงผละออกจากทรวงอกคู่สวยอย่างไม่เต็มใจนัก ก่อนจะเดินไปยังประตูและกระชากมันสุดแรงด้วยอารมณ์ที่ไม่สู้ดีนัก
โรแบร์โตเห็นสีหน้าของผู้เป็นเจ้านายแล้วก็แทบอยากจะหมุนตัวหนีไปให้ไกลรัศมีสายตาก็ว่าได้ ใบหน้าของอเล็สซานโดรบึ้งตึงและค่อนข้างแดง ดวงตาคมกล้าแข็งราวกับหิน
“มีอะไร ถ้าไม่มีอะไรสำคัญแกตาย” อเล็สซานโดรพูดเสียงเข้ม
“ได้เวลาเปิดงานแล้วครับ” โรแบร์โตตอบ
อเล็สซานโดรหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น เมื่อรู้ว่าต้องห่างร่างบางที่หอมละมุนลิ้นนี้ไป แต่งานก็ต้องสำคัญกว่าอาหารจานว่างจานนี้อยู่แล้ว
“รอก่อน” มาเฟียเอาแต่ใจพูดก่อนจะปิดประตูใส่หน้าลูกน้องทันที
ทิพย์ธารานั่งชันเข่ากอดตัวเองอยู่บนพื้นห้องหลังจากเขาผละห่างร่างของตนและรีบจัดการกับเสื้อผ้าให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย ยังนึกขอบคุณคนที่ขัดจังหวะที่เปรียบเสมือนผู้มีพระคุณมาช่วยชีวิตเธอ ไม่เช่นนั้นเธออาจจะโดนเขาย่ำยีมากกว่านี้ก็เป็นได้
แต่มีเรื่องหนึ่งที่ทิพย์ธาราไม่เข้าใจ เรื่องนั้นก็คือ เหตุใดร่างกายจึงคล้อยตามเขา ทั้งที่เขาเป็นชายแปลกหน้า เธอน่าจะขยะแขยงสัมผัสของเขามิใช่หรือ แต่ไม่เลย ทิพย์ธาราไม่มีความรู้สึกนั้น แถมบางครั้งยังโอนอ่อนผ่อนตามเขาด้วย ความคิดและปากร้องห้าม ทว่าร่างกายไม่สนองตามความคิดเอาเสียเลย
อเล็สซานโดรมองลูกแมวน้อยที่นั่งตัวสั่นบนพื้นเพียงไม่กี่อึดใจ แล้วจึงทรุดตัวนั่งยองๆ ด้วยเข่าเพียงข้างเดียว ใช้ปลายเท้ารับน้ำหนักตัวเอง ส่วนขาอีกข้างตั้งชัน ปลายนิ้วแกร่งเชยคางมนขึ้นมา ดวงตาคมมีเสน่ห์มองลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่เวลานี้มีน้ำตาเอ่อล้นขอบตา
Chapter 72“ทาร่าง่วงนอนจัง อยากนอน” หญิงสาวรู้สึกอ่อนเพลียหลังจากบทรักอันร้อนแรง ดวงตาคู่สวยเริ่มปิด นึกแปลกใจตัวเองว่าเป็นคนขี้เซาตั้งแต่เมื่อไหร่ อยากจะนอนท่าเดียวไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้น“ลูกแมวน้อยของฉันขี้เซาจังเลยนะ ง่วงก็นอนนะที่รัก ฉันกลับมาจากอเมริกามีอะไรจะให้เธอ” เขาพูดชิดเรียวปากบาง อดใจไม่ไหวจูบหนักๆ ซ้ำไปซ้ำมาอีกหลายครั้ง ชายหนุ่มถอดถอนร่างกายของเขาออก ลงมานอนเคียงข้างหญิงสาวใช้ลำแขนหนาให้เธอหนุนต่างหมอน ทิพย์ธาราเบียดกระแซะร่างหาไออุ่นจากเรือนกายแข็งแกร่ง ที่ให้ทั้งความอบอุ่นทางร่างกายและจิตใจมาตลอดหลายเดือน นับตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เธอจะไม่ได้รับไออุ่นและความร้อนที่ระเหยออกมาจากเรือนกายของเขาอีกแล้ว ทิพย์ธาราจะจดจำความอบอุ่นนี้ไว้ในใจ ใช้ความรู้สึกและความทรงจำ จดจำเรื่องราวดีๆ ของเขาและเธอไว้ ตราบสิ้นลมหายใจอเล็สซานโดรเดินทางออกจากบ้านในตอนสาย ซึ่งเลยเวลาที่กำหนดไว้ไปหลายสิบนาที เนื่องจากชายหนุ่มอ้อยอิ่งอยู่กับเรียวปากนุ่มเนิ่นนาน กว่าจะตัดใจได้ต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน ทิพย์ธาราไม่ได้เดินลงมาส่งเขาอย่างเช่นทุกครั้ง อ้างว่าไม่สบายเวียนหัว อยากพักผ่อน แมวตัวใหญ่เห็นลูกแม
Chapter 71เริ่มจากริมฝีปากบางแตะที่เรียวปากหนาสวยได้รูปแผ่วเบา เสมือนทักทายก่อนจะบดเบียดอย่างนุ่มนวล ปลายลิ้นไล้ไปตามฟันซี่สวยเป็นระเบียบ ก่อนจะสอดแทรกเข้าไปภายใน รุกเร้าเกี่ยวพันลิ้นหนาอย่างกล้าหาญ เพิ่มน้ำหนักแรงบดเคล้ามากยิ่งขึ้น พร้อมกับดูดดึงลิ้นหนาเข้าไปในอุ้งปากที่หอมหวานของเธอ อเล็สซานโดรส่งเสียงครางเล็กๆ ในลำคอ ฝ่ามือบางนุ่มเริ่มไต่สำรวจไปตามเรือนกายที่แข็งแรง หยุดนิ่งที่แผงอกกว้างแสนอบอุ่น ใช้ปลายนิ้วปัดไปมาที่ตุ่มเล็กๆ สีน้ำตาลอย่างนุ่มนวล ร่างของเขาสะดุ้งเฮือกฝ่ามือใหญ่รัดร่างบางให้แนบกับเรือนร่างหนามากยิ่งขึ้น ลูบไล้ฝ่ามือแกร่งไปทั่วแผ่นหลังเปล่าเปลือย เลื่อนต่ำมายังสะโพกผายหญิงสาวผละจากเรียวปากหนาอย่างอ้อยอิ่ง แทะเล็มไปตามสันแก้มที่มีไรเคราขึ้นเขียวครึ้ม ติ่งหู ลำคอแข็งแรง เคลื่อนตัวต่ำลงพร้อมกับริมฝีปากที่ครอบครองตุ่มสีน้ำตาลนั้นแทนที่นิ้วมือ“ทาร่า” อเล็สซานโดรร้องครางเหมือนจะขาดใจ น้ำเสียงของเขาขาดห้วง ดวงตาฉ่ำปรือ ปลายลิ้นที่ดูดกลืนตุ่มเม็ดเล็กอยู่นั้น สร้างความกระสันซ่านให้กับเขาเป็นอย่างมาก ขนในกายลุกชัน เลือดหมุนเวียนไปทั่วร่างด้วยกำลังแรงสูง ไหลวนดั่งลาวาที่ไหล
Chapter 70อเล็สซานโดรเดินเข้ามาในห้องเวลาประมาณสี่ทุมเศษ ชายหนุ่มปรายตามองกระเป๋าเดินทางที่ถูกวางไว้ที่หน้าตู้เสื้อผ้า มองเลยผ่านไปที่เตียงกว้าง ใจของเขาหายวาบ เมื่อไม่เห็นร่างของทิพย์ธาราอยู่บนเตียง เท้าหนากำลังจะก้าวออกไปจากห้อง เพื่อไปที่ห้องของเดชดวง หากแต่บานประตูห้องน้ำถูกเปิดออกเสียก่อน ชายหนุ่มจึงหันมาตามทิศทางของเสียงเปิดประตูทันที“นึกว่าจะหนีไปนอนที่ห้องรอซซี่เสียอีก” อเล็สซานโดรอยากจะตบปากของตัวเองนักที่พูดประโยคแดกดันนี้ออกไป