แชร์

บทที่7 เรื่องราวที่ถูกซ่อน

ผู้เขียน: เฉินม่านอิ๋ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-08 10:44:24

วิญญาณสาวกรีดร้อง ขูดกรงเล็บยาวกว่าครึ่งเมตร พร้อมกับไล่มองตั้งแต่หย่งฟาง ไปยังพ่อบ้านหลินและฉู่หมิงถิง ก่อนจะหัวเราะอย่างเย็นชา "ที่นี่ใครแซ่ฉู่! สมควรตาย!!"

เคร้ง!

เสียงดาบที่ทำจากเหรียญจักรพรรดิทั้งห้า กั้นกรงเล็บคมของวิญญาณอาฆาตได้อย่างแม่นยำ เมื่อเล็บยาวแหลมสัมผัสกับดาบนั้นก็เกิดประกายไฟ พร้อมกับเสียงซู่ซ่าของควันสีดำ และกลิ่นไหม้ที่เหม็นคลุ้งไปทั่ว ผีสาวหันกลับมามองหย่งฟางด้วยความโกรธ ผมยาวของหล่อนสยายชี้ขึ้นไปในอากาศ กรงเล็บพุ่งเข้ามาและฉีกเสื้อคลุมเจ้าสาวที่บริเวณไหล่

หย่งฟางถอยหลังหลบอย่างรวดเร็ว เสื้อคลุมของเธอถูกฉีกขาด แต่ร่างกายไม่เป็นอะไร หญิงสาวควักยันต์หลายแผ่นจากแขนเสื้อออกมาและโยกไปเบื้องหน้า แผ่นยันต์ที่ควรจะตกกระจัดกระจาย ตอนนี้กลับลอยอยู่กลางอากาศอย่างมั่นคง

"พยัคฆ์ทองสยบภูตผีวิญญาณนับพันไม่อาจหลบหลีกได้ ไป!" 

หย่งฟางเปลี่ยนท่ามือและสุดท้ายชี้ไปข้างหน้า ทันใดนั้นเสือทองคำในตำนานก็ปรากฏขึ้น เสียงคำรามของมันดังสนั่นหวั่นไหว พุ่งตรงไปหาวิญญาณอาฆาต ถูกกดดันจนกระเด็นไปไกลหลายเมตร เมื่อเสือทองคำหายไปถูกแทนที่ด้วยยันต์หกแผ่นที่เปล่งแสงสีทอง ล้อมรอบวิญญาณเอาไว้คล้ายเชือกพันธนาการแน่นหนา

ผีอาฆาตตนนั้นลุกขึ้นยืน แต่ยันต์ยังคงหมุนรอบหล่อนเหมือนเป็นศูนย์กลาง ทำให้ไม่สามารถจัดการอะไรได้อีกต่อไป จึงพยายามปลุกพลังวิญญาณในตัว

หย่งฟางเตือนอย่างใจเย็น "พลังของเธอจะถูกทำลายไปหมดสิ้น ถ้าไม่ได้ฆ่าคนในร้อยปีที่ผ่านมา ฉันเชื่อว่าเธอไม่ต้องการที่จะถูกทำลายแบบนี้หรอกใช่ไหม"

แสงสีเขียวบ่งบอกถึงระดับของภูตผี จนกว่าจะมีคราบเลือดของผู้ที่ถูกฆ่าติดมือ แสงนั้นจึงจะเปลี่ยนเป็นสีแดง กลายเป็นภูตผีที่แท้จริง

วิญญาณสาวจ้องมองหย่งฟางอย่างเกรี้ยวกราด "ทำไมเธอถึงต้องช่วยพวกเขาด้วย? เธอก็เป็นคนตระกูลฉู่เหมือนกันหรือ?!"

หย่งฟางไม่ได้ตอบ

นายท่านฉู่พูดอย่างหนักแน่น ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจ "คุณหย่ง ผีตนนี้ต้องการทำร้ายคนในตระกูลฉู่ กำจัดหล่อนซะ ราคาคุณจะตั้งเท่าไหร่ก็แล้วแต่เลย"

หย่งฟางพูดเบา ๆ "ทำไมหล่อนถึงต้องการทำร้ายคนในตระกูลฉู่? ฉันก็อยากรู้เหมือนกันนะ" เธอหยิบเอากลิ่นควันดำที่ลอยอยู่ในอากาศขึ้นมาวิเคราะห์ "คำสาปที่มีอายุกว่าร้อยปี ครอบครัวของคุณถูกสาปมานานขนาดนั้นเลยเหรอ"

“นี่เป็นเรื่องภายในของตระกูลฉู่ เราไม่สามารถเปิดเผยได้ หากคุณหย่งไม่ต้องการช่วยจัดการกับปัญหานี้ ฉันจะติดต่ออาจารย์ท่านอื่นแทน”

จากที่เธอเพิ่งลงมือไป ฉู่หมิงถิงรู้แล้วว่าไม่ธรรมดา แต่ถ้าเธอไม่ต้องการทำงานให้เขาก็ไม่เป็นไร อย่างไรเสียวิญญาณตนนี้ก็ถูกล่อออกมาแล้ว เมืองถานจิงนั้นเต็มไปด้วยอาจารย์ที่มีชื่อเสียง และเขาก็รู้จักอยู่หลายคน จึงไม่กังวลที่จะหาใครสักคนมาจัดการกับปัญหานี้แทน

“ก็ได้ งั้นฉันจะถอดยันต์ออก” หย่งฟางพูดอย่างไม่แยแส

ดวงตาของฉู่หมิงถิงขยายออกเล็กน้อย ลมหายใจของเขาหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง พยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ภรรยาของฉู่ก็พูดขึ้นมาก่อน

"อย่า! อย่า คุณแค่ทำตามที่เราสั่งก็พอ จะอยากรู้เรื่องราวไปทำไมกัน"

หย่งฟางพูดตรง ๆ เช่นกันว่า "นี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิธีที่ฉันจะจัดการกับวิญญาณตนนี้"

คุณนายฉู่สูดหายใจลึกๆ "ฉู่หมิงถิง เรื่องนี้เป็นเรื่องในครอบครัวของคุณ คุณพูดออกมาเถอะ"

ฉู่หมิงถิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง น้ำที่ไกลย่อมไม่สามารถดับไฟที่อยู่ใกล้ได้ ถ้าหย่งฟางถอดยันต์ออกจากวิญญาณ...สุดท้ายเขาก็ต้องพูดออกมา

เมื่อร้อยปีก่อน ปู่ของตระกูลฉู่ถูกบังคับให้แต่งงานกับหญิงสาวคนหนึ่งเป็นภรรยาน้อยคนที่เก้า ในคืนแต่งงาน หญิงสาวต่อต้านตลอดเวลา ทำให้ปู่ของตระกูลฉู่บังเอิญทำให้เธอเสียชีวิต

หย่งฟางทวนคำพูด "บังเอิญทำให้เธอเสียชีวิต? ต่อต้านตลอดเวลา? เล่นกันถึงตายเลย?”

