แชร์

บทที่6 ปราบวิญญาณ

ผู้เขียน: เฉินม่านอิ๋ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-07 10:42:43

“พูดจาบ้าบออะไร! แกเป็นใครถึงมีสิทธิ์พูดแบบนั้น?!” แม่บ้านเจินโกรธจนแทบจะระเบิดออกมา

หย่งฟางไม่ตอบโต้ เพราะเมื่อข้อมูลดวงชะตาของหลินเหมียนปรากฏบนโต๊ะพิธี คนที่พอมีสมองก็จะเข้าใจได้ทันทีว่าอะไรเป็นอะไร

นายท่านฉู่ถามอย่างเคร่งเครียด “หลินตง หลินเหมียนเสียชีวิตเมื่อครึ่งปีก่อน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนเดินทางไปพบลูกค้า แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเสี่ยวเหยียน?”

 “เสี่ยวเหยียนกับหลินเหมียนเป็นแฟนกันหรือเปล่า? ถ้าพวกคุณไม่รู้เรื่องนี้ นั่นแสดงว่าพวกเขาคงแอบคบกันลับๆ” หย่งฟางบอกการคาดเดาของตัวเอง

ทันใดนั้นเองเสียงไก่ตัวผู้ในอ้อมแขนของคุณนายฉู่ร้องออกมาสองครั้ง หย่งฟางมองไปที่ไก่และสังเกตว่ามันมีสีหน้าที่ดูเหมือนหมดหวัง 

เธอเข้าใจแล้ว ไก่ปฏิเสธถ้าเป็นเช่นนั้น “ลูกสาวของคุณชอบเสี่ยวเหยียน คุณเลยอยากให้เขาแต่งงานกับเธอในฐานะผี” หย่งฟางหันไปมองพ่อบ้านหลิน “ตอนนี้ฉันพูดถูกทั้งหมดแล้วใช่ไหม”

ใช่ ถูกทั้งหมด! หลินตงยังสวมชุดทำงานที่เรียบร้อยของหัวหน้าพ่อบ้านอยู่ แต่ตอนนี้เขาหมดคำพูดในการโต้แย้งอีกต่อไป ราวกับว่าถูกดึงพลังชีวิตออกไปหมดสิ้น แม้แต่กระดูกก็เหมือนจะไม่แข็งแรงอีกแล้ว เขาดูแก่ลงหลายปี ท่าทางหมดแรงและทรุดตัวลงพื้น

“ตอนที่จัดเก็บข้าวของของหลินเหมียน ฉันถึงได้รู้ว่าหล่อนชอบเสี่ยวเหยียน ชอบมาตั้งสิบปีแล้ว หล่อนเขียนบันทึกเกี่ยวกับเขาไว้เป็นสิบเล่ม มีกล่องเก็บสิ่งของทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเสี่ยวเหยียน พวกคุณพูดว่าอุบัติเหตุทำให้หลินเหมียนเสียชีวิต ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลฉู่หรือเสี่ยวเหยียน แต่หลินเหมียนเลือกที่จะละทิ้งอาชีพออกแบบที่ชอบเพื่อสมัครเรียนการจัดการธุรกิจ เพียงเพราะอยากจะอยู่ข้างเสี่ยวเหยียน คิดว่าทำแบบนี้จะทำให้พวกเธอไม่ต้องแยกจากกัน…” พ่อบ้านหลินพูดด้วยความสิ้นหวัง

หย่งฟางแทรกขึ้นมา “นี่เป็นการตัดสินใจของเธอเอง ไม่เกี่ยวกับเสี่ยวเหยียนเลย คุณควรจะสนับสนุนให้ลูกสาวของคุณเรียนด้านการเงิน แล้วไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ เพื่อเป็นผู้บริหารหญิง และทำให้เสี่ยวเหยียนเป็นลูกน้องเธอแทน”

“……” ทุกคนเงียบกริบ แต่ก็มีเหตุผลอยู่

หลินตงมองหย่งฟางอย่างเคืองๆ แล้วพูดต่อ “ทั้งหมดก็เพราะหลินเหมียน ไปพบลูกค้าของพวกตระกูลฉู่นี่แหละ” กลัวว่าหย่งฟางจะมาแย้งอะไรอีกเขารีบพูดต่อ “ใช่ พวกคุณจ่ายเงินค่าชดเชยให้ แต่หลินเหมียนของฉันไม่มีวันกลับมา เงินมีประโยชน์อะไร? เงินทำให้หลินเหมียนฟื้นขึ้นมาได้ไหม? เธอเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่ายมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยขออะไรจากฉันเลย ฉันแค่ต้องการทำสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขก่อนที่ฉันจะตาย ฉันทำอะไรผิด?”

หลินตงพูดถึงตรงนี้ก็ร้องไห้อย่างหนัก แม้เขาจะพูดเรื่องต่างๆ มากมาย แต่สิ่งที่ทำให้คนอื่นในห้องตกตะลึงที่สุด คือข้อมูลสุดท้ายที่เขาเผยออกมา

แม่บ้านเจินพูดอย่างตะลึง “ลุงหลิน คุณหมายความว่าอะไร? คุณจะตายอย่างนั้นหรือ?”

หลินตงก้มหน้าร้องไห้อย่างเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร หย่งฟางมองไปที่เขาก่อนจะหลับตา แล้วเห็นเงาของร่างกายที่มืดมิดอยู่ที่บริเวณตับอ่อน

“มะเร็งตับอ่อน ระยะสุดท้าย” เธอลืมตาขึ้นแล้วพูด

หลินตงมองเธอด้วยความตกใจ

“แต่ฉันอยากจะแก้อะไรบางอย่าง คุณไม่ได้ทำสิ่งนี้เพื่อความสุขของหลินเหมียน แต่เพื่อความพอใจในใจของตัวเอง คุณต้องการที่เป็นพ่อที่ดีที่ทำทุกอย่างเพื่อลูกสาว แต่สุดท้ายแล้ว นี่คือความต้องการส่วนตัวของคุณ มันเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวมากๆ” หย่งฟาง พูดอย่างตรงไปตรงมา

ร่างกายหลินตงแทบจะฉีกขาดด้วยความโกรธ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีแดงขณะกัดฟัน “เธอไม่เข้าใจ! ไม่รู้ว่าพ่อแม่จะทำอะไรเพื่อลูกได้บ้าง!”

“งั้นเอาอย่างนี้ ให้หลินเหมียนบอกคุณเองดีกว่า ว่าสิ่งที่คุณกำลังทำ มันทำให้เธอมีความสุขหรือไม่”

หย่งฟางพูดจบก็กัดปลายนิ้วตัวเอง แล้ววาดเครื่องหมายบางอย่างในอากาศอย่างรวดเร็ว เมื่อเสร็จแล้วเธอทำท่าทางโบกมือ เครื่องหมายกระจายออกไป แทรกเข้าสู่หน้าผากของคุณนายฉู่และสามี พ่อบ้านหลิน แม่บ้านเจิน สองสาวน้อยของตระกูลฉู่ รวมถึงบอดี้การ์ดทั้งสองคน

พวกเขารู้สึกถึงความเย็นที่หน้าผาก แสบตาจนต้องปิดเปลือกตาไปพักหนึ่ง เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็เห็นร่างของเสี่ยวเหยียน ถูกห่อหุ้มด้วยกลุ่มควันดำขนาดใหญ่ บอดี้การ์ดทั้งสองคนแทบจะเป็นลม สองสาวน้อยของตระกูลฉู่ ซึ่งเพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ กำลังสนุกสนานกับวันหยุดฤดูร้อน ก็ช็อกกับสิ่งที่เห็นและเป็นลมไปแล้ว

แม่บ้านเจินและพ่อบ้านหลิน ซึ่งเป็นรุ่นที่เติบโตมากับภาพยนตร์สยองขวัญ ต่างรู้ดีว่าควันดำหมายถึงวิญญาณอาฆาต คุณนายฉู่ที่กำลังอุ้มไก่ตัวผู้ก็ทรุดลงทันที 

หลินตงเริ่มร้องไห้ “หลินเหมียน!! พ่อจะทำให้เธอสมหวังให้ได้!”

