공유

บทที่ 5 ทำลายแผน

last update 최신 업데이트: 2024-12-06 10:35:18

“ช้าก่อน!”

เจ้าสาวที่สวมชุดแต่งงานสีแดงยกข้อมือทำท่าห้าม เสียงของเธอดังมาจากใต้ผ้าคลุมหน้า “ฉันอยากให้ความร่วมมือ แต่ฉันอยากรู้ว่าจริงๆ แล้ว เป็นฉันหย่งฟางหรือหลินเหมียน ที่จะแต่งงานกับคุณชายรองแห่งตระกูลฉู่”

ทันทีที่เธอพูดจบ ทกคนต่างตกตะลึง เธอกำลังพูดถึงอะไร? ทำไมถึงลากหลินเหมียนไปเกี่ยวข้องด้วย? ลูกสาวของพ่อบ้านหลินเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปตั้งครึ่งปีแล้ว เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับหล่อน? ทุกคนอดไม่ได้ที่จะหันไปมองพ่อบ้านหลิน

ใบหน้าของพ่อบ้านเฒ่ายังคงสงบ ไม่ได้โต้แย้งหรือแสดงความสงสัยอะไร เขาพูดอย่างใจเย็น  “คุณนาย นี่เป็นการพูดเหลวไหล หล่อนแค่ต้องการถ่วงเวลาเท่านั้น อย่าไปฟัง...”

หย่งฟางตะโกนขัดจังหวะ “ฉันขอแนะนำให้คุณนายฉู่ ตรวจสอบวันเดือนปีเกิดของเจ้าสาวที่เขียนบนโต๊ะบูชาดูนะคะ ตรวจดูว่าเป็นวันเดือนปีเกิดและชื่อของใคร แล้วจะรู้ว่าเป็นฉันที่ถูกเรียกมาเพื่อแก้เคล็ด หรือถูกใช้งานแทนคนอื่นเพื่อจัดงานแต่งกับวิญญาณ”

ตอนแรกคุณนายฉู่ไม่ได้สนใจ แต่พอได้ยินคำว่า "แต่งงานกับวิญญาณ" สามคำนี้ จึงเริ่มคิดที่จะตรวจสอบตามที่หย่งฟางกล่าว

การแต่งงานแก้เคล็ด คือ การแต่งงานระหว่างคนเป็น

การแต่งงานวิญญาณ คือ การแต่งงานระหว่างวิญญาณของคนสองคนที่เสียชีวิตแล้ว หรือคนหนึ่งที่ตายไปแล้วและอีกคนกำลังจะตาย

เรื่องเกี่ยวกับฉู่เหยียนเป็นเรื่องที่สำคัญเกินกว่าจะปล่อยผ่านไปได้ เมื่อคุณนายฉู่เดินเข้าไปใกล้โต๊ะบูชา พ่อบ้านหลินสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาต้องการจะทำอะไรบางอย่าง แต่หย่งฟางเคลื่อนไหวเร็วกว่ามาก เธอโยนผ้าคลุมหน้าสีแดงทิ้งและแย่งไก่ตัวผู้สีแดงสดจากโต๊ะบูชา ไก่ตัวผู้ไม่ใช่เป้าหมายหลักของพ่อบ้านหลินในตอนนี้ เขาไม่ได้สนใจที่จะไล่ตามไก่ แต่กลับวิ่งขึ้นบันไดแทน

“หยุดเขาไว้! เขาจะไปที่ห้องของฉู่เหยียน!” หย่งฟางตะโกนอย่างมั่นใจ

พ่อบ้านหลินไม่หยุดยังคงขึ้นบันไดไปด้วยในที่มั่นคง ถึงแม้ว่าพิธีแต่งงานวิญญาณจะถูกขัดขวาง แต่เขายังมีแผนสำรองอยู่ ตราบใดที่วิ่งขึ้นไปฆ่าฉู่เหยียนในตอนนี้ ความปรารถนาของลูกสาวเขาก็จะเป็นจริง ถึงแม้มันจะไม่สมบูรณ์แบบนักก็ตาม