ช่างน่าสนใจเรื่องที่ตระกูลของตัวเองทำผิดจนทำให้คนตาย แต่คำพูดที่ส่งต่อมาถึงรุ่นหลัง ฟังดูเหมือนเรื่องเล็กน้อยมาก แม้ว่าภรรยาของฉู่จะไม่ได้พูดอะไร แต่ใบหน้าของเธอก็แสดงออกถึงความอับอาย

ฉู่หมิงถิ ยังรักษาหน้าตาที่ไม่เปลี่ยนแปลงและพูดต่อ "ภายหลังครอบครัวได้เชิญอาจารย์มาทำพิธี อาจารย์บอกว่าความอาฆาตของหญิงสาวนั้นลึกเกินกว่าจะทำพิธีปลดปล่อยได้ แต่สามารถกักขังไว้ที่ทิศตะวันออก สร้างบ่อน้ำขึ้นและเผากระดาษเงินกระดาษทองเป็นประจำทุกปี เพื่อเปลี่ยนความอาฆาตให้กลายเป็นพลังงานบวก..."

หย่งฟางพูดต่อ "เปลี่ยนเป็นพลังงานที่จะเสริมโชคลาภให้ตระกูลฉู่ แต่อาจจะมีผลข้างเคียงเล็กน้อย ตรงที่ผู้ชายในครอบครัวจะมีชีวิตไม่เกินห้าสิบปี"

"... " ฉู่หมิงถิงยืนนิ่งแล้วพยักหน้า

หย่งฟางไม่แน่ใจว่าทำไม แต่เธออดที่จะหัวเราะไม่ได้ "ดีมาก เป็นผลกรรมที่สมเหตุสมผล คุณบังคับให้คนตาย แล้วให้เธอทำหน้าที่เป็นเครื่องมือเสริมโชคลาภหลังจากตายไปแล้ว จากนั้นทุกคนในครอบครัว ผู้ชายจะมีชีวิตไม่เกินห้าสิบปี เป็นการลงโทษที่ยุติธรรมใช่ไหม"

" ?! " หน้าของฉู่หมิงถิงเริ่มเปลี่ยนเป็นสีซีด

หย่งฟางรู้สึกอยากกลับบ้านแล้ว จึงหันไปถามผีสาว “ฉันจะเลิกงานแล้วนะ เธออยากให้ฉันช่วยส่งเธอไปเกิดใหม่ หรือจะเลือกถูกขังไว้ที่ตระกูลฉู่ต่อไป ดูพวกผู้ชายในตระกูลฉู่ตายก่อนอายุห้าสิบปีล่ะ?”

การต่อรองกับวิญญาณ เป็นทักษะที่ต้องมีสำหรับผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ ผีสาวพิจารณาใบหน้าของหย่งฟาง  พบว่าแม้เธอจะยิ้มอยู่แต่ที่จริงแล้วเธอกำลังโกรธ โกรธเหมือนกับหล่อน คำพูดที่หย่งฟางพูดขึ้นมา ทำให้วิญญาณอาฆาตรู้ว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ได้อยู่ข้างตระกูลฉู่

วิญณาณสาวคิดอยู่นานก่อนจะตอบ “ถ้าเป็นพวกผู้เชี่ยวชาญแย่ๆ พวกนั้น ฉันคงเลือกถูกขังไว้ต่อไป แต่เพราะว่าเป็นเธอ ฉันเลือกเชื่อใจเธอดีกว่า”

หย่งฟางโบกมือ ยกเลิกยันต์ที่ใช้ขังวิญญาณ คุณนายฉู่กรีดร้องด้วยความตกใจ ดึงสามีให้ถอยห่างออกไปเรื่อยๆ เธอไม่ได้สนใจเสียงร้องเหล่านั้น และพูดกับผีผู้หญิงต่อ “ไปที่ห้องที่ห้าทางซ้ายมือของชั้นสอง บนโซฟามีกระเป๋าผ้าใบสีเขียว อยู่เข้าไปในนั้นซะ”

ผีผู้หญิงถามอย่างสงสัย “อะไรนะ กระเป๋าผ้าอะไรนะ?”

“โซฟายาว กระเป๋าผ้าสีเขียว”

ผีผู้หญิงตอบอย่างสับสน “ก็ได้!”

แล้วหล่อนก็ลอยผ่านฉู่หมิงถิงไปทางประตู โดยไม่มองเขาแม้แต่น้อย แม้ว่านายนท่านฉู่จะพยายามทำหน้าตาให้ดูเรียบเฉย แต่ร่างกายของเขากลับตึงเครียดไปหมด เมื่อเขาเห็นผีผู้หญิงลอยห่างออกไปไม่กี่เมตรก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมานิดหน่อย แต่แล้วผีผู้หญิงก็กลับมาโจมตีเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว!

เธอเคลื่อนตัวมาข้างหน้าเขาทันที เอาใบหน้าที่น่ากลัวเข้ามาใกล้ ดวงตาของเธอกลิ้งออกมาจากเบ้า พร้อมกับหนอนแมลงจำนวนมาก ที่ทะลักออกมาจากตาและพ่นใส่หน้าของฉู่หมิงถิง

หัวหน้าตระกูลฉู่ผู้ยิ่งใหญ่ รู้สึกว่าหัวใจเขาแทบหยุดเต้น จากนั้นเขาก็ล้มลงหมดสติไป

คุณนายฉู่ซึ่งเป็นคนขี้กลัวที่สุด ตกใจกรีดร้องตั้งแต่ผีผู้หญิงออกมาแล้ว และเมื่อเห็นสามีหมดสติ เธอก็ล้มลงไปบนพื้น แต่โชคร้ายที่ไม่หมดสติไปด้วย ยังหวังว่าตัวเองจะหมดสติไปเหมือนกัน

ผีผู้หญิงหัวเราะอย่างสนุกสนาน แล้วลอยทะลุกำแพงออกไป ปล่อยให้ในห้องมีเพียงหย่งฟาง พ่อบ้านหลินและคุณนายฉู่เท่านั้นที่ยังมีสติอยู่

หย่งฟางจึงนั่งลงรอให้คุณนายฉู่ฟื้นจากความตกใจ

คุณนายฉู่ร้องไห้อยู่ไม่กี่นาที ก่อนจะได้ยินเสียงไก่แดงที่เธออุ้มมาร้องอยู่ในอ้อมแขน จึงนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เธอคงเป็นคนเดียวที่สามารถจัดการกับสถานการณ์นี้ได้

"คุณหย่ง" เธอเปลี่ยนสรรพนามเรียก "ฉันขอรบกวนคุณอีกสักอย่างได้ไหมคะ?"