“……” หย่งฟางคลี่ดาบที่ทำจากเหรียญจักรพรรดิออก แล้วแทงเข้าไปในกลุ่มควันดำ เหรียญจักรพรรดิที่มีสายร้อยสีแดงเป็นสีทองกับแดง ทำให้กลุ่มควันดำแสดงใบหน้าที่บิดเบี้ยวออกมาด้วยความเจ็บปวด

หลินตงร้องไห้ “อย่าทำร้ายลูกสาวของฉัน!!!” และพยายามหลบหลีกบอดี้การ์ดทั้งสองคนที่ขาสั่นจนวิ่งไม่ไหว เพื่อไปป้องกันกลุ่มควันดำจากดาบ

หย่งฟางร่ายมนต์แล้วใช้สองนิ้วแตะที่ดาบ ท้ายที่สุดพลังสีทองและสีแดงก็รวมกันที่ปลายดาบ เธอกรีดผ่านกลุ่มควันดำที่รายล้อมหลินตง และแทงเข้าไปในแกนกลางของกลุ่มควันดำ หลังจากนั้นสองวินาที พลังสีทองและแดงก็ระเบิดภายในกลุ่มควันนั้น

“หลินเหมียน!!!” หลินตงคุกเข่าลงไปกับพื้นและร้องเรียกลูกสาว

กลุ่มควันดำกระจายออก เห็นร่างวิญญาณผู้หญิง นั่งก้มหน้าพิงเตียงของเสี่ยวเหยียน ผมยาวคลุมใบหน้า

“หลินเหมียน!! พ่อจะมาช่วยลูกแล้ว!” หลินตงคุกเข่าคลานเข้ามาครึ่งทาง เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นใบหน้าที่เปลี่ยนไปของวิญญาณผู้หญิง

 “น่ารำคาญ”

ใครเป็นพ่อใครกันแน่?

หลินตงถึงกับพูดไม่ออก “……”

คุณนายฉู่และแม่บ้านเจินก็พูดไม่ออกเช่นกัน: “……”

หลินตงถอยกลับไปสองสามก้าว แล้วพูดพร้อมกันกับคุณนายฉู่และแม่บ้านเจิน “เธอเป็นใคร?!”

วิญญาณผู้หญิงไม่พูดอะไร แค่จ้องมองหย่งฟางด้วยความอาฆาต

หย่งฟางเพิกเฉยต่อสายตาของวิญญาณผู้หญิง แล้วมองไปที่กลุ่มคนพวกนั้น “ทำไมล่ะ? ฉันไม่เคยบอกว่าคุณชายของพวกคุณมีแค่ผีตนเดียวเท่านั้นสักหน่อย”

งั้นแสดงว่ามีสองตัว? หรือกี่ตัวกันแน่?!

คุณนายฉู่เกือบจะเป็นลมอีกครั้ง ขณะที่น้ำตาคลอเบ้า “เสี่ยวเหยียนของเราทำอะไรผิดกันแน่!!”

วิญญาณผู้หญิงหัวเราะเยาะ “ทำผิดอะไรน่ะเหรอ? ถ้าอยากรู้ก็ไปถาม ฉู่จ้งเทียน ที่อยู่ข้างล่าง!”

นายท่านฉู่และคุณนายฉู่ต่างตกใจ มีแต่ความกลัวอยู่เต็มดวงตา

 “คนในตระกูลฉู่สมควรตายทุกคน! ฉันจะฆ่าคนที่แซ่ฉู่ให้หมด!”

เสียงของวิญญาณผู้หญิงสั่นสะเทือนจนแสงไฟกะพริบ ช่องเสียบปลั๊กไฟก็มีประกายไฟพุ่งออกมาในทันที แสงสว่างในบ้านทั้งหมดพลันดับลง ทำให้บ้านตระกูลฉู่จมอยู่ในความมืด ห้องของเสี่ยวเหยียนเปลี่ยนเป็นสีเขียวมืดสลัว วิญญาณผู้หญิงยิ้มเยาะ สายตามองขึ้นบนอย่างน่ากลัวมีน้ำไหลออกมาราวเป็นสายเลือด

บรรยากาศความน่ากลัวถูกยกระดับขึ้นจนถึงขีดสุด บอดี้การ์ดทั้งสองคนหมดสติไป แม่บ้านเจินกรีดร้องเสียงดังที่สุดและหมดสติไปเช่นกัน พ่อบ้านหลินที่ตกใจจนแทบจะกลายเป็นหิน นั่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว แค่จ้องมองด้วยความอึ้ง

คุณนายฉู่กอดไก่ตัวผู้แน่น แล้วจับแขนสามีของเธอด้วยมือที่สั่นเทา

+++ถูกบังคับให้มาแต่งงาน ไปๆ มาๆ ปราบผีเฉย เอ้าา วิญญาณอาฆาตปะทะอาจารย์หย่ง+++

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่ 117 ซ่งชางชิงและสือว่านซือ