บอดี้การ์ดที่ชั้นล่างไม่มีใครฟังคำสั่งของหย่งฟา งเธอจึงต้องโยนไก่ตัวผู้สีแดงสดไปที่คุณนายฉู่ “ดูแลให้ดีนะ! นี่คือชีวิตของลูกชายคุณ!!” แล้วเธอก็ไล่ตามพ่อบ้านหลินขึ้นไปชั้นบน

ไก่ตัวผู้สีแดงสดบินอยู่ในอากาศ

คุณนายฉู่โดยสัญชาตญาณจับมันไว้ แม้ว่าจะกลัวขนของมันอยู่บ้าง แต่ไก่ตัวผู้ก็ไม่ได้ทำอะไรหล่อน เพียงแค่จ้องมองด้วยสายตาที่ฉลาดเฉลียว ทำให้คุณนายฉู่เริ่มเชื่อคำพูดของหย่งฟางขึ้นมาทันที

จึงหยิบกระดาษสีแดงสองแผ่นที่วางอยู่บนโต๊ะบูชา ซึ่งเป็นหลักฐานที่ใช้ในการสมรสต่อหน้าสวรรค์และบรรพบุรุษของตระกูลฉู่ บนกระดาษสีแดงมีวันเดือนปีเกิดของคู่บ่าวสาว แผ่นหนึ่งเป็นของฉู่เหยียน ไม่ผิดแน่

แผ่นหนึ่ง... คุณนายฉู่เห็นชื่อ “หลินเหมียน” สองคำนี้

ลายมือของพ่อบ้านหลินสวยมาก ดังนั้นกระดาษสมรสจึงเป็นลายมือของเขา และเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน หล่อนยังได้ตรวจสอบด้วยตัวเองเลยว่า ตอนนั้นเป็นวันเดือนปีเกิดของหย่งฟางจริงๆ

แต่ตอนนี้มันถูกเปลี่ยนแล้ว

เพียงแค่เห็นคำว่า “หลินเหมียน” ก็พอจะบอกได้ว่ายังคงเป็นลายมือของพ่อบ้านหลิน

คุณนายฉู่รู้สึกกลัวจนเสียงสั่น ตะโกนสั่งบอดี้การ์ดอย่างร้อนใจ “ทุกคนไปที่ชั้นสามเร็ว!”

บอดี้การ์ดจึงเริ่มเคลื่อนไหวและรีบวิ่งขึ้นบันได แม้ว่าคุณนายฉู่จะรู้สึกเจ็บจากอาการข้อเท้าพลิก แต่หล่อนก็กอดไก่ตัวผู้สีแดงสดไว้แน่น แล้ววิ่งตามไป นายท่านฉู่ เสี่ยวเฉียว เสี่ยวเซ่อ แม่บ้านเจิน และคนอื่นๆ ก็วิ่งตามไปที่ชั้นสามเช่นกัน ในขณะที่เหล่าคนรับใช้ที่อยู่ในห้องโถงชั้นล่าง ต่างมองหน้ากันและเริ่มซุบซิบเสียงเบาๆ

ชั้นสาม ห้องของฉู่เหยียน

แม้ว่าหย่งฟางจะถูกพ่อเฒ่าบังคับให้ฝึกฝนตั้งแต่เด็กจนร่างกายแข็งแรงขึ้น แต่พลังของชายหนุ่มที่แข็งแรงก็ยังมากกว่าเธอ การต่อสู้ด้วยกำลังตรงๆ ไม่ใช่เรื่องดี หย่งฟางไม่ใช่คนโง่ เธอจึงใช้ทักษะการจับแบบนุ่มนวล จับจังหวะแล้วควบคุมพ่อบ้านหลินได้ในที่สุด

เมื่อบอดี้การ์ดขึ้นมาถึง ก็เห็นว่าพ่อบ้านหลินถูกหย่งฟางจับกดหน้าลงกับพื้นอย่างอับอาย หย่งฟางใช้เข่ากดลงบนหลังของเขา มือข้างหนึ่งบิดข้อมือเขาไว้ ส่วนอีกมือกดที่ศีรษะ หย่งฟางเองก็ไม่อยากลงมือ แต่บอดี้การ์ดเหล่านี้ไม่มีใครสู้ได้เลย

เธอถอนหายใจหนักๆ “ตอนนี้พวกคุณจะฟังคำพูดของฉันไหม?”