หย่งฟางตัดสินใจก่อนตอบเพราะรู้ว่าคุณนายจะถามอะไร “คืนวิญญาณให้ฉู่เหยียน ฉันต้องการราคานี้” แล้วเธอก็ยกสามนิ้วขึ้น ปัญหาใหญ่ได้แก้ไขแล้ว งานใหญ่กำลังจะจบ เธอจึงคิดว่าคงจะตั้งราคาเพิ่มได้อย่างสนุก

คุณนายฉู่พยักหน้า มือสั่นเทาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา "สามล้าน ฉันจะโอนให้คุณเดี๋ยวนี้เลย"

"..." จริงๆ แล้วเธอหมายถึงสามแสน

แต่สามล้าน...ก็หอมหวานดี

ช่างมันเถอะ เธอสมควรได้รับมันอยู่แล้ว อย่างมากก่อนกลับก็คงต้องแนะนำพวกเขา เรื่องปัญหาครอบครัวอีกนิดหน่อย หย่งฟางท่องหมายเลขบัญชีธนาคารที่เธอจำไว้ขึ้นใจอีกครั้ง เผื่อวันหนึ่งจะมีใครสักคนโอนเงินก้อนโตให้เธอ วันนี้มันเกิดขึ้นจริงแล้ว!

หลังจากรับข้อมูลการโอนเงินจากธนาคารในมือถือ หย่งฟางก็เดินมาข้างเตียง สัมผัสร่างของฉู่เหยียนที่หลับอยู่  จากนั้นเธอก็หยิบเส้นด้ายบางๆ ที่เปล่งแสงสีเขียวขึ้นมา

"หลินเหมียน ตื่นเถอะ" เธอพูดขณะดึงเส้นด้ายออกมา

ไม่นานนักเส้นด้ายสีเขียวก็รวมตัวเป็นลูกบอลแสงเล็กๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเงาเลือนรางของร่างคนหนึ่ง ผู้หญิงผมยาวในชุดสีเขียว ใบหน้าของเธอดูสงบ เพราะไม่สามารถทำหน้าแสดงอารมณ์ได้อีกแล้ว

"เหมียนเหมียน..." พ่อบ้านหลินเรียกด้วยเสียงที่สั่นเครือ

แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรอีก หย่งฟางกล่าวแทรกขึ้น "ไม่ได้ เธอตอนนี้อ่อนแอมาก ต้องรีบส่งเธอไปยังนรกภูมิทันที"

แหมมม อยากให้หย่งฟางของเราปราบผีให้ แต่ก็ยังกั๊กข้อมูลเนอะตาเฒ่า!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่8 ส่งดวงวิญญาณ

    หลินตงน้ำตาคลอเบ้า มองไปที่หย่งฟางด้วยสายตาเต็มไปด้วยความวิงวอน แต่เขากลับไม่กล้าพูดอะไรออกมา เขาเคยทำสิ่งไม่ดี จึงไม่มีสิทธิ์ขอร้องใคร อีกทั้งเขาก็ไม่มีเงินมากพอที่จะให้หย่งฟางแต่ถึงแม้ว่าจะทำผิดพลาด จนทำให้ไม่สามารถพูดคุยกับลูกสาวเป็นครั้งสุดท้ายได้ เขาก็ยังคงต้องการขอโอกาส ที่จะให้เธอได้เกิดใหม่ในฐานะที่ดีกว่าเดิมในภพหน้า“ฉันไม่ได้ใจแข็งเหมือนคุณ ที่แม้แต่ลูกที่เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กก็ยังกล้าทำร้ายได้” หย่งฟางพูดขึ้นเธอทำพิธีส่งดวงวิญญาณ ซึ่งปกติจะเรียกให้ยมทูตมารับไป แต่ครั้งนี้กลัวว่าอาจจะไม่ทันเวลา เธอจึงเปิดประตูนรกขึ้นมาเอง แล้วผลักดันวิญญาณของหลินเหมียนเข้าไปประตูนรกสีฟ้าเข้มหายไปในทันทีหย่งฟางหันไปบอกกับคุณนายฉู่ “ตอนนี้คุณก็คงรู้แล้ว ว่าลูกชายของคุณมีผีสองตนสิงอยู่ แต่เป็นเพราะหลินเหมียนพยายามปกป้องเขาอย่างสุดความสามารถ เขาถึงยังรอดมาได้จนถึงตอนนี้ แต่อีกไม่นาน ถ้าคืนนี้ผ่านไป ฉู่เหยียนก็จะไม่รอดแล้ว” ดังนั้นที่พวกคุณเรียกฉันมาทำพิธีแก้เคล็ดนี้ ไม่ว่าจะได้ผลหรือไม่ ฉู่เหยียนก็ไม่มีทางรอด ทางเลือกของพวกคุณคือ จะให้เขาตายไปพร้อมกับภรรยาที่เป็นผีหรือให้เขาโสดไปชีวิต ฉันพูดอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่10 การขอบคุณของคุณชายฉู่

