อ๊อกกกกก!!! ในขณะที่หวู่ซานซานพยายามดิ้นรนให้พ้นไปจากการถูกล็อกคอเอาไว้ในขณะนั้น แต่นางกำลังแพ้ท้องจึงไม่มีแรงที่จะดิ้นให้ตัวเองหลุดจากเงื้อมมือของฮ่องเต้โฉดผู้นี้
“พี่ใหญ่!” หยางเฟยอี้ร้องเรียกพี่สาวจนสุดเสียง “เจ้าเอาอะไรให้นางกินไอ้บัดซบ!” คนงามตวาดถามเสียงดัง ฮ่องเต้อินอวิ๋นฉวี่เบ้ปากอย่างไม่ยี่หระในการกระทำของตัวเอง แต่ถึงกระนั้นก็ยังใช้ท่อนแขนใหญ่ล็อกนางเอาไว้อยู่เช่นนั้นพร้อมใช้สายตาโลมเลียมองร่างเย้ายวนของสตรีตรงหน้าใคร่อยากครอบครอง “ข้าก็แค่ให้กินยาสั่งและยาพิษลงไปพร้อมกันก็แค่นั้น!” อินอวิ๋นฉวี่ตอบกลับไป “อะไรนะ!” คนงามอุทานออกมาทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้นพร้อมเสียงของฮ่องเต้โฉดดังแทรกขึ้น “ข้าได้ยินว่าเจ้าก็คือจ้าวแห่งพิษคนปัจจุบัน ถ้าเช่นนั้นมีความสามารถแก้พิษร้ายนี้ให้พี่สาวได้หรือไม่ ในเมื่อพิษนี้และยาสั่งมันถูกปรุงขึ้นมาจากอดีตเจ้าสำนักหมื่นพิษคนก่อนนามว่า โหรวหนิง จำได้หรือไม่ “อาจารย์!” หวู่ซานซานเอ่ยออกมาทันทีเมื่อได้ยินชื่ออาจารย์ของนางที่นอนทอดกายถูกฝังลงดินไปเป็นเวลาสิบปีแล้ว “อาจารย์ปู่อย่างนั้นเหรอพี่ใหญ่” หยางเฟยอี้ย้อนถามอ๊อกกกกก!!! ในขณะที่หวู่ซานซานพยายามดิ้นรนให้พ้นไปจากการถูกล็อกคอเอาไว้ในขณะนั้น แต่นางกำลังแพ้ท้องจึงไม่มีแรงที่จะดิ้นให้ตัวเองหลุดจากเงื้อมมือของฮ่องเต้โฉดผู้นี้ “พี่ใหญ่!” หยางเฟยอี้ร้องเรียกพี่สาวจนสุดเสียง “เจ้าเอาอะไรให้นางกินไอ้บัดซบ!” คนงามตวาดถามเสียงดัง ฮ่องเต้อินอวิ๋นฉวี่เบ้ปากอย่างไม่ยี่หระในการกระทำของตัวเอง แต่ถึงกระนั้นก็ยังใช้ท่อนแขนใหญ่ล็อกนางเอาไว้อยู่เช่นนั้นพร้อมใช้สายตาโลมเลียมองร่างเย้ายวนของสตรีตรงหน้าใคร่อยากครอบครอง “ข้าก็แค่ให้กินยาสั่งและยาพิษลงไปพร้อมกันก็แค่นั้น!” อินอวิ๋นฉวี่ตอบกลับไป “อะไรนะ!” คนงามอุทานออกมาทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้นพร้อมเสียงของฮ่องเต้โฉดดังแทรกขึ้น “ข้าได้ยินว่าเจ้าก็คือจ้าวแห่งพิษคนปัจจุบัน ถ้าเช่นนั้นมีความสามารถแก้พิษร้ายนี้ให้พี่สาวได้หรือไม่ ในเมื่อพิษนี้และยาสั่งมันถูกปรุงขึ้นมาจากอดีตเจ้าสำนักหมื่นพิษคนก่อนนามว่า โหรวหนิง จำได้หรือไม่ “อาจารย์!” หวู่ซานซานเอ่ยออกมาทันทีเมื่อได้ยินชื่ออาจารย์ของนางที่นอนทอดกายถูกฝังลงดินไปเป็นเวลาสิบปีแล้ว “อาจารย์ปู่อย่างนั้นเหรอพี่ใหญ่” หยางเฟยอี้ย้อนถาม
บริเวณหลังเขาหลงเมิ่งกลิ่นกำยานหอมฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณเมื่อถูกไฟแผดเผา ยาสั่งจากต้าเหลียงกำลังพวยพุ่งกลายเป็นกลุ่มควันขาวฟุ้งกระจายตรงเข้าปกคลุมกองทหารอารักขาพิเศษที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี เพื่อเข้าควบคุมให้ฟังคำสั่งฮ่องเต้หยวนเป่ยแต่เพียงผู้เดียว จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วยามพระวรกายสูงของอินอวิ๋นฉวี่ฮ่องเต้พระดำเนินมาอย่างช้าๆ พระหัตถ์ไพล่เอาไว้ทางด้านหลังก่อนจะมาหยุดยืนบริเวณหลังเขาหลงเมิ่ง ท่ามกลางความพึงพอพระทัยที่ทอดพระเนตรกองทหารอารักขาตรงพระพักตร์ของอุปราชหยวนเป่ยตกอยู่ในการควบคุมของพระองค์ หึหึหึหึ!!!! เสียงหัวเราะกึ่งคำรามดังอยู่ในลำคอเมื่อแผนที่วางเอาไว้เป็นไปตามคาด พระพักตร์เงยขึ้นทอดพระเนตรกระท่อมหลังน้อยที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว อันเป็นสถานที่ตั้งซึ่งเจ้าแห่งพิษพำนักอยู่และยังเป็นว่าที่เจ้าสาวของอุปราชลือชื่ออินอวิ๋นหยาง “ฉลาดมากนะเสด็จอาซ่อนเร้นตัวตนอยู่ในหุบเขาลึกลับนี้ได้อย่างแยบยลยิ่งนัก ท่ามกลางกองทหารอารักขาตรึงกำลังล้อมรอบเอาไว้ทั้งหมดยากนักที่ผู้ใดจะล่วงล้ำเข้าไปได้” รับสั่งพลางหันกลับไปทอดพระเนตรทหารอารักขาจากสองแคว้นที่ติดตามเสด็จม
“ที่แท้ฝ่าบาทก็คือหลานชายเพียงผู้เดียวและมีสายเลือดเดียวกันกับท่านอุปราช ทรงต้องการยืมมือผู้ที่ใกล้ชิดและได้รับการไว้วางใจที่สุดสังหารเสด็จอาของท่านนี่เอง เหตุใดจึงทรงทำเช่นนั้นในเมื่อพระองค์ครองบัลลังก์หยวนเป่ยอยู่แล้ว อุปราชคอยดูแลและพิทักษ์บัลลังก์ให้พระองค์เพื่อแคว้นอยู่อย่างสงบสุขต่อไป เหตุใดจึงต้องการลอบสังหารหม่อมฉันเข้าใจ” หยางเฟยอี้ถามกลับไปด้วยความอยากรู้ “สตรีเช่นเจ้าจะไปเข้าใจอะไรเรื่องของบุรุษ! ตราบใดที่เสด็จอาของข้ายังไม่ตาย! ข้าซึ่งเป็นฮ่องเต้ก็ครองบัลลังก์เพียงแค่ในนามเท่านั้น หามีผู้ใดเชื่อว่าข้าจะเป็นผู้นำที่ปกป้องและคุ้มครองดูแลแผ่นดินหยวนเป่ยต่อไปได้ ตราบใดที่เงาของอินอวิ๋นหยางทาบทับบนบัลลังก์ข้าอยู่เช่นนี้ ข้าก็ไม่มีทางที่จะหลุดพ้นเงาของเสด็จอาจะต้องอยู่ภายใต้ความควบคุมของคนผู้นั้นตลอดไป ซึ่งข้าไม่ต้องการ! ไม่ต้องการแม้แต่น้อย ในเมื่อแผ่นดินหยวนเป่ยมีข้าเป็นเจ้าชีวิต เช่นนั้นจะต้องไม่มีอุปราชลือชื่อผู้นั้นด้วยเช่นกัน!” รับสั่งกลับไปเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง “ข้าไม่มีเวลาให้เจ้าครุ่นคิดมากไปกว่านี้หรอกนะ หากไม่ทำก็ตายพร้อมกับพี่สาวของเจ้าเสียแต่เดี๋ยวนี้
ตำหนักอุปราชถ้วยเคลือบหลายใบตั้งอยู่บนโต๊ะทรงงานภายในห้องดื่มชา แต่ละใบมีผงละเอียดส่งกลิ่นหอมออกมาเป็นระยะโดยมีอุปราชหนุ่มกำลังตักผงในถ้วยเคลือบดังกล่าวเพื่อปรุงกำยานหอมขึ้นมาใช้เองสำหรับใช้เฉพาะส่วนพระองค์ ก่อนจะได้ยินเสียงของหรงเฉินอยู่นอกห้อง “กระหม่อมหรงเฉินพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์หนุ่มส่งเสียงเป็นสัญญาณ “เข้ามา!” รับสั่งอนุญาต ครืดดดด!!! เสียงบานประตูห้องเปิดออกและปิดลงอย่างรวดเร็วพลางทรุดกายลงนั่งตรงพระพักตร์ “ส่งฮูหยินของเจ้ากลับหลังเขาแล้วอย่างนั้นเหรอ” รับสั่งถามทันทีที่หรงเฉินทรุดกายลงนั่งตรงพระพักตร์ “พ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมนำนางกลับไปพักผ่อนที่กระท่อมหลังเขาเรียบร้อยแล้ว” พระพักตร์พยักขึ้นลงเป็นการรับรู้พลางผสมผงกำยานเพื่อหากลิ่นที่ทรงชื่นชอบพร้อมมีรับสั่งขึ้น “คืนนี้ข้ากับถิงถิงจะไปค้างคืนที่กระท่อมหลังเขากับเจ้าด้วย นางจะปรุงยาบำรุงครรภ์ให้กับฮูหยินของเจ้า แต่ยามโหย่วข้ากับนางจึงจะเดินทางไปที่ภายหลังจากที่ข้าสะสางงานทางนี้ให้เรียบร้อยก่อน” รับสั่งกับคนสนิท ในขณะที่คนฟังทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ในขณะนั้น ไม่รู้ว่าจะกราบทูลเช่น
สามวันก่อนอภิเษก ตำหนักตะวันออกพระวรกายใหญ่ของอุปราชรูปงามประทับอยู่บนตั่ง ภายในห้องดื่มชาที่ทรงโปรดปราน เบื้องหน้าหรงเฉินกำลังนั่งรอพระบัญชาเมื่อพระหัตถ์กำลังอ่านสาสน์ด่วนที่ส่งมาจากวังหลวง รายงานข่าวเกี่ยวกับอินอวิ๋นฉวี่ฮ่องเต้เสด็จออกประพาสเพื่อทำการล่าสัตว์ โดยมีกองกำลังอารักขามาจากที่อื่นซึ่งไม่ใช่กองทหารของอุปราชหยวนเป่ย รอบแสยะยิ้มเหยียดปรากฏขึ้นที่มุมปากเมื่อทรงอ่านสาสน์ด่วนนั้นจบลง ก่อนจะนำผ้าแพรผืนน้อยใส่ลงในเตาไฟที่ตั้งกาน้ำอยู่ตรงพระพักตร์ “ดูท่าอวิ๋นฉวี่กำลังวางแผนที่ต้องการยึดอำนาจคืน จึงใช้กองทหารจากสองแคว้นเพื่อสะสมกำลังให้แก่ตัวเอง” รับสั่งของอุปราชหยวนเป่ยทำให้หรงเฉินอดไม่ได้ที่จะทูลถามออกไป “ในเมื่อล่วงรู้แล้วเช่นนี้ การกระทำของฝ่าบาทก็เท่ากับเป็นการฆ่าตัวเอง นำกองกำลังศัตรูเข้ามาเช่นนี้เป็นการทำลายหยวนเป่ยชัดๆ พระองค์จะปล่อยให้ฝ่าบาททำเช่นนี้ต่อไปอย่างนั้นเหรอพ่ะย่ะค่ะ” ในขณะที่อุปราชหนุ่มทรงได้ยินคนสนิทถามกลับมาเช่นนั้น พระพักตร์กลับส่ายไปมาติดต่อกันเป็นสัญญาณปฏิเสธ “วิธีการของอวิ๋นฉวี่หาใช่ดั่งที่เจ้าคิด ตรงกันข้ามหลาน
ตำหนักเหนือในยามนี้ร่างของหวู่ซานซานกำลังนอนหมดสติอยู่ในอ้อมแขนของน้องสาว เมื่อนางมีอาการวิงเวียนศีรษะก่อนจะเป็นลมหมดสติไปโดยไม่รู้ตัว ในขณะที่นางติดตามสามีเพื่อมาคอยดูแลความเรียบร้อยให้แก่ หยางเฟยอี้ซึ่งกำลังจะเข้าพิธีอภิเษกกับอุปราชแห่งหยวนเป่ยในอีกสามวันข้างหน้า แต่แล้วนางกลับสิ้นสติไปอย่างไม่มีสาเหตุท่ามกลางความตกใจของแม่สาวน้อยคนงาม “พี่ใหญ่! พี่ใหญ่!” คนงามร้องเรียกพี่สาวพลางเขย่าร่างของนางไปมา ก่อนจะเงยหน้าเมื่อหมอหลวงประจำจวนเดินทางมาถึงบริเวณหน้าตำหนัก แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวเข้ามาอุปราชหยวนเป่ยใช้วิชาเร้นกายมาถึงเข้าให้พอดี พร้อมสุรเสียงรับสั่งดังก้อง “ถิงถิงเป็นอะไร!” รับสั่งถาม สุรเสียงดังกระหึ่มเล่นเอาเหล่าข้าราชบริพารหวาดกลัวไปตามกัน ก่อนจะได้ยินเสียงของแม่ผีเสื้อแสนสวยของพระองค์ดังขึ้น “ข้าไม่ได้เป็นอะไร! แต่พี่ใหญ่ข้าเป็น!” เสียงของนางพูดแทรกขึ้นดังมาจากด้านใน อุปราชหนุ่มเสด็จเข้าไปภายในตำหนักอย่างรวดเร็ว โดยมีหรงเฉินตามเสด็จมาทันเวลาพอดีก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นฮูหยินของตนนอนหมดสติอยู่ภายในอ้อมแขนของน้องสาว “ฮูหยิน!!!” หรงเฉ