Masukส่วนพิชชาภาพอวางสายจากน้องสาวไปก็ทำหน้าเครียดทันที
“เกิดอะไรขึ้นแก ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ” ปัทมาเดินเข้ามาถามเพื่อนสาวอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าของพิชชาภาไม่ดี “ยัยพลอยโดนพ่อเลี้ยงของอลิสลวนลามน่ะสิ โชคดีนะที่รอดมาได้ ฉันเป็นห่วงยัยพลอยอ่ะแก ฉันคงต้องไปอเมริกาเพื่อจัดการเรื่องของยัยพลอยให้เสร็จ ยังไงฉันฝากแกตัดชุดให้ฉันด้วยก็แล้วกันนะ” พิชชาภาเอ่ยบอกไปก็ทำหน้าจริงจัง “อืมได้สิ แกไปจัดการเรื่องน้องสาวแกให้เสร็จเถอะ แล้วก็ไปขออนุญาตคุณฟรานติโน่เขาก่อนล่ะจะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกันทีหลัง” ปัทมาเอ่ยบอกไปอย่างเตือนๆเพื่อนสาว เพราะพิชชาภาชอบทำอะไรโดยไม่บอกฟรานติโน่ เธอจึงกลัวว่าทั้งสองจะทะเลาะกัน “อืม ขอบใจนะแก งั้นเดี๋ยวฉันกลับก่อนนะ” พิชชาภาเอ่ยบอกลาเพื่อนสาวไปก็เดินออกไปเรียกแท็กซี่แล้วไปหาฟรานติโน่ที่บริษัททันที ด้านฟรานติโน่ประชุมกับพวกหุ้นส่วนในบริษัทเสร็จก็เดินมาที่ห้องทำงานของเขาพร้อมกับแฟรงก์และเมที เพราะพวกเขายังต้องมาสรุปกันว่าใครจะไปดูแลบริษัทที่อเมริกา “ครั้งก่อนผมไปอเมริกาแล้ว เพราะฉะนั้นครั้งนี้เฮียไปบ้างนะ สลับกันไปแบบนี้แฟร์สุดๆสำหรับเราสองคน อีกอย่างผมยังมีงานโปร์โมทเครื่องดื่มชุดใหม่อีก ผมไม่ว่างแบบเฮียหรอก” แฟรงก์บอกปัดไปเพราะไม่อยากไปดูบริษัทที่อเมริกา เนื่องจากมันเป็นธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องดื่มและต้องพบปะกับนักธุรกิจมากมาย เขาไม่ค่อยชอบจึงไม่อยากจะไปอเมริกาเท่าไหร่ “ฉันไม่ไป เรื่องเมียฉันก็ยังวุ่นวายอยู่แกไปนั่นแหละดีแล้ว แกจะได้เรียนรู้งานให้คล่องๆ อีกอย่างตำแหน่งฉันใหญ่กว่าแก เพราะฉะนั้นแกต้องไปอเมริกา นี่เป็นคำสั่ง” ฟรานติโน่เอ่ยย้ำชัดอย่างไม่ยอม พร้อมกับใช้ตำแหน่งขู่น้องชายออกไป เขาพึ่งจะคืนดีกับเมียได้ไม่นาน ขืนไปอเมริกาสองสามเดือนเมียเขาไม่โดนแย่งไปหรอกเหรอยิ่งหื่นแล้วก็ยิ่งสวยอยู่ด้วย “อะไรวะเฮีย อย่าเอาเรื่องงานมาอ้างดิ ที่จริงเฮียติดเมียก็พูดมาเถอะ ชิ ไม่รู้ล่ะ รอบนี้ผมไม่ไป ยังไงๆก็ไม่ไป” แฟรงก์พูดบอกไปอย่างเอาแต่ใจ จนฟรานติโน่ส่ายหัวพร้อมกับหันไปมองเมทีอย่างขอตัวช่วย “อ่อผมขอตัวไปทำงานดีกว่านะครับ เชิญพี่น้องคุยกันตามสบายเลยจะดีกว่าครับ” เมทีพูดแบบเอาตัวรอด