    เรื่องราวของตระกูลซ่งกระฉ่อนไปทั่วเมือง และหย่งฟางได้รับการยืนยันจากเทพแห่งห้องสุขาแล้ว การแก้แค้นในครั้งนี้นับว่าไม่เลวเลย หย่งฟางเป็นคนที่แค้นนี้ต้องชำระ และเธอไม่มีความรู้สึกผิดใดๆ ต่อเรื่องนี้ นี่คือราคาที่ต้องจ่ายสำหรับการขายเธอไปในราคาสองร้อยล้านหยวน การเสียเงินถือเป็นเรื่องรอง แต่หลักๆ แล้วคือการทำให้พวกเขาได้สัมผัสกับความอับอายของการถูกสิ่งสกปรกถาโถมใส่หลังจากเผาเครื่องเงินกระดาษสิบถุง เพื่อเป็นการขอบคุณเทพแห่งห้องสุขา และเห็นเทพเจ้าจากไปอย่างมีความสุข หย่งฟางก็เริ่มหันมาสนใจเรื่องการซ่อมแซมทางเดินบนภูเขา การออกแบบบันไดแต่ละขั้นมีความสำคัญมาก หากสูงเกินไปจะทำให้เหนื่อยล้า และหากเตี้ยเกินไปจะทำให้เดินลำบากหย่งฟางได้ปรึกษากับทีมก่อสร้าง เพื่อวัดความสูงที่เหมาะสม สำหรับการเดินขึ้นลงที่ไม่ทำร้ายเข่า นอกจากนี้ยังได้เลือกวัสดุที่จะใช้ทำขั้นบันได และต่อรองราคาจนได้ข้อสรุป จากนั้นก็เริ่มลงมือก่อสร้างในเช้าวันนั้นทีมก่อสร้างเริ่มงานตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า ทำให้หย่งฟางตื่นขึ้นเพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่9 เทพแห่งห้องสุขา

    รถของตระกูลฉู่จอดอยู่ไม่ไกลจากบ้านของตระกูลซ่ง หย่งฟางลงจากรถแล้วเดินไปเก็บกิ่งไม้แห้งจากข้างทาง ก่อนจะเดินมาที่หน้าประตูบ้าน เธอท่องคาถาอย่างรวดเร็ว“ขออัญเชิญท่านเทพแห่งห้องสุขา ผู้ที่เชื่อมต่อสวรรค์และโลก สามารถผ่านเข้าออกในโลกมนุษย์และโลกแห่งความตายได้”เมื่อเธอทิ่มกิ่งไม้ลงกับพื้นเมื่อท่องคาถาเสร็จ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สดใสและชัดเจน “ขออัญเชิญ!” ทันใดนั้นใบไม้และฝุ่นบนพื้นถูกลมหมุนพัดขึ้นมาสิบวินาทีต่อมาลมสงบลง และหมอกก็เริ่มก่อตัวขึ้น มีเงาร่างเล็กๆ ที่โค้งงอหลังของมันออกมาจากหมอกสีขาว พร้อมกับไม้เท้าในมือ ปรากฏร่างพร้อมรอยยิ้มเป็นเทพเทพแห่งห้องสุขาที่สวมเสื้อผ้าขาดวิ่น ท่านมองหย่งฟางด้วยดวงตาที่เป็นมิตร “เจ้าหย่งฟางน้อย”“ขอคารวะท่านเทพ” หย่งฟางก้มโค้งคำนับอย่างเคารพ“ไม่ต้องพิธีรีตองนัก ข้าเป็นแค่เทพเล็กๆ ได้รับธูปและกระดาษเงินกระดาษทองจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่11 เทพเจ้าคุ้มครอง

    เรื่องนี้... หย่งฟางไม่แน่ใจว่าบรรพบุรุษของเธอจะคิดอย่างไรกั การทำเทวรูปทองคำเป็นสิ่งที่ล่อลวงใจไม่น้อย“ตามฉันมา คุณถามเอาเองแล้วกัน”หย่งฟางพูดพร้อมกับกินแพนเค้กชิ้นสุดท้าย แล้วลุกขึ้นจากโต๊ะไม้เล็กๆ พาพวกเขาเข้าไปในวิหาร และบอกให้นำของบูชาไปวางบนโต๊ะบูชา เธอหยิบธูปขึ้นมา3 ดอก ยื่นให้คุณนายฉู่ พร้อมกับส่งไฟแช็กจุดให้ด้วยความชำนาญ จากนั้นปักธูปลงในกระถางธูป ขณะที่ถามคำถามในใจควันธูปลุกลามขึ้นพร้อมกับเสียงเปรี้ยงปร้างเพียงไม่กี่วินาที ก่อนจะอ่อนลงในอีกสามวินาทีต่อมา แต่ก็ยังมีประกายไฟพุ่งออกมาอยู่บ้าง หย่งฟางจ้องมองธูปอย่างตั้งใจคุณนายฉู่ถามด้วยความคาดหวัง “เทพเจ้ายินยอมหรือไม่?”หย่งฟางแปลความหมาย “เทพเจ้ายินดีในเจตนาของคุณ แต่การทำเทวรูปทองคำมันฟุ่มเฟือยเกินไป แล้วเสี่ยงต่อการถูกขโมย ฉะนัน้ทำเป็นทองเคลือบ18K ก็พอแล้ว”“เจาะจงขนาดนั้นเลยเหรอ?

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่12 เรื่องวุ่นๆ ของเหล่าคุณนาย

    คุณนายฉู่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวขณะที่ถูกเหวี่ยงลงจากม้าก็ยังไม่รู้สึกกลัวด้วยซ้ำ คล้ายกับว่ามีพลังงานบางอย่างประคองหล่อนเอาไว้ แล้วค่อยๆ วางลงบนสนามหญ้าอย่างนุ่มนวลแต่หล่อนก็ไม่กล้าบอกใครเมื่อไปเยี่ยมเพื่อนๆ ที่นอนใส่เฝือกอยู่ในโรงพยาบาล พวกนั้นต่างพากันสงสัยและส่งสายตาอิจฉาในความโชคดี หยูถังทำได้แค่พูดเลี่ยง“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น บางทีเทพเจ้าคงคุ้มครอง…”เทพเจ้า?!คุณนายฉู่เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้ ซึ่งเมื่อคิดดูแล้วก็มีความเกี่ยวเนื่องกันอยู่ จึงบอกลาพวกพ้องแล้วตรงไปที่อารมบนเขาหย่งฟางเพิ่งออกมาจากห้องครัว ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยคราบเขม่าดำไปครึ่งซีก เมื่อเห็นคุณนายฉู่มาเยือนก็พูดด้วยเสียงออดอ้อน “หยูถึง…”คุณนายฉู่รู้ได้ทันทีว่าอาจารย์ตัวน้อยต้องการให้หล่อนทำอาหาร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่13 การดูควันธูป