บอดี้การ์ดพยักหน้า

“มารับช่วงต่อไป ดูแลให้ดี”

เมื่อส่งมอบพ่อบ้านหลินให้กับบอดี้การ์ด คุณนายฉู่และคนอื่นๆ ก็มาถึงพอดี หย่งฟางไม่เสียเวลาพูดมาก เมื่อคุณนายฉู่มาถึงเธอก็บีบแก้มของฉู่เหยียนให้เปิดปาก ภายในมีเหรียญทองแดงเก่าๆ อยู่เหรียญหนึ่ง

หย่งฟางใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดมันออกมา แล้วถามคุณนายฉู่ “คุณรู้ไหมว่ามีสิ่งนี้ในปากของลูกชายคุณ?”

คุณนายฉู่พยักหน้า “ลุงหลินบอกว่านี่เป็นเครื่องรางเพื่อปกป้องจิตวิญญาณ...”

หย่งฟางส่ายหัว “นี่คือของที่ใช้ในพิธีศพ ไม่ใช่เครื่องรางเพื่อปกป้องจิตวิญญาณ แต่เป็นเพื่อการเปลี่ยนวิญญาณ  ปากของไก่ตัวผู้น่าจะมีเหรียญนี้อยู่ด้วย คุณลองดูสิ”

คุณนายฉู่มองไปที่ไก่ตัวผู้ในอ้อมแขน แต่ก็ไม่กล้าลงมือ แม่บ้านเจินจึงก้าวมาข้างหน้า เปิดปากของไก่ตัวผู้ และก็พบเหรียญทองแดงอีกเหรียญหนึ่งจริงๆ คุณนายฉู่จ้องมองพ่อบ้านหลินที่ถูกกดไว้ ภายในใจยากที่จะเชื่อ

“ลุงหลิน สิ่งที่เธอพูดเป็นความจริงหรือ?”

เมื่อไม่ได้รับคำตอบจากเขา ทำให้ใจของคุณนายฉู่เริ่มเย็นลง เสียงของเธอสั่น “หลินตง หลินเหมียนเติบโตในบ้านตระกูลฉู่ของเรา เธอเรียนในโรงเรียนเดียวกับลูกๆ ของบ้านเรา ขึ้นรถโรงเรียนคันเดียวกับเสี่ยวเหยียน ไม่มีใครปฏิบัติกับเธอแตกต่างจากลูกหลานของบ้านเราเลน การที่หลินเหมียนได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ ก็เป็นเงินของตระกูลเราที่จ่ายให้...ครอบครัวเราทำดีถึงขนาดนี้แล้ว ทำไมคุณถึงต้องการชีวิตของเสี่ยวเหยียนอีก!”

เมื่อได้ฟังคำตัดพ้อของคุณนายฉู่ แม่บ้านเจินเลือกที่จะเข้าข้างพ่อบ้านหลิน “คุณนาย คำพูดของเด็กคนนี้อาจจะไม่จริงก็ได้ ลุงหลินดูแลเสี่ยวเหยียนมาตั้งแต่เด็ก เขาไม่น่าจะใจร้ายถึงขนาดนั้นได้หรอกค่ะ อย่าเชื่อคำพูดของเธอทั้งหมดนะคะ!”

