Share

บทที่6 ปราบวิญญาณ

last update Last Updated: 2024-12-07 10:42:43

“พูดจาบ้าบออะไร! แกเป็นใครถึงมีสิทธิ์พูดแบบนั้น?!” แม่บ้านเจินโกรธจนแทบจะระเบิดออกมา

หย่งฟางไม่ตอบโต้ เพราะเมื่อข้อมูลดวงชะตาของหลินเหมียนปรากฏบนโต๊ะพิธี คนที่พอมีสมองก็จะเข้าใจได้ทันทีว่าอะไรเป็นอะไร

นายท่านฉู่ถามอย่างเคร่งเครียด “หลินตง หลินเหมียนเสียชีวิตเมื่อครึ่งปีก่อน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนเดินทางไปพบลูกค้า แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเสี่ยวเหยียน?”

 “เสี่ยวเหยียนกับหลินเหมียนเป็นแฟนกันหรือเปล่า? ถ้าพวกคุณไม่รู้เรื่องนี้ นั่นแสดงว่าพวกเขาคงแอบคบกันลับๆ” หย่งฟางบอกการคาดเดาของตัวเอง

ทันใดนั้นเองเสียงไก่ตัวผู้ในอ้อมแขนของคุณนายฉู่ร้องออกมาสองครั้ง หย่งฟางมองไปที่ไก่และสังเกตว่ามันมีสีหน้าที่ดูเหมือนหมดหวัง 

เธอเข้าใจแล้ว ไก่ปฏิเสธถ้าเป็นเช่นนั้น “ลูกสาวของคุณชอบเสี่ยวเหยียน คุณเลยอยากให้เขาแต่งงานกับเธอในฐานะผี” หย่งฟางหันไปมองพ่อบ้านหลิน “ตอนนี้ฉันพูดถูกทั้งหมดแล้วใช่ไหม”

ใช่ ถูกทั้งหมด! หลินตงยังสวมชุดทำงานที่เรียบร้อยของหัวหน้าพ่อบ้านอยู่ แต่ตอนนี้เขาหมดคำพูดในการโต้แย้งอีกต่อไป ราวกับว่าถูกดึงพลังชีวิตออกไปหมดสิ้น แม้แต่กระดูกก็เหมือนจะไม่แข็งแรงอีกแล้ว เขาดูแก่ลงหลายปี ท่าทางหมดแรงและทรุดตัวลงพื้น

“ตอนที่จัดเก็บข้าวของของหลินเหมียน ฉันถึงได้รู้ว่าหล่อนชอบเสี่ยวเหยียน ชอบมาตั้งสิบปีแล้ว หล่อนเขียนบันทึกเกี่ยวกับเขาไว้เป็นสิบเล่ม มีกล่องเก็บสิ่งของทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเสี่ยวเหยียน พวกคุณพูดว่าอุบัติเหตุทำให้หลินเหมียนเสียชีวิต ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลฉู่หรือเสี่ยวเหยียน แต่หลินเหมียนเลือกที่จะละทิ้งอาชีพออกแบบที่ชอบเพื่อสมัครเรียนการจัดการธุรกิจ เพียงเพราะอยากจะอยู่ข้างเสี่ยวเหยียน คิดว่าทำแบบนี้จะทำให้พวกเธอไม่ต้องแยกจากกัน…” พ่อบ้านหลินพูดด้วยความสิ้นหวัง

หย่งฟางแทรกขึ้นมา “นี่เป็นการตัดสินใจของเธอเอง ไม่เกี่ยวกับเสี่ยวเหยียนเลย คุณควรจะสนับสนุนให้ลูกสาวของคุณเรียนด้านการเงิน แล้วไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ เพื่อเป็นผู้บริหารหญิง และทำให้เสี่ยวเหยียนเป็นลูกน้องเธอแทน”

“……” ทุกคนเงียบกริบ แต่ก็มีเหตุผลอยู่

หลินตงมองหย่งฟางอย่างเคืองๆ แล้วพูดต่อ “ทั้งหมดก็เพราะหลินเหมียน ไปพบลูกค้าของพวกตระกูลฉู่นี่แหละ” กลัวว่าหย่งฟางจะมาแย้งอะไรอีกเขารีบพูดต่อ “ใช่ พวกคุณจ่ายเงินค่าชดเชยให้ แต่หลินเหมียนของฉันไม่มีวันกลับมา เงินมีประโยชน์อะไร? เงินทำให้หลินเหมียนฟื้นขึ้นมาได้ไหม? เธอเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่ายมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยขออะไรจากฉันเลย ฉันแค่ต้องการทำสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขก่อนที่ฉันจะตาย ฉันทำอะไรผิด?”