    หลังจากที่ดูควันธูปให้คุณนายสี่คนติดต่อกัน หย่งฟางที่เพิ่งตื่นจากการนอนก็รู้สึกง่วงอีกครั้ง ตั้งแต่จำความได้เมื่อสิบปีก่อนก็มีคนมาน้อยมาก หลังจากนั้นก็ไม่มีอีกเลย ปกติเธอกับลุงก็มักจะจุดธูปเองและตีความควันกันเอง ไม่เคยลองดูให้คนเยอะขนาดนี้มาก่อน เลยเพิ่งรู้ว่าคำพูดของอาจารย์ใหญ่เป็นสูตรตายตัวใช่แล้ว ที่ว่า “คุณเป็นแขกคนที่…ในรอบสิบปี เทพเจ้าจำคุณได้ จะคอยปกป้องคุ้มครองคุณ” นั้นเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่แต่งเรื่องเพื่อให้คนรู้สึกสบายใจ หย่งฟางรู้สึกคล้ายกับว่าตัวเองเป็นฝ่ายบริการลูกค้าของเว็บขายของออนไลน์ เน้นพูดตามแพทเทิร์นก็ซื้อใจลูกค้าได้!การพูดแบบนี้น่าจะดึงดูดใจลูกค้าได้มั้ง? หย่งฟางยังคงสงสัย เห็นได้ชัดว่าเธอยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก และไม่รู้ว่าในอนาคตจะทำให้เธอมีชื่อเสียงจากการทำนายจนคาดไม่ถึงสุดท้ายคุณนายคนที่ห้าก็เข้ามาในห้องหย่งฟางพิจารณาควันธูป และพบว่ามีสองก้านที่ขาดจากกัน จึงกวาดตาไปที่ควันธูปของคุณนายสี่คนก่อนห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่14 คำทำนายเป็นจริง ลูกชายได้เจอรักแท้แล้ว

    นี่มัน...อาจารย์มีตาทิพย์จริงๆทางด้านหลิวซานซานหลังจากหย่งฟางทำนายว่าลูกชายของเธอได้พบกับรักแท้แล้ว ก็รู้สึกตื่นเต้นจึงไปซื้อวัตถุดิบเพื่อเตรียมทำอาหารไปให้ลูกชายที่คอนโดหรู เพราะต้องการสอบถามว่าเรื่องที่อาจารย์หย่งบอกเป็นความจริงหรือไม่หลิวซานซานถือถุงผักสด เนื้อสัตว์ และของสดใหม่สามสี่ถุงเข้าไปในคอนโด เมื่อใส่รหัสผ่านประตูแล้วเปิดเข้าไป เธอก็เห็นชายสองคนที่ไม่มีเสื้อผ้านั่งอยู่บนโซฟา“…”สุดท้ายชายคนหนึ่งก็พูดขึ้น “แม่ ถ้าผมบอกว่าเรากำลังออกกำลังกาย แม่จะเชื่อไหม?”หลิวซานซานขว้างไข่ไก่สดจำนวนหนึ่งไปที่ลูกชาย “เธอคิดว่าแม่จะเชื่อรึเปล่าล่ะ?!”ไข่กระจัดกระจาย ลูกชายร้องไห้ขอความเมตตา หลิวซานซานฟังลูกชายร้องไห้ระบายความอึดอัดใจ เรื่องการค้นพบตัวเองว่าเป็นเกย์ในช่วงวัยรุ่น และเล่าถึงความรักที่ทั้งคู่มีต่อกัน เธอค่อยๆ สงบลง ช่างเถอะ! เป็นแม่คนแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่15 เตรียมความพร้อมปราบวิญญาณร้าย

    เมื่อหย่งฟางกับหยูถังมาถึงโรงแรม หนิวลี่และซ่งเสี่ยวฮุ่ยก็นั่งอยู่ในบริเวณด้านล่าง หนิวลี่กำลังจับมือของซ่งเสี่ยวฮุ่ยและปลอบโยนให้คลายเศร้าหย่งฟางมองเห็นไอสีดำบนหน้าผากของซ่งเสี่ยวฮุ่ย เธอรีบทัก “ขึ้นไปคุยกันข้างบนดีกว่า”หนิวลี่จึงนำทุกคนขึ้นลิฟต์ ใช้บัตรเพื่อไปยังห้องหนึ่งบนชั้นสูงสุด เมื่อเข้าไปในห้องสิ่งแรกที่หย่งฟางทำคือวางแผ่นป้ายของเทพเจ้าไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และจัดเตรียมเครื่องหอมและเทียนที่นำมาให้เรียบร้อย“คุณเสี่ยวฮุ่ย มานี่สิ” หย่งฟางเอ่ยเรียกซ่งเสี่ยวฮุ่ยเดินเข้ามาใกล้ และหย่งฟางจุดธูปสามดอก แล้วหมุนวนรอบหน้าผากของเธอสามรอบ กลิ่นธูปทำให้หน้าผากคุณนายรู้สึกปวดตึง แต่ในขณะที่ธูปวนรอบที่สอง ความรู้สึกนั้นก็ถูกขจัดออกไปทันที ศีรษะของเธอรู้สึกโปร่งสบายและหน้าผากก็อบอุ่นขึ้นหย่งฟางวนธูปสามรอบแล้วจึงนำธูปออกไป เมื่อเห็นว่ามีไอสีดำบนหน้าผากของซ่งเสี่ยวฮุ่ยถูกขจัดออกไป จึงเสียบธูปกลับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13

บทล่าสุด

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่85 ใครเคาะประตู (จบเล่ม2)