หย่งฟางยิ้มเล็กน้อย “แม่บ้านเจิน ถ้าคุณยังเข้าข้างพ่อบ้านหลินอีก ฉันคงต้องถือว่าคุณเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดแล้วล่ะ”

หลังจากที่เธอฟื้นตัวและวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ ก็ได้ล็อกเป้าหมายสองคนคือแม่บ้านเจินและพ่อบ้านหลิน แต่แม่บ้านเจินไม่ได้ฉลาดเท่าไหร่ และจากข้อมูลที่ได้จากตระกูลฉู่ เธอมีลูกชายเพียงคนเดียว ทำให้หย่งฟางตัดแม่บ้านเจินออกจากผู้ต้องสงสัย เมื่อเธอทราบถึงเรื่องของหลินเหมียน เธอก็เริ่มเข้าใจภาพรวม แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน

จึงต้องเสี่ยงดูว่าการแต่งงานวิญญาณเป็นเรื่องจริงหรือไม่

ดังนั้นเธอจึงมาที่สถานที่ทำพิธีแต่งงาน และรู้ว่าพ่อบ้านหลินเป็นคนถือไก่ตัวผู้ เธอจึงใช้สัญลักษณ์เล็กๆ เพื่อปล่อยวิญญาณจากไก่ในขณะนั้น และก็พบว่าวิญญาณนั้นคือฉู่เหยียน การเปลี่ยนวิญญาณได้รับการยืนยัน

จากนั้นเธอให้คุณนายฉู่ตรวจสอบกระดาษสีแดงบนโต๊ะบูชาที่เป็นชื่อของเจ้าสาว ซึ่งก็ได้รับการยืนยันแล้วเช่นกัน ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังการที่ฉู่เหยียนหมดสติเป็นใคร ตอนนี้ก็ชัดเจนแล้ว แต่แม่บ้านเจินกลับไม่เข้าใจ ยังคงช่วยพูดเข้าข้างอีก ทำให้หย่งฟางเริ่มสงสัยว่าเธออาจเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด

เพราะเธอยังไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ ว่ามีหลายคนร่วมกันก่อเหตุในคดีนี้

ล้ำลึกมากพ่อบ้านหลินนน ที่คุณชายรองไม่ฟื้นก็เพราะแบบนี้สินะ!!!

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่143 ฉลองกันครอบครัวใหญ่ [ตอนจบ]

    หลังจากที่หย่งฟางล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ เธอจุดโคมไฟยาวในวิหารหลักเตรียมเข้านอน แต่จู่ๆ ก็เกิดลมเย็นยะเยือกพัดเข้ามาในอาราม จากนั้นเสียงร้องโหยหวนของเหล่าภูตผีก็ดังขึ้นหลงหยวนหยวนที่กำลังขดตัวอยู่บนกิ่งไม้สะดุ้งตัว ก่อนจะกลับไปนอนขดตัวนุ่มนิ่มเหมือนเดิม หนิงหมี่ร้องขึ้นอย่างดีใจ "เสี่ยวชิว!!"ลมเย็นสงบลงพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนที่หยุดไป เสียงเล็กๆ ดังขึ้น "ว๊า ไม่มีอะไรสนุกเลย!"จากนั้นเด็กสาวในชุดกันหนาวลายดอกไม้สีแดงสด ที่มีเปียสองข้างก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า หนิงหมี่โผเข้ากอดเธอแน่น"พวกเราจำกลิ่นอายของเธอได้น่า เธอหลอกเราไม่ได้หรอก! ในที่สุดก็มาหาสักที ฮือๆ แล้วนี่เธอยังใส่ชุดที่ฉันเลือกให้อีก! อุ่นไหม?"หูอวี่จู้พยักหน้า "อุ่นมาก แต่ไม่รู้ทำไมพอใส่แล้ว รู้สึกอยากพูดสำเนียงตงเป่ยขึ้นมาซะงั้น"หย่งฟางรินนมเสริมแคลเซียมให้เธอหนึ่งแก้ว หูอวี่จู้จิบไปอึกหนึ่งก่อนพูด "คิดถึงฉันไหม? ไม่มีฉันอยู่คงเหงาน่าดูใช่ไหม?"หย่งฟางหันไปถามหนิงหมี่ "เธอเผาอะไรไปให้เธอเนี่ย?"หนิงหมี่ตอบด้วยความภาคภูมิใจ " "ฟู่เส้านักรัก: ภรรยาสุดที่รัก อย่าคิดหนี!""หยู่ถังอุทาน "นี่มันนิยายที่หนิวลี่อ่านอยู่ข้างหัวเตีย

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่142 ธูปแรกวันปีใหม่

    วันปีใหม่ วันแรกของปี เป็นวันที่สำคัญที่สุด สำหรับการคุ้มครองวัดและสำนัก หย่งฟางถูกปลุกตอนตีสี่ โดยเทพบรรพชนที่ปรากฏในฝันพร้อมหอกด้ายแดง แต่เธอไม่ยอมตื่น จากนั้นหนิงหมี่และหยู่ถังที่อยู่ข้างเตียงก็เขย่าตัวปลุก“อาจารย์! ฉันฝันถึงเทพบรรพชน ท่านบอกให้พวกเรารีบตื่นไปเปิดประตู!”หยู่ถังที่ยังตกใจอยู่เอ่ยขึ้น “ฉันก็ฝันถึง! บรรพบุรุษท่าน...ดุนิดหน่อย”ใช่แล้ว เทพบรรพชนในฝัน ถือหอกด้ายแดงมาเร่งให้พวกเธอตื่น เมื่อหย่งฟางโดนเขย่าปลุก ในที่สุดก็เลิกง่วงทั้งสามคนลุกขึ้นจากเตียง หย่งฟางทำทุกอย่างอย่างเชื่องช้า แต่หนิงหมี่กับหยู่ถังกลับรีบวิ่งไปเปิดประตูอย่างรวดเร็วเสียงประตูไม้ดัง ‘เอี๊ยด’ทันใดนั้นภายใต้ท้องฟ้าที่มืดสนิท พบว่ามีแสงไฟหลายพันจุด ส่องสว่างใบหน้าของผู้คนนับพัน เหล่าผู้ศรัทธาที่เดินทางมายังวัดเสวียนเว่ย ต่างนำธูปของตนเองมาด้วย เดินขึ้นเขาหลงหย่าเพื่อมาที่นี่แต่เมื่อมาถึง กลับพบว่าประตูยังไม่เปิด พวกเขาจึงรวมตัวกันนั่งรอพลางเล่นโทรศัพท์ แสงจากหน้าจอโทรศัพท์ส่องใบหน้าของพวกเขา เมื่อมองดูก็ให้ความรู้สึกวังเวงอยู่ไม่น้อย หนิงหมี่และหยู่ถังถึงกับสะดุ้งตกใจ เสียงประตูเปิดทำให้ผู้คนทั้งห

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่141 บรรยากาศความเศร้า

    หยู่ถังชะงักไปครู่หนึ่ง หย่งฟางดึงกระดาษทิชชูออกจากหน้า สูดหายใจลึกแล้วลุกขึ้น เสียงพูดของเธอแหบพร่าเล็กน้อย “ฉันจะไปเผาของให้ลูกบอลเล็ก”หย่งฟางยืนขึ้น หยู่ถังเดินตามไป ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังห้องเก็บอุปกรณ์ ด้านในมีของสำหรับทำพิธี รวมถึงเงินกระดาษทอง หย่งฟางค้นหาของอยู่พักหนึ่ง เลือกของพื้นฐานสามอย่าง กระดาษเหลืองที่มีรู, กระดาษทอง, และตุ๊กตากระดาษคนรับใช้ แต่คิดว่ามันดูน้อยเกินไปหน่อย“บ้านกระดาษนี้ดูเล็กไป ลูกบอลเล็กอยู่กับพ่อแม่เธอ ห้องอาจจะไม่พอ ที่นี่ไม่มีรถกระดาษ ไม่มีมือถือกระดาษด้วย ลูกบอลเล็กชอบดูไลฟ์สดทุกคืน”หย่งฟางพูดไป คิ้วของเธอก็ขมวดมุ่นเข้าหากัน หยู่ถังรู้ว่าทุคนต่างมีความรู้สึกแปลกๆ แต่คนที่ดูเหมือนรับมือกับเรื่องนี้ได้ยากที่สุด นอกจากหนิงหมี่แล้วก็คือหย่งฟาง ถึงหญิงสาวจะดูเหมือนคนที่ไม่ใส่ใจสิ่งรอบตัว แต่ความจริงเธอใส่ใจคนรอบข้างมากที่สุด เมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้ หยู่ถังรีบพูด “งั้นเราลงเขาไปซื้อของจากร้านของเซี่ยเฟยที่บ้านเลขที่ 48 กันเถอะ จะได้เผาให้เธอ”การออกไปข้างนอก สูดอากาศที่อื่นบ้าง อาจช่วยให้รู้สึกดีขึ้น“คงต้องเป็นแบบนั้นแล้ว” หย่งฟางพยักหน้า “ชวนหนิงหมี่ไปด

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่140 หูอวี่จู้

    มหกรรมการต่อสู้กับนักพรตชั่วจากเป็นประเทศ N ได้ปิดฉากลง ทุกคนเดินออกจากคุกใต้ดิน เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบเข้ามาปิดล้อมพื้นที่ด้วยเส้นกั้น สมาชิกครอบครัวสกุลสือทั้งหมดถูกควบคุมตัวขึ้นรถตำรวจ นำไปยังห้องสอบสวน เพื่อตรวจสอบว่าเคยคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปกี่ราย และยังเกี่ยวเนื่องกับการกบฏต่อชาติ ที่ยังต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมหัวหน้าจ้าวจากสำนักสืบสวนพิเศษ และผู้นำระดับสูงเดินทางมาถึง ส่วนหานลี่ตงจะถูกดำเนินการไต่สวนและลงโทษโดยหน่วยสืบสวนพิเศษแห่งชาติ ในสงครามครั้งนี้ นอกจากสือว่านซื่อที่ถูกพลังแห่งชาติตีกลับจนเสียชีวิตไปแล้ว ยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องสังเวยวิญญาณของเซี่ยถังอยู่ในมือของเซี่ยเฟย เขาตั้งใจว่าจะเลี้ยงดูวิญญาณของน้องสาว หย่งฟางเม้มริมฝีปาก กล่าวขึ้นด้วยความเป็นห่วงในฐานะเพื่อน "ถึงจะฟื้นฟูขึ้นมาได้ แต่พลังของเธอก็สูญสิ้นไปแล้ว เคยกินมนุษย์ เคยเป็นปีศาจจิ้งจอก ถึงเลี้ยงวิญญาณขึ้นมาได้ แต่สวรรค์ก็ไม่ยอมรับ คุณเองก็น่ารู้อยู่แล้ว" แต่เซี่ยเฟยยังคงไม่ยอมปล่อยมือ หันมองหย่งฟางพลางยิ้มอ่อน "รบกวนอาจารย์หย่งช่วยส่งวิญญาณด้วยเถอะ อาถัง!" เซี่ยเฟยร้องขึ้นอย่างเจ็บปวดเซี่ยถังมองพี่ชายด้ว