    ความเสียสละและจิตใจอันยิ่งใหญ่ของหลงหยวนหยวน ทำให้หย่งฟางรู้สึกประทับใจ หลังจากเก็บกระดูกมังกร ลูกบอลวิญญาณ เทพธิดาน้อยและสัมภาระ หย่งฟางก็ใช้ค่ายกลย่อพื้นที่ออกไปจากเกาะอีกครั้ง เมื่อกลับมาถึงสมาคมเทียนซือ หย่งฟางส่งมอบกระดูกมังกรให้หัวหน้าหลิวที่รอคอยอยู่อาจารย์หลิวถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นเขารีบสั่งให้เหล่านักพรตอาวุโสช่วยกันนำกระดูกมังกรไปรวมเข้ากับเส้นมังกรของแผ่นดิน"ทำได้ดีมาก" หัวหน้าหลิวกล่าวชื่นชม พร้อมส่งสิ่งของบางอย่างให้หย่งฟาง"สิ่งนี้ให้กับหลงหยวนหยวน ถือเป็นรางวัลและคำขอบคุณจากทางสมาคม"เมื่อเปิดดูพบว่ามันคือ เครื่องรางเขามังกร ขนาดเล็กที่หากงูมังกรตัวนั้นได้ใช้ จะช่วยเพิ่มพูนพลังตบะได้อย่างมาก หย่งฟางกล่าวขอบคุณอาจารย์หลิวแทนหลงหยวนหยวน ก่อนเดินออกมาจากห้องทำงาน เมื่อไม่มีธุระใดๆ แล้ว เธอก็พาทุกคนกลับไปยังวัด ซึ่งเวลานั้นเป็นช่วงเย็นพอดีในศาลาเล็กๆ เหล่าสมาชิกสำนักกำลังนั่งชมรายการ สุดยอดปรมาจารย์ ที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่ เสียงโวยวายของห่าวจาวไฉและจินเหยาไต้ดังขึ้นอย่างไม่หยุด"ทำไมไม่ให้หยวนหยวนของเราคว้าแชมป์! พวกเขาไม่เข้าใจถึงคุณค่าของวิชาและพลังที่หยวนหยวนใช้เ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่116 ตัวแทนสมาคมเทียนซือ

    ไม่ใช่แค่ชาวเน็ตจากพื้นที่อื่น ที่เคยได้ยินชื่อเสียงของหย่งฟางและวัดเสวียนเว่ยเท่านั้น แม้แต่คนถานจิงเองรวมถึงคนที่เคยไปไหว้พระขอพรที่วัดเสวียนเว่ย ส่วนใหญ่ก็ไม่เคยเห็นความสามารถ ในการจับผีหรือปราบปีศาจของหย่งฟาง พวกเขาคิดว่าเธอแค่เก่งเรื่องวาดยันต์หรือทำนายโชคชะตา แต่พอลงมือจริงๆ...ไม่ใช่สิ! หย่งฟางเธอทำได้จริงเหรอ?! โคตรเท่เลย!!!ทุกคนดูผ่านหน้าจอมือถือ เหมือนกำลังชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ที่เต็มไปด้วยเอฟเฟกต์สุดอลังการ หย่งฟางปรากฏตัวจากฟากฟ้า ใช้เส้นด้ายแดงสังหารปีศาจทะเลบ้าคลั่ง ราวกับทูตสาวจากสวรรค์ที่ลงมาปราบมาร ปลายนิ้วเรียวยาวเคลื่อนผ่านเส้นด้ายแดง เสริมด้วยใบหน้าสวยตราตรึงทำให้ทุกคนตะลึง ดวงตากลมโตเป็นประกายมีชีวิตชีวา ริมฝีปากเผยรอยยิ้มบางๆ บ่งบอกถึงความสง่างามและเสน่ห์ที่แฝงความขี้เล่น"พี่สาว! ฉันเป็นผี! จับฉันที!!!"หลังจากเหตุการณ์นี้ ทุกคนเริ่มค้นหาผลงานภาพยนตร์ และซีรีส์ที่หย่งฟางเคยแสดง เพื่อจะได้เห็นใบหน้างดงามนั้นอีก และพวกเขาก็พบว่า...ในซีรีส์ย้อนยุค เธอดูดีมาก ท่วงท่าสง่างาม ทรงผมและเครื่องแต่งกายดูเข้ากันทุกมุม โดยเฉพาะฉากต่อสู้ที่ทั้งสวยงามและดุดัน หย่งฟางคือคนที่เ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่115 กระดูกมังกร