หญิงสาวระบายลมหายใจเพียงนิด ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเขา คิดว่าการที่เราจะจากใครสักคนน่าจะจากกันด้วยดี จะได้เก็บความทรงจำครั้งสุดท้ายไว้ในใจ เธอจึงเดินเลี่ยงไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบชุดนอนไปสวมใส่ที่ห้องแต่งตัว แต่ถูกร่างหนาของเขาขวางไว้“เดี๋ยวสิ รู้หรือเปล่าว่าวันนี้ผลตรวจออกมาว่ายังไง” ทิพย์ธาราเงยหน้ามองคนถาม เขาจะมาถามเธอทำไมทั้งๆ ที่รู้คำตอบนั้นดีอยู่แล้ว“รู้ค่ะ อแมนดาบอกทาร่าแล้ว วันนี้คุณสองคนก็ไปเลี้ยงฉลองครอบครัวใหม่ไม่ใช่เหรอ” หญิงสาวอดที่จะประชดเขาไม่ได้“หึงเหรอ” เขาถามยิ้มๆ เมื่อเห็นแววตาของเธอ ได้ยินน้ำเสียงที่ประชดประชันของลูกแมวน้อย
Chapter 69“ได้ ฉันจะไปจากที่นี่ พรุ่งนี้คุณซานโดรจะไปต่างประเทศ ฉันจะไปหาห้องเช่า ฉันจะไม่ให้เขาพบหรือเจอฉันอีกเลยตลอดทั้งชีวิต ฉันสัญญา” อแมนดาลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินคำสัญญาจากศัตรูหัวใจ ใบหน้าสวยเฉี่ยวเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่สดใส เมื่อแผนการขั้นที่หนึ่งสำเร็จ“ฉันขอบใจเธอมากนะ แต่เธออย่าบอกใครเรื่องที่ฉันมาขอร้องเธอในวันนี้นะ” อแมนดากำชับ“รู้แล้ว ฉันจะไม่บอกใคร” ทิพย์ธารารับคำทั้งน้ำตา การสนทนาทุกอย่างจบสิ้นลงเมื่อร่างของบุคคลที่สาม ก้าวเข้ามาภายในห้องครัว“คุณอแมนดาครับ คุณซานโดรรออยู่ที่รถครับ” โรแบร์โตเดินเข้ามาหานางแบบสาวที่ห้องครัว หลังจากที่ปล่อยให้เจ้านายหนุ่มรอที่รถนานพอสมควร“ไปก่อนนะทาร่า เดี๋ยวคุณซานโดรจะคอยนาน” อแมนดาแย้มยิ้มให้คนที่อยู่ในครัว หมุนตัวเดินเฉิดฉายตรงไปที่รถยนต์คันงามที่จอดคอยอยู่ โรแบร์โตหันไปมองทิพย์ธาราที่มีน้ำตาไหลรินลงมาเป็นทาง เขาไม่รู้ว่าอแมนดามาพูดอะไรให้หญิงสาวที่แสนดีคนนี้เสียใจ ไม่เข้าใจเจ้านายของตัวเองเลยว่าเหตุใดเห็นก้อนกรวดดีกว่าเพชรเม็ดงาม แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไรเจ้านายหนุ่มของเขามีเหตุผลกับการกระทำนั้นเสมอหลังจากรับประทานอาหารเย็นสามคนพี่น้อ