หลินตงพูดถึงตรงนี้ก็ร้องไห้อย่างหนัก แม้เขาจะพูดเรื่องต่างๆ มากมาย แต่สิ่งที่ทำให้คนอื่นในห้องตกตะลึงที่สุด คือข้อมูลสุดท้ายที่เขาเผยออกมา

แม่บ้านเจินพูดอย่างตะลึง “ลุงหลิน คุณหมายความว่าอะไร? คุณจะตายอย่างนั้นหรือ?”

หลินตงก้มหน้าร้องไห้อย่างเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร หย่งฟางมองไปที่เขาก่อนจะหลับตา แล้วเห็นเงาของร่างกายที่มืดมิดอยู่ที่บริเวณตับอ่อน

“มะเร็งตับอ่อน ระยะสุดท้าย” เธอลืมตาขึ้นแล้วพูด

หลินตงมองเธอด้วยความตกใจ

“แต่ฉันอยากจะแก้อะไรบางอย่าง คุณไม่ได้ทำสิ่งนี้เพื่อความสุขของหลินเหมียน แต่เพื่อความพอใจในใจของตัวเอง คุณต้องการที่เป็นพ่อที่ดีที่ทำทุกอย่างเพื่อลูกสาว แต่สุดท้ายแล้ว นี่คือความต้องการส่วนตัวของคุณ มันเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวมากๆ” หย่งฟาง พูดอย่างตรงไปตรงมา

ร่างกายหลินตงแทบจะฉีกขาดด้วยความโกรธ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีแดงขณะกัดฟัน “เธอไม่เข้าใจ! ไม่รู้ว่าพ่อแม่จะทำอะไรเพื่อลูกได้บ้าง!”

“งั้นเอาอย่างนี้ ให้หลินเหมียนบอกคุณเองดีกว่า ว่าสิ่งที่คุณกำลังทำ มันทำให้เธอมีความสุขหรือไม่”

หย่งฟางพูดจบก็กัดปลายนิ้วตัวเอง แล้ววาดเครื่องหมายบางอย่างในอากาศอย่างรวดเร็ว เมื่อเสร็จแล้วเธอทำท่าทางโบกมือ เครื่องหมายกระจายออกไป แทรกเข้าสู่หน้าผากของคุณนายฉู่และสามี พ่อบ้านหลิน แม่บ้านเจิน สองสาวน้อยของตระกูลฉู่ รวมถึงบอดี้การ์ดทั้งสองคน

พวกเขารู้สึกถึงความเย็นที่หน้าผาก แสบตาจนต้องปิดเปลือกตาไปพักหนึ่ง เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็เห็นร่างของเสี่ยวเหยียน ถูกห่อหุ้มด้วยกลุ่มควันดำขนาดใหญ่ บอดี้การ์ดทั้งสองคนแทบจะเป็นลม สองสาวน้อยของตระกูลฉู่ ซึ่งเพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ กำลังสนุกสนานกับวันหยุดฤดูร้อน ก็ช็อกกับสิ่งที่เห็นและเป็นลมไปแล้ว

แม่บ้านเจินและพ่อบ้านหลิน ซึ่งเป็นรุ่นที่เติบโตมากับภาพยนตร์สยองขวัญ ต่างรู้ดีว่าควันดำหมายถึงวิญญาณอาฆาต คุณนายฉู่ที่กำลังอุ้มไก่ตัวผู้ก็ทรุดลงทันที 

หลินตงเริ่มร้องไห้ “หลินเหมียน!! พ่อจะทำให้เธอสมหวังให้ได้!”

“……” หย่งฟางคลี่ดาบที่ทำจากเหรียญจักรพรรดิออก แล้วแทงเข้าไปในกลุ่มควันดำ เหรียญจักรพรรดิที่มีสายร้อยสีแดงเป็นสีทองกับแดง ทำให้กลุ่มควันดำแสดงใบหน้าที่บิดเบี้ยวออกมาด้วยความเจ็บปวด

หลินตงร้องไห้ “อย่าทำร้ายลูกสาวของฉัน!!!” และพยายามหลบหลีกบอดี้การ์ดทั้งสองคนที่ขาสั่นจนวิ่งไม่ไหว เพื่อไปป้องกันกลุ่มควันดำจากดาบ