    หอพักหญิง อาคาร 3A หน้าห้อง 702หลังจากหญิงสาวในห้อง 701 บอกว่า “ห้อง 702 ไม่มีคนอยู่” คำพูดนั้นทำเอาสาวๆ จากห้อง 602 กรีดร้องด้วยความตกใจสุดขีด ถ้าห้อง 702 ไม่มีใครอยู่ แล้วเสียงฝีเท้าเหล่านั้นมาจากไหน?เสียงกรีดร้องทำลายความเงียบของค่ำคืน ไฟทางเดินที่ควบคุมด้วยเซ็นเซอร์เสียงสว่างวาบขึ้นทีละชั้น เสียงโลหะขูดพื้นดังมาจากชั้นล่าง คุณป้าผู้ดูแลหอพักเปิดประตูห้องพัก รีบมองจอมอนิเตอร์กล้องวงจรปิด แล้วกดลิฟต์ขึ้นมายังชั้น 7“เอะอะอะไรกัน! เสียงดังจนคนทั้งตึกได้ยิน!” เมื่อมาถึง คุณป้าผู้ดูแลตำหนิ ก่อนหันไปมองเด็กๆ “พวกเธอห้อง 602 ใช่ไหม? มาเดินเพ่นพ่านอะไรตอนนี้? ไม่รู้เหรอว่าห้ามออกจากห้องหลังไฟดับ?”หญิงสาวจากห้อง 701 รีบช่วยอธิบาย “พวกเธอบอกว่าได้ยินเสียงคนเดินในห้อง 702 เลยขึ้นมาดู...คุณป้า ห้อง 702 มีใครอยู่หรือเปล่าคะ?”คุณป้ามองพวกเธอด้วยสายตานิ่งเรียบ “ห้อง 702 ไม่มีคนอยู่มานานแล้ว”คำตอบนั้นทำให้สาวๆ จากห้อง 602 ใจหายวาบ หญิงสาวจากห้อง 701 เริ่มลังเลก่อนถามด้วยเสียงสั่น “ป้า... รุ่นพี่บอกว่าหอพักหญิงที่นี่มีผี เรื่องนั้นจริงหรือเปล่าคะ?”“พวกเธออย่าไปเชื่อเรื่องไร้สาระแบบนั้น” คุณป้

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่84 หอพักหญิง

    "รับคำทำนายก่อนเถอะ แล้วค่อยคุยกัน" หย่งฟางเอ่ยขึ้นพลางมองแถวคนที่ยืนรออยู่ด้านหลังมีผู้หญิงสี่คนเข้ามาถามคำทำนายทีละคน สองคนถามเรื่องการเรียน อีกสองคนถามเรื่องความรัก กุ่นกุ่นช่วยตอบคำทำนาย หย่งฟางไม่ได้พูดเสริมอะไร มีเพียงกระซิบเบาๆ "ทำนายได้ดีมาก จากนี้ลูกค้าอื่นๆ ให้คุณดูแลคนเดียวเลย ทำให้มั่นใจหน่อย อย่าพูดติดขัด ถ้าคิดว่าจะติดก็พูดคำสำคัญสั้นๆ ก็พอ"กุ่นกุ่นพยักหน้า เรื่องนี้เฒ่ากัวเคยสอนเขามาก่อนแล้ว แนะนำให้พูดแบบเว้นจังหวะบ้างเพื่อให้ดูเป็นปริศนาและน่าเกรงขาม จากนั้นหย่งฟางพาผู้หญิงสี่คนไปยังห้องน้ำชา ขอให้พวกเธอดื่มชากันคนละแก้ว"ฉันก็ไม่คิดว่าเราจะได้เป็นเพื่อนร่วมสถาบันกัน ฉันเพิ่งรู้ว่าพี่เรียนที่วิทยาลัยศิลปะถานจิง ตอนฉันเห็นภาพวาดกับชื่อพี่ในห้องแสดงผลงาน" ฉู่เสี่ยวเฉียวพูดขึ้นรูมเมตของเธอพยักหน้า "ใช่เลย หย่ง...อาจารย์" ผู้หญิงคนนั้นลังเลเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะเรียกหย่งฟางว่าอะไรดี"ทำไมเธอถึงไม่มีรูปอยู่ในชั้นวางศิษย์เก่าที่โดดเด่นล่ะ?"หย่งฟางยิ้มก่อนตอบ "เคยเห็นใครทำงานด้านศาสตร์ลึกลับ แล้วไปเป็นศิษย์เก่าที่โดดเด่นบ้างไหม?"คำพูดนั้นทำให้ผู้หญิงทั้งหมดหัวเราะออกมา ข

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่83 ไม่รู้หนังสืออีกคน!

    [สุดยอดไปเลย หย่งฟางไปหาลูกศิษย์มาจากที่ไหนนะ ทั้งหนิงหมี่และหลงหยวนหยวนเ หมาะจะไปเป็นไอดอลทั้งกลุ่มหญิงและชายได้เลย][หย่งฟางเปิดบริษัทจัดการบันเทิงไปเลยเถอะ]ในที่สุด #เสวียนเว่ยเอ็นเตอร์เทนเมนท์ (#บริษัทบันเทิงเสวียนเว่ย) ก็กลายเป็นคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับ #วัดเสวียนเว่ย (#ศาสตร์ลึกลับของหย่งฟาง)เหล่าชาวเน็ตช่วยกันแบ่งตำแหน่งให้เสร็จสรรพแล้ว[#บริษัทบันเทิงเสวียนเว่ยCEO: หย่งฟาง อันดับหนึ่งฝ่ายหญิง: หนิงหมี่ อันดับหนึ่งฝ่ายชาย: หลงหยวนหยวน][ส่วนอาจารย์อ้วน กับอีกสามคนก็เป็นผู้จัดการไปละกัน]เหล่าลูกศิษย์มนุษย์ที่คอยติดตามข่าวในโซเชียลเกี่ยวกับวัด: หือ?หยิบโทรศัพท์เก็บกลับไป มองดู ‘อันดับหนึ่งฝ่ายชาย’ และ ‘อันดับหนึ่งฝ่ายหญิง’ตอนนี้เป็นช่วงหกโมงเย็น หลังจากทานอาหารเสร็จ สองคนนี้ก็สู้กันตั้งแต่ฝั่งตะวันออกไปจนถึงฝั่งตะวันตก เพื่อแย่งควันธูปกัน นี่กลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ของอันดับหนึ่งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายที่ต้องทำทุกวันไปแล้วเพราะหย่งฟางแจกควันธูปอย่างเท่าเทียม ตอนแรกให้ทั้งคู่คนละสองแท่ง แต่หนิงหมี่ไม่พอใจ “ข้าทำงานตั้งขนาดนี้ ส่วนเขาไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมถึงได้เท่ากับข้า! ข้าไม่สน จ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่82 ได้ศิษย์เพิ่ม