เพราะอีกนานกว่าสองพี่น้องจะคุยกันรู้เรื่อง สู้เขาออกไปจากวงสนทนานี้จะดีกว่า เมทีพูดจบก็ก้มหน้าเดินออกไปจากห้อง ฟรานติโน่และแฟรงก์ก็มองตามอย่างรู้ทัน “ให้มันได้อย่างนี้สิ เฮ้อ” ฟรานติโน่พูดออกมาก็ถอนหายใจ ก่อนจะกรอกตามองน้องชายอย่างเอือมระอา เขาเข้าใจว่าแฟรงก์ไม่ชอบพบเจอนักธุรกิจแต่ด้วยงานที่ทำอยู่ยังไงมันก็เลี่ยงไม่ได้ “ช่วงนี้งานของฉันเต็มมือไปหมด จะปลีกตัวไปก็คงไม่ได้ แกนั่นแหละเหมาะสมที่จะไปดูแลสาขาของเราที่อเมริกาไอ้แฟรงก์ เพราะมันเป็นหน้าที่ของแก แล้วถ้าแกไม่ไปฉันก็จะไปบอกมัมช่วยแทน แกคงจะไม่ปล่อยให้มัมต้องลำบากเดินทางไปๆมาๆหรอกนะ” ฟรานติโน่ขู่น้องชายออกไปอย่างรู้ทัน เพราะถ้าอ้างแม่ทีไรแฟรงก์ใจอ่อนทุกที “เออๆ ให้มันได้อย่างนี้สิ ไม่เคยชนะเฮียได้เลยจริงๆ เออ ไปอเมริกาก็ไปวะ” แฟรงก์พูดจบก็ทำหน้าเซ็งๆ ก่อนจะมองหน้าพี่ชายแบบงอนๆ “พี่แฟรงก์จะไปอเมริกาเหรอคะ พิชขอไปด้วยนะคะ” พิชชาภาเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาก็เอ่ยพูดบอกไปทันที เพราะเธอเองก็อยากจะไปจัดการเรื่องของพลอยลดาให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด “จะไปกับมันทำไม แล้วนี่มาที่นี่ได้ยังไง บอกแล้วไง ว่าถ้าจะกลับให้โทรมาบอกพี่ไม่ใช่เหรอ ” ฟรานติโน่เอ่ยถามออกไปเสียงขุ่น เมื่อเห็นร่างบางอยู่ตรงหน้า แถมเธอยังพูดว่าจะไปอเมริกากับน้องชายเขาอีก “อ่าวเฮียถามน้องเขาถี่ยิบแบบนั้นใครมันจะไปตอบละเอียดได้ล่ะครับ น้องพิชเขาอาจอยากไปเที่ยวก็ได้นิ เฮียไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ผมจะดูแลน้องพิชแทนเฮียอย่างดีเลย” แฟรงก์เอ่ยพูดบอกไปอย่างแกล้งๆพี่ชาย เพราะดูจากสีหน้าจะไม่ค่อยพอใจที่พิชชาภาขอไปอเมริกากับเขา “ไอ้แฟรงก์ หุบปากไปเลยนะแก ฉันคุยกับเมียฉันอยู่” ฟรานติโน่ดุน้องชายไปก็หันมามองหน้าพิชชาภาอย่างจดจ้อง “พิชมีเรื่องด่วนน่ะค่ะก็เลยไม่ทันโทรมาบอก คือพิชอยากจะไปหาน้องสาวที่อเมริกาน่ะค่ะ เห็นว่าพี่แฟรงก์เองก็กำลังจะไป พิชก็เลยจะขอตามไปด้วย เพราะพิชรู้ว่าพี่ฟรานคงไม่ว่าง” พิชชาภาเอ่ยบอกไปตามความคิดของตัวเอง “รอพี่เคลียร์งานเสร็จแล้วพี่จะพาไปเอง จะไปกับไอ้แฟรงก์ทำไมกัน หรือไม่ถ้าพิชเป็นห่วงน้องสาวมาก พี่จะให้ไอ้แฟรงก์ไปดูให้” ฟรานติพูดบอกไปอย่างอ้อมเชิงห้ามเธอไม่ให้ไป “อ่าวเฮีย ผมไปทำงานนะ ผมจะเอาเวลาที่ไหนไปตามดูแลน้องสาวของน้องพิชล่ะครับ เฮียก็ให้น้องพิชไปกับผมสิ ง่ายจะตายไป เฮียก็ทำงานของเฮียที่นี่ไปสิ งานเยอะจนปลีกตัวไปไหนไม่ได้ไม่ใช่เหรอครับ” แฟรงก์พูดย้อนคำของพี่ชายก่อนหน้านี้ จนฟรานติโน่ถลึงตาใส่แฟรงก์อย่างไม่พอใจ “ไอ้แฟรงก์ อย่ามากวนตีนฉันนะ” ฟรานติโน่พูดเล็ดรอดไรฟันออกไปอย่างข่มอารมณ์ “อย่าเถียงกันเลยค่ะพี่ฟรานพี่แฟรงก์ พิชไม่ไปพร้อมพี่แฟรงก์ก็ได้ค่ะ แต่พิชจะขอไปอเมริกาวันพรุ่งนี้เลย ครั้งนี้พิชต้องรีบไปหาน้องสาวจริงๆค่ะพิชคงรอให้พี่ฟรานว่างไม่ได้หรอก มันสำคัญจริงๆนะคะพี่ฟราน ให้พิชไปเถอะนะคะ พิชสัญญาค่ะว่าพิชจะดูแลตัวเองอย่างดีเลย นะคะ” พิชชาภาพูดไปก็เดินเข้าไปหาฟรานติโน่แล้วนั่งตักของเขาพร้อมกับทำท่าออดอ้อน จนแฟรงก์มองแล้วถึงกับกรอกตามองบนอย่างหมั่นไส้ “เฮ้อ เบื่อพวกข้าวใหม่ปลามันจริงๆ ถ้าเฮียเป็นห่วงน้องพิชเดี๋ยวผมไปส่งน้องพิชเขาก่อนก็ได้ เพราะผมว่างงานมากเลยเฮีย ไม่ได้มีงานเต็มโต๊ะแบบเฮีย” แฟรงก์พูดไปอย่างกวนๆก็มองทั้งสองพูดคุยกันต่อ “มันจำเป็นต้องไปขนาดนั้นเลยเหรอ ก็ได้ พี่จะให้พิชไปอเมริกา” ฟรานติโน่พูดไปอย่างไม่สนใจน้องชาย ก่อนจะยอมแพ้ลูกอ้อนของพิชชาภา เพราะแค่เห็นสายตาของเธอเขาก็สยบแทบเท้าของเธอแล้ว “เออโว้ย ยอมง่ายดีจริงพี่กู คนกลัวเมียชัดๆเลย” แฟรงก์พูดออกมาเบาๆอย่างงงๆ เมื่อกี้พี่ชายเขายังทำท่าแข็งขืนอยู่เลย ตอนนี้กลับยอมง่ายๆ “พี่จะไปกับพิชด้วย ไปพรุ่งนี้ใช่ไหม พี่จะให้เมทีหาตั๋วเครื่องบินให้” ฟรานติโน่พูดออกไปจนพิชชาภายิ้มออกมาอย่างดีใจ “ขอบคุณนะคะ พี่ฟรานน่ารักที่สุดเลยค่ะ” พิชชาภาพูดบอกไปก็เอามือบีบแก้มของฟรานติโน่อย่างน่ารัก “อ่าวเฮียไหนบอกมีงานเยอะปลีกไปไม่ได้ไง แล้วงานที่นี่ใครจะทำเล่า” แฟรงก์เอ่ยถามออกไปอย่างงงๆ ปากอ้างว่ามีงานเยอะแต่พอพิชชาภาพูดว่าจะไปอเมริกาเท่านั้นแหละ พี่ชายของเขากลับเปลี่ยนใจทันที แบบนี้มันน่าน้อยใจจริงๆ “มันเรื่องของฉัน แกเองก็ไปเตรียมตัวด้วย เราจะไปอเมริกาพร้อมกัน” ฟรานติโน่เอ่ยบอกไปก็มองหน้าน้องชายแบบกวนๆ ที่จริงงานของเขาก็ยุ่งจริงๆนั่นแหละ แต่เขาไม่อยากให้พิชชาภาไปอเมริกากับน้องชายของเขาหรือไปคนเดียว เขาจึงยอมที่จะทิ้งงานแล้วเลือกที่จะไปกับเธอแทน “ขอบคุณนะคะที่รัก” พิชชาภาพูดจบก็หอมแก้มของฟรานติโน่อย่างอ้อนๆ จนแฟรงก์เห็นแล้วถึงกับเอ่ยพูดทันที “เฮ้อ ผมกลับไปทำงานก่อนนะเฮีย ขืนอยู่ต่อคนโสดอย่างผมคงได้ตายแน่ๆ ไปนะไอ้คนอ้อนผัว” แฟรงก์พูดบอกฟรานติโน่ไปก็ก้มมองหน้าหน้าพิชชาภาที่นั่งอยู่บนตักของฟรานติโน่อย่างแซวๆ ก่อนจะเดินออกไปทันที วันต่อมา ทั้งสามก็เดินทางในเวลาช่วงเย็นเพราะจะถึงอเมริกาของเวลาเช้าวัน พวกเขาก็นั่งเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสแบบส่วนตัวจึงทำให้ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แต่มันบินยาวแบบสิบกว่าชั่วโมงจึงทำให้เมื่อยตัวอยู่บ้าง ด้านพลอยลดาตั้งแต่เธอโดนอดัมลวนลามไปเมื่อหลายวันก่อน เธอก็พยายามอยู่ห่างจากเขามาได้สองวันแล้วตามคำสั่งของพี่สาวที่เตือนเธอไว้ แต่อดัมก็หาทางมาวอแวกับเธอตลอด แล้ววันนี้พี่สาวของเธอก็จะเดินทางมาถึงอเมริกาแล้ว เธอก็เบาใจไปอีกมาก “พลอย เป็นอะไรรึเปล่าทำไมช่วงนี้พลอยดูแปลกๆ” เจตรินเอ่ยถามเพื่อนสาวอย่างเป็นห่วง เพราะสองสามวันมานี้พลอยลดาเอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง “ไม่มีอะไรหรอก พลอยมัวแต่อ่านหนังสือน่ะ เจไม่ต้องเป็นห่วงนะ” พลอยลดาเอ่ยบอกไปก็ยิ้มให้เพื่อนหนุ่มอย่างดีใจที่อย่างน้อยเจตรินก็ยังเป็นห่วงและอยู่ข้างๆเธอ “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ไม่เห็นพลอยยิ้มแล้วเจไม่สบายใจเลยรู้ไหม ไหนยิ้มให้เจดูสิ” เจตรินเอ่ยบอกไปก็เอามือจับแก้มของเพื่อนสาวแล้วทำท่าให้เพื่อนสาวยิ้มตามเขา “เจก็ พลอยก็ยิ้มแล้วไง เล่นอะไรเป็นเด็กๆไปได้” พลอยลดาเอ่ยบอกไปก็ยิ้มตามเพื่อนหนุ่ม “เจ พลอย ทำอะไรกัน” อลิสยืนมองอยู่เอ่ยพูดออกไปเสียงเข้ม พร้อมกับใช้สายตามองทั้งสองอย่างกักเก็บความโกรธ เมื่อก่อนเธอคิดว่าเจตรินกับพลอยดาน่าจะเป็นแค่เพื่อนสนิทกัน แต่ตอนนี้เธอเริ่มคิดแล้วว่าทั้งสองอาจแอบรักกันแบบที่อดัมพ่อเลี้ยงของเธอบอกก็ได้“เออจริง ฉันว่าแกไปตรวจเถอะพลอย ตรวจมันสามอันไปเลย จะได้รู้ผลชัดๆ” เจสสิก้าเอ่ยเสริมไป แล้วเข้าไปหาเพื่อนสาว ก่อนจะหยิบเอาที่ตรวจครรภ์ทั้งสามอันไปด้วย แล้วจูงมือพลอยลดาไปที่ห้องน้ำ“ถ้าฉันท้องล่ะแก ทำไงดีอ่ะ” พลอยลดาพูดไปอย่างตื่นเต้น เพราะเธอเองก็ไม่รู้จะทำยังไง ตรวจคนไข้มาก็เยอะแต่กับตัวเองทำไมเธอโง่แบบนี้นะ แค่อาการข้างต้นของเธอมันก็เป็นคนท้องไปแล้วด้วยซ้ำ แต่เธอจะท้องได้ยังไงในเมื่อเธอก็ให้เจสสิก้าช่วยฉีดยาคุมกำเนิดให้เธอมาโดยตลอด“ลืมไปรึเปล่าจ้ะ ว่าแกน่ะแต่งงานมาสองปีแล้วนะ แล้วตอนนี้ก็จบแล้วด้วย ถ้าแกไม่ท้องนี่สิแปลก” เจสสิก้าบอกไปก็ยิ้มมุมปากออกไป เพราะเธอเองแหละที่ทำให้พลอยลดาท้อง“แต่แกก็ฉีดยาคุมให้ฉันเมื่อเดือนก่อนเองนะ ฉันจะท้องได้ยังไงล่ะ ฉันว่าฉันคงจะเครียดอ่ะ ไม่ได้ท้องหรอก” พลอยลดายังคงฝืนไป เพราะเธอมั่นในยาอันมีประสิทธิภาพที่เธอใช้มาตลอดสองปีมานี้“หึๆ คือฉันไม่ได้ฉีดยาคุมให้แกหรอก พี่แฟรงก์เขาบอกว่าถ้าฉันหยุดช่วยแกฉีดยาคุม เขาจะให้ตั๋วไปเที่ยวไอซ์แลนด์แล้วก็มีที่พักให้ฉันฟรีตั้งหนึ่งอาทิตย์ ฉันก็เลยฉีดยาบำรุงไข่ให้แกแทน ถ้าจะโกรธอ่ะ ไปโทษผัวแกนู้นนะที่เอาของมาล่อ
“โอว์ พลอย ซี๊ด อ่าส์ เร็วอีกคนดี เร็วกว่านี้ อ่าส์ ซี๊ด โอ้ ฟัก เพี๊ยะ เพี๊ยะ” แฟรงก์ร้องครางลั่นห้องน้ำ ก่อนจะตบก้นงอนจนแดงเผือด ไม่นานน้ำในอ่างก็เริ่มเต็มยิ่งพลอยลดาขย่มใส่ท่อนเอ้นของแฟรงก์ถี่เท่าไหร่ น้ำในอ่างก็ยิ่งไหวกระเพื่อมออกมา“โอ๊ย เฮีย อ่าส์ พลอยไม่ไหวแล้ว มันเสียว อ้ะ อ้ะ อ้ะ โอ๊ย โอว์ อ้าย” พลอยดลาร้องครางลั่นพร้อมกับเกร็งกระตุกอย่างแรงๆจนแฟรงก์ต้องอุ้มเธอลุกขึ้นแล้วจับเธอสอดใส่ในท่าลิงอุ้มแตงอีกครั้ง แล้วพาเธอไปที่เตียงที่อยู่ด้านนอกทันที“อ่อย เฮีย ซีด อืม” พลอยลดากัดฟันข่มความเสียว ก่อนจะถูกจับวางลงบนเตียงแล้วแฟรงก์ก็ยังคงสอดใส่เข้ามาในร่องสาวของเธอ เธอมองเขาเปิดกล่องสีแดงนั่น แล้วเขาก็หยิบเอาเครื่องสั่นจิ๋วออกมา มันเป็นเซ็กส์ทอยนี่เอง ไม่น่าล่ะ หน้าเขาถึงได้หื่นขนาดนั้น“เล่นนี่สักหน่อยเป็นไง จะได้น้ำแตกหลายๆรอบ” แฟรงก์พูดบอกไปก็ยิ้มมุมปากแบบร้ายๆ ก่อนจะเปิดเครื่องสั่นแล้วมามาจ่อที่ปุ่มสวาทของเธอ จากนั้นเขาก็เริ่มกระแทกตัวเองเข้าใส่พลอยลดาเบาๆแล้วค่อยเพอ่มจังหวะเร็วขึ้น“โอ๊ย ซี๊ด อย่า เฮีย อ้ะ อ้ะ เฮีย อ้ะ อ้ะ” พลอยลดาครางไม่ได้ศัพท์ ก่อนจะถูกเอาแบบรัวๆจนเตีย
จากนั้นก็มีเสียงโห่ร้องเรียกให้ทั้งสองขึ้นมาบนเวที แฟรงก์ก็เดินจูงมือพลอยลดาไปหาพิธีกร ก่อนจะรับไมโครโฟนมาแล้วทำท่าจะพูดออกไป“ผมต้องขอขอบคุณแขกทุกๆท่านนะครับที่ให้เกียรติมาร่วมงานแต่งงานของผมกับพลอยลดาในวันนี้นะครับ ขอให้ทุกท่านสนุกไปกับงานของผมด้วยนะครับ” แฟรงก์พูดบอกไปก็ยิ้มออกไป