หย่งฟางร่ายมนต์แล้วใช้สองนิ้วแตะที่ดาบ ท้ายที่สุดพลังสีทองและสีแดงก็รวมกันที่ปลายดาบ เธอกรีดผ่านกลุ่มควันดำที่รายล้อมหลินตง และแทงเข้าไปในแกนกลางของกลุ่มควันดำ หลังจากนั้นสองวินาที พลังสีทองและแดงก็ระเบิดภายในกลุ่มควันนั้น

“หลินเหมียน!!!” หลินตงคุกเข่าลงไปกับพื้นและร้องเรียกลูกสาว

กลุ่มควันดำกระจายออก เห็นร่างวิญญาณผู้หญิง นั่งก้มหน้าพิงเตียงของเสี่ยวเหยียน ผมยาวคลุมใบหน้า

“หลินเหมียน!! พ่อจะมาช่วยลูกแล้ว!” หลินตงคุกเข่าคลานเข้ามาครึ่งทาง เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นใบหน้าที่เปลี่ยนไปของวิญญาณผู้หญิง

 “น่ารำคาญ”

ใครเป็นพ่อใครกันแน่?

หลินตงถึงกับพูดไม่ออก “……”

คุณนายฉู่และแม่บ้านเจินก็พูดไม่ออกเช่นกัน: “……”

หลินตงถอยกลับไปสองสามก้าว แล้วพูดพร้อมกันกับคุณนายฉู่และแม่บ้านเจิน “เธอเป็นใคร?!”

วิญญาณผู้หญิงไม่พูดอะไร แค่จ้องมองหย่งฟางด้วยความอาฆาต

หย่งฟางเพิกเฉยต่อสายตาของวิญญาณผู้หญิง แล้วมองไปที่กลุ่มคนพวกนั้น “ทำไมล่ะ? ฉันไม่เคยบอกว่าคุณชายของพวกคุณมีแค่ผีตนเดียวเท่านั้นสักหน่อย”

งั้นแสดงว่ามีสองตัว? หรือกี่ตัวกันแน่?!

คุณนายฉู่เกือบจะเป็นลมอีกครั้ง ขณะที่น้ำตาคลอเบ้า “เสี่ยวเหยียนของเราทำอะไรผิดกันแน่!!”

วิญญาณผู้หญิงหัวเราะเยาะ “ทำผิดอะไรน่ะเหรอ? ถ้าอยากรู้ก็ไปถาม ฉู่จ้งเทียน ที่อยู่ข้างล่าง!”

นายท่านฉู่และคุณนายฉู่ต่างตกใจ มีแต่ความกลัวอยู่เต็มดวงตา

 “คนในตระกูลฉู่สมควรตายทุกคน! ฉันจะฆ่าคนที่แซ่ฉู่ให้หมด!”

เสียงของวิญญาณผู้หญิงสั่นสะเทือนจนแสงไฟกะพริบ ช่องเสียบปลั๊กไฟก็มีประกายไฟพุ่งออกมาในทันที แสงสว่างในบ้านทั้งหมดพลันดับลง ทำให้บ้านตระกูลฉู่จมอยู่ในความมืด ห้องของเสี่ยวเหยียนเปลี่ยนเป็นสีเขียวมืดสลัว วิญญาณผู้หญิงยิ้มเยาะ สายตามองขึ้นบนอย่างน่ากลัวมีน้ำไหลออกมาราวเป็นสายเลือด

บรรยากาศความน่ากลัวถูกยกระดับขึ้นจนถึงขีดสุด บอดี้การ์ดทั้งสองคนหมดสติไป แม่บ้านเจินกรีดร้องเสียงดังที่สุดและหมดสติไปเช่นกัน พ่อบ้านหลินที่ตกใจจนแทบจะกลายเป็นหิน นั่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว แค่จ้องมองด้วยความอึ้ง

คุณนายฉู่กอดไก่ตัวผู้แน่น แล้วจับแขนสามีของเธอด้วยมือที่สั่นเทา

+++ถูกบังคับให้มาแต่งงาน ไปๆ มาๆ ปราบผีเฉย เอ้าา วิญญาณอาฆาตปะทะอาจารย์หย่ง+++

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่143 ฉลองกันครอบครัวใหญ่ [ตอนจบ]