    ณ จุดนี้ในวัดเสวียนเว่ยมีสมาชิกทั้งหมดแปดคนเจ้าของอาราม: หย่งฟางศิษย์: หนิงหมี่, เฒ่ากัว, ห่าวจาวไฉ, จินเหยาไต้ ,ไฉหยวนกุ่นกุ่นผู้พักชั่วคราว: วิญญาณลูกกลมสีเทาผู้ไม่ได้รับเชิญ: หลงหยวนหยวนทั้งแปดคนนี้ประกอบไปด้วยสิ่งมีชีวิตจากสี่ประเภท ได้แก่ คน เทพ วิญญาณ และปีศาจ"อาจารย์หย่ง คุณคิดจะเก็บสิ่งมีชีวิตทั้งหกไว้ที่นี่หรือ?" ห่าวจาวไฉโบกพัดกระดาษพร้อมถามหย่งฟางเผยยิ้มขมเล็กน้อย จะพูดอย่างไรดี? ตัวตนของหนิงหมี่กับหลงหยวนหยวนนั้น ไม่ใช่ว่าเธอเต็มใจรับเข้ามา คืนนี้พระจันทร์สีเงินส่องสว่างกลางท้องฟ้า หลังจากที่หย่งฟางไหว้เทพเจ้าวัดเสร็จ เธอก็เดินออกจากวิหารหลัก หนิงหมี่กับวิญญาณลูกบอลกลมสีเทา ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะเรียนในลาน กำลังตั้งใจเรียนวิชาภาษาชั้นประถมปีที่ 1 ที่ถ่ายทอดสด คราวนี้หย่งฟางเรียนรู้แล้ว เธอจึงหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าที่ตั้งค่าใหม่ให้พวกเขาใช้ขณะเดียวกัน หลงหยวนหยวนที่โดนสองสาวรังเกียจ นั่งอยู่ที่เก้าอี้ในสวนอีกฝั่ง เจ้าหนุ่มชุดดำไม่สนใจเลยที่ตนเองไม่ได้รับความชื่นชอบจากใคร แค่เอนตัวรับลมเย็นอย่างสบายใจ ด้านเฒ่ากัวกับคนอื่นๆ เตรียมไฟฉายและพร้อมจะลงจากภูเขากลับบ้าน"เดี

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่81 เสี่ยวหลงหวังจอมเจ้าเล่ห์

    "อย่างพี่สาวเหอ ฉันรู้สึกว่าเธอเป็นคนดีมากๆ ไม่เคยทำเรื่องไม่ดีเลย แถมครอบครัวก็ใจดี แม้ว่าเราจะพูดกันไม่นาน แต่ก็เริ่มรู้สึกอึดอัดอยู่เหมือนกัน แต่อย่างที่บอก พราะเธอเป็นคนดี ฉันก็ไม่แน่ใจว่าควรจะรู้สึกอึดอัดหรือไม่""ส่วนเรื่องจางยู่เฟ่ย ตั้งแต่ฉันมาที่โลกมนุษย์ ฉันก็เริ่มรู้แล้วว่ามีคนที่ไม่อยากทำอะไรด้วยตัวเอง หลายคนชอบหาทางลัด ถ้ามันเป็นทางที่ถูกต้องก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ค่อยเจอคนที่พยายามหาทางพึ่งพาคนอื่นแบบเธอ ทั้งที่เธอก็มีแขนขาครบ มีโอกาสมากมาย แต่กลับเหมือนมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง คิดแค่ว่าจะฝากชีวิตไว้กับผู้ชาย" หนิงหมี่พูดไปพร้อมกับทำท่าห่อไหล่เหมือนแมวน้อยที่กำลังครุ่นคิด"แต่พอคิดถึงเป่าฟู่กุ้ยและภรรยาของเขา ฉันก็รู้สึกว่าในโลกมนุษย์ก็ยังมีสิ่งดีๆ บ้างเหมือนกัน" หนิงหมี่พูดสรุปว่า "มนุษย์นี่ซับซ้อนจริงๆ ฉันไม่เข้าใจเลย"หลังจากที่ออกไปทำงานนอกสถานที่มาแค่สองวัน เทพธิดาน้อยก็ได้สัมผัสกับความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ พนักงานบนเครื่องบินเชิญพวกเธอไปยังห้องอาหาร หลังจากทานอาหารจนอิ่มหนำแล้ว หนิงหมี่ก็รู้สึกดีขึ้น"เป่าฟู่กุ้ยสุดยอดจริงๆ!" หนิงหมี่คิด "อย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องนอนขดตัวอ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่80 ใครรวยกว่ากัน

    ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอนักพรตสาวตัวน้อย กลุ่มเฮ่ยไป่อู่ฉางก็รีบตื่นเต้นและวิ่งเข้าหาเธอ “หย่งน้อย เธอดูอ้วนขึ้นนะ!”“จะทักทายกันแบบสุภาพกว่านี้ไม่ได้หรือไงคะ?” หย่งฟางพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แสดงอารมณ์ยมทูตขาวผู้เป็นพี่สาว ยื่นมือไปหยิกแก้มเธอทันที “ฉันหมายถึงหน้าเธอดูมีเนื้อขึ้นนะ! เมื่อก่อนเธอผอมกว่านี้”หย่งฟางสะบัดมือของเธอออกเหมือนปัดแมลงวันยมทูตดำก็ทักขึ้นบ้าง “ถ้าจะให้สุภาพ ฉันก็ทำได้” จากนั้นเขาก็พูดต่อ “หย่งน้อย เราเสมือนญาติผู้ใหญ่เห็นเธอเติบโตมาตลอด เธอก็ไม่ได้มาเยี่ยมเราเลย เราคิดถึงเธอ…”ยมทูตขาวพูดเสริมทันที “…พวกเราอยากได้ธูปหอมบ้างน่ะ”นี่แหละคือวิธีทักทายของพวกเขา หย่งฟางไม่ได้พูดอะไร เธอแค่ย่อตัวลงเปิดกระเป๋าเดินทาง แล้วหยิบธูปสองดอกออกมาหนิงหมี่เบิกตากว้าง “นั่นมันของฉันนะ!!” พูดจบก็พยายามจะแย่ง แต่หย่งฟางก็หลบมือไปจุดไฟ แล้วส่งให้ยมทูตขาวดำทันที“แค่นิดเดียว อย่าไปหวงนักเลย เด็กเล็กก็แบบนี้แหละ ชอบหวงของ”ยมทูตขาวดำกินควันธูปอย่างพอใจจนตาหรี่ลงเป่าฟู่กุ้ยมองยมทูตทั้งสองที่กำลังเคลิบเคลิ้ม…พวกเขาไม่ได้มารับเมียเขาไปโลกหลังความตายเหรอ? แล้วทำไมมานั่งกินของฝากที่บ้า