ก่อนจะหันมามองพลอยลดาด้วยสายตาหวานเชื่อม จนพลอยลดามองหน้าเขาแบบงงๆ ว่าเขาจะพูดหรือทำอะไรต่อ“และผมก็ต้องขอขอบคุณเจ้าสาวของผมครับ ที่เธอยอมตกลงใช้ชีวิตร่วมกับผม ทั้งที่ผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรมากมาย วันนี้ผมไม่มีอะไรจะให้กับผู้หญิงที่ผมรัก นอกจากความรักของผม” แฟรงก์พูดจบก็จับมือของพลอยลดาขึ้นมาจูบที่หลังมือของเธอ“พลอยก็ขอบคุณนะคะเฮีย ที่รักคนเอาแต่ใจแบบพลอย” พลอยลดาพูดออกไปก็โผล่เข้ากอดแฟรงก์ด้วยความรักทันที แต่อยู่ๆไฟในงานก็ดับลง และมีภาพแสงสว่างขึ้นตรงทางเข้างานซึ่งอยู่ตรงกับเวที ส่วนแฟรงก์ก็รีบวิ่งลงเวทีไป ปล่อยให้พลอยลดายืนอยู่ตรงนั้นกับพิธีกร“นี่เป็นวิดีโอที่ผมตั้งใจจะทำให้กับผู้หญิงคนหนึ่งครับ มันเป็นความในใจของผมที่อยากจะบอกให้เธอได้รู้มานานแล้ว ผมเริ่มรู้จักกับเธอตั้งแต่เธอยังเรียนจบมอปลาย ผมยอมรับเ
หลังจากนั้นสองอาทิตย์งานแต่งงานของแฟรงก์และพลอยลดาก็ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูใจกลางเมืองกรุงเทพ โดยมีตรีมงานการแต่งงานสามแบบ โดยตอนเช้าจะหมั้นแบบไทย และตอนบ่ายจะแต่งงานแบบคริสต์ โดยจะมีเพียงคนสนิทและญาติเท่านั้น และก็ไม่อนุญาตให้นักข่าวสำนักไหนเข้ามาทำข่าวทั้งนั้น ส่วนตอนเย็นก็เป็นงานเลี้ยงใหญ่เพราะจะมีแขกของฝ่ายเจ้าบ่าวเจ้าสาวมาร่วมด้วย“พลอยใส่ชุดแบบนี้แล้วสวยมากเลยรู้ไหม พี่ชอบจัง” แฟรงก์เอ่ยพูดไปอย่างชื่นชมกับความสวยของพลอยลดาที่ใส่ชุดไทยสีแดงทองได้สวยสง่าจนเขาตกหลุมรักเธอแล้วตกหลุมรักเธออีก“เฮียก็หล่อค่ะ” พลอยลดาพูดไปก็แอบยิ้มอย่างเขินๆ เพราะเธอไม่เคยใส่ชุดเจ้าสาวทั้งสามชุดให้เขาดูเลย พอเขาชมแบบนี้แล้วเธอก็รู้สึกเขิน“มัวแต่หยอกกันอยู่ได้ เขาจะเริ่มพิธีแล้ว นั่งกันดีๆสิลูก” พิริมาเอ่ยบอกทั้งสองคนที่พูดคุยกันอย่างออกนอกหน้าจนคนที่นั่งมองอยู่ด้านล่างเวทีมองมาอย่างมีความสุขที่เห็นทั้งสองรักใคร่กันดี จากนั้นก็ทำพิธีต่างๆจนมาถึงเวลาที่เจ้าสาวต้องกลับเจ้าบ่าวต้องกลับไปเปลี่ยนชุดเพื่อไปแต่งงานที่โบสถ์ต่อ“เหนื่อยชะมัดเลยอ่ะพี่พิช พลอยไม่คิดเลยว่าการแต่งงานมันจะเหนื่อยขนาดนี้” พลอยลด
“กูว่าแล้ว กูไม่น่ามากับมึงเลยไอ้แฟรงก์” ฟรานติโน่กระซิบว่าใส่น้องชายเบาๆ เพราะตอนนี้เขาได้แต่นั่งตัวเกร็งมองดูเมียของเขาจัดกรกับสาวตรงหน้าอย่างเงียบๆ“ใครจะไปรู้ล่ะเฮีย พี่น้องคู่นี้โหดชิบ” แฟรงก์เอียงหน้ากระซิบพูดกับพี่ชายเบาๆ ก่อนจะกลับมาทำหน้าปกตินิ่งๆต่อไป“พวกแก คิดเหรอว่าฉันจะยอมง่ายๆ ฉันจะแจ้งความจับพวกแกให้เข้าคุกให้หมด” มลทินีเอ่ยร้องบอกไปอย่างโกรธจัด เธอจะไม่ยอมให้ผู้หญิงสองคนนี้มาทำอะไรเธอแบบนี้แน่ๆ“เอาสิ งั้นขอตบอีกสักฉาดนะ จะได้ให้คุ้มกับเงินที่จะเสียไป เพี๊ยะ เพี๊ยะ พลอยไม่ต้อง เดี๋ยวพี่เอง” พิชชาภาพูดไปเพราะไม่อยากให้น้องสาวของเธอมีคดีความอะไร เพราะน้องขอเธอยังต้องเป็นหมอ เธออยากให้ประวัติของน้องสาวขาวสะอาด ก่อนจะเอามือตบหน้าของมลทินีและขวัญนภาคนละทีอย่างพอใจ“แก อ้าย” ขวัญนภาและมลทินีลุกขึ้นมาสู้แต่ก็มีพลเมืองดีมาห้ามสองคนนั้นไว้ เพราะอยู่ทีมเมียหลวงกันเป็นแถว“ปล่อยฉัน อ้าย พวกแกรอหมายจับได้เลย ฉันไม่ปล่อยพวกแกไว้แน่” ขวัญนภาพูดด้วยเสียงเข้ม ก่อนจะเดินออกไปด้วยสภาพสะบักสบอม พร้อมกับมลทินีเลขาของเธอพลอยลดาจำได้ว่าเธอสั่งให้คนขับรถจอดรถขวางรถของสองคนนี้ไว้ก
ด้านแฟรงก์และฟรานติโน่ก็มาถึงร้านอาหารที่นัดกับออแกไนท์เซอร์ชื่อดังเอาไว้ ก็เจอกับสองสาวที่นั่งยกมือโบกมือมาทางเขา ทั้งสองก็เดินไปหาด้วยท่าทางสุภาพ“สวัสดีค่ะคุณแฟรงก์ คุณฟรานติโน่ ดิฉันขวัญนภาค่ะ แล้วนี่มลทินีเลขาของฉันค่ะ” ขวัญนภาลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยแนะนำตัวกับสองหนุ่มด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะแอบเสียดายที่ทั้งสองหนุ่มมีเจ้าของหัวใจแล้ว เพราะคนพี่เธอได้ข่าวว่าแต่งงานไปแล้ว ส่วนคนน้องก็กำลังจะแต่งในอีกไม่ช้า“ครับ เชิญนั่งเถอะครับ เราจะได้คุยธุระให้เสร็จ ผมต้องรีบกลับไปดูลูกที่บ้าน” ฟรานติโน่พูดออกไปอย่างรำคาญสายตาของเลขาสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา สวยน่ะสวยจริง นมใหญ่ก็ใหญ่จริง แต่เขาไม่ชอบอะไรที่มันมาเสนอขนาดนี้“ตรงจังเลยนะคะ น่าอิจฉาภรรยาของคุณนะคะที่มีสามีน่ารักแบบนี้” มลทินีเอ่ยพูดออกไปอย่างเกินหน้าเกินตา จนขวัญนภาถึงกับเอามือกระตุกมือของเลขาสาวที่ออกตัวแรดอ่อยแขกของเธอ ทั้งที่เธอควรจะมีสิทธิได้อ่อยก่อน“ครับ ผมว่ารีบคุยงานเถอะ” ฟรานติโน่เอ่ยย้ำออกไป เพราะรำคาญสองสาวเต็มทนแล้วด้านสองสาวพอเดินมาสายตาก็ไปโฟกัสหนุ่มๆที่กำลังเดินเข้าไปในร้านอาหารอย่างคุ้นตา เพราะมันดูคล้ายๆกับสามีของพวก