    เช้าวันใหม่ผ่านพ้นไปจนถึงช่วงสาย หย่งฟางขยับตัวในผ้านวมนุ่มอย่างสบายใจ ก่อนจะลุกจากเตียงเชื่องช้า หนิงหมี่และเสี่ยวชิวตื่นกันตั้งแต่เช้า กำลังนั่งเล่นการ์ดพยายามสร้างบ้านจากการ์ดกันอยู่ หลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ หญิงสาวก็เดินออกมาจากห้องน้ำในขณะนั้นบ้านการ์ดที่สองสาวสร้างถูกผลักล้มไปแล้ว บนโต๊ะเล็กมีจานแตงโมหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ วางเรียงไว้อย่างสวยงามแทน หนิงหมี่กับเสี่ยวชิวนั่งเคี้ยวพลางบ่นพึมพำ “อาจารย์หย่ง มีผู้ชายหล่อมากคนหนึ่งฝากมาให้ ลองกินดูสิ” พร้อมกับใช้ส้อมเงินเล็กๆ จิ้มแตงโมชิ้นหนึ่งแล้วยื่นให้หย่งฟางคนที่ฝากมาก็น่าจะเป็นฉู่เหยียนหรือไม่ก็ฉู่สวี่ หย่งฟางงับแตงโมพลางถาม “ผู้ชายหล่อที่ว่าเนี่ย คนโตหรือคนเล็กล่ะ?”หนิงหมี่เอียงคอครุ่นคิดก่อนตอบ “แยกไม่ออกหรอก หล่อทั้งคู่ แต่คนที่ให้แตงโมใส่แว่นนะ”พอได้ยินแบบนั้นหย่งฟางก็รู้ทันทีว่าเป็นฉู่สวี่ น้ำแตงโมหวานฉ่ำซึมซาบอยู่ในโพรงปาก หญิงสาวเดินออกจากห้องพักครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนเคาะห้องฝั่งตรงข้าม ประตูถูกเปิดออกเป็นฉู่สวี่ยืนอยู่ตรงนั้น เขาสวมชุดคลุมอาบน้ำสีดำสนิท ปลายชุดยาวถึงช่วงกล้ามขาเรียวกระชับ ปลายผมที่ยังเปียกเล็กน้อยปกคลุ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที114 ทะยานสู่ฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นเทพ

    หย่งฟางสัมผัสพลังงานรอบตัว ทำให้เข้าใจเหตุผลว่าทำไมหมู่บ้านหลีเจียจึงสงบสุขได้เช่นนี้ ธรรมชาติแห่งคุณธรรมและความเมตตา นักพรตชราตาบอดผู้นี้ มีความเข้าใจในคุณธรรม และเส้นทางแห่งสวรรค์ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความกรุณา แม้เขาจะมองไม่เห็น แต่รับรู้ได้ว่าการร้องของกบในทุ่งนาคือชีวิต เสียงจิ้งหรีดในยามค่ำคืนคือชีวิตและที่สำคัญที่สุด ซากศพในหอเด็กหญิงก็คือชีวิตเช่นกันทุกค่ำหลังพระอาทิตย์ตกดิน นักพรตชราจะคลำทางไปยังหอเด็กหญิงเพียงลำพัง เพื่อทำพิธีส่งวิญญาณให้กับเด็กที่เสียชีวิต เขาสวดมนต์เสียงเบา มือหมุนลูกประคำ แม้เสียงจะไม่ดังนัก แต่เปี่ยมด้วยพลังและความเมตตา ผู้หญิงในหมู่บ้านมักแอบตามมา ฟังเสียงสวดมนต์ในความมืดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินเมื่อเขาทำพิธีเสร็จ พวกเธอก็จะใช้สีผ้าห่อศพ เพื่อระบุว่าศพไหนเป็นของลูกตัวเอง จากนั้นก็ขุดหลุมเล็กๆ ใกล้ๆ เพื่อฝังลูกด้วยความระมัดระวัง หอเด็กหญิงค่อยๆ ถูกทำลายลง เหลือไว้เพียงหลุมฝังศพเล็กๆ สองร้อยกว่าหลุมกระจายอยู่รอบบริเวณนักพรตใช้เวลาครึ่งปี ในการมาที่หอเด็กหญิงในยามค่ำคืน เพื่อทำพิธีส่งวิญญาณจนเสร็จสิ้น และระหว่างนั้น เด็กหญิงที่ยังมีชีวิตอยู่ใต้กองศพ ก็ถูก