    หลังจากที่หย่งฟางล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ เธอจุดโคมไฟยาวในวิหารหลักเตรียมเข้านอน แต่จู่ๆ ก็เกิดลมเย็นยะเยือกพัดเข้ามาในอาราม จากนั้นเสียงร้องโหยหวนของเหล่าภูตผีก็ดังขึ้นหลงหยวนหยวนที่กำลังขดตัวอยู่บนกิ่งไม้สะดุ้งตัว ก่อนจะกลับไปนอนขดตัวนุ่มนิ่มเหมือนเดิม หนิงหมี่ร้องขึ้นอย่างดีใจ "เสี่ยวชิว!!"ลมเย็นสงบลงพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนที่หยุดไป เสียงเล็กๆ ดังขึ้น "ว๊า ไม่มีอะไรสนุกเลย!"จากนั้นเด็กสาวในชุดกันหนาวลายดอกไม้สีแดงสด ที่มีเปียสองข้างก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า หนิงหมี่โผเข้ากอดเธอแน่น"พวกเราจำกลิ่นอายของเธอได้น่า เธอหลอกเราไม่ได้หรอก! ในที่สุดก็มาหาสักที ฮือๆ แล้วนี่เธอยังใส่ชุดที่ฉันเลือกให้อีก! อุ่นไหม?"หูอวี่จู้พยักหน้า "อุ่นมาก แต่ไม่รู้ทำไมพอใส่แล้ว รู้สึกอยากพูดสำเนียงตงเป่ยขึ้นมาซะงั้น"หย่งฟางรินนมเสริมแคลเซียมให้เธอหนึ่งแก้ว หูอวี่จู้จิบไปอึกหนึ่งก่อนพูด "คิดถึงฉันไหม? ไม่มีฉันอยู่คงเหงาน่าดูใช่ไหม?"หย่งฟางหันไปถามหนิงหมี่ "เธอเผาอะไรไปให้เธอเนี่ย?"หนิงหมี่ตอบด้วยความภาคภูมิใจ " "ฟู่เส้านักรัก: ภรรยาสุดที่รัก อย่าคิดหนี!""หยู่ถังอุทาน "นี่มันนิยายที่หนิวลี่อ่านอยู่ข้างหัวเตีย

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่142 ธูปแรกวันปีใหม่

    วันปีใหม่ วันแรกของปี เป็นวันที่สำคัญที่สุด สำหรับการคุ้มครองวัดและสำนัก หย่งฟางถูกปลุกตอนตีสี่ โดยเทพบรรพชนที่ปรากฏในฝันพร้อมหอกด้ายแดง แต่เธอไม่ยอมตื่น จากนั้นหนิงหมี่และหยู่ถังที่อยู่ข้างเตียงก็เขย่าตัวปลุก“อาจารย์! ฉันฝันถึงเทพบรรพชน ท่านบอกให้พวกเรารีบตื่นไปเปิดประตู!”หยู่ถังที่ยังตกใจอยู่เอ่ยขึ้น “ฉันก็ฝันถึง! บรรพบุรุษท่าน...ดุนิดหน่อย”ใช่แล้ว เทพบรรพชนในฝัน ถือหอกด้ายแดงมาเร่งให้พวกเธอตื่น เมื่อหย่งฟางโดนเขย่าปลุก ในที่สุดก็เลิกง่วงทั้งสามคนลุกขึ้นจากเตียง หย่งฟางทำทุกอย่างอย่างเชื่องช้า แต่หนิงหมี่กับหยู่ถังกลับรีบวิ่งไปเปิดประตูอย่างรวดเร็วเสียงประตูไม้ดัง ‘เอี๊ยด’ทันใดนั้นภายใต้ท้องฟ้าที่มืดสนิท พบว่ามีแสงไฟหลายพันจุด ส่องสว่างใบหน้าของผู้คนนับพัน เหล่าผู้ศรัทธาที่เดินทางมายังวัดเสวียนเว่ย ต่างนำธูปของตนเองมาด้วย เดินขึ้นเขาหลงหย่าเพื่อมาที่นี่แต่เมื่อมาถึง กลับพบว่าประตูยังไม่เปิด พวกเขาจึงรวมตัวกันนั่งรอพลางเล่นโทรศัพท์ แสงจากหน้าจอโทรศัพท์ส่องใบหน้าของพวกเขา เมื่อมองดูก็ให้ความรู้สึกวังเวงอยู่ไม่น้อย หนิงหมี่และหยู่ถังถึงกับสะดุ้งตกใจ เสียงประตูเปิดทำให้ผู้คนทั้งห