Chapter 68ทิพย์ธาราตื่นขึ้นมาอีกทีเกือบห้าโมงเย็น หญิงสาวรีบก้าวลงจากเตียงเพื่อไปทำอาหารเย็นให้ทุกคนรับประทาน พอเธอก้าวเท้าออกมาจากห้อง ภาพของอเล็สซานโดรและอแมนดาเดินออกมาจากห้องส่วนตัวของนางแบบสาว ทั้งสองเดินคุยกันเลยผ่านร่างของเธอไป โดยไม่มีใครสนใจหรือถามไถ่เลยสักคน ทิพย์ธารารอให้ทั้งสองเดินลงไปถึงชั้นล่างก่อน จากนั้นเธอจึงเดินตามลงไป“ขอโทษที่นะคะวันนี้ลงมาช้าหน่อย” หญิงสาวก้าวเข้าในห้องครัว มือนุ่มเอื้อมมาหยิบผ้ากันเปื้อนสีขาวขึ้นมาสวม กำลังเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อหยิบอาหารสดมาปรุงแต่งเป็นอาหาร หากแต่เสียงของอาเธอร์ทำให้มือบางชะงักลงทันที“วันนี้คุณซานโดรกับคุณอแมนดาไม่รับประทานอาหารเย็นที่นี่ครับ ท่านทั้งสองจะไปทานอาหารที่โรงแรม” มือที่กำลังเอื้อมไปจับประตูตู้เย็นสั่นเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจเปิดบานประตูตู้เย็นตามเดิม หยิบผักและเนื้อสัตว์สองสามอย่างออกมา“ค่ะ ทาร่าจะทำอาหารให้เฉพาะเราสามคนพี่น้องก็แล้วกัน ขอบคุณนะคะที่บอกจะได้ไม่ต้องทำเยอะเสียของหมด” มือบางที่จับมีดอยู่สั่นเช่นเดียวกับน้ำเสียงที่สั่นไม่แพ้กัน อาเธอร์มองหญิงสาวร่างเล็กด้วยความรู้สึกสงสาร ไม่ทราบถึงเหตุผลที่เจ้านายหนุ่
Chapter 67“ยินดีด้วยนะ แล้วเธอจะทำอย่างไรต่อไปล่ะ” ปลายสายปากไม่ตรงกับใจ ต้องการให้ผลตรวจออกมาตรงกันข้ามมากกว่า อดแปลกใจเรื่องที่อเล็สซานโดรระหองระแหงกันไม่ได้ เพราะเห็นท่าทางของชายหนุ่มยามที่แสดงออกกับสาวชาวไทยแล้ว ไม่ต้องมีใครบอกก็รู้ว่าเขารักผู้หญิงคนนี้มากเพียงใด“กำจัดนังทาร่าน่ะสิ พรุ่งนี้ซานโดรจะไปอเมริกาหนึ่งอาทิตย์ มันเป็นโอกาสของเราที่จะจัดการกับนังทาร่าได้อย่างสะดวก” อเล็สซานโดรต้องเดินทางไปอเมริกาเพื่อเจรจาเรื่องธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาล จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเดินทางไปด้วยตัวเอง เพราะไม่มีใครตัดสินใจแทนได้ มันจึงเป็นโอกาสทองและโอกาสเดียวของอแมนดาที่จะจัดการกับทิพย์ธารา“เธอมีแผนหรือยัง” อีกฝ่ายถาม“ยังเลย แล้วเธอล่ะ”“พอมีแต่ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือเปล่า เอาเป็นว่าเรารอให้ซานโดรไปต่างประเทศก่อนดีกว่า แล้วค่อยคิดหาทาง” เจนนิเฟอร์ออกความเห็น“ก็ดีเหมือนกัน แค่นี้นะมีข่าวอะไรคืบหน้าแล้วจะโทรไปบอก”“อืม บายจ้ะ” เจนนิเฟอร์ตัดสายทิ้ง โยนโทรศัพท์ลงไปที่เตียงอย่างหงุดหงิด“ใครทำให้อารมณ์เสียจ๊ะคนสวย เดี๋ยวฉันจะทำให้อารมณ์ดีเองนะ” ฟิลิปโปลุกขึ้นนั่ง สวมกอดเจนนิเฟอร์ทางด้านหลัง มือใหญ่กอ