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่113 อาแปะ

    "จะมีเหตุผลอะไรได้อีก?"หยู่ถังมองหย่งฟางด้วยความตกใจหลีชิงอวี่แสดงท่าทางระแวดระวังเต็มที่ "คุณหย่ง ตกลงคุณเป็นใครกันแน่?""ฉันคือศิษย์วัดเสวียนเว่ย หย่งฟางค่ะ""คุณเป็นนักพรต?!" หลีชิงอวี่มีปฏิกิริยาที่แตกต่างออกไปหย่งฟางพยักหน้าตอบแต่หลีชิงอวี่ถามต่อ "คุณทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณได้ไหม?""ทำได้""ถ้าอย่างนั้น ฉันจะบอกคุณ"สาวอีกสองคนร้องไห้พลางพูดขึ้น "พี่สาว ได้โปรดอย่าบอกออกไปเลย ฉันกลัวว่าแม่ของฉันจะถูกจับเข้าคุก..."หลีชิงอวี่กุมมือของน้องสาวทั้งสองไว้แน่น "ไม่ต้องกลัว" จากนั้นเธอหันไปมองหย่งฟางและขอร้อง "ถ้าคุณฟังเรื่องทั้งหมดแล้วคิดจะไปแจ้งตำรวจ ขอให้จับฉันคนเดียวก็พอ"หย่งฟางตอบ "ฉันรับรองแบบนั้นไม่ได้""ไม่เป็นไร" หลีชิงอวี่ยิ้มบางๆ "ฉันจะปกป้องพวกเธอเอง"หลังพูดจบ หลีชิงอวี่ก็เหมือนตกอยู่ในห้วงความคิด ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวที่น่าเศร้า จากอดีตของเธอออกมาอย่างช้าๆ ในปี 1988 ที่หมู่บ้านหลีเจีย มีร่างเด็กผู้หญิงกองรวมกันในสถานที่ที่พวกเขาเรียกว่า ‘หอเด็กหญิง’ ทับทมกันจนสูงถึงสองร้อยร่าง แต่นั่นไม่ได้เป็นหอจริงๆ มันคือซากศพของเด็กผู้หญิงที่กองกันจนสูงราวกับเป็นหอคอยเหล่าผู้หญิงร

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่112 หลอกผี

    ผีสาวพุ่งเข้ามาหาหย่งฟาง หญิงสาวหรี่ตาลงคว้ามือจับเล็บยาวสีแดงเพลิงไว้แล้วบิดข้อมือผีตัวนั้น ก่อนจะพลิกแขนที่เหมือนไร้เรี่ยวแรงทิ่มเข้าไปที่ดวงตา ที่มีเลือดไหลซึมออกมา ผีสาวหลับตาและถอยหลังไปหนึ่งก้าว หย่งฟางไม่รอช้าฟาดฝ่ามือเข้าไปที่หลังมือของผีตนนั้น ถึงกับถอยหลังไปไกลหลายเมตร ก่อนที่ร่างของมันจะเสียหลักล้มลงนอนบนพื้นผีสาวอีกตัวในชุดแดงร้องคำรามเสียงดัง พร้อมพุ่งเข้ามาอ้าปากกว้างกางกรงเล็บที่เหยียดตรง ตั้งใจจะจับคอของหย่งฟาง แต่นักพรตสาวเคลื่อนไหวรวดเร็วราวสายลม หลบการโจมตีของผีตัวนั้นได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับยกขาถีบเข้าที่ท้องของมัน ผีสาวร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างของมันหยุดนิ่งไปชั่วครู่หยู่ถังคิดในใจ ผียังเจ็บได้ด้วยเหรอ? แต่ถึงอย่างนั้นผีสาวก็ไม่ถอยหลัง มันพุ่งเข้าหาหย่งฟางอีกครั้งด้วยความดุดัน ในขณะเดียวกัน ผีสาวที่ล้มลงไปก่อนหน้านี้ก็ฟื้นตัวเหมือนปลาที่กระโดดจากพื้น ตอนนี้หย่งฟางต้องรับมือกับผีสาวถึงสองตัวหยู่ถังไม่คิดมาก รีบตะโกนถาม “อาจารย์หย่ง! ให้ฉันไปหยิบอุปกรณ์ให้ไหม?”“ไม่ต้อง” หย่งฟางตอบสั้นๆ ในขณะที่ยังต่อสู้อยู่ผีทั้งสองตัวบ้าคลั่งมากขึ้น การโจมตีของพวกมันเริ่มทวีควา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status