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่141 บรรยากาศความเศร้า

    หยู่ถังชะงักไปครู่หนึ่ง หย่งฟางดึงกระดาษทิชชูออกจากหน้า สูดหายใจลึกแล้วลุกขึ้น เสียงพูดของเธอแหบพร่าเล็กน้อย “ฉันจะไปเผาของให้ลูกบอลเล็ก”หย่งฟางยืนขึ้น หยู่ถังเดินตามไป ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังห้องเก็บอุปกรณ์ ด้านในมีของสำหรับทำพิธี รวมถึงเงินกระดาษทอง หย่งฟางค้นหาของอยู่พักหนึ่ง เลือกของพื้นฐานสามอย่าง กระดาษเหลืองที่มีรู, กระดาษทอง, และตุ๊กตากระดาษคนรับใช้ แต่คิดว่ามันดูน้อยเกินไปหน่อย“บ้านกระดาษนี้ดูเล็กไป ลูกบอลเล็กอยู่กับพ่อแม่เธอ ห้องอาจจะไม่พอ ที่นี่ไม่มีรถกระดาษ ไม่มีมือถือกระดาษด้วย ลูกบอลเล็กชอบดูไลฟ์สดทุกคืน”หย่งฟางพูดไป คิ้วของเธอก็ขมวดมุ่นเข้าหากัน หยู่ถังรู้ว่าทุคนต่างมีความรู้สึกแปลกๆ แต่คนที่ดูเหมือนรับมือกับเรื่องนี้ได้ยากที่สุด นอกจากหนิงหมี่แล้วก็คือหย่งฟาง ถึงหญิงสาวจะดูเหมือนคนที่ไม่ใส่ใจสิ่งรอบตัว แต่ความจริงเธอใส่ใจคนรอบข้างมากที่สุด เมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้ หยู่ถังรีบพูด “งั้นเราลงเขาไปซื้อของจากร้านของเซี่ยเฟยที่บ้านเลขที่ 48 กันเถอะ จะได้เผาให้เธอ”การออกไปข้างนอก สูดอากาศที่อื่นบ้าง อาจช่วยให้รู้สึกดีขึ้น“คงต้องเป็นแบบนั้นแล้ว” หย่งฟางพยักหน้า “ชวนหนิงหมี่ไปด

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่140 หูอวี่จู้

    มหกรรมการต่อสู้กับนักพรตชั่วจากเป็นประเทศ N ได้ปิดฉากลง ทุกคนเดินออกจากคุกใต้ดิน เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบเข้ามาปิดล้อมพื้นที่ด้วยเส้นกั้น สมาชิกครอบครัวสกุลสือทั้งหมดถูกควบคุมตัวขึ้นรถตำรวจ นำไปยังห้องสอบสวน เพื่อตรวจสอบว่าเคยคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปกี่ราย และยังเกี่ยวเนื่องกับการกบฏต่อชาติ ที่ยังต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมหัวหน้าจ้าวจากสำนักสืบสวนพิเศษ และผู้นำระดับสูงเดินทางมาถึง ส่วนหานลี่ตงจะถูกดำเนินการไต่สวนและลงโทษโดยหน่วยสืบสวนพิเศษแห่งชาติ ในสงครามครั้งนี้ นอกจากสือว่านซื่อที่ถูกพลังแห่งชาติตีกลับจนเสียชีวิตไปแล้ว ยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องสังเวยวิญญาณของเซี่ยถังอยู่ในมือของเซี่ยเฟย เขาตั้งใจว่าจะเลี้ยงดูวิญญาณของน้องสาว หย่งฟางเม้มริมฝีปาก กล่าวขึ้นด้วยความเป็นห่วงในฐานะเพื่อน "ถึงจะฟื้นฟูขึ้นมาได้ แต่พลังของเธอก็สูญสิ้นไปแล้ว เคยกินมนุษย์ เคยเป็นปีศาจจิ้งจอก ถึงเลี้ยงวิญญาณขึ้นมาได้ แต่สวรรค์ก็ไม่ยอมรับ คุณเองก็น่ารู้อยู่แล้ว" แต่เซี่ยเฟยยังคงไม่ยอมปล่อยมือ หันมองหย่งฟางพลางยิ้มอ่อน "รบกวนอาจารย์หย่งช่วยส่งวิญญาณด้วยเถอะ อาถัง!" เซี่ยเฟยร้องขึ้นอย่างเจ็บปวดเซี่ยถังมองพี่ชายด้ว

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่139 จุดจบคนชั่ว

    ทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผ่านการเชื่อมต่อของจิ้งจอกขาวเซี่ยถัง พลังโชคชะตาแห่งชาติที่ควรจะส่งต่อให้ประเทศ N กลับไม่ได้ถูกถ่ายโอนไปทั้งหมด มีส่วนหนึ่งที่หานลี่ตงเก็บไว้ใช้ส่วนตัวนี่คือสาเหตุที่เขามีชีวิตยืนยาวกว่าร้อยปี หย่งฟางขมวดคิ้วมองอย่างไม่พอใจ “หึ คนประเทศของแก รู้หรือเปล่าว่าแกขโมยพลังมังกรนี้มา”หานลี่ตงเพียงยิ้ม “รู้หรือไม่รู้ แล้วจะทำไม? หากไม่มีฉัน พวกมันจะตั้งหลักในเอเชียตะวันออกได้หรือ? น่าขำจริงๆ”หย่งฟางเข้าใจชัดเจนแล้ว ว่าขโมยคนนี้เป็นพวกหยิ่งยโสและหลงตัวเอง หานลี่ตงใช้พลังโชคชะตาแห่งชาติของ ประเทศ สร้างแรงกดดันที่แพร่กระจายไปทั่วห้องใต้ดิน ทุกคนรวมถึงเทพธิดาหนิงหมี่ ต่างรู้สึกหายใจยากลำบากขึ้น ต่อหน้าพลังแห่งชาติพวกเขาต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อประคองตัว หย่งฟางยกมือขึ้นแสงสีแดงฉายออกมาจากฝ่ามือ ก่อตัวเป็นเขตป้องกันครึ่งวงกลม ภายในเขตนี้ทุกคนจึงพอรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย เจ้าหน้าที่หลี่ที่ยังเจ็บจากแรงกดดันเมื่อครู่ ยกมือกุมหน้าอกพูดขึ้น “ขโมยสิ่งที่ไม่ใช่ของแก ระวังเถอะ สวรรค์จะลงโทษเจ้า!”หานลี่ตงหัวเราะเสียงดัง “สวรรค์จะลงโทษฉัน? ฉันใช้ชีวิตแบบนี้มานานกว่าร้อยปีแ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่138 หานลี่ตง

    ชายที่อยู่ข้างสือว่านซื่อเผยรอยยิ้มบางๆ หย่งฟางเห็นท่าทางของเขาแล้ว ตะโกนออกไปทันที“หานลี่ตง!”ขณะที่คนจากหน่วยงานแห่งชาติที่อยู่ใกล้ๆ เขาก็ต่างเรียกชื่อชายคนนั้นไปในแบบของตัวเอง“พี่ซู?!”“พี่ฉี?!”“พี่มู่?!”หลังจากเสียงของทั้งสามคนจบลง พวกเขาหันมามองหน้ากันเองด้วยความงุนงง “เขาไม่ใช่พี่ซู พี่ฉี พี่มู่ จากหน่วยงานแห่งชาติหรือ?!”ในที่สุดหย่งฟางก็ได้คำตอบ เมื่อหัวหน้าจ้าวตรวจสอบประวัติ ของผู้มีพลังพิเศษในระบบของหน่วยงานแห่งชาติ เพื่อที่จะอยู่ในประเทศและหลบเลี่ยงการตรวจสอบเป็นเวลาร้อยปี คนอย่าง ‘หานลี่ตง’ ย่อมต้องมีตัวตนแฝงในระบบหน่วยงาน และเชื่อมโยงกับผู้มีพลังพิเศษคนอื่นๆ อย่างแนบเนียนจากปฏิกิริยาของทั้งสามคนทำให้เห็นชัดว่า หานลี่ตงมีตัวตนในฐานะผู้มีพลังพิเศษ ที่ถูกบันทึกไว้ในระบบอย่างสมบูรณ์ คนที่อยู่ข้างหลังหย่งฟาง ต่างเผยท่าทีเป็นศัตรูอย่างชัดเจน ขณะจ้องมองสือว่านซื่อและหานลี่ตงด้วยความระแวดระวังชายผู้นั้นตั้งท่าจะทำมือในลักษณะของไต้ซือ แต่ถูกหย่งฟางหยุดไว้ทันที “เลิกแสร้งทำเสียที หานลี่ตง คุณหนีไปไหนไม่ได้แล้ว”นักพรตสาวกล่าวพร้อมกับกระชากเส้นด้ายสีแดงในมือให้กระชับ ขณะนั้นเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status