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่79 ได้เวลาต้องไป

    เปาฟู่กุ้ยมองนักพรตสาวด้วยความงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามออกมาด้วยน้ำเสียงลังเล "ผม...ผมจะได้เจอเธอจริงๆ เหรอ? ภรรยาของผมไม่ได้...ไปอยู่ที่ยมโลกแล้วหรอกเหรอ?""ภรรยาของคุณน่าจะอยู่ข้างคุณตลอดเวลา เพียงแต่ช่วงนี้เธอคอยเฝ้าดูจางยู่เฟ่ยอยู่ เพราะสงสัยว่าคนคนนั้นจะทำอะไรแปลกๆ เราเลยไม่เห็นวิญญาณเธออยู่ในบ้านคุณตั้งแต่แรก" หนิงหมี่อธิบาย"ผม...ผมอยากเจอเธอ!" เปาฟู่กุ้ยพูดด้วยความรู้สึกสดใสขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับได้รับพลังชีวิต ใบหน้าของเขาดูเปล่งปลั่งทันที ทันใดนั้นก็นึกถึงสภาพตัวเอง จึงรีบลูบหนวดเคราที่เพิ่งงอกยาวและกล่าวออกไป "เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวผมต้องจัดการตัวเองก่อน ภรรยาผมไม่ชอบที่ผมดูสกปรกแบบนี้"หลังจากพูดจบ เปาฟู่กุ้ยลากตัวที่ดูอ้วนกลมขึ้นไปชั้นบน เพราะอาการบวมจากยาต้านซึมเศร้า เมื่อเขากลับลงมาอีกครั้ง หย่งฟางและหนิงหมี่ ก็ได้เห็นเปาฟู่กุ้ยในลุคใหม่ที่สะอาดสะอ้าน เขาโกนหนวดโกนเคราจนเกลี้ยงเกลา สระผมจนหอมสะอาด ใบหน้ากลมอวบอิ่มดูสดใสขึ้นทันที เขาใส่สูทสากลและเนคไทเรียบร้อย สวมรองเท้าหนังแม้หน้าตาของเขาจะไม่หล่อเหลามากนัก โดยเฉพาะส่วนแก้มที่อ้วนดูเหมือนผู้ชายธรรมดา แต่ในลุคนี้เขากลับดูอ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่78 คาถาสะท้อนกลับ

    หลังจากที่จางยู่เฟ่ยพ่นเลือดออกมา หมอกสีเทาที่วนเวียนอยู่ระหว่างคิ้วของเปาฟู่กุ้ย ก็พลันสลายหายไปทันที แม้ว่าจางยู่เฟ่ยจะมองไม่เห็นพลังงานลี้ลับเหล่านี้ แต่เธอกลับรู้สึกถึงบางสิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อท่านประธานทำตามคำแนะนำของสาวน้อยข้างกายเถ้าแก่เปาเปิดตาขึ้น ยกมือออกหู และมองเลขาอีกครั้งด้วยสายตาที่กลับมาสดใส ปราศจากอาการลุ่มหลงผิดปกติใดๆ จางยู่เฟ่ยตกใจ รีบควานหาบางสิ่งในกระเป๋าของตัวเอง แต่กลับพบว่ามันหายไป“หาอันนี้อยู่หรือเปล่า?” น้ำเสียงเย็นชาแฝงความเหนือชั้นดังมาจากหย่งฟางเมื่อจางยู่เฟ่ยหันไปมอง ก็พบว่ากระดาษยันต์สามเหลี่ยมในมือของหย่งฟาง ถูกฉีกเป็นสองส่วนอย่างเรียบร้อยหนิงมี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ยิ้มขำ ส่วนหญิงสาวในชุดขาวร่างโปร่งแสงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กับจางยู่เฟ่ย เธอยกนิ้วโป้งให้หนิงมี่ด้วยความชื่นชมใบหน้าของวิญญาณสาวผู้นี้ คือใบหน้าเดียวกันกับหญิงสาว ในภาพถ่ายที่พบในห้องใต้หลังคา ใช่แล้ว... ภรรยาของเปาฟู่กุ้ยยังไม่ได้ไปสู่สุคติ ช่วงนี้เธอสังเกตเห็นความผิดปกติของสามี และหลังจากจับตามองเลขาส่วนตัว ก็พบว่าคู่กรณีใช้คาถามาควบคุมใจสามีของเธอเธอก็พบว่านักพรตสาวจากสำนั

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่ 77 คาถาชิงรัก

    เมื่อวางสายไปใบหน้าของเถ้าแก่เปาแสดงอาการหลงใหล ราวกับถูกบางสิ่งควบคุม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและความคิดถึงอย่างท่วมท้น หย่งฟางรีบสวดคาถาเคลียร์จิตใจ ก่อนจะใช้นิ้วแตะเบาๆ ที่หน้าผากของเขา ความอ่อนโยนที่เคยแสดงบนใบหน้าของเปาฟู่กุ้ย หยุดชะงักราวกับถูกหยุดเวลา หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กลับมาเป็นปกติ แต่ยังคงมีท่าทางงุนงงหย่งฟางเปิดปากถาม "คนที่โทรหาคุณเมื่อกี้คือใคร?""คะ...คือ...เลขาของผม จางยู่เฟ่ย..." เปาฟู่กุ้ยมองหน้าหย่งฟางและหนิงหมี่ด้วยความสงสัย "มีอะไรเหรอครับ?" ดูเหมือนเขาจะไม่สามารถจำความรู้สึกอ่อนโยน และความรักใคร่ที่เคยมีเมื่อครู่ได้เลยหนิงหมี่หันไปมองอาจารย์และกระซิบเบาๆ "คาถาชิงรัก"หย่งฟางพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองเปาฟู่กุ้ย "ตอนที่คุณโชคร้ายก่อนหน้านี้ มักจะเกิดขึ้นหลังจากที่คุณคุยกับเลขาของคุณเสร็จใช่ไหม?"เปาฟู่กุ้ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มจำได้ "เหมือนจะใช่ แต่ว่าช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยเจอโชคร้ายแล้วนะ"หย่งฟางอธิบายด้วยน้ำเสียงเรียบ "เพราะช่วงนี้คุณไม่ได้ปฏิเสธคำขอของเธอเลย คาถาชิงรักคือการที่คุณถูกทำให้ตกหลุมรักคนที่ร่ายคาถานี้ ในตอนแรกคุณยังมีสติ คุณสาม

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status