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่139 จุดจบคนชั่ว

    ทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผ่านการเชื่อมต่อของจิ้งจอกขาวเซี่ยถัง พลังโชคชะตาแห่งชาติที่ควรจะส่งต่อให้ประเทศ N กลับไม่ได้ถูกถ่ายโอนไปทั้งหมด มีส่วนหนึ่งที่หานลี่ตงเก็บไว้ใช้ส่วนตัวนี่คือสาเหตุที่เขามีชีวิตยืนยาวกว่าร้อยปี หย่งฟางขมวดคิ้วมองอย่างไม่พอใจ “หึ คนประเทศของแก รู้หรือเปล่าว่าแกขโมยพลังมังกรนี้มา”หานลี่ตงเพียงยิ้ม “รู้หรือไม่รู้ แล้วจะทำไม? หากไม่มีฉัน พวกมันจะตั้งหลักในเอเชียตะวันออกได้หรือ? น่าขำจริงๆ”หย่งฟางเข้าใจชัดเจนแล้ว ว่าขโมยคนนี้เป็นพวกหยิ่งยโสและหลงตัวเอง หานลี่ตงใช้พลังโชคชะตาแห่งชาติของ ประเทศ สร้างแรงกดดันที่แพร่กระจายไปทั่วห้องใต้ดิน ทุกคนรวมถึงเทพธิดาหนิงหมี่ ต่างรู้สึกหายใจยากลำบากขึ้น ต่อหน้าพลังแห่งชาติพวกเขาต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อประคองตัว หย่งฟางยกมือขึ้นแสงสีแดงฉายออกมาจากฝ่ามือ ก่อตัวเป็นเขตป้องกันครึ่งวงกลม ภายในเขตนี้ทุกคนจึงพอรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย เจ้าหน้าที่หลี่ที่ยังเจ็บจากแรงกดดันเมื่อครู่ ยกมือกุมหน้าอกพูดขึ้น “ขโมยสิ่งที่ไม่ใช่ของแก ระวังเถอะ สวรรค์จะลงโทษเจ้า!”หานลี่ตงหัวเราะเสียงดัง “สวรรค์จะลงโทษฉัน? ฉันใช้ชีวิตแบบนี้มานานกว่าร้อยปีแ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่138 หานลี่ตง

    ชายที่อยู่ข้างสือว่านซื่อเผยรอยยิ้มบางๆ หย่งฟางเห็นท่าทางของเขาแล้ว ตะโกนออกไปทันที“หานลี่ตง!”ขณะที่คนจากหน่วยงานแห่งชาติที่อยู่ใกล้ๆ เขาก็ต่างเรียกชื่อชายคนนั้นไปในแบบของตัวเอง“พี่ซู?!”“พี่ฉี?!”“พี่มู่?!”หลังจากเสียงของทั้งสามคนจบลง พวกเขาหันมามองหน้ากันเองด้วยความงุนงง “เขาไม่ใช่พี่ซู พี่ฉี พี่มู่ จากหน่วยงานแห่งชาติหรือ?!”ในที่สุดหย่งฟางก็ได้คำตอบ เมื่อหัวหน้าจ้าวตรวจสอบประวัติ ของผู้มีพลังพิเศษในระบบของหน่วยงานแห่งชาติ เพื่อที่จะอยู่ในประเทศและหลบเลี่ยงการตรวจสอบเป็นเวลาร้อยปี คนอย่าง ‘หานลี่ตง’ ย่อมต้องมีตัวตนแฝงในระบบหน่วยงาน และเชื่อมโยงกับผู้มีพลังพิเศษคนอื่นๆ อย่างแนบเนียนจากปฏิกิริยาของทั้งสามคนทำให้เห็นชัดว่า หานลี่ตงมีตัวตนในฐานะผู้มีพลังพิเศษ ที่ถูกบันทึกไว้ในระบบอย่างสมบูรณ์ คนที่อยู่ข้างหลังหย่งฟาง ต่างเผยท่าทีเป็นศัตรูอย่างชัดเจน ขณะจ้องมองสือว่านซื่อและหานลี่ตงด้วยความระแวดระวังชายผู้นั้นตั้งท่าจะทำมือในลักษณะของไต้ซือ แต่ถูกหย่งฟางหยุดไว้ทันที “เลิกแสร้งทำเสียที หานลี่ตง คุณหนีไปไหนไม่ได้แล้ว”นักพรตสาวกล่าวพร้อมกับกระชากเส้นด้ายสีแดงในมือให้กระชับ ขณะนั